ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตําบลขัวก่าย เรื่อง การบริหารกิจการและการบำรุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน พ.ศ. 2563

ขอบัญญัติองคการบริหารสวนตําบลขัวกาย เรื่อง การบริหารกิจการและการบํารุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน พ.ศ. 2563 โดยที่เป็นการสมควรตราขอบัญญัติองคการบริหารสวนตําบาลขัวกาย วาด้วยการบริหารกิจการ และการบํารุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 68 (1) และมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติสภาตําบล และองคการบริหารสวนตําบล พ.ศ. 2537 ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสภาตําบล และองคการบริหารสวนตําบล (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2546 ประกอบมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติ กําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจให้แกองคกรปกครองสวนทองถิ่น พ.ศ. 2542 และตามระเบียบ กระทรวงมหาดไทยวาด้วยการบริหารกิจการและการบํารุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน พ.ศ. 2548 องคการบริหารสวนตําบลขัวกาย โดยความเห็นชอบของสภาองคการบริหารสวนตําบลขัวกาย และนายอําเภอวานรนิวาส จึงตราขอบัญญัติไว ดังต่อไปนี้ ขอ 1 ขอบัญญัตินี้เรียกวา “ ขอบัญญัติองคการบริหารสวนตําบลขัวกาย เรื่อง การบริหารกิจการ และการบํารุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน พ.ศ. 2563 ” ขอ 2 ขอบัญญัตินี้ให้ใชบังคับในเขตองคการบริหารสวนตําบลขัวกาย ตั้งแต่วันที่ได้ประกาศไว โดยเปดเผย ณ ที่ทําการองคการบริหารสวนตําบลขัวกายแล้วเจ็ดวัน ขอ 3 บรรดาขอบัญญัติ ประกาศ ระเบียบ คําสั่งอื่นใดในสวนที่ได้ตราไวแล้วซึ่งขัดหรือแยง กับขอบัญญัตินี้ ให้ใชขอบัญญัตินี้แทน ขอ 4 ให้นายกองคการบริหารสวนตําบลขัวกายรักษาการตามขอบัญญัตินี้ และให้มีอํานาจ ตีความวินิจฉัยปญหา กําหนดขอบังคับ หลักเกณฑ และวิธีปฏิบัติเพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามขอบัญญัตินี้ หมวด 1 ขอความทั่วไป ขอ 5 ในขอบัญญัตินี้ “ องคการบริหารสวนตําบล ” หมายความวา องคการบริหารสวนตําบลขัวกาย ้ หนา 19 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 92 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 เมษายน 2566

“ ระบบประปาหมู่บ้าน ” หมายความวา ระบบประปาซึ่งเป็นทรัพย์สินขององคการ บริหารสวนตําบล แต่ไม่หมายความรวมถึงระบบประปาที่อยู่ในความรับผิดชอบของการประปาสวนภูมิภาค การประปานครหลวงหรือกิจการประปาระบบหลักที่องคการบริหารสวนตําบลจัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการประชาชน และอยู่ภายใตการบริหารจัดการขององคการบริหารสวนตําบลนั้น “ หมู่บ้าน ” หมายความวา หมู่บ้านหรือชุมชนที่ตั้งอยู่ในเขตองคการบริหารสวนตําบล ตามหลักเกณฑการแบงเขตการปกครองของกระทรวงมหาดไทย “ แหลงน้ําดิบ ” หมายความวา แหลงน้ําใตดินหรือแหลงน้ําผิวดินที่ใชสําหรับ ผลิตประปาหมู่บ้าน “ สมาชิกผู้ใชน้ํา ” หมายความวา ผู้ที่ยื่นความประสงคจะใชน้ําประปาหมู่บ้านตามขอ 23 “ มาตรวัดน้ํา ” หมายความวา เครื่องวัดปริมาณน้ําที่แสดงวาสมาชิกผู้ใชน้ําได้ใชน้ํา ไปจํานวนมากนอยเทาใด “ ทอและอุปกรณภายนอก ” หมายถึง ทอและอุปกรณที่ต่อจากทอจายน้ําของกิจการ ประปาหมู่บ้านออกไปเชื่อมกับมาตรวัดน้ํา “ ทอและอุปกรณภายใน ” หมายถึง ทอและอุปกรณที่ต่อจากมาตรวัดน้ําเขาสูภายใน