Wed Feb 15 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2566


ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2566

ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกาหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสาหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรกาหนดที่นั่งนิรภัยสาหรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสาหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของคนโดยสารที่เป็นเด็ก อายุไม่เกินหกปี คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกินหนึ่งร้อยสามสิบห้าเซนติเมต ร และผู้ขับขี่หรือคนโดยสาร ที่มีเหตุผลทางสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่ และการโดยสาร อาศัยอานาจตามความในมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศสานักงานตารวจแห่งชาติ เรื่อง การกาหนดที่นั่งนิรภัย สำหรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิ ดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ในประกาศนี้ “ รถกระบะ ” หมายถึง รถบรรทุกตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และให้รวม ถึงรถยนต์กระบะสี่ประตู “ รถกึ่งกระบะ ” หมายถึง รถกระบะที่มีพื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังที่นั่งคนขับ ( Space Cab ) ข้อ 4 ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ต้องมีลักษณะและมาตรฐาน ดังต่อไปนี้ 4.1 ลักษณะของที่นั่งนิรภัยสาหรับเด็ก ได้แก่ (ก) ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถ (ข) ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ 4.2 ในกรณีที่ได้มีการกาหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสาหรับที่นั่งนิรภัย สาหรับเด็กแบบใดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้ว ที่นั่งนิรภัยสาหรับเด็ก ที่จะใช้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมนั้น ข้อ 5 ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย ต้องมีลักษณะและมาตรฐาน ดังต่อไปนี้ 5.1 ลักษณะของที่นั่งพิเศษสาหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย ได้แก่ ที่นั่งพิเศษแบบ ที่นั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง ( Boost er Seat ) ้ หนา 32 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 36 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 กุมภาพันธ์ 2566

5.2 ในกรณีที่ได้มีการกาหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสาหรับที่นั่งพิเศษ สาหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายแบบใดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้ว ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายที่จะใช้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกร รมนั้น ข้อ 6 ที่นั่งนิรภัยสาหรับเด็กตามข้อ 4 และที่นั่งพิเศษสาหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย ตามข้อ 5 ให้หมายความรวมถึง ระบบยึดเหนี่ยวผู้โดยสารเด็กตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมด้วย ข้อ 7 วิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ แบ่งเป็น 7.1 ในกรณีที่ไม่สามารถจัดให้คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกินหกปีนั่งในที่นั่งตามข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 ได้ ให้ถือปฏิบัติตามที่กาหนด ดังนี้ ( 1 ) ต้องขับรถด้วยความเร็วช้าโดยคานึงถึงความปลอดภัย และต้องขับให้ใกล้ ขอบทางเดินรถด้านซ้าย เว้นแต่ - ในช่อ งเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร - จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก - เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ( 2 ) ต้องจัดให้เด็กนั้นนั่งในที่นั่งโดยสารตอนหลัง เว้นแต่เป็นรถกระบะหรือ รถกึ่งกระบะ ให้นั่งโดยสารที่นั่ง ตอนหน้าได้ ทั้งนี้ ห้ามมิให้นั่งตอนท้ายกระบะ ( 3 ) ต้องจัดให้มีผู้ดูแลเด็กในขณะโดยสาร หรือให้เด็กรัดเฉพาะเข็มขัดรัดหน้าตัก 7.2 ในกรณีที่คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกินหนึ่งร้อยสามสิบห้าเซนติเมตร ไม่สามารถ รัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งได้ ให้ ปฏิบัติตามที่กาหนด ดังนี้ ( 1 ) ต้องขับรถด้วยความเร็วช้าโดยคานึงถึงความปลอดภัย และต้องขับให้ใกล้ ขอบทางเดินรถด้านซ้าย เว้นแต่ - ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร - จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก - เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ( 2 ) ต้องจัดให้ผู้นั้นนั่งในที่นั่งโดยสารตอนหลัง เว้นแต่เป็นรถกระบะหรือ รถกึ่งกระบะ ให้นั่งโดยสารที่นั่งตอนหน้าได้ ทั้งนี้ ห้ามมิให้นั่งตอนท้ายกระบะ 7.3 ผู้ ขับขี่หรือคนโดยสารที่มีเหตุผลทางสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย ไว้กับที่นั่งได้ ต้องขับรถด้วยความเร็วช้าโดยคานึงถึงความปลอดภัย และต้องขับให้ใกล้ขอบทางเดินรถ ด้านซ้าย เว้นแต่ - ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร - จะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก - เมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ้ หนา 33 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 36 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 กุมภาพันธ์ 2566

ข้อ 8 ในการโดยสารรถยนต์สาธารณะ หรือรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารเพื่อสินจ้าง ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 แต่ให้ถือปฏิบัติตามข้อ 7 ของประกาศฉบับนี้โดยอนุโลม ประกาศ ณ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 25 6 6 พลตำรวจเอก ดา รงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ้ หนา 34 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 36 ง ราชกิจจานุเบกษา 16 กุมภาพันธ์ 2566