ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกันภัยต่อของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2566
ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกันภัยต่อของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2566
ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกันภัยต่อของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2566 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 38 (3) และ (13) และมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติ ประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบกับมติที่ประชุมคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 24 มิถุนำยน พ.ศ. 2565 และครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 คณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกันภัยต่อของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกา รประกันภัยต่อของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 25 61 ข้อ 4 ในประกาศนี้ “ บริษัท ” หมายความว่า บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต และให้หมายความ รวมถึงสาขาของบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตในราชอาณาจักร ตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต “ คณะกรรมการบริษัท ” หมายความว่า คณะกรรมการของบริษัทตามกฎหมายว่าด้วย การประกันชีวิต และให้หมายความรวมถึงคณะกรรมการบริหารสาขาของบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศ ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยการ ประกันชีวิตซึ่งต้องมี ผู้จัดการสาขาเป็นกรรมการรวมอยู่ด้วย “ ผู้จัดการ ” หมายความว่า บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทให้เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ สูงสุดในการบริหารงานของบริษัท ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างใดก็ตาม “ ผู้บริหาร ” หมายความว่า ผู้จัดการ หรือผู้ดารงตาแหน่งระดับบริหารสี่รายแรกนับต่อจาก ผู้จัดการลงมา ผู้ซึ่งดารงตาแหน่งเทียบเท่ากับผู้ดารงตาแหน่งระดับบริหารรายที่สี่ทุกราย และให้หมายความ รวมถึงผู้ดำรงตาแหน่งระดับบริหารในสายงานบัญชีหรือการเงินที่เป็นระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไปหรือเทียบเท่า “ ผู้รับ ประกันภัยต่อที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต ” หมายความว่า บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยประกันชีวิต และให้หมายความรวมถึงสาขาของ บริษัทประกันชีวิตต่างประเทศที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ว่าด้วย กำร ประกันชีวิต ้ หนา 57 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 193 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
“ ผู้รับประกันภัยต่อต่างประเทศ ” หมายความว่า ผู้รับประกันภัยต่อที่ได้รับใบอนุญาตประกอบ ธุรกิจประกันภัยจากหน่วยงานกำกับดูแลในต่างประเทศ และให้หมายความรวมถึงผู้ที่สามารถรับประกันภัย ต่อได้ตามกฎหมายหรือข้อตกลงระหว่างประเทศซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้กฎ หมายว่าด้วย การ ประกันชีวิตและกฎหมาย ว่าด้วย การ ประกันวินาศภัย “ ประกาศ คปภ. ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน การตรวจสอบ และควบคุมภายใน ” หมายความว่า ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการรับเงิน การจ่ายเงิน การตรวจสอบ และการควบคุมภายในของบริษัทประกันชีวิต “ นายทะเบียน ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจ ประกันภัย หรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยมอบหมาย “ สานักงา น ” หมายความว่า สานักงานคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย “ นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ” หมายความว่า นักคณิตศาสตร์ประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วย การประกันชีวิต ข้อ 5 สำนักงานอาจกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการประกันภัยต่อ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติ ตำมประกาศนี้ได้ และเมื่อมีการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติดังกล่าว ให้ถือว่าบริษัทได้ปฏิบัติตามประกาศนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ข้อ 6 คณะกรรมการบริษัทมีบทบาทหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) กำหนดนโยบาย และให้ความเห็นชอบกรอบการบริหารการประกันภัยต่อ (2) กากับดูแลให้การจัดทาการประกันภัยต่อเป็นไปตามกรอบการบริหารการประกันภัยต่อ ของบริษัท และหลักเกณฑ์ข้อกำหนดของสำนักงาน (3) กำหนดให้มีการควบคุมภายในเพื่อควบคุมการนำกรอบการบริหารการประกันภัยต่อ ไปปฏิบัติ อย่างเหมาะสม ข้อ 7 ผู้บริหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกั บการประกันภัยต่อของบริษัทต้องมีบทบาทหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) กำกับ ดูแล ติดตามให้การดาเนินงานเกี่ยวกับการประกันภัยต่อให้เป็นไปตามกรอบการบริหาร การประกันภัยต่อที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัท (2) จัดให้มีกระบวนการปฏิบัติงาน และคู่มือการปฏิบัติงานด้านการประกันภัยต่อให้เป็นไป ตามกรอบการบริหารการประกันภัยต่อเป็นลายลักษณ์อักษร (3) พิจารณาผลการดาเนินงานของการประกันภัยต่ออย่างสม่าเสมอ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ของกรอบการบริหารการประกันภัยต่อ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกรอบการบริหารความเสี่ ยงของบริษัท (4) จัดให้มีระบบการควบคุมภายใน ระบบการรายงานผลเพื่อติดตามประเมินผลเกี่ยวกับ การประกันภัยต่อ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกรอบการบริหารความเสี่ยงของบริษัท ้ หนา 58 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 193 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
ข้อ 8 บริษัทต้องจัดให้มีหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบดูแลกิจกรรมการประกันภัยต่อ ข้อ 9 บริษัทต้องจัดให้หน่วยงานตรวจสอบภายในของบริษัททาหน้าที่ติดตาม และควบคุม กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำประกันภัยต่อว่าเป็นไปตามกรอบการบริหารการประกันภัยต่อและหลักเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ตามประกาศนี้ และประกาศอื่นที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานตรวจสอบภายในตามวรรคหนึ่ง ให้หมำยความถึง หน่วยงานตรวจสอบภายใน ตามประกาศ คปภ. ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน การตรวจสอบ และควบคุมภายใน ข้อ 10 ให้บริษัทจัดทำกรอบการบริหารการประกันภัยต่อ ( reinsurance management framework ) เป็นลายลักษณ์อักษร และต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบ ริษัท โดยกรอบ การบริหารการประกันภัยต่อ ให้ประกอบด้วย (1) โครงสร้างองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการประกันภัยต่อ รวมถึงให้ระบุตาแหน่ง หรือรายชื่อผู้บริหารตามข้อ 7 และหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบตามข้อ 8 (2) นโยบายการประกันภัยต่อโดยให้คำนึงถึงกรอบการบริหารความเสี่ยงและการบริหาร เงินทุนของบริษัท รวมถึงระดับความเสี่ยงที่บริษัทต้องการรับเสี่ยงภัยไว้เอง และส่วนที่โอนความเสี่ยง ซึ่งสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และเป้าหมายเงินกองทุนของบริษัท (3) แนวทา งในการบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายในที่เกี่ยวกับการประกันภัยต่อ ทั้งนี้ บริษัทต้องมีการทบทวนกรอบการบริหารการประกันภัยต่อเป็นประจำทุกปี ข้อ 1 1 ในกรณีที่บริษัทจะเอาประกันภัยต่อ ( outward reinsurance ) หรือรับประกันภัยต่อ ( inward reinsurance ) บริษัทต้องจัดทำสัญญาประกันภัยต่อตามสัญญา ( treaty reinsurance ) และ สัญญา ประกันภัยต่อเฉพาะราย ( facultative reinsurance ) ที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท สอดคล้องกับกรอบการบริหารการประกันภัยต่อที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการ ความเสี่ยงและเงินกองทุนของบริษัท ข้อ 1 2 การเอาประกันภัยต่อตามข้อ 11 ให้กระทำได้ในกรณี ดังต่อไปนี้ (1) เป็นการเอาประกันภัยต่อเฉพาะส่วนของความคุ้มครอง ( protection ) ของผู้เอาประกันภัย แต่ละราย หรือ (2) เป็นกรณีกรมธรรม์ประกันภัยขาดอายุกรมธรรม์เป็นจานวนมาก ( mass lapse ) ตามจำนวน ที่ตกลงกันระหว่างบริษัทและผู้รับประกันภัยต่อ การขาดอายุของกรมธรรม์ประกันภัย หมายความว่า การที่ผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภัย ตามเวลาที่กาหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยหรือเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัย หรือผู้รับประกันภัยไม่ต่ออายุ สัญญาประกันภัย มีผลให้กรมธรรม์ประกันภัยจะขาดอายุและสิ้นผลบังคับตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ในกรณีที่มีสาธารณภัยอันร้ายแรง หรือเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจต่อประเทศ บริษั ทอาจเอา ประกันภัยต่อ นอกเหนือจาก (1) และ (2) ได้เฉพาะเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงและความเพียงพอ ของเงินกองทุนตามความจำเป็น โดยได้รับอนุญาตต่อคณะกรรมการเป็นรายกรณีไป ้ หนา 59 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 193 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
การยื่นคาขอรับอนุญาตต่อคณะกรรมการตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่ อนไขที่นายทะเบียนกำหนด ข้อ 1 3 การเอาประกันภัยต่อกับผู้รับประกันภัยต่อที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจตามกฎหมาย ว่าด้วยประกันชีวิต ให้เป็นไปตามกรอบการบริหารการประกันภัยต่อในสัดส่วนที่เหมาะสม การเอาประกันภัยต่อกับผู้รับประกันภัยต่อต่างประเทศให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (1) กรณีสัญญาประกันภัยต่อตามสัญญา ( treaty reinsurance ) บริษัทสามารถเอาประกันภัย ต่อกับผู้รับประกันภัยต่อต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตามที่กาหนดไว้ในตาราง ตามสั ดส่วน ที่กำหนดไว้ในตาราง ดังต่อไปนี้ ระดับความเสี่ยง อันดับความน่าเชื่อถือของผู้รับประกันภัยต่อต่างประเทศ สัดส่วนเบี้ยเอาประกันภัยต่อ กับผู้รับประกันภัยต่อ ต่างประเทศ ทุกรายที่ระดับ ความเสี่ยงเดียวกัน ต่อ เบี้ยเอา ประกันภัยต่อของผู้รับ ประกันภัยต่อต่างประเทศของ สัญญาประกันภัยต่อตาม สัญญาทั้งหมด Standard & Poor ’ s Moody ’ s AM Best Fitch 1 AAA Aaa A ++ AAA ไม่จำกัด 2 AA + AA AA - Aa 1 Aa 2 Aa 3 A + AA + AA AA - 3 A + A A - A 1 A 2 A 3 A A - A + A A - 4 BBB + BBB BBB - Baa 1 Baa 2 Baa 3 B ++ B + BBB + BBB BBB - ไม่เกินร้อยละห้าสิบ (2) กรณีสัญญาประกันภัยต่อเฉพาะราย ( facultative reinsurance ) บริษัทสามารถเอาประกันภัย ต่อกับผู้รับประกันภัยต่อต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตามที่กาหนดไว้ในตารางตาม (1) ได้ ตามสัดส่วนที่เหมาะสม ตามกรอบการบริหารการประกันภัยต่อ ในกรณีผู้รับประกันภัยต่อต่างประเทศ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือมากกว่าหนึ่งอันดับ ให้ใช้หลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (1) กรณีที่ผู้รับประกันภัยต่อต่างประเทศได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สองอันดับที่แตกต่างกัน ให้ใช้อันดับความน่าเชื่อถือที่ต่ำกว่า (2) กรณีที่ผู้รับประกันภัยต่อต่างประเทศได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือมากกว่าสองอันดับ ที่แตกต่างกัน ให้นาอันดับความน่าเชื่อถือสูงที่สุดสองอันดับแรกมาเปรียบเทียบ และใช้อันดับความน่าเชื่อถือ ที่ต่ำกว่า ้ หนา 60 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 193 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
