Wed Feb 01 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การกำหนดตำแหน่ง การใช้อำนาจ การดำเนินการ วิธีการปฏิบัติหน้าที่ และคุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2565


ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การกำหนดตำแหน่ง การใช้อำนาจ การดำเนินการ วิธีการปฏิบัติหน้าที่ และคุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2565

ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การกาหนดตาแหน่ง การใช้อานาจ การดาเนินการ วิธีการปฏิบัติหน้าที่ และคุณสมบัติ ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 256 2 พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรกำหนดตาแหน่งพนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ชัดเจนว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ตาแหน่งใดหรือระดับใดจะมีอานาจตามที่ได้กา หนดไว้ ในมาตรา 81 และมาตรา 82 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือจะต้องได้รับอนุมัติจากบุคคลใดก่อนดาเนินการ รวมทั้งวิธีการปฏิบัติหน้าที่ และคุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ละตาแหน่งหรือแต่ละระดับ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ ของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เหมาะส ม โปร่งใส และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพ ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดารงตาแหน่งดังต่อไปนี้ มีหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 81 (1) ในการมีหนังสือเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ หรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาเพื่อประกอบการพิจารณา ดาเนินการตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ภายในเขตท้องที่รับผิดชอบ ( 1 ) อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรืออธิบดีกรมประมงเฉพาะที่เกี่ยวกับ สัตว์น้ำ (2) รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือรองอธิบดีกร มประมงเฉพาะที่ เกี่ยวกับสัตว์น้ำ (3) ผู้อานวยการสานัก และผู้อานวยการกอง ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมประมงเฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำ (4) พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า (5) ประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือประมงจังหวัด เฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำ ข้อ 2 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพัน ธุ์พืช หรือกรมประมงเฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้า มีหน้าที่และอานาจตามมาตรา 81 (2) ในการเข้าไปใน สถานประกอบการหรือสถานที่ใด ๆ ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกหรือในเวลาทำการ ของสถานประกอบการหรือสถานที่นั้น เพื่อตรวจสอบและควบคุมให้การเป็นไปตามพร ะราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ภายในเขตท้องที่รับผิดชอบ ้ หนา 10 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

ข้อ 3 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดารงตาแหน่งดังต่อไปนี้ มีหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 81 (3) ในการตรวจค้นสถานที่หรือยานพาหนะใด ๆ ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกหรือ ในเวลาทาการของสถานที่นั้น ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าหากเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ จะมีการยักย้าย ซุกซ่อน ส่ง หรือนาออกนอกราชอาณาจักร หรือทาลายทรัพย์สิ น วัตถุ สิ่งของ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดภายในเขตท้องที่รับผิดชอบ (1) อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรืออธิบดีกรมประมงเฉพาะที่เกี่ยวกับ สัตว์น้ำ (2) รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือรองอธิบดีกรมป ระมงเฉพาะที่ เกี่ยวกับสัตว์น้ำ (3) ผู้อำนวยการสำนัก และผู้อำนวยการกอง ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมประมงเฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำ (4) พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือ หัวหน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่า (5) ประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือประมงจังหวัด เฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำ (6) พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการ หัวหน้า