ระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครอง ตามมาตรการทั่วไปแก่พยานในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565
ระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครอง ตามมาตรการทั่วไปแก่พยานในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565
ระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครอง ตามมาตรการทั่วไปแก่พยานในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่าด้วยหลักเกณฑ์ การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครองตามมาตรการทั่วไปแก่พยานในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรี ยกว่า “ ระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครองตามมาตรการทั่วไปแก่พยานในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในบทนิยามคำว่า “ พนักงานเจ้าหน้าที่ ” และคำว่า “ พยาน ” ในข้อ 3 แห่งระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครองตามมาตรการทั่วไปแก่พยานในคดีอาญา พ.ศ. 2551 และให้ใช้ ความ ต่อไปนี้แทน “ พนักงานเจ้าหน้าที่ ” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งให้ปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี้ “ พยาน ” หมายความว่า บุคคลซึ่งจะมาให้หรือได้ให้ข้อเท็จจริงต่อพนักงานผู้มีอานาจสืบสวน คดีอาญา พนักงานผู้มีอานาจสอบสวนคดีอาญา พนักงานผู้มีอานาจฟ้องคดีอาญา หรือศาลในการ ดาเนินคดีอาญา รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ แต่มิให้หมายความรวมถึงจาเลยซึ่งศาลมีคาพิพากษาถึงที่สุด ให้ลงโทษและหลบหนี ” ข้อ 4 ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า “ คณะกรรมการ ” คำว่า “ การประเมินพฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย ” และคาว่า “ พฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย ” ในข้อ 3 แห่งระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครองตามมาตรการทั่วไปแก่พยาน ในคดีอาญา พ.ศ. 2551 “ “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการคุ้มค รองพยาน ้ หนา 2 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 8 ง ราชกิจจานุเบกษา 12 มกราคม 2566
“ การประเมินพฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย ” หมายความว่า การนาพฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย มาสรุปข้อเท็จจริงประกอบหลักฐานอื่น เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติคาร้องขอคุ้มครองความปลอดภัย การขยายระยะเวลาคุ้มครองความปลอดภัย หรือการพิจารณาสิ้นสุดการคุ้มครองความปลอดภัย ” “ พฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย ” หมายความว่า ข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือหลักฐานอื่นใด ที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีหรืออาจมีการข่มขู่คุกคาม หรือการกระทำด้วยประการใด ของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ผู้ต้องหา จาเลย อันอาจทาให้พยำน สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดานของพยาน หรือบุคคลอื่น ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยาน ไม่ได้รับความปลอดภัย โดยมีมูลเหตุจากการที่ได้มาเป็นพยาน หรือจะมาเป็นพยานทั้งก่อน ขณะ และหลังการมาเป็นพยาน ” ข้อ 5 ให้ยกเลิกความใน (1) ของข้อ 11 แห่งระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครองตามมาตรการทั่วไป แก่พยานในคดีอาญา พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “( 1) ให้ยื่นคาร้องขอใช้มาตรการทั่วไปในการคุ้มครองพยานพร้อมด้วยเอกสาร หลักฐาน ตามแบบแนบท้ายระเบียบนี้ ทั้งนี้ ให้ยื่นด้วยตนเอง ณ สถานที่ตามที่อธิบดีประกาศกำหนด หรือยื่นทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับหรือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกความใน (3) ของข้อ 13 แห่งระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครองตามมาตรการทั่วไป แก่พยานในคดีอาญา พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “( 3) จัดทำการประเมินพฤติการณ์ความไม่ปลอดภัยจากเหตุปัจจัย ดังต่อไปนี้ (ก) อัตราโทษ และพฤติการณ์การกระทำความ ผิด (ข) ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภัยคุกคาม (ค) สถานะของจำเลย (ง) หลักฐานอื่นใด ให้จัดทาบันทึกสรุปข้อเท็จจริง หลักฐาน พร้อมทั้งความเห็น และเสนอต่อผู้อานวยการ หรือ คณะกรรมการโดยเร็ว ” ข้อ 7 ให้ยกเลิกความในข้อ 14 และข้อ 15 แห่งระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครองตามมาตรการทั่วไป แก่พยานในคดีอาญา พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 14 ในการบันทึกสรุปข้อเท็จจริงและหลักฐาน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้ำที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (1) มีหนังสือหรือประสานผู้ร้อง บุคคล หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง มาให้ถ้อยคำ หรือหลักฐาน เพื่อประกอบการพิจารณา ในประเด็น ดังนี้ ้ หนา 3 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 8 ง ราชกิจจานุเบกษา 12 มกราคม 2566
1.1 ตรวจสอบข้อมูล ประวัติ และสถานะทางคดีของผู้ขอรับความคุ้มครองว่าเป็นพยาน ในคดีอาญาหรือไม่ หรือตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอื่นหรือไม่ ประการใด 1.2 ความสำคัญของพยานในทางคดีเพื่อพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา ผู้ต้องหา จำเลย 1.3 พฤติการณ์ความไม่ปลอดภัยของพยานมีสาเหตุเกี่ยวเนื่องจากการที่จะมาหรือได้มา เป็นพยานหรือไม่ 1.4 พฤติการณ์ความไม่ปลอดภัยมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด 1.5 การคุ้มครองความปลอดภัยเป็นการกระทบต่อกระบวนการสอบสวนการดาเนินคดี หรือการพิจารณาของศาลหรือไม่ ประการใด 1.6 แสวงหาข้อมูลอื่นใดเพื่อประโยชน์แก่การพิจารณา (2) มีความเห็นอนุมัติให้ความคุ้มครอง โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 2.1 วิธีการให้ความคุ้มครอง 2.2 ระยะเวลาการให้ความคุ้มครอง ครั้งละไม่เกินเก้าสิบวัน 2.3 กำหนดเงื่อนไขให้พยานปฏิบัติระหว่างอยู่ในความคุ้มครอง 2.4 อาวุธยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ 2.5 งบประมาณและค่าใช้จ่ายในการคุ้มครองพยาน (3) มีความเห็นไม่อนุมัติให้ความคุ้มครอง ” “ ข้อ 15 เมื่อผู้อานวยการได้รับคาร้องพร้อมความเห็นจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ 14 แล้วให้เสนอคาร้องพร้อมความเห็นดังกล่าวต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ในกรณีที่มีเหตุจาเป็นเร่งด่วนที่จะต้องทาการคุ้มครองพยาน ให้ผู้อานวยการแจ้งหน่วยงาน คุ้มครองพยาน เพื่อช่วยให้ความคุ้มครองตามที่เห็นเป็นการสมควรไปก่อน และขออนุมัติต่ออธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายโดยเร็ว แล้วรายงานต่อคณะกรรมการเพื่อทราบ ” ข้อ 8 ให้เพิ่มควำมต่อไปนี้เป็นข้อ 15/1 ข้อ 15/2 และข้อ 15/3 แห่งระเบียบ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุด การคุ้มครองตามมาตรการทั่วไปแก่พยานในคดีอาญา พ.ศ. 2551 “ ข้อ 15/1 ให้มีคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการคุ้มครองพยานจำนวนเจ็ดคน ประกอบด้วย อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพหรือรองอธิบดีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิที่อธิบดีมอบหมาย ผู้อานวยการสานักงานคุ้มครองพยาน หัวหน้ากลุ่มงาน ปฏิบัติการคุ้มครองพยาน หั วหน้ากลุ่มงานพัฒนาระบบและมาตรฐานการคุ้มครองพยาน และหัวหน้า กลุ่มงานส่งเสริมการคุ้มครองพยานเป็นกรรมการ ให้หัวหน้ากลุ่มงานบริหารทั่วไปเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เจ้าหน้าที่ในสังกัด สำนักงานจำนวนสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ” ้ หนา 4 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 8 ง ราชกิจจานุเบกษา 12 มกราคม 2566
