Thu Feb 23 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการนำส่ง การเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงินเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบำรุงรักษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและรักษาไว้ ซึ่งแหล่งที่อยู่อาศัย หรือแหล่งหากินของสัตว์ป่า หรือเพื่อการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า พ.ศ. 2566


ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการนำส่ง การเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงินเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบำรุงรักษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและรักษาไว้ ซึ่งแหล่งที่อยู่อาศัย หรือแหล่งหากินของสัตว์ป่า หรือเพื่อการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า พ.ศ. 2566

ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการนาส่ง การเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงินเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบารุงรักษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและรักษาไว้ ซึ่งแหล่งที่อยู่อาศัย หรือแหล่งหากินของสัตว์ป่า หรือเพื่อการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรกาหนดระเบียบการนำส่ง การเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงิน เพื่อการ อนุรักษ์ ฟื้นฟู และบำรุงรักษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่า และรักษาไว้ซึ่งแหล่งที่อยู่อาศัย หรือแหล่งหากินของสัตว์ป่า หรือเพื่อการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับ ผลกระทบจากสัตว์ป่า โดยให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสั ตว์ป่า พ.ศ. 2562 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 60 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 โดยความเห็นชอบของกระทร วงการคลัง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วย การนาส่ง การเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงินเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบารุงรักษาเ ขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและรักษาไว้ซึ่งแหล่งที่อยู่อาศัย หรือแหล่งหากินของสัตว์ป่า หรือเพื่อการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า พ.ศ. 2566” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับถัด จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ข้อ 3 ระเบียบว่าด้วยการเก็บรักษาและการใช้จ่ายเงินที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช เคยปฏิบัติอยู่ก่อนระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ เมื่อระเบียบนี้มีผลใช้บังคับแล้วให้กรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ 4 ในระเบียบนี้ “ ใบเสร็จรับเงิน ” หมายความว่า ใบเสร็จรับเงินตามแบบที่กระทรวงการคลังกาหนด “ บัตรค่าบริการ ” หมายความว่า เอกสารของทางราชการซึ่งระบุจานวนเงินที่รับชาระ อันมีลักษณะเช่นเดียวกับใบเสร็จรับเงิน “ สานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ” ให้หมายความรวมถึงสานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขา “ หน่วยงาน ” หมายความว่า สานักบริหารงานกลางหรือสานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ แล้วแต่กรณี “ หน่วยงานย่อย ” หมายความว่า สานักอนุรักษ์สัตว์ป่าหรือสานักที่ได้รับมอบหมายเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ้ หนา 1 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

“ หน่วยจัดเก็บเงิน ” หมายความว่า สถานที่ที่หน่วยงานย่อยกำหนดให้มีหน้าที่จัดเก็บ และรักษาเงิน ซึ่งมิได้ส่งเงินให้หน่วยงานย่อยเป็นประจาทุกวัน โดยความเห็นชอบจากกรม “ จุ ดบริการเก็บเงิน ” หมายความว่า สถานที่ที่หน่วยงานย่อยกาหนดให้มีหน้าที่จัดเก็บเงิน และนาเงินส่งหน่วยจัดเก็บเงินหรือหน่วยงานย่อยทุกวัน “ เจ้าหน้าที่ ” หมายความว่า ข้าราชการ ลูกจ้างประจา พนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว และบุคคลภายนอกที่ปฏิบัติงานให้กรมตามกรอบ อัตรากาลังที่กรมบัญชีกลางอนุมัติ ในการอนุรักษ์สัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณะกรรมการเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า “ อธิบดี ” หมายความว่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช “ กรม ” หมายความว่า กรมอุ ทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ข้อ 5 “ เงินอนุรักษ์สัตว์ป่า ” หมายความว่า เงินเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบารุงรักษา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและรักษาไว้ซึ่งแหล่งที่อยู่อาศัยหรือ แหล่งหากินของสัตว์ป่า หรื อเพื่อการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า ที่กรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับเป็นกรรมสิทธิ์นอกเหนือจากเงินงบประมาณรายจ่าย ดังต่อไปนี้ ( 1 ) เงินที่โอนมาตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ( 2 ) ค่าบริการตามมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ( 3 ) ค่าตอบแทนตามมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ( 4 ) เงินที่มีผู้บริจาคตามมาตรา 5 9 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ( 5 ) เงินค่า ปรับที่อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเปรียบเทียบตามมาตรา 106 แห่งพระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ( 6 ) เงินค่าใช้จ่ายที่ได้รับคืนมาจากผู้อยู่ในบังคับมาตรการทางปกครองในการทาลายรื้อถอน หรือย้ายสิ่งปลูกสร้างหรือต้นไม้ที่มีผู้กระทาผิดตามมาตรา 82 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครอง สัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ที่กรมได้ใช้มาตรการบังคับทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการ ทางปกครอง ( 7 ) เงินที่ได้รับคืนมาตามสิทธิแห่งกฎหมาย ( 8 ) เงินดอกผลอันเกิดจาก (1) (2) (3) (4) (5) (6) และ (7) ข้อ 6 บรรดาระ เบียบ ประกาศ หรือคำสั่งอื่นใดที่กรมได้กาหนดไว้แล้วซึ่งขัดหรือแย้งกับ ระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในเรื่องใดที่มิได้กาหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ หรือคำสั่งของทางราชการ ข้อ 7 ให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชรักษาการตามระเบียบนี้ ้ หนา 2 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

หมวด 1 คณะกรรมการเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า ข้อ 8 ให้อธิบดีแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เรียกว่า “ คณะกรรมการเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า ” ประกอบด้วย อธิบดีเป็นประธานกรรมการ รองอธิบดีที่กำกับดูแลงานสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นอีกไม่เกินเจ็ดคนซึ่งอธิบดีแต่งตั้งเป็นกรรมการ และ ให้ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้อำนวยการส่วนแผนงาน และงบประมาณ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุ การ ข้อ 9 คณะกรรมการมีอานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ ( 1) กาหนดกรอบนโยบาย หลักเกณฑ์ การใช้จ่ายเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า ( 2) พิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการที่ขออนุมัติใช้เงินอนุรักษ์สัตว์ป่า ( 3) ควบคุมการใช้จ่ายเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า ให้เป็นไปตามระเบียบนี้ ( 4 ) ให้คำ แนะนา ในการนาส่ง และการเก็บรักษาเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า ( 5 ) ดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า ข้อ 10 การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวน กรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม การพิจารณาเรื่องใดที่ต้ องเลื่อนมา เพราะไม่ครบองค์ประชุม หากได้มีการประชุมในเรื่องนั้นอีก การประชุมครั้งหลังนี้มีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจานวนกรรมการทั้งหมด ให้ถือว่าเป็นองค์ประชุม ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการ ไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธาน ในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียง หนึ่งในการ ลงคะแนน แต่ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด หมวด 2 การรับเงิน ส่วนที่ 1 หลักฐานการรับเงิน ้ หนา 3 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

