ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืนสำหรับปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. กู้เงินโควิด-19) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืนสำหรับปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. กู้เงินโควิด-19) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืนสำหรับปรับโครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. กู้เงินโควิด - 19 ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1 เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกาหนดให้อานาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พ.ร.ก. กู้เงินโควิด - 19) ประกอบมาตรา 16 วรรคหนึ่ ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบ โดยทั่วกันว่า กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. กู้เงินโควิด - 19 ได้ดาเนินการกู้ เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงินโควิด - 19 โดยการจาหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืนสาหรับปรับ โครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. กู้เงินโควิด - 19 ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1 ซึ่งมีเงื่อนไขและ สาระสำคัญ ดังนี้ 1 . กระทรวงการคลังได้ดาเนินการจาหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืนสาหรับปรับ โครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. กู้เงินโควิด - 19 ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1 ( ESGLB 376 A ) วงเงิน 30,000 ล้านบาท (สามหมื่นล้านบาทถ้วน) โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.1 พันธบัตรรัฐบาลนี้เป็นการจาหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืนสาหรับปรับ โครงสร้างหนี้ (พ.ร.ก. กู้เงินโควิด - 19) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 5 ( ESGLB 376 A ) เพิ่มเติม ( Reopened bond ) ส่งผลให้ยอดคงค้างของพันธบัตรรัฐบาลรุ่นนี้ ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2565 มีจำนวน 65,000 ล้านบาท (หกหมื่นห้าพันล้านบาทถ้วน) 1.2 พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอายุคงเหลือ 14.54 ปี โดยจะไถ่ถอนครั้งเดียวทั้งจานวน ในวันที่ 17 มิถุนายน 2580 และจะไม่มีการไถ่ถอนก่อนครบกำหนด หากวันไถ่ถอนตรงกับ วันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนวันไถ่ถอนเป็นวันทาการถัดไป โดยการจ่ายคืนเงินต้นพันธบัตร แบบมีใบตราสารจะจ่ายให้แก่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ ผู้รับหลักประกันตามที่ตกลงกัน หรือผู้รับตามที่ธนาคาร แห่งประเทศไทยกาหนด ทั้งนี้ ตามรายชื่อทางทะเบียนของธนาคารแห่งประเท ศไทย โดยไม่ต้อง นำใบตราสารมาเวนคืน เว้นแต่กรณีมีเหตุจาเป็นหรือมีข้อสงสัย ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจขอ เวนคืนใบตราสารเพื่อตรวจสอบก็ได้ สาหรับพันธบัตรแบบไร้ใบตราสารจะจ่ายให้กับผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามรายชื่อที่ได้รับแจ้งจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นรายชื่อ ณ สิ้นวันทาการสุดท้ายก่อนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายคืนเงินต้นตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศกาหนด ้ หนา 1 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 25 ง ราชกิจจานุเบกษา 3 กุมภาพันธ์ 2566
1.3 พันธบัตรรัฐบาลนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.390 ต่อปี คานวณจากมูลค่าของ พันธบัตรรัฐบาล โดยเริ่มคานวณดอกเบี้ยในวั นที่ 19 กันยายน 2565 ถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตร รัฐบาลหนึ่งวัน การคานวณดอกเบี้ยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี 365 วัน แล้วนับตามจานวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง จ่ายดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 17 ธันวาคม 2565 โดยตลอดเวลา ที่พันธบัตรรัฐบำลยังมีอายุอยู่ให้แบ่งจ่ายดอกเบี้ยปีละสองงวด คือ วันที่ 17 มิถุนายน และ 17 ธันวาคม ของทุกปี สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะจ่าย ณ วันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาล หากวันครบกาหนดจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เลื่อนไปจ่าย ในวันทาการถัดไป