Thu Jan 26 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง รายละเอียดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอันเป็นสาระสำคัญที่ใช้เป็นพื้นฐานในการวินิจฉัยชั้นที่สุดเกี่ยวกับการพิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐอินโดนีเซียและมาเลเซีย พ.ศ. 2566


ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง รายละเอียดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอันเป็นสาระสำคัญที่ใช้เป็นพื้นฐานในการวินิจฉัยชั้นที่สุดเกี่ยวกับการพิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐอินโดนีเซียและมาเลเซีย พ.ศ. 2566

ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง รายละเอียดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอันเป็นสาระสำคัญที่ใช้เป็นพื้นฐานในการวินิจฉัยชั้นที่สุด เกี่ยวกับการพิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐอินโดนีเซียและมาเลเซีย พ.ศ. 2566 ตามที่ได้มีประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง เปิดการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้า ไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกาเนิดจากสาธารณรัฐอินโดนีเซียและสหพันธรัฐ มาเลเซีย พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564 และต่อมาคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุด หนุน ได้มีคาวินิจฉัยชั้นที่สุดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 กาหนดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด จากการนำเข้าสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกำเนิดจาก สาธารณรัฐอินโดนีเซียและมาเลเซีย ตามประกาศคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน เรื่อง การตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกาเนิดจากสาธารณรัฐอินโดนีเซียและมาเลเซีย พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ประกาศลงในราชกิจ จานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 นั้น เพื่อให้เป็นไปตามความในข้อ 2 และข้อ 4 ของกฎกระทรวงการแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ การพิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน และการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและ การอุดหนุน พ.ศ. 2563 ออกตามความในพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน ซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาด และการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ออกประกาศแสดงรา ยละเอียดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอันเป็นสาระสำคัญที่ใช้เป็นพื้นฐาน ในการวินิจฉัยชั้นที่สุดเกี่ยวกับการพิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาดไว้ ดังรายละเอียดตามเอกสารท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 25 6 6 รณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ้ หนา 32 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 20 ง ราชกิจจานุเบกษา 27 มกราคม 2566

1 เอกสารท้ายประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง รายละเอียดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอันเป็นสาระสาคัญ ที่ใช้เป็นพื้นฐานในการวินิจฉัยชั้นที่สุดเกี่ยวกับการพิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็น ชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐอินโดนีเซียและมาเลเซีย พ.ศ. 256 6 ข้อ 1 การเปิดไต่สวน การทุ่มตลาด และความเสียหาย 1.1 บริษัท โพสโค - ไทยน๊อคซ์ จํากัด (มหําชน) ผู้ผลิตสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ (เหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ) ยื่นคําขอในนํามของอุตสําหกรรมภํายในต่อกรมกํารค้ําต่ํางประเทศ เพื่อให้คณะกรรมกํารพิจํารณํากํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุน (คณะกรรมกําร ทตอ.) พิจํารณําตอบโต้กํารทุ่มตลําด ตํามมําตรํา 33 แห่งพระรําชบัญญัติกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุนซึ่งสิ นค้ําจํากต่ํางประเทศ พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรําชบัญญัติกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุนซึ่งสินค้ําจํากต่ํางประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 และคณะกรรมกําร ทตอ. ได้มีคําวินิจฉัยเมื่อวันที่ 17 พฤษภําคม 2564 ว่ําคําขอมีมูลเกี่ยวกับ กํารทุ่มตลําดและควํามเสียหําย 1 . 2 กรมกํารค้ําต่ํางประเทศได้ออกประกําศ เรื่อง เปิดกํารไต่สวนกํารทุ่มตลําดสินค้ําเหล็กกล้ํา ไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกําเนิดจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและสหพันธรัฐมําเลเซีย พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 28 พฤษภําคม 2564 โดยประกําศในรําชกิจจํานุเบกษําเมื่อวันที่ 2 มิถุนํายน 2564 และได้ลงโฆษณําประกําศดังกล่ําวในหนังสือพิมพ์รํายวันฉบับภําษําไทยและภําษําอังกฤษ ฉบับวันที่ 30 มิถุนํายน 2564 ได้แก่ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และหนังสือพิมพ์บํางกอกโพสต์ เพื่อให้สําธํารณชน รับรู้และ ให้ผู้มีส่วนได้เสียสํามํารถด ําเนินกํารตํามที่กฎหมํายและกฎระเบียบก ําหนดด้วยควํามถูกต้องครบถ้วน ข้อ 2 การไต่สวนการทุ่มตลาดและความเสียหาย กรมกํารค้ําต่ํางประเทศได้ดําเนินกํารไต่สวนกํารทุ่มตลําดและควํามเสียหํายกรณีสินค้ําเหล็กกล้ํา ไร้สนิมรีดเย็น ชนิดม้วน แผ่น และแผ่ นแถบ ที่มีแหล่งก ําเนิดจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย ตํามหลักเกณฑ์ที่กําหนดตําม พ.ร.บ. กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุนซึ่งสินค้ําจํากต่ํางประเทศ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง โดยมีรํายละเอียดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมําย อันเป็นสําระส ําคัญที่ใช้เป็นพื้นฐํานในกํารพิจํารณํา ดังนี้ 2.1 สินค้าที่ถูกพิจารณา สินค้ําที่ถูกพิจํารณํา คือ เหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีควํามหนํา 0 . 3 - 3 . 0 มิลลิเมตร และมีควํามกว้ํางไม่เกิน 1,320 มิลลิเมตร ภํายใต้พิกัดศุลกํากร ประเภทย่อยตําม พระรําชก ําหนดพิกัดอัตรําศุลกํากร พ.ศ. 2530 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรําชกําหนดพิกัดอัตรําศุลกํากร (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2564 และรหัสสถิติ ตํามรหัสสถิติที่แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม ฉบับปี 2565 ตํามประกําศกรมศุลกํากร ที่ 199/2564 เรื่อง กํารแก้ไขเพิ่มเติมรหัส สถิติสินค้ํา ลงวันที่ 24 ธันวําคม 2564 จ ํานวน 33 รํายกําร ได้แก่ 7219 . 32 . 00 . 020 7219 . 32 . 00 . 030 7219 . 32 . 00 . 040 7219 . 32 . 00 . 080 7219 . 32 . 00 . 090 7219 . 33 . 00 . 020 7219 . 33 . 00 . 030 7219 . 33 . 00 . 040 7219 . 33 . 00 . 080 7219 . 33 . 00 . 090 7219 . 34 . 00 . 020 7219 . 34 . 00 . 030 7219 . 34 . 00 . 040 7219 . 34 . 00 . 080 7219 . 34 . 00 . 090 7219 . 35 . 00 . 020 7219 . 35 . 00 . 030 7219 . 35 . 00 . 040 7219 . 35 . 00 . 080 7219 . 35 . 00 . 090 7219 . 90 . 00 . 000 7220 . 20 . 10 . 020 7220 . 20 . 10 . 030 7220 . 20 . 10 . 040 7220 . 20 . 10 . 080 7220 . 20 . 10 . 090 7220 . 20 . 90 . 020 7220 . 20 . 90 . 030 7220 . 20 . 90 . 040 7220 . 20 . 90 . 080 7220 . 20 . 90 . 090 7220 . 90 . 10 . 000 7220 . 90 . 90 . 000 ที่มีแหล่งก ําเนิดจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซีย และมําเลเซีย

2 2.2 ผู้มีส่วนได้เสียและผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการไต่สวน 2.2.1 ผู้ผลิตสินค้ําชนิดเดียวกันภํายในประเทศ ได้แก่ บริษัท โพสโค - ไทยน๊อคซ์ จ ํากัด (มหําชน) 2.2.2 ผู้ผลิตและผู้ส่งออกจํากต่ํางประเทศ ( 1) สําธํารณรัฐอินโดนีเซีย 1) PT . Jindal Stainless Indonesia 2) PT . Tsingshan Steel Indonesia 3) PT . Sulawesi Mining Investment 4) PT . Indonesia Guang Ching Nickel and Stainless Steel 5) PT . Indonesia Tsingshan Stainless Steel Industry 6) PT . Indonesia Ruipu Nickel and Chrome Alloy 7) PT . IMR ARC Steel 8) PT . Krakatau Steel ( 2) มําเลเซีย ได้แก่ Bahru Stainless SDN . BHD 2.2.3 ผู้นําเข้ํา ( 1) บริษัท 89 กรุ๊ป จํากัด ( 2) บริษัท เชนชน อินดัสตรี จ ํากัด ( 3) บริษัท เชียนชน เมทอล อินดัสตรี จ ํากัด ( 4) บริษัท เพนต้ํา ทิก อินดัสทรีส์ (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 5) บริษัท เฟดเดอรัล เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 6) บริษัท เยทํา จํากัด ( 7) บริษัท เลเซอร์อํารีนํา (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 8) บริษัท เลิศสยํามสตีล จ ํากัด ( 9) บริษัท เอ.บิล.อําร์ท.อินดัสเตรียล จ ํากัด ( 10) บริษัท เอ็กเซเล็น เมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 11) บริษัท เอ็น.ที.สตีล จํากัด ( 12) บริษัท เอ็นทีเค - จุฑําวรรณ เมทัล จํากัด ( 13) บริษัท เอ็ม.อําร์.แสตนเลสไพพ แอนด์ฟิตติ้ง จ ํากัด ( 14) บริษัท เอ็ม.ที.ปําล์มออยล์ จ ํากัด ( 15) บริษัท เอ็มเคเอฟเอฟ เลเซอร์ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 16) บริษัท เอ็มเอ็มไอ พรีซีชั่น ฟอร์มิ่ง (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 17) บริษัท เอ็มซีที (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 18) บริษั ท เอส.ซี.พี. ไพพ์ แอนด์ สตีล อินดัสตรี้ จ ํากัด ( 19) บริษัท เอส.ซีพี.ซินดิเคท จ ํากัด ( 20) บริษัท เอส.ที.เค สตีล จ ํากัด ( 21) บริษัท เอส.ที.เค.สแตนเลส สตีล จ ํากัด ( 2 2 ) บริษัท เอสที รุ่งเรื่องอุตสําหกรรมเหล็ก จ ํากัด ( 2 3 ) บริษัท เอี่ยมโลหะ จ ํากัด ( 24) บริษัท แกรนด์ อีสท์ แคปปิทอล จ ํากัด

3 ( 25) บริษัท แปซิฟิค ชีท แอนด์ คอยส์ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 26) บริษัท แพคเมท เเอโรสเปซ จ ํากัด ( 27) บริษัท แอ็ดวํานซ์ สเตนเลสสตีล จํากัด ( 28) บริษัท โคคุซัง พําร์ท (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 29) บริษัท โตเซน อินดัสเตรียล จํากัด ( 30) บริษัท โตโย มิลเลนเนียม จํากัด ( 31) บริษัท โตโยต้ําทูโช (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 32) บริษัท โตชิน อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จ ํากัด ( 33) บริษัท โตชิบําคอนซูมเมอร์ โปรดัคส์ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 34) บริษัท โลหะไทยสเตนเลส จ ํากัด ( 35) บริษัท โอ.เอช.เอส.ซี โฮลดิ้ง จํากัด ( 36) บริษัท โอ.เอช.เอส.ซี.เทรดดิ้ง จ ํากัด ( 37) บริษัท โอเอ็มซี คําร์โก้ จ ํากัด ( 38) บริษัท โอ้วเฮียบเซ่งเซียง จ ํากัด ( 39) บริษัท โฮชิน เคนซิ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 40) บริษัท ไทย เมทัล เพอร์ฟอเรชั่น จ ํากัด ( 41) บริษัท ไทยเชียริ่ง โลหะ จ ํากัด ( 42) บริษัท ไทยเฟําน์เทิน ออฟไลฟ์ จ ํากัด ( 43) บริษัท ไทยเฟําน์เทิน ออฟไลฟ์ ออโตโมทีพ จ ํากัด ( 44) บริษัท ไทยเม็ททอลเลเซอร์ จ ํากัด ( 45) บริษัท ไทยโอะคุโตะ จ ํากัด ( 46) บริษัท ไทยไวร์เม็ช จ ํากัด ( 47) บริษัท ไทยสเตนเลสสตีล จ ํากัด ( 48) บริษัท ไทยสแตนเลสแอนด์สตีลเอ็นจิเนียริ่ง จ ํากัด ( 49) บริษัท ไบรท์เมทเทิล จ ํากัด ( 50) บริษัท ไพศําลพูนทรัพย์ระยอง ( 1999 ) จํากัด ( 51) บริษัท ไมย์เออร์อินดัสตรีส์ จ ํากัด ( 52) บริษัท ไอเบล (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 53) บริษัท ไอเอสซีเอ็ม อินดัสทรี่ส์ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 54) บริษัท ไฮแคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จ ํากัด ( 55) บริษัท กุลธร สตีล จ ํากัด ( 56) บริษัท ควอลิตี้ไพพ์ แอนด์ สตีล แมนูแฟคเจอริ่ง จ ํากัด ( 57) บริษัท คอมมิวเวล (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 58) บริษัท คอยเทคสตีล (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 59) บริษัท คิมอัน เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 60) บริษัท จงฉี (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 61) บริษัท จุฑําวรรณ จํากัด ( 62) บริษัท ชลบุรีศรีเจริญโลหะ จํากัด

4 ( 63) บริษัท ซองชอล ไฮเทค (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 64) บริษัท ซิวปรีมแมชีนเนอร์รี่แมนูแฟคเจอริ่ง จ ํากัด ( 65) บริษัท ซี เอส นันเฟอร์รัส เซ็นเตอร์ จ ํากัด ( 66) บริษัท ซี รับ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 67) บริษัท ซี.เอ.โกลบอล แสตนเลส จํากัด ( 68) บริษัท ซีเอสเมทอล จ ํากัด ( 69) บริษัท ซี เอส นันเฟอร์รัส เซ็นเตอร์ จ ํากัด ( 70) บริษัท ซีพีแอล เอ็นเตอร์ไพรส์ จ ํากัด ( 71) บริษัท ญําสิทธิ์ จํากัด ( 72) บริษัท ดําต้ําโปรดักส์ ทอปปัง ฟอร์ม จํากัด ( 73) บริษัท ตระกูลไทยโปรดักส์ จ ํากัด ( 74) บริษัท ตรําเพชร จ ํากัด ( 75) บริษัท ทรีนีตี้ ไดนํามิค คอร์ปอเรชั่น จ ํากัด ( 76) บริษัท ท้อปโกลฟ เมดิคอล (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 77) บริษัท ทําจิม่ํา สตีล (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 78) บริษัท ทีเอ็นที เอ็กซเพรส เ วิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 79) บริษัท ทีแคป จ ํากัด ( 80) บริษัท ทีซีเจ เอเชีย (มหําชน) จ ํากัด ( 81) บริษัท ทีที โปรสตีล (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 82) บริษัท ทีที สตีล โปรเซสซิ่ง (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 83) บริษัท ทีที ออโตมอทีฟ สตีล ( ประเทศไทย) จ ํากัด ( 84) บริษัท ธําด ําพงศ์ อินเตอร์กรุ๊ป จ ํากัด ( 85) บริษัท นิโค สตีล เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 86) บริษัท นิชชิน สตีล (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 87) บริษัท นิชิอัส (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 88) บริษัท นิดิก อีเลคโทรนิค (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 89) บริษัท นิปปอน คินโซคุ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 90) บริษัท บีทรีอําร์เมทัล จ ํากัด ( 91) บริษัท ปัญญําวิจิตร โฮลดิ้ง จํากัด ( 92) บริษัท ผลิตภัณฑ์ตะแกรงเหล็กแผ่นไทย จ ํากัด ( 93) บริษัท พงศ์มํา เทรดดิ้ง จ ํากัด ( 94) บริษัท พอลลี่ แอลลี่ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 95) บริษัท ฟังเจียเป่ํา (รุ่งแสงเหล็กไทย) จ ํากัด ( 96) บริ ษัท มัลติ โซลูชั่น ซัพพลําย จ ํากัด ( 97) บริษัท มํารูเบนิ - อีโตชู สตีล พีทีอี จํากัด ( 98) บริษัท มิโยชิ ไฮเทค จ ํากัด ( 99) บริษัท ยู.ซี.เมทัล จํากัด ( 100) บริษัท ลีกัมกี่อินเตอร์เนชั่นแนล จ ํากัด

5 ( 101) บริษัท วิน วิน โฮลดิ้ง จ ํากัด ( 102) บริษัท วิศวกิจพัฒนํา จ ํา กัด ( 103) บริษัท ศรีรําชพฤกษ์ จ ํากัด ( 104) บริษัท ศุภสิน เมทัลเทรดดิ้ง จ ํากัด ( 105) บริษัท สยําม ดีเค เมทัล จํากัด ( 106) บริษัท สยํามเทเบิ้ลแวร์ จ ํากัด ( 107) บริษัท สยํามมิชลิน จํากัด ( 108) บริษัท สินทรัพย์ เมทัล จํากัด ( 109) บริษัท สินสยํามเม็ททอลเซ็นเตอร์ ( 1 984 ) จํากัด ( 110) บริษัท สินสยํามเอ็นจีเนียริ่ง จ ํากัด ( 111) บริษัท สินสยํามโปรเฟสชั่นสตีลแอนด์พําร์ท จ ํากัด ( 112) บริษัท สินสยํามอินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป ( 1991 ) จ ํากัด ( 113) บริษัท สุวรรณไทย โลหะกิจ จํากัด ( 114) บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 115) บริษัท อัศวเม็ททอล (ไทยแลนด์) จ ํากัด ( 116) บริษัท อินโนลําเท็กซ์ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 117) บริษัท อินซูลเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จ ํากัด ( 118) บริษัท อิวําตํานิ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 119) บริษัท อีสท์ แคปปิทอล เทคโนโลยี จํากัด ( 120) บริษัท อุตสําหกรรมเศษเหล็กไทย จ ํากัด ( 121) บริษัท อุตสําหกรรมสเตนเลสเคหภัณฑ์ จ ํากัด ( 122) บริษัท อุลตร้ําคอร์ อีเล็คโทรนิคซัพพลําย จ ํากัด ( 123) บริษัท ฮอนด้ํา เทรดดิ้ง เอเชีย จํากัด ( 124) บริษัท ฮัทชินสัน เทคโนโลยี โอเปอเรชั่นส์ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 125) บริษัท ฮันวํา ส ตีล เซอร์วิส (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 126) บริษัท ฮํานะ สตีล จ ํากัด ( 127) บริษัท เสถียรสเตนเลสสตีล จ ํากัด (มหําชน) ( 128) บริษัท โลหะกิจ เม็ททอล จ ํากัด (มหําชน) ( 129) บริษัท ไทย บริติช ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จ ํากัด (มหําชน) ( 130) บริษัท ไทย - เยอรมันโปรดักส์ จ ํากัด (มหําชน) ( 131) บริษัท ไทยฮั้วยํางพํารํา จ ํากัด (มหําชน) ( 132) บริษัท ที.ซี.เจ.เอเซีย จ ํากัด (มหําชน) ( 133) บริษัท นิชิอัส (ไทยแลนด์) จ ํากัด (มหําชน) ( 134) ห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัด โอทีแอล (ประเทศไทย) ( 135) ห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัด ไทยเชียร์ริ่งโลหะ ( 136) ห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัด ไทยฮั่วฮง ( 137) ห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัด ที.พี.ทรัพย์เจริญ ( 138) ห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัด พี.เค สตีลเซ็นเตอร์

6 ( 139) ห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัด อภิโปรดักต์ ( 1992 ) ( 140) ห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัด อินเตอร์เทค อีควิปเม้นท์ 2.2.4 สมําคมในทํางกํารค้ําและกลุ่มอุตสํา หกรรมที่เกี่ยวข้อง ( 1) สมําคมพัฒนําสเตนเลสไทย ( 2) กลุ่มอุตสําหกรรมเหล็ก สภําอุตสําหกรรมแห่งประเทศไทย 2.2.5 สถํานเอกอัครรําชทูตประจําประเทศ ไทย ในฐํานะผู้แทน รัฐบําลของ ประเทศผู้ส่งออก สินค้ําที่ถูกพิจํารณํา ( 1) สถํานเอกอัครรําชทูตอินโดนีเซีย ( 2) สถํานเอกอัครรําชทูตมําเลเซีย 2.3 ช่วง เวลาของข้อมูลที่ใช้ในการไต่สวน การทุ่มตลาดและความเสียหาย 2.3.1 กํารพิจํารณํากํารทุ่มตลําด ใช้ ข้อมูลระหว่ํางวันที่ 1 เมษํายน 256 3 ถึง 3 1 มีนําคม 256 4 2.3.2 กํารพิจํารณําควํามเสียหําย ใช้ข้อมูลระหว่ํางวันที่ 1 มกรําคม 2560 ถึง 31 มีนําคม 2564 โดยช่วงระยะเวลํากํารไต่สวน ( Investigation Period : IP ) คือ 1 เมษํายน 2563 ถึง 31 มีนําคม 2564 และช่วงเดียวกันก่อนช่วงระยะเวลํากํารไต่สวน ( Period Prior to Investigation Period : PP ) คือ 1 เมษํายน 2562 ถึง 31 มีนําคม 2563 2.4 การส่งแบบสอบถาม เมื่อวันที่ 4 มิถุนํายน 2564 กรมกํารค้ําต่ํางประเทศได้จัดส่ง แบบสอบถํามไปยังผู้มีส่วนได้เสีย และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ปรํากฏรํายชื่อตํามข้อ 2.2 เพื่อให้แจ้งข้อเท็จจริงและควํามเห็นส ําหรับใช้ประกอบ กํารพิจํารณํากํารไต่สวนกํารทุ่มตลําด ปรํากฏผู้ตอบแบบสอบถํามภํายในระยะเวลําที่ก ําหนด ดังนี้ 2.4. 1 ผู้ผลิตสินค้ําชนิดเดียวกันในประเทศ จ ํานวน 1 รําย คือ บริษัท โพสโค - ไทยน๊อคซ์ จ ํากัด (มหําชน) 2.4 .2 ผู้ผลิต หรือ ผู้ส่งออก จํากต่ํางประเทศ จ ํานวน 3 รําย ดังนี้ ( 1) สําธํารณรัฐอินโดนีเซีย 1) PT . Indonesia Ruipu Nickel and Chrome Alloy 2) PT . IMR ARC Steel ( 2) มําเลเซีย คือ Bahru Stainless SDN . BHD 2.4.3 ผู้นําเข้ํา จ ํานวน 5 รําย ดังนี้ ( 1) บริษัท โตโย มิลเลนเนียม จํากัด ( 2) บริษัท ไทย - เยอรมัน โปรดักส์ จ ํากัด (มหําชน) ( 3) บริษัท นิโค สตีล เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 4) บริษัท ฮันวํา สตีล เซอร์วิส (ประเทศไทย) จ ํากัด ( 5) บริษัท โฮชิน เคนชิ (ประเทศไทย) จ ํากัด 2.5 ความ คิด เห็นของผู้มีส่วนได้เสียและข้อชี้แจงของกรมการค้าต่างประเทศ ต่อการเปิดการไต่สวน กรมกํารค้ําต่ํางประเทศได้รับควํามคิดเห็นจํากผู้มีส่วนได้เสียต่อกํารเปิดไต่สวน ได้แก่ ผู้ แทน รัฐบําลสําธํารณรัฐอินโดนีเซีย และผู้น ําเข้ํา โดยมีประเด็นส ําคัญ ดังนี้ 2.5.1 ผู้แทนรัฐบําลสําธํารณรัฐอินโดนีเซีย มีควําม เห็นว่ํา ข้อมูลคําขอฯ ขําดหลักฐํานที่มีมูล เพียงพอเกี่ยวกับกํารทุ่มตลําด เนื่องจํากกํารคํานวณ มูลค่ําปกติหรือรําคําขํายใน สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียขึ้นใหม่