ชุดปฏิบัติการ หรือหัวหน้าด่านตรวจ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากอธิบดีกรมอุทยำนแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากอธิบดีกรมประมงเฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำ เมื่อตรวจค้นตามมาตรา 81 (3) แล้ว ถ้ายังดำเนินการไม่แล้วเสร็จจะกระทำต่อไป ในเวลากลางคืนหรือนอกเวลาทำการของสถานที่นั้นก็ได้ ข้อ 4 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมประมง เฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำซึ่งปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 81 (4) ในการยึด หรืออายัดสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า ผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่า เอกสารหรือห ลักฐานหรือวัตถุใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับ การกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เพื่อประโยชน์ในการ ตรวจสอบหรือดาเนินคดีภายในเขตท้องที่รับผิดชอบ เมื่อยึดหรืออายัดตามมาตรา 81 (4) แล้ว ถ้ายังดาเนินการไม่แล้วเสร็จจะกระทาต่อไป ในเว ลากลางคืนหรือนอกเวลาทำการของสถานที่นั้นก็ได้ ข้อ 5 การตรวจค้น ยึดหรืออายัดตามมาตรา 81 (3) หรือ (4) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 3 และข้อ 4 ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ (1) แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไปชั้นหนึ่งทราบก่อนดาเนินการตรวจค้น เว้นแต่เป็น ก รณีจำเป็นเร่งด่วน ให้ดาเนินการไปก่อนแล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว ้ หนา 11 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

(2) การตรวจค้นให้กระทำต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือยานพาหนะ หรือบุคคลในครอบครัว ของผู้นั้น ถ้าหาบุคคลเช่นว่านั้นไม่ได้ ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ขอร้องให้มาเป็นพยาน (3) ก่อนลงมือตรวจค้น ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อบุคคลตาม (2) และให้แสดงความบริสุทธิ์เสียก่อน (4) เมื่อตรวจค้นแล้ว ให้จัดทำบันทึกการตรวจค้น ยึดหรืออายัด และบัญชีสิ่งของที่ตรวจค้น ยึด หรืออายัดได้ แล้วอ่านให้บุค คลตาม (2) ฟัง และให้ลงลายมือชื่อรับรองไว้ หากบุคคลดังกล่าว ไม่ยอมรับรองก็ให้บันทึกไว้ (5) ส่งบันทึกและบัญชีตาม (4) และสิ่งของที่ตรวจค้น ยึดหรืออายัดได้ ไปยังพนักงาน สอบสวนแห่งท้องที่ เพื่อดาเนินการตามกฎหมาย และมอบสำเนาบันทึกและบัญชีดังกล่าวให้ไว้แ ก่บุคคล ตาม (2) แล้วจัดทำรายงานการตรวจค้นพร้อมสำเนาบันทึกและบัญชีดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชา ชั้นเหนือขึ้นไปชั้นหนึ่งทราบภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่วันที่ตรวจค้น ข้อ 6 ในกรณีที่มีการกระทำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ำ พ.ศ. 2562 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว พร้อมทั้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่และอำนาจตามข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 9 และข้อ 10 ข้อ 7 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้ำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หรือผู้ที่ทำหน้าที่ดังกล่าวมอบหมาย มีหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 82 (1) ในการสั่งให้ผู้หนึ่งผู้ใดงดเว้นการกระทาใด ๆ หรือสั่งให้ออกไปจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ข้อ 8 ให้พนักงานเจ้า หน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า มีหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 82 (2) ในการสั่งเป็นหนังสือ ให้ผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 รื้อถอน นาเคลื่อนที่ ย้า ยออกไป แก้ไขหรือทาประการอื่นใดแก่สิ่งปลูกสร้าง สิ่งที่เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่า หรือสิ่งที่ทาให้ เสื่อมสภาพ หรือสิ่งที่เป็นอันตรายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ข้อ 9 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ 8 มีหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 82 (3) ในกำรยึด ทาลาย รื้อถอน แก้ไข หรือทาประการอื่น เมื่อผู้กระทาความผิดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 82 (2) หรือไม่ปรากฏตัวผู้กระทำความผิด หรือรู้ตัวผู้กระทำความผิดแต่หาตัวไม่พบ ข้อ 10 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดารงตาแหน่งดังต่อไปนี้ มีหน้าที่และอานาจตามมาตรา 82 (4) ในการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่เห็นสมควร เพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเสียหายแก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินภายในเขตท้องที่รับผิดชอบ และเมื่อดาเนินการแล้วเสร็จให้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นโดยเร็ว ้ หนา 12 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

