ประกาศสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เรื่อง การจัดทำฐานข้อมูลการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้ง การนำส่ง การเชื่อมโยงข้อมูล การรายงานผลงานวิจัยและนวัตกรรม และการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน พ.ศ. 2565
ประกาศสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เรื่อง การจัดทำฐานข้อมูลการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้ง การนำส่ง การเชื่อมโยงข้อมูล การรายงานผลงานวิจัยและนวัตกรรม และการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน พ.ศ. 2565
ประกาศสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เรื่อง การจัดทำฐานข้อมูลการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้ง การนำส่ง การเชื่อมโยงข้อมูล การรายงานผลงานวิจัยและนวัตกรรม และการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรให้มีประกาศการจัดทาฐานข้อมูลการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้ง การนาส่ง การเชื่อมโยงข้อมูล การรายงาน ผลงานวิจัยและนวัตกรรม และการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน เพื่อประโยชน์ในการบูรณาการ บริหารจัดการ และวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในภาพรวมของประเทศ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 11 (7) แ ห่งพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 44 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ การอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 มาตรา 22 วรรคสาม มาตรา 23 และมาตรา 27 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562 ประกอบกับ มติที่ประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติ เรื่อง การจัดทาฐานข้อมูลการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้ง การนำส่ง การเชื่อมโยงข้อมูล การรายงานผลงานวิจั ย และนวัตกรรม และการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน พ.ศ. 2565 ” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ในประกาศนี้ “ ข้อมูลการอุดมศึกษา ” หมายความว่า ข้อมูลที่เกี่ยวกับสถาบันอุดมศึกษาและการดาเนินงาน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของสถาบันอุดมศึกษา รวมถึงข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานปลัด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประกาศกาหนดโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการกากับนโยบายข้อมูลการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “ สถำบันอุดมศึกษา ” หมายความว่า สถาบันที่จัดการอุดมศึกษาระดับปริญญาและระดับ ต่ากว่าปริญญาทั้งที่เป็นของรัฐและเอกชน ้ หนา 37 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
“ ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ” หมายความว่า ข้อมูลที่เกี่ยวกับการพัฒนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ข้อมูลที่เกี่ยวกับแผนงาน โครงการและผล งานการวิจัยและนวัตกรรม งบประมาณ บุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน มาตรฐานและจริยธรรมการวิจัย ทรัพย์สินทางปัญญา ที่เกิดจากการวิจัยและนวัตกรรม และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวกับการวิจัยและนวัตกรรม “ หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม ” หมายความว่า หน่วยงานของรัฐและเอกชน รว มทั้ง สถาบันอุดมศึกษาที่ดำเนินการเกี่ยวกับการวิจัยและนวัตกรรม “ ฐานข้อมูล ” หมายความว่า ฐานข้อมูลการอุดมศึกษา และฐานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “ ฐานข้อมูลการอุดมศึกษา ” หมายความรวมถึงฐำนข้อมูลมาตรฐานการอุดมศึกษาด้วย “ การจัดส่งข้อมูล ” หมายความว่า การนาเข้าข้อมูลสู่ฐานข้อมูลการอุดมศึกษา และฐานข้อมูล วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้สามารถเข้าถึงและนาข้อมูลมาใช้ได้อย่างถูกต้อง และให้ หมายความรวมถึงการส่ง