7 ในส่วนของวัตถุดิบจํากรําคํานําเข้ําสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดร้อนของ สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียบวกค่ําใช้จ่ําย ในกํารน ําเข้ําไม่มีควํามเหมําะสมเนื่อง จําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียมิได้มีกํารน ําเข้ําสินค้ําดังกล่ําวเป็นหลัก 2.5.2 ผู้แทนรัฐบําลสําธํารณรัฐอินโดนีเซีย มีควําม เห็น ว่ํา ผู้ยื่นคําขอกล่ําวอ้ํางว่ํามีกํารบิดเบือน รําคําขํายของสินค้ํา ใน สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียจึงเป็นเหตุให้มีกํารคํานวณมูลค่ําปกติขึ้นใหม่ ทั้งนี้ ผู้ยื่นคําขอ ขําดกําร นําเสนอเอกสํารหลักฐํานในกํารกล่ําวอ้ํางที่เพียงพอและเหมําะสม อีกทั้งเห็นว่ํา ในกํารผลิตสินค้ํา มีกํารใช้วัตถุดิบและกระบวนกํารผลิตเดียวกันอัน ส่ งผลกระทบทั้งต่อรําคําขํายในประเทศและรําคําขํายส่งออก มํายังประเทศไทยเช่นเดียวกัน ข้อชี้แจง ข้อมูลตํามคําขอมีควํามครบถ้วนและถูกต้องตํามมําตรํา 34 แห่ ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดยประกอบด้วยข้อมูลหลักฐําน เบื้องต้น ( Prima Facie ) ที่แสดงให้เห็น ถึงกํารทุ่มตลําด ควํามเสียหําย และสัมพันธ์ระหว่ํางกํารทุ่มตลําดและควํามเสียหําย ในส่วนของกํารคํานวณ มูลค่ําปกติขึ้นใหม่ตํามคําขอฯ มีรํายละเอียดเป็นไปตํามมําตรํา 15 แห่ง พระรําชบัญญัติกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ หลักเกณฑ์ตํามกฎกระทรวง (พ.ศ. 2543) และวิธีกํารที่กระทรวงพําณิชย์ประกําศกําหนด เรื่อง กํารยื่นคําขอ ให้ พิจํารณําตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2564 ที่ระบุให้ในกรณีที่ไม่มีข้ อมูลต้นทุนของผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกจําก ต่ํางประเทศ ให้คํานวณจํากข้อมูลที่เกี่ยวกับต้นทุนและปัจจัยกํารผลิตในประเทศไทย แต่ต้องปรับต้นทุน ดังกล่ําวให้เข้ํากับต้นทุนประเมินของผู้ผลิตในต่ํางประเทศ ดังนั้น กํารคํานวณมูลค่ําปกติขึ้นใหม่จํากรําคํา วัตถุดิบหลักที่ใช้ในกํารผลิตสินค้ําที่ ถูกพิจํารณํา คือ สินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดร้อน จึงมีควํามเหมําะสมและ น่ําเชื่อถือเพียงพอที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในกํารผลิตสินค้ําที่ถูกพิจํารณําและสินค้ําชนิดเดียวกัน ใน สําธํารณรัฐ อินโดนีเซีย จึงสอดคล้องกับบทบัญญัติข้อ 2.2 ของ ควํามตกลงว่ําด้วยกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด ขององค์กํารกํารค้ําโลก ( Anti - Dumping Agreement : ADA ) ในกํารคํานวณส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําดเพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐํานในกํารกําหนดมําตรกําร ตอบโต้กํารทุ่มตลําดเป็นไปตํามมําตรํา 18 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด และกํารอุดหนุน ซึ่งสินค้ําจํากต่ํางประเทศ พ.ศ. 2542 โดยกํารเปรียบเทียบมูลค่ําปกติที่ได้มีกํารชําระกันจริงและรําคําส่งออก มํายังประเทศไทย ตํามมําตรํา 14 และ มําตรํา 15 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด และ กํารอุดหนุนซึ่งสินค้ําจํากต่ํางประเทศ พ.ศ. 2542 2.5.3 ผู้นําเข้ํา มีควําม เห็นว่ํา มําตรกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดอําจก่อให้เกิดกํารผูกขําดในประเทศได้ เนื่องจํากประเทศไทยมีอุตสําหกรรมผู้ผลิตสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นเพียงรํายเดียว ข้อชี้แจง กํารไต่สวนกํารทุ่มตลําดเป็นกํารดําเนินกํารภํายใต้ พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้ กํารทุ่มตลําด และกํารอุดหนุนซึ่งสินค้ําจํากต่ํางประเทศ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเปิดโอกําส ให้อุตสําหกรรมภํายในสํามํารถยื่นคําขอให้ดําเนินกํารพิจํารณําตอบโต้กํารทุ่มตลําดได้หํากมีข้อมูลและหลักฐําน ว่ํามีกํารทุ่มตลําด และกํารทุ่มตลําดดังกล่ําวก่อให้เกิดควํามเสียหํายแก่อุตสําหกรรมภํายในประเทศ ทั้งนี้ ตํามมําตรํา 33 ได้ระบุว่ําผู้ยื่นคําขอต้องได้รับกํารสนับสนุนจํากผู้ผลิตสินค้ําชนิดเดียวกันที่มีปริมําณกํารผลิต รวมกันเกินกึ่งหนึ่งของปริมําณกํารผลิตสินค้ําชนิดเดียวกันของผู้ที่ได้แสดงควํามเห็นทั้ งส่วนที่สนับสนุนและ ส่วนที่คัดค้ํานรวมกัน โดยปริมําณกํารผลิตของฝ่ํายสนับสนุนต้องไม่น้อยกว่ําหนึ่งในสี่ของปริมําณกํารผลิตสินค้ํา ชนิดเดียวกันทั้งหมดในประเทศ ดังนั้น บริษัท โพสโค - ไทยน๊อคซ์ จํากัด (มหําชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรํายเดียว ในประเทศและมีปริมําณกํารผลิตคิดเป็นร้อยละ 100 ของปริมําณกํารผลิตทั้งหมด จึงมีสถํานะเป็น อุตสําหกรรมภํายในและสํามํารถยื่นค ําขอให้มีกํารพิจํารณําตอบโต้กํารทุ่มตลําดได้ 2 . 5 . 4 ผู้นําเข้ํา มีควําม เห็น ว่ํา กํารบังคับใช้มําตรกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดทําให้อุตสําหกรรม ต่อเนื่องมีทํางเลือกวัตถุดิบน้อยลงและมีต้นทุนกํารผลิตสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อกํารแข่งขันในตลําดโลก

8 ข้อชี้แจง วัตถุประสงค์ของกํารใช้มําตรกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด เพื่อเยียวยําควํามเสียหําย ของอุตสําหกรรมภํายในจํากกํารค้ําที่ไม่เป็นธรรมเพื่อนําไปสู่สภําวะตลําดที่มีกํารแข่งขันอย่ํางเป็นธรรม ทั้งนี้ มําตรกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดมิได้ห้ํามไม่ให้มีกํารนําเ ข้ําสินค้ําจํากต่ํางประเทศและไม่ครอบคลุมถึงสินค้ําจําก ประเทศอื่นที่ไม่มีกํารทุ่มตลําด ดังนั้น บริษัทฯ ยังคงมีทํางเลือกในกํารนําเข้ําสินค้ําจํากประเทศอื่นๆ ได้ นอกจํากนี้ กํารเรียกเก็บอํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําด จะเรียกเก็บในอัตรําที่เพียงพอต่อกํารขจัดควํามเสียหําย ที่เกิดจําก กํารทุ่มตลําด และไม่เกินส่วนเหลื่อม กํารทุ่มตลําด 2.5.5 ผู้น ําเข้ํา พบปัญหําคุณภําพวัตถุดิบบ่อยครั้ง เช่น ผิวลอก รอยขูดขีด บุบ ต้องตัดทิ้ง บํางส่วน ไม่สํามํารถเรียกร้องให้มีกํารชดเชยควํามเสียหํายได้ทั้งหมด ซึ่งอุตสําหกรรมภํายใน ไม่สํามํารถ แก้ไขปัญหําดังกล่ําวให้หมดไปได้ นอกจํากนี้ ผู้น ําเข้ํา บํางรําย รํายงํานว่ําอุตสําหกรรมภํายในไม่สํามํารถผลิตสินค้ํา ตํามคุณภําพที่ต้องกํารได้ เช่น ควํามสะอําดของพื้นผิว และรอยบนพื้นผิว ซึ่งสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ ที่ใช้ในอุตสําหกรรมกํารผลิต Hard disk จะไม่ใช่สินค้ําเกรดที่มีจ ําหน่ํายทั่วไป แต่เป็นสินค้ําที่ต้องผลิต ตํามควํามต้องกํารของบริษัท Hard disk และมีกํารควบคุมคุณภําพกํารผลิตอย่ํางเข้มงวด ข้อชี้แจง บริษัท โพสโค – ไทยน๊อคซ์ จ ํากัด (มหําชน) ในฐํานะอุตสําหกรรมผู้ผลิตสินค้ํา ในประเทศ ได้มีหนังสือ ชี้แจง ต่อประเด็นดังกล่ําว ดังนี้ (1) นโยบํายกํารจัดกํา รข้อร้องเรียนทํางเทคนิคของ อุตสําหกรรมภํายใน ( 2 ) กํารดูแลข้อเรียกร้องและชดเชยควํามเสียหํายอย่ํางเร่งด่วน และ (3) กํารควบคุม คุณภําพสินค้ําในอนําคต เพื่อ น ํามํา ประกอบกํารพิจํารณําของคณะอนุกรรมกํารพิจํารณํารํายละเอียด ทํางเทคนิคของสินค้ําเหล็ก ซึ่ง เมื่อวันที่ 24 กุมภําพันธ์ 2565 คณะอนุกรรมกําร พิจํารณํารํายละเอียด ทํางเทคนิคของสินค้ําเหล็กได้ มีมติว่ํา ปัญหําข้อร้องเรียนของผู้นําเข้ําเกี่ยวกับคุณภําพสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ ที่อุตสําหกรรมภํายในผลิตเป็นปัญหําตํามปกติซึ่งสํามํารถเกิดขึ้นได้ 2. 6 การ ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงของข้อมูล ( V erification ) เนื่องจํากสถํานกํารณ์กํารแพร่ระบําดของ เชื้อ ไวรัสโคโรน ํา 2019 ( COVID - 19 ) ท ําให้ กรม กํารค้ํา ต่ําง ประเทศ ไม่สํามํารถเดินทํางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ของ ข้อมูล แบบสอบถําม ณ ที่ทํากํารของ บริษัทฯ ได้ จึงดําเนินกํารตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลในรูปแบบ Desk Verification ผ่ํานระบบกํารประชุม อิเล็กทรอนิกส์ โดย กรมกํารค้ําต่ํางประเทศได้ดําเนินกํารตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลแบบสอบถํามของ บริษัท โพสโค - ไทยน๊อคซ์ จํากัด (มหําชน) ในฐํานะอุตสําหกรรมภํายในประเทศ เมื่อวันที่ 17 - 21 มกรําคม 2565 และผู้ผลิต/ผู้ส่งออกจํากต่ํางประเทศ จ ํานวน 3 รําย ได้แก่ PT . Indonesia Ruipu Nickel and Chrome Alloy และ PT . IMR ARC Steel จํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซีย และ Bahru Stainless SDN . BHD จํากมําเลเซีย เมื่อ วันที่ 1 - 18 มีนําคม 2565 พบว่ําข้อมูลคําตอบในแบบสอบถํามมีควํามน่ําเชื่อถือและ สํามํารถยอมรับได้ โดยข้อมูลที่ตรวจสอบตรงกับเอกสํารหลักฐํานต้นฉบับ และสอดคล้องกับหลักฐํานทํางบัญชี ที่ผ่ํานกํารรับรองแล้ว 2. 7 การแจ้งข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ใช้เป็นพื้นฐานในการวินิจฉัยร่างผลการไต่สวนชั้นที่สุด เพื่อรับฟังข้อโต้แย้งของผู้มีส่วนได้เสีย เมื่อวันที่ 25 กรกฎําคม 2565 กรมกํารค้ําต่ํางประเทศได้จัดส่งรํายละเอียดข้อมูล และ ข้อเท็จจริง ที่ใช้เป็นพื้นฐํานในกํารพิจํารณําวินิจฉัยร่ํางผลกํารไต่สวนชั้นที่สุดฯ ให้ผู้มีส่วนได้เสียเพื่อเปิดโอกําส ให้แสดง ควํามคิดเห็น/ยื่นข้อโต้แย้งต่อร่ํางผลกํารไต่สวน ดังกล่ําว ตํามมําตรํา 30 แห่ง พระรําชบัญญัติกํารตอบโต้

9 กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 และได้จัดกํารประชุมรับฟังควํามคิดเห็น ( Hearing ) ผ่ํานระบบกํารประชุม อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียยื่นข้อโต้แย้งและเสนอควํามเห็นด้วยวําจํา เมื่อ วันที่ 23 สิงหําคม 2565 โดยมีผู้มีส่วนได้เสียยื่นข้อโต้แย้งและแสดงควํามเห็นด้วยวําจําในกํารประชุมดังกล่ําวรวมทั้งยื่นข้อโต้แย้งและ เสนอควํามเห็นเป็นหนังสือ ได้แก่ ผู้แทน รัฐบําลสําธํารณรัฐอินโดนีเซีย และ รัฐบําล มําเลเซีย ผู้ผลิต และ ผู้ส่งออก สําธํารณรัฐอินโดนีเซีย และมําเลเซีย อุตสําหกรรมภํายใน และผู้น ําเข้ํา โดยมีประเด็นส ําคัญ ดังนี้ 2 . 7 . 1 การคานวณส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาด ( 1) ผู้ผลิตและผู้ส่งออกจํากมําเลเซียโต้แย้งว่ํา อัตรํากําไรที่ใช้ในกํารคํานวณมูลค่ําปกติ ขึ้นใหม่ ( Constructed Normal Value ) ไม่สะท้อนกํารขํายในเชิงพําณิชย์ จึงเห็นควรให้ใช้อัตรํากําไรเฉลี่ย จํากงบกํารเงินของบริษัทแม่ เนื่องจํากเป็นอัตรําก ําไรที่ถูกต้องที่ควรจะน ํามําใช้ในกํารคํานวณมูลค่ําปกติ ข้อชี้แจง กํารคํานวณมูลค่ําปกติ ขึ้นใหม่ โดยใช้ อัตรํากําไรจํากข้อมูลกํารผลิตและ กํารขํายที่เกิดขึ้นจริงของสินค้ําชนิดเดียวกันของผู้ส่งออกจํากต่ํา งประเทศในทํางกํารค้ําปกติเป็นอัตรํากําไร ที่เหมําะสมตํามมําตรํา 15 วรรคสอง (2) แห่งพระรําชบัญญัติกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด ฯ พ.ศ. 2542 และ บทบัญญัติข้อ 2 (1) แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ. 2543) และบทบัญญัติข้อ 2.2.2 ( i ) ของ ควํามตกลง ADA ( 2) ผู้ผลิตและผู้ส่งออกจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียโต้แย้งว่ํา กํารพิจํารณํา กํารขําย ในทํางกํารค้ําปกติหรือกําร ขํายต่ํากว่ําทุนที่นํามําคํานวณมูลค่ําปกติ ควร เปรียบเทียบรําคําขํายในประเทศกับ ต้นทุนรํายไตรมําส/เดือนควบคู่กับต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ําหนักตลอดช่วง ระยะเวลํากํารไต่สวน ( Inve stigation Period : IP ) ข้อชี้แจง กํารพิจํารณํากํารขํายต่ํากว่ําทุนโดยใช้ต้นทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ําหนักตลอดช่วง IP เป็นไปตําม หลักเกณฑ์ที่ก ําหนดใน มําตรํา 15 วรรคสําม แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 บทบัญญัติข้อ 2.2.1 ของ ควํามตกลง ADA และคําตัดสินของ Panel กรณีข้อพิพําท EC – Salmon from Norway ที่ วินิจฉัย ว่ํา กํารพิจํารณําว่ํารําคําขํายต่ ํากว่ําทุนตํามบทบัญญัติข้อ 2.2.1 ของควํามตกลง ADA จะต้องพิจํารณําโดยอ่ํานย้อนกลับ ( contrario ) กล่ําวคือ หํากรําคําขํายสูงกว่ําต้นทุนถั่วเฉลี่ยถ่วงน้ําหนัก ในช่วง IP ถือว่ําเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่ํารําคําขํายนั้นต่ํากว่ําต้นทุน และเป็นรําคําขํายที่จะไม่สํามํารถทําให้ คืนทุนภํายในเวลําที่เหมําะสม ( 3) ผู้ผลิตและผู้ส่งออกจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียโต้แย้งว่ํา กํารค ํานวณมูลค่ําปกติ ไม่ควร นํา ต้นทุนทํางกํารเงิน และรํายได้ และ ค่ําใช้จ่ํายอื่นๆ มํารวมเข้ําเป็นต้นทุน ของสินค้ําที่ถูกพิจํารณํา เนื่องจําก มีมูลค่ํา ติดลบ ข้อชี้แจง กํารพิจํารณําค่ําใช้จ่ํายในกํารจัดกําร กํารขําย และค่ําใช้จ่ํายอื่น ๆ เป็นไปตําม หลักเกณฑ์ที่กําหนดในมําตรํา 15 วรรคสอง ( 2 ) แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 และ บทบัญญัติ ข้อ 2 ( 1 ) แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ. 2543 ) และบทบัญญัติข้อ 2 . 2 . 2 ( i ) ของควํามตกลง ADA ที่ก ําหนดให้ใช้ข้อมูลกํารผลิตและกํารขํายที่เกิดขึ้นส ําหรับสินค้ําชนิดเดียวกันของผู้ผลิต/ผู้ส่งออกจําก ต่ํางประเทศ ( 4 ) ผู้ผลิตและผู้ส่งออกจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียโต้แย้งว่ํา ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ใช้เป็น พื้นฐํานในกํารวินิจฉัยร่ํางผลกํารไต่สวนชั้นที่สุดฯ (ฉบับปกปิด) มิได้ระบุรํายละเอียดคํานวณรําคําส่งออกของ ผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกจํากต่ํางประเทศ จึงค ํานวณรําคําส่งออก ณ หน้ําโรงงําน ขึ้นใหม่ ข้อชี้แจง กํารพิจํารณํารําคําส่งออกเป็นไปตํามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในมําตรํา 14 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 และบทบัญญัติข้อ 2.3 ของควํามตกลง ADA ที่กําหนดให้ใช้รําคําส่งออกจํากประเทศผู้ส่งออกมํายังประเทศไทยตํามที่ได้ชําระหรือควรมีกํารชําระกันจริง

