Tue Mar 07 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565


ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565

ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการจัดตั้งกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพ ตามกรอบ นโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคา ให้เหมาะสมกับสภาพสถานการณ์ ปัจจุบันและวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว อาศัยอานาจตามความในข้อ 3.3 (2) ของประกาศกร ะทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กรอบนโยบาย และแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคา ลงวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560 อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมือ งแร่ เรื่อง การจัดตั้ง กองทุนเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากร แร่ทองคำ พ.ศ. 256 5 ” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง หลักเกณฑ์ ในการบริหารจัดการกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหาร จัดการทรัพยากรแร่ทองคำ ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560 ข้อ 4 ในประกาศนี้ “ กองทุน ” หมายความว่า กองทุนเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนที่ผู้ประกอบกิจการได้จัดตั้ง ขึ้น และนำเงินเข้ากองทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการหรือกิจกรรม ที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนรอบพื้นที่เหมืองแร่ทองคา พื้นที่การประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคาเป็นวัตถุดิบ และหรือพื้นที่กิจกรร มที่เกี่ยวเนื่องตามหลักเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ตามประกาศนี้ “ ประชาชน ” หมายความว่า ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่โดยรอบพื้นที่เหมืองแร่ ทองคา หรือพื้นที่การประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคาเป็นวัตถุดิบ และหรือพื้นที่ กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่ อง ซึ่งมีระยะห่างไม่เกินห้ากิโลเมตรจากเขตดังกล่าว หรือเป็นไปตามมติที่ประชุม ของคณะกรรมการ “ ผู้ประกอบกิจการ ” หมายความว่า ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการทาเหมืองแร่ทองคา หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคำเป็นวั ตถุดิบ “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพ ของประชาชน ้ หนา 28 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

“ ผู้จัดการกองทุน ” หมายความว่า ผู้จัดการกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนซึ่งได้รับ การแต่งตั้งตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน “ ปี ” หมายความว่า ปีปฏิทิน หมวด 1 การจัดตั้งกองทุน ข้อ 5 ผู้ประกอบกิจการต้องจัดตั้งกองทุนตามประกาศนี้ให้แล้วเสร็จก่อนได้รับอนุญาตให้เปิด การทำเหมืองหรือก่อนได้รับอนุญาตให้เริ่มประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคำ เป็นวัตถุดิบ วิธีการจัดตั้งกองทุน ให้ดาเนินการโดยการเปิดบัญชีเงินฝากตามข้อ 17 ที่ตั้งสำนักงานกองทุน ให้มีที่ตั้งตามที่อยู่ของสำนักงานผู้ประกอบกิจการนั้น ข้อ 6 เงินจากกองทุนให้ใช้เป็นงบประมาณในการดาเนินโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ การเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน การศึกษาสุขภาพของประชาชน รวมถึงการส่งเสริมด้านสุขภาพ ของประชาชนโดยรอบพื้นที่เหมืองแร่ทองคำและหรือการประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะ ที่ใช้สินแร่ทองคาเป็นวัตถุดิบ ทั้งในช่วงระหว่างการประกอบกิจการและภายหลังการสิ้นสุดการประกอบ กิจการ หมวด 2 ทุนและการนาเงินเข้ากองทุน ข้อ 7 ทุนที่ใช้สำหรับการดาเนินการของกองทุน ประกอบด้วย ( 1 ) เงินที่จัดเก็บตามข้อ 8 ( 2 ) ดอกผลอันเกิดจากเงินตาม (1) ข้อ 8 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการนาเงินเข้ากองทุน มีดังนี้ ( 1 ) เมื่อมีการชาระค่าภาคหลวงแร่ทองคา แร่ที่ระบุไว้ในประทานบัตร และแร่อื่นที่เป็น ผลพลอยได้จากการทาเหมืองแร่ทองคาครั้งใด ให้นาเงินเข้ากองทุนในอัตราร้อยละสามของค่าภาคหลวงแร่ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้ชำระค่าภาคหลวงแร่ครั้งนั้น ทั้งนี้ จำนวนเงินขั้นต่ำต้องไม่น้อยกว่า สิบล้านบาทต่อปี หากปีใด มีเงินเข้ากองทุนน้อยกว่าจำนวนเงินขั้นต่า จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุน ให้ได้ตามจำนวนเงินขั้นต่าภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป ้ หนา 29 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

