ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตําบลปูโยะ เรื่อง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2563
ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตําบลปูโยะ เรื่อง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2563
ขอบัญญัติองคการบริหารสวนตําบลปูโยะ เรื่อง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2563 โดยที่เป็นการสมควรตราขอบัญญัติองคการบริหารสวนตําบลปูโยะ วาด้วยการควบคุมอาคาร อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 10 (1) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 และมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติสภาตําบลและองคการบริหารสวนตําบล พ.ศ. 2537 ซึ่งแกไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติสภาตําบลและองคการบริหารสวนตําบล (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2546 องคการบริหาร สวนตําบลปูโยะ โดยความเห็นชอบของงสภาองคการบริหารสวนตําบลปูโยะและนายอําเภออําเภอสุไหงโก - ลก จึงตราขอบัญญัติไว ดังต่อไปนี้ ขอ 1 ขอบัญญัตินี้ให้เรียกวา “ ขอบัญญัติองคการบริหารสวนตําบลปูโยะ เรื่อง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2563 ” ขอ 2 ขอบัญญัตินี้ให้ใชบังคับในเขตองคการบริหารสวนตําบลปูโยะ ตั้งแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นตนไป ขอ 3 ในกรณีที่ขอบัญญัตินี้มิได้บัญญัติเรื่องใดไวให้บังคับเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 และกฎกระทรวงที่ออกตามความ ในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ขอ 4 ในขอบัญญัตินี้ “ เจ้าพนักงานทองถิ่น ” หมายความวา นายกองคการบริหารสวนตําบลปูโยะ “ อาคาร ” หมายความวา ตึก บ้าน เรือน โรง ราน แพ คลังสินคา สํานักงาน และสิ่งที่สรางขึ้นอยางอื่นซึ่งบุคคลอาจเขาอยู่หรือเขาใชสอยได้ และหมายความรวมถึง (1) อัฒจันทร์หรือสิ่งที่สรางขึ้นอยางอื่นเพื่อใชเป็นที่ชุมนุมของประชาชน (2) เขื่อน สะพาน อุโมงค ทางหรือทอระบายน้ํา อูเรือ คานเรือ ทาน้ํา ทาจอดเรือ รั้วกําแพง หรือประตูที่สรางขึ้นติดต่อหรือใกลเคียงกับที่สาธารณะ หรือสิ่งที่สรางขึ้นให้บุคคลทั่วไปใชสอย ้ หนา 134 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
