ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565
ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565
ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 256 5 โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบ นโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคา ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว อาศัยอานาจตามความในข้อ 3.3 (1) ของประกาศกระทรว งอุตสาหกรรม เรื่อง กรอบนโยบาย และแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคา ลงวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560 อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้ง กองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากร แร่ทองคำ พ.ศ. 2565” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง หลักเกณฑ์ ในการบริหารจัดการกองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหาร จัดการทรัพยากรแร่ทองคำ ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560 ข้อ 4 ในประกาศนี้ “ กองทุน ” หมายความว่า กองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ที่ผู้ประกอบกิจการได้จัดตั้งขึ้น และ นาเงินเข้ากองทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูพื้นที่โครงการทาเหมืองแร่ทองคา และพื้นที่การประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคำเป็นวัตถุดิบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ในประกาศนี้ “ ผู้ประกอบกิจการ ” หมายความว่า ผู้ที่ได้ รับอนุญาตให้ประกอบกิจการทาเหมืองแร่ทองคา หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคำเป็นวัตถุดิบ “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ “ ผู้จัดการกองทุน ” หมายความว่า ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ซึ่งได้รับการแต่งตั้ง ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่ “ ปี ” หมายความว่า ปีปฏิทิน ้ หนา 21 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566
หมวด 1 การจัดตั้งกองทุน ข้อ 5 ผู้ประกอบกิจการต้องจัดตั้งกองทุนตามประกาศนี้ให้แล้วเสร็จก่อนได้รับอนุญาต ให้เปิดการทาเหมืองหรือก่อนได้รับอนุญาตให้เริ่มประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคา เป็นวัตถุดิบ วิธีการจัดตั้งกองทุน ให้ดาเนินการโดยการเปิดบัญชีเงินฝากตามข้อ 17 ที่ ตั้งสำนักงานกองทุน ให้มีที่ตั้งตามที่อยู่ของสำนักงานผู้ประกอบกิจการนั้น ข้อ 6 เงินจากกองทุนให้ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูพื้นที่โครงการทำเหมืองแร่ทองคา ทั้งพื้นที่ที่ผ่านการทาเหมืองแล้ว พื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทาเหมืองภายในเขตเหมืองแร่ รวมถึงพื้ นที่ การประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคาเป็นวัตถุดิบ เพื่อฟื้นคืนสภาพพื้นที่ให้สอดคล้องกับ แผนการทำเหมือง และเป็นไปตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม หมวด 2 ทุนและการนาเงินเข้ากองทุน ข้อ 7 ทุนที่ใช้สำหรับการดาเนินการของกองทุน ประกอบด้วย ( 1 ) เงินที่จัดเก็บตามข้อ 8 ( 2 ) ดอกผลอันเกิดจากเงินตาม (1) ข้อ 8 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการนาเงินเข้ากองทุน มีดังนี้ ( 1 ) เมื่อมีการชาระค่าภาคหลวงแร่ทองคา แร่ที่ระบุไว้ในประทานบัตร และแร่อื่นที่เป็น ผลพลอยได้จากการทาเหมืองแร่ทองคาครั้งใด ให้นาเงินเข้ากองทุนในอัตราร้อยละสิบของค่าภาคหลวงแร่ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้ชำระค่าภาคหลวงแร่ครั้งนั้น ทั้งนี้ จำนวนเงินขั้นต่ำต้องไม่น้อยกว่า สามสิบล้านบาทต่อปี หากปีใดมีเงินเข้ากองทุนน้อยกว่าจานวนเงินขั้นต่า จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุน ให้ได้ตามจานว นเงินขั้นต่าภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป และถ้าเงินในกองทุนไม่เพียงพอ ที่จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูพื้นที่ตามประกาศนี้ จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุนเพื่อให้เพียงพอ ต่อค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูพื้นที่ ( 2 ) ให้นำเงินเข้ากองทุนตลอดระยะเวลาที่มีการประกอบกิจกำรนั้น ทั้งนี้ ปีแรกของ การนาเงินเข้ากองทุน ให้เริ่มนับตั้งแต่ปีที่ได้รับอนุญาตให้เปิดการทาเหมืองหรือได้รับอนุญาตให้เริ่มประกอบ กิจการที่เกี่ยวเนื่อง แล้วแต่กรณี ( 3 ) กรณีปีใดที่เปิดการทาเหมืองหรือประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องมีระยะเวลาในการประกอบ กิจการ ไม่ครบปี ให้นาเงินเข้ากองทุนในอัตราร้อยละสิบของค่าภาคหลวงแร่ที่ชาระในแต่ละครั้งแต่ต้อง ้ หนา 22 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566
