ประกาศศาลแพ่งพระโขนง เรื่อง แจ้งคำสั่งศาล [นายปิยะศักดิ์ นามศิริ]
ประกาศศาลแพ่งพระโขนง เรื่อง แจ้งคำสั่งศาล [นายปิยะศักดิ์ นามศิริ]
ประกาศศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดขอนแกน เรื่อง ขอให้สั่งเป็นคนเสมือนไรความสามารถและตั้งผู้พิทักษ์ คดีแพงหมายเลขดําที่ ยชพ 101/2565 คดีแพงหมายเลขแดงที่ ยชพ 453/2565 ด้วย นางสาวมิศรา พลโยธา ผู้รอง ยื่นคํารองและแกไขคํารองขอให้ศาลมีคําสั่งให้นายสุรศักดิ์ เป็นคนไรความสามารถ และให้อยู่ในความอนุบาลของผู้รอง ผู้คัดคานยื่นคํารองคัดคานและแกไขคํารองคัดคานขอให้ศาลมีคําสั่งให้นายสุรศักดิ์ เป็นผู้ไรความสามารถ และให้อยู่ในความอนุบาลของผู้คัดคานแต่เพียงผู้เดียว ทางไตสวนผู้รองนําสืบวา เมื่อปลายป 2550 ผู้รองกับนายสุรศักดิ์ บัตรดอน แต่งงานแล้ว อยู่กินเป็นสามีภริยาพักอาศัยที่บ้านเลขที่ 44/90 หมู่ 11 หมู่บ้านพวงเพชร 4 ตําบลบ้านเปด อําเภอเมืองขอนแกน จังหวัดขอนแกน เป็นบ้านที่ซื้อรวมกัน ต่อมาจดทะเบียนสมรสวันที่ 24 มกราคม2557 นายสุรศักดิ์ มีบุตรกับภรรยาคนแรก 2 คน เป็นผู้หญิง 1 คน กับนายจักรพงษ บัตรดอน ภรรยาคนที่ 2 มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือผู้คัดคาน ผู้รองกับนายสุรศักดิ์ไม่มีบุตรด้วยกัน ผู้รองเป็นขาราชการ ทํางานที่แผนกการเงินโรงพยาบาลศรีนครินทร มหาวิทยาลัยขอนแกน สวนนายสุรศักดิ์ทํางานเป็นพนักงาน บริษัทการบินไทย จํากัด สาขาดอนเมือง นายสุรศักดิ์เกษียณจากการทํางานในป 2552 แล้วไม่มีรายได้อื่น เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2556 นายสุรศักดิ์ เริ่มเจ็บปวยมีอาการอาเจียนเป็นเลือด เสนเลือดแตก ในระบบทางเดินอาหาร ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลระยะหนึ่ง แล้วพบแพทยติดตามอาการ หลังจากนั้นมีภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารอีกหลายครั้ง จนกระทั่ง ป 2564 นายสุรศักดิ์มีอาการ อุจจาระสีดําคล้ํา อาเจียน แพทยโรงพยาบาลศรีนครินทร จังหวัดขอนแกน รักษาโดยสองกลอง พบแผลในกระเพาะอาหารและมีภาวะโรคมะเร็งตับ นายสุรศักดิ์ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 28 วัน อาการหนัก โดยแพทยได้ใสทอชวยหายใจผู้รองโทรศัพทแจงผู้คัดคานแล้ว แต่ผู้คัดคานไม่มาดูนายสุรศักดิ์ มีเพียงเพื่อนสนิทและนายจักรพงษมาเยี่ยม ต่อมานายสุรศักดิ์มีอาการดีขึ้น ผู้รองรับนายสุรศักดิ์มาดูแลต่อที่บ้าน ได้จัดหาคนดูแลเป็นหลานชายของผู้รองกับภรรยา เนื่องจากนายสุรศักดิ์ ยังชวยเหลือตัวเองไม่ได้ ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
ต้องนอนที่เตียงประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นนายสุรศักดิ์มีอาการรางกายขับของเสียได้ไม่ดี ต้องพบแพทย ที่โรงพยาบาลอีกหลายครั้ง ต่อมาเดือนธันวาคม 2564 นายสุรศักดิ์มีเลือดออกในสมอง เป็นโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการออนแรง เคลื่อนไหวลําบาก จําเป็นต้องมีผู้ดูแลชวยในการทํากิจวัตรประจําวันและเคลื่อนที่ นายสุรศักดิ์ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 วัน ผู้รองโทรศัพทแจงผู้คัดคาน ผู้คัดคานมาเยี่ยม นายสุรศักดิ์ในวันที่กําลังจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว นายสุรศักดิ์ไปพักรักษาตัวที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุขอนแกน เอลเดอรลี่โฮมแคร บ้านหนองกุง ตําบลศิลา