( 2 ) ให้นำเงินเข้ากองทุนตลอดระยะเวลาที่มีการประกอบกิจการนั้น ทั้งนี้ ปีแรกของ การนาเงินเข้ากองทุน ให้เริ่มนับตั้งแต่ปีที่ได้รับอนุญาตให้เปิดการทาเหมืองหรือได้รับอนุญาตให้เริ่ม ประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่อง แล้วแต่กรณี ( 3 ) กรณีปีใดที่เปิดการทำเหมืองหรือประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องมีระยะเวลาในการประกอบกิจการ ไม่ครบปี ให้นาเงินเข้ากองทุนในอัตราร้อยละสามข องค่าภาคหลวงแร่ที่ชาระในแต่ละครั้ง แต่ต้องไม่น้อยกว่า จำนวนเงินขั้นต่ำ ทั้งนี้ จำนวนเงินขั้นต่ำให้คิดตามสัดส่วนจำนวนวันที่เปิดการทำเหมืองหรือ ประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องในปีนั้น โดยใช้สูตรคำนวณ ดังนี้ จำนวนวันที่ ประกอบกิจการมากที่สุด ในปีนั้น X สิบล้านบาท จำนวนวันตามปีในปีนั้น และถ้ามีเงินเข้ากองทุนน้อยกว่าจานวนเงินขั้นต่า จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุนให้ได้ตามจานวนเงินขั้นต่า ภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป ( 4 ) กรณีที่สิทธิตามประทานบัตรสิ้นสุดลง หากมีแร่คงเหลืออยู่ในเขตเหมืองแร่และได้รับ อนุญาตให้ครอบครองแร่คงเหลือนั้น ให้ผู้รับใบอนุญาตครอบครองแร่ชาระค่าภาคหลวงแร่ตามที่ประเมินได้ และให้นาเงินเข้ากองทุนในอัตราร้อยละสามของค่าภาคหลวงแร่ที่ประเมินได้ในคราวเดียวกัน ( 5 ) กรณีที่สิทธิตามประทานบัตรสิ้นสุดลง แต่ยังประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องและไ ด้นำสินแร่ ทองคาที่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองตาม (4) มาเป็นวัตถุดิบ ให้นาจานวนเงินที่ได้นาเข้ากองทุนตาม (4) ไปหักลบออกจากจานวนเงินที่จะต้องนาเข้ากองทุนตามหลักเกณฑ์ตาม (1) ตามจานวนแร่ที่ใช้จริง ในปีนั้นหรือแต่ละปี และหากปีใดได้นำเงินเข้ากองทุนตามจำนวนแ ร่ที่ใช้จริงน้อยกว่าสิบล้านบาทซึ่งเป็น จานวนเงินขั้นต่า จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุนให้ได้ตามจานวนเงินขั้นต่าภายในวันที่ 31 มกราคม ของปีถัดไป ข้อ 9 ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ยกเว้นไม่ต้องนาเงินเข้ากองทุน ( 1 ) อยู่ในระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่ตามแผนการฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่และพื้นที่ประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้ประกอบกิจการได้หยุดการผลิตแร่และ หยุดการประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องแล้ว ( 2 ) ขอคืนสิทธิตามประทานบัตรทั้งหมดและแจ้งเลิ กการประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่อง โดยต้องมี ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้ประกอบกิจการได้หยุดการผลิตแร่หรือหยุดการประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่องแล้ว (3) ได้รับอนุญาตให้หยุดการทำเหมืองและได้รับอนุญาตให้หยุดการประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่องชั่วคราว ้ หนา 30 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