ไม่น้อยกว่าจานวนเงินขั้นต่า ทั้งนี้ จานวนเงินขั้นต่าให้คิดตามสัดส่วนจานวนวันที่เปิดการทำเหมืองหรือ ประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องในปีนั้น โดยใช้สูตรคำนวณ ดังนี้ จำนวนวันที่ ประกอบกิจการมากที่สุด ในปีนั้น X สามสิบล้านบาท จำนวนวันตามปีในปีนั้น และถ้ามีเงินเข้ากองทุนน้อยกว่าจานวนเงินขั้นต่า จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุนให้ได้ตามจานวนเงินขั้นต่า ภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป ( 4 ) กรณีที่สิทธิตามประทานบัตรสิ้นสุดลง หากมี แร่คงเหลืออยู่ในเขตเหมืองแร่และได้รับ อนุญาตให้ครอบครองแร่คงเหลือนั้น ให้ผู้รับใบอนุญาตครอบครองแร่ชาระค่าภาคหลวงแร่ตามที่ประเมินได้ และให้นาเงินเข้ากองทุนในอัตราร้อยละสิบของค่าภาคหลวงแร่ที่ประเมินได้ในคราวเดียวกัน ( 5 ) กรณีที่สิทธิตามประทานบัตรสิ้นสุดลง แต่ยังมีการประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องและได้นา สินแร่ทองคาที่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองตาม (4) มาเป็นวัตถุดิบ ให้นาจานวนเงินที่ได้นำเข้ากองทุน ตาม (4) ไปหักลบออกจากจานวนเงินที่จะต้องนาเข้ากองทุนตามหลักเกณฑ์ตาม (1) ตามจานวนแร่ ที่ใช้จริงในปีนั้นหรือแต่ละ ปี และหากปีใดได้นำเงินเข้ากองทุนตามจานวนแร่ที่ใช้จริงน้อยกว่าสามสิบล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินขั้นต่า จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุนให้ได้ตามจำนวนเงินขั้นต่าภายในวันที่ 31 มกราคม ของปีถัดไป ข้อ 9 ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ยกเว้นไม่ต้องนาเงินเข้ากองทุน ( 1 ) อยู่ในระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่ตามแผนการฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่และพื้นที่ประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่อง โดยต้องมีความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้ประกอบกิจการได้หยุดการผลิตแร่และ หยุดการประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องแล้ว ( 2 ) ขอคืนสิทธิตามประทานบัตรทั้งหมดและแจ้ งเลิกการประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่อง โดยต้องมี ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้ประกอบกิจการได้หยุดการผลิตแร่และหยุดการประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่องแล้ว (3) ได้รับอนุญาตให้หยุดการทำเหมืองและได้รับอนุญาตให้หยุดการประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่องชั่วคราว หมวด 3 คณะกรรมการ ข้อ 10 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “ คณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนฟื้นฟู พื้นที่เหมืองแร่ ” ซึ่งแต่งตั้งโดยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบด้วย ( 1 ) อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย เป็นประธาน กรรมการ ้ หนา 23 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566
