ประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการร้องขอและเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาใด เป็นคดีพิเศษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
ประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการร้องขอและเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาใด เป็นคดีพิเศษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
ประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการร้องขอและเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาใด เป็นคดีพิเศษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 โดยที่สมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการในการร้องขอและเสนอให้คณะกรรมการ คดีพิเศษมีมติให้คดีความผิดทางอาญาใดเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติ การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 บางประการเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อันจะทำให้การปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 วรรคหนึ่ง (4) มาตรา 12 และมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ประกอบกับมติคณะกรรมการ คดี พิเศษ ในการประชุมครั้งที่ 1/ 256 6 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 คณะกรรมการคดีพิเศษ จึงกาหนดให้แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการในการร้องขอและเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิด ทางอาญาใดเป็นคดีพิเศษไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการร้องขอและ เสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาใดเป็นคดีพิเศษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในบทนิยามคำว่า “ ผู้ร้องขอ ” ในข้อ 5 แห่งประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการร้องขอและเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาใดเป็นคดีพิเศษ พ.ศ. 256 1 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ “ ผู้ร้องขอ ” หมายความว่า กรรมการคดีพิเศษ ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีอานาจหน้าที่เกี่ยวข้องที่ได้ยื่น คำร้องขอตามประกาศนี้ ” ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของข้อ 6 แห่งประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และ วิธีการในการร้องขอและเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาใดเป็นคดีพิเศษ พ.ศ. 256 1 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ กรณีที่ผู้ร้องขอเป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง ให้ระบุอำนาจหน้าที่ของผู้ร้องขอและความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ร้องขอด้วย ” ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 10 แห่งประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการร้องขอ และเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาใดเป็นคดีพิเศษ พ.ศ. 256 1 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 10 อธิบดีอาจมีคาสั่งไม่รับคำร้องหรือคำร้องขอที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ไว้ดาเ นินการก็ได้ ้ หนา 5 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 61 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566
(1) คาร้องที่ไม่มีการลงลายมือชื่อของผู้ร้องขอ หรือมีการลงลายมือชื่อเป็นบุคคลธรรมดา องค์กรเอกชน หรือนิติบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีตัวตนอยู่จริง หรือเป็น คำร้องที่ไม่มีมูลทางอาญา อันไม่อาจถือเป็นคาร้องขอตามประกาศนี้ (2) คาร้องขอในคดีความผิดต่อส่วนตัวที่จะต้องมีการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายใน อายุความตามกฎหมาย และเรื่องนั้นยังมิได้ร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาก่อน (3) คำร้องขอในเรื่องที่อยู่ระหว่างการดาเนินการชั้นพนักงานอัยการ ชั้นการพิจารณาของศาล หรือเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. ตามกฎหมาย (4) คาร้องขอที่ได้ถูกพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาเพื่อรับคดีความผิด ทางอาญาเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) ไปแล้ว (5) คาร้องขอที่เมื่อพิจารณำแล้วข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่าไม่มีลักษณะของการกระทาความผิด อย่างหนึ่งอย่างใดตามที่กาหนดในมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) (ก) - (จ) ก่อนที่จะมีคาสั่งรับหรือไม่รับคาร้องขอไว้ดาเนินการ กรณีมีเหตุจาเป็น อธิบดีอาจมีคาสั่ง ให้สืบสวนตามมาตรา 23/1 วรรคสอง ประกอบระเ บียบ กคพ. ว่าด้วยการสืบสวนคดีความผิดทางอาญา เ พื่อเสนอ กคพ. มีมติให้เป็นคดีพิเศษ เพื่อให้มีการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อประกอบ การ พิจารณาก็ได้ กรณีที่อธิบดีมีคาสั่งไม่รับคาร้องขอไว้ดาเนินการ ให้จัดให้มีการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องทราบ พร้อมเหตุผลภายในเจ็ดวันทำการ และหากเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษส่งเรื่องดังกล่าวไปเพื่อดาเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานที่รับเรื่องไปดาเนินกา ร ตามอำนาจหน้าที่ เมื่อได้รับการร้องขอด้วย กรณีที่ผู้ร้องขอไม่เห็นด้วยกับคาสั่งไม่รับคาร้องขอไว้ดาเนินการตามวรรคสาม และประสงค์ ขอให้อธิบดีพิจารณาใหม่ก็ให้สามารถกระทาได้ แต่ก่อนจะมีคาสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้อธิบดีพิจารณา ว่ามีพยานหลักฐานหรือพฤติการณ์ให ม่อันสำคัญที่จะเป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงคาสั่งเดิมได้หรือไม่ด้วย ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 11 แห่งประกาศ กคพ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการ ในการร้องขอและเสนอให้ กคพ. มีมติให้คดีความผิดทางอาญาใดเป็นคดีพิเศษ พ.ศ. 256 1 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ เมื่ออธิบดีมีคาสั่งให้รับคาร้องขอไว้ดาเนินการแล้ว ให้รีบส่งคาร้องขอพร้อมพยานหลักฐาน และสำนวนการสืบสวน (ถ้ามี) ไปยังอนุกรรมการกลั่นกรองเพื่อดำเนินการโดยเร็ว ” ประกาศ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 256 6 วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทน นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการคดีพิเศษ ้ หนา 6 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 61 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 มีนาคม 2566