การนำส่งและการเชื่อมโยงข้อมูลด้วย “ การเปิดเผยข้อมูล ” หมายความว่า การเปิดเผย ข้อมูลการอุดมศึกษา และข้อมูลวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมต่อสาธารณชน “ สภานโยบาย ” หมายความว่า สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติ “ กสว. ” หมายความว่า คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณ ะกรรมการกำกับนโยบายข้อมูลการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “ กระทรวง ” หมายความว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “ สำนักงานปลัดกระทรวง ” หมายความว่า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม “ วช. ” หมายควำมว่า สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ “ สอวช. ” หมายความว่า สานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติ “ สกสว. ” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ข้อ 4 ให้ประธานสภานโยบายรักษาการตามประกาศนี้ ในกรณีที่มี ปัญหาในการปฏิบัติหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการตีความตามประกาศนี้ ให้ผู้อานวยการ สอวช. เสนอคณะกรรมการพิจารณาให้ความเห็นต่อประธานสภานโยบายเพื่อวินิจฉัย คาวินิจฉัย ของประธานสภานโยบายให้เป็นที่สุด ในกรณีที่มีความจาเป็นอย่างยิ่ง สภานโยบายอาจมีมติด้วยคะแนนเสียงไ ม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของกรรมการสภานโยบายทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ให้งดใช้ประกาศนี้บางส่วนได้ ้ หนา 38 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
หมวด 1 หลักการจัดทาฐานข้อมูล ข้อ 5 การจัดทาฐานข้อมูลตามประกาศนี้ หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบต้องยึดหลักการ ดังต่อไปนี้ (1) ไม่สร้างภาระเกินสมควรให้แก่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (2) มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบฐานข้อมูลที่เกี่ยวกับการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (3) มีเอกภาพในการดำเนินการระบบข้อมูลสารสนเทศกลางด้านการอุดมศึกษา และด้าน วิ ทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (4) ให้ผู้มีส่วนได้เสียที่ต้องการใช้ข้อมูลสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลตามสิทธิได้โดยสะดวก เพื่อไปใช้ประโยชน์ (5) มีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอสามารถตอบสนองวัตถุประสงค์และความต้องการของ ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม (6) มีการเชื่อมโยงข้อมูล ทั้งในและต่างประเทศให้ครบถ้วนและไร้รอยต่อเพื่อตอบสนอง ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม รวมทั้งต้องไม่มีการนาเข้าข้อมูลซ้าซ้อน (7) มีการจัดเก็บและเชื่อมโยงข้อมูลเป็นไปตามมาตรฐาน กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง (8) ยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งการกาหนด ชั้นความลับให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลเป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง (9) ความคุ้มค่าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในการจัดทำฐานข้อมูล ข้อ 6 การออกแบบ การจัดทำและการบริหารจัดการฐานข้อมูล ให้คำนึงถึงสิ่ง ดังต่อไปนี้ (1) ความสามารถระบุถึงความเชื่อมโยงของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างครบถ้วน ได้แก่ ผู้นาส่งข้อมูล ผู้รวบรวมข้อมูล ผู้ใช้งาน และผู้จัดทานโยบาย รวมถึงบทบาทหน้าที่ การมีส่วนร่วม และความสัมพันธ์ของบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (2) ความ สามารถระบุรูปแบบการให้บริการหรือกิจกรรมจากฐานข้อมูล เพื่อให้ข้อมูลมีศักยภาพ ที่จะนามาใช้งานได้หลากหลาย สามารถเพิ่มมูลค่าและก่อให้เกิดประโยชน์เพิ่มขึ้นต่อสาธารณชน เช่น การวิเคราะห์เชิงลึก การทำวิจัย และการทำความร่วมมือกับเครือข่ายหรือหน่วยงานต่าง ๆ (3 ) ความสามารถเข้าใจโครงสร้างและต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการ ให้สอดคล้องกับรายรับ วางแผนการปฏิบัติงาน การจัดสรรทรัพยากร และวางแผนการใช้จ่าย (4) ความสามารถระบุถึงประโยชน์และผลลัพธ์ที่ได้จากการดาเนินงานฐานข้อมูล เพื่อนำไปใช้ ต่อยอดงานวิชาการ หรือสร้างความรู้แก่สาธารณชน ้ หนา 39 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