(1) อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (2) รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (3) ผู้อำนวยการสำนัก และผู้อำนวยการกอง ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (4) พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการส่วน ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (5) พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ข้อ 11 การสั่งเป็นหนังสือตามมาตรา 82 (2) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือ ผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี ออกคาสั่ง ทางปกครองเป็นหนังสือให้ผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 รื้อถอน นำเคลื่อนที่ ย้ายออกไป แก้ไข หรือทาประการอื่นใดแก่สิ่ งปลูกสร้าง สิ่งที่เป็นอันตราย แก่สัตว์ป่า หรือสิ่งที่ทาให้เสื่อมสภาพ หรือสิ่งที่เป็นอันตรายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ภายในระยะเวลาที่กาหนด คาสั่งทางปกครองดังกล่าวต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย และเหตุผลนั้นอย่างน้อย ต้องประกอบด้วยข้อเท็ จจริงอันเป็นสาระสาคัญข้อกฎหมายที่อ้างอิง ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุน ในการใช้ดุลพินิจ และให้ระบุการยื่นคาอุทธรณ์หรือคาโต้แย้งและระยะเวลาสาหรับการอุทธรณ์หรือการโต้แย้ง คำสั่ง รวมทั้งให้ระบุวิธีการยื่นคำฟ้องและระยะเวลาสำหรับยื่นคาฟ้องคดีต่อศาลปกครองไว้ในคำสั่ งด้วย ผู้กระทาความผิดตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า บุคคลที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดาเนินการจับ ในความผิดนั้นแล้ว หรือบุคคลที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดาเนินการสืบสวนแล้วปรา กฏว่ามีพยานหลักฐาน อันน่าเชื่อว่าบุคคลนั้นเป็นผู้กระทำความผิดแต่ยังจับไม่ได้ หรือได้สืบสวนแล้วมีพยานหลักฐานปรากฏว่า มีการกระทำความผิด แต่ไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิด ข้อ 12 การแจ้งคาสั่งทางปกครองตามข้อ 11 วรรคหนึ่ง ให้ส่งเป็นหนังสือแจ้งต่อผู้กระทำ ความผิด หรือถ้าได้ส่งไปยังภูมิลาเนาของผู้กระทาความผิดให้ถือว่าได้รับแจ้งตั้งแต่ในขณะที่ไปถึง ในกรณีที่แจ้งเป็นหนังสือโดยวิธีให้บุคคลนาส่ง ถ้าผู้กระทาความผิดไม่ยอมรับหรือถ้าขณะนาไปส่ง ไม่พบผู้กระทาความผิด และหากได้ส่งให้กับบุคคลใดซึ่งบรรลุนิติภาวะที่อยู่หรือทา งานในสถานที่นั้น หรือในกรณีที่ผู้กระทาความผิดไม่ยอมรับ หากได้วางหนังสือนั้นหรือปิดหนังสือนั้นไว้ในที่ซึ่งเห็นได้ง่าย ณ สถานที่นั้นต่อหน้าเจ้าพนักงานซึ่งไปเป็นพยาน ก็ให้ถือว่าได้รับแจ้งแล้ว เจ้าพนักงานซึ่งจะเป็นพยานในการวางหนังสือหรือปิดหนังสือ ได้แก่ (1) เจ้าพนักงานตารวจ (2) ข้าราชการส่วนกลาง (3) เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่ ได้แก่ ้ หนา 13 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

(ก) กำนัน (ข) แพทย์ประจำตาบล (ค) สารวัตรกานัน (ง) ผู้ใหญ่บ้าน (จ) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน (ฉ) ข้าราชการส่วนท้องถิ่นหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น (ช) ข้าราชการประจำอำเภอหรือจังหวัด ในกรณีที่แจ้งโดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อครบกาหนดเจ็ดวันนับแต่ วันส่งสำหรับกรณีภายในประเทศ หรือเมื่อครบกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีส่งไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีผู้กระทาความผิดเกินห้าสิบคน พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะแจ้งให้ทราบ ตั้งแต่เริ่มดำเนินการในเรื่องนั้นว่าการแจ้งต่อผู้กระทำความผิดนั้นจะกระทำโดยวิธีปิดประกาศไว้ ณ ที่ทาการของพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวและที่ว่าการอาเภอที่ผู้กระทาความผิดนั้นมีภูมิลาเนาก็ได้ ในกรณีนี้ให้ถือว่าไ ด้รับแจ้งเมื่อล่วงพ้นระยะเวลาสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้แจ้งโดยวิธีดังกล่าว ในกรณีที่ไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิด หรือรู้ตัวแต่ไม่รู้ภูมิลำเนา