ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 16 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 มาตรา 20 (1) และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการบริหาร หนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 ได้ดาเนินการกู้เงิน เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมำณ พ.ศ. 2566 ด้วยการจาหน่ายออมทรัพย์ ของกระทรวงการคลัง ซึ่งกระทรวงการคลังได้มีประกาศ เรื่อง การออกพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ฉบับลงวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ขณะนี้ พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นดังกล่าวได้จำหน่ายเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีผลการจำหน่าย ดังนี้ 1 . การจาหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ได้เปิดให้แก่บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยจองซื้อ ระหว่างวันที่ 13 - 14 ธันวาคม 2565 และจาหน่ายให้แก่ สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากาไร ระหว่างวันที่ 19 - 20 ธันวาคม 2565 โดยทารายการซื้อพันธบัตรผ่านระบบอินเทอร์เน็ต Mobile Application และเคาน์เตอร์ทุกสาขา ของธนาคารผู้จัดจำหน่าย 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จากัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จากัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิ ชย์ จากัด (มหาชน) โดยมีธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรและจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด 2 . ผลการจาหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำหน่ายได้จำนวนรวม 31,066,711,000 บาท (สามหมื่นหนึ่งพันหกสิบหกล้านเจ็ดแสน หนึ่งหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน) แบ่งเป็น 3 รุ่นอายุ ดังนี้ 2.1 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 3 ปี ( SB 25 DB ) จานวน 10,820,154,000 บำท (หนึ่งหมื่นแปดร้อยยี่สิบล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นสี่พันบาทถ้วน) อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ร้อยละ 2.30 ต่อปี กำหนดไถ่ถอนในวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ้ หนา 3 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 27 ง ราชกิจจานุเบกษา 6 กุมภาพันธ์ 2566
2.2 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 7 ปี ( SB 29 DB ) จานวน 15,246,567,000 บาท (หนึ่งหมื่นห้าพันสองร้อยสี่สิบหกล้านห้าแสนหกหมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน) อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ร้อยละ 3.00 ต่อปี กำหนดไถ่ถอนในวันที่ 15 ธันวาคม 2572 2.3 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 10 ปี ( SB 32 DA ) จานวน 4,999,990,000 บาท (สี่พันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นบาทถ้วน) อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ร้อยละ 2.90 ต่อปี กำหนดไถ่ถอนในวันที่ 19 ธันวาคม 2575 3 . พันธบัตรออมทรัพย์ข้างต้นมีรายละเอียดการจ่ายดอกเบี้ย ดังนี้ 3.1 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 3 ปี ( SB 25 DB ) และรุ่นอายุ 7 ปี ( SB 29 DB ) มีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คือ ในวันที่ 15 ของเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอน โดยจ่ายดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 15 มีนาคม 2566 3.2 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 10 ปี ( SB 32 DA ) มีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน คือ ในวันที่ 19 ของเดือนมิถุนายน และธันวาคม ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอน โดยจ่ายดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 การคำนวณดอกเบี้ยคำนวณจากมูลค่าตามราคาตราของพันธบัตร โดยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปี มี 365 วันและนับตามจานวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง หากวันครบกาหนด จ่ำยดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เลื่อนไปจ่ายในวันทาการถัดไป โดยไม่นับวันหยุด ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคา นวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกาหนดจ่ายดอกเบี้ย ยกเว้นการจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้ายให้คานวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรที่เลื่อนออกไป ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถือกรรมสิทธิ์ หรือผู้รับ หลักประกันตามที่ตกลงกัน หรือผู้รับตามที่ธ นาคารแห่งประเทศไทยกาหนด (ยกเว้นบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์พิเศษและบัญชีเงินฝากประจา) ทั้งนี้ เป็นรายชื่อที่ได้รับแจ้งจากบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จากัด (กรณีไร้ใบตราสาร) และตามรายชื่อทางทะเบียนของธนาคารแห่งประเทศไทย (กรณีมีใบตราสาร) ซึ่งเป็นรายชื่อ ณ สิ้นวันทาการสุดท้ายก่อนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายดอกเบี้ย ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด 4 . การจ่ายคืนเงินต้นพันธบัตรจะดาเนินการในวันครบกาหนดไถ่ถอน หากวันครบกาหนด ไถ่ถอนตรงกับวันหยุดของธนาคารแห่งประเทศไทย จะเลื่อนวันครบกำหนดไถ่ถอ นเป็นวันทำการถัดไป ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนเงินต้นเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถือกรรมสิทธิ์ หรือผู้รับหลักประกัน ตามที่ตกลงกัน หรือผู้รับตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกาหนด (ยกเว้นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ พิเศษและบัญชีเงินฝากประจา) ทั้งนี้ เป็นรายชื่อตามที่ได้รั บแจ้งจากศูนย์รับฝาก (กรณีไร้ใบตราสาร) และตามรายชื่อทางทะเบียนของธนาคารแห่งประเทศไทย (กรณีมีใบตราสาร) ซึ่งเป็นรายชื่อ ณ สิ้นวันทาการสุดท้ายก่อนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายคืนเงินต้นตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศกาหนด ้ หนา 4 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 27 ง ราชกิจจานุเบกษา 6 กุมภาพันธ์ 2566
กรณีพันธบัตรแบบมีใบตราสาร ผู้ถือกรรมสิทธิ์ไม่ต้องนำใบตราสารมาเวนคืน เว้นแต่ กรณีมีเหตุจาเป็นหรือมีข้อสงสัยธนาคารแห่งประเทศไทยอาจขอเวนคืนใบตราสารเพื่อตรวจสอบก็ได้ อาทิเช่น การใช้พันธบัตรเป็นหลักประกัน 5 . การจำหน่ายพันธบัตรในครั้งนี้ 5.1 ธนาคารผู้จัดจำหน่ายคิดค่าธรรมเนียมในการ จาหน่ายพันธบัตรในอัตราร้อยละ 0.03 (ศูนย์จุดศูนย์สาม) ของวงเงินที่จาหน่ายได้ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานของ Custodian แล้ว) ทั้งนี้ ธนาคารผู้จัดจาหน่ายจะจ่ายค่าธรรมเนียมการฝากพันธบัตรให้กับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเป็นการนำฝากพันธบัตรออมทรัพย์ซึ่งเป็นพันธบัตร แบบไร้ใบตราสาร ( Scripless ) โดยคำนวณตามมูลค่าพันธบัตรคงเหลือล้านละ 0.60 (ศูนย์จุดหกศูนย์) บาทต่อเดือน โดยราคาที่ใช้ในการคานวณมูลค่าพันธบัตรคงเหลือให้ใช้ตามราคาตราของพันธบัตร 5.2 ธ นาคารแห่งประเทศไทยคิดค่าธรรมเนียมในการดาเนินการเกี่ยวกับพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นสุขใจให้ออม ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ดังนี้ ( 1 ) ค่าธรรมเนียมในการเป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงินเกี่ยวกับพันธบัตร ในอัตราร้อยละ 0.03 (ศูนย์จุดศูนย์สาม) ของดอกเบี้ยที่จ่ายและเงินต้นพันธบัตรที่จ่ายคืน ( 2 ) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรตามที่จ่ายจริง ประกาศ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 256 6 บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ้ หนา 5 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 27 ง ราชกิจจานุเบกษา 6 กุมภาพันธ์ 2566