(5) ความสามารถเข้าใจวงจรชีวิตของข้อมูล ( data life cycle ) ของการดาเนินงานฐานข้อมูล ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงผลสัมฤทธิ์ของการดาเนินงานฐานข้อมูล ข้อ 7 การออกแบบและจัดทำฐานข้อมูลการอุดมศึกษาต้องกำหนดให้ มีข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้ได้มาซึ่งผลอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ (1) การกำหนดนโยบาย ทิศทาง การวางแผน และการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาการ อุดมศึกษา รวมถึงการติดตามนโยบายและแผนดังกล่าว (2) โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษา และการวางแผนกาลังคนและจัดการศึกษา ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ (3) ความคุ้มค่าและประโยชน์ของการลงทุนการอุดมศึกษา ( return on higher education ) (4) การติดตาม ตรวจสอบการดาเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อวางแนวทางพัฒนาการ อุดมศึกษา (5) การพัฒนาหลั กสูตรให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และตอบสนองการสร้างกาลังคน ตามความต้องการของตลาด (6) การส่งเสริม การกากับดูแล การตรวจสอบ ติดตามและประเมินผล และการประกัน คุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา (7) การกำหนดแนวทางการพัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพ และกำหนดตาแหน่งทางวิชาการ ของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา ข้ อ 8 การออกแบบและจัดทาฐานข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมต้องกาหนด ให้ มีข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้ได้มาซึ่งผลอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ (1) การกาหนดนโยบาย ทิศทาง การวางแผน และการจัด สรรงบประมาณในการพัฒนา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมถึงการติดตามนโยบายและแผนดังกล่าวตามเป้าหมายนโยบาย ยุทธศาสตร์และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ (2) การวางแผนกาลังคนวิจัยและนวัตกรรมให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ และตลาดแรงงาน ( 3) ประโยชน์ของการลงทุนการวิจัยและสร้างนวัตกรรม รวมถึงการจัดสรรงบประมาณวิจัย และพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด (4) ศักยภาพของบุคลากรในด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (5) การใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม (6) ศักยภาพของหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม (7 ) ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโครงการวิจัยและนวัตกรรม (8) การยกระดับสถาบันวิจัย ศูนย์ความเป็นเลิศ ในระบบวิจัยและนวัตกรรม ้ หนา 40 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
(9) การสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยี ที่เหมาะสมและการนาผลงานดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในวงกว้าง ข้อ 9 ฐานข้อมูลต้องจัดเก็บข้อมูลตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ (1) การจัดเก็บข้อมูลต้องเก็บอยู่ในระบบกลางของรัฐหรือระบบของหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบ ในกรณีที่มีความจำเป็นอาจจัดเก็บในระบบของภาคเอกชนก็ได้ โดยต้องแจ้งคณะกรรมการหรือผู้มีหน้าที่ ควบคุมหรือกำกับดูแลผู้รั บผิดชอบฐานข้อมูลนั้น (2) การจัดเก็บข้อมูลต้องอยู่ในประเทศ ในกรณีที่มีความจาเป็นอาจจัดเก็บในต่างประเทศได้ โดยต้องขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการหรือผู้มีหน้าที่ควบคุมหรือกำกับดูแลผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลนั้น ข้อ 10 ผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมและบริหารฐานข้อมูลมีหน้าที่ดำ เนินการ ดังนี้ (1) กำหนดนโยบาย มาตรการ และมาตรฐานของระบบฐานข้อมูล (2) กำหนดแนวทางและขอบเขตการบริหารจัดการฐานข้อมูล (3) กำหนดรายละเอียดและวิธีการเกี่ยวกับ (ก) การจัดเก็บข้อมูล (ข) การควบคุมการใช้งานฐานข้อมูล (ค) การกำหนดระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (ง) การกำหนดระบบสำรองข้อมูล (จ) การกำหนดระบบการกู้คืนข้อมูล (ฉ) การกำหนดกรอบระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงหรือทบทวนข้อมูล (4) หน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ข้อ 11 การให้บริการฐานข้อมูลต้องดาเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีระบบ และมาตรการป้องกันรั กษาความปลอดภัยของข้อมูลและเฝ้าระวังการถูกโจมตีทางไซเบอร์ที่ปลอดภัย ตามมาตรฐานสากล หมวด 2 คณะกรรมการกากับนโยบายข้อมูลการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ข้อ 12 ให้สภานโยบายแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับนโยบายข้อมูลการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวั ตกรรม ประกอบด้วย (1) ปลัดกระทรวง ประธานกรรมการ (2) ประธาน กรรมการการอุดมศึกษาหรือผู้แทน กรรมการ (3) ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมหรือผู้แทน กรรมการ (4) รองปลัดกระทรวงซึ่ งรับผิดชอบงานด้านการอุดมศึกษา กรรมการ (5) ผู้อำ นวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กรรมการ ้ หนา 41 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
(6) ผู้อำนวยการ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา กรรมการ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (7) ผู้อำนวย การสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม กรรมการ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (8) ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ( องค์การมหาชน) กรรมการ (9) ผู้แทนกระทรว งดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรรมการ (10) ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่เกินสี่คน กรรมการ ให้รองผู้อานวยการสานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แห่งชาติที่สภานโยบายมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ และคณะก รรมการอาจแต่งตั้ง ผู้ช่วยเลขานุการได้จำนวนไม่เกินสองคน คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม การแต่งตั้ง วาระการดารงตาแหน่ง การพ้นจากตาแหน่งของ ประธานกรรมการตาม (1) และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (10) ให้เป็นไปตามที่สภานโยบายกำหนด ข้อ 13 คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (1) เสนอแนะสภานโยบายเพื่อกำหนดนโยบายในการจัดทา การนาส่งข้อมูล การบูรณาการ การเชื่อมโยงฐานข้อมูล การใช้ประโยชน์และการเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลของฐานข้อมูลการอุดมศึกษา และฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (2) กากับ เร่งรัด และติดตามให้ มีการจัดทาฐานข้อมูลดังกล่าว ตลอดจนการนาส่งข้อมูล การบูรณาการและการเชื่อมโยงกันระหว่างฐานข้อมูลดังกล่าว รวมทั้งการเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูล ต่อสาธารณชน ทั้งนี้ ตามนโยบายที่สภานโยบายกำหนดตาม (1) (3) ให้ข้อเสนอแนะระบบสถาปัตยกรรมของข้อมูล และแนวทางในการ จัดทาฐานข้อมูล เพื่อลดความซ้าซ้อนในการนาส่งข้อมูล และเพื่อให้เกิดความสะดวกในการบูรณาการและเชื่อมโยง ระหว่างฐานข้อมูล การเข้าถึงและการใช้ประโยชน์ (4) เสนอแนะแนวทางการปรับปรุงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง กับการจัดทำฐานข้อมูล (5) ประสานการดาเนินการจัดทาระบบข้อมูลให้สอดคล้องกับนโยบาย แผน และมติของ สภานโยบาย (6) เสนอแนะแนวทางและกลไกการสนับสนุนการส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์ ในการจัดทา ฐานข้อมูลต่อสภานโยบาย (7) เสนอแนะให้มีการเชื่อมโยงฐานข้อมูล เข้ากับฐานข้อมูลอื่นของรัฐและหน่วยงา นเอกชน ทั้งในและต่างประเทศต่อสภานโยบาย (8) รับข้อเสนอแนะและข้อร้องเรียนจากผู้มีส่วนได้เสีย และวินิจฉัยข้อร้องเรียนดังกล่าว (9) วินิจฉัยข้อขัดแย้งระหว่างหน่วยงานผู้รับผิดชอบตามข้อ 15 ้ หนา 42 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