โดยไม่นับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคานวณ ดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกำหนดจ่ายดอกเบี้ย ยกเว้นการจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ย จนถึงวันก่อนวันไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลที่เลื่อนออกไป ทั้งนี้ การจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรแบบมีใบตราสา รจะจ่ายให้แก่ผู้ถือกรรมสิทธิ์ ผู้รับหลักประกัน ตามที่ตกลงกัน หรือผู้รับตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกาหนด ทั้งนี้ ตามรายชื่อ ทางทะเบียนของธนาคารแห่งประเทศไทย สาหรับพันธบัตรแบบไร้ใบตราสารจะจ่ายตามรายชื่อที่ได้รับแจ้งจาก บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นรายชื่อ ณ สิ้นวันทำการสุดท้าย ก่อนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายดอกเบี้ยตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด 2 . การจาหน่ายพันธบัตรรัฐบาลในครั้งนี้ดาเนินการผ่านผู้จัดจาหน่าย ซึ่งผู้ที่ได้รับการจัดสรร พันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ ธนาคาร พาณิชย์ สถาบันการเงินอื่น Contractual Savings Funds และบริษัทประกัน 3 . การจาหน่ายพันธบัตรรัฐบาลตามนัยข้อ 2 ดาเนินการเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 จานวน 30,000 ล้านบาท (สามหมื่นล้านบาทถ้วน) โดยมีรายละเอียดผลการจาหน่ายพันธบัตรรัฐบาล ดังนี้ วันที่จ ําหน่ําย วันที่ชําระเงิน วงเงิน จ ําหน่ําย (ล้ํานบําท) จ ํานวนเงินที่ได้รับ (บําท) ส่วนเพิ่ม/(ส่วนลด) (บําท) ดอกเบี้ยจ่ําย รับล่วงหน้ํา (บําท) อัตรําผลตอบแทน (ร้อยละต่อปี) 29 พฤศจิกายน 2565 6 ธันวาคม 2565 30,000 30,596,346,000.00 379,014,600 . 00 217,331,400.00 3.28 4 . พันธบัตรรัฐบาลที่ออกในครั้งนี้ มีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังนี้ 4 . 1 เป็นพันธบัตรชนิดออกให้ในนามผู้ทรงกรรมสิทธิ์ในพันธบัตรตามราคาที่ตราไว้ เป็นหน่วย หน่วยละ 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน) 4 . 2 การโอนกรรมสิทธิ์หรือการใช้พันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้เป็นหลักประกัน กรณีพันธบัตร แบบมีใบตราสารให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวงและหรือระเบียบและพิธีปฏิบัติของธนาคารแห่งประเทศไทย สาหรับพันธบัตรแบบไร้ใบตราสารให้ถือปฏิบัติตามระเบียบและพิธีปฏิบัติของบริษัทศูนย์รับฝากหลัก ทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งนี้ ไม่สามารถกระทำได้ตั้งแต่วัดปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายคืนเงินต้น ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ้ หนา 2 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 25 ง ราชกิจจานุเบกษา 3 กุมภาพันธ์ 2566
4 . 3 กรณีที่มีการออกใบพันธบัตรรัฐบาล มิให้ถือว่าพันธบัตรรัฐบาลฉบับใดสมบูรณ์ เว้นแต่พนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งขึ้นโดยประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาได้ลงลายมือชื่อกากับในพันธบัตรรัฐบาลฉบับนั้นแล้ว 5 . การจาหน่ายพันธบัตรรัฐบาลในครั้งนี้มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการดาเนินการ ดังต่อไปนี้ 5 . 1 ค่าธรรมเนียมในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ จัดจำหน่าย จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จากัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จากัด (มหาชน) และธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ในจำนวนรวมทั้งสิ้นเท่ากับอัตราร้อยละ 0 . 03 (ศูนย์จุดศูนย์สาม) ของจำนวนรวมของมูลค่าเงินต้นที่ ตราไว้ของพันธบัตรทั้งหมดที่จำหน่ายได้ 5 . 2 ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลประเภทนี้สำหรับ ธนาคารแห่งประเทศไทยในฐานะนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตร ดังต่อไปนี้ ( 1 ) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตร ( 2 ) ค่าธรรมเนียมในการจัดการเกี่ยวกับพันธบัตร ในอัตราไม่เกินร้อยละ 0 . 03 (ศูนย์จุดศูนย์สาม) ของดอกเบี้ยที่จ่ายและเงินต้นพันธบัตรที่จ่ายคืน ประกาศ ณ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 256 6 บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ้ หนา 3 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 25 ง ราชกิจจานุเบกษา 3 กุมภาพันธ์ 2566