ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 4
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 4
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 4 เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 16 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 มาตรา 20 (4) และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ กำรบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ดาเนินการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟ แห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ 1 . กระทรวงการคลังได้ดาเนินการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่ รฟท. สาหรับโครงการความร่วมมือ ระหว่างรั ฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟ ความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) วงเงิน 9,000,000,000 บาท (เก้าพันล้านบาทถ้วน) โดยวิธีการทาสัญญากู้ยืมเงิน ( Term Loan ) กับสถาบันการเงิน 2 . การเบิกเงินกู้ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 จนถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2566 โดยจะแจ้งผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทำการ 3 . อายุเงินกู้ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ครบกำหนดในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2570 4 . อัตราดอกเบี้ย 4.1 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง บวกร้อยละ 0.239 (ศูนย์จุดสองสามเก้า) ต่อปี 4.2 อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง หมายความว่า อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นตลาดกรุงเทพ ระยะ 6 เดือน ( BIBOR 6 M ) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย 4.3 การปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด 6 เดือน หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง โดยอัตราดอกเบี้ยงวดแรกจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ณ วันเบิกเงินกู้ สาหรับการใช้อัตราดอกเบี้ย ในงวดต่อ ๆ ไป จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ณ วันครบกาหนดชาระดอกเบี้ย เพื่อใช้คานวณดอกเบี้ย ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนถัดไป การคานวณดอกเบี้ยให้ถือว่าหนึ่งปีมี 365 วัน นับตามจานวน วันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชาระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 17 สิงหาคม 2566 และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2570 5 . การชาระดอกเบี้ย ตลอดเวลาที่สัญญายังมีอายุอยู่ให้แบ่งชาระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือวันที่ 17 กุมภาพันธ์ และ 17 สิงหาคม ของทุกปี สาหรับดอกเบี้ย งวดสุดท้ายจะชาระพร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดตามสัญญากู้ยืมเงิน หากวันครบกาหนดชาระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ้ หนา 4 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 84 ง ราชกิจจานุเบกษา 10 เมษายน 2566
ก็ให้เลื่อนไปชาระในวันทาการถัดไป โดยไม่นับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวม เพื่อคำนวณดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดชำระ ยกเว้นการชำระต้นเงินกู้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ย จนถึงวันก่อนวันชำระหนี้ 6 . การชำระคืนต้นเงินกู้ กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนครบกาหนด ได้ทั้งจานวนหรือบางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทาการ โดยกระทรวงการคลังจะชาระดอกเบี้ยคงค้างของต้นเงินกู้ที่ค้างชาระ พร้อมกับการชาระคืน ต้นเงินกู้ก่อนกาหนดนั้น ทั้งนี้ ดอกเบี้ยคงค้างให้คานวณนับตั้งแต่วันที่กระทรวงการคลังชาระคืน ดอกเบี้ยครั้งล่าสุดจนถึงวันก่อนวันที่กระทรวงการคลังชาระคืนต้นเงินกู้ก่อนกาหนด โดยหากวันครบกาหนด ชำระคืนต้นเงินกู้ตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระคืนในวันทำการถัดไป 7 . ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ ประกาศ ณ วันที่ 17 กุม ภา พันธ์ พ.ศ. 25 6 6 บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ้ หนา 5 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 84 ง ราชกิจจานุเบกษา 10 เมษายน 2566