บริเวณสถานที่ใชน้ําหรืออาคารของสมาชิกผู้ใชน้ํา “ ผู้ถูกงดจายน้ํา ” หมายถึง สมาชิกผู้ใชน้ําที่กระทําการฝาฝนหรือละเลยไม่ปฏิบัติ ตามขอบัญญัตินี้ และถูกคณะกรรมการกระทําไม่วาจะด้วยลักษณะหรือวิธีการใดจนไม่สามารถ ใชน้ําประปาได้อีกต่อไป “ คณะกรรมการ ” หมายความวา คณะกรรมการบริหารกิจการและบํารุงรักษา ระบบประปาหมู่บ้านที่ได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกผู้ใชน้ําประปาให้ทําหน้าที่บริหารกิจการและบํารุงรักษา ระบบประปา “ ประธานกรรมการ ” หมายความวา ประธานกรรมการบริหารกิจการและบํารุงรักษา ระบบประปาหมู่บ้าน “ ผู้บริหารทองถิ่น ” หมายความวา นายกองคการบริหารสวนตําบลขัวกาย ้ หนา 20 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 92 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 เมษายน 2566

หมวด 2 คณะกรรมการบริหารกิจการและบํารุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน ขอ 6 ให้มีคณะกรรมการบริหารกิจการและบํารุงรักษาระบบประปาหมู่บ้าน โดยเลือกตั้ง จากสมาชิกผู้ใชน้ําประปาของระบบประปาหมู่บ้านแห่งนั้น ๆ โดยมีจํานวนกรรมการตามที่สมาชิก ผู้ใชน้ําสวนใหญกําหนด ทั้งนี้ ต้องไม่นอยกวาเจ็ดคน ให้หมู่บ้านซึ่งเป็นเจ้าของกิจการประปาหมู่บ้านนั้น ๆ เป็นผู้ดําเ นินการให้มีการเลือกตั้ง คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวัน ให้กรรมการคัดเลือกกันเองให้มีประธานกรรมการหนึ่งคน รองประธานกรรมการหนึ่งคน เหรัญญิกหนึ่งคน และเลขานุการหนึ่งคน โดยให้ประธานกรรมการเป็นผู้แทนของคณะกรรมการ ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งมีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับการดําเนินการกิจการประปา ดังนี้ (1) วางระเบียบใชบังคับในการบริหารกิจการประปา โดยระเบียบดังกลาวจะมีผลบังคับ ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากองคการบริหารสวนตําบลเจ้าของระบบประปาแล้ว (2) บริหารกิจการประปาให้เป็นไปตามขอบังคับให้เกิดความกาวหน้าและบริการประชาชน ได้อยางทั่วถึงและเพียงพอ (3) พิจารณาอนุญาตหรืองดจายน้ําให้แกสมาชิก โดยคํานึงถึงประโยชนของกิจการประปา เป็นหลักแต่การงดจายน้ําให้แกสมาชิกต้องได้รับความเห็นชอบจากองคการบริหารสวนตําบล เวนแต่กรณีตามขอ 33 (4) จัดทํารายงานผลการดําเนินงานให้องคการบริหารสวนตําบลทราบ และรายงาน ผลการดําเนินงานให้สมาชิกผู้ใชน้ําทราบตามที่องคการบริหารสวนตําบลกําหนด (5) ควบคุม ดูแล การทํางานของเจ้าหน้าที่ของกิจการประปา (6) จัดทําโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองคการบริหารสวนตําบล ในกรณีที่รายได้ของกิจการประปาไม่เพียงพอต่อการดําเนินงาน คณะกรรมการอาจแต่งตั้งที่ปรึกษาเพื่อให้คําแนะนําปรึกษาในการบริหารกิจการประปาก็ได้ ขอ 7 บุคคลที่จะได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกผู้ใชน้ําประปาให้เป็นกรรมการต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ ้ หนา 21 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 92 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 เมษายน 2566

