Tue Mar 14 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี เรื่อง ห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด และมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมในท้องที่จังหวัดอุดรธานี (ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม - 15 พฤษภาคม 2566)


ประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี เรื่อง ห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด และมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมในท้องที่จังหวัดอุดรธานี (ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม - 15 พฤษภาคม 2566)

ประกาศกองอานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี เรื่อง ห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด และมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมในท้องที่จังหวัดอุดรธานี (ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม - 15 พฤษภาคม 2566) ด้วยในช่วงฤดูแล้งของทุกปี ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จังหวัดอุดรธานี ต้องเผชิญกับปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ( PM 2.5) โดยมีสาเหตุมาจากการเผา ในที่โล่ง ทั้งการเผาเพื่อเก็บหาของป่า ล่าสัตว์ รวมถึงการกาจัดวัชพืชเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกในที่ดิน ทำกินของเกษตรกร โดยไม่มีการควบคุม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลต่อสุขอนามัยของประชาชน สภาวะเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว อันเป็นสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี อันมีผลกระทบต่อสาธารณชนในวงกว้าง อาศัยอานาจ ตามความในมาตรา 15 มาตรา 21 และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 จึงกาหนดให้พื้นที่ทุกหมู่บ้าน/ตาบล/อาเภอ ในท้องที่ จังหวัดอุดรธานี เป็นเขตควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิดและกำหนดมาตรการทางกฎหมายในการควบคุม การเผาในที่โล่งทุ กชนิด ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม - 15 พฤษภาคม 2566 ดังนี้ 1 . การฝ่าฝืนประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี ฉบับนี้ มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ นอกจากนี้ การจุดไฟเผาในพื้นที่ชุมชน พื้นที่เกษตร พื้นที่ป่า หรือปล่อยให้ลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่า จะมีความผิด ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.1 มาตรา 25 (4) แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 74 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 1.2 มาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ ในกรณีที่กระทาเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท 1.3 มาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 31 ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท ในกรณีที่ได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท 1.4 มาตรา 55 (2) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 99 ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ ในกรณีความผิดดังกล่าว ถ้าได้กระทา ในพื้นที่ลุ่มน้าชั้นที่ 1 หรือพื้นที่ลุ่มน้าชั้นที่ 2 ตามที่กำหนด หรือพื้นที่เปราะบางของระบบนิเวศหรือ ความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ ้ หนา 33 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 60 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 มีนาคม 2566

1.5 มาตรา 19 (1) แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิดตามมาตรา 41 ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้ งจาทั้งปรับ ในกรณีความผิดดังกล่าว ถ้าได้กระทาในพื้นที่ลุ่มน้าชั้น 1 หรือพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 2 ตามที่กำหนด หรือพื้นที่เปราะบางของระบบนิเวศหรือความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายกำหนด 1.6 มาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐ ตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น 1.7 มาตรา 130 แห่งพระราชบัญ ญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิด ตามมาตรา 152 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท 1.8 การเผาในที่โล่ง หากเกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใด ๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตราย แก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินผู้อื่น ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 7 ปีและปรับไม่เกิน 140,000 บาท ตามมาตรา 220 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ถ้าการกระทาความผิดดังกล่าว เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์ตามที่ระบุไว้ ในมาตรา 218 ผู้กระทาต้องระวางโทษประหารชีวิต จาคุกตลอดชีวิต หรือจาคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี ตามนัย มาตรา 218 และมาตรา 220 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ถ้าผู้กระทาให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และเป็นเหตุให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย หรือกระทาโดยประมาทนั้นน่าจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตของบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 225 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หากการกระทาดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้นั้นต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหาย ในฐานความผิด ละเมิดตามมาตรา 420 แห่ งประมวลกฎหมาย แ พ่งและพาณิชย์ 2 . ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ทุกคน ทุกสังกัด นายกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดอุดรธานี นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตาบล กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกานัน แพทย์ประจาตาบล คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการชุมชน และสมาชิกสภาองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องสอดส่องดูแล เอาใจใส่ และร่วมชี้แจงให้ประชาชนในท้องที่ ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้อย่างเคร่งครัด จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 25 6 6 วันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้อำนวยการจังหวัด ้ หนา 34 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 60 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 มีนาคม 2566