ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า และผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ำ พ.ศ. 2566

ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า และผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้า พ.ศ. 2566 โดยที่พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 12 มาตรา 14 วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาตรา 15 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 มาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 25 มาตรา 27 มาตรา 28 และมาตรา 32 เป็นบทบัญญัติอันเป็นข้อห้ามกระท้าการ ที่ใช้บั งคับแก่บุคคลทั่วไป แต่ไม่ใช้บังคับแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการด้าเนินการเพื่อประโยชน์ ในการส้ารวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ การคุ้มครองสัตว์ป่า การบ้าบัดเยียวยาสัตว์ป่า การป้องกันหรือแก้ไขภยันตรายแก่ประชาชนหรือสัตว์ หรือเพื่อส่งเสริมการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า หรือ เพื่อส่งเสริมกิจการสวนสัตว์ พนักงานเจ้าหน้าที่ชอบที่จะกระท้าได้โดยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ สงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 แต่จะต้องปฏิบัติตามระเบียบที่ อธิบดีก้าหนด โดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า อาศัยอ้านาจตามความในมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 อธิบดีกรมประมงโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี ข้อ 1 ระเบี ยบนี เรียกว่า “ ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า และผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น ้า พ.ศ. 2566” ข้อ 2 ระเบียบนีให้ใช้บังคับตังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ในระเบียบ นี “ สัตว์ป่า ” หมายความว่า สัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น ้าตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า “ รัง ” หมายความรวมถึง แหล่งวางไข่ แหล่งเลี ยงตัวอ่อนของสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น ้าด้วย “ อธิบดี ” หมายความว่า อธิบดีกรมประมง “ พนักงานเจ้าหน้าที่ ” หมายความว่า ( 1 ) อธิบดี ( 2 ) หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกรมประมงที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื นที่ในเขตความรับผิดชอบ ( 3 ) พนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมประมงที่ได้รับการแต่งตังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( 4 ) พนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดกรมประมง ที่ได้รับการแต่งตังจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ้ หนา 20 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 55 ง ราชกิจจานุเบกษา 10 มีนาคม 2566

( 5 ) พนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐแห่งอื่น ที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ในพืนที่รับผิดชอบ ยกเว้นการกระท้าที่เกี่ยวกับ มาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 25 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ข้อ 4 การใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้กระท้าตามอ้านาจหน้าที่เพื่อประโยชน์ในการส้ารวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ การคุ้มครองสัตว์ป่า การบ้าบัดเยี ยวยาสัตว์ป่า การป้องกันหรือแก้ไขภยันตรายแก่ประชาชนหรือสัตว์ หรือเพื่อส่งเสริมการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า หรือ เพื่อส่งเสริมกิจการสวนสัตว์ ถ้าไม่เป็นการกระท้าเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ส้าหรับตนเองหรือผู้อื่น และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามระ เบียบนี ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องด้าเนินการ ตามมาตรา 12 มาตรา 14 วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาตรา 15 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 มาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 25 มาตรา 27 มาตรา 28 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 การกระท้าดังต่อไปนี ให้ถือว่าเป็นการกระท้าตามวรรคหนึ่งด้วย ( 1 ) การล่าสัตว์ป่า เก็บหรือท้าอันตรายรังของสัตว์ป่า ให้มาอยู่ในความครอ บครองหรือ เพื่อน้าไปสู่การเพาะพันธุ์ตามแผนงาน โครงการหรือกิจกรรมของกรมประมง ( 2 ) การล่าสัตว์ป่า เก็บหรือท้าอันตรายรังของสัตว์ป่า เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากอันตราย เพื่อสงวนหรือรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินของตนเอง ผู้อื่น และหน่วยงาน เพื่อปัดป้องเหตุภัยพิ บัติ โรคระบาด ที่จะเกิดความเสียหายแก่สัตว์ป่า โดยต้องกระท้าเท่าที่จ้าเป็นและสมควรแก่เหตุ ( 3 ) การครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการด้าเนินการตาม (1) และ (2) และตามมาตรา 81 (4 ) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ( 4 ) การเพาะพันธุ์สัตว์ป่ำตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมตามอ้านาจหน้าที่ของหน่วยงาน ( 5 ) การปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการด้าเนินการตาม (3) ( 6 ) การก้ากับการน้าเข้า หรือส่งออก หรือน้าผ่านสัตว์ป่า ตามระเบียบกรมประมงว่าด้วยการนั น (7) การด้าเนินการฟื้นฟูประชากรสัตว์ป่า หรื อการปล่อยสัตว์ป่ากลับคืนถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ หรือการครอบครองสัตว์ป่าเพื่อส่งคืนถิ่นก้าเนิด ตามความร่วมมือระหว่างประเทศ หรือองค์กรระหว่าง ประเทศที่ร่วมโครงการกับกรมประมง (8) การครอบครอง การปล่อย หรือท้าลาย สัตว์ป่าอันตรายหรือซากสัตว์ป่าอันตราย แล้วแต่กรณี ตามระเบียบที่อธิบดีก้าหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 (9) การปฏิบัติตามระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการด้าเนินกำรแก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือ ผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น ้า และค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น ้า ที่ออกตามความ ในมาตรา 13 วรรคสอง มาตรา 16 วรรคสอง มาตรา 79 วรรคสอง และมาตรา 86 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ำ พ.ศ. 2562 ้ หนา 21 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 55 ง ราชกิจจานุเบกษา 10 มีนาคม 2566