(1) มีสัญชาติไทยและมีอายุไม่ต่ํากวายี่สิบปบริบูรณ (2) มีภูมิลําเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจํา และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในหมู่บ้าน หรือชุมชนนั้น ๆ ติดต่อกันมาแล้วไม่นอยกวาหนึ่งรอยแปดสิบวัน และเป็นสมาชิกผู้ใชน้ําของกิจการประปาที่ตน จะดํารงตําแหนงกรรมการ (3) เป็นบุคคลที่ประกอบอาชีพสุจริตไม่ประพฤติตนเป็นภัยต่อสังคม ขอ 8 บุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องหามมิให้มีสิทธิได้รับการเลือกตั้งจาก สมาชิกผู้ใชน้ําประปาให้เป็นกรรมการ คือ (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช (2) หูหนวกและเป็นใบซึ่งไม่สามารถอานและเขียนหนังสือได้ (3) ติดยาเสพติดให้โทษ (4) เคยถูกไลออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หนวยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือวากระทําการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ขอ 9 กรรมการมีวาระอยู่ในตําแหนงคราวละสองปนับแต่วันเลือกตั้ง แต่จะดํารงตําแหนง ติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้ ขอ 10 กรรมการพนจากตําแหนงเมื่อ (1) ถึงคราวออกตามวาระ (2) ตาย (3) ลาออกโดยยื่นหนังสือลาออกต่อประธานกรรมการ กรณีที่ยังไม่มีประธานกรรมการ หรือประธานกรรมการขอลาออกให้ยื่นหนังสือลาออกต่อผู้บริหารทองถิ่น (4) ไปเสียจากหมู่บ้านหรือชุมชนนั้น (5) ปรากฏภายหลังวาขาดคุณสมบัติตามขอ 7 หรือมีลักษณะต้องหามตามขอ 8 (6) ต้องโทษจําคุกฐานกระทําความผิดในคดีอาญา ยกเวนการกระทําความผิดลหุโทษ หรือกระทําความผิดโดยประมาท (7) กรณีที่กรรมการวางลงเกินกวากึ่งหนึ่งให้กรรมการที่เหลือพนจากตําแหนง ขอ 11 กรณีกรรมการวางลงเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระนอยกวาหรือเทากับกึ่งหนึ่ง ให้มีการเลือกตั้งกรรมการแทนตําแหนงที่วางภายในสิบหาวันนับแต่วันที่ตําแหนงวางลง และให้ผู้ซึ่งได้รับ ้ หนา 22 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 92 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 เมษายน 2566

เลือกแทนนั้นอยู่ในตําแหนงได้เพียงเทาวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน เวนแต่กรณีตําแหนงที่วางลง มีวาระที่เหลือไม่ถึงหนึ่งรอยแปดสิบวันจะไม่จัดให้มีการเลือกตั้งแทนตําแหนงกรรมการที่วางก็ได้ ขอ 12 ในการประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการเขาประชุมไม่นอยกวากึ่งหนึ่งจึงจะเป็นองคประชุม ขอ 13 มติที่ประชุมให้ถือเสียงขางมาก หากคะแนนเสียงเทากันให้ประธานเป็นผู้ชี้ขาด และให้ถือวาเป็นที่สุด ขอ 14 ในกรณีที่มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการ ที่ปรึกษา มีสิทธิเขารวมประชุม และมีสิทธิแสดงความคิดเห็นใด ๆ ก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงลงมติ ขอ 15 ให้ประธานกรรมการสงรายงานการประชุมให้ผู้บริหารทองถิ่นทราบภายในสิบหาวัน นับแต่วันประชุม หมวด 3 การบริหารกิจการประปาหมู่บ้าน ขอ 16 กิจการประปาหมู่บ้านเป็นทรัพย์สินขององคการบริหารสวนตําบล โดยมอบให้ คณะกรรมการดําเนินการบริหารจัดการ ขอ 17 ภายใตบังคับขอ 6 การบริหารกิจการประปาหมู่บ้านให้ดําเนินการให้เป็นไปตามที่ คณะกรรมการกําหนด ขอ 18 ให้คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อให้องคการบริหารสวนตําบลแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ ของกิจการประปา โดยมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลรักษาระบบประปาให้สามารถจายน้ําประปาได้จัดเก็บคาน้ํา จัดทําบัญชี และดําเนินการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการกําหนด โดยให้ได้รับคาจางตามที่คณะกรรมการกําหนด โดยความเห็นชอบขององคการบริหารสวนตําบล