อําเภอเมืองขอนแกน จังหวัดขอนแกน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ ดูแลตลอดเวลา ผู้รองไปเยี่ยมให้กําลังใจทุก 2 ถึง 3 วัน วันไหนไม่ได้ไปก็จะใชวิธีโทรศัพทแบบเห็นหน้า พูดคุยกับนายสุรศักดิ์ ระหวางนั้นผู้รองได้ไปเรียนเกี่ยวกับการดูแลพยาบาลผู้ปวย การทําอาหาร การให้อาหารทางสายยาง ดูดเสมหะ พลิกตัว กายภาพบําบัด เพื่อเตรียมจะดูแลนายสุรศัก ดิ์ที่บ้าน ระหวางพักที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุฯ ดังกลาวได้ 20 วัน นายสุรศักดิ์ก็มีอาการเครียดสงผลต่อระบบกระเพาะอาหาร ต้องเขาโรงพยาบาลเกือบทุกเดือน ครบ 1 เดือน แพทยประเมินสภาพรางกายนายสุรศักดิ์มีอาการดีขึ้น พูดได้เป็นคํา ๆ ยกแขนได้ แต่ยังนอนติดเตียง อานและเขียนหนังสือไม่ได้ หลังจากอยู่ที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุฯ ประมาณ 2 เดือน นายสุรศักดิ์ลุกขึ้นนั่งเองไม่ได้ ต้องมีคนชวย เขาหองน้ําเองไม่ได้ต้องใสผาออมสําเร็จรูป สามารถพูดคุยได้เป็นคํา ๆ สนทนา เรียงประโยคไม่ได้ เขาใจสิ่งที่ผู้รอง พูดได้บาง แต่ตอบชา ๆ ในเดือนกุมภาพันธ 2565 แพทยเรียกญาติประชุมเรื่องแผนการรักษานายสุรศักดิ์ ซึ่งมีลักษณะซึม สับสน ยังคงเป็นผู้ปวยติดเตียง ผู้รองยืนยันวาให้แพทยรักษาเต็มที่โดยสามารถใสทอชวยหายใจได้ แต่ผู้คัดคานไม่เห็นด้วย โดยไม่ให้ใสทอชวยหายใจ ให้แพทยรักษาตามอาการ ผู้รองจึงต้องยอมตามผู้คัดคาน เพื่อให้แพทยดําเนินการรักษาต่อไปได้ ผู้รองโทรศัพทไปปรึกษา ผู้คัดคานวาอยากให้นายสุรศักดิ์ กลับมารักษาต่อที่บ้าน ซึ่งผู้รองสามารถจัดหาอุปกรณมาได้พรอมแล้ว จะประหยัดคาใชจาย มากกวาการอยู่ที่ศูนยดูแล ประกอบกับนายสุรศักดิ์หากได้อยู่ที่บ้านจะมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น แต่ผู้คัดคานไม่เห็นด้วย ผู้รองรูสึกสงสารนายสุรศักดิ์ เนื่องจากทราบดีวานายสุรศักดิ์ต้องการจะกลับบ้าน ผู้รองจึงยื่นคํารอง ขอให้ศาลมีคําสั่งวานายสุรศักดิ์เป็นคนไรความสามารถ อยู่ในความอนุบาลของผู้รอง เพื่อให้ผู้รองมีสิทธิ ตัดสินใจรักษาพยาบาลนายสุรศักดิ์ โดยนายจักรพงษทําหนังสือให้ความยินยอม ผู้รองอยู่กินเป็นสามีภรรยา กับนายสุรศักดิ์มาประมาณ 15 ป เขาใจสภาพจิตใจวานายสุรศักดิ์มีความสุขเมื่อได้อยู่บ้านกับผู้รอง และมุงหวังจะให้ผู้รองซึ่งเป็นภรรยาดูแล บุตรทั้งสามคนในชวงป 2550 ถึง 2556 ไม่เคยมาเยี่ยมนายสุรศักดิ์ ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
หลังจากนั้นผู้คัดคานมาเยี่ยมปละ 1 ถึง 2 ครั้ง บางปไม่ได้มา บุตรนายสุรศักดิ์ไม่เคยสงเงินมาให้ นายสุรศักดิ์ใชจาย มีเพียงในชวงป 2564 ที่ต้องมีคาใชจายในการดูแลนายสุรศักดิ์จํานวนมาก ผู้รองจึงขอให้ผู้คัดคานสงเงินรายได้จากการให้เชาบ้านของนายสุรศักดิ์ที่กรุงเทพมหานครมาให้เป็นคาใชจาย ผู้คัดคานสงเงินมาให้ประมาณ 6 เดือน ปจจุบันผู้รองเกษียณอายุราชการแล้ว มีเงินบํานาญ และประกอบอาชีพขายผลิตภัณฑอาหารเสริม มีรายได้เพิ่มเดือนละประมาณ 20 , 000 บาท สามารถดูแลนายสุรศักดิ์ได้ ผู้รองมีความตั้งใจจริงที่จะดูแลนายสุรศักดิ์อยางใกลชิด โดยได้จัดเตรียมเตียง และอุปกรณสําหรับดูแลผู้ปวยที่บ้านและได้ไปเรียนเตรียมความพรอมไวแล้ว หลังจากยื่นคํารองคดีนี้ ต่อมาวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ผู้คัดคานพานายสุรศักดิ์เดินทางไปที่กรุงเทพมหานครโดยไม่ได้แจงผู้รอง ให้ทราบกอน