หมวด 3 ค ณะกรรมการ ข้อ 10 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “ คณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนเฝ้าระวัง สุขภาพของประชาชน ” ซึ่งแต่งตั้งโดยอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ประกอบด้วย ( 1 ) ที่ปรึกษา ( 1.1 ) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ( 1.2 ) อุตสาหกรรมจังหวัด ( 2 ) กรรมการ ( 2.1 ) นายกองค์การบริหารส่วนตาบลหรือนายกเทศมนตรี ( 2.2 ) กำนัน ( 2.3 ) ผู้แทนของชุมชน ตาบลละ 1 คน ( 2.4 ) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล ( 2.5 ) ผู้แทนผู้ประกอบกิจการ จำนวน 2 คน ( 3 ) ผู้จัดการกองทุน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ประธานกรรมการและเลขานุการ ให้ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกจากกรรมการ กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนของชุมชน ให้มีวาระคราวละไม่เกิน 2 ปี กรณีประทานบัตรหรือการประกอบกิจการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องใดมีพื้นที่ครอบคลุม มากกว่าหนึ่งท้องที่หรือตั้ง อยู่ในท้องที่เดียวแต่เมื่อวัดพื้นที่จากแนวเขตดังกล่าวในระยะห่างห้ากิโลเมตรแล้ว ครอบคลุมมากกว่าหนึ่งท้องที่ ให้แต่ละท้องที่ดังกล่าวมีกรรมการและที่ปรึกษาร่วม ข้อ 11 ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ ( 1 ) บริหารจัดการกองทุน ควบคุม ดูแลการเบิกจ่ายเงิน แล ะอนุมัติโครงการหรือแผนงาน และการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุน ( 2 ) กากับดูแลการจัดทาบัญชีแสดงสถานการณ์รับ - จ่ายเงิน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของการจัดตั้งกองทุน ( 3 ) แต่งตั้งผู้จัดการกองทุน ( 4 ) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อให้ปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการ มอบหมาย ( 5 ) เชิญบุคคลใดเข้าร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ในการ ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ( 6 ) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนตามประกาศนี้ ้ หนา 31 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

ข้อ 12 ในกรณีที่คณ ะกรรมการมีความเห็นว่าจำเป็นต้องให้มีผู้ตรวจสอบบัญชีประจาปี เพื่อตรวจสอบบัญชีค่าใช้จ่ายของกองทุน ก็อาจดำเนินการจัดจ้างได้โดยให้ได้รับค่าตอบแทน จากเงินกองทุน ทั้งนี้ อัตราค่าตอบแทนให้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ข้อ 13 ให้ประธานกรรมการเป็นผู้สั่งเรี ยกประชุมคณะกรรมการ โดยให้มีการประชุม คณะกรรมการอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี ข้อ 14 ในการประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวน กรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสี ยงหนึ่งในการ ลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด ข้อ 15 ค่าใช้จ่ายในการดาเนินการดังนี้ ให้เบิกจ่ายจากกองทุน ( 1 ) ค่าตอบแทนผู้จัดการกองทุน โดยอัตราค่าตอบแทนให้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ( 2 ) ค่าตอบแทนในการประชุมคณะกรรมการ ( 2 .1 ) ประธานกรรมการ ครั้งละ 2,000 บาท ( 2 .2 ) กรรมการ ที่ปรึกษา เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ครั้งละ 1,600 บาท ( 3 ) ค่าตอบแทนในการประชุมของคณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน ( 3 .1 ) ประธานอนุกรรมการ และหัวหน้าคณะทำงาน ครั้งละ 1,250 บาท ( 3 .2 ) อนุกรรมการ คณะทำงาน เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ครั้งละ 1,000 บาท ( 4 ) ค่าอาหาร อาหารว่าง และเครื่องดื่ม รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการดาเนินการจัดประชุม ( 5 ) ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าร่วมประชุมของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และ คณะทำงาน (ถ้ามี) ( 6 ) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการกองทุน ทั้งนี้ อัตราค่าใช้จ่ายตาม (4) (5) และ (6) ให้เป็นไปตามระเบียบที่ทางราชการกำหนด ข้อ 16 ให้ผู้จัดการกองทุนมีหน้าที่ ดังนี้ ( 1 ) ประสานงานทั่วไป และเป็นผู้แทนของกองทุนในการติดต่อประสานงานกับบุคคลภายนอก ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ( 2 ) จัดการประชุมคณะกรรมการและจัดทำรายงานการประชุม ( 3 ) จัดทำรายงานสรุปรายรับ - รายจ่ายในการดาเนินงานของกองทุน และจัดทำบัญชีรายงาน สถานะทางการเงินของกองทุน เสนอให้คณะกรรมการ แล ะกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ทราบภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป ( 4 ) รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องและรายงานการรับเงินและการจ่ายเงินของกองทุน ให้ผู้ตรวจสอบบัญชีประจำปีในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นให้มีผู้ตรวจสอบบัญชีประจำปี ้ หนา 32 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