ข้อ 11 ใบเสร็จรับเงินให้ใช้ตามแบบที่กระทรวงการคลังกาหนด และให้มีสาเนาเย็บติดไว้กับ เล่มเก็บไว้อย่างน้อยหนึ่งฉบับ หรือตามแบบที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง บัตรค่าบริการ ให้ใช้ตามแบบที่กรมกำหนด โดยจะต้องมีการควบคุมจานวนที่รับจ่าย ทานองเดียวกันกับใบเสร็จรับเงิน ใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการที่ออกด้วยระบ บอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Payment ) ให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติที่กระทรวงการคลังกาหนด ข้อ 12 ให้สานักบริหารงานกลาง เป็นผู้จัดหาใบเสร็จรับเงิน โดยให้พิมพ์หมายเลขกากับเล่ม และหมายเลขกากับใบเสร็จรับเงินเรียงกันไปทุกฉบับ และให้จัดทาทะเบียนคุมใบเสร็จรับเงินไว้เพื่อทราบ และตรวจสอบได้ว่าจัดพิมพ์จานวนเท่าใด ได้จ่ายแล้วเท่าใดเลขที่ใดถึงเลขที่ใด ให้หน่วยใดหรือเจ้าหน้าที่ผู้ใด ไปดำเนินการเก็บเงินเมื่อวัน เดือน ปี ใด ให้สำนักบริหารงานกลาง เป็นผู้จัดหาใบเสร็จรับเงินที่ออกด้วย ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Payment ) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมกาหนด ให้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า หรือสานักที่ได้รับมอบหมายจากกรม เป็นผู้จัดหาบัตรค่าบริการ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า โดยให้พิมพ์หมายเลขกากับเล่มและหมายเลขกำกับ บัตรค่าบริกา รเรียงกันไปทุกฉบับ และให้จัดทาทะเบียนคุมบัตรค่าบริการไว้เพื่อตรวจสอบได้ว่าจัดพิมพ์ จานวนเท่าใด ได้จ่ายแล้วเท่าใดเลขที่ใดถึงเลขที่ใด ให้หน่วยใดหรือเจ้าหน้าที่ผู้ใดไปดำเนินการเก็บเงิน เมื่อวัน เดือน ปี ใด ข้อ 13 ให้สานักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสานักบริหา รพื้นที่อนุรักษ์ที่ได้รับใบเสร็จรับเงินหรือ บัตรค่าบริการ จัดทารายงานการได้รับใบเสร็จรับเงินให้สานักบริหารงานกลาง และรายงานการได้รับ บัตรค่าบริการ ให้สานักอนุรักษ์สัตว์ป่า หรือสานักที่ได้รับมอบหมาย แล้วแต่กรณีทราบ ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับใบเสร็ จรับเงินหรือบัตรค่าบริการ และให้จัดทาทะเบียนคุมการใช้ใบเสร็จรับเงินและ บัตรค่าบริการไว้ เพื่อการตรวจสอบว่าได้ใช้ใบเสร็จรับเงินและบัตรค่าบริการเล่มใด หมายเลขใด ถึงหมายเลขใด ข้อ 1 4 การจ่ายใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการ ให้หน่วยงานหรือหน่วยงานย่อย พิ จารณาจ่ายในจานวนที่เหมาะสมแก่ลักษณะงานที่ปฏิบัติ และให้มีหลักฐานการรับส่งใบเสร็จรับเงินหรือ บัตรค่าบริการนั้นไว้ด้วย ข้อ 1 5 ในกรณีที่ไม่มีความจาเป็นต้องใช้ใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการเล่มใด เช่น ยุบเลิกหน่วยงาน หน่วยงานย่อย หรือยกเลิกการใช้ใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการ หรือไม่มี การจัดเก็บเงินต่อไปอีก ให้หน่วยงานจัดทารายงานเหตุผลพร้อมนาส่งคืนกรมโดยเร็ว ข้อ 1 6 การใช้ใบเสร็จรับเงินให้ใช้เล่มเดียวกันรับเงินทุกประเภท เว้นแต่เงินประเภทใด ที่มีการรับชำระเป็นประจาและมีรายการเป็ นจานวนมาก จะแยกใบเสร็จรับเงินเล่มหนึ่งสำหรับการรับเงิน ประเภทนั้นก็ได้ ้ หนา 4 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

ข้อ 1 7 ห้ามขูด ลบ หรือแก้ไขเพิ่มเติมจานวนเงินหรือชื่อผู้ชำระเงินในใบเสร็จรับเงิน หากลงรายการรับเงินผิดพลาด ให้ใช้วิธีขีดฆ่าจานวนเงินและเขียนใหม่ทั้งจานวน แล้วให้ผู้รับเงิน ลงลายมือชื่อกำกับการขีดฆ่านั้นไว้ด้วย หรือให้ยกเลิกใบเสร็จรับเงินนั้นแล้วออกฉบับใหม่ให้แทน สาหรับใบเสร็จรับเงินที่ออกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Payment ) ให้เป็นไปตามที่กรมกาหนด ข้อ 1 8 การยกเลิกใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการ ให้ขีดฆ่าเลิกใช้ใบเสร็จรับ เงินหรือ บัตรค่าบริการนั้นทั้งฉบับ หรือให้ประทับคำว่า “ ยกเลิก ” ด้วยตรายางสีแดงไว้ในใบเสร็จรับเงินหรือ บัตรค่าบริการนั้น และให้คงใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการที่ขีดฆ่าเลิกใช้หรือยกเลิกนั้นติดไว้กับสาเนา ใบเสร็จรับเงิน ต้นขั้วบัตรค่าบริการในเล่มเพื่อการ ตรวจสอบ สาหรับใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการ ที่ออกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Payment ) ให้เป็นไปตามที่กรมกาหนด ข้อ 1 9 ในกรณีที่ใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการสูญหาย ให้หน่วยงานผู้ใช้ดำเนินการ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนนับแต่วันที่ทราบว่าใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการสูญหาย แล้วให้ รายงานกรมเพื่อทาหนังสือแจ้งเวียนการยกเลิกใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการที่สูญหายให้ส่วนราชการ หรือหน่วยงานต่าง ๆ ทราบเพื่อป้องกันการนาใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการนั้ นมาเป็นหลักฐาน ในการรับ หรือเบิกเงินทางราชการต่อไป ข้อ 20 เมื่อสิ้นปีงบประมาณ ให้หัวหน้าหน่วยงานซึ่งได้รับใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการ จัดทารายงานกรมว่ามีใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการอยู่ในความรับผิดชอบ เล่มใด เลขที่ใดถึงเลขที่ใด และได้ใช้ใบเสร็จ รับเงิน และบัตรค่าบริการไปแล้ว เล่มใด เลขที่ใดถึงเลขที่ใด ทั้งนี้ ตามแบบ ที่กรมกาหนด โดยอย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 ตุลาคม ของปีงบประมาณถัดไป สาหรับใบเสร็จรับเงิน หรือบัตรค่าบริการที่ออกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Payment ) ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การใช้ ใบเสร็จรับเงินที่ออกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Payment ) ข้อ 21 ใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการเล่มใด สำหรับรับเงินของปีงบประมาณใด ให้ใช้รับเงินภายในปีงบประมาณนั้น เมื่อขึ้นปีงบประมาณใหม่ ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการ เล่มใหม่ ส่วนใบเสร็จรับเงิ นหรือบัตรค่าบริการฉบับใดยังไม่ได้ใช้ให้คงติดไว้กับเล่ม แต่ให้ปรุ เจาะรู หรือ ประทับตราคำว่า “ เลิกใช้ ” ด้วยตรายางสีแดงไว้ เพื่อให้เป็นที่สังเกตมิให้นามาใช้รับเงินได้อีกต่อไป สาหรับใบเสร็จรับเงิน หรือบัตรค่าบริการที่ออกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Pay ment ) ให้เป็นไป ตามที่กรมกาหนด ข้อ 22 ให้หน่วยงานและหน่วยงานย่อยเก็บรักษาสาเนาใบเสร็จรับเงินและต้นขั้วบัตร ค่าบริการไว้ในที่ปลอดภัยและมิให้สูญหายหรือชำรุดเสียหาย เพื่อให้สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบและเมื่อสานักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วก็ให้เก็บไว้อย่างเอกสารธรรมดา ้ หนา 5 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

ส่วนที่ 2 วิธีปฏิบัติในการรับเงิน ข้อ 2 3 ให้หน่วยงานเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทกระแสรายวัน เพื่อรับและโอนเงิน การรับเงินของหน่วยงา นย่อย อาจรับเป็นเงินสดหรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Payment ) หรือวิธีอื่นใดตามที่อธิบดีกาหนด การรับเงินตามระเบียบนี้ ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินหรือบัตรค่าบริการ หรือรายงานการรับเงินจาก ระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กระทรวงการคลังกาหนด เพื่อเป็นหลักฐานการรับเงิน ข้อ 2 4 ให้หน่วยงานย่อย และหน่วยจัดเก็บเงิน จัดทำรายงานเงินคงเหลือประจาวัน สมุดเงินสด รายงานแสดงการรับเงินแยกประเภทที่นาส่งให้หน่วยงาน และทะเบียนคุมใบเสร็จรับเงิน และบัตรค่าบริการ ตามที่กรมบัญชีกลางกาหนด ให้หน่วยงานบันทึกข้อมูลการรับเงินในระบบการบ ริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ ( Government Fiscal Management Information System : GFMIS ) อย่างช้า ภายในวันทาการถัดไป ข้อ 2 5 ในกรณีที่มีการรับเงินภายหลังกาหนดเวลาปิดบัญชีในวันทำการใด ให้ทำการ ลงบัน ทึกการรับเงินในระบบการบริหารการเ งิ นการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ( Government Fiscal Management Information System : GFMIS ) ในวันทาการถัดไป ข้อ 2 6 เมื่อสิ้นเวลารับจ่ายเงินในแต่ละวัน ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษร จากหน่วยงานย่อยทาการตรวจสอบจานวนเงินที่จัดเก็บ และนาส่งกับหลักฐานและรายการที่บันทึกไว้ ในบัญชีว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ เมื่อตรวจสอบแล้วว่าถูกต้องครบถ้วนตรงกันให้แสดงยอดรวมเงินรับ ทั้งสิ้นไว้ในสาเนาใบเสร็จรับเงิน และในเล่มต้นขั้วบัตรค่าบริการฉบับสุดท้ายขอ งเล่มนั้น ที่ได้รับในวันนั้น และลงลายมือชื่อกากับไว้ด้วย ให้หน่วยจัดเก็บเงินมอบหมายเจ้าหน้าที่เป็นลายลักษณ์อักษรให้ตรวจสอบจานวนเงินที่จัดเก็บ กับหลักฐานการรับเงินและรายการที่บันทึกไว้ในบัญชีว่าถูกต้องครบถ้วนตรงกันหรือไม่ เมื่อตรวจสอบแล้วว่า ถูกต้องครบถ้วนตรงกันให้แสดงยอดรวมเงินรับทั้งสิ้นไว้สาเนาใบเสร็จรับเงิน และในเล่มต้นขั้วบัตร ค่าบริการฉบับสุดท้ายของแต่ละเล่มที่มีการใช้ไปในแต่ละวัน และลงลายมือชื่อกากับไว้ แล้วนาส่ง ให้หน่วยงานย่อยต่อไป กรณีที่ตรวจสอบแล้วไม่ถูกต้องครบถ้วนตรงกัน ให้ทำบั นทึกรายงานหัวหน้าหน่วยงาน เพื่อพิจารณาตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ข้อ 2 7 ก่อนสิ้นวันทำการ ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าหน้าที่การเงินจัดทา ใบสรุปการรับเงินตามแบบที่กรมกาหนด รายงานต่อหัวหน้าหน่วยงานย่อยหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ้ หนา 6 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

พร้อมเงินที่ได้รับในวันนั้น เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และส่งกรรมการเก็บรักษาเงินเก็บรักษาไว้ที่ตู้นิรภัย ของหน่วยงานย่อย ก่อนสิ้นวันทาการให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าหน้าที่การเงินของหน่วยจัดเก็บเงิน จัดทำใบสรุปการรับเงินตามแบบที่กรมกำหนด รายงา นต่อหัวหน้าหน่วยจัดเก็บเงินหรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายพร้อมเงินที่ได้รับในวันนั้น เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และส่งกรรมการเก็บรักษาเงิน เก็บรักษาไว้ที่ตู้นิรภัยของหน่วยจัดเก็บเงิน หมวด 3 การเก็บรักษาเงิน ส่วนที่ 1 สถานที่เก็บรักษาเงิน ข้อ 2 8 ให้หน่วยงา นย่อยและหน่วยจัดเก็บเงิน จัดให้มีตู้นิรภัยสาหรับเก็บรักษาเงินซึ่งตั้งอยู่ ในที่ปลอดภัย ข้อ 2 9 ในกรณีที่มีตู้นิรภัย ให้มีลูกกุญแจอย่างน้อยสองสำรับ แต่ละสารับไม่น้อยกว่าสองดอก แต่ไม่เกินสามดอก โดยแต่ละดอกต้องมีลักษณะต่างกัน โดยสารับหนึ่งมอบให้กรรมการเก็ บรักษาเงิน ส่วนสารับที่เหลือให้นาฝากเก็บรักษาไว้ในลักษณะหีบห่อ ณ สถานที่ ดังนี้ ( 1) สานักบริหารงานกลาง สาหรับสานักอนุรักษ์สัตว์ป่า ( 2) สานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ สาหรับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ส่วนที่ 2 กรรมการเก็บรักษาเงิน ข้อ 30 ให้หัวหน้าหน่วยงานย่อยพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการ พนักงานราชการ ในหน่วยงานย่อยนั้น อย่างน้อยสองคนเป็นกรรมการเก็บรักษาเงินของหน่วยงานย่อย และหน่วยจัดเก็บเงินนั้น และให้แต่งตั้ง กรรมการเก็บรักษาเงินสำรองอย่างน้อยสองคน เพื่อเก็บรักษาเงินในกรณีกรรมการ เก็บรักษาเงิน ผู้ใดไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ข้อ 31 ให้กรรมการเก็บรักษาเงินถือลูกกุญแจตู้นิรภัยคนละหนึ่งดอก ในกรณีที่ตู้นิรภัย มีลูกกุญแจสามดอกและมีกรรมการเก็บรักษาเงินสองคน ให้กรรมการเก็บรักษาเงินถือลูกกุญแจ คนละดอก หากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต้องส่งมอบลูกกุญแจให้กับกรรมการเก็บรักษาเงินสำรองไว้ เพื่อทำหน้าที่แทนส่วนลูกกุญแจที่เหลือให้หัวหน้าหน่วยงานย่อยมอบให้กรรมการเก็บรักษาเงินอื่น เป็นผู้ถือลูกกุญแจนั้น ้ หนา 7 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

ในกรณีที่มีห้องมั่นคงหรือกรงเหล็ก การถือกุญแจห้องมั่นคงหรือกร งเหล็ก ให้นาความในวรรคหนึ่ง มาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ 32 ในการส่งมอบและรับมอบลูกกุญแจระหว่างกรรมการเก็บรักษาเงินกับกรรมการ เก็บรักษาเงินสารอง ให้มีการบันทึกการส่งมอบและรับมอบพร้อมกับลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ข้อ 3 3 กรรมการเก็บรักษาเงิน ต้องเก็บรักษาลูก กุญแจไว้ในที่ปลอดภัยมิให้สูญหาย หรือ มิให้ผู้ใดลักลอบนำไปพิมพ์แบบลูกกุญแจได้ ในกรณีลูกกุญแจสูญหาย หรือมีกรณีสงสัยว่าจะมี ผู้ปลอมแปลงลูกกุญแจ ให้รีบรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานทราบเพื่อแก้ไขปัญหาหรือเปลี่ยนแปลง ชุดลูกกุญแจโดยเร็ว ส่วนที่ 3 การเก็บรักษาเงิน ข้อ 3 4 ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าหน้าที่การเงินของหน่วยงานย่อยหรือ หน่วยจัดเก็บเงิน จัดทารายงานเงินคงเหลือประจาวันตามแบบที่กรมบัญชีกลางกาหนดเป็นประจาทุกวัน ในกรณีที่วันใดไม่มีรายการรับเงิน จะไม่ทารายงานเงินคงเหลือประจาวันสำหรับวันนั้น ก็ได้ แต่ให้หมายเหตุไว้ในรายงานเงินคงเหลือประจาวันที่มีการรับเงินของวันถัดไปให้ทราบด้วย ข้อ 3 5 