ทราบภายหลังวาผู้คัดคานพานายสุรศักดิ์ไปอยู่ที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุและผู้ปวยพักฟน เพอรเฟคเนอรสซิ่งโฮม กรุงเทพมหานคร ลักษณะเดียวกันกับศูนยดูแลผู้สูงอายุขอนแกนเอลเดอรลี่โฮมแคร จังหวัดขอนแกน ไม่ได้อาศัยอยู่ใกลกับผู้คัดคาน ผู้รองโทรศัพทแบบเห็นหน้าเพื่อเยี่ยมและพูดคุยกับนายสุรศักดิ์ นายสุรศักดิ์ยังคงเป็นผู้ปวยติดเตียง มีลักษณะคลายกับขณะที่อยู่จังหวัดขอนแกน ระหวางอยู่ที่ศูนยดูแลดังกลาว นายสุรศักดิ์เจ็บปวยต้องเขารักษาที่โรงพยาบาลหลายครั้ง ผู้รองไม่เคยเบิกถอนเงินของนายสุรศักดิ์มาใชจาย ในการรักษาพยาบาลนายสุรศักดิ์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทรใชสิทธิจายตรงจากกรมบัญชีกลางเนื่องจากผู้รอง เป็นขาราชการ โดยมีคาใชจาย 1 , 453 , 223 บาท และมีคาใชจายสวนเกินจากสิทธิของราชการ 54 , 629 บาท ผู้รองเป็นผู้จายคาใชจายดังกลาว รวมเป็นคาใชจายประมาณ 1 , 507 , 852 บาท ผู้คัดคานนําสืบวา ผู้คัดคานเป็นบุตรของนายสุรศักดิ์ บัตรดอน กับนางเรืองรัตน์ บัตรดอน ซึ่งจดทะเบียนสมรสกัน กอนนี้นายสุรศักดิ์เคยสมรสกับนางละมัย บัตรดอน มีบุตร 2 คน ชื่อนางพรศิริ กับนายจักรพงษ บัตรดอน แล้วจดทะเบียนหยากัน นายสุรศักดิ์อยู่กินเป็นสามีภรรยากับนางเรืองรัตน์ และอยู่ด้วยกันกับผู้คัดคานที่บ้านเลขที่ 39/153 ซอยพหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ผู้คัดคานสนิทสนมกับนายสุรศักดิ์ ขณะผู้คัดคานยังเป็นเด็ก นายสุรศักดิ์เคยพาไปฝากตัว เป็นลูกศิษยพระเกจิตาง ๆ นายสุรศักดิ์มักจะสอนให้ผู้คัดคานรูจักการใชชีวิต โดยพาผู้คัดคานไปด้วย ในการเลี้ยงสังสรรค เมื่อผู้คัดคานศึกษาจบคณะสถาปตยกรรมศาสตรได้เขาทํางานบริษัทญี่ปุน นายสุรศักดิ์ภาคภูมิใจพูดให้คนรูจักฟงเสมอ ต่อมามารดาผู้คัดคานปวยแล้วเสียชีวิตเมื่อวันที่ ้ หนา 18 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
19 กุมภาพันธ 2550 นายสุรศักดิ์ยังคงอาศัยอยู่กับผู้คัดคาน โดยนายจักรพงษมาเยี่ยมนายสุรศักดิ์ เป็นบางครั้ง นายสุรศักดิ์ชอบทองเที่ยวตามตางจังหวัดเนื่องจากมีเพื่อนอยู่หลายจังหวัด แต่ก็ยังอยู่ที่บ้าน ที่กรุงเทพมหานครเป็นหลัก เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ผู้คัดคานเพิ่งทราบวานายสุรศักดิ์คบหากับผู้รอง เนื่องจากผู้รองโทรศัพทมาบอกวานายสุรศักดิ์เจ็บปวยหนัก ผู้คัดคานรีบเดินทางจากกรุงเทพมหานคร มาที่จังหวัดขอนแกนทันที นายสุรศักดิ์เป็นโรคเลือดออกในทางเดินอาหาร ภาวะตับแข็ง และปวยอีกหลายโรค ผู้คัดคานได้ไปที่บ้านผู้รอง เป็นครั้งแรกจึงได้ทราบขอเท็จจริง หลังจากนั้น ในทุกเทศกาลผู้คัดคานได้ไปเยี่ยมนายสุรศักดิ์ที่จังหวัดขอนแกน ในป 2556 ที่นายสุรศักดิ์เขารักษาตัว อยู่ที่โรงพยาบาล ทราบวาใชสิทธิรักษาบัตรประกันสุขภาพ ต่อมาเดือนมกราคม 2557 นายสุรศักดิ์ ปรึกษาผู้คัดคานวาผู้รองเสนอให้จดทะเบียนสมรสเพื่อใชสิทธิรักษาพยาบาลของราชการ แต่นายสุรศักดิ์ ไม่ต้องการจดทะเบียนสมรส ผู้คัดคานแนะนําให้นายสุรศักดิ์จดทะเบียนสมรสกับผู้รอง เนื่องจากเป็นประโยชน ต่อมาป 2561 เมื่อนายสุรศักดิ์รูตัววาเจ็บปวยหลายโรคจึงดําเนินการ จดทะเบียนโอนที่ดิน 2 แปลงให้ผู้คัดคาน ได้แกบ้านเล ขที่ 39/153 ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่อาศัย และที่ดินที่อําเภอปกธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ดินที่ปูของผู้คัดคานมอบให้นายสุรศักดิ์ไว แต่ที่ดินบ้านเลขที่ 