หรือรู้ตัวและภูมิลำเนา แต่มีผู้กระทาความผิดเกินหนึ่งร้อยคน ให้แจ้งโดยประกาศในหนังสือพิมพ์ซึ่งแพร่หลายในท้องถิ่นนั้น ก็ได้ ในกรณีนี้ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อล่วงพ้นระยะเวลาสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้แจ้งโดยวิธีดังกล่าว ในกรณีมีความจาเป็นเร่งด่วน จะแจ้งโดยใช้วิธีส่งทางโทรสารก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานการได้ส่ง จากหน่วยงานผู้จัดบริการโทรคมนาคมที่เป็นสื่อในการส่งโทรสารนั้น และต้ องจัดส่งคาสั่งทางปกครองตัวจริง โดยวิธีใดวิธีหนึ่งตามวรรคก่อนให้แก่ผู้กระทาความผิดในทันทีที่อาจกระทาได้ และในกรณีนี้ให้ถือว่า ผู้กระทาความผิดได้รับแจ้งคาสั่งทางปกครองเป็นหนังสือตามวัน เวลา ที่ปรากฏในหลักฐานของหน่วยงาน ผู้จัดบริการโทรคมนาคมดังกล่าว เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ได้ว่าไม่มีการได้รับหรือได้รับก่อนหรือหลังจากนั้น ข้อ 13 การอุทธรณ์คาสั่งทางปกครองตามข้อ 1 1 วรรคหนึ่ง ให้ผู้กระทาความผิดอุทธรณ์ คาสั่งนั้น โดยยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งดังกล่าว คาอุทธรณ์ต้องทาเป็นหนังสือ โดยระบุข้อโต้แย้งและข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายที่อ้างอิง ประกอบด้วย การอุทธรณ์ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการบังคับตามคาสั่งทางปกครอง เว้นแต่จ ะมีการสั่งให้ทุเลา การบังคับไว้ก่อนโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการสั่งให้ทุเลำการบังคับอาจกาหนดเงื่อนไขให้ผู้กระทาความผิดต้องปฏิบัติ ด้วยก็ได้ ้ หนา 14 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

ข้อ 14 การพิจารณาอุทธรณ์ตามข้อ 1 3 วรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้า หรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี พิจารณา คาอุทธ รณ์และแจ้งผู้อุทธรณ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีที่เห็นด้วยกับคาอุทธรณ์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ให้ดาเนินการเปลี่ยนแปลงคาสั่งทางปกครองตามความเห็นนั้นภายในกาหนดเวลา ดังกล่าวด้วย ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี ไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ให้เร่งรายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม ภายในกาหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือ ผู้ซึ่งได้รับมอบอำนาจพิจารณาคำอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน ถ้ามีเหตุจาเป็นไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวัน ให้แจ้ งให้ผู้อุทธรณ์ทราบก่อนครบกาหนดเวลา ดังกล่าว ในการนี้ให้ขยายระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ออกไปได้ไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ครบกาหนดเวลา ดังกล่าว ข้อ 15 ในกรณีที่มีการวินิจฉัยอุทธรณ์แล้ว หากผู้อุทธรณ์ไม่พอใจในคาวินิจฉัยอุทธรณ์ของ ผู้ทำคำสั่งทางปกครองหรือคำวินิจฉั ยของผู้มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์มีสิทธิฟ้องคดีต่อ ศาลปกครองได้ หรือในกรณีที่ครบกาหนดระยะเวลาในการพิจารณาอุทธรณ์แล้ว ไม่มีการวินิจฉัยอุทธรณ์ ผู้รับคาสั่งทางปกครองมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้ ข้อ 16 เมื่อผู้กระทาความผิดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคา สั่งโดยไม่มีเหตุอันสมควร ก่อนเริ่ม ดาเนินมาตรการบังคับทางปกครองตามมาตรา 82 (3) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือ ผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี มีหนังสือ แจ้งเตือนให้ผู้กระทาความผิดปฏิบัติตำมคำสั่งภายในระยะเวลาที่กาหนดตามควรแก่กรณี และให้ดาเนินการ ปิดประกาศหนังสือแจ้งเตือนดังกล่าว ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ ที่ทาการกานัน ที่ทาการ ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตาบล สถานีตารวจภูธรแห่งท้องที่ และสถานที่เกิดเหตุนั้น แห่งละ 1 ชุด แล้วจัดทำบันทึกการปิดประกาศไว้เป็นหลักฐาน หนังสือแจ้งเตือนตามวรรคหนึ่ง ต้องระบุ (1) มาตรการบังคับทางปกครองที่จะใช้ตามมาตรา 82 (3) ให้ชัดแจ้ง (2) ค่าใช้จ่ายและเงินเพิ่มรายวันในอัตราร้อยละยี่สิบห้าต่อปีของค่าใช้จ่ายดังกล่าว ในการที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าดาเนินการด้วยตนเองหรือมอบหมายให้ผู้อื่นกระทำการแทน การกำหนดค่าใช้จ่ายในหนังสือแจ้งเตือน ไม่เป็นการตัดสิทธิที่จะเรียกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หากจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงมากกว่าที่กำหนดไว้ ้ หนา 15 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

