Mon Aug 07 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย ว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งต่าง ๆ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566


ข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย ว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งต่าง ๆ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566

ข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย ว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการเลือกกรรมการเพื่อดารงตาแหน่งต่าง ๆ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งต่าง ๆ แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 18 มาตรา 24 (2) และ (4) (ง) และตามมาตรา 30 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 คณะกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย โดยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษแห่งสภาการแพทย์แผนไทย จึงออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ ข้อบังคั บสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้ง กรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการเลือกกรรมการเพื่อดารงตาแหน่งต่าง ๆ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566” ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 11 แห่งข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการเลือกกรรมการ เพื่อดำรงตาแหน่งต่าง ๆ พ.ศ. 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 11 ผู้สมัครรับเลือก ตามมาตรา 1 5 (2) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ ก. คุณสมบัติ เป็นผู้ดารงตาแหน่งคณบดี หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า คณะ หรือหัวหน้าภาควิชาที่ผลิตบัณฑิตสาขาการแพทย์แผนไทย หรือสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที่จัดตั้งขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วย สถาบันอุดมศึกษาเอกชน กรณีที่สถาบันอุดมศึกษาซึ่งมีการผลิตบัณฑิตสาขาการแพทย์แผนไทย หรือสาขาการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ตามวรรคหนึ่ง ที่ไม่ได้จัดตั้งเป็นคณะหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่าคณะตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ดารงตาแหน่งหัวหน้าภาควิชา หรือหัวหน้าสาขาวิชาที่ผลิตบัณฑิต สาขาการแพทย์แผนไทย หรือสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ในสถาบันอุดมศึกษาข องรัฐ หรือ สถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที่จัดตั้งขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติ ตามวรรคหนึ่ง ้ หนา 58 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 187 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 สิงหาคม 2566

ข. ลักษณะต้องห้าม ( 1 ) เป็นผู้ดำรงตาแหน่งกรรมการติดต่อกันสองวาระ ( 2 ) เป็นผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการดาเนินการเลือกหรือการเลือกตั้ งในวาระนั้น ( 3 ) เป็นผู้เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต เนื่องจากประพฤติผิด จรรยาบรรณในวิชาชีพ กรณีเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีองค์กรควบคุมวิชาชีพ ตามกฎหมายว่าด้วย วิชาชีพนั้น ( 4 ) เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (5) เป็น ผู้ประพฤติเสียหายซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะนามาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ แห่งวิชาชีพ (6) เคยต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนามา ซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ (7) เป็นผู้วิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประก อบ หรือไม่เป็นโรคที่กาหนดไว้ในข้อบังคับ สภาการแพทย์แผนไทย (8) เป็นผู้มีอายุต่ากว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ” ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 15 แห่งข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการเลือกกรรมการ เพื่อดำรงตาแหน่งต่าง ๆ พ.ศ. 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 15 ผู้สมัครรับเลือก ตามมาตรา 15 (3) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ ก. คุณสมบัติ ( 1 ) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือเป็นผู้ประกอบวิชำชีพการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ ( 2 ) มีบัตรประจำตัวสมาชิกที่ยังไม่หมดอายุ ข. ลักษณะต้องห้าม ( 1 ) เป็นผู้ดำรงตาแหน่งกรรมการติดต่อกันสองวาระ ( 2 ) เป็นผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการดาเนินการเลือกหรือการเลือกตั้งในวาระนั้น ( 3 ) เป็นผู้เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพ การแพทย์แผนไทย ( 4 ) เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (5) เป็นผู้ประพฤติเสียหายซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะนามาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ แห่งวิชาชีพ ้ หนา 59 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 187 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 สิงหาคม 2566