39/153 ติดปญหาเอกสารยังไม่เรียบรอยจึงยังไม่ได้จดทะเบียนโอน ต่อมาป 2562 นายสุรศักดิ์มีอาการปวยเป็นโรคมะเร็งตับ นายสุรศักดิ์บอกผู้คัดคานวาหากเจ็บปวยหนัก ก็อยาให้เจ็บปวดทุกขทรมาน หากนายสุรศักดิ์เสียชีวิตให้ผู้คัดคานไปติดต่อที่สหกรณออมทรัพย์ พนักงานบริษัทการบินไทย จํากัด แจงเรื่องกองทุนฌาปนกิจ โดยให้ผู้คัดคานดูแลเงินที่อยู่สหกรณฯ ในป 2563 นายสุรศักดิ์มอบเงินให้ผู้คัดคาน 200 , 000 บาท เพื่อใชจัดงานพิธีสมรส หลังสมรส ผู้คัดคานไม่ได้ไปอยู่บ้านเลขที่ 39/153 นายสุรศักดิ์ให้นําบ้านออกให้เชาได้คาเชาเดือนละ 8 , 500 บาท ผู้คัดคานบอกนายสุรศักดิ์วาจะนําเงินดังกลาวผอนชําระคืนเงินที่นายสุรศักดิ์เคยให้มาจัดงานสมรส นายสุรศักดิ์ขอรับเพียงเดือนละ 5 , 000 บาท ผู้คัดคานจึงโอนเงินเขาบัญชีเงินฝากธนาคารให้แกนายสุรศักดิ์ ต่อมากลางป 2564 ผู้รองแจงวานายสุรศักดิ์ปวยเป็นโรคมะเร็งตับ แต่เนื่องจากมีสถานการณแพรระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หามเดินทางขามจังหวัด ผู้คัดคานจึงโทรศัพทติดต่อสอบถามอาการ ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร และได้พูดคุยโทรศัพทแบบเห็นหน้ากับนายสุรศักดิ์ทุกวัน จนกระทั่งนายสุรศักดิ์ ้ หนา 19 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
มีอาการดีขึ้นแล้วออกจากโรงพยาบาล ต่อมาเดือนธันวาคม 2564 ผู้รองแจงวานายสุรศักดิ์เป็นโรคเกี่ยวกับ เสนเลือดในสมอง ผู้คัดคานเดินทางไปเยี่ยมนายสุรศักดิ์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร จังหวัดขอนแกน ซึ่งรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 31 ธันวาคม 2564 ผู้คัดคานได้พูดคุยกับผู้รองเรื่องแนวทางการดูแล นายสุรศักดิ์หลังออกจากโรงพยาบาล โดยมีทางเลือกที่ 1 ให้ผู้คัดคานนํานายสุรศักดิ์ไปดูแลเองที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากผู้รองดูแลมานานมากแล้ว ผู้รองดูแลต่อไม่ไหว ทางเลือกที่ 2ให้นายสุรศักดิ์พักอาศัยอยู่กับผู้รองที่บ้าน โดยให้ผู้คัดคานออกคาใชจายทั้งหมด คาจางผู้ดูแล เดือนละ 30 , 000 บาท ถึง 35 , 000 บาท และต้องมีคาใชจายอื่น รวมเป็นเงิน เดือนละ 40 , 000 บาท และทางเลือกที่ 3 ผู้คัดคานเห็นวา บ้านของผู้รองยังไม่มีความพรอมที่จะดูนายสุรศักดิ์ และผู้คัดคานไม่มั่นใจในความรูความเชี่ยวชาญของผู้ที่จะมาดูแล เกรงจะเกิดอันตราย จึงสมควรให้ศูนยดูแลผู้สูงอายุเป็นผู้ดูแลซึ่งมีคาใชจายเดือนละประมาณ 25 , 000 บาท ซึ่งผู้รองเห็นด้วยกับทางเลือกนี้ นายสุรศักดิ์ จึงไปอยู่ที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุขอนแกนเอลเดอรลี่โฮมแคร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ผู้คัดคานเสียคาใชจายเดือนละประมาณ 30 , 000 บาท ระหวางนั้น ผู้คัดคานติดต่อหานายสุรศักดิ์ผานเจ้าของศูนยดูแลชื่อนายวังวน โดยใชวิธีโทรศัพทแบบเห็นหน้าทุกวัน และเดินทางมาเยี่ยมด้วยตนเองประมาณ 9 ครั้ง ผู้คัดคานได้ทราบจากนายวังวนวาเวลาที่ผู้รองมาเยี่ยม นายสุรศักดิ์ ผู้รองมักจะไม่ยอมตรวจการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เสียกอน และไม่นัดเวลา หลังจากผู้รองมาเยี่ยมแล้วนายสุรศักดิ์มักจะมีอาการซึม คิดมาก ไม่ปฏิบัติตามที่ผู้ดูแลให้ทํากายภาพบําบัด ระหวางอยู่ที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุขอนแกนเอลเดอรลี่โฮมแคร