Tue Mar 07 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565


ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565

ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการจัดตั้งกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำให้เหมาะสมกับ สถานการณ์ปัจจุบันและวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว อาศัยอานาจตามความในข้อ 2.2 ของปร ะกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กรอบนโยบาย และแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคา ลงวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560 อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการ เหมืองแร่ เรื่อง การจัดตั้งกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ พ.ศ. 2565” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เรื่อง หลักเกณฑ์ ในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ ตามกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำ ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560 ข้อ 4 ในประกาศนี้ “ กองทุน ” หมำยความว่า กองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ที่ผู้ประกอบกิจการ ได้จัดตั้งขึ้นและนาเงินเข้ากองทุน โดยมีวัตถุประสงค์ให้เป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่ เหมืองแร่ทองคา พื้นที่การประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคาเป็นวัตถุดิบ แล ะ หรือพื้นที่กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ “ หมู่บ้านรอบพื้นที่ ” หมายความว่า หมู่บ้านที่ตั้งอยู่โดยรอบพื้นที่เหมืองแร่ทองคำ พื้นที่การประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคาเป็นวัตถุดิบ และหรือพื้นที่กิจกรรมที่เกี่ ยวเนื่อง ซึ่งมีระยะห่างไม่เกินสามกิโลเมตรจากเขตดังกล่าวหรือเป็นไปตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการ “ ผู้ประกอบกิจการ ” หมายความว่า ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการทาเหมืองแร่ทองคา หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคำเป็นวัตถุดิบ “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่ เหมือง แร่ “ ผู้จัดการกองทุน ” หมายความว่า ผู้จัดการกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ ซึ่งได้รับ การแต่งตั้งตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ “ ปี ” หมายความว่า ปีปฏิทิน ้ หนา 15 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

หมวด 1 การจัดตั้งกองทุน ข้อ 5 ผู้ประกอบกิจการต้องจัดตั้งกองทุนตามประกาศนี้ให้แล้วเสร็จก่อนได้รับอนุญาต ให้เปิดการทาเหมืองหรือก่อนได้รับอนุญาตให้เริ่มประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ทองคา เป็นวัตถุดิบ วิธีการจัดตั้งกองทุน ให้ดาเนินการโดยการเปิดบัญชีเงินฝากตามข้อ 17 ที่ ตั้งสำนักงานกองทุน ให้มีที่ตั้งตามที่อยู่ของสำนักงานผู้ประกอบกิจการนั้น ข้อ 6 เงินจากกองทุนให้ใช้เป็นงบประมาณในการดาเนินโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ การพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ทองคา พื้นที่การประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะที่ใช้สินแร่ ทอง คาเป็นวัตถุดิบ และหรือพื้นที่กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิต หรือด้านอื่น ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน หมวด 2 ทุนและการนาเงินเข้ากองทุน ข้อ 7 ทุนที่ใช้สำหรับการดาเนินการของกองทุน ประกอบด้วย ( 1 ) เงินที่จัดเก็บตามข้อ 8 ( 2 ) ดอกผลอันเกิดจากเงินตาม (1) ข้อ 8 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการนาเงินเข้ากองทุน มีดังนี้ (1) เมื่อมีการชาระค่าภาคหลวงแร่ทองคา แร่ที่ระบุไว้ในประทานบัตร และแร่อื่นที่เป็น ผลพลอยได้จากการทาเหมืองแร่ทองคาครั้งใด ให้นาเงินเข้ากองทุนในอัตราร้อยละห้าของค่าภาคหลวงแร่ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้ชำระค่าภาคหลวงแร่ครั้งนั้น ทั้งนี้ จำนวนเงินขั้นต่ำต้องไม่น้อยกว่า สิบห้าล้านบาทต่อปี หากปีใดมีเงินเข้ากองทุนน้อยกว่าจานวนเงินขั้นต่า จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุน ให้ได้ตามจำนวนขั้นต่าภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป ( 2 ) ให้นำเงินเข้ากองทุนตลอดระยะเวลาที่มีการประกอบกิจการนั้น ทั้งนี้ ปีแรกของ การนาเงินเข้ากองทุน ให้เริ่มนับตั้งแต่ปีที่ได้รับอนุญาตให้เปิดการทาเหมืองหรือได้รับอนุญาตให้เริ่มประกอบ กิจการที่เกี่ยว เนื่อง แล้วแต่กรณี ( 3 ) กรณีปีใดที่เปิดการทาเหมืองหรือประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องมีระยะเวลาในการประกอบ กิจการไม่ครบปี ให้นาเงินเข้ากองทุนในอัตราร้อยละห้าของค่าภาคหลวงแร่ที่ชาระในแต่ละครั้งแต่ต้อง ไม่น้อยกว่าจานวนเงินขั้นต่า ทั้งนี้ จานวนเงินขั้นต่าให้คิ ดตามสัดส่วนจานวนวันที่เปิดการทาเหมือง หรือประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องในปีนั้น โดยให้ใช้สูตรคำนวณ ดังนี้ ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

จำนวนวันที่ ประกอบกิจการมากที่สุด ในปีนั้น X สิบห้าล้านบาท จำนวนวันตามปีในปีนั้น และถ้ามีเงินเข้ากองทุนน้อยกว่าจานวนเงินขั้นต่า จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุนให้ได้ตามจานวนเงินขั้นต่า ภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป ( 4 ) กรณีที่สิทธิตามประทานบัตรสิ้นสุดลง หากมีแร่คงเหลืออยู่ในเขตเหมืองแร่และ ได้รับอนุญาตให้ครอบครองแร่คงเหลือนั้น ให้ผู้รับใบอนุญาตครอบครองแร่ชำระค่าภาคหลวงแร่ตามที่ประเมิ นได้ และให้นาเงินเข้ากองทุนในอัตราร้อยละห้าของค่าภาคหลวงแร่ที่ประเมินได้ในคราวเดียวกัน ( 5 ) กรณีที่สิทธิตามประทานบัตรสิ้นสุดลง แต่ยังประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องและได้นำสินแร่ ทองคาที่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองตาม (4) มาเป็นวัตถุดิบ ให้นาจานวนเงินที่ได้นา เข้ากองทุนตาม (4) ไปหักลบออกจากจานวนเงินที่จะต้องนาเข้ากองทุนตามหลักเกณฑ์ตาม (1) ตามจานวนแร่ที่ใช้จริง ในปีนั้นหรือแต่ละปี และหากปีใดได้นาเงินเข้ากองทุนตามจานวนแร่ที่ใช้จริงน้อยกว่าสิบห้าล้านบาท ซึ่งเป็นจานวนเงินขั้นต่า จะต้องเพิ่มเงินเข้ากองทุนให้ไ ด้ตามจานวนเงินขั้นต่าภายในวันที่ 31 มกราคม ของปีถัดไป ข้อ 9 ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ยกเว้นไม่ต้องนาเงินเข้ากองทุน ( 1 ) อยู่ในระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่ตามแผนการฟื้นฟูพื้นที่เหมืองแร่และพื้นที่ประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่อง โดยต้องมีความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ว่าผู้ประกอบกิจการได้หยุดการผลิตแร่และหยุด การประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องแล้ว ( 2 ) ขอคืนสิทธิตามประทานบัตรทั้งหมดและแจ้งเลิกการประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่อง โดยต้อง มีความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้ประกอบกิจการได้หยุดการผลิตแร่และหยุดการประกอบกิจการ ที่ เกี่ยวเนื่องแล้ว (3) ได้รับอนุญาตให้หยุดการทำเหมืองและได้รับอนุญาตให้หยุดการประกอบกิจการ ที่เกี่ยวเนื่องชั่วคราว หมวด 3 คณะกรรมการ ข้อ 10 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “ คณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนพัฒนา หมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ ” ซึ่งแต่งตั้งโดยอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ประกอบด้วย ( 1 ) ที่ปรึกษา ( 1.1 ) พัฒนาการจังหวัด ( 1.2 ) อุตสาหกรรมจังหวัด ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