(6) เ คยต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนามา ซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ (7) เป็นผู้วิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที่กาหนดไว้ในข้อบังคับ สภาการแพทย์แผนไทย (8) เป็นผู้มีอายุต่ากว่ายี่สิบปีบริบู รณ์ ” ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 16 แห่งข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการเลือกกรรมการ เพื่อดำรงตาแหน่งต่าง ๆ พ.ศ. 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 16 ผู้สมัครรับเลือก ตามมาตรา 15 (4) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ ก. คุณสมบัติ ( 1 ) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ( 2 ) เป็นหัวหน้าสถาบันหรือสถานพยาบาลที่สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง โดยมี ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทย ซึ่งได้รับอนุญาตให้ถ่ายทอดความรู้เป็นผู้ให้การอบรม และ การอนุญาตให้ถ่ายทอดความรู้ยังไม่หมดอายุ ( 3 ) มีบัตรประจำตัวสมาชิกที่ยังไม่หมดอายุ ข. ลักษณะต้องห้าม ( 1 ) เป็นผู้ดำรงตาแหน่งกรรมการติดต่อกันสองวาระ ( 2 ) เป็นผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการดาเนิ นการเลือ กหรือการเลือกตั้ง ในวาระนั้น ( 3 ) เป็นผู้เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพ การแพทย์แผนไทย ( 4 ) เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (5) เป็นผู้ประพฤติเสียหายซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะนามาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ แห่งวิชาชีพ (6) เคยต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนามา ซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ (7) เป็นผู้วิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สม ประกอบ หรือไม่เป็นโรคที่กาหนดไว้ในข้อบังคับ สภาการแพทย์แผนไทย (8) เป็นผู้มีอายุต่ากว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 25 แห่งข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการ เลือกกรรมการ เพื่อดำรงตาแหน่งต่าง ๆ พ.ศ. 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ้ หนา 60 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 187 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 สิงหาคม 2566

“ ข้อ 25 การเลือกตั้งกระทำได้โดยวิธีการหนึ่งวิธีการใดหรือหลายวิธี ดังต่อไปนี้ ( 1 ) วิธีการลงคะแนนแบบบัตรเลือกตั้ง ( 2 ) วิธีการลงคะแนนและนับคะแนนทางอิเล็กทรอนิกส์ (3) วิธีการอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้สิทธิของสมาชิก ตามที่คณะกรรมการกาหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาล่วงหน้าก่อนทำการเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ทั้งนี้ สมาชิกมีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งได้เพียงวิธีใดวิธีหนึ่งเท่านั้น ” ข้อ 7 ให้ยกเลิกความในข้อ 27 แห่งข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทน และการเลือกกรรมการ เพื่อดำรงตาแหน่งต่าง ๆ พ.ศ. 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 27 ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 15 (5) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ ก. คุณสมบัติ ( 1 ) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ ( 2 ) มีบัตรประจำตัวสมาชิกที่ยังไม่หมดอายุ ข. ลักษณะต้องห้าม ( 1 ) เป็นผู้ดำรงตาแหน่ งกรรมการติดต่อกันสองวาระ ( 2 ) เป็นผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการดาเนินการเลือกหรือการเลือกตั้งในวาระนั้น ( 3 ) เป็นผู้เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพ การแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 ( 4 ) เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มล ะลายทุจริต (5) เป็นผู้ประพฤติเสียหายซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ แห่งวิชาชีพ (6) เคยต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนามา ซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ (7) เป็นผู้วิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที่กาหนดไว้ในข้อบังคับ สภาการแพทย์แผนไทย (8) เป็นผู้มีอายุต่ากว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ” ข้อ 8 ให้ยกเลิกความในข้อ 53 แห่งข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วยการเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นก รรมการแทน และการเลือกกรรมการ เพื่อดำรงตาแหน่งต่าง ๆ พ.ศ. 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ้ หนา 61 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 187 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 สิงหาคม 2566

“ ข้อ 53 กรณีกรรมการตามมาตรา 15 (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์ แผนไทย พ.ศ. 2556 ว่างลงไม่เกินหนึ่งในสามของจานวนกรรมการดังกล่าวทั้งหมดก่อนครบวาระ ให้ เลขาธิการเสนอวาระเลื่อนผู้สมัครในลำดับถัดไปขึ้นเป็นกรรมการแทนต่อคณะกรรมการ เพื่อพิจารณา ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ตาแหน่งกรรมการนั้นว่างลง กรณีการพ้นวาระเมื่อลาออกให้นับแต่วันที่ตำแหน่งกรรมนั้นว่างลง โดยการลาออกให้มี ผลสมบูรณ์ เมื่อกรรมการผู้ประสงค์จะลาอ อกได้ทำการยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้พิจารณาตรวจสอบการส่งมอบทรัพย์สินหรือภาระงานคงค้างที่ได้รับมอบหมายไว้ จากสภาการแพทย์แผนไทย ให้มีการส่งมอบแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยและเหมาะสม เพื่อมิให้เกิด ความเสียหายใด ๆ ขึ้น ต่อสภำการแพทย์แผนไทย ตลอดจนพิสูจน์เหตุจนสิ้นสงสัยจนมิได้มีการยับยั้ง การลาออก จึงมีมติอนุมัติให้ลาออกได้ ” ประกาศ ณ วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 25 6 6 ชนิญญา ชัยสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย ้ หนา 62 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 187 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 สิงหาคม 2566