นายสุรศักดิ์ต้องเขารักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลศรีนครินทรเดือนละ 1 ครั้ง ประมาณเดือนกุมภาพันธ 2565 นายสุรศักดิ์ปวยหนัก แพทยสอบถามเกี่ยวกับการรักษาเมื่อถึงวาระสุดทายของชีวิตวาจะให้ทําการรักษาอยางไร ทีมผู้รักษา ได้สงตัวอยางเอกสารแสดงความประสงคมาให้ผู้คัดคาน ผู้คัดคานจึงจัดทําเอกสารแล้วสงให้แกผู้รักษา เมื่อผู้รองได้ทราบความประสงคดังกลาวก็ไม่พอใจ และต่อวาผู้คัดคานวาเป็นลูกที่คิดไม่ดีกับบิดา ต่อมาวันที่ 20 เมษายน 2565 ผู้คัดคานเพิ่งได้ทราบวาผู้รองยื่นคํารองคดีนี้ โดยผู้รองโทรศัพท มาแจงให้ผู้คัดคานไปเฝานายสุรศักดิ์เพื่อทํากายภาพบําบัด 2 สัปดาห แล้วจึงได้แจงวาผู้รองยื่นคํารองขอ เป็นผู้อนุบาลของนายสุรศักดิ์ หลังจากนั้นวันที่ 3 ถึง 14 พฤษภาคม 2565 ผู้คัดคานมาเฝานายสุรศักดิ์ ในระหวางทํากายภาพบําบัดฝกการกลืนอาหาร ต่อมาวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 นายสุรศักดิ์ มีสภาพแข็งแรง แพทยแจงวาสามารถเดินทางไปกรุงเทพมหานครได้ เนื่องจากผู้คัดคานทํางานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ้ หนา 20 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
ประกอบกับเป็นผู้ดูแลคาใชจายทั้งหมด และผู้รองเคยบอกให้ผู้คัดคานนํานายสุรศักดิ์ไปดูแล ผู้คัดคาน จึงตัดสินใจพานายสุรศักดิ์ไปรักษาต่อที่กรุงเทพมหานคร โดยได้แจงให้ผู้รองทราบ ผู้คัดคานพานายสุรศักดิ์ ไปดูแลที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุและผู้ปวยพักฟน เพอรเฟคเนอรสซิ่งโฮม เนื่องจากเป็นมืออาชีพ ได้มาตรฐาน ผู้คัดคานเสียคาใชจายทั้งหมดเดือนละ 30 , 000 บาท ถึง 35 , 000 บาท มีกฎระเบียบการเขาเยี่ยมได้ ครั้งละ 30 นาที สัปดาหละ 1 ครั้ง แต่สามารถโทรศัพทแบบเห็นหน้าวิดีโอคอลได้ทุกวัน ผู้คัดคาน แจงหมายเลขโทรศัพทศูนยดูแลฯ แกผู้รองแล้ว ไม่เคยกีดกันผู้รอง ขณะอยู่ที่ศูนยดูแลฯ อาการนายสุรศักดิ์ ดีขึ้นมากกวาตอนที่อยู่จังหวัดขอนแกน สามารถลุกขึ้นนั่งบนเตียงได้เอง สนทนากับผู้คัดคาน และเจ้าหน้าที่ได้ บอกชื่อตนเองได้และบอกชื่อของผู้คัดคานได้ เลนเกมหมากฮอสกับเพื่อนผู้ปวยได้ ในวันที่ผู้คัดคานพานายสุรศักดิ์ไปทําบัตรประจําตัวประชาชนใหม นายสุรศักดิ์รูเรื่องและเขาใจวาเป็นการ ทําบัตรประจําตัวประชาชน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโดยสอบถามนายสุรศักดิ์ นายสุรศักดิ์สามารถ บอกชื่อนามสกุลตนเองได้ ให้ความรวมมือกับเจ้าหน้าที่ ระหวางการดูแลเจ้าหน้าที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุ และผู้ปวยพักฟน เพอรเฟคเนอรสซิ่งโฮม จะโทรศัพทปรึกษากับแพทยที่โรงพยาบาลศรีนครินทร จังหวัดขอนแกน ซึ่งดูแลนายสุรศักดิ์อยู่กอน ผู้คัดคานเดินทางมาที่จังหวัดขอนแกนเพื่อรับยารักษา ของนายสุรศักดิ์จากโรงพยาบาลศรีนครินทรทุก 3 เดือน นายสุรศักดิ์มีอาการดีขึ้นตามลําดับ เพิ่งเจ็บปวยต้องเขารักษาที่โรงพยาบาลวชิระเมื่อวันที่ 10 ถึง 15 สิงหาคม 2565 ซึ่งแพทยรับรองวา นายสุรศักดิ์ไม่เป็นผู้ทุพพลภาพ ไม่ไรความสามารถ ไม่เป็นผู้มีจิตฟนเฟอนไม่สมประกอบ ผู้คัดคาน มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้อนุบาลของนายสุรศักดิ์มากกวาผู้รอง เนื่องจากผู้คัดคานไม่มีหนี้สินลนพนตัว สนิทสนมกับนายสุรศักดิ์ ผูกพันกันมาตั้งแต่ผู้คัดคานยังเด็ก ผู้คัดคานมีอาชีพมั่นคง ทํางานเป็นสถาปนิก บริษัทเอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส จํากัด มีรายได้ประจําประมาณเดือนละ 50 , 000 บาท และรายได้จากการออกแบบอิสระ อีกเดือนละ 40 , 000 ถึง 50 , 000 บาท มีรายได้มากพอที่จะเลี้ยงดู นายสุรศักดิ์ได้ ทั้งนายสุรศักดิ์ไววางใจ ให้ผู้คัดคานดูแลทรัพย์สินของนายสุรศักดิ์ นอกจากบ้าน และที่ดินที่นายสุรศักดิ์โอนให้ผู้คัดคานแล้ว นายสุรศักดิ์ยังประสงคให้ผู้คัดคานรับเงินและผลประโยชน จากสหกรณออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จํากัด โดยมีชื่อผู้คัดคานเป็นผู้รับผลประโยชน ผู้รองมีหนี้สินจํานวนมากและมีปญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ผู้รองประสงคจะเป็น ผู้อนุบาลนายสุรศักดิ์ เพราะต้องการจัดการทรัพย์สินของนายสุรศักดิ์ ผู้รองจึงไม่สามารถเป็นผู้อนุบาลของนายสุรศักดิ์ ้ หนา 21 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
เงินที่ผู้คัดคานใชนําไปจายให้แกศูนยดูแลผู้สูงอายุขอนแกนเอลเดอรลี่โฮมแคร จังหวัดขอนแกน และศูนยดูแลผู้สูงอายุและผู้ปวยพักฟน เพอรเฟคเนอรสซิ่งโฮม เป็นเงินของผู้คัดคาน ผู้คัดคานไม่ได้นําเงิน หรือขายทรัพย์สินของนายสุรศักดิ์มาใชจายในการรักษาพยาบาลนายสุรศักดิ์ ซึ่งหากศาลพิจารณาแล้วเห็นวา นายสุรศักดิ์ไม่ถึงขนาดเป็นคนไรความสามารถ จะพิจารณาวาเป็นคนเสมือนไรความสามารถ ผู้คัดคาน ก็ขอเป็นผู้พิทักษ์ของนายสุรศักดิ์ เนื่องจากผู้คัดคานเหมาะสมที่จะดูแลนายสุรศักดิ์ยิ่งกวาผู้รอง ผู้คัดคานได้พูดคุยกับนายจักรพงษ บัตรดอน นายจักรพงษแจงวาได้ให้ความยินยอมให้ผู้รองเป็นผู้พิทักษ์ ไปกอนแล้ว แต่นายจักรพงษก็เห็นชอบให้ผู้คัดคานเป็นผู้อนุบาลนายสุรศักดิ์ พิเคราะหแล้วขอเท็จจริงในเบื้องตนรับฟงยุติได้วา ผู้คัดคานเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ของนายสุรศักดิ์ โดยนายสุรศักดิ์เคยสมรสกับภริยาคนแรกคือ นางละมัย บัตรดอน มีบุตร 2 คน ได้แก นางสาวพรศิริ บัตรดอน และนายจักรพงษ บัตรดอน ต่อมาจดทะเบียนหยา จากนั้นนายสุรศักดิ์ จดทะเบียนสมรสกับนางเรืองรัตน์ มารดาของผู้คัดคานมีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ ผู้คัดคาน นางเรืองรัตน์ ถึงแกความตายวันที่ 19 กุมภาพันธ 2550 ต่อมาผู้รองอยู่กินเป็นสามีภริยากับนายสุรศักดิ์ พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 44/90 หมู่ 11 หมู่บ้านพวงเพชร 4 ตําบลบ้านเปด อําเภอเมืองขอนแกน จังหวัดขอนแกน แล้วจดทะเบียนสมรสกันวันที่ 24 มกราคม 2557 โดยเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2556 นายสุรศักดิ์ปวยเป็นโรคเสนเลือดแตกในระบบทางเดินอาหาร ต่อมาในป 2564 นายสุรศักดิ์ ปวยมีแผลในกระเพาะอาหารและมีภาวะโรคมะเร็งตับ หลังจากนั้นนายสุรศักดิ์มีเลือดออกในสมอง เป็นโรคหลอดเลือดสมอง รางกายออนแรง รักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร จังหวัดขอนแกน ตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 31 ธันวาคม 2564 แล้วไปพักรักษาที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุขอนแกนเอลเดอรลี่โฮมแคร จังหวัดขอนแกน ต่อมาวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ผู้คัดคานพานายสุรศักดิ์ไปอยู่ที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุ และผู้ปวยพักฟน เพอรเฟคเนอรสซิ่งโฮม กรุงเทพมหานคร จนปจจุบัน คดีมีปญหาที่ต้องวินิ จฉัย ประการแรกวา นายสุรศักดิ์ เป็นคนไรความสามารถหรือไม่ ผู้รองกับนางสาววิภาดา