(10) เชิญผู้แทนหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของเอกชน หรือบุคคลใดมาให้ข้อมูล ความเห็น หรือคาแนะนา ตลอดจนส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาในเรื่องที่อยู่ ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ (11) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดาเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดในหน้าที่และอานาจหรือเพื่อ ทำการแทนแล้วแจ้งให้ คณะกรรมการทราบ โดยถือเป็นมติของคณะกรรมการ (12) รายงานผลการดาเนินงานต่อสภานโยบายอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง (13) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามกฎหมาย กฎ ระเบียบข้อบังคับ หรือตามที่สภานโยบายมอบหมาย ในการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในส่วนที่กระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียประ เภทใด ให้คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียประเภทนั้นอย่างเหมาะสม การประชุมของคณะกรรมการให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด ข้อ 14 ในกรณีที่ผู้มีส่วนได้เสียผู้ใดเห็นว่าการดำเนินการตามประกาศนี้ของหน่วยงาน ผู้รับผิดชอบไม่ถูกต้อง สร้างภาระเกินสมควรให้ แก่ผู้มีส่วนได้เสีย หรือไม่ถูกต้องเหมาะสมในประการอื่น ผู้นั้นอาจร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรลงลายมือชื่อของตนให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบแก้ไขให้ถูกต้อง ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบการดาเนินการดังกล่าว เมื่อได้รับคำร้องเรียน ให้หน่วยงานพิจารณา ให้เสร็จภายใน สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียนและให้แจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบ หากหน่วยงานผู้รับผิดชอบที่รับคาร้องเรียนตามวรรคหนึ่งไม่แก้ไข หรือไม่ตอบข้อร้องเรียน ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคาร้องเรียน ผู้ร้องเรียนตามวรรคหนึ่งอาจนาข้อร้องเรียนดังกล่าวเสนอต่อ ค ณะกรรมการเพื่อให้คณะกรรมการวินิจฉัยต่อไป คาวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด และให้หน่วยงานที่ถูกร้องเรียนและผู้มีส่วนได้เสีย ปฏิบัติตามคาวินิจฉัยนั้นโดยเร็วและแจ้งให้คณะกรรมการทราบ ข้อ 15 ในกรณีที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลตั้งแต่สองหน่วยขึ้นไปมีข้อขั ดแย้งเกี่ยวกับ การดาเนินการตามประกาศนี้ ให้หน่วยงานดังกล่าวจัดประชุมหาทางออกร่วมกัน หากไม่สามารถตกลงกันได้ ให้เสนอเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัย คาวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามคาวินิจฉัยนั้นโดยเร็วและแจ้งให้คณะกรรมการทราบ หมวด 3 หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้ง การจัดส่งข้อมูล การรายงานผลงานวิจัยและนวัตกรรม และการเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณชน ข้อ 16 การแจ้งและการจัดส่งข้อมูลสู่ฐานข้อมูล หน่วยงานผู้ รับผิดชอบฐานข้อมูลต้องดาเนินการ ดังนี้ (1) ประกาศช่องทางการจัดส่งข้อมูลให้ผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บและจัดส่งข้อมูลทราบ ้ หนา 43 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