ข้อ 17 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำบัญชีทรัพย์สิน แผนที่สังเขป ภาพถ่ายทรัพย์สิน ที่จะยึดทาลาย รื้อถอน แก้ไข หรือทาประการอื่นใด ตามมาตรา 82 (3) และแจ้งความลงบันทึก ประจำวันต่อพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ เพื่อเป็นหลักฐาน แล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้ นไป ชั้นหนึ่งทราบก่อนดาเนินการตามข้อ 18 ข้อ 18 เมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามข้อ 1 6 ถ้าผู้กระทำความผิดยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามหนังสือแจ้งเตือน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ ป่า แล้วแต่กรณี ดาเนินมาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึด ทาลาย รื้อถอน แก้ไข หรือทาด้วยประการอื่น ตามมาตรา 82 (3) โดยดาเนินการด้วยตนเองหรือมอบหมายให้บุคคลอื่น กระทาการแทน โดยผู้กระทาความผิดจะต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายและเงินเพิ่มรายวันในอัตราร้อยละยี่สิบ ห้าต่อปี ของค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถ้าผู้กระทำความผิดหรือผู้อยู่ในบังคับของคำสั่งทางปกครองต่อสู้ขัดขวางการบังคับทางปกครอง พนักงานเจ้าหน้าที่อาจใช้กาลังเข้าดาเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการบังคับทางปกครองก็ได้ แต่ต้องกระทำโดยสมควรแก่เหตุ ในการใช้มาตรการทางปกครองตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง พนักงานเจ้าหน้าที่อาจแจ้ง ขอความช่วยเหลือ จากเจ้าพนักงานตารวจก็ได้ ข้อ 19 เมื่อดาเนินการตามข้อ 18 แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทำหน้าที่ เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าหรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี มีหนังสือแจ้งให้ ผู้กระทาความผิดชาระค่าใช้จ่ายและเงินเพิ่มรายวันในอัตราร้อยละยี่สิบห้าต่อปีของค่าใช้จ่ายดังกล่าว แก่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายในระยะเวลาที่กำหนด ข้อ 20 เมื่อครบกาหนดร ะยะเวลาตามข้อ 19 ถ้าผู้กระทาความผิดไม่ชาระค่าใช้จ่ายและ เงินเพิ่มรายวันโดยถูกต้องครบถ้วน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี มีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้กระทาความผิด ชาระค่าใช้จ่ายและเงินเพิ่มรายวัน ภายในระยะเวลาที่กาหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน และให้ ดาเนินการปิดประกาศหนังสือแจ้งเตือนดังกล่าว ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการกานัน ที่ทาการผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตาบล สถานีตารวจภูธรแห่งท้องที่ และสถานที่เกิดเหตุนั้น แห่งละ 1 ชุด แล้วจัดทำบันทึกการปิดประกาศไว้เป็นหลักฐาน ข้อ 21 เมื่อครบกาหนดระยะเวลาตามข้อ 2 0 ถ้าไม่มีการปฏิบัติตามหนังสือแจ้งเตือน ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยยึดหรืออายัดทรัพย์สิ น ของผู้กระทาความผิดและขายทอดตลาดเพื่อชาระเงินให้ครบถ้วน ภายในกาหนดสิบปีนับแต่วันที่คาสั่ง ทางปกครองที่กาหนดให้ชำระเงินเป็นที่สุด ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

การใช้มาตรการบังคับทางปกครองตามวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้มีอานาจออกคาสั่งใช้มาตรกำรบังคับทางปกครองและแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งผ่านการอบรมด้านการบังคับคดีจากกรมบังคับคดีหรือด้านการบังคับทางปกครองตามหลักสูตร ที่คณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองให้ความเห็นชอบหนึ่งคนหรือหลายคน เป็นเจ้าพนักงาน บังคับทางปกครอง เพื่อดาเนินการยึดหรือ อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน ในการดาเนินการยึดหรืออายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน สาหรับคาสั่งทางปกครอง ที่กาหนดให้ชาระเงินแต่ละคาสั่ง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อาจมอบหมายให้ เจ้าพนักงานบังคับทางปกครองหนึ่งคนหรือหลายคนร่วมเป็นเจ้าพนักงานบังคับทางปกครองก็ได้ ในกรณี ที่มอบหมายเจ้าพนักงานบังคับทางปกครองเพียงหนึ่งคน บุคคลดังกล่าวต้องสาเร็จการศึกษาปริญญาตรี ทางนิติศาสตร์ แต่ในกรณีที่มอบหมายเจ้าพนักงานบังคับทางปกครองห ลายคน ต้องมีเจ้าพนักงานบังคับ ทางปกครองอย่างน้อยหนึ่งคนสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีทางนิติศาสตร์ ในการแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับทางปกครองให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกบัตรประจาตัวเจ้าพนักงานบังคับทางปกครองโดยให้นาแบบบัตรและหลักเกณฑ์ในกา รออกบัตร ตามกฎหมายว่าด้วยบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐมาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ 22 ผู้กระทำความผิดอาจอุทธรณ์การใช้มาตรการบังคับทางปกครองตามข้อ 2 1 ก็ได้ การอุทธรณ์การใช้มาตรการบังคับทางปกครองให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการเดียวกับการอุทธรณ์คาสั่ง ทางปกครองตามประกาศนี้ กรณีที่มีการอุทธรณ์การใช้มาตรการบังคับทางปกครองและขอทุเลาการบังคับตามมาตรการ ดังกล่าว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แล้วแต่กรณี อาจสั่งให้มีการทุเลาการบังคั บทางปกครองไว้ก่อนก็ได้ โดยมีอานาจ กำหนดเงื่อนไขให้ผู้กระทำความผิดต้องปฏิบัติด้วยก็ได้ ข้อ 23 ผู้อุทธรณ์การใช้มาตรการบังคับทางปกครอง มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับคาสั่งที่มีการบังคับทางปกครองนั้น ข้อ 24 เพื่อประโยช น์ในการบังคับทางปกครอง ให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีอำนาจ (1) มีหนังสือสอบถามสถาบันการเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนียน ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย กรมที่ดิน กรมการขนส่งทางบก กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือหน่วยงานอื่นของ รัฐ ที่มีหน้าที่ควบคุมทรัพย์สินที่มีทะเบียน เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมาตรการบังคับทางปกครอง ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566

(2) มีหนังสือขอให้นายทะเบียน พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลอื่นผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ระงับการจดทะเบียนหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของ มาตรการบังคับทางปกครองไว้เป็นการชั่วคราวเท่าที่จาเป็นเนื่องจากมีเหตุขัดข้องที่ทาให้ไม่อาจยึดหรือ อายัดทรัพย์สินได้ทันที และเมื่อเหตุขัดข้องสิ้นสุดลงให้แจ้งยกเลิกหนังสื อดังกล่าว ทั้งนี้ ต้องปฏิบัติตาม หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการระงับการจดทะเบียนหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อาจร้องขอให้สำนักงานอัยการสูงสุด หรือหน่วยงานอื่น สืบหาทรัพย์สินแทนได้ ในกรณีที่จาน วนเงินที่ต้องชาระตามมาตรการบังคับทางปกครองมีมูลค่าตั้งแต่ สองล้านบาทขึ้นไป กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อาจมอบหมายให้เอกชนสืบหาทรัพย์สิน แทนก็ได้ ข้อ 25 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือหั วหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี ดาเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 82 (1) หรือมาตรา 82 ( 2) ข้อ 26 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้ทาหน้าที่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือหัวหน้าเขตห้ามล่า สัตว์ป่า แล้วแต่กรณี รายงานผลการดาเนินการให้ผู้บังคับบัญชาตามลาดับชั้น จนถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทราบโดยเร็ว ข้อ 27 คาสั่ง ประกาศ สัญญา หนังสือ บันทึก รายงาน ทะเบียน บัญชี และเอกสาร ที่เกี่ยวข้องตามประกาศนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรืออธิบดีกรมประมงแล้วแต่กรณี ประกาศกาหนด ข้อ 28 การออกคำสั่งทางปกครองให้ผู้หนึ่งผู้ใดงดเว้นการกระทำใด ๆ หรือสั่งให้ออกไปจาก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามมาตรา 82 (1) ให้ใช้หลักเกณฑ์ที่กาหนดในประกาศนี้ด้วย โดยอนุโลม ข้อ 29 การใช้มาตรการบังคับทางปกครอง ไม่ตัดสิทธิกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่จะดาเนินคดีแพ่งและคดีล้มละลายกับผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด ข้อ 30 การปฏิบัติหน้าที่หรือการใช้อานาจของพนักงำนเจ้าหน้าที่ในเรื่องใดซึ่งประกาศนี้ ไม่ได้กาหนดไว้โดยเฉพาะ ให้นาบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 253 9 กฎกระทรวง และประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าวมาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม ประกาศ ณ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 256 5 วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ้ หนา 18 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 24 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 กุมภาพันธ์ 2566