( 1.3 ) เกษตรจังหวั ด ( 1.4 ) ศึกษาธิการจังหวัด ( 2 ) กรรมการ ( 2.1 ) นายกองค์การบริหารส่วนตาบลหรือนายกเทศมนตรี ( 2.2 ) กำนัน ( 2.3 ) ผู้แทนของหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 คน ( 2.4 ) ผู้แทนผู้ประกอบกิจการ จำนวน 2 คน ( 3 ) ผู้จัดการกองทุน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ประธานกรรมการและเลขานุการ ให้ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกจากกรรมการ กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนของหมู่บ้าน ให้มีวาระคราวละไม่เกิน 2 ปี กรณีประทานบัตรหรือการประกอบกิจการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องใดมีพื้นที่ครอบคลุม มากกว่าหนึ่งท้องที่หรือตั้งอยู่ในท้องที่เดียว แต่เมื่อวัดพื้นที่จากแนวเขตดังกล่าวในระยะห่างสามกิโลเมตรแล้ว ครอบคลุมมากกว่าหนึ่งท้องที่ ให้แต่ละท้องที่ดังกล่าวมีกรรมการและที่ปรึกษาร่วม ข้อ 11 ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ ( 1 ) บริหารจัดการกองทุน ควบคุม ดูแลการเบิกจ่ายเงิน และอนุมัติโครงการหรื อแผนงาน และการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุน ( 2 ) กากับดูแลการจัดทาบัญชีแสดงสถานการณ์รับ - จ่ายเงิน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของการจัดตั้งกองทุน ( 3 ) แต่งตั้งผู้จัดการกองทุน ( 4 ) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อให้ปฏิบัติงานตำมที่คณะกรรมการ มอบหมาย ( 5 ) เชิญบุคคลใดเข้าร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ในการประกอบ การพิจารณาของคณะกรรมการ ( 6 ) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนตามประกาศนี้ ข้อ 12 ในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นว่าจำเป็นต้องให้มีผู้ตรวจสอบบัญชีประจาปี เพื่อตรวจสอบบัญชีค่าใช้จ่ายของกองทุน ก็อาจดาเนินการจัดจ้างได้โดยให้ได้รับค่าตอบแทนจากเงินกองทุน ทั้งนี้ อัตราค่าตอบแทนให้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ข้อ 13 ให้ประธานกรรมการเป็ นผู้สั่งเรียกประชุมคณะกรรมการ โดยให้มีการประชุม คณะกรรมการอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี ข้อ 14 ในการประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวน กรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ้ หนา 18 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนห นึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการ ลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด ข้อ 15 ค่าใช้จ่ายในการดาเนินการดังนี้ ให้เบิกจ่ายจากกองทุน ( 1 ) ค่าตอบแทนผู้จัดการกองทุน โดยอัตราค่าตอบแทนให้เป็นไปตามมติที่ประชุมค ณะกรรมการ ( 2 ) ค่าตอบแทนในการประชุมคณะกรรมการ ( 1.1 ) ประธานกรรมการ ครั้งละ 2,000 บาท ( 1.2 ) กรรมการ ที่ปรึกษา เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ครั้งละ 1,600 บาท ( 3 ) ค่าตอบแทนในการประชุมคณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน ( 2.1 ) ประธานอนุกรรมการ และหัวหน้าคณะทำงาน ครั้งละ 1,250 บาท ( 2.2 ) อนุกรรมการ คณะทำงาน เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ ครั้งละ 1,000 บาท ( 4 ) ค่าอาหาร อาหารว่าง และเครื่องดื่ม รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการดาเนินการจัดประชุม ( 5 ) ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าร่วมประชุมของคณะกรร มการ คณะอนุกรรมการ และคณะทางาน (ถ้ามี) ( 6 ) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการกองทุน ทั้งนี้ อัตราค่าใช้จ่ายตาม (4) (5) และ (6) ให้เป็นไปตามระเบียบที่ทางราชการกำหนด ข้อ 16 ให้ผู้จัดการกองทุนมีหน้าที่ ดังนี้ ( 1 ) ประสานงานทั่วไป และ เป็นผู้แทนของกองทุนในการติดต่อประสานงานกับบุคคลภายนอก ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ( 2 ) จัดการประชุมคณะกรรมการ และจัดทำรายงานการประชุม ( 3 ) จัดทารายงานสรุปรายรับ - รายจ่ายในการดาเนินงานของกองทุน และจัดทาบัญชีรายงาน สถานะทางการเงินของกองทุน เสนอให้คณะกรรมการ และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ทราบ ภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป ( 4 ) รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องและรายงานการรับเงินและการจ่ายเงินของกองทุน ให้ผู้ตรวจสอบบัญชีประจำปี ในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นให้มีผู้ตรวจสอบบัญชีประจำปี ( 5 ) กรณีที่ผู้ประกอบกิ จการไม่นาเงินเข้ากองทุนหรือนาเงินเข้าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่กาหนดไว้ในประกาศนี้ ให้รายงานกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ทราบภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้ตรวจพบ ( 6 ) หน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ้ หนา 19 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566

หมวด 4 การเงิน ข้อ 17 ในการจัดตั้งกองทุนให้ผู้ประกอบกิจการเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์หรือ สถาบันการเงินที่จดทะเบียนในประเทศไทย เพื่อเก็บรักษาเงินของกองทุนตามประกาศนี้ การเปิดบัญชีครั้งแรกต้องไม่ต่ากว่าหนึ่งแสนบาท เพื่อสารองเป็นค่าใช้จ่ายในการดาเนินการ จัดประชุมคณะกรร มการ และให้นาไปหักลบกับเงินที่ได้นำเข้ากองทุนในงวดแรกได้ ข้อ 18 ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ที่ได้รับมอบหมายจากประธานกรรมการร่วมกับ กรรมการที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะกรรมการอีก 1 คน เป็นผู้ลงนามร่วมกันในการสั่งจ่ายเงิน ตามข้อ 15 และตามโครงการหรื อแผนงานที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการ หมวด 5 การเลิกกองทุน ข้อ 19 กองทุนจะเลิกได้ก็ต่อเมื่อไม่มีเงินคงเหลือในบัญชีกองทุน หมวด 6 บทเฉพาะกาล ข้อ 20 บรรดากองทุนหรือการดาเนินการใดที่มีลักษณะเป็นการจัดตั้งกองทุนซึ่งได้ดาเนินการ มาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปีก่อนประกาศนี้มีผลใช้บังคับ โดยมีวัตถุประสงค์ในทานองเดียวกันหรือสอดคล้องกัน กับการจัดตั้งกองทุนตามประกาศนี้ ให้ถือว่ากองทุนหรือการดาเนินการดังกล่าวนั้นเป็นการจัดตั้ง กองทุนตามประกาศนี้เมื่อได้รับความเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ และให้ดาเนินการ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการบริหารจัดการกองทุนตามที่กาหนดไว้ในประกาศนี้ ให้โอนเงินของกองทุนตามวรรคหนึ่งไปเป็นของกองทุนตามประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 27 ธันวา ค ม พ.ศ. 25 6 5 นิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ้ หนา 20 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 53 ง ราชกิจจานุเบกษา 8 มีนาคม 2566