“ ข้อ 15/2 คณะกรรมการมีหน้าที่แ ละอำนาจ ดังต่อไปนี้ (1) พิจารณา ตรวจสอบและประเมินข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับคำร้องขอคุ้มครอง ความปลอดภัย และการสิ้นสุดการคุ้มครองความปลอดภัยตามมาตรการทั่วไป และเสนอความเห็น ต่ออธิบดีหรือผู้มีอำนาจพิจารณาใช้มาตรการทั่วไป (2) มีความเห็นให้พนัก งานเจ้าหน้าที่แสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา (3) เสนอความเห็นต่ออธิบดีเกี่ยวกับมาตรการในการคุ้มครองพยาน หรือการออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศต่าง ๆ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพยานในคดีอาญา (4) ให้สานักงานปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กาหนดในกฎหมายว่าด้วย การคุ้มครองพยานในคดีอาญา ” “ ข้อ 15/3 การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ จานวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม ในกรณีประธานกรรมการไม่อาจเข้าร่ วมประชุมหรือ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองอธิบดีหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่อธิบดีมอบหมายทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม มติในที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียง เท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด ” ข้อ 9 ให้ยกเลิกความในข้อ 19 และข้อ 20 แห่งระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครองตามมาตรการทั่วไป แก่พยานในคดีอาญา พ. ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 19 การกาหนดวิธีการคุ้มครองความปลอดภัย ให้สานักงานดาเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (1) สั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดาเนินการคุ้มครอง โดยกาหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เป็นหัวหน้าชุดและพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นเป็นชุดคุ้มครอง (2) จัดทำคำสั่งแต่งตั้งชุดคุ้มครองตามแบบท้ายระเบียบนี้ (3) จัดให้ผู้รับความคุ้มครองอยู่ในสถานที่ปลอดภัยตามที่สำนักงานเห็นสมควรและเหมาะสม (4) ปกปิดมิให้มีการเปิดเผยถึงการคุ้มครอง รวมทั้งชื่อตัว ชื่ อสกุล ที่อยู่ ภาพ หรือข้อมูล อย่างอื่นที่สามารถระบุตัวผู้รับความคุ้มครองได้ตามความเหมาะสมแก่สถานะและสภาพของผู้รับความคุ้มครอง และลักษณะของคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง (5) ให้ประเมินพฤติการณ์ความไม่ปลอดภัยเป็นระยะ (6) กรณีที่มีความจาเป็น ให้หน่วยงานอื่นดาเนินการคุ้มครองโดยประสานส่งต่อหรืออานวยการ ให้สำนักงานตารวจแห่งชาติหรือหน่วยงานอื่นดาเนินการคุ้มครอง ” “ ข้อ 20 การคุ้มครองสิ้นสุดลงเมื่อมีเหตุอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (1) เมื่อพยานถึงแก่ความตาย (2) ผู้รับความคุ้มครองตายหรือร้อ งขอให้ยุติการคุ้มครอง ้ หนา 5 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 8 ง ราชกิจจานุเบกษา 12 มกราคม 2566