เมื่อสิ้นเวลารับเงิน ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นเจ้าหน้าที่การเงิน นาเงิน ที่จะเก็บรักษา และรายงานเงินคงเหลือประจาวันส่งมอบให้กรรมการเก็บรักษาเงิน ให้กรรมการเก็บรักษาเงินร่วมกันตรวจสอบตัวเงินกับรายงานเงินคงเหลือประจาวัน ในกรณี ที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นเจ้าหน้าที่การเงินนาเงินเก็บรักษาในตู้นิรภัย และให้กรรมการเก็บรักษาเงินทุกคนลงลายมือชื่อในรายงานเงินคงเหลือประจาวันไ ว้เป็นหลักฐาน ข้อ 3 6 เมื่อกรรมการเก็บรักษาเงินได้ลงลายมือชื่อในรายงานเงินคงเหลือประจาวันแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นเจ้าหน้าที่การเงินเสนอหัวหน้าหน่วยงานย่อยหรือหัวหน้าหน่วย จัดเก็บเงินเพื่อทราบ ในกรณีที่ปรากฏว่าเงินที่ได้รับมอบให้เก็บรักษาไม่ ตรงกับจานวนเงินซึ่งแสดงไว้ในรายงาน คงเหลือประจาวัน ให้คณะกรรมการเก็บรักษาเงินและเจ้าหน้าที่การเงินผู้นาส่งร่วมกันบันทึกจานวนเงิน ที่ตรวจนับได้นั้นไว้ในรายงานคงเหลือประจาวัน และลงลายมือชื่อกรรมการเก็บรักษาเงินพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่การเงินผู้นำส่ง ในกรณีที่มี ตู้นิรภัยให้นาเงินเก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัย และให้กรรมการเก็บรักษาเงิน รายงานให้หัวหน้าหน่วยงานทราบทันทีเพื่อพิจารณาตรวจสอบหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาต่อไป หมวด 4 วิธีการนาส่งเงิน ข้อ 37 ให้นาฝากหรือนาส่งเงินภายในกาหนดเวลา ดังต่อไปนี้ ้ หนา 8 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

( 1 ) จุดบริการเก็บเงินให้นาส่งเงินที่จัดเก็บได้ในแต่ละวันไปยังหน่วยจัดเก็บเงินหรือหน่วยงานย่อย ทุกวัน ( 2 ) หน่วยจัดเก็บเงินนาส่งเงินให้หน่วยงานย่อยทุกวันที่สิบห้าและวันสิ้นเดือน ในกรณีที่วันใด มีการจัดเก็บเงินเกินห้าหมื่นบาท ให้นาส่งเงินในวันถัดไป เว้นแต่เหตุสุ ดวิสัยจนไม่สามารถนาส่งเงินได้ ให้นาส่งเงินทันทีที่สามารถนาส่งได้พร้อมรายงานหัวหน้าหน่วยงานย่อยทราบ ( 3 ) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ให้นาเงินฝากเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ของหน่วยงานอย่างน้อยเดือนละครั้ง แต่ถ้าเงินเกินสองแสนบาท ให้นาฝากโดยเ ร็วแต่อย่างช้าไม่เกิน สองวันทาการ ( 4 ) สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นำเงินส่งสำนักบริหารงานกลางในวันที่ได้รับเงินหรืออย่างช้า ในวันทาการถัดไป ข้อ 3 8 ให้หน่วยงานย่อยนาเงินฝากเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของหน่วยงานที่เปิดไว้เพื่อการนี้ และส่งสาเนาใบนาฝากให้หน่วยงานพร้อมรายงานการรับและนาส่ง หรือนาฝาก และใบนาส่งเงิน ตามรูปแบบที่กรมกาหนด ข้อ 39 ให้หน่วยงานย่อยสรุปข้อมูลการรับและนาฝากเงินจากทะเบียนคุมรับและนำส่งเงิน นอกงบประมาณ แล้วจัดทำรายงานตามแบบที่กรมกำหนด จานวน 3 ฉบับ สำเนาให้เก็ บไว้ เป็นหลักฐาน 1 ฉบับ ส่งให้หน่วยงาน 2 ฉบับ พร้อมด้วยสาเนาใบนาฝากเงิน จานวน 2 ฉบับ โดยให้ หน่วยงานเก็บไว้ 1 ฉบับ และหน่วยงานส่งให้กรม 1 ฉบับ เป็นประจาทุกเดือน และจัดส่งให้กรม ภายในวันที่สิบห้าของเดือนถัดไป หมวด 5 การใช้จ่ายเงิน ส่วนที่ 1 การใช้จ่ายเงินตามโครงการ ข้อ 40 อธิบดีอาจมอบหมายรองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือผู้อานวยการสานักอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นผู้อนุมัติการจ่ายเงินตามหมวดนี้ได้ โดยอาจกาหนดวงเงิน การอนุมัติให้ตามที่เห็นสมควรก็ได้ ข้อ 41 การใช้จ่ายเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า อาจมีหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยจัดทาเป็นโครงการตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร ข้อ 42 ให้สานักอนุรักษ์สัตว์ป่า จัดทาปฏิทินการจัดทางบประมาณจากเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า ให้คณะกรรมการพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วนาเสนออธิบ ดีและแจ้งเวียนให้หน่วยงานดำเนินการต่อไป ้ หนา 9 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