10 โดยใช้ข้อมูลจํากคํา ตอบแบบสอบถํามของบริษัทผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกจํากต่ํางประเทศ ซึ่งกรมฯ ได้ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงของข้อมูลแล้วพบว่ําข้อมูลตํามคําตอบแบบสอบถํามมีควํามน่ําเชื่อถือและยอมรับได้ จึงนํามําใช้ ในกํารค ํานวณส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด ( 5) อุตสําหกรรมภํายในโต้แย้งว่ํา หํากกํารคํานวณรําคําส่งออกไม่ได้หักกําไรของบริษัท ที่เกี่ยวข้องกัน เห็นว่ําควรนําค่ําใช้จ่ํายดังกล่ําว รวมเข้ําเป็นต้นทุนในกํารพิจํารณํามูลค่ําปกติ และไม่ควร น ําค่ําใช้จ่ํายที่ไม่สํามํารถพิสูจน์ได้เป็นรํายธุรกรรมมําหักทอนเพื่อเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ข้อชี้แจง กํารพิจํารณํามูลค่ําปกติและรําคําส่งออกเป็นไปตําม หลักเกณฑ์ที่กําหนด ใน มําตรํา 15 และ มําตรํา 14 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 และบทบัญญัติข้อ 2 . 2 และข้อ 2 . 3 ของ ควํามตกลง ADA โดยใช้ข้อมูลจํากคําตอบแบบสอบถํามของบริษัทผู้ผลิตหรือผู้ส่งออก จํากต่ํางประเทศ ซึ่งกรมฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลแล้วพบว่ําข้อมูลตํามคําตอบแบบสอบถําม มีควํามน่ําเชื่อถือและยอมรับได้ จึงน ํามําใช้ในกํารค ํานวณส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด ( 6) อุตสําหกรรมภํายในโต้แย้งว่ํา ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ใช้เป็นพื้นฐํานในกํารวินิจฉัย ร่ํางผลกํารไต่สวน ชั้นที่สุดฯ (ฉบับเปิดเผย) มิได้ระบุรํายละเอียดกํารค ํานวณส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําดของผู้ผลิต ผู้ส่งออกจําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียและมําเลเซียอย่ํางเพียงพอ ข้อชี้แจง กรม กํารค้ําต่ํางประเทศ ได้แจ้งรํายละเอียด ข้อมูลและ ข้อเท็จจริงที่ใช้ใน กํารพิจํารณําวินิจฉัยร่ํางผลกํารไต่สวนฯ ซึ่งแสดงรํายละเอียดและวิธีค ํานวณส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด ฯ อย่ํางเพียงพอ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียมีโอกําสโต้แย้งตํามมําตรํา 30 ทั้งนี้ จะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่ต้องปกปิด ตํามมําตรํา 26 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( 7) อุตสําหกรรมภํายใน ขอให้พิจํารณําว่ําตลําด สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียมีลักษณะตลําด เฉพําะหรือไม่ เนื่องจําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียมีนโยบํายจ ํากัดกํารส่งออกนิกเกิลซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในกํารผลิต สินค้ํา เหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็น ที่ อําจท ําให้รําคําขําย ของสินค้ํา ถูกบิดเบือน หํากมี ไม่ควรน ํารําคําขํายในประเทศ และต้นทุนมําใช้ในกํารค ํานวณมูลค่ําปกติตํามบทบัญญัติข้อ 2.2 ของควํามตกลง ADA ข้อชี้แจง กรม กํารค้ําต่ํางประเทศ ได้ตรวจสอบควํามสมเหตุสมผลของรําคําต้นทุน ของสินค้ํา ( Arm ’ s Length Test ) พบว่ํารําคําวัตถุดิบที่ซื้อจํากบริษัทที่เกี่ยวข้องกันและบริษัทที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ไม่ได้แตกต่ํางกันอย่ํางมีนัยสําคัญ จึงนํารําคําขําย ในประเทศ และต้นทุนของผู้ผลิตจําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซีย มําใช้ในกํารคํานวณส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําดตํามมําตรํา 15 แห่ง พระรําชบัญญัติกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 และบทบัญญัติข้อ 2.2 ของควํามตกลง ADA 2 . 7 . 2 การ พิจารณาความเสียหาย ที่มีต่ออุตสาหกรรมภายในจากการนาเข้าสินค้าที่ถูกพิจารณา ( 1) ผู้แทน รัฐบําลสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย โต้แย้งว่ํา ปริมําณน ําเข้ํา จําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียและมําเลเซียไม่ก่อให้เกิดควํามเสียหําย แก่อุตสําหกรรมภํายใน เนื่องจํากมีสัดส่วนน้อย ( 2) ผู้แทน รัฐบําลสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย โต้แย้งว่ํา อุตสําหกรรมภํายใน ไม่ได้รับควํามเสียหําย จํากกํารน ําเข้ําสินค้ําจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและม ําเลเซีย ไม่ปรํากฏกํารยับยั้งกํารขึ้น รําคํา และอุตสําหกรรมภํายในมี ก ําไร จํากกํารขํายในประเทศที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังคงสํามํารถรักษําส่วนแบ่งตลําด ภํายในประเทศได้ นอกจํากนี้ ผลตอบแทนจํากกํารลงทุน กระแสเงินสดจํากกํารดําเนินงําน ค่ําจ้ํางแรงงําน และค่ําจ้ํางแรงงํานต่อหน่วยยังคงเพิ่มขึ้น และ สินค้ํา คง คลังลดลงในช่วง IP ( 3) ผู้แทน รัฐบําลสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย โต้แย้งว่ํา ไม่มีควํามสัมพันธ์ระหว่ําง กํารทุ่มตลําดและควํามเสียหําย เนื่องจํากปริมําณและมูลค่ําขํายของอุตสําหกรรมภํายในเป็นไปในทิศทําง เดียวกันกับปริมําณน ําเข้ําสินค้ําที่ถูกพิจํารณํา นอกจํากนี้ ไม่ได้พิจํารณําควํามสัมพันธ์ระหว่ํางกํารทุ่มตลําดและ

11 ควํามเสียหํายอย่ํางเหมําะสม โดย สรุปเพียงว่ํา เมื่อพิจํารณําปัจจัยอื่น ๆ พบว่ําไม่ใช่ปัจจัยที่ก่อให้เกิด ควํามเสียหํายต่ออุตสําหกรรมภํายใน ( 4 ) ผู้แทน รัฐบําลมําเลเซีย โต้แย้งว่ํา กํารพิจํารณําผลกระทบด้ํานรําคําเป็นกํารพิ จํารณํา รําคําเฉลี่ยของสองประเทศ ซึ่งไม่ได้สะท้อนผลกระทบด้ํานรําคําของสินค้ําจํากมําเลเซียเพียงประเทศเดียว ข้อชี้แจง กํารพิจํารณําควํามเสียหํายอย่ํางสําคัญที่เกิดแก่อุตสําหกรรมภํายในและ ควํามสัมพันธ์ระหว่ํางกํารทุ่มตลําดกับควํามเสียหํายต่ออุตสําหกรรมภํายในเป็นไปตํามมําตรํา 19 มําตรํา 20 และมําตรํา 21 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ซึ่งพบว่ํากํารนําเข้ําสินค้ํา ที่ถูกพิ จํารณําก่อให้เกิดควํามเสียหํายอย่ํางส ําคัญแก่อุตสําหกรรมภํายใน โดยปริมําณกํารน ําเข้ําสินค้ํา ที่ถูกพิจํารณํามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่ํางต่อเนื่องในปี 2560 – 2562 แม้จะลดลงในปี 2563 และ IP เนื่องจําก สถํานกํารณ์กํารแพร่ระบําดของ เชื้อ ไวรัสโคโรนํา 2019 ( COVID - 19 ) ที่มีต่ ออุตสําหกรรมเหล็กทั่วโลก นอกจํากนี้ สินค้ําที่ถูกพิจํารณํามีกํารขํายตัดรําคําเกรด 300 กดรําคํา และยับยั้งกํารขึ้นรําคําขํายสินค้ําของ อุตสําหกรรมภํายใน ซึ่งส่งผลกระทบต่อกํารประกอบกิจกํารของอุตสําหกรรมภํายใน เช่น กํารลดลงของ ยอดจ ําหน่ํายและปริมําณกํารขํายในประเทศ รําคําขํายในประเทศ กําไรจํากกํารขําย ปริมําณกํารผลิต และอัตรํากํารใช้กําลังกํารผลิต ส่วนแบ่งตลําด และผลตอบแทนจํากกํารลงทุนและกระแสเงินสดที่มีแนวโน้ม ลดลงและติดลบ เป็นต้น และเมื่อพิจํารณําปัจจัยอื่นๆ เช่น ปริมําณนําเข้ําสินค้ําจํากประเทศอื่นๆ ที่มีแนวโน้ม ลดลง รําคํานําเข้ําจํากประเทศอื่นๆ ที่ สูงกว่ํารําคํานําเข้ําจํากประเทศที่ถูกพิจํารณํา ช่องทํางกํารจัดจําหน่ําย ของอุตสําหกรรมภํายในที่หลํากหลํายรูปแบบ กระบวนกํารผลิตในภําคอุตสําหกรรมที่ไม่ได้มีกํารเปลี่ยนแปลง อย่ํางมีนัยสําคัญ สัดส่วนกํารขํายสินค้ําของอุตสําหกรรมภํายในที่มีกํารขํายในประเทศเป็นหลัก พบว่ําไม่ใช่ ปัจจัยที่ก่อให้ เกิดควํามเสียหํายต่ออุตสําหกรรมภํายใน กํารพิจํารณําควํามเสียหํายอย่ํางส ําคัญที่เกิดแก่อุตสําหกรรมภํายในสํามํารถ ประเมินผลของกํารน ําเข้ําจํากแต่ละประเทศรวมกันได้ตํามมําตรํา 20 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้ กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 กํารที่ผลประกอบกํารกิจกํารของอุตสําหกรรมภํายในดีขึ้นในช่วง IP ซึ่งเป็นช่วงเวลํา เดียวกันกับปริมําณกํารนําเข้ําของสินค้ําที่ถูกพิจํารณําที่ลดลง เป็นสถํานกํารณ์ที่บ่งชี้ได้ว่ําปริมําณกํารนําเข้ํา ดังกล่ําวมีควํามสัมพันธ์กับควํามเสียหํายที่เกิดแก่อุตสําหกรรมภํายใน 2 . 7 . 3 การผูกขาดในประเทศ ผู้น ําเข้ํา มีควําม เห็นว่ํา กระทรวงพําณิชย์ ควร กํากับดูแลและควบคุมรําคําเหล็กกล้ํา ไร้สนิมรีดเย็นฯ เนื่องจํากประเทศไทยมีผู้ผลิตสินค้ําดังกล่ําวในประเทศเพียงรํายเดียว ข้อชี้แจง สํานักงํานคณะกรรมกํารกลํางว่ําด้วยรําคําสินค้ําและบริกําร กรมกํารค้ํา ภํายใน ได้มีกํารติดตํามดูแลสถํานกํารณ์ รําคํา และปริมําณสินค้ําเหล็กตั้งแต่ต้นน้ํา กลํางน้ํา และปลํายน้ํา อย่ํางต่อเนื่อง เพื่อให้กํารพิจํารณํารําคําจ ําหน่ํายมีควํามเหมําะสม สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบ และเกิด ควํามเป็นธรรมกั บทุกฝ่ําย 2 . 7 . 4 ความจำเป็นในการนาเข้า ผู้นําเข้ํา ให้ข้อมูลว่ํา มีควํามจําเป็นต้องนําเข้ําสินค้ําจํากต่ํางประเทศ เนื่องจํากต้องกําร แหล่งวัตถุดิบที่หลํากหลํายเพื่อตอบสนองควํามต้องกํารของลูกค้ํา รวมทั้งกํารจัดกํารด้ํานคุณภําพ รําคําและ ระยะเวลําในกํารส่งมอบ ข้อชี้แจง วัตถุประสงค์ของ กํารใช้มําตรกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดเพื่อเยียวยํา ควํามเสียหํายของอุตสําหกรรมภํายในจํากกํารค้ําที่ไม่เป็นธรรมเพื่อน ําไปสู่สภําวะตลําดที่ มีกํารแข่งขัน