(3) ผู้รับความคุ้มครองฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สำนักงานกำหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร (4) ผู้รับความคุ้มครองหรือผู้ให้ความยินยอมแทนผู้รับความคุ้มครองเพิกถอนการให้ความยินยอม (5) เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงจากการประเมินพฤติการณ์ความไม่ปลอดภัยตามข้อ 19 มีเหตุอันควร เชื่อว่าผู้รับความคุ้มครองไม่มีพฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย (6) พยานไม่มาหรือมาแต่ไม่ให้ถ้อยคำหรือไม่เบิกความเป็นพยานโดยไม่มีเหตุอันสมควร (7) ศาลมีคาพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษพยาน ในความผิดฐานแจ้งความอันเป็นเท็จความผิด ฐานเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล หรือความผิดฐานทาพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ในคดีที่ผู้นั้นเป็นพยาน (8) ได้รับแจ้งจากสานักงานตารวจแห่งชาติหรือหน่วยงานอื่นว่าผู้รับความคุ้มครองประสงค์ ให้การคุ้มครองสิ้นสุดลง (9) เมื่อมีเหตุอื่นใด อันทำให้การคุ้มครองไม่อาจดาเนินการต่อไปได้ ” ข้อ 10 ให้ยกเลิกแบบแนบท้ายระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่าด้วยหลักเกณฑ์ การแจ้ง วิธีการให้ความคุ้มครอง และการสิ้นสุดการคุ้มครองตามมาตรการทั่วไปแก่พยานในคดีอาญา พ.ศ. 2551 และให้ใช้แ บบแนบท้ายระเบียบนี้แทน ให้ไว้ ณ วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 256 5 เรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ้ หนา 6 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 8 ง ราชกิจจานุเบกษา 12 มกราคม 2566
แบบ สคพ. 1 ลับ ลับ ลับ คําร้องขอใช้มาตรการทั่วไปในการคุ้มครองพยาน เลขที่รับ วันที่รับ ⚫ แบบคําร้องนี้มี 3 หน้า โปรดทําเครื่องหมาย ลงในช่อง พร้อมทั้งกรอกข้อความ 1 . ข้อมูลพยาน ชื่อ - สกุล นาย/นาง/นางสาว/เด็กชาย/เด็กหญิง/อื่นๆ วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ ปี เลข ประจําตัว ประชาชน/หนังสือเดินทาง อาชีพ สถานที่ทํางาน การศึกษา สถานภาพ โสด สมรส อยู่กินฉันสามีภรรยา หย่าร้าง อื่นๆ คู่สมรสชื่อ - สกุล จํานวนบุตร คน อายุ ปี (ทุกคน) ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้ โทรศัพท์ 2 . ผู้ยื่นคําร้องแทน เกี่ยวข้องกับพยานในฐานะ ชื่อ - สกุล นาย/นาง/นางสาว/เด็กชาย/เด็กหญิง/อื่นๆ วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ ปี เลข ประจําตัว ประชาชน / หนังสือเดินทาง ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้ โทรศัพท์ 3 . ข้อมูลทางคดี ฐานความผิด สถานะของพยาน จะมาเป็นพยาน ได้มาเป็นพยาน โดยเป็นพยานต่อ พนักงานสืบสวน พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ศาล อื่นๆ เลขคดี ของ หน่วยงาน วัน/เดือน/ปี ที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุ ข้อมูลการกระทําความผิด แบบคําร้องขอใช้มาตรการทั่วไปในการคุ้มครองพยาน โปรดพลิก
แบบ สคพ. 1 ลับ ลับ ลับ พฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย ศักยภาพของคู่กรณี (สถานะทางสังคม ประวัติอาชญากรรม ประวัติความรุนแรง) 4 . ขอให้มีการคุ้มครองบุคคลที่เกี่ยวข้อง 4.1 ชื่อ - สกุล นาย/นาง/นางสาว/เด็กชาย/เด็กหญิง/อื่นๆ อายุ ปี เกี่ยวข้องกับพยานในฐานะ โทรศัพท์ พฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย 4.2 ชื่อ - สกุล นาย/นาง/นางสาว/เด็กชาย/เด็กหญิง/อื่นๆ อายุ ปี เกี่ยวข้องกับพยานในฐานะ โทรศัพท์ พฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย 4.3 ชื่อ - สกุล นาย/นาง/นางสาว/เด็กชาย/เด็กหญิง/อื่นๆ อายุ ปี เกี่ยวข้องกับพยานในฐานะ โทรศัพท์ พฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย 4.4 ชื่อ - สกุล นาย/นาง/นางสาว/เด็กชาย/เด็กหญิง/อื่นๆ อายุ ปี เกี่ยวข้องกับพยานในฐานะ โทรศัพท์ พฤติการณ์ความ ไม่ปลอดภัย 4.5 ชื่อ - สกุล นาย/นาง/นางสาว/เด็กชาย/เด็กหญิง/อื่นๆ อายุ ปี เกี่ยวข้องกับพยานในฐานะ โทรศัพท์ พฤติการณ์ความไม่ปลอดภัย 5 . เอกสารประกอบการยื่นคําร้อง เอกสารหลักฐาน แสดงการเป็นพยาน เอกสารหลักฐานแสดงความเสียหาย เช่น ใบรับรองแพทย์ ภาพถ่าย รายงานประจําวันเกี่ยวกับคดี อื่นๆ หน้า 2