ในกรณีที่กฎหมาย กฎ ระเบียบได้ก้าหนดว่าการกระท้าใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องได้รับ ความเห็นชอบจากอธิบดีก่อนจึงจะกระท้าได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ นั นด้วย การด้าเนินการตามมาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 25 มาตรา 27 ให้พ นักงานเจ้าหน้าที่ ด้าเนินการตามกฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 25 และระเบียบ กรมประมงที่ออกตามความในมาตรา 27 ข้อ 5 กรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมประมง ตามบทนิยามข้อ 3 (2) และ (3) กระท้าการตามข้อ 4 ซึ่งเป็นการด้าเนินการเพื่อปร ะโยชน์ในการส้ารวจ การศึกษา การวิจัย หรือ การทดลองทางวิชาการตามแผนงานโครงการหรือกิจกรรม ต้องได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีหรือ ผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย และให้รายงานผลการปฏิบัติงานให้อธิบดีทราบด้วย ในกรณีที่การปฏิบัติตามอ้านาจและหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกั ดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ด้าเนินการแก่สัตว์ป่าเพื่อประโยชน์ในการส้ารวจ การศึกษา การวิจัย หรือ การทดลองทางวิชาการนอกเขตพืนที่รับผิดชอบของหน่วยงาน ต้องได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีหรือ ผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ข้อ 6 ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้า ที่ตามบทนิยามข้อ 3 (2) และ (3) กระท้าการตามข้อ 4 ซึ่งเป็นการด้าเนินการในสถานการณ์อันตราย ฉุกเฉิน เร่งด่วน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าว กระท้าไปพลางก่อนได้ แล้วให้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาของตน เพื่อขอความเห็นชอบจากอธิบดี โดยไม่ชักช้า หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากอธิบดี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่นั นหยุดกระท้าการทันที และ แก้ไขให้กลับคืนสู่สภาพเดิมเท่าที่จะกระท้าได้ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามบทนิยามข้อ 3 (4) และ (5) กระท้าการตามข้อ 4 ซึ่งเป็นการด้าเนินการในสถานการณ์อันตราย ฉุกเฉิน เร่ งด่วน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าว กระท้าไปก่อนได้ เมื่อกระท้าแล้วให้แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่งทราบโดยไม่ชักช้า เพื่อขอ ความเห็นชอบจากอธิบดี และให้น้าความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ 7 ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้ำที่อื่นของรัฐ หรือบุคคลอื่น หรือให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการส้ารวจ การศึกษา การวิจัย หรือ การทดลองทางวิชาการ การคุ้มครองสัตว์ป่า การบ้าบัดเยียวยาสัตว์ป่า การป้องกันหรือแก้ไขภยันตราย แก่ประชาชน หรือสัตว์ หรือเพื่อส่งเสริมการ เพาะพันธุ์สัตว์ป่า หรือเพื่อส่งเสริมกิจการสวนสัตว์ หากผู้ได้รับการขอความช่วยเหลือ หรือมาร่วมด้าเนินการ ได้กระท้าการภายในขอบเขตที่ขอความช่วยเหลือ หรือความร่วมมือ แล้วแต่กรณี โดยไม่แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายส้าหรับตนเอง หรือผู้อื่น ผู้นัน ย่อมไม่มีความผิด ้ หนา 22 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 55 ง ราชกิจจานุเบกษา 10 มีนาคม 2566

ข้อ 8 อ้านาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติแก่สัตว์ป่าตามระเบียบนี ให้หมายความรวมถึงอ้านาจหน้าที่แก่การกระท้าแก่ซากสัตว์ป่า ผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่า และ รังของสัตว์ป่าด้วย แล้วแต่กรณี ข้อ 9 บรรดาการใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่กระท้าเพื่ อประโยชน์ในการส้ารวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ การคุ้มครองสัตว์ป่า การบ้าบัดเยียวยาสัตว์ป่า การป้องกันหรือ แก้ไขภยันตรายแก่ประชาชนหรือสัตว์ หรือเพื่อส่งเสริมการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า หรือเพื่อส่งเสริม กิจการสวนสัตว์ ซึ่งเป็นการปฏิบัติแล ะได้รับอนุญาตตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและ คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และได้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการอนุญาต ให้ทางราชการกระท้าการล่า เพาะพันธุ์ ครอบครอง น้าเข้า ส่งออก หรือน้าผ่าน ซึ่งสัตว์ป่าหรือ ซากของสัตว์ป่า การเ ก็บ ท้าอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งรังของสัตว์ป่า และการเรียกเก็บและ ช้าระค่าใช้จ่าย ค่าบริการ หรือค่าตอบแทน และราคาสัตว์ป่า พ.ศ. 2540 ก่อนระเบียบนีใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นการกระท้าตามระเบียบนีด้วย ข้อ 10 ให้อธิบดีรักษาการตามระเบียบนี และให้มีอ้านาจตีความ หรือวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับ การปฏิบัติตามระเบียบนี ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 25 6 6 เฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง ้ หนา 23 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 55 ง ราชกิจจานุเบกษา 10 มีนาคม 2566