ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การออกคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ กรณีที่ผู้รับคำสั่งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2565

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การออกคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ กรณีที่ผู้รับคำสั่งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามคาสั่ง ตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดาเนินการออกคาสั่ง ของพนักงานเจ้าหน้าที่ในกรณีที่ผู้รับคาสั่งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามคาสั่งตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 34 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติ ควบ คุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การออก คำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ กรณีที่ผู้รับคำสั่งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามคาสั่งตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติควบคุม โรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2565 ” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่านายจ้าง เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษ ไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอาศัยอานาจตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมโรค จากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจออกคาสั่ง เป็นหนังสือให้ผู้นั้นดาเนินการอีกครั้ง โดยหนังสือคำสั่งให้เป็นไปตามแบบแนบท้ายประกาศนี้ ในกรณีมีเหตุจาเป็นหรือมีกรณีฉุกเฉิน พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกคาสั่งเป็นหนังสือ ในรูปแบบอื่นใด ที่แตกต่างไปจากแบบแนบท้ายประกาศนี้ก็ได้ โดยหนังสือในรูปแบบอื่นใดดังกล่าว อย่างน้อยต้องมี รายละเอียด ดังต่อไปนี้ ( 1 ) วัน เดือน และปีที่ออกคำสั่ง ( 2 ) เหตุผลในการออกคาสั่ง โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสาคัญ ข้อกฎหมายที่อ้างอิง และข้อพิจารณา พร้อมทั้งข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ ( 3 ) ชื่อและตาแหน่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทาคาสั่ง พร้อมทั้งมีลายมือชื่อของพนักงาน เจ้าหน้าที่ผู้ทำคำสั่งนั้น ข้อ 4 คำสั่งให้มีผลใช้ยันต่อบุคคลผู้อยู่ในบังคับของคำสั่งตั้งแต่ขณะที่ผู้นั้นได้รับแจ้งเป็นต้นไป ข้อ 5 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งคาสั่งต่อนายจ้างหรือเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกาเนิด มลพิษได้ทราบ โดยวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ้ หนา 31 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

( 1 ) การแจ้งโดยวิธีส่งทางไป รษณีย์ตอบรับ ถ้าได้ส่งไปยังภูมิลาเนาของผู้รับให้ถือว่าผู้รับได้รับแจ้ง ตั้งแต่ในขณะที่หนังสือคำสั่งไปถึง ทั้งนี้ ในกรณีที่ได้มีการให้ที่อยู่กับพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว การแจ้ง ไปยังที่อยู่ดังกล่าวให้ถือว่าเป็นการแจ้งไปยังภูมิลำเนาของผู้รับแล้ว ( 2 ) การแจ้ งโดยวิธีให้บุคคลนำหนังสือคาสั่งไปส่ง ถ้าผู้รับไม่ยอมรับหรือถ้าขณะนำไปส่งไม่พบผู้รับ หากได้ส่งให้กับบุคคลใดซึ่งบรรลุนิติภาวะที่อยู่หรือทางานในสถานที่นั้น หรือหากได้วางหรือปิดหนังสือ คาสั่งนั้นไว้ในที่ซึ่งเห็นได้ง่าย ณ สถานที่นั้น ต่อหน้าพนักงานฝ่ายปกค รองหรือตารวจที่มีเขตอานาจ เหนือท้องที่นั้น ซึ่งบุคคลที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มอบหมายให้นาหนังสือคาสั่งไปส่งได้ขอให้ไปด้วย เพื่อเป็นพยาน ให้ถือว่าผู้รับได้รับแจ้งแล้ว ( 3 ) การแจ้งโดยพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้นาหนังสือคาสั่งไปส่งด้วยตนเอง ถ้าผู้รับไม่ยอมรับ หรือถ้าขณะนาไปส่งไม่พบผู้รับ หากได้ส่งให้กับบุคคลใดซึ่งบรรลุนิติภาวะที่อยู่หรือทางานในสถานที่นั้น หรือหากได้วางหรือปิดหนังสือคาสั่งนั้นไว้ในที่ซึ่งเห็นได้ง่าย ณ สถานที่นั้น ต่อหน้าพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตารวจที่มีเขตอานาจเหนือท้องที่นั้ น ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ขอให้ไปด้วยเพื่อเป็นพยาน ให้ถือว่า ผู้รับได้รับแจ้งแล้ว ข้อ 6 กรณีมีเหตุจาเป็นหรือเร่งด่วน การแจ้งคาสั่งจะใช้วิธีการส่งทางเครื่องโทรสาร หรือ วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใดก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนในการได้ส่ งคาสั่งนั้น และ ต้องจัดส่งหนังสือคำสั่งตัวจริงโดยวิธีหนึ่งวิธีใดตามข้อ 5 ให้แก่ผู้รับในทันทีที่อาจจะกระทำได้ ในกรณีนี้ ให้ถือว่าผู้รับได้รับแจ้งคาสั่งเป็นหนังสือตามวันและเวลาที่ปรากฏในหลักฐานดังกล่าว เว้นแต่จะมี การพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้รับหรือได้รับก่อนห รือหลังจากนั้น ข้อ 7 ถ้าปรากฏภายหลังว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม หรือการแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นเหตุให้ผู้นั้นต้องพ้นจากตาแหน่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ถือว่า การพ้นจากตาแหน่งเช่นว่านั้นไม่กระทบกระเทือนถึงการใดที่พนักงำนเจ้าหน้าที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติไปตามหน้าที่ และอำนาจของตนตามประกาศนี้ ข้อ 8 ให้อธิบดีกรมควบคุมโรครักษาการตามประกาศนี้ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดาเนินการ ตามประกาศนี้ ให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด และให้คาสั่งหรือข้อวินิจฉัยของอธิบดี กรมควบคุมโรคถือเป็นที่สุด ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 25 6 5 อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ้ หนา 32 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