แบบ สคพ. 1 ลับ ลับ ลับ 6 . ทั้งนี้ ข้าพเจ้าได้รับทราบสิทธิที่พยานพึงได้รับเมื่อได้รับการคุ้มครองและยินยอมปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และวิธีการและเงื่อนไขของ สํานักงานคุ้มครองพยาน ดังต่อไปนี้ 1 ) ข้าพเจ้าได้รับทราบสิทธิที่พึงจะได้รับตามระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่พยาน สา มี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดานของพยานหรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2 ) ข้าพเจ้าจะให้ความร่วมมือ และเชื่อฟังคําแนะนําของพนักงานเจ้าหน้าที่ของสํานักงานคุ้มครองพยานหรือหน่วยงานที่ให้ความคุ้มครอง แก่ข้าพเจ้า ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และเรื่องอื่นๆ ที่อาจทําให้เกิดความเสียหายแก่ตัวของข้าพเจ้าและผู้เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครั ด 3 ) ข้าพเจ้าจะไม่ทําให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงปลอดภัยของตนเองและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดําเนินการคุ้มครองข้าพเจ้า 4 ) ในกรณีที่มีค วามจําเป็น ข้าพเจ้ายินยอมให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดําเนินการคุ้มครองจัดให้ข้าพเจ้าอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยหรือมีการปกปิด มิให้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับข้าพเจ้า ทั้งนี้ ตามความเหมาะสมแก่สถานะ สภาพของข้าพเจ้าและลักษณะของคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง 5 ) ระหว่างการเป็นพ ยานและอยู่ในการคุ้มครองของสํานักงานคุ้มครองพยานหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย หากข้าพเจ้ากระทําการ อันเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติ ข้าพเจ้าจะถูกฟ้องร้องดําเนินคดีและถูกยกเลิกการคุ้มครองพยานทันที 6 ) ระหว่างที่อยู่ในการคุ้มครองพยาน กรณีมีความจําเป็นที่จะต้องเดินทางออกจากที่พักอาศัยตามปกติ หรือสถานที่ที่ทางราชการจัดให้ จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนเสมอ 7 ) ข้าพเจ้ายินยอมที่จะงดใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด หรือหากมีความจําเป็นต้องใช้ โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด ต้องได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกอบกับต้องสื่อสารในรูปแบบที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าใจได้ 8 ) ข้าพเจ้ายินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือดําเนินการอื่นใดเพื่อปฏิบัติตามกฎหมา ยว่าด้วยการคุ้ มครองพยานในคดีอาญา 9 ) ข้าพเจ้ายอมรับว่าหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กําหนดข้างต้น สํานักงานคุ้มครองพยานหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้คุ้มครองมีสิทธิ จะยกเลิกการคุ้มครองข้าพเจ้าทันที ข้าพเจ้า ขอรับรองว่าสํานักงานคุ้มครองพยานมิได้ทําหรือจัดทําการใดๆ ซึ่งเป็นการล่อลวง ขู่เข็ญ หรือให้สัญญาเพื่อจูงใจให้ข้าพเจ้าให้ถ้อยคําใดๆ และข้าพเจ้า ขอรับรองว่าเป็นการบันทึกถ้อยคําที่ถูกต้อง จึงลงลายมือชื่อไว้ต่อเจ้าหน้าที่ (ลงชื่อ) ผู้ยื่นคําร้อง ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. โทรศัพท์ (ลงชื่อ) เจ้าหน้าที่รับคําร้อง ( ) ตําแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ. หน้า 3