(3) ปายหรือสิ่งที่สรางขึ้นสําหรับติดหรือตั้งปาย (ก) ที่ติดหรือตั้งไวเหนือที่สาธารณะและมีขนาดเกินหนึ่งตารางเมตร หรือมีน้ําหนัก รวมทั้งโครงสรางเกินสิบกิโลกรัม (ข) ที่ติดหรือตั้งไวในระยะหางจากที่สาธารณะซึ่งเมื่อวัดในทางราบแล้ว ระยะหางจากที่สาธารณะมีนอยกวาความสูงของปายนั้นเมื่อวัดจากพื้นดิน และมีขนาดหรือมีน้ําหนัก เกินกวาที่กําหนดในกฎกระทรวง (4) พื้นที่หรือสิ่งที่สรางขึ้นเพื่อใชเป็นที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเขาออกของรถ สําหรับอาคารที่กําหนดตามมาตรา 8 (9) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 (5) สิ่งที่สรางขึ้นอยางอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวงกําหนดสิ่งที่สรางขึ้นอยางอื่น เป็นอาคารตามกฎหมายวาด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงสวนตาง ๆ ของอาคารด้วย “ อาคารสูง ” หมายความวา อาคารที่บุคคลอาจเขาอยู่หรือเขาใชสอยได้ที่มีความสูง ตั้งแต่ยี่สิบสามเมตรขึ้นไป การวัดความสูงของอาคารให้วัดจากระดับพื้นดินที่กอสรางถึงพื้นดาดฟา สําหรับอาคารทรงจั่วหรือปนหยาให้วัดจากระดับพื้นดินที่กอสรางถึงยอดผนังของชั้นสูงสุด “ อาคารชุมนุมคน ” หมายความวา อาคารหรือสวนใดของอาคารที่บุคคลอาจเขาไป ภายในเพื่อประโยชนในการชุมนุมคนที่มีพื้นที่ตั้งแต่หนึ่งพันตารางเมตรขึ้นไป หรือชุมนุมคนได้ตั้งแต่ หารอยคนขึ้นไป “ โรงมหรสพ ” หมายความวา อาคารหรือสวนใดของอาคารที่ใชเป็นสถานที่สําหรับ ฉายภาพยนตร แสดงละคร แสดงดนตรี หรือการแสดงรื่นเริงอื่นใด และมีวัตถุประสงคเพื่อเปดให้สาธารณชน เขาชมการแสดงนั้นเป็นปกติธุระ โดยจะมีคาตอบแทนหรือไม่ก็ตาม “ ที่สาธารณะ ” หมายความวา ที่ซึ่งเปดหรือยินยอมให้ประชาชนเขาไปหรือใชเป็นทางสัญจรได้ ทั้งนี้ ไม่วาจะมีการเรียกเก็บคาตอบแทนหรือไม่ “ กอสราง ” หมายความวา สรางอาคารขึ้นใหมทั้งหมด ไม่วาจะเป็นการสรางขึ้นแทน ของเดิมหรือไม่ ้ หนา 135 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
“ ดัดแปลง ” หมายความวา เปลี่ยนแปลง ต่อเติม เพิ่ม ลด หรือขยาย ซึ่งลักษณะ ขอบเขตแบบ รูปทรง สัดสวน น้ําหนัก เนื้อที่ของโครงสรางของอาคารหรือสวนตาง ๆ ของอาคาร ซึ่งได้กอสรางไวแล้วให้ผิดไปจากเดิม และมิใชการซอมแซมหรือการดัดแปลงที่กําหนดในกฎกระทรวง “ ซอมแซม ” หมายความวา ซอมหรือเปลี่ยนสวนตาง ๆ ของอาคารให้คงสภาพเดิม “ รื้อถอน ” หมายความวา รื้อสวนอันเป็นโครงสรางของอาคารออกไป เชน เสา คาน ตง หรือสวนอื่นของโครงสรางตามที่กําหนดในกฎกระทรวง “ กฎกระทรวง ” หมายความวา กฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ขอ 5 ให้นายกองคการบริหารสวนตําบลปูโยะรักษาการให้เป็นไปตามขอบัญญัตินี้ และมีอํานาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งอื่นใดเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามขอบัญญัตินี้ หมวด 1 หลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการอนุญาตและการแจง ขอ 6 ผู้ใดจะกอสราง ดัดแปลง หรือเคลื่อนยายอาคารต้องได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานทองถิ่น ผู้ใดจะรื้อถอนอาคาร ดังต่อไปนี้ต้องได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานทองถิ่น (1) อาคารที่มีสวนสูงเกิน 15 เมตร ซึ่งอยู่หางจากอาคารอื่นหรือที่สาธารณะ นอยกวาความสูงของอาคาร (2) อาคารที่อยู่หางจากอาคารอื่นหรือที่สาธารณะนอยกวา 2 เมตร ขอ 7 ให้กําหนดระยะเวลาอายุใบอนุญาตกอสราง ดัดแปลงอาคาร หรือใบรับแจงตามขอ 9 ตามขนาดของพื้นที่อาคารสวนที่จะทําการกอสรางหรือดัดแปลง ดังนี้ (1) อาคารที่มีพื้นที่รวมกันนอยกวา 10 , 000 ตารางเมตร กําหนดอายุใบอนุญาตไม่เกิน 1 ป (2) อาคารที่มีพื้นที่รวมกันตั้งแต่ 10 , 000 ตารางเมตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน 50 , 000 ตารางเมตร กําหนดอายุใบอนุญาตไม่เกิน 2 ป (3) อาคารที่มีพื้นที่รวมกันมากกวา 50 , 000 ตารางเมตร กําหนดอายุใบอนุญาตไม่เกิน 3 ป ขอ 8 ผู้ได้รับใบอนุญาตผู้ใดประสงคจะขอต่ออายุใบอนุญาตกอสรางอาคาร ดัดแปลงอาคาร รื้อถอนอาคาร หรือเคลื่อนยายอาคาร ให้ยื่นคําขอต่ออายุใบอนุญาตต่อเจ้าพนักงานทองถิ่น กอนใบอนุญาตสิ้นอายุ ้ หนา 136 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
ขอ 9 ผู้ใดจะกอสราง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนยายอาคารโดยไม่ยื่นคําขอรับ ใบอนุญาตให้ดําเนินการแจงต่อเจ้าพนักงานทองถิ่น ดังต่อไปนี้ (1) แจงให้เจ้าพนักงานทองถิ่นทราบตามแบบที่เจ้าพนักงานทองถิ่นกําหนด พรอมทั้งแจงขอมูลและยื่นเอกสาร ดังต่อไปนี้ (ก) ชื่อของผู้รับผิดชอบงานออกแบบอาคาร ซึ่งต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็น ผู้ประกอบวิชาชีพสถาปตยกรรมควบคุมประเภทวุฒิสถาปนิกตามกฎหมายวาด้วยวิชาชีพสถาปตยกรรม และจะต้องไม่เป็นผู้ได้รับการแจงเวียนชื่อตามมาตรา 49 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 (ข) ชื่อของผู้รับผิดชอบงานออกแบบและคํานวณอาคาร ซึ่งต้องเป็นผู้ได้รับ ใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมประเภทวุฒิวิศวกรตามกฎหมายวาด้วยวิชาชีพวิศวกรรม และจะต้องไม่เป็นผู้ได้รับการแจงเวียนชื่อตามมาตรา 49 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 (ค) ชื่อของผู้ควบคุมงาน ซึ่งจะต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ สถาปตยกรรมควบคุมตามกฎหมายวาด้วยวิชาชีพสถาปตยกรรม และเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็น ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามกฎหมายวาด้วยวิชาชีพวิศวกรรม และจะต้องไม่เป็นผู้ได้รับการแจงเวียนชื่อ ตามมาตรา 49 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งแกไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 (ง) สําเนาใบอนุญาตของบุคคลตามขอ (ก) (ข) และ (ค) (จ) หนังสือรับรองของบุคคลตาม (ก) (ข) และ (ค) วาตนเป็นผู้ออกแบบอาคาร เป็นผู้ออกแบบและคํานวณอาคาร หรือจะเป็นผู้ควบคุมงาน แล้วแต่กรณี พรอมทั้งรับรองวาการกอสราง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนยายอาคารนั้นถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎกระทรวงขอบัญญัตินี้ และกฎหมายที่เกี่ยวของทุกประการ (ฉ) แผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน และรายการคํานวณ ของอาคารที่จะกอสราง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนยาย ซึ่งมีคํารับรองของบุคคลตาม (ก) และ (ข) วาตนเป็นผู้ออกแบบอาคาร และเป็นผู้ออกแบบและคํานวณอาคารนั้น (ช) วันเริ่มตนและวันสิ้นสุดการดําเนินการดังกลาว ้ หนา 137 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
(2) ชําระคาธรรมเนียมการตรวจแบบแปลนกอสรางหรือดัดแปลงอาคารถาผู้แจง ได้ดําเนินการตามที่ระบุไวครบถวนแล้ว ให้เจ้าพนักงานทองถิ่นออกใบรับแจงให้แกผู้นั้นภายในวันที่ได้รับแจง และให้ผู้แจงเริ่มตนดําเนินการตามที่ได้แจงไวได้ตั้งแต่วันที่ได้รับใบแจง ขอ 10 คาธรรมเนียมการออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาตและคาธรรมเนียม ในการตรวจแบบแปลนให้เป็นไปตามบัญชีอัตราคาธรรมเนียมทายขอบัญญัตินี้ หมวด 2 ลักษณะอาคารตาง ๆ ขอ 11 อาคารที่มิได้กอสรางด้วยวัตถุถาวร หรือวัตถุทนไฟเป็นสวนใหญ ครัวไฟต้องอยู่นอกอาคาร เป็นสัดสวนตางหาก ถาจะรวมครัวไฟไวในอาคารด้วยก็ได้ แต่ต้องลาดพื้น บุผนัง ฝาเพดาน ครัวไฟด้วยวัตถุถาวรหรือวัตถุทนไฟเป็นสวนใหญ ขอ 12 อาคารที่มิได้กอสรางด้วยวัตถุถาวร หรือวัตถุทนไฟเป็นสวนใหญ หรือกอด้วยอิฐ ไม่เสริมเหล็กให้ปลูกสรางได้ไม่เกินสองชั้น ขอ 13 อาคารสองชั้นที่มิได้กอสรางด้วยวัตถุถาวรหรือวัตถุทนไฟเป็นสวนใหญ พื้นชั้นลาง ของอาคารนั้นจะสูงจากระดับทางสาธารณะดานหน้าอาคารเกินกวา 1 เมตรไม่ได้ ขอ 14 โรงมหรสพ หอประชุม หรื ออาคารที่ปลูกสรางเกินสองชั้นให้สรางด้วยวัสดุถาวร และวัสดุทนไฟเป็นสวนใหญโรงมหรสพหรือหอประชุมที่ปลูกสรางเกินหนึ่งชั้น หรืออาคารที่ปลูกสราง เกินสามชั้นนอกจากมีบันไดตามปกติแล้วต้องมีทางหนีโดยเฉพาะอยางนอยอีกหนึ่งทางตามลักษณะแบบ ของอาคารที่กําหนดให้ ขอ 15 หองแถวและตึกแถวต้องมีความกวางจากเสนกึ่งกลางของผนังดานหนึ่งไปยังเสนกึ่งกลาง ของผนังอีกดานหนึ่งไม่นอยกวา 4 เมตร ความลึกของหองต้องไม่นอยกวา 4 เมตรและต้องมีประตู หรือทางให้คนเขาออกได้ทั้งดานหน้าและดานหลัง ในกรณีที่เป็นตึกแถวผนังต้องทําด้วยวัตถุถาวร และวัตถุทนไฟถากอด้วยอิฐหรือคอนกรีตไม่เสริมเหล็กหรือวัตถุทนไฟอยางอื่น ผนังนี้ต้องหนาไม่นอยกวา 10 เซนติเมตร หองแถวและตึกแถวซึ่งปลูกสรางติดต่อกันเป็นแนวยาวให้มีผนังกันไฟหนาไม่นอยกวา 20 เซนติเมตร ตั้งแต่ระดับพื้นดินขึ้นไปสูงถึงใตทองหลังคาโดยไม่มีชองวางทุกระยะไม่เกินหาหองหองแถว ตึกแถว หรือบ้านแถวจะสรางต่อเนื่องกันได้ไม่เกินสิบคูหา และมีความยาวของอาคารแถวหนึ่ง ๆ รวมกันไม่เกิน 40 เมตร โดยวัดระหวางจุดศูนยกลางของเสาแรกถึงจุดศูนยกลางของเสาสุดทายไม่วาจะเป็นเจ้าของเดียวกัน และใชโครงสรางเดียวกันหรือแยกกันก็ตาม ้ หนา 138 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
ตึกแถวที่สูงสามชั้นต้องมีพื้นชั้นสองหรือชั้นสามสรางด้วยวัตถุทนไฟชั้นใดชั้นหนึ่งเป็นอยางนอย ถาสูงเกินสามชั้นต้องสรางพื้นด้วยวัตถุทนไฟทุกชั้น ขอ 16 อาคารทุกชนิดจะปลูกสรางบนที่ดินซึ่งถมด้วยขยะมูลฝอยมิได้ เวนแต่ขยะมูลฝอยนั้น จะได้กลายสภาพเป็นดินแล้ว หรือได้ทับด้วยดินกระทุงแนนไม่ต่ํากวา 30 เซนติเมตร และมีลักษณะ ไม่เป็นอันตรายแกอนามัยและมั่นคงแข็งแรง ขอ 17 รั้วหรือกําแพงกั้นเขตให้ทําได้สูงเหนือระดับถนนสาธารณะไม่เกิน 3 เมตร และต้องให้คงสภาพได้ดีอยู่เสมอไป ประตูรั้วหรือกําแพงซึ่งเป็นทางรถเขาออก ถามีคานบนให้วางคานนั้น สูงจากระดับถนนสาธารณะไม่นอยกวา 3 เมตร ขอ 18 ปายโฆษณา การกอสรางและติดตั้งปายให้เป็นไปตามนี้ปายหรือสิ่งที่สรางขึ้นสําหรับติด หรือตั้งปายที่อาคารต้องไม่บังชองระบายอากาศ หน้าตางประตู หรือทางหนีไฟ ปายหรือสิ่งที่สรางขึ้นสําหรับติดหรือตั้งปายบนหลังคาหรือดาดฟาของอาคารต้องไม่ล้ําออกนอก แนวผนังรอบนอกของอาคาร และสวนบนสุดของปายหรือสิ่งที่สรางขึ้นสําหรับติดหรือตั้งปายต้องสูงไม่เกิน 6 เมตรจากสวนสูงสุดของหลังคาหรือดาดฟาของอาคารที่ติดตั้งปายนั้น ปายที่ยื่นจากผนังอาคารให้ยื่นได้ไม่เกินแนวกันสาดและให้สูงได้ไม่เกิน 60 เซนติเมตร หรือมีพื้นที่ปายไม่เกิน 2 ตารางเมตร ปายที่ติดตั้งใตกันสาดให้ติดตั้งแนบผนังอาคารและต้องสูงจากพื้นทางเทานั้นไม่นอยกวา 2.50 เมตร ปายโฆษณาสําหรับโรงมหรสพให้ติดตั้งขนานกับผนังอาคารโรงมหรสพ แต่จะยื่นหางจากผนังได้ไม่เกิน 50 เซนติเมตร หรือหากติดตั้งปายบนกันสาดจะต้องไม่ยื่นล้ําแนวปลายกันสาดนั้นและมีความสูงของ ปายทั้งสองกรณีต้องไม่เกินความสูงของอาคาร ปายที่ติดตั้งอยู่บนพื้นที่ดินโดยตรงต้องมีความสูงไม่เกินระยะที่วัดจากจุดที่ติดตั้งปายไปจนถึงกึ่งกลาง ขอ 19 สะพานสวนบุคคลสําหรับรถยนตต้องมีทางเดินรถกวางไม่นอยกวา 3.50 เมตร มีสวนลาดชันไม่เกิน 10 ใน 100 สะพานที่ใชเป็นทางสาธารณะสําหรับรถยนตต้องมีทางเดินรถกวางไม่นอยกวา 6 เมตร มีสวนลาดชันไม่เกิน 8 ใน 100 มีทางเทาสองขาง ๆ ละไม่นอยกวา 1.50 เมตร เวนแต่สะพานที่สราง สําหรับรถยนตโดยเฉพาะจะไม่มีทางเทาก็ได้ และมีราวสะพานที่มั่นคงแข็งแรงยาวตลอดตัวสะพานสองขางด้วย ้ หนา 139 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
ขอ 20 การปลูกสรางโดยต่อเติมหรือดัดแปลงอาคาร ดังต่อไปนี้จะต้องได้รับอนุญาตกอน (1) เพิ่มชั้นหรือขยายพื้นที่ชั้นหนึ่งชั้นใดรวมกันเกินหาตารางเมตรขึ้นไป (2) เปลี่ยนหลังคาหรือขยายหลังคาให้ปกคลุมเนื้อที่มากขึ้นกวาเดิมอันเป็นการเพิ่ม น้ําหนักแกหลังคาเดิมเกินรอยละสิบ (3) เพิ่มหรือลดจํานวนเสาหรือคาน (4) เปลี่ยนเสา คาน บันได ผนัง หรือเพิ่มผนังหรือสวนประกอบอื่นอันเป็นการเพิ่ม น้ําหนักอาคารเดิมเกินรอยละสิบ หมวด 3 สวนตาง ๆ ของอาคาร ขอ 21 อาคารอยู่อาศัยรวมต้องมีพื้นที่ภายในแต่ละหนวยที่ใชเพื่อการอยู่อาศัยไม่นอยกวา 20 ตารางเมตร ขอ 22 หองนอนในอาคารให้มีความกวางดานแคบที่สุดไม่นอยกวา 2.50 เมตร และมีพื้นที่ไม่นอยกวา 8 ตารางเมตร ขอ 23 หองนอนหรือหองที่ใชเป็นที่พักอาศัยในอาคารให้มีชองประตูและหน้าตางเป็นเนื้อที่ รวมกันไม่นอยกวารอยละสองของพื้นที่ของหองนั้น โดยไม่รวมนับสวนประตูหรือหน้าตางอันติดต่อกับหองอื่น ขอ 24 ชองทางเดินในอาคารต้องมีความกวางตามที่กําหนดไว ดังต่อไปนี้ (1) อาคารที่อยู่อาศัยต้องมีความกวางไม่นอยกวา 1 เมตร (2) อาคารที่อยู่อาศัยรวม หอพักตามกฎหมายวาด้วยหอพัก สํานักงาน อาคารสาธารณะ อาคารพาณิชย โรงงาน อาคารพิเศษต้องมีความกวางไม่นอยกวา 1.50 เมตร ขอ 25 ยอดหน้าตางและประตูในอาคารให้ทําสูงจากพื้นไม่นอยกวา 1.80 เมตร และบุคคลซึ่งอยู่ในหองต้องสามารถเปดประตูหน้าตางและออกจากหองนั้นได้โดยสะดวก ขอ 26 หองหรือสวนของอาคารที่ใชในการทํากิจกรรมตาง ๆ ต้องมีระยะดิ่งไม่นอยกวา ตามที่กําหนดไว ดังต่อไปนี้ ้ หนา 140 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