( 5 ) กรณีที่ผู้ประกอบกิจการ ไม่นาเงินเข้ากองทุนหรือนาเงินเข้าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่กาหนดไว้ในประกาศนี้ ให้รายงานกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ทราบภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้ตรวจพบ ( 6 ) อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย หมวด 4 การเงิน ข้อ 17 ในการจัดตั้งกองทุนให้ผู้ประกอบกิจการเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงินที่จดทะเบียนในประเทศไทย เพื่อเก็บรักษาเงินของกองทุนตามประกาศนี้ การเปิดบัญชีครั้งแรกต้องไม่ต่ากว่าหนึ่งแสนบาท เพื่อสารองเป็นค่าใช้จ่ายในการดาเนินการ จัดประชุมคณะกรรมการ และให้นาไปหักลบกับเงินที่ได้นำเข้ากองทุนในงวดแรกได้ ข้อ 18 ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ที่ได้รับมอบหมายจากประธานกรรมการร่วมกับ กรรมการที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะกรรมการอีก 1 คน เป็นผู้ลงนามร่วมกันในการสั่งจ่ายเงิน ตามข้อ 15 แ ละตามโครงการหรือแผนงานที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการ หมวด 5 การเลิกกองทุน ข้อ 19 กองทุนจะเลิกได้ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการในกรณี ดังต่อไปนี้ ( 1 ) ได้ดาเนินการตามแผนงานบรรลุวัตถุประสงค์ของกองทุน หรือ ( 2 ) ไม่มีเงินคงเหลือในบัญชี กองทุน แต่ทั้งนี้ ต้องปฏิบัติตามแผนงานครบถ้วนแล้ว กรณีเลิกกองทุนตาม (1) หากกองทุนยังมีเงินคงเหลือ ให้คณะกรรมการพิจารณานาเงินไปสมทบ กับกองทุนอื่นตามที่กาหนดไว้ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมว่าด้วยกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคาหรือนาเงินมอบให้ชุมชน เพื่อใช้ในกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของประชาชนในพื้นที่ เช่น สนับสนุนการศึกษา การสาธารณสุข กิจกรรมเยาวชน การกีฬา การพัฒนาสังคม ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพต่าง ๆ เป็นต้น หมวด 6 บทเฉพาะกาล ข้อ 20 บรรดากองทุนหรือการดาเนินการใดที่มีลักษณะเป็นการจัดตั้งกองทุนซึ่งได้ดาเนินการ มาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปีก่อนประกาศนี้มีผลใช้บังคับ โดยมีวัตถุประสงค์ในทานองเดียวกันหรือสอดคล้องกัน กับการจัดตั้งกองทุนตามประกาศนี้ ให้ถือว่ากองทุนหรือการดาเนินการดังกล่าวนั้ นเป็นการจัดตั้ง ้ หนา 33 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

กองทุนตามประกาศนี้เมื่อได้รับความเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ และให้ดาเนินการ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการบริหารจัดการกองทุนตามที่กาหนดไว้ในประกาศนี้ ให้โอนเงินของกองทุนตามวรรคหนึ่งไปเป็นของกองทุนตามประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 27 ธันวา ค ม พ.ศ. 25 6 5 นิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ้ หนา 34 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566