(2) จัดทำระบบในการแจ้ง การจัดส่งข้อมูลที่สามารถอานวยความสะดวกให้หน่วยงาน เจ้าของข้อมูลสามารถจัดส่งข้อมูลสู่ฐานข้อมูลได้โดยสะดวก (3) ไม่กำหนดให้มีการจัดส่งข้อมูลซ้าซ้อนอันเป็นการสร้างภาระให้แก่หน่วยงานเกินสมควร (4) กำหนดประเภทของข้อมูลและระยะเวลาจัดส่งให้ชัดเจน ในกรณีที่สามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับระบบสารสนเทศของหน่วยงานเจ้าของข้อมูล ผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลอาจให้เชื่อมโยงฐานข้อมูลกับระบบสารสนเทศดังกล่าวแทนการแจ้งและการจัดส่งข้อมูล โดยอาจกำหนดค่าใช้จ่ายในการให้บริการได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ข้อ 17 เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูล ผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลการอุดมศึกษา และฐานข้อมูล ด้านวิทยาศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ต้องดาเนินการให้มีการเชื่อมโยงการทำงานของฐานข้อมูลดังกล่าว เข้าด้วยกัน ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการเชื่อมโยงระบบข้อมูลสารสนเทศกับฐานข้อมูลอื่นของรัฐเพื่อประโยชน์ ในการจัดทานโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนด้านการอุดมศึกษา และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิ จัยและ นวัตกรรมของประเทศ รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณ และการติดตามประเมินผล ให้กระทรวงเสนอ สภานโยบายเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้เชื่อมโยงระบบข้อมูลสารสนเทศกับฐานข้อมูลอื่นของรัฐได้ ข้อ 18 หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมมีหน้าที่แจ้งหรือเชื่อมโยงข้อมูลโครงก ำร และรายงานผลงานวิจัยและนวัตกรรมแก่ วช. ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัย และนวัตกรรม การรายงานผลงานวิจัยและนวัตกรรมอาจนาส่งเป็นสรุปรายงานได้ ในกรณีที่มีข้อมูลที่อาจ ส่งผลกระทบอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ (1) ความลับทางการค้า หรือการประกอบ ธุรกิจของหน่วยงานเอกชน (2) ความมั่นคงของประเทศ หรือความเสียหายต่อชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของรัฐหรือ ของประชาชน (3) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือการวางนโยบายระหว่างประเทศ (4) ผลกระทบอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนด ข้อ 19 หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมเจ้าขอ งข้อมูลโครงการอาจจัดทาคาขอจัดส่ง สรุปรายงานแทนการแจ้งหรือเชื่อมโยงข้อมูลโครงการ ตามแนวทางที่ วช. กำหนด คาขอตามวรรคหนึ่งและการจัดส่งสรุปรายงานการดาเนินงานแทนการแจ้งหรือเชื่อมโยงข้อมูล ตามวรรคหนึ่งต้องระบุเหตุผลความจำเป็น ผลกระทบ และระยะเวลาในการเปิดเผยหรื อไม่เปิดเผยข้อมูล สรุปรายงานตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ (1) ชื่อโครงการและผู้วิจัยในโครงการ (2) สรุปสาระสำคัญเท่าที่ไม่เกิดผลกระทบตามข้อ 18 ้ หนา 44 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
ข้อ 20 วช. มีหน้าที่จัดเก็บ รักษา และคุ้มครองข้อมูลสรุปรายงานการดาเนินงานโครงการ ให้เป็นความลับตามมาตรการและแนวปฏิบัติที่คณะกรรมการกาหนด ข้อ 21 การเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณชนตามประกาศนี้ หน่วยงานที่มีหน้าที่ รับผิดชอบต้องยึดหลักการ ดังต่อไปนี้ (1) ความถูกต้องและสมบูรณ์ของข้อมูล โดยไม่มีข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคง หรือข้อมูลที่เป็นความลับ (2) ข้อมูลควรถูกเผยแพร่จากแหล่งข้อมูลโดยตรง โดยอาจทำให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลสรุป (3) ข้อมูลควรเป็นปัจจุบัน หรือตามความจำเป็นของการใช้ประโยชน์ข้อมูลนั้น (4) ข้อมูลที่เผยแพร่ต้องให้ทุ กคนสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก สามารถนาข้อมูลไปใช้ได้ โดยไม่ต้องมีการลงทะเบียนผู้ใช้ และรองรับการใช้งานจากทุกแพลตฟอร์ม (5) ข้อมูลต้องอยู่ในรูปแบบที่สามารถนาไปประมวลผลได้โดยอัตโนมัติ (6) การใช้งานข้อมูลจะต้องไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ และไม่ควรมีข้อจำกัดการ ใช้ข้อมูล ข้อ 22 การเปิดเผยข้อมูลจากฐานข้อมูลต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแนวปฏิบัติที่ภาครัฐกำหนดอย่างน้อย ดังนี้ (1) กฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของราชการ (2) กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (3) กฎหมายเกี่ ยวกับความลับทางการค้า ข้อ 23 ในกรณีที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลที่เปิดเผยไปวิเคราะห์ สังเคราะห์แล้วตามหน้าที่ และอานาจ หน่วยงานนั้นสามารถเผยแพร่ผลการวิเคราะห์ สังเคราะห์ดังกล่าวผ่านช่องทางระบบสารสนเทศ ที่เหมาะสมเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ได้ การให้บริการข้อมูลแก่หน่วยงานเพื่อนาไปใช้ประโยชน์ตามวรรคหนึ่งอาจกาหนดให้มีค่าใช้บริการข้อมูล เพื่อนำรายได้ไปพัฒนาปรับปรุงฐานข้อมูลและการให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ข้อ 24 หน่วยงาน ผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลต้องจัดให้มีการเผยแพร่ข้อมูล โดยดำเนินการ ดังนี้ (1) ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน (2) จัดทำข้อมูลเป็นหมวดหมู่ให้สะดวกต่อการสืบค้นและใช้งาน (3) จัดทาข้อมูลในรูปแบบดิจิทัลซึ่งสามารถอ่าน สืบค้น และนาไปใช้ประโยช น์ต่อได้ด้วย เครื่องมือทางเทคโนโลยี ข้อ 25 หน่วยงานผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลต้องจัดให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลจากฐานข้อมูล กับระบบสารสนเทศของ สอวช. และ สกสว. รวมถึงการใช้ฐานข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการประมวลผลข้อมูล สำหรับใช้ใน การวิเครำะ ห์ สังเคราะห์เพื่อการจัดทำ น โยบาย ยุทธ ศาสต ร์และแผน ด้านการอุดมศึกษา และด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งการกาหนดนโยบายที่เป็นวาระแห่งชาติ ตลอดจนการวางแผนในการจัดทากรอบวงเงินงบประมาณประจาปี และการจัดสรรทุนวิจัยและนวัตกรรม และหน้าที่อื่นตามหน้าที่และอำนาจของสภานโยบาย และ กสว. ้ หนา 45 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
สอวช. และ สกสว. มีอานาจเปิดเผยข้อมูลรายงานผลการวิเคราะห์ หรือสังเคราะห์ข้อมูล จากฐานข้อมูลตามวรรคหนึ่งต่อสาธารณะได้ตามหน้าที่และอานาจที่กฎหมายกาหนด ทั้งนี้ ต้องเป็น ข้อมูลที่ไม่กระทบต่อความลับทางการค้า ความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่า งประเทศ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น ข้อ 26 การเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลจากฐานข้อมูลให้ทาในรูปแบบข้อมูลดิจิทัล โดยอาจ ดาเนินการได้เป็นสองลักษณะ (1) การเปิดเผยต่อบุคคลหรือหน่วยงานเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ตามหน้าที่และอำนาจ (2) การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปให้เข้าถึงได้อย่างเสรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย บุคคลหรือหน่วยงานที่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยตามวรรคหนึ่งอาจนาผลที่ได้จาก การวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลตามวรรคหนึ่งไปเผยแพร่ ใช้ประโยชน์ หรือพัฒนางานและนวัตกรร ม ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ข้อ 27 ในกรณีที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลหรือมีข้อมูล ส่วนบุคคลอยู่ในความครอบครอง หน่วยงานนั้นต้องจัดให้มีระบบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามหลักการที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ หน่วยงานต้องการใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคล ให้หน่วยงาน ที่ต้องการใช้ข้อมูลดังกล่าว ขอเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานของรัฐที่ครอบครองข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยตรง ข้อ 28 ผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลต้องจัดให้มีมาตรการและการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล ที่มีประสิทธิภาพ มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังการถูกโจมตีทางไซเบอร์ที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยกำหนดนโยบาย วิธีปฏิบัติ และกระบวนการในการรักษาข้อมูลให้มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ ดัง นี้ (1) การจัดการรักษาข้อมูลให้ถูกต้องสมบูรณ์พร้อมสาหรับผู้ที่มีสิทธิในการใช้ข้อมูลสามารถใช้งาน ได้อยู่เสมอ (2) การป้องกันการสูญหายของข้อมูล (3) การจากัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ฐานข้อมูล การป้องกันฐานข้อมูลไม่ให้บุคคลที่ไม่มีสิทธิ์ เข้าถึงข้อมูล กระทาการที่ไม่พึงประสงค์อันจะก่อให้เกิดผลเสียกับระบบฐานข้อมูล เช่น การปรับปรุงข้อมูล การขโมยข้อมูล (4) การป้องกันข้อมูลและสารสนเทศ รวมถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบ และฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการจัดเก็บและถ่ายโอนข้อมูลสารสนเทศ ให้อยู่ในสถา นะที่มีความปลอดภัย เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและความเสียหายกับฐานข้อมูล (5) การมีระบบความปลอดภัยในการใช้งานในระบบเครือข่าย และมีระบบสำรองกู้คืนข้อมูล (6) การทำให้ระบบมีความเสถียรสามารถทำงานได้ตามปกติเต็มประสิทธิภาพตามจุดมุ่งหมาย การใช้งาน และมีระบบวิเคราะห์ควา มเสี่ยงเพื่อลดความเสียหายของข้อมูล ข้อ 29 ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลใดที่เป็นความลับ ต้องเก็บรักษาข้อมูลนั้นให้เป็น ความลับ ้ หนา 46 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566
ข้อ 30 เพื่อประโยชน์ในการวิจัยเชิงนโยบายซึ่งต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล หน่วยงาน ผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลอาจเปิดเผยข้อมูลในส่วนที่เกี่ย วกับบุคคล โดยปกปิดชื่อบุคคลหรือสิ่งซึ่งทาให้ เข้าใจได้ว่าเป็นบุคคลใด หรือใช้นามแฝง หรือใช้เป็นข้อมูลเชิงสถิติที่ไม่ระบุตัวบุคคล ข้อ 31 หน่วยงานผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลมีหน้าที่ประกาศให้สาธารณชนทราบข้อกาหนด เกี่ยวกับแนวทางการใช้การอ้างอิงข้อมูลจากฐานข้อมูล การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการเปิดเผยข้อมูล แก่บุคคล หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานเอกชน ข้อ 32 หน่วยงานผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลต้องมีระบบควบคุมดูแลการเผยแพร่ข้อมูล ทางเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่น โดยข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะต้องมีความถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วน ทันสมัย เชื่อถือได้ และสามารถตรวจสอบได้ ข้อ 33 หน่วยงานผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลต้องจัดให้มีระบบการติดตาม ตรวจสอบการเผยแพร่ข้อมูล รวมถึงการรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรคในการดำเนินการ เพื่อพัฒนา ทบทวน และปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้เหมาะสม ข้อ 34 หน่วยงานผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลต้องจัดให้มีช่องทางการติดต่อ สอบถาม ร้องเรียน และให้ข้อเสนอแนะ ข้อ 35 การกำหนดระยะเวลาในการเปิดเผยข้อมูลต้องกาหนดเวลาอย่างเพียงพอและทันเวลา สาหรับการใช้งาน โดยคานึงถึงประเภทของข้อมูล ลักษณะของข้อมูล และวัตถุประสงค์ในการใช้ งานข้อมูล ได้แก่ (1) การเปิดเผยข้อมูลตามรอบระยะเวลาบัญชีที่กฎหมายกำหนด (2) การเปิดเผยข้อมูลตามรอบระยะเวลาที่หน่วยงานเจ้าของข้อมูลกำหนด (3) การเปิดเผยข้อมูลตามเหตุการณ์ที่หน่วยงานเจ้าของข้อมูลกำหนด ระยะเวลาการเปิดเผยข้อมูลตามวรรคหนึ่งต้องกาหนดเวลาให้ชัดเ จนและมีแนวทางแจ้งให้ ผู้ใช้บริการข้อมูลทราบ บทเฉพาะกาล ข้อ 36 ให้หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบดาเนินการจัดทาฐานข้อมูลและแนวทางการเปิดเผย ข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ประกาศ ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 256 5 ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี ประธานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ้ หนา 47 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566