ข้อ 43 ให้กรมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการใช้จ่ายเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อกลั่นกรองความเหมาะสมของโครงการ และจัดลาดับความสาคัญ โดยมีผู้อานวยการสานักอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการอื่น อีกไม่ เกินสิบเอ็ดคน และให้ผู้อำนวยการส่วนแผนงาน และงบประมาณ เป็นกรรมการและเลขานุการ ข้อ 44 ให้ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นำเสนอโครงการต่อคณะกรรมกำร เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วนาเสนออธิบดีอนุมัติจึงจะดำเนินการต่อไปได้ ในกรณีที่มีความจาเป็นเร่งด่ วนหรือมีเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมายไว้ก่อนและไม่อาจ ดำเนินการตามปกติได้ทัน ให้สานักอนุรักษ์สัตว์ป่า นาเสนอโครงการให้อธิบดีพิจารณาอนุมัติโครงการ วงเงินไม่เกินยี่สิบล้านบาท แล้วให้แจ้งคณะกรรมการทราบในโอกาสแรกที่มีการประชุม ข้อ 45 โครงการซึ่งคณะกรรมการมีมติให้ความเห็นชอบและอธิบดีอนุมัติแล้ว ให้สานัก อนุรักษ์สัตว์ป่า แจ้งหน่วยที่ได้รับอนุมัติโครงการทราบและดำเนินการ ข้อ 46 การใช้จ่ายเงินอนุรักษ์สัตว์ป่าให้เป็นไปเพี่อกิจการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ( 1) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อกา รบริหารจัดการการอนุรักษ์สัตว์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ให้เป็นไปตามแผนแม่บทที่คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ากาหนด ตามมาตรา 45 (3) ( 2) การคุ้มครอง ดูแล บำรุงรักษา หรือฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หรือพื้นที่ซึ่งคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าเห็นชอบ ให้เป็นพื้นที่เตรียมการกำหนดเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตลอดจนเป็นเงิน ช่วยเหลือและอุดหนุนกิจการใดที่เกี่ยวกับการสนับสนุน ส่งเสริม และรั กษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในเขตนั้น ( 3) การบารุงรักษาสถานที่ หรือการจัดหาสิ่งจาเป็นหรือเป็นประโยชน์ต่อการอานวยความสะดวก ความปลอดภัย การให้ความรู้ การศึกษาธรรมชาติของประชาชน ( 4) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการทาลาย รื้อถอน ย้ายสิ่งปลูกสร้างหรือต้นไม้ ที่มีผู้กระทา ความผิดตามมาตรา 82 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ( 5) การคุ้มครอง ดูแล รักษา หรือช่วยเหลือสัตว์ป่าที่พนักงานเจ้าหน้าที่ยึดไว้ หรือสัตว์ป่า ที่ตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามคำพิพากษาของศาล หรือสัตว์ป่า ที่มีผู้ทอดทิ้ง หรือสัตว์ป่าที่พิการ บาดเจ็บ ป่วย อ่อนแอ ( 6) การฝึกอบรม การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านสัตว์ป่าและการอนุรักษ์สัตว์ป่า ( 7) เป็นเงินสวัสดิการหรือเงินช่วยเหลือให้แก่พนักงานเจ้ำหน้าที่ เจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัคร ที่ได้รับอันตราย บาดเจ็บ เสียชีวิต หรือเป็นเงินช่วยเหลือในการต่อสู้คดีจากการปฏิบัติหน้าที่ ในการคุ้มครอง ดูแลรักษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หรือพื้นที่ซึ่งคณะกรรมการสงวน ้ หนา 10 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

และคุ้มครองสัตว์ป่าเห็นชอบให้เตรียมการกาหนดเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หรือ จากการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ( 8) การช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า ( 9 ) การสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินการตามโครงการใช้ประโยชน์จากทรัพ ยากรธรรมชาติ และโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามมาตรา 57 และมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ในกรณีที่เงินงบประมาณมีไม่เพียงพอ ส่วนที่ 2 การจ่ายเงิ นคืนให้แก่ผู้เข้าศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า ข้อ 47 ในกรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น อุทกภัย ธรณีพิบัติภัย คลื่นยักษ์สึนามิ ดินถล่ม ไฟไหม้ป่า โรคระบาด หรือทางราชการมีความจาเป็นต้องใช้ที่พักหรือบริการ เพื่อใช้ในการ ปฏิบัติราชการ เป็นเหตุทาให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถเข้าใช้บริการได้ ให้ผู้ใช้บริการแจ้งความประสงค์ ขอรับเงินค่าบริการค่าตอบแทนคืนจากกรม เมื่อผู้ใช้บริการแจ้งความประสงค์ตามวรรคหนึ่ง อธิบดีอนุมัติให้จ่ายเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า คืนแก่ผู้ใช้บริการ ดังนี้ ( 1 ) ผู้เข้าไปใช้บริการแ จ้งขอเงินคืนภายในสามสิบวันหลังจากวันที่กำหนดใช้บริการ ให้คืนเต็มจานวน ( 2 ) ผู้เข้าไปใช้บริการแจ้งขอเงินคืนเกินสามสิบวันหลังจากวันที่กำหนดใช้บริการ ไม่ต้องคืนเงิน ทุกกรณี เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยไม่อาจขอคืนเงินได้ภายในเวลาดังกล่าว แต่จะต้องขอคืนภายในสามสิบวัน นับแต่เหตุสุดวิสัยนั้นสิ้นสุดลง ส่วนที่ 3 การอนุมัติจ่ายเงินและเงินยืม ข้อ 48 การอนุมัติการจ่ายเงิน หรือการอนุมัติให้ยืมเงินให้เป็นอานาจของอธิบดี ข้อ 49 การจ่ายเงินทุกครั้งต้องมีหลักฐานการจ่ายไว้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบหลักฐาน การจ่ายให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ส่วนที่ 4 การเบิกจ่ายและขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน ้ หนา 11 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

ข้อ 50 เงินตามโครงการที่ได้รับอนุมัติในปีงบประมาณใด ให้เบิกจ่ายแล้วเสร็จภายใน ปีงบประมาณนั้น ยกเว้นโครงการที่เป็นการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ข้อ 51 เงินตามโครงการที่ได้ก่อหนี้ผูกพันไว้ก่อนสิ้นปีงบประมาณแล้ว หากเห็นว่า การเบิกจ่ายเงินไม่ทันสิ้นปีงบประมาณนั้น ให้ขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน ต่ออธิบ ดีไ ด้ หนึ่งปีงบประมาณ เงินตามโครงการในวรรคหนึ่ ง ยังไม่สามารถเบิกจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่อธิบดีอนุมัติ หากมีความจาเป็นจะต้องใช้จ่ายเงินนั้นต่อไปอีก ให้ขออนุมัติขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินต่ออธิบดี รวมการขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายเงินได้ไม่เกินสองปีงบประมาณ ข้อ 52 เงินตามโครงการที่ไม่สามารถก่อหนี้ ผูกพันได้ทันในปีงบประมาณนั้น แต่มีความจาเป็น จะต้องดำเนินการ ให้ขออนุมัติขยายเวลาก่อหนี้ต่ออธิบดีเพื่ออนุมัติได้ไม่เกินหนึ่งปีงบประมาณ หากไม่สามารถดำเนินการตามวรรคหนึ่งได้ ให้ถือว่าเงินตามโครงการเป็นอันตกพับไป ข้อ 53 ให้หน่วยที่ได้รับอนุมัติโครงการยื่ นขอขยายเวลาการเบิกเงินตามโครงการไม่น้อยกว่า สามสิบวันทาการก่อนสิ้นปีงบประมาณนั้น พร้อมชี้แจงเหตุผลและความจาเป็น ส่วนที่ 5 การจัดทารายงานการเงินและผลการปฏิบัติงาน ข้อ 54 ให้หน่วยงานจัดให้มีการบันทึกบัญชีตามหลักการและนโยบายบัญชีที่กระทรวงการคลัง กาหนดโดยอนุโลม ข้อ 55 ให้สานักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ และสานักอื่นที่ได้รับอนุมัติ เงินอนุรักษ์สัตว์ป่าให้ดำเนินโครงการ จัดทารายงานผลการเบิกจ่ายเงิน เป็นประจาทุกเดือนเสนออธิบดี โดยจัดส่งภายในวันที่สิบห้าของเดือนถัดไป ให้สานั กอนุรักษ์สัตว์ป่า และสานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ เก็บรักษาใบสาคัญคู่จ่ายและเอกสารอื่น ๆ อันเป็นหลักฐานแห่งหนี้เพื่อให้ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบ ข้อ 56 ใ ห้หน่วยงานจัดส่งรายงานเ คลื่อนไหวเงินฝากคลัง ( Government Fiscal Management Information System : GFMI S ) เป็นประจาทุกเดือนเสนออธิบดี ภายในวันที่สิบห้า ของเดือนถัดไป ข้อ 57 ให้สานักบริหารงานกลางจัดทารายงานการเงิน สานักอนุรักษ์สัตว์ป่า จัดทารายงาน ผลการปฏิบัติงานประจาปี และนาเสนอต่อคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ภายในหนึ่งร้อย แปดสิบวันนับจากวันสิ้นปี งบประมาณ และเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ ้ หนา 12 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566

บทเฉพาะกาล ข้อ 58 เงินรายจ่าย รายการใดที่อยู่ระหว่างดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จในวันที่ระเบียบนี้ มีผลใช้บังคับให้ดำเนินการต่อไปตามระเบียบที่ใช้อยู่เดิมจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จหรือจนกว่า จะสามารถดำเนินการ ตามระเบียบนี้ได้ ข้อ 59 แบบรายงานและแบบพิมพ์บัตรเดิมที่ได้ใช้อยู่แล้วก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ใช้ได้ต่อไปอีก จนกว่าจะมีการจัดทาแบบรายงานและแบบพิมพ์ใหม่ตามแบบที่ประกาศกำหนด ประกาศ ณ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 25 6 6 อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทน อธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ้ หนา 13 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 45 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 กุมภาพันธ์ 2566