ประเภทใชอาคาร ระยะดิ่ง 1. หองที่ใชเป็นที่พักอาศัย บ้านแถว หองพักโรงแรม หองเรียน นักเรียนอนุบาล ครัวสําหรับอาคารอยู่อาศัย หองพักคนไข พิเศษ ชองทางเดินในอาคาร 2.60 เมตร 2. หองที่ใชเป็นสํานักงานหองเรียน หองอาคาร หองโถงภัตตาคาร โรงงาน 3 เมตร 3. หองขายสินคา หองประชุม หองคนไขรวม คลังสินคา โรงครัว ตลาดและอื่น ๆ ที่คลายกัน 3.50 เมตร 4. หองแถว ตึกแถว 4.1 ชั้นลาง 4.2 ตั้งแต่ชั้นสองขึ้นไป 3.50 เมตร 3 เมตร 5. ระเบียง 2.20 เมตร ความสูงสุทธิของอาคารสวนที่ใชจอดรถยนต หมายถึง ความสูงจากพื้นถึงใตคานหรือทอ หรือสิ่งคลายคลึงกันต้องไม่นอยกวา 2.10 เมตร หองในอาคารซึ่งมีระยะดิ่งระหวางพื้นถึงพื้นอีกชั้นหนึ่งตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไปจะทําพื้นชั้นลอย ในหองนั้นก็ได้ โดยพื้นชั้นลอยดังกลาวนั้นต้องมีเนื้อที่ไม่เกินรอยละสี่สิบของเนื้อที่หอง ระยะดิ่งระหวาง พื้นชั้นลอยถึงพื้นอีกชั้นหนึ่งต้องไม่นอยกวา 2.50 เมตร และระยะดิ่งระหวางพื้นหองถึงพื้นชั้นลอย ต้องไม่นอยกวา 2.40 เมตร ขอ 27 พื้นชั้นลางของอาคารที่พักอาศัยต้องมีระดับอยู่เหนือพื้นดินปลูกสรางไม่ต่ํากวา 75 เซนติเมตร แต่ถาเป็นพื้นซีเมนต อิฐ หิน หรือวัตถุแข็งอยางอื่นที่สรางติดพื้นดินต้องมีระดับ อยู่เหนือพื้นดินปลูกสรางอาคารไม่ต่ํากวา 10 เซนติเมตร และถาเป็นอาคารตั้งอยู่ริมทางสาธารณะ ความสูงจะต้องวัดจากระดับทางสาธารณะนั้น ในกรณีที่มีการถมดินเพื่อปลูกสรางอาคารให้ถมดินได้ไม่เกินความสูง 60 เซนติเมตร จากระดับทางสาธารณะดานหน้า เวนแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานทองถิ่นเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตจะต้องทําการฝงทอลอดดานหน้าให้การระบายน้ําเป็นไปได้โดยสะดวก ตลอดจน ต้องหาทางปองกันมิให้เกิดความเดือดรอนแกที่ดินขางเคียงอีกด้วย ้ หนา 141 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
ขอ 28 หามมิให้มีประตูหน้าตางหรือชองลมจากครัวไฟเปดเขาสูหองสวมหรือหองนอน ของอาคารได้โดยตรง ขอ 29 เตาไฟสําหรับโรงงานหรือการพาณิชยต้องมีผนังเตากอด้วยอิฐดินเผาหรืออิฐทนไฟ กําบังความรอนมิให้เกิดอันตรายไฟไหมสวนอาคารที่ต่อเนื่องกับเตา และต้องตั้งอยู่ในอาคารที่ประกอบด้วย วัตถุทนไฟ ทั้งนี้ เตาต้องตั้งหางจากผนังอาคาร หรือสิ่งที่เป็นเชื้อไฟรอบรัศมีไม่ต่ํากวา 4 เมตร โครงหลังคาวัตถุมุงหลังคาปลองระบายควันไฟ และเพดาน สวนประกอบเพดาน ถามีต้องเป็นวัตถุทนไฟ และต้องทําปลองระบายควันไฟมิให้ฝาผนังหรือหลังคารับความรอนจัดโดยความสูงของปลองต้องสูงกวา หลังคาอาคารขางเคียงภายในระยะโดยรอบ 25 เมตรไม่นอยกวา 1 เมตรและมีความกวาง ของปลองโดยวัดเสนผาศูนยกลางไม่นอยกวา 20 เซนติเมตร ขอ 30 ประตูสําหรับอาคารสาธารณะ โรงงานหรืออาคารพาณิชย ถามีธรณีประตูต้องเรียบ เสมอกับพื้น ขอ 31 บันไดของอาคารอยู่อาศัยถาต้องมีอยางนอยหนึ่งบันไดที่