12 อย่ํางเป็นธรรม ทั้งนี้ มําตรกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดมิได้ห้ํามไม่ให้มีกํารน ําเข้ําสินค้ําจํากต่ํางประเทศ และไม่ครอบคลุมถึงสินค้ําจํากประเทศอื่นที่ไม่มีกํารทุ่มตลําด ดังนั้น บริษัทฯ ยังคงมีทํางเลือกในกํารนําเข้ํา สินค้ําจํากประเทศอื่นๆ ได้ นอกจํากนี้ กํารเรียกเก็บอํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําด จะเรียกเก็บในอัตรําที่เพียงพอ ต่อกํารขจัดควํามเสียหํายที่เกิดจํากกํารทุ่มตลําด และไม่เกินส่วนเหลื่อม กํารทุ่มตลําด 2 . 7 . 5 เอกสารการนาเข้า อุตสําหกรรมภํายในมีควํามเห็นว่ํา เพื่อให้กํารบังคับใช้มําตรกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด เป็นไปอย่ํางมีประสิทธิภําพ อุตสําหกรรมภํายในขอให้กรมกํารค้ําต่ํางประเทศกับกรมศุลกํากรหํารือเพื่อกําหนด หลักเกณฑ์และแนวทํางในกํารตรวจสอบแหล่งกําเนิดสินค้ํา รวมทั้งหลักฐํานประกอบกํารน ําเข้ํา ข้อชี้แจง เนื่องจํากกํารเรียกเก็บอํา กรตอบโต้กํารทุ่มตลําดเป็นไปตํามมําตรํา 49 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ที่กําหนดว่ํา ในกรณีที่มีกํารเรียกเก็บอํากรตอบโต้ กํารทุ่มตลําดจํากสินค้ําใด ให้นําบทบัญญัติกฎหมํายว่ําด้วยศุลกํากรและกฎหมํายว่ําด้วยพิกัดอัตรําศุลกํากร มําใช้บังคับกับกํารเรียกเก็บอํากรดังกล่ําวเสมือนอํากรนั้นเป็นอํากรขําเข้ําตํามกฎหมํายนั้น และอํากรตอบโต้ กําร ทุ่มตลําดที่เก็บได้ให้เก็บรักษําไว้เพื่อปฏิบัติตํามมําตรํา 59 จนกว่ําจะสิ้นเหตุที่จะต้องปฏิบัติตํามมําตรํา ดังกล่ําว ดังนั้น ขั้นตอนและหลักเกณฑ์กํารเรียกเก็บอํากรตอบโต้กํารทุ่ มตลําด รวมถึงเอกสํารประกอบกํารผ่ําน พิธีกํารศุลกํากร จึงอยู่ภํายใต้อ ํานําจหน้ําที่ของกรมศุลกํากร โดยให้ยึดอัตรํากํารเรียกเก็บอํากรฯ ขอบเขตสินค้ํา และเงื่อนไขเป็นไปตํามประกําศคณะกรรมกํารพิจํารณํากํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุนที่เกี่ยวข้อง 2 . 7 . 6 การยกเว้นการเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่ มตลาดสาหรับการนาสินค้าเข้ามาผลิต เพื่อการส่งออก ผู้นําเข้ําและอุตสําหกรรมภํายใน มีควํามเห็นเกี่ยวกับกํารยกเว้นกํารเรียกเก็บอํากร ตอบโต้กํารทุ่มตลําดสําหรับกํารน ําเข้ําสินค้ําเข้ํามําผลิตเพื่อกํารส่งออก ดังนี้ ( 1) ผู้นําเข้ํา มีควํามเห็นว่ํา กรมกํารค้ําต่ํางประเทศ ควร พิจํารณํายกเว้นกํารเรียกเก็บ อํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําด สําหรับกรณีกํารนําสินค้ําเข้ํามําผลิตเพื่อกํารส่งออกภํายใต้ (1) กฎหมํายว่ําด้วย กํารนิคมอุตสําหกรรมแห่งประเทศไทย (2) กฎหมํายว่ําด้วยกํารส่งเสริมกํารลงทุน และ (3) กฎหมํายว่ําด้วย ศุลกํากร ( 2) อุตสําหกรรมภํายในไม่เห็นด้วยกับกํารยกเว้นกํารเรียกเก็บอํากรตอบโต้ กํารทุ่มตลําดสําหรับกํารนําสินค้ําเข้ํามําผลิตเพื่อกํารส่งออก เนื่องจํากเงื่อนไขดังกล่ําวจะกระทบต่อกํารบังคับ ใช้มําตรกํารฯ ส่งผลให้สินค้ําทุ่มตลําดทะลักเข้ํามําในประเทศไทย และก่อให้เกิดผลกระทบในอนําคตกับ อุตสําหกรรมป ลํายน้ํา เนื่องจําก กํารยกเว้นในกรณีดังกล่ําวอําจถูกพิจํารณําว่ําเข้ําข่ํายกํารอุดหนุนที่มีเงื่อนไข เพื่อกํารส่งออก และเป็นกํารอุดหนุนที่ห้ํามมิให้กระทํา ตํามบทบัญญัติข้อ 1 และ 3 ของ ควําม ตกลงว่ําด้วย กํารตอบโต้กําร อุดหนุน ขององค์กํารกํารค้ําโลก ( Agreement on Subsidies and Coun tervailing Measures : SCM ) นอกจํากนี้ กํารยกเว้นกํารเรียกเก็บอํากรฯ ยังอําจเป็นกํารขัดต่อเจตนํารมณ์ของ พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องอุตสําหกรรมภํายในจํากกํารแข่งขันทํางกํารค้ําที่ไม่เป็นธรรม ข้อชี้แจง กํารพิจํารณําเรียกเก็บอํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําดในอัตรําร้อยละ 0 ของ รําคํา ซี ไอ เอฟ สําหรับกรณีนําเข้ํามําผลิตเพื่อส่งออกเป็นกํารดําเนินกํารภํายใต้มําตรํา 7 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ที่ก ําหนดว่ํากํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดให้ค ํานึงถึงประโยชน์ของ อุตสําหกรรมภํายใน ผู้บริโภค และประโยชน์สําธํารณะประกอบกัน

13 2. 8 การขอให้พิจารณายกเว้นการเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดสาหรับกรณีการนาสินค้า เหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นฯ เข้ามาใช้สำหรับการผลิตเพื่อการส่งออก เมื่อวันที่ 30 สิงหําคม 2565 กรม กํารค้ําต่ํางประเทศ จึงได้มีหนังสือถึง ผู้นําเข้ําและอุตสําหกรรม ภํายใน เพื่อขอข้อมูลและเอกสํารหลักฐํานเพิ่มเติมประกอบกํารพิจํารณํากํารยกเว้นกํารเรียกเก็บอํากรฯ 2. 8 .1 ข้อมูลประกอบการพิจารณาจากผู้นาเข้า/ผู้ใช้ ผู้นําเข้ํา ซึ่งเป็นผู้ใช้สินค้ําที่ถูกพิจํารณําในกําร ผลิตสินค้ําท่อเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็น สําหรับนําไปใช้ในอุตสําหกรรมน้ําตําล อุตสําหกรรมกํารผลิตน้ําแข็ง อําหําร เครื่องดื่มและยํา อุตสําหกรรม ปิโตรเคมี อุตสําหกรรมพลังงําน อุตสําหกรรมเยื่อกระดําษ อุตสําหกรรมยํานยนต์ ตลอดจนท่อส ําหรับ งํานตกแต่งและโครงสร้ ําง รวมถึงท่ อตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ ได้ขอให้กรมกํารค้ําต่ํางประเทศพิจํารณํายกเว้น กํารเรียกเก็บอํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําด สําหรับกรณีกํารนําสินค้ําเข้ํามําผลิตเพื่อกํารส่งออก โดยมีเหตุผล สนับสนุน ดังนี้ (1) สินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 79 - 92 ของต้นทุนผลิต (2) สัดส่วนกํารส่งออกสินค้ําท่อเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ มีทิศทําง เพิ่มมํากขึ้น 2. 8 .2 ข้อมูลประกอบการพิจารณาจากอุตสาหกรรมภายใน อุตสําหกรรมภํายในแสดงควํามไม่เห็นด้วยกับกํารยกเว้นกํารเรียกเก็บอํากรตอบโต้ กํารทุ่มตลําด ส ําหรับกรณีกํารน ําเข้ํามําผลิตเพื่อกํารส่งออก โดยมีเหตุผลสนับสนุน ดังนี้ (1) กํารยกเว้นฯ จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิผลของมําตรกํารฯ เนื่องจํากจะทําให้ มีกํารทะลักของสินค้ําในรําคําที่ไม่เป็นธรรมมํายังประเทศไทย และยังคงทําให้อุตสําหกรรมภํายในได้รับ ควํามเสียหําย (2) กํารยกเว้นฯ อําจถูกพิจํารณําได้ว่ําเข้ําข่ํายกํารอุดหนุนที่มีเงื่อนไขเพื่อกํารส่งออก (3) แม้กํารยกเว้นฯ จะเป็นกํารด ําเนินกํารโดยค ํานึงถึงผลประโยชน์สําธํารณะ ตํามมําตรํา 7 แห่งพระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ จะต้องเป็นไปตํามเจตนํารมณ์ และวัตถุประสงค์ของกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด (4) กลไกกํารตรวจสอบย้อนกลับตํามโครงกํารยกเว้นกรณีนําเข้ํามําผลิตเพื่อกํารส่งออก ยังไม่มีประสิทธิภําพในกํารรับรองว่ําสินค้ํานําเข้ําที่ได้รับกํารยกเว้นกํารเรียกเก็บอํากรฯ จะน ํามําใช้ในกํารผลิ ต สินค้ําเพื่อกํารส่งออกทั้งหมด (5) ประโยชน์ที่จะได้รับจํากกํารยกเว้นฯ มีสัดส่วนเล็กน้อยหรือไม่มีนัยส ําคัญ เนื่องจําก สัดส่วนกํารส่งออกสินค้ําท่อเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นมีเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัดส่วนกํารขํายในประเทศ 2. 8 .3 ข้อมูลการใช้สิทธิประโยชน์กรณีการนาเข้ามาผลิตเพื่อการส่งออก จํากข้อมูลสถิติกํารนําเข้ําของกรมศุลกํากรในช่วงปี 2561 - 2564 พบว่ํามูลค่ํา และสัดส่วนกํารใช้สิทธิประโยชน์กรณีน ําเข้ําสินค้ําจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซียมําผลิตเพื่อ กํารส่งออกเพิ่มขึ้นอย่ํางต่อเนื่อง 2 . 8 . 4 ข้อมูลประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้การอุดหนุน กํารพิจํารณําเพื่อก ําหนดใช้มําตรกํารตอบโต้กํารอุดหนุน เป็นกํารดําเนินกํารตําม ควําม ตกลง SCM โดยจะต้องอําศัยกํารพิจํารณําจํากข้อมูลข้อเท็จจริงที่ได้รับจํากผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งจะต้อง มีหลักฐํานที่เพียงพอต่อกํารพิจํารณําวินิจฉัยว่ํากํารอุดหนุนก่อให้เกิดควํามเสียหํายแก่อุตสําหกรรมภํายในและ มีควํามสัมพันธ์ระหว่ํางกํารอุดหนุนและควํามเสียหํายที่เกิดขึ้น นอกจํากนี้ ใ นกํารคํานวณอํากรตอบโต้ กํารอุดหนุนจะต้องพิจํารณําจํากผลประโยชน์ที่ผู้ได้รับกํารอุดหนุนได้รับเป็นรํายกรณี