สิงหทุย พยานผู้รอง เบิกความยืนยันในทํานองเดียวกันวา นายสุรศักดิ์เจ็บปวยมีภาวะโรคมะเร็งตับ โรคเลือดออกในสมอง และรางกายซีกขวาออนแรง เป็นผู้ปวยติดเตียง ลุกขึ้นนั่งเองไม่ได้ เคลื่อนไหวลําบาก จําเป็นต้องมีผู้ดูแล ชวยในการเคลื่อนที่และทํากิจวัตรประจําวัน พูดสนทนาไม่ได้ พูดได้เป็นคํา ๆ เรียงประโยคไม่ได้ สวนผู้คัดคานอางตนเองเป็นพยานและมีนางสาวกฤษณา โพธิ์เจริญ เป็นพยานเบิกความยืนยันวา ้ หนา 22 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
หลังจากผู้รองยื่นคํารองคดีนี้ผู้คัดคานได้พานายสุรศักดิ์ไปพักรักษาที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุและผู้ปวยพักฟน เพอรเฟคเนอรสซิ่งโฮม กรุงเทพมหานคร ปจจุบันนายสุรศักดิ์ มีอาการดีขึ้น โดยเขาใจบทสนทนา สามารถพูดคุยตอบคําถาม บอกชื่อของตนเอง บอกชื่อผู้คัดคาน บอกความต้องการของตนเอง และเลนเกมหมากฮอสกับเพื่อนผู้สูงอายุได้ ตามบันทึกภาพและเสียงในอุปกรณบันทึกขอมูลวัตถุพยาน เห็นวา การพิจารณาวาบุคคลใดเป็นคนไรความสามารถนั้นต้องได้ความวาบุคคลนั้นเขาลักษณะ เป็นบุคคลวิกลจริต เนื่องด้วยอาการของจิตไม่ปกติหรือสมองพิการ หยอนความสามารถถึงขนาดที่ไม่สามารถ จัดกิจการงานของตนเองได้เลย แต่จากทางนําสืบของผู้รองและผู้คัดคานปรากฏวาในระหวางพิจารณา นายสุรศักดิ์มีอาการดีขึ้นมากกวาขณะผู้รองยื่นคํารอง โดยสามารถพูดคุยตอบคําถามของผู้ดูแล เขาใจบทสนทนา บอกชื่อตนเองและชื่อผู้คัดคาน บอกความต้องการของตนเองวาอยากได้อะไร หยิบจับสิ่งของโดยใชมือขางซายได้ และเลนเกมหมากฮอสกับเพื่อนผู้สูงอายุได้ ตามบันทึกภาพและเสียง ในอุปกรณบันทึกขอมูลวัตถุพยาน แสดงวานายสุรศักดิ์ยังสามารถรับรูและจดจําสิ่งตาง ๆ สามารถใชสมองคิด ฟง และพูดสื่อสารได้ ลักษณะของนายสุรศักดิ์จึงไม่ถึงขนาดเป็นบุคคลวิกลจริต แต่กลับได้ความวา นายสุรศักดิ์เจ็บปวยเกี่ยวกับหลอดเลือดสมองสงผลให้กลามเนื้อออนแรงซีกขวา นายสุรศักดิ์ไม่สามารถเดินได้เอง ไม่สามารถพูดคุยสื่อสารอยางคนปกติ โดยคิดชา พูดชา พูดเป็นคํา ๆ ไม่สามารถสนทนาเป็นประโยคยาว ๆ ได้ นายสุรศักดิ์จึงมีลักษณะกายพิการ ไม่สมประกอบ จนไม่สามารถจะจัดทําการงานโดยตนเองได้ หรือจัดกิจการไปในทางที่อาจจะเสื่อมเสียแกทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัว สมควรมีคําสั่งให้เป็น คนเสมือนไรความสามารถตามที่พิจารณาได้ความตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 32 และ 33 ปญหาที่ต้องวินิจฉัยประการต่อมามีวา ผู้รองหรือผู้คัดคานสมควรเป็นผู้พิทักษ์นายสุรศักดิ์ บัตรดอน หรือไม่ เห็นวา นายสุรศักดิ์เจ็บปวยต้องมีผู้ดูแลใกลชิด ผู้รองเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสุรศักดิ์ อยู่ด้วยกันที่จังหวัดขอนแกน ผู้รองดูแลนายสุรศักดิ์มาตั้งแต่เริ่มเจ็บปวยเมื่อประมาณป 2556 แล้วจดทะเบียนสมรสกันในป 2557 ทําให้นายสุรศักดิ์ได้ใชสิทธิรักษาพยาบาลเนื่องจากผู้รองเป็นขาราชการ สวนผู้คัดคานเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสุรศักดิ์ ผู้คัดคานพานายสุรศักดิ์ไปพักรักษา ที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุและผู้ปวยพักฟน เพอรเฟคเนอรสซิ่งโฮม กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2565 เป็นตนมา ผู้รองและผู้คัดคานตางก็เป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนายสุรศักดิ์ ้ หนา 23 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