ในกรณีที่อันดับความน่าเชื่อถือของผู้รับประกันภัยต่อต่างประเทศปรับลดลงจนทาให้การเอา ประกันภัยต่อไม่เป็นไปตามสัดส่วนที่กาหนดไว้ในวรรคสอง (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี ให้บริษัท ดาเนินการเปลี่ยนผู้รับประกันภัยต่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ในโอกาสแรก ที่กระทำได้ ข้อ 1 4 ให้บริษัทสามารถทำสัญญาประกันภัยต่อตามสัญญา และสัญญาประกันภัยต่อเฉพาะราย ประเภทสัญญาประกันภัยต่อทางการเงิน ( financial reinsurance ) หรือสัญญาประกันภัยต่อแบบจากัด ( finite reinsurance ) ได้ตามเงื่อนไข ต่อไปนี้ (1) ต้องได้รับการแสดงความเห็น ( advice ) เกี่ยวกับความเหมาะสมของสัญญาประกันภัยต่อ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากนักคณิตศาสตร์ประกันภัย และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัท (2) ต้องทาการทดสอบการโอนความเสี่ยงด้านการประกันภัยอย่างมีนัยสำคัญ โดยวิธีการที่เป็น ที่ยอมรับตามมาตรฐานทางบัญชี และผ่านการรับรองโดยผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากสานักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (3) ต้องสามารถแสดงเอกสารที่เกี่ยวข้อ งกับการแสดงความเห็นตาม (1) และผลการทดสอบ การโอนความเสี่ยงด้านการประกันภัยตาม (2) ต่อนายทะเบียนได้ตลอดเวลา เมื่อนายทะเบียนร้องขอ ข้อ 15 สัญญาประกันภัยต่อทางการเงิน หรือสัญญาประกันภัยต่อแบบจากัดตามข้อ 14 ซึ่งเป็นสัญญาประกันภัยต่อที่ไม่มีการโอนความเสี่ ยงด้านประกันภัยอย่างมีนัยสำคัญ อาจมีลักษณะ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ( 1 ) ผู้รับประกันภัยต่อได้โอนทรัพย์สินให้แก่บริษัท บริษัทมีหน้าที่ต้องคืนทรัพย์สินนั้น หรือทรัพย์สินอื่นตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่ตกลงกันให้แก่ผู้รับประกันภัยต่อ หรือ ( 2 ) ในสัญญาประกันภัยต่อมีข้อสัญญาจากัดความเสี่ยงของผู้รับประกันภัยต่อ เช่น ข้อสัญญา ปรับเปลี่ยนความคุ้มครอง ( adjustments to coverage clause ) ข้อสัญญาที่บริษัทต้องรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายของผู้รับประกันภัยต่อ หรือข้อสัญญาจากัดจานวนเงินค่าสินไหมทดแทนสูงสุดที่ ผู้รับประกันภัยต่อ ต้องชดใช้ ( loss corridor ) ข้อ 16 ในกรณีที่เห็นสมควร นายทะเบียนอาจสั่งให้บริษัทแก้ไขการทาสัญญาประกันภัยต่อ ตามสัญญาหรือ สัญญา ประกันภัยต่อเฉพาะรายได้ ข้อ 1 7 บริษัทจะต้องจัดให้มีการควบคุมความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทาประกันภัยต่อ เพื่อให้ บรรลุวัตถุประสงค์ตามกรอบการบริหารการประกันภัยต่อ ดังต่อไปนี้ เป็นอย่างน้อย (1) การควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิต (ก) การคัดเลือกผู้รับประกันภัยต่อ บริษัทต้องจัดทำหลักเกณฑ์การคัดเลือก ผู้รับ ประกันภัยต่อ โดยควรคำนึงถึงอันดับความน่าเชื่อถือขั้นต่าที่ บริษัทยอมรับได้ การกำกับดูแลของหน่วยงาน กากับที่กากับดูแลผู้รับประกันภัยต่อ ฐานะความมั่นคง ความรู้ความเชี่ยวชาญ ระยะเวลาการจ่ายเงิน การให้บริการอื่น ๆ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ้ หนา 61 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 193 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