14 2. 9 การวินิจฉัยชั้นที่สุดเกี่ยวกับการพิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาด กรมกํารค้ําต่ํางประเทศได้นําข้อมูลข้อเท็จจริง ผลกํารตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ควํามเห็น และข้อโต้แย้งต่อร่ํางผลกํารไต่สวนชั้นที่สุดที่ได้รับจํากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ําย มําจัดทํารํายงํานผลกํารไต่สวน ชั้นที่สุดเสนอต่อคณะกรรมกํารพิจํารณํากํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุน เพื่อพิจํารณําวินิจฉัยตํามหลักเกณฑ์ ที่กําหนดตําม พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยในกรณีที่ผู้มีส่วน ได้เสียปฏิเสธที่จะนําพยํานหลักฐํานมําแสดง ไม่นําพยํานหลักฐํานมําแสดงภํายในเวลําที่กําหนด หรือไม่ให้ ควํามร่วมมือเพื่อให้ได้มําซึ่งพยํานหลักฐําน หรือขัดขวํางกระบวนกํารพิจํารณําตอบโต้กํารทุ่มตลําด กํารพิจํารณําไต่สวนจะรับฟังเ พียงข้อเท็จจริงเท่ําที่มีอยู่หรืออําจรับฟังไปในทํางที่ไม่เป็นคุณแก่ผู้นั้นก็ได้ ตํามมําตรํา 27 แห่ง พระรําชบัญญัติกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ซึ่ ง คณะกรรมกํารพิจํารณํากํารทุ่มตลําด และกํารอุดหนุนพิจํารณําแล้วมีคําวินิจฉัยชั้นที่สุด เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกํายน 2565 โดยมีรํายละเอียด ดังนี้ 2. 9 .1 การพิจารณาการทุ่มตลาด กํารพิจํารณําส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําดเป็นไปตํามหลักเกณฑ์ที่กําหนด ตําม มําตรํา 18 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดย สรุป ผล กํารคํานวณมูลค่ําปกติและรําคําส่งออก เพื่อพิจํารณําส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําดของสินค้ําที่ถูกพิจํารณํา ได้ ดังนี้ ( 1) ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย 1) PT . IMR ARC STE E L ( ก ) มูลค่ําปกติ ค ํานวณจํากรําคําขํายใน สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียจํากค ําตอบแบบสอบถําม โดยวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ําหนัก และหักค่ําใช้จ่ํายต่ํางๆ เพื่อทอนเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้ มําตรํา 15 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ข ) รําคําส่งออก คํานวณจํากรําคําส่งออกมํายังประเทศไทย ณ ระดับรําคํา ซี ไอ เอฟ จํากคําตอบแบบสอบถํามโดยวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ ําหนัก และหักค่ําใช้จ่ํายต่ํางๆ เพื่อทอนเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 14 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ค ) ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลํา ด คํานวณโดยเปรียบเทียบระหว่ํางมูลค่ําปกติตําม ( ก ) และรําคําส่งออก ตําม ( ข ) ซึ่งเป็นรําคํา ณ ระดับกํารค้ําเดียวกันและในช่วงระยะเวลําเดียวกัน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 18 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้ กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดยพบ ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด ในอัตรําร้อยละ 6 . 28 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ 2 ) PT . Indonesia Ruipu Nickel and Chrome Alloy ( IRNC ) ( ก ) มูลค่ําปกติ ค ํานวณจํากรําคําขํายใน สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียจํากค ําตอบแบบสอบถําม โดยวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ําหนัก และหักค่ําใช้จ่ํายต่ําง ๆ เพื่อทอนเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้ มําตรํา 15 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ข ) รําคําส่งออก คํานวณจํากรําคําส่งออกมํายังประเทศไทย ณ ระดับรําคํา ซี ไอ เอฟ จําก คําตอบแบบสอบถํามโดยวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ําหนัก และหักค่ําใช้จ่ํายต่ําง ๆ เพื่อทอนเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 14 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542

15 ( ค ) ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด คํานวณโดยเปรียบเทียบระหว่ํางมูลค่ําปกติตําม ( ก ) และรําคําส่งออก ตําม ( ข ) ซึ่งเป็นรําคํา ณ ระดับกํารค้ําเดียวกันและในช่วงระยะเวลําเดียวกัน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 18 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้ กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดยพบ ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด ในอัตรําร้อยละ 7.02 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ 3) ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกรายอื่น ๆ จากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย กรณีของ ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกรํายอื่น ๆ ที่ ไม่ให้ควํามร่วมมือใน กระบวน กําร ไต่สวน กําร คํานวณส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด เป็นไป ตําม หลักเกณฑ์ ภํายใต้ มําตรํา 18 ประกอบมําตรํา 27 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ก ) มูลค่ําปกติ คํานวณโดยใช้มูลค่ําปกติของผู้ที่ให้ควํามร่วมมือใน กระบวน กํารไต่สวน จําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียซึ่งเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 15 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ข ) รําคําส่งออก ค ํานวณโดยใช้รําคําส่งออกของผู้ที่ให้ควํามร่วมมือใน กระบวน กํารไต่สวน จําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียซึ่งเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ ภํายใต้มําตรํา 14 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ค ) ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด คํานวณโดยเปรียบเทียบระหว่ํางมูลค่ําปกติตําม ( ก ) และรําคําส่งออก ตําม ( ข ) ซึ่งเป็นรําคํา ณ ระดับกํารค้ําเดียวกัน คือ รําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 18 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดยพบส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด ในอัตรํา ร้อยละ 77 . 61 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ ( 2 ) ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกจาก มาเลเซีย 1) Bahru Stainless SDN . BHD ( ก ) มูลค่ําปกติ ค ํานวณจํากรําคําขํายในมําเลเซียจํากค ําตอบแบบสอบถํามโดยวิธี ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ําหนักและหักค่ําใช้จ่ํายต่ําง ๆ เพื่อทอนเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 15 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ข ) รําคําส่งออก คํานวณจํากรําคําส่งออกมํายังประเทศไทย ณ ระดับรําคํา ซี ไอ พี และ ซี ไอ เอฟ จํากคําตอบแบบสอบถํามโดยวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ําหนักและหักค่ําใช้จ่ํายต่ํางๆ เพื่อทอนเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 14 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ค ) ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด คํานวณโดยเปรียบเทียบระหว่ํางมูลค่ําปกติตําม ( ก ) และรําคําส่งออก ตําม ( ข ) ซึ่งเป็นรําคํา ณ ระดับกํารค้ําเดียวกันและในช่วงระยะเวลําเดียวกัน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 18 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้ กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดยพบ ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด ในอัตรําร้อยละ 18 . 93 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ

16 2) ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกรายอื่น ๆ จากมาเลเซีย ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกรํายอื่น ๆ ที่ไม่ให้ควํามร่วมมือใน กระบวน กํารไต่สวน กําร ค ํานวณส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด เป็นไป ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 18 ประกอบมําตรํา 27 แห่ง พ ระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้ กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ก ) มูลค่ําปกติ คํานวณโดยใช้มูลค่ําปกติของผู้ที่ให้ควํามร่วมมือใน กระบวน กํารไต่สวน จําก มําเลเซีย ซึ่งเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 15 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้ กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ข ) รําคําส่งออก ค ํานวณโดยใช้รําคําส่งออกของผู้ที่ให้ควํามร่วมมือใน กระบวน กํารไต่สวน จํากมําเลเซียซึ่งเป็นรําคํา ณ หน้ําโรงงําน ตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 14 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้ กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 ( ค ) ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด คํานวณโดยเปรียบเทียบระหว่ํางมูลค่ําปกติตําม ( ก ) และรําคําส่งออก ตําม ( ข ) ซึ่งเป็นรําคํา ณ ระดับกํารค้ําเดียวกัน คือ รําคํา ณ หน้ําโรงงํานตํามหลักเกณฑ์ภํายใต้มําตรํา 18 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดยพบ ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลํา ด ในอัตรํา ร้อยละ 42 . 16 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ 2. 9 .2 การ พิจารณา ความเสียหายอย่างสำคัญที่เกิดแก่ อุตสาหกรรมภายใน กํารพิจํารณําควํามเสียหํายอย่ํางส ําคั ญที่เกิดแก่อุตสําหกรรมภํายในเป็นไ ป ตําม หลักเกณฑ์ ที่ก ําหนดตํามมําตรํา 19 และ มําตรํา 20 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดย พบว่ํามีควํามเสียหํายอย่ํางสําคัญที่เกิดแก่อุตสําหกรรมภํายในตํามมําตรํา 19 (1) โดยมี พยํานหลักฐํานโดยตรงสนับสนุนเกี่ยวกับปริมําณของสินค้ําทุ่มตลําดและผลของกํารทุ่มตลําดที่มีต่อรําคําของ สินค้ําชนิดเดียวกันในตลําดภํายในประเทศ และผลกระทบของกํารทุ่มตลําดที่มีต่ออุตสําหกรรมภํายใน ดังนี้ (1) ปริมาณของสินค้าทุ่มตลาดและผลของการทุ่มตลาดที่มีต่อราคา สินค้า ชนิดเดียวกันในตลาดภายในประเทศ 1) ปริมําณกํารน ําเข้ําสินค้ําทุ่มตลําด ตํามบทบัญญัติข้อ 2 (1) (ก) ภํายใต้กฎกระทรวงว่ําด้วยกํารก ําหนด หลักเกณฑ์และวิธีกํารเกี่ยวกับกํารพิจํารณําควํามเสียหํายที่เกิดแก่อุตสําหกรรมภํายในจํากกํารทุ่มตลําด หรืออุดหนุน พ.ศ. 2545 กําหนดว่ําในส่วนที่เกี่ยวกับปริมําณของสินค้ํานําเข้ําที่ทุ่มตลําดให้พิจํารณําว่ํา ได้มีกํารน ําเข้ําที่เพิ่มขึ้นโดยมีนัยส ําคัญหรือไม่ ไม่ว่ําจะพิจํารณําจํากปริมําณน ําเข้ําจริง หรือปริมําณ ที่เทียบเคียงกับปริมําณกํารผลิตหรือปริมําณกํารบริโภคในประเทศ ปริมําณกํารนําเข้ําสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ จํากประเทศที่ถูกพิจํารณํา มํายังประเทศไทยมีทิ ศทํางเพิ่มขึ้นในปี 2560 – 2562 และลดลงในปี 2563 และปี IP เนื่องจําก สถํานกํารณ์กํารแพร่ระบําดของ เชื้อ ไวรัสโคโรนํา 2019 ( COVID - 19 ) และมําตรกํารควบคุมกํารแพร่ระบําด ของภําครัฐซึ่งส่งผลกระทบต่อภําคอุตสําหกรรมในประเทศที่ถูกพิจํารณํา ทั้งนี้ หํากพิจํารณําปริมําณนําเข้ํา แยกเป็นรํายประเทศที่ถูกพิจํารณําพบว่ําปริมําณน ําเข้ําสินค้ําที่ถูกพิจํารณําจําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซีย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่ํางต่อเนื่อง ขณะที่ปริมําณกํารนําเข้ําสินค้ําที่ถูกพิจํารณําจํากมําเลเซียเพิ่มขึ้นในปี

17 2560 - 2562 และลดลงซึ่งเป็นผลมําจ ํากมําตรกํารล็อคดําวน์ชั่วครําวที่มีควํามเข้มงวดและหลํากหลําย ระดับในมําเลเซีย ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสําหกรรมกํารผลิตในประเทศดังกล่ําว 2) ผลของกํารทุ่มตลําดที่มีต่อรําคําสินค้ําชนิดเดียวกันในตลําดภํายในประเทศ ตํามบทบัญญัติข้อ 2 (1) (ข) ภํายใต้กฎกระทรวงว่ําด้วยกํารก ําหนด หลักเกณฑ์และวิธีกํารเกี่ยวกับกํารพิจํารณําควํามเสียหํายที่เกิดแก่อุตสําหกรรมภํายในจํากกํารทุ่มตลําดหรือ อุดหนุน พ.ศ. 2545 ก ําหนดว่ําในส่วนที่เกี่ยวกับผลของกํารนําเข้ําสินค้ําที่ทุ่มตลําดที่มีต่อรําคํา ให้พิจํารณําว่ํา รําคําของสินค้ําน ําเข้ําที่ทุ่มตลําดได้ มีกํารตัดรําคําโดยมีนัยส ําคัญเมื่อเทียบกับรําคําสินค้ําชนิดเดียวกัน ในประเทศหรือไม่ หรือมิเช่นนั้นกํารนําเข้ําสินค้ําดังกล่ําวจะมีผลเป็นกํารกดรําคําหรือหยุดยั้งกํารที่รําคําจะ ขยับตัวสูงขึ้นโดยมีนัยส ําคัญ เนื่องจํากกํารทุ่มตลําดนั้นหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อให้กํารเปรี ยบเทียบรําคําขํายสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ จําก ประเทศที่ถูกพิจํารณํากับรําคําขํายของอุตสําหกรรมภํายในสะท้อนผลกระทบทํางด้ํานรําคําอย่ํางแท้จริง เนื่องจํากสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ เป็นสินค้ําเหล็กที่มีคุณลักษณะพิเศษ โดยมีกํารจ ําแนกชนิดของสินค้ํา ภํายใต้รหัสสถิติ ประเภทย่ อยของกรมศุลกํากร ได้แก่ สินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ ชนิดออสเตนิติก เกรด 300 และชนิด เฟอร์ริติกเกรด 400 ซึ่งแต่ละชนิดสินค้ํามีรําคําแตกต่ํางกันตํามรําคําของวัตถุดิบ โดยพบว่ําสินค้ําชนิดออสเตนิติกเกรด 300 มีรําคําสูงกว่ําสินค้ําชนิดเฟอร์ริติกเกรด 400 และชนิดอื่น ๆ เนื่องจําก เกรด 300 มีส่วนประกอบของนิกเกิลซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในกํารผลิตที่มีรําคําสูง จึงพิจํารณํา ผลกระทบทํางด้ํานรําคําเพิ่มเติมเป็นรํายเกรดสินค้ํา และ จํากกํารเปรียบเทียบรําคําขํายของสินค้ํา ที่ ถูกพิจํารณําจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซียกับรําคําขํายของสินค้ ําชนิดเดียวกันของอุตสําหกรรมภํายใน ณ ขั้นตอนทํางกํารค้ําเดียวกันหรือในช่วงระยะเวลําเดียวกัน พบว่ําสินค้ํามีกํารตัดรําคําในกลุ่มเกรด 300 กดรําคํา และยับยั้งกํารขึ้นรําคําซึ่งส่งผลกระทบต่อรําคําขํายของสินค้ําชนิดเดียวกันของอุตสําหกรรมภํายใน (2) ผลกระทบของการทุ่มตลาดที่มีต่ออุตสาหกรรมภายใน ตํามบทบัญญัติข้อ 2 ( 2 ) (ก) ภํายใต้กฎกระทรวงว่ําด้วยกํารกําหนดหลักเกณฑ์ และวิธีกํารเกี่ยวกับกํารพิจํารณําควํามเสียหํายที่เกิดแก่อุตสําหกรรมภํายในจํากกํารทุ่มตลําดหรือกํารอุดหนุน พ.ศ. 2545 กําหนดว่ําในส่วนที่เกี่ยวกับผลกระทบจํากสินค้ํานําเข้ําที่ทุ่มตลําดให้พิจํารณํา โดยประเมินจําก ปัจจัยและดัชนีทํางเศรษฐกิจที่มีผลต่อสภําวะของอุตสําหกรรมภํายใน รวมทั้งกํารลดลงทั้งที่เป็นจริงและที่อําจ เกิดขึ้นของปัจจัยต่ํางๆ ดังต่อไปนี้ 1) มูลค่ําขําย ปริมําณขํายในประเทศ และรําค ําขํายในประเทศ ในช่วงปี 2560 – 2563 มูลค่ําขํายสินค้ําชนิดเดียวกันในประเทศของ อุตสําหกรรมภํายในลดลงอย่ํางมําก ซึ่งเป็นไปในทิศทํางเดียวกันกับปริมําณขํายและรําคําขํายในประเทศ เมื่อพิจํารณําในช่วง PP และ IP พบว่ํา มูลค่ําขําย ปริมําณขําย และรําคําขํายในประเทศยังคงมีทิศทํางลดลง 2) ก ําไร/ขําดทุนจํากกํารขํายในประเทศ ในช่วงปี 2560 – 2563 กําไรจํากกํารขํายสินค้ําชนิดเดียวกันในประเทศ ของอุตสําหกรรมภํายในลดลงอย่ํางต่อเนื่อง อย่ํางไรก็ตํามแม้อุตสําหกรรมภํายในจะมีกําไรเพิ่มขึ้นในช่วง IP แต่ยังคงมีกําไรน้อยกว่ ําเมื่อเทียบกับปี 2560 3 ) ก ําลังกํารผลิตและอัตรํากํารใช้ก ําลังกํารผลิต อุตสําหกรรมภํายในมีกําลังกํารผลิตคงที่ ในขณะที่อัตรํากํารใช้กําลังกํารผลิต มีทิศทํางลดลง

18 4) ผลผลิต ผลผลิตของอุตสําหกรรมภํายในมีทิศทํางลดลง 5 ) ผลิตภําพ ผลิตภําพของอุตสําหกรรมภํายในอยู่ในระดับคงที่ 6 ) ส่วนแบ่งตลําดและควํามต้องกํารใช้ในประเทศ ปริมําณควํามต้องกํารใช้ในประเทศมีทิศทํางลดลง ขณะที่ส่วนแบ่งตลําดของ อุตสําหกรรมภํายในลดลงและอยู่ในระดับคงที่ แต่ในปี 2561 ปริมําณควํามต้องกํารใช้ในประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนแบ่งตลํา ดของอุตสําหกรรมภํายในลดลง 7 ) ผลตอบแทนจํากกํารลงทุน ( ROA ) ผลตอบแทนกํารลงทุนมีแนวโน้มลดลง และติดลบในปี 2562 - 2563 และ ปี PP ในขณะที่ปี IP แม้จะเพิ่มขึ้นแต่ยังคงต่ ํากว่ําปี 2560 8 ) กระแสเงินสดจํากกํารด ําเนินงําน กระแสเงินสดจํากกํารดําเนินงํานของอุตสําหกรรมภํายในลดลงอย่ํางต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2560 เป็นติดลบในช่วงปี 2562 – 2563 และเมื่อพิจํารณําในช่วง PP พบว่ํากระแสเงินสด จํากกํารด ําเนินงํานยังคงติดลบ และกลับเพิ่มขึ้นเป็นบวกในปี IP 9 ) สินค้ําคงคลัง ปริมําณสินค้ําคงคลังของอุตสําหกรรมภํายในมีแนวโน้มลดลงอย่ํางมํากในปี 2561 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงน้อยกว่ําปี 2560 ซึ่งเมื่อพิจํารณําในช่วง PP และ IP พบว่ําปริมําณสินค้ํา คงคลังของอุตสําหกรรมภํายในลดลง ซึ่งลดลงตํามปริมําณขํายและผลผลิตที่ลดลง 10 ) กํารจ้ํางงําน กํารจ้ํางงํานของอุตสําหกรรมภํายในค่อนข้ํางคงที่และลดลงเล็กน้อย 11 ) ค่ําจ้ํางแรงงําน ค่ําจ้ํางแรงงํานของอุตสําหกรรมภํายในมีควํามผันผวน ในขณะที่ค่ําจ้ําง แรงงํานต่อหน่วยกํารผลิตเพิ่มขึ้นอย่ํางต่อเนื่องซึ่งเป็นผลมําจํากผลผลิตที่ลดลง 12 ) อัตรํากํารเจริญเติบโตของกิจกําร อัตรํากํารเจริญเติบโตของปริมําณกํารขํายสินค้ําชนิดเดียวกันในประเทศของ อุตสําหกรรมภํายในเป็นไปในทิศทํางเดียวกันกับควํามต้องกํารใช้ในประเทศ ทั้งนี้ ในปี 2561 อุตสําหกรรม ภํายในมีอัตรํากํารเจริญเติบโตของปริมําณกํารขํายในประเทศน้อยกว่ําควํามต้องกํารใช้ในประเทศที่เพิ่มขึ้น อยู่ม ําก 13 ) ควํามสํามํารถในกํารเพิ่มทุนหรือกํารลงทุน อุตสําหกรรมภํายในมีสัดส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ลดลงอย่ํางต่อเนื่อง และเมื่อเปรียบเทียบช่วง PP และ IP พบว่ําสัดส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ของกิจกํารเพิ่มขึ้น 14 ) ปัจจัยที่มีผลต่อรําคําสินค้ําในประเทศ ปริมําณกํารน ําเข้ําสินค้ําที่ถูกพิจํารณําจําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซีย และมําเลเซียมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและมีรําคําต่ํา ส่งผลให้อุตสําหกรรมภํายในต้องปรับลดรําคําขํายสินค้ํา ชนิดเดียวกันในประเทศลงเพื่อให้สํามํารถแข่งขันกับสินค้ําทุ่มตลําดได้ ซึ่งพบผลกระทบทํางด้ํานรําคํา ได้แก่ กํารตัดรําคําในกลุ่มสินค้ําเกรด 300 อย่ํางต่อเนื่อง กํารกดรําคํา และกํารยับยั้งกํารขึ้นรําคํา

19 15 ) ควํามมํากน้อยของส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําด พบส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําดจําก สําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย ในอัตรํา ร้อยละ 6 . 28 – 77 . 61 ของรําคําซี ไอ เอฟ (3) การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสินค้าทุ่มตลาดกับความเสียหาย ต่ออุตสาหกรรมภายใน ในกํารพิจํารณําควํามเสียหํายตํามมําตรํา 19 (1) ได้ มีกํารพิจํารณํา ควํามสัมพันธ์ระหว่ํางสินค้ําทุ่มตลําดกับควํามเสียหํายต่ออุตสําหกรรมภํายในตํามหลักเกณฑ์ที่มําตรํา 21 แห่งพระรําชบัญญัติกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุนซึ่งสินค้ําจํากต่ํางประเทศ พ.ศ. 2542 กําหนด โดยพบว่ํามีควํามสัมพันธ์ระหว่ํางสินค้ําทุ่มตลําดกับควํามเสียหํายต่ อ อุตสําหกรรมภํายใน ดังนี้ 1) ปัจจัย อื่นๆ ที่อําจ เป็นสําเหตุ ให้ เกิดควํามเสียหํายต่ออุตสําหกรรมภํายใน นอกจํากสินค้ําทุ่มตลําด (ก ) ปริมําณกํารน ําเข้ําสิ นค้ําชนิดเดียวกันจํากประเทศอื่นๆ สัดส่วนกํารน ําเข้ําจํากประเทศอื่นๆ ลดลงอย่ํางต่อเนื่องในช่วงปี 2560 – 2562 ในขณะที่สัดส่วนกํารน ําเข้ําจํากประเทศ ที่ถูกพิจํารณํา เพิ่มสูงขึ้นอย่ํางต่อเนื่อง อย่ํางไรก็ตําม ถึงแม้ในปี 2563 สัดส่วนกํารน ําเข้ําสินค้ําจํากประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้น แต่กลับลดลงในเชิงปริมําณ (ข ) รําคํานําเข้ําสินค้ําชนิดเดียวกันจํากประเทศอื่นๆ รําคํานําเข้ําสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ จํากประเทศอื่นๆ สูงกว่ํา รําคํานําเข้ําจํากประเทศที่ถูกพิจํารณํา ยกเว้นรําคํานําเข้ําจําก สําธํารณรัฐประชําชน จีน และไต้หวัน ใน ปี 2563 ช่วง PP และ IP ซึ่งมีรําคําต่ ํากว่ํารําคําน ําเข้ําจํากประเทศที่ถูกพิจํารณํา ทั้งนี้ ปัจจุบันสินค้ํา จํากประเทศดังกล่ําวอยู่ภํายใต้กํารบังคับใช้มําตรกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด (ค ) กํารที่อุปสงค์ลดลงและกํารเปลี่ยนแปลงรูปแบบกํารบริโภค ควํามต้องกํารใช้ในประเทศเพิ่มขึ้นในปี 2561 ในขณะที่ในปี 2562 – IP ควํามต้องกํารใช้ในประเทศลดลง อย่ํางไรก็ดี ยังคงมีกํารบริโภคสินค้ําชนิดเดียวกันอยู่เห็นได้จําก ปริมําณกํารนําเข้ําสินค้ําที่ถูกพิจํารณําที่เพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้จะลดลงตํามกํารลดลงของควํามต้องกํารใช้ในประเทศ ดังนั้น จึงไม่พบว่ํามีกํารเปลี่ยนแปลงรูปแบบกํารบริโภคจนทําให้เกิดกํารหดตัวของตลําดหรือกํารลดลงของ ควํามต้องก ํารใช้ในประเทศ ( ง ) กํารผูกขําดตัดตอนทํางกํารค้ํา อุตสําหกรรมภํายในมีช่องทํางจําหน่ํายหลํายช่องทําง ทําให้ผู้บริโภค มีทํางเลือกในกํารซื้อสินค้ํา ( จ ) กํารแข่งขันระหว่ํางผู้ผลิตในต่ํางประเทศและผู้ผลิตในประเทศ ผู้ผลิตในต่ํางประเทศและในประเทศ มีช่องทํางกํารจ ําหน่ําย และระดับ กํารจําหน่ํายสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นฯ ที่ไม่แตกต่ํางกัน และยังคงมีกํารแข่งขันกันเพื่อขํายสินค้ําให้แก่ ผู้นําเข้ําและผู้ใช้ได้อย่ํางอิสระ ( ฉ ) กํารพัฒนําทํางด้ํานเทคโนโลยีและควํามสํามํารถในกํารผลิต กระบวนกํารผลิตไม่ได้เปลี่ย นแปลงไปอย่ํางมีนัยสําคัญ ผู้ผลิต ทั้งใน ไทยและประเทศที่ถูกพิจํารณํายังคงมีกํารลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อขยํายควํามหลํากหลํายของสินค้ํา ดังนั้น จึงมีศักยภําพรองรับกับควํามต้องกํารสินค้ําชนิดใหม่ๆ ได้