ไม่ได้เป็นผู้มีคุณสมบัติต้องหามตามกฎหมาย และประสงคจะเป็นผู้ดูแลนายสุรศักดิ์เชนเดียวกัน แต่การจะให้ผู้รองและผู้คัดคานเป็นผู้พิทักษ์นายสุรศักดิ์รวมกันยอมอาจกอให้เกิดปญหาในทางปฏิบัติในภายหลัง เนื่องจากผู้รองอยู่จังหวัดขอนแกน สวนผู้คัดคานอยู่กรุงเทพมหานคร ไม่ประสงคจะปฏิบัติหน้าที่รวมกัน และมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในระหวางการดูแลรักษาพยาบาลนายสุรศักดิ์ จึงสมควรพิจารณาให้ฝ่ายหนึ่งเทานั้น เป็นผู้พิทักษ์นายสุรศักดิ์ โดยปรากฏวาหลังจากนายสุรศักดิ์ออกจากโรงพยาบาลศรีนครินทร ในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ผู้คัดคานได้จัดการให้นายสุรศักดิ์เขาพักรักษาที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุขอนแกนเอลเดอรลี่โฮมแคร จังหวัดขอนแกน ผู้คัดคานเสียคาใชจายทั้งหมดเองตามเอกสารการเขาพัก ต่อมาเมื่อนายสุรศักดิ์แข็งแรงขึ้น ผู้คัดคานได้พานายสุรศักดิ์ไปกรุงเทพมหานคร เพื่อความสะดวกแกผู้คัดคานในการดูแลเนื่องจาก ผู้คัดคานมีภูมิลําเนาและทํางานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร โดยพานายสุรศักดิ์ไปพักรักษาที่ศูนยดูแลผู้สูงอายุ และผู้ปวยพักฟนเพอรเฟคเนอรสซิ่งโฮม กรุงเทพมหานคร ผู้คัดคานเสียคาใชจายเองทั้งหมด ผู้คัดคานเขาเยี่ยมดูแลนายสุรศักดิ์ ซึ่งจากที่ปรากฏตามบันทึกภาพและเสียงคลิปวีดีโอของนายสุรศักดิ์ ในอุปกรณบันทึกขอมูลวัตถุพยาน วานายสุรศักดิ์พึงพอใจต่อการพักรักษา ณ สถานที่ดังกลาว อีกทั้งปรากฏวานายสุรศักดิ์มีเจตนายกบ้านและที่ดินที่กรุงเทพมหานครซึ่งนายสุรศักดิ์เคยอยู่กับผู้คัดคาน ให้แกผู้คัดคานตามหนังสือมอบอํานาจ และนายสุรศักดิ์ได้ให้ผู้คัดคานเป็นผู้รับผลประโยชนเงินของ นายสุรศักดิ์ในสหกรณออมทรัพย์พนักงานบริษัท การบินไทย จํากัด แสดงวานายสุรศักดิ์ไววางใจ ให้ผู้คัดคานเป็นผู้ดูแลจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายสุรศักดิ์ ผู้คัดคานเป็นบุตรคนเล็กของนายสุรศักดิ์ ซึ่งนายสุรศักดิ์เลี้ยงดูและอยู่ด้วยกันจนกระทั่งนายสุรศักดิ์มาสมรสกับผู้รอง ผู้คัดคานจึงเป็นทายาทใกลชิด ของนายสุรศักดิ์ สามารถชวยเหลือดูแลรักษาผลประโยชนของนายสุรศักดิ์ได้ สวนผู้รองหากประสงค จะไปเยี่ยมเยียนนายสุรศักดิ์ก็สามารถเดินทางไปได้โดยไม่ลําบากเนื่องจากเกษียณอายุราชการแล้ว เมื่อทางพิจารณาขอเท็จจริงไม่ปรากฏวาผู้คัดคานเป็นคนไรความสามารถ หรือเสมือนไรความสามารถ หรือเป็นบุคคลล้มละลาย ไม่มีผลประโยชนขัดกันกับนายสุรศักดิ์ ประกอบกับนายสุรศักดิ์อยู่ในความดูแล ของผู้คัดคานในปจจุบัน ผู้คัดคานจึงเหมาะสมจะเป็นผู้พิทักษ์ของนายสุรศักดิ์มากกวาผู้รอง และถือวามีเหตุสําคัญ ให้ศาลตั้งผู้อื่นนอกจากภริยาหรือสามีของคนเสมือนไรความสามารถเป็นผู้พิทักษ์ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย มาตรา 1463 ้ หนา 24 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
จึงมีคําสั่งวา นายสุรศักดิ์ บัตรดอน เป็นคนเสมือนไรความสามารถ และให้อยู่ในความพิทักษ์ของ นายธนบดี บัตรดอน ผู้คัดคาน ให้ยกคํารองของผู้รอง คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ประกาศ ณ วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ณัฏฐนิชา สุวรรณพงษ ผู้พิพากษา ้ หนา 25 ่ เลม 140 ตอนที่ 22 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566