สคพ.5 หนังสือยินยอมรับการคุ้มครอง เขียนที่ วันที่ เดือน พ.ศ. ตามที่ ข้าพเจ้า ในฐานะ ได้ยื่นคําร้อง เมื่อ วันที่ ต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยสํานักงานคุ้มครองพยาน และต่อมา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยสํานักงา นคุ้มครองพยาน ได้อนุมัติให้ใช้ มาตรการ ให้ดําเนินการคุ้มครองความปลอดภัยโดยวิธีการ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นั้น ข้าพเจ้า ตก ลงยินยอมรับการคุ้มครอง ตามมาตรการ โดย วิธีการดังกล่าวข้างต้น โดยข้าพเจ้ารับทราบสิทธิที่พึงจะได้รับเมื่อเข้ารับการคุ้มครองตามกฎหมายและยินยอม ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยสํานักงานคุ้มครองพยาน ดังต่อไปนี้ 1 . ข้าพเจ้าได้รับทราบสิทธิที่พึงจะได้รับตามระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยค่ำตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่พยาน สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดานของพยานหรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2 . ข้าพเจ้าจะให้ความร่วมมือ และเชื่อฟังคําแนะนําของพนักงานเจ้าหน้าที่ของสํานักงานคุ้มครองพยานหรือหน่วยงำน ที่ให้ความคุ้มครองแก่ ข้าพเจ้า ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และเรื่องอื่นๆ ที่อาจทําให้เกิดความเสียหายแก่ตัวของข้าพเจ้า และผู้เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด 3 . ข้าพเจ้าจะไม่ทําให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงปลอดภัยของตนเองและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดําเนินการคุ้ มครองข้าพเจ้า 4 . ในกรณีที่มีความจําเป็น ข้าพเจ้ายินยอมให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดําเนินการคุ้มครองจัดให้ข้าพเจ้าอยู่ใ น สถานที่ ที่ปลอดภัยหรือ มีการปกปิดมิให้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับข้าพเจ้า ทั้งนี้ ตามความเหมาะสมแก่สถานะ สภาพของข้าพเจ้า และลักษณะของคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง 5 . ระหว่างการเป็นพยานและอยู่ในการคุ้มครองของสํานักงานคุ้มครองพยำนหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย หากข้าพเจ้ากระทําการ อันเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติ ข้าพเจ้าจะถูกฟ้องร้องดําเนินคดีและถูกยกเลิกการคุ้มครอง พยานทันที 6 . ระหว่างที่อยู่ในการคุ้มครองพยาน กรณีมีความจําเป็นที่จะต้องเดินทางออกจากที่พักอาศัยตามปกติ หรือสถานที่ที่ทางราชการจัดให้จะต้อง ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนเสมอ 7. ข้าพเจ้ายินยอมที่จะงดใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด หรือ หากมีความจํา เป็นต้องใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่น ใด ต้องได้รับ อนุญาตและ อยู่ ภายใต้การ ควบคุม ดูแลของพนักงานเจ้า หน้า ที่ ประกอบกับ ต้ องสื่อสารในรูปแบบ ที่ ให้ พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าใจ ได้ 8. ข้ำพเจ้ายินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือดําเนินการอื่นใดเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพยานใ น คดีอาญา 9 . ข้าพเจ้ายอมรับว่าหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กําหนดข้างต้น สํานักงานคุ้มครองพยานหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ให้คุ้มครองมีสิทธิจะยกเลิก การคุ้มครองข้าพเจ้าทันที ข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจข้อความดังกล่าวข้างต้นแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อไว้ (ลงชื่อ)… . . … … … . ..... พนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้คุ้มครอง (… … .. … … …) ตําแหน่ง … … … … … (ลงชื่อ) … … .. … … .. … .. .. … พยาน ผู้รับ การ คุ้มครอง (… … … … …) แบบหนังสือยินยอมรับการคุ้มครอง