20 ( ช ) ประสิทธิภําพกํารส่งออกของอุตสําหกรรมภํายใน อุตสําหกรรมภํายในมีกํารผลิตและขํายสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิม รีดเย็นฯ ในประเทศเป็นหลัก ดังนั้น ควํามเสียหํายของอุตสําหกรรมภํายในจึงไม่ได้เกิดจํากควํามไม่มีประสิทธิภําพ จํากกํารส่งออก 2) ควํามสัมพันธ์ระหว่ําง สินค้ํา ทุ่มตลําด กับ ควํามเสียหําย ต่ออุตสําหกรรมภํายใน จําก กํารพิจํารณําควํามเสียหํายข้ํางต้น พบว่ํามีควํามเสียหํายอย่ํางสําคัญ ที่เกิดแก่อุตสําหกรรมภํายในตํามมําตรํา 19(1) แห่งพระรําชบัญญัติกํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดย กํารนําเข้ําสินค้ําที่ถูกพิจํารณําที่มีแหล่งกําเนิดจําก สําธํารณรัฐ อินโดนีเซียและมําเลเซียมีกํารทุ่มตลําดโดยมี อัตรําส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําดในอัตรําร้อยละ 6 . 28 – 77 . 61 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ โดยสินค้ําทุ่มตลําดจําก ประเทศที่ถูกพิจํารณํามีกํารตัดรําคําในกลุ่มเกรด 300 กํารกดรําคํา และกํารยับยั้งกํารขึ้นรําคําสินค้ํา ของอุตสําหกรรมภํายใน ส่งผลให้ อุตสําหกรรมภํายในต้องลดรําคําขํายลงเพื่อให้สํามํารถแข่งขันกับสินค้ํา ที่ ถูกพิจํารณํา อีกทั้ง ยังไม่สํามํารถขึ้นรําคําสินค้ําให้เท่ํากับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ นอกจํากนี้ ปริมําณกํารนําเข้ํา สินค้ําที่ถูกพิจํารณําที่เพิ่มสูงขึ้นทําให้ส่วนแบ่งตลําดของสินค้ําที่ถูกพิจํารณําเพิ่มสูงขึ้ นอย่ํางต่อเนื่อง เป็นผลให้ ส่วนแบ่งกํารตลําดของอุตสําหกรรมภํายในไม่สํามํารถเพิ่มขึ้นมํากได้ และแม้ว่ําอุตสําหกรรมภํายในประเทศ จะยังคงมีกําลังกํารผลิตที่เพียงพอ แต่ ไม่สํามํารถ ใช้กําลังกํารผลิต ที่มีอยู่ได้อย่ํางเต็มที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ กํารประกอบกิจกํารของอุตสําห กรรมภํายในในช่วงเวลําที่ปริมําณกํารนําเข้ําสินค้ําที่ถูกพิจํารณําเพิ่มสูงขึ้น เช่น ยอดจ ําหน่ํายและปริมําณกํารขํายในประเทศลดลง รําคําขํายในประเทศลดลง ก ําไรจํากกํารขํายลดลง ผลตอบแทนจํากกํารลงทุนและกระแสเงินสดที่มีแนวโน้มลดลง เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อพิจํารณําปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ ปริมําณกํารนําเข้ําและรําคํานําเข้ํา สินค้ําที่ถูกพิจํารณําจํากประเทศอื่นๆ อุปสงค์ที่ลดลงและกํารเปลี่ยนแปลงรูปแบบกํารบริโภค กํารผูกขําด ตัดตอนทํางกํารค้ํา กํารแข่งขันระหว่ํางผู้ผลิตในต่ํางประเทศและผู้ผลิตในประเทศ กํารพัฒนําทํางด้ํานเทคโนโลยี และควํามสํามํารถในกํารผลิต และประสิทธิภําพกํารส่ งออกของอุตสําหกรรมภํายในพบว่ํา ไม่ใช่ปัจจัยที่ ก่อให้เกิดควํามเสียหํายต่ออุตสําหกรรมภํายใน ( 4 ) การพิจารณาอากรตอบโต้การทุ่มตลาดในอัตราเพื่อขจัดความเสียหาย ในกรณีที่คณะกรรมกํารมีคําวินิจฉัยชั้นที่สุดว่ําให้มีกํารเรียกเก็บอํากรตอบโต้ กํารทุ่มตลําด อัตรําอํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําดนั้นให้กําหนดได้เพียงเพื่อขจัดควํามเสียหํายและจะเกินกว่ํา ส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําดมิได้ ซึ่งเป็นไปตํามมําตรํา 49 แห่ง พระรําชบัญญัติ กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดฯ พ.ศ. 2542 โดย ปรํากฏผลดังนี้ ผู้ผลิต/ผู้ส่งออก อัตราส่วนเหลื่อม ความเสียหาย อัตราส่วนเหลื่อม การทุ่มตลาด อัตราอากร AD ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกจาก สาธารณรัฐ อินโดนีเซีย 1 . PT . IMR ARC STEEL 26 . 10 % 6 . 28 % 6 . 28 % 2 . PT . Indonesia Ruipu Nickel and Chrome Alloy 31 . 13 % 7 . 02 % 7 . 02 % 3 . ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกรํายอื่นๆ 51 . 69 % 77 . 61 % 51 . 69 % ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกจากมาเลเซีย 1 . Bahru Stainless SDN . BHD 15 . 23 % 18 . 93 % 15 . 23 % 2 . ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกรํายอื่นๆ 35 . 25 % 42 . 16 % 35 . 25 %

21 2.1 0 การขยายเวลาการไต่สวน เนื่องจํากสถํานกํารณ์กํารแพร่ระบําดของ เชื้อ ไวรัสโคโรน ํา 2019 ( COVID - 19 ) ท ําให้ผู้มีส่วน ได้เสียที่เกี่ยวข้องในกระบวนกํารไต่สวนจ ําเป็นต้องปฏิบัติงํานนอ ก สถํานที่ท ํากําร รวมถึงกํารกักตัว ตํามมําตรกํารควบคุมกํารแพร่ระบําดฯ ของรัฐบําล ส่งผลให้กระบวนกํารจัดส่งข้อมูลและเอกสํารหลักฐําน ไม่เป็นไปตํามที่กําหนด ประกอบกับกระบวนกํารไต่สวนจําเป็นต้องพิจํารณําอย่ํางรอบคอบเพื่อคํานึงถึง ผลกระทบจํากกํารใช้มําตรกํารฯ แล ะ เพื่อควํามเป็นธรรมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ําย คณะกรรมกํารพิจํารณํา กํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุนจึงมีมติให้ขยํายระยะเวลํากํารไต่สวนกํารทุ่มตล ําดสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็น ชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกําเนิดจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย ออกไปอีก 6 เดือน จํากเดิมสิ้นสุดวันที่ 1 มิถุนํายน 2565 เป็นสิ้นสุดวันที่ 1 ธันวําคม 2565 ข้อ 3. คำวินิจฉัยชั้นที่สุดของคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน คณะกรรมกํา ร ทตอ. ได้พิจํารณําข้อมูลและพยํานหลักฐํานที่ได้รับในกระบวนกํารไต่สวน กํารทุ่มตลําดและควํามเสียหํายข้ํางต้นแล้ว ได้มีคําวินิจฉัยชั้นที่สุดในกํารประชุมครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกํายน 2565 ว่ํามีกํารทุ่มตลําดสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกําเนิดจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย และก่อให้เกิดควํามเสียหํายอย่ํางส ําคัญ ที่เกิด แก่ อุตสําหกรรมภํายใน ตํามมําตรํา 19 (1) แห่ง พ.ร.บ. กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด และก ํารอุ ดหนุนซึ่งสินค้ําจําก ต่ํางประเทศ พ.ศ. 2542 จึง มีควํามจําเป็น ต้องเรียกเก็บอํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําดสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิม รีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งก ําเนิดจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย เป็นระยะเวลํา 5 ปี คณะกรรมกําร ทตอ. จึงได้ออกประกําศคณะกรรมกํา รพิจํารณํากํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุน เรื่อง กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําดสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกําเนิดจําก สําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย พ.ศ. 2565 โดยอําศัยอํานําจตํามควํามในมําตรํา 49 มําตรํา 57 วรรคหนึ่ง และมําตรํา 73 (1) ประกอบ มําตรํา 7 แห่ง พ.ร.บ. กํารตอบโต้กํารทุ่มตลําด และกํารอุดหนุน ซึ่งสินค้ําจํากต่ํางประเทศ พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ. กํารตอบโต้ กํารทุ่มตลําดและกํารอุดหนุน ซึ่งสินค้ําจํากต่ํางประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 กําหนดให้เรียกเก็บอํากรตอบโต้ กํารทุ่มตลําดในอัตรําเพียง เพื่อขจัดควํามเสียหํายและไม่เกินส่วนเหลื่อมกํารทุ่มตลําดสําหรับกํารนําเข้ําสินค้ําเหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นชนิด ม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกําเนิดจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซียและมําเลเซีย เป็นระยะเวลํา 5 ปี โดยมี รํายละเอียด ดังนี้ 3.1 ให้ เรียกเก็บอําก รตอบโต้กํารทุ่มตลําด จํากกํารนําเข้ําสินค้ํา เหล็กกล้ําไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีควํามหนํา 0.3 – 3.0 มิลลิเมตร โดยครอบคลุมถึงค่ําควํามคลําดเคลื่อนควํามหนํา ตํามมําตรฐําน มอก. 1378 - 2559 และมีควํามกว้ํางไม่เกิน 1 , 320 มิลลิเมตร ภํายใต้พิกัดศุลกํากร ประเภทย่อย ตํา มพระรําชกําหนดพิกัดอัตรําศุลกํากร พ.ศ. 2530 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรําชกําหนดพิกัด อัตรําศุลกํากร (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2564 และรหัสสถิติ ตํามรหัสสถิติที่แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม ฉบับปี 2565 ตําม ประกําศกรมศุลกํากรที่ 199/2564 เรื่อง กํารแก้ไขเพิ่มเติมรหัสสถิติสินค้ํา ลงวันที่ 24 ธันวําคม 2564 จ ํานวน 33 รํายกําร ได้แก่ 7219 . 32 . 00 . 020 7219 . 32 . 00 . 030 7219 . 32 . 00 . 040 7219 . 32 . 00 . 080 7219 . 32 . 00 . 090 7219 . 33 . 00 . 020 7219 . 33 . 00 . 030 7219 . 33 . 00 . 040 7219 . 33 . 00 . 080 7219 . 33 . 00 . 090 7219 . 34 . 00 . 020 7219 . 34 . 00 . 030 7219 . 34 . 00 . 040 7219 . 34 . 00 . 080 7219 . 34 . 00 . 090 7219 . 35 . 00 . 020 7219 . 35 . 00 . 030 7219 . 35 . 00 . 040 7219 . 3 5. 00 . 080 7219 . 3 5. 00 . 090

22 และมําเลเซีย 3 . 2 ให้เรียกเก็บอํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําดจํากกํารน ําเข้ําสินค้ําตํามข้อ 3.1 ในอัตรํา ดังต่อไปนี้ 3 . 2 . 1 สินค้ําที่มีแหล่งก ําเนิดจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซีย ( 1 ) สินค้ําที่ผลิตจําก PT . IMR ARC STEEL ร้อยละ 6.28 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ ( 2 ) สินค้ําที่ผลิตจําก PT . Indonesia Ruipu Nickel and Chrome Alloy ร้อยละ 7.02 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ ( 3 ) สินค้ําที่ผลิตจํากผู้ผลิตรํายอื่น ร้อยละ 51.69 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ 3.2.2 สินค้ําที่มีแหล่งก ําเนิดจํากมําเลเซีย ( 1 ) สินค้ําที่ผลิตจําก Bahru Stainless SDN . BHD ร้อยละ 15.23 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ ( 2 ) สินค้ําที่ผลิตจํากผู้ผลิตรํายอื่น ร้อยละ 35.25 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ 3.3 ให้เรียกเก็บอํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําดจํากกํารนําเข้ําสินค้ําตํามข้อ 3.1 ดังต่อไปนี้ ในอัตรําร้อยละ 0 ของรําคํา ซี ไอ เอฟ 3.3.1 สินค้ําชนิดผิว BA ที่มีค่ําควํามหนํามํากกว่ํา 1.6 มิลลิเมตร 3.3.2 สินค้ําชนิดผิว No .8 ( Mirror Finish ) ผิวลวดลําย ( Pattern Finish ) ผิวกระแทก ( Bead Blast ) ผิวกัดกรด ( Etching Finish ) และผิวสีสําเร็จ ( Coloring Finish ) 3.3.3 สินค้ําที่มีค่ําควํามแข็ง ( Hardness ) มํากกว่ํา 100 HRB หรือ 250 HV 3.4 ให้เรียกเก็บอํากรตอบโต้กํารทุ่มตลําดจํากกํารน ําเข้ําสินค้ําตํามข้อ 3.1 ในอัตรําร้อยละ 0 ของ รําคํา ซี ไอ เอฟ ในกรณี ดังต่อไปนี้ 3.4.1 ผู้ประกอบอุตสําหกรรมและผู้ประกอบพําณิชยกรรมเพื่อส่ งออกนําสินค้ําดังกล่ําวเข้ํา มําในรําชอําณําจักร และน ําเข้ําไปในเขตประกอบกํารเสรีเพื่อใช้ในกํารผลิตสินค้ําหรือเพื่อพําณิชยกรรม เพื่อกํารส่งออกภํายใต้กฎหมํายว่ําด้วยกํารนิคมอุตสําหกรรมแห่งประเทศไทย 3.4.2 ผู้ได้รับกํารส่งเสริมตํามกฎหมํายว่ําด้วยกํารส่งเสริมกํารลงทุนนํา สินค้ําดังกล่ําวเข้ํามําผลิต เพื่อกํารส่งออกภํายใต้กฎหมํายว่ําด้วยกํารส่งเสริมกํารลงทุน 3.4.3 กํารน ําสินค้ําดังกล่ําวเข้ํามําผลิตเพื่อกํารส่งออกภํายใต้กฎหมํายว่ําด้วยศุลกํากร ------------------------------------- 7219.90.00.000 7220 . 20 . 10 . 020 7220 . 20 . 10 . 030 7220 . 20 . 10 . 040 7220 . 20 . 10 . 080 7220 . 20 . 10 . 090 7220 . 20 . 90 . 020 7220 . 20 . 90 . 030 7220 . 20 . 90 . 040 7220 . 20 . 90 . 080 7220 . 20 . 90 . 090 7220.90.10.000 7220.90.90.000 ที่มีแหล่งกําเนิดจํากสําธํารณรัฐอินโดนีเซีย