ขอ 19 การออกระเบียบขอบังคับของกิจการประปาจะต้องผานความเห็นชอบจากสมาชิก ผู้ใชน้ําประปาอยางนอยกึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกผู้ใชน้ําประปา โดยจะต้องไม่ขัดกับขอกําหนดของ องคการบริหารสวนตําบล ขอ 20 การประชุมสมาชิกผู้ใชน้ําต้องมีสมาชิกเขาประชุมเกินกวากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิก ผู้ใชน้ําทั้งหมด จึงจะเป็นองคประชุม ขอ 21 กรณีที่สวนหนึ่งสวนใดของระบบประปาชํารุดเสียหายให้ถือเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ในการซอมแซมและบํารุงรักษา ้ หนา 23 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 92 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 เมษายน 2566

เวนแต่กรณีที่สวนหนึ่งสวนใดของระบบประปาชํารุดเสียหายจนเกินความสามารถของคณะกรรมการ ในการซอมแซมและบํารุงรักษา ให้ถือเป็นหน้าที่ขององคการบริหารสวนตําบลในการพิจารณาซอมแซม และบํารุงรักษาให้ระบบประปาสามารถใชการได้อยู่เสมอ ขอ 22 ให้คณะกรรมการบํารุงรักษาแหลงน้ําดิบของระบบประปาหมู่บ้านให้สะอาดและมีปริมาณน้ํา เพียงพอที่จะใชผลิตน้ําประปาของกิจการประปาหมู่บ้านอยู่เสมอ ขอ 23 ผู้ที่ประสงคจะใชน้ําประปาหมู่บ้านจะต้องยื่นความประสงคขอใชน้ําเป็นลายลักษณอักษร ต่อคณะกรรมการ ขอ 24 คาธรรมเนียมการขอใชน้ํา คาปรับ คาติดตั้งมาตรวัดน้ําให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกําหนด โดยความเห็นชอบขององคการบริหารสวนตําบล ขอ 25 สมาชิกผู้ใชน้ําจะต้องชําระคาน้ําประปาทุกเดือนในอัตราหนวยละไม่ต่ํากวา 5 บาท ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกําหนด โดยความเห็นชอบขององคการบริหารสวนตําบล คณะกรรมการมีสิทธิจะเพิ่มหรือลดอัตราคาน้ําประปาได้ทุกเมื่อแต่ต้องได้รับความเห็นชอบ ขององคการบริหารสวนตําบลและสมาชิกผู้ใชน้ํา ในกรณีที่มีการเพิ่มหรือลดอัตราคาน้ําประปาคณะกรรมการ จะต้องแจงและประกาศให้สมาชิกผู้ใชน้ําทราบเป็นลายลักษณอักษรลวงหน้าไม่นอยกวาสิบหาวัน ขอ 26 หากสมาชิกผู้ใชน้ําคางชําระคาน้ําประปาเป็นเวลาสามเดือนติดต่อกันคณะกรรมการ จะตัดและงดจายน้ําประปาทันที ขอ 27 ผู้ถูกงดจายน้ํามีความประสงคจะขอใชน้ําประปาต้องดําเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) ยื่นคําขออนุญาตเป็นลายลักษณอักษรต่อคณะกรรมการ (2) ชําระคาน้ําประปาที่คางชําระให้หมดสิ้น พรอมทั้งเสียคาปรับจํานวนหนึ่งรอยบาท ขอ 28 สมาชิกผู้ใชน้ําจะต้องชําระคาอุปกรณ ดังต่อไปนี้ (1) มาตรวัดน้ํา (2) ทอและอุปกรณภายใน (3) ทอและอุปกรณภายนอก ขอ 29 บรรดามาตรวัดน้ํา ทอและอุปกรณภายใน และทอและอุปกรณภายนอกตามขอ 28 ที่ติดตั้งเสร็จแล้วตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสมาชิกผู้ใชน้ํา ้ หนา 24 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 92 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 เมษายน 2566

ขอ 30 ในกรณีที่มาตรวัดน้ํา ทอและอุปกรณภายใน และทอและอุปกรณภายนอกที่ได้ติดตั้ง เสร็จเรียบรอยแล้วเกิดความชํารุดบกพรองหรือเนื่องมาจากการเสื่อมสภาพตามปกติ สมาชิกผู้ใชน้ํา จะต้องแจงให้คณะกรรมการทราบทันที เพื่อคณะกรรมการจะได้ซอมแซม แกไข ความชํารุดบกพรอง หรือความเสื่อมสภาพนั้นโดยเร็ว โดยไม่ต้องเสียคาใชจายใด ๆ ทั้งสิ้น ขอ 31 การติดตั้งมาตรวัดน้ํา ต้องติดตั้งไวในที่เปดเผยสามารถตรวจสอบได้หรือหางจากรั้ว ไม่เกินหนึ่งเมตร ขอ 32 