คําสั่ง … ที่ … / … . เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยพยานในคดีอาญา . … ด้วย … ได้อนุมัติให้ดําเนินการคุ้มครอง ความปลอดภั ย แก่ … .. … … … . … ( ระบุชื่อพยาน) … . … .. … พยานในคดีอาญา เป็นระยะเวลา … … … วัน ตั้งแต่วันที่ … .. … เดือน … .. … … … พ . ศ . … . ถึงวันที่ … เดือน … พ . ศ . … และขยายระยะเวลาเพิ่มเติมอี ก … วัน ตั้งแต่วันที่ … เดือน … พ . ศ . … ถึงวันที่ … เดือน … … พ . ศ . … .. ดังนั้น … … จึงมีคําสั่ง แต่งตั้ง พนักงานเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ ในการให้ความคุ้มครองความปลอดภัยพยานดังกล่าวดังมีรายชื่อต่อไปนี้ 1 . … … … … … ตําแหน่ง … เป็นหัวหน้าชุด 2 . … … … ตําแหน่ง … … เป็นชุดปฏิบัติการ ให้ ผู้ มีรายชื่อดังกล่าวข้างต้นรับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยให้กับพยาน โดยดําเนินการ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ . ศ . 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และในการปฏิบัติ ภารกิจตามคําสั่งนี้ ให้ถือเป็นภารกิจนอกเหนือจากภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติตา มปกติ ทั้งนี้ ให้รายงานผล ให้ทราบเป็นระยะ โดยการคุ้มครองพยานรายดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองจัดให้พยานลงลายมือชื่อ ยินยอมรับการคุ้มครองด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่บั ดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลง และให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด สั่ง ณ วันที่ … เดือน … พ . ศ . … (ลงชื่อ) ( … ) … (สคพ . 7) ข้าฯ ยินยอมรับการคุ้มครองด้วยวิธีการคุ้มครอง … … ลงชื่อ … พยานผู้ขอรับการคุ้มครอง ( … ) แบบคําสั่งแต่งตั้งชุดคุ้มครอง
แบบ สคพ. 10 ลั บ ลับ คําร้องขอ สิ้นสุดการคุ้มครองพยาน เลขที่รับ วันที่รับ ⚫ แบบคําร้องนี้มี 2 หน้า โปรดทําเครื่องหมาย ลงในช่อง พร้อมทั้งกรอกข้อความ 1 . ข้ำพเจ้า ชื่อ - สกุล นาย/นาง/นางสาว / เด็กชาย/เด็กหญิง/อื่นๆ เกี่ยวข้องในฐานะ พยาน บุ คคลผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยาน พนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ . ศ . 2546 และที่ แ ก้ไขเพิ่มเติม 2 . มาตรการที่ใช้ในการคุ้มครองพยาน มาตรการทั่วไป มาตรการพิเศษ 3 . หน่วยงานที่ดําเนินการคุ้มครอ งพยาน 4 . ข้อมูลพยาน ชื่อ - สกุล นาย/นาง/นางสาว / เด็กชาย/เด็กหญิง/อื่นๆ อาชีพ รับราชการ รับจ้าง นักศึกษา อื่น ๆ ระบุ สถานภาพ โสด สมรส หย่า หม้าย บุตรจํานวน คน ชื่อบิดา ชื่อมารดา ที่อยู่ปัจจุบันที่ติดต่อได้ โทรศัพท์ สถานที่ทํางาน โทรศัพท์ เลข ประจําตัว ประชาชน วันออกบัตร บัตรหมดอายุ 5 . บุคคลที่สามารถติดต่อได้ ที่อยู่ โทรศัพท์ สถานที่ทํางาน โทรศัพท์ 6 . มีความประสงค์ขอให้สิ้นสุดการคุ้มครอง พยาน บุคคลผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยา นในคดีอาญา โดยเป็นพยานต่อ พนักงานสืบสวน พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ศาล อื่นๆ 7 . เหตุผลในการขอให้สิ้นสุดการคุ้มครองพยาน แบบคําร้องขอ สิ้นสุดการคุ้มครอง โปรดพลิ ก
แบบ สคพ. 10 ลั บ ลับ 8 . เอกสารประกอบกำรยื่นคําร้อง เอกสาร แสดง ความประสงค์ให้สิ้นสุดการคุ้มครอง พยาน อื่น ๆ (ลงชื่อ) เจ้าหน้าที่รับเรื่อง ( ) ตําแหน่ง วันที่ เดือน พ . ศ . (ลงชื่อ) ผู้ยื่นคําร้อง ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. หน้า 2