( 2 ) ผู้แทนสานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนกรมควบคุมมลพิษ ผู้แทนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ผู้แทนหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ที่การประกอบกิจการนั้นตั้งอ ยู่ เป็นกรรมการ ( 3 ) ผู้อานวยการสานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ผู้อานวยการสานักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขตในพื้นที่ นายกองค์การบริหารส่วนตาบล หรือนายกเทศมนตรี หรือผู้ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวมอบหมาย ในท้องที่ที่ การประกอบกิจการนั้นตั้งอยู่ เป็นกรรมการ ( 4 ) ผู้อานวยการกองวิศวกรรมบริการ ผู้อานวยการกองบริหารจัดการวัตถุดิบอุตสาหกรรม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ หรือผู้ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวมอบหมาย เป็นกรรมการ ( 5 ) ผู้แทนผู้ประกอบกิจการ จำนวน 1 คน เป็นกรรมการ (6) ผู้อำนวยการกองบริหารสิ่งแวดล้อม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นกรรมการและเลขานุการ ( 7 ) หัวหน้ากลุ่มฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อม กองบริหารสิ่งแวดล้อม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ( 8 ) ผู้จัดการกองทุน เ ป็นผู้ช่วยเลขานุการ ข้อ 11 ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ ( 1 ) บริหารจัดการกองทุน ควบคุม ดูแลการเบิกจ่ายเงิน และอนุมัติโครงการหรือแผนงาน การใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุน ( 2 ) กากับดูแลการจัดทาบัญชีแสดงสถานการณ์รับ - จ่ายเงิน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของการจัดตั้งกองทุน ( 3 ) พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนงานการฟื้นฟูประจาปีให้สอดคล้องกับแผนการฟื้นฟูพื้นที่ ของโครงการตามเงื่อนไขการอนุญาตและแผนการปิดเหมืองหรือแผนการปิดการประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่อง และติดตามตรวจสอบผลการดาเนินงานฟื้นฟู พื้นที่ให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตาม แผนงานที่ได้รับความเห็นชอบ ( 4 ) แต่งตั้งผู้จัดการกองทุน ( 5 ) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงาน เพื่อให้ปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการ มอบหมาย ( 6 ) เชิญบุคคลใดเข้าร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ในการประกอบ การพิจารณาของคณะกรรมการ ( 7 ) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนตามประกาศนี้ ้ หนา 24 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566
ข้อ 12 ในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นว่าจำเป็นต้องให้มีผู้ตรวจสอบบัญชีประจำปี เพื่อตรวจสอบบัญชีค่าใช้จ่ายของกองทุน ก็อาจดำเนินการจัดจ้างได้โ ดยให้ได้รับค่าตอบแทน จากเงินกองทุน ทั้งนี้ อัตราค่าตอบแทนให้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ข้อ 13 ให้ประธานกรรมการเป็นผู้สั่งเรียกประชุมคณะกรรมการ โดยให้มีการประชุม คณะกรรมการอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี ข้อ 14 ในการประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่ น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวน กรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการ ลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด ข้อ 15 ค่าใช้จ่ำยในการดาเนินการดังนี้ ให้เบิกจ่ายจากกองทุน ( 1 ) ค่าตอบแทนผู้จัดการกองทุน โดยอัตราค่าตอบแทนให้เป็นไปตามมติที่ประชุม คณะกรรมการ ( 2 ) ค่าตอบแทนในการประชุมคณะกรรมการ ( 2.1 ) ประธานกรรมการ ครั้งละ 2,000 บาท ( 2.2 ) กรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ครั้งละ 1,600 บาท ( 3 ) ค่าตอบแทนในการประชุมคณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน ( 3.1 ) ประธานอนุกรรมการ และหัวหน้าคณะทำงาน ครั้งละ 1,250 บาท ( 3.2 ) อนุกรรมการ คณะทำงาน เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ครั้งละ 1,000 บาท ( 4 ) ค่าอาหาร อาหารว่าง และเครื่องดื่ม รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการดาเนินการจัดประชุม ( 5 ) ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าร่วมประชุม หรือค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปตรวจสอบติดตาม พื้นที่ฟื้นฟูตามโครงการและแผนงาน หรือแผนการฟื้นฟูพื้นที่ของโครงการตามเงื่อนไขการอนุญาต และ แผนการปิดเหมืองหรือแผนการปิดการประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน (ถ้ามี) ( 6 ) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการกองทุน ทั้งนี้ อัตราค่าใช้จ่ายตาม (4) (5) และ (6) ให้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ข้ อ 16 ให้ผู้จัดการกองทุนมีหน้าที่ ดังนี้ ( 1 ) ประสานงานทั่วไป และเป็นผู้แทนของกองทุนในการติดต่อประสานงานกับบุคคลภายนอก ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ( 2 ) ดาเนินการจัดการประชุมคณะกรรมการและจัดทำรายงานการประชุม ( 3 ) จัดทารายงานสรุปรายรับ - รายจ่ายในการดาเนินงานของกองทุน และจัดทาบัญชีรายงาน สถานะทางการเงินของกองทุน เสนอให้คณะกรรมการและกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ทราบ ภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป ้ หนา 25 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566
( 4 ) รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง และรายงานการรับเงินและการจ่ายเงินของกองทุน ให้ผู้ตร วจสอบบัญชีประจำปี ในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นให้มีผู้ตรวจสอบบัญชีประจำปี ( 5 ) กรณีที่ผู้ประกอบกิจการไม่นาเงินเข้ากองทุนหรือนาเงินเข้าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่กาหนดไว้ในประกาศนี้ ให้รายงานกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ทราบภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ไ ด้ตรวจพบ ( 6 ) อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย หมวด 4 การเงิน ข้อ 17 ในการจัดตั้งกองทุนให้ผู้ประกอบกิจการเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงินที่จดทะเบียนในประเทศไทย เพื่อเก็บรักษาเงินของกองทุนตามประกาศนี้ การเปิดบัญชีครั้งแรกต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนบาทถ้วน เพื่อสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการ ดาเนินการจัดประชุมของคณะกรรมการ และให้นาไปหักลบกับเงินที่ได้นำเข้ากองทุนในงวดแรกได้ ข้อ 18 ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ที่ได้รับมอบหมายจากประธานกรรมการร่วมกับ กรรมการที่ได้ รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะกรรมการอีก 1 คน เป็นผู้ลงนามร่วมกันในการสั่งจ่ายเงิน ตามข้อ 15 และตามโครงการหรือแผนงานที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการ หมวด 5 การเลิกกองทุน ข้อ 19 กองทุนจะเลิกได้ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการในกรณี ดังต่ อไปนี้ ( 1 ) ได้ดาเนินการตามแผนการฟื้นฟูที่กำหนดไว้เสร็จสิ้นและบรรลุวัตถุประสงค์ของกองทุน หรือ ( 2 ) ไม่มีเงินคงเหลือในบัญชีกองทุน แต่ทั้งนี้ ต้องปฏิบัติตามแผนงานครบถ้วนแล้ว กรณีเลิกกองทุนตาม (1) หากกองทุนยังมีเงินคงเหลือ ให้คณะกรรมการพิจารณานาเงิน ไปส มทบกับกองทุนอื่นตามที่กาหนดไว้ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมว่าด้วยกรอบนโยบายและ แผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคาหรือนาเงินมอบให้ชุมชนเพื่อใช้ในกิจกรรม การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ เช่น สนับสนุนการศึกษา การสาธารณสุข กิจกรรมเยาวชน การกีฬา การพัฒนาสังคม ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพต่าง ๆ เป็นต้น ้ หนา 26 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566
หมวด 6 บทเฉพาะกาล ข้อ 20 บรรดากองทุนหรือการดาเนินการใดที่มีลักษณะเป็นการจัดตั้งกองทุนซึ่งได้ดาเนินการ มาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปีก่อนประกาศนี้มีผลใช้บังคับ โดยมีวัตถุประสงค์ในทานองเดียวกันหรือสอดคล้องกัน กับการจัดตั้งกองทุนตามประกาศนี้ ให้ถือว่ากองทุนหรือการดาเนินการดังกล่าวนั้นเป็นการจัดตั้ง กองทุนตามประกาศนี้เมื่อได้รับความเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ และให้ดาเนินการ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการบริหาร จัดการกองทุนตามที่กาหนดไว้ในประกาศนี้ ให้โอนเงินของกองทุนตามวรรคหนึ่งไปเป็นของกองทุนตามประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 27 ธันวา ค ม พ.ศ. 25 6 5 นิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ้ หนา 27 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566