ผู้ใดที่ทําให้ทรัพย์สินของระบบประปาหมู่บ้านเสียหาย ผู้นั้นต้องชดใชคาเสียหาย ให้แกกิจการประปาหมู่บ้าน ขอ 33 ผู้ใดโดยทุจริตเอาน้ําประปาหมู่บ้านไปใช หรือเปลี่ยนแปลงแกไขตัวเลขในมาตรวัดน้ํา หรือกระทําการใด ๆ ก็ตามเพื่อเอาน้ําประปาหมู่บ้านไปใช ให้งดจายน้ําทันทีและจะต้องชดใชคาเสียหาย ให้แกกิจการประปาหมู่บ้าน และให้คณะกรรมการโดยได้รับมอบหมายจากองคการบริหารสวนตําบล พิจารณาแจงความดําเนินคดี การดําเนินการของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่งให้รวมถึงการดําเนินคดีกับผู้ทําให้ทรัพย์สิน ของระบบประปาหมู่บ้านเสียหายตามขอ 32 ด้วย ขอ 34 กรณีที่มีการยกเลิกการใชน้ําหรือโอนให้ผู้อื่น ต้องแจงให้คณะกรรมการทราบเป็น ลายลักษณอักษร และได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการเสียกอนจึงสิ้นสุดการเป็นผู้ใชน้ํา มิฉะนั้นจะถือวา ยังเป็นผู้ใชน้ําอยู่ และจะต้องรับผิดชอบจายคาน้ําตามที่คณะกรรมการหรือผู้ได้รับมอบหมายเรียกเก็บ ขอ 35 ระยะเวลาในการเก็บคาน้ํา และระยะเวลาในการคางชําระคาน้ําให้เป็นไปตามที่ คณะกรรมการกําหนด โดยความเห็นชอบขององคการบริหารสวนตําบล ขอ 36 ระบบประปาหมู่บ้านอาจมีรายได้ ดังนี้ (1) เงินคาน้ํา (2) เงินคาธรรมเนียม เงินคาปรับ (3) เงินบริจาค (4) เงินที่ได้รับการอุดหนุนจากองคการบริหารสวนตําบล ้ หนา 25 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 92 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 เมษายน 2566

ขอ 37 ระบบประปาหมู่บ้านอาจมีรายจาย ดังนี้ (1) รายจายในการดําเนินการเกี่ยวกับระบบการผลิตน้ําประปา ระบบการจาย น้ําประปา การบํารุงรักษา ซอมแซม และการขยายกิจการประปา (2) รายจายในการบริหารกิจการประปา เชน คาจางเจ้าหน้าที่ คาวัสดุ อุปกรณ (3) คาใชจายอื่น ๆ ตามที่องคการบริหารสวนตําบลกําหนด เชน คาเบี้ยประชุม หรือคาตอบแทนคณะกรรมการ โดยความเห็นชอบขององคการบริหารสวนตําบล ขอ 38 ให้คณะกรรมการหรือผู้ได้รับมอบหมายให้เก็บรักษาเงินของกิจการประปานํารายได้ ของกิจการประปาฝากธนาคารในนามของกิจการประปาทั้งจํานวนภายในวันที่มีรายได้ ถาฝากในวันที่ มีรายได้ไม่ทันให้นําฝากธนาคารในวันทําการถัดไปทั้งจํานวน หากมีความจําเป็นจะต้องเก็บรักษาเงินไวจาย ในกรณีเรงดวนให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการโดยความเห็นชอบขององคการบริหารสวนตําบลกําหนด ในกรณีทองที่ใดไม่มีธนาคารในพื้นที่ให้นํารายได้ดังกลาวฝากคณะกรรมการเก็บรักษาเงิน ขององคการบริหารสวนตําบล ขอ 39 ให้คณะกรรมการกําหนดตัวบุคคลในคณะกรรมการเป็นผู้มีอํานาจเบิกจายเงิน ของกิจการประปาหมู่บ้านจํานวนไม่นอยกวาสองคน ขอ 40 การเบิกเงินของกิจการประปาหมู่บ้านต้องลงลายมือชื่อในการเบิกจายเงินอยางนอยสองคน ของผู้มีอํานาจเบิกจาย ขอ 41 ให้องคการบริหารสวนตําบลกําหนดรูปแบบการทําบัญชีของกิจการประปาหมู่บ้าน แกคณะกรรมการ โดยให้องคการบริหารสวนตําบลตรวจสอบการเงินและบัญชีในระยะเวลาตามที่เห็นสมควร หากพบขอบกพรองให้แจงคณะกรรมการดําเนินการแกไขให้ถูกต้อง ขอ 42 ให้คณะกรรมการจัดทําบัญชีรายได้และรายจายของกิจการประปาหมู่บ้านรายงาน ให้ผู้บริหารทองถิ่นทราบอยางนอยเดือนละหนึ่งครั้ง ประกาศ ณ วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2563 สลัด ผายทอง นายกองคการบริหารสวนตําบลขัวกาย ้ หนา 26 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 92 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 เมษายน 2566