แบบหนังสือ ค ําสั่งของพนักงํานเจ้ําหน้ําที่ ตํามประกําศกระทรวงสําธํารณสุข เรื่อง กํารออกค ําสั่งของพนักงํานเจ้ําหน้ําที่ กรณีที่ผู้รับค ําสั่งจํากพนักงํานเจ้ําหน้ําที่ไม่ปฏิบัติตํามคําสั่ง ตําม มําตรํา 33 แห่ง พระรําชบัญญัติควบคุม โรคจํากกํารประกอบอําชีพและโรคจํากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2565 ค ําสั่งเลขที่… เขียนที่… … … … … วันที่…เดือน…พ.ศ. … อําศัยอํานําจตํามควํามในมําตรํา 3 4 วรรค หนึ่ง แห่งพระรําชบัญญัติควบคุมโรคจํากกําร ประกอบอําชีพและโรคจํากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 ประกอบกับข้อ 3 แห่งประกําศกระทรวงสําธํารณสุข เรื่อง กําร ออกค ําสั่งของพนักงํานเจ้ําหน้ําที่ ก รณีที่ผู้รับค ําสั่งจํากพนักงํานเจ้ําหน้ํา ที่ไม่ปฏิบัติตํามค ําสั่ง ตําม มําตรํา 33 แห่ง พระรําชบัญญัติควบคุมโรคจํากกํารประกอบอําชีพและโรคจํากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2565 ตํามที่ (นําย/นําง/ น ํางสําว) … … … … … .. … … ต ําแหน่ง พนักงําน เจ้ําหน้ําที่ตํามพระรําชบัญญัติควบคุมโรคจํากกํารประกอบอําชีพและโรคจํากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 สังกัด/หน่วยงําน … … … … .. ได้มีคําสั่งเลขที่…ลงวันที่…เดือน…พ.ศ. … ให้ (นําย / นําง/นํางสําว) … . … … … … … … … . … . … … … . ซึ่งเป็น นํายจ้ําง เจ้ําของหรือผู้ครอบครองแหล่งก ําเนิดมลพิษ น ํา (นําย/นําง/นํางสําว) … . … … … … … … … … … … … ซึ่งเป็น ลูกจ้ําง ประชําชนที่ได้รับหรืออําจได้รับมลพิษ เพื่อมํา เข้ารับการตรวจวินิจฉัย โรค รักษาพยาบาล ฟื้นฟูสมรรถภาพ ภํายในวันที่… … … เดือน… . … . … … … พ.ศ. … .. … เวลํา… .. …น . ณ… … … . … . … … … บัดนี้ ปรํากฏว่ําผู้อยู่ในบังคับของค ําสั่งฝ่ําฝืนหรือไม่ปฏิบัติตํามค ําสั่งดังกล่ําว พนักงําน เจ้ําหน้ําที่จึงมีค ําสั่งให้ผู้อยู่ใน บังคับของค ําสั่งด ําเนินกํารตํามค ําสั่งของพนักงํานเจ้ําหน้ําที่ดังกล่ําว ภํายในวันที่… … … เดือน… . … . … … … พ.ศ. … .. … เวลํา…น . มิเช่นนั้น พนักงํานเจ้ําหน้ํา ซึ่งได้รับคําสั่ง จํากอธิบดีกรมควบคุมโรคหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรคมอบหมํายให้ดําเนินกํารแทน ผู้อยู่ในบังคับของคําสั่ง อําจเข้ําดําเนินกํารแทนได้ โดย ผู้อยู่ในบังคับของคําสั่ง ต้อง ชดใช้ค่ําใช้จ่ํายในกํารดํา เนินกําร แทน นั้นตํามจํา นวน ที่จ่ํายจริง หํากท่ํานไม่พอใจคําสั่งหรือเห็นว่ําไม่ได้รับควํามเป็นธร รม ท่ํานมีสิทธิอุทธรณ์คําสั่งนี้ต่อพนักงําน เจ้ําหน้ําที่ผู้ท ําค ําสั่งได้ ภํายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับ แจ้งหรือถือว่ําได้รับแจ้งค ําสั่งนี้ ลงชื่อ… ลงชื่อ… (…) (…) พนักงํานเจ้ําหน้ําที่ ผู้รับค ําสั่ง ลงชื่อ… ลงชื่อ… (… …) (…) พยําน พยําน หมายเหตุ 1. กรณีที่พนักงํานเจ้ําหน้ําที่เห็นว่ํามีคําหรือข้อควํามที่มีผลบังคับเกินกว่ําวัตถุประสงค์ของคําสั่ง ของ พนักงํานเจ้ําหน้ําที่ ที่ ต้องกํารจะบังคั บ ให้พนักงํานเจ้ําหน้ําที่ขีดฆ่ําค ําหรือข้อควํามดังกล่ําวพร้อมทั้งลงลํายมือชื่อกํากับไว้ 2. กรณีที่ผู้รับค ําสั่งยินยอมลงลํายมือชื่อ ให้ พนักงํานเจ้ําหน้ําที่ ลงลํายมือชื่อ โดยจะมีพยํานด้วยหรือไม่ก็ได้ 3. กรณีที่ผู้รับค ําสั่งไม่ยินยอมลงลํายมือชื่อ ให้ พนักงํานเจ้ําหน้ําที่ ลงลํายมือชื่อพร้อมพยํานจ ํานวน 2 คน ไว้เพื่อเป็นหลักฐําน