(ข) การลดความเสี่ยงด้านเครดิต บริษัทควรมีเครื่องมือเพื่อลดความเสี่ยงด้านเครดิต เช่น การกาหนดให้มีการวางหลักทรัพย์ประกันของ ผู้รับ ประกันภัยต่อ หรือเงินถือไว้จากการประกันภัยต่อ การกำหนดเงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลงหรือการยกเลิกสัญญากับผู้รับประกันภัยต่อในกรณีที่ผู้รับประกันภัยต่ อ ถูกปรับ ลดอันดับความน่าเชื่อถือ (ค) การติดตามความมั่นคงและความเหมาะสมของผู้รับประกันภัยต่อ บริษัทต้องจัดให้มี กระบวนการในการติดตามอันดับความน่าเชื่อถือ ฐานะทางการเงิน ความเพียงพอของเงินกองทุนของ ผู้รับประกันภัยต่อ และความสามารถในการปฏิบัติตามภาระผูกพัน (ง) การรับและจ่ายเงินจากการประกันภัยต่อ บริษัทต้องกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับ การรับและจ่ายเงินจากการประกันภัยต่อ การรายงานเงินค้างรับและเงินค้างจ่ายจากผู้รับประกันภัยต่อ การเรียกเก็บค่าสินไหมทดแทนจากการเอาประกันภัยต่อ ทั้งนี้ บริษัทจะต้องปฏิบัติตามประกาศ คปภ. ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน การตรวจสอบ และควบคุมภายใน เป็นอย่างน้อย (จ) การคัดเลือกนายหน้าประกันภัยต่อ บริษัทต้องจัดทาหลักเกณฑ์การคัดเลือกนายหน้า ประกันภัยต่อ โดยควรคานึงถึง ประสบการณ์ การกากับดูแลของหน่วยงานกากับที่กากับดูแลนายหน้า ประกันภั ยต่อ ความเชี่ยวชาญ และการให้บริการ เป็นต้น (ฉ) การรับและจ่ายเงินของนายหน้าประกันภัยต่อ บริษัทต้องจัดทากระบวนการติดตาม ควบคุม และตรวจสอบการรับและจ่ายเงินของนายหน้าประกันภัยต่อ หรืออื่น ๆ ที่บริษัทมอบหมาย ให้กระทาการแทน (ถ้ามีการใช้บริการ) ทั้งนี้ บริษัทจะต้องปฏิบัติตามประกาศ คปภ. ว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน การตรวจสอบ และควบคุมภายใน เป็นอย่างน้อย (2) การควบคุมความเสี่ยงด้านการกระจุกตัว (ก) ระดับการกระจุกตัวของผู้รับประกันภัยต่อรายใดรายหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง บริษัทต้องจัดให้มีการทำประกันภัยต่อ โดยยึดหลักการให้มีการกระจายความเสี่ยง และคำนึงถึงความเสี่ยง ที่มีต่อผู้รับประกันภัยต่อรายใดรายหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทั้งนี้ ต้องไม่เกินหลักเกณฑ์ที่กาหนดไว้ ในประกาศนี้ หรือประกาศอื่นที่เกี่ยวข้อง (ข) ระดับความ เสี่ยงภัยสะสม บริษัทต้องจัดให้มีการจัดการให้ระดับขีดจากัดความเสี่ยง ภัยสะสมที่บริษัทรับไว้เอง ( aggregate risk limit ) เป็นไปตามที่บริษัทกาหนดไว้ในกรอบการบริหาร การประกันภัยต่อ และในกรณีที่มีความแตกต่างจากที่กาหนดไว้ จะต้องมีกระบวนการแก้ไขเพื่อให้กลับ สู่ ขีดจำกัด (3) การควบคุมความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ (ก) การทาเอกสารสัญญาประกันภัยต่อ บริษัทต้องจัดทาเอกสารสัญญาประกันภัยต่อ ให้มีความครบถ้วน สมบูรณ์ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยต้องมั่นใจว่า ข้อกำหนด เงื่อนไข ความคุ้มครองของสัญญาประกันภัยต่อมีความชัดเจน ครบถ้วน เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบริษัทในการ ทำประกันภัยต่อ และจัดให้มีกระบวนการควบคุมและติดตามการจัดทำสัญญาประกันภัยต่อ ้ หนา 62 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 193 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
ทั้งนี้ บริษัทต้องจัดให้มีหลักฐานใด ๆ เพื่อยืนยันการตกลงรับประกันภัยต่อจากผู้รับ ประกันภั ยต่อ หรือสลิปประกันภัยต่อ ก่อนวันที่สัญญาประกันภัยต่อนั้นจะมีผลบังคับ (ข) การจัดทาสัญญาประกันภัยต่อเฉพาะราย บริษัทต้องกาหนดหลักเกณฑ์การจัดทา สัญญาประกันภัยต่อเฉพาะรายและกำหนดผู้มีอำนาจอนุมัติ รวมถึงจัดให้มีกระบวนการติดตาม และยืนยัน การทำ สัญญา ประกันภัยต่อเฉพาะราย กรณีที่บริษัทรับความเสี่ยงภัยซึ่งมีความจาเป็นต้องทำสัญญาประกันภัยต่อเฉพาะราย ให้บริษัทจัดหาการเอาประกันภัยต่อเฉพาะรายให้แล้วเสร็จก่อนที่จะรับความเสี่ยงภัยนั้น (ค) การจัดเก็บข้อมูลและการจัดทำรายงานธุรกรรมการประกันภัยต่อและนายหน้า ประกันภัยต่อ บริษัทต้องจัดเก็บข้อมูลและจัดทารายงานธุรกรรมการประกันภัยต่อ และต้องสามารถแสดง รายละเอียดของเจ้าหนี้และลูกหนี้จากการประกันภัยต่อได้ (4) การควบคุมความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง บริษัทต้ องจัดให้มีกระบวนการและวิธีการ รวมถึงการติดตามและเร่งรัดการเรียกคืนค่าสินไหมทดแทนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาประกันภัยต่อ โดยเฉพาะกรณีเหตุการณ์ความเสียหายขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ในสัญญาประกันภัยต่อควรกาหนดให้มีเงื่อนไข เกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทนเรียกคืนทันที ( cash call ) หลักประกัน ( collateral ) หรือเงินถือไว้จาก การประกันภัยต่อ ( deposit accounts ) ข้อ 1 8 บริษัทต้องจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่องเพื่อรองรับเหตุการณ์ความเสียหาย ขนาดใหญ่ หรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วย การจัดหาเงินทุน การจัดการ กระแสเงินสดระยะสั้น การเร่งรัดการเรียกคืนค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยต่อ และหากเกิด เหตุการณ์ขึ้นจะต้องปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด ข้อ 1 9 นายทะเบียนอาจกำหนดให้บริษัทจัดทำการทดสอบภาวะวิกฤต ( stress test ) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของการประกันภัยต่อตามสัญญาและการประกันภัยต่อเฉพาะราย ข้อ 20 ให้บริษัทนำส่งรายงานกรอบการบริหารการประกันภัยต่อ ( reinsurance management framework ) และการวิเคราะห์ประสิทธิผลของการทำประกันภัยต่อให้สำนักงาน ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี โดยรายงานจะต้องประกอบด้วย (1) โครงสร้างองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารการประกันภัยต่อ โดยให้ระบุตาแหน่ง หรือ รายชื่อผู้บริหารตามข้อ 7 และหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบตามข้อ 8 (2) ผลการวิเคราะห์ภาพรวมผลการดาเนินงานการจัดทาสัญญาประกันภัยต่อตามสัญญาและ สั ญญา ประกันภัยต่อเฉพาะรายในปีที่ผ่านมา พร้อมแสดงเหตุผลประกอบ (3) นโยบายการประกันภัยต่อ (4) สรุปการทำสัญญาประกันภัยต่อตามสัญญาของปีปัจจุบัน และผลการวิเคราะห์ความเหมาะสม ที่สอดคล้องกับการดาเนินธุรกิจของบริษัท ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และเป้าหมายเงินกองทุนของบริษัท พร้อมแสดงเหตุผลประกอบ ้ หนา 63 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 193 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
(5) วิธีการควบคุมความเสี่ยงและการควบคุมภายในที่เกี่ยวกับการประกันภัยต่อของบริษัท โดยให้อธิบายอย่างน้อยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อ 1 7 ข้อ 21 ให้บริษัทนาส่งรายงานข้อมูลและสถิติที่เกี่ยวข้องกับประกันภัยต่อตามแบบ รายการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่นายทะเบียนประกาศกำหนด ข้อ 2 2 ให้บริษัทส่งสาเนาสัญญาประกันภัยต่อ รวมทั้งส่วนที่แก้ไขเพิ่มเติม และข้อตกลง เพิ่มเติม ( side letter ) (ถ้ามี) เมื่อนายทะเบี ยนร้องขอ ข้อ 2 3 การนาส่งรายงานกรอบการบริหารการประกันภัยต่อและการวิเคราะห์ประสิทธิผลของ การทาประกันภัยต่อตามข้อ 20 และรายงานข้อมูลและสถิติที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยต่อตามข้อ 21 ให้บริษัทนาส่งตามวิธีการทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สานักงานกาหนด ทั้งนี้ หา กรายงานดังกล่าวไม่ผ่าน การตรวจสอบจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ของสานักงานตามที่กาหนดไว้ ให้ถือว่าบริษัทไม่ได้นาส่งรายงาน ตามความในประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 256 6 กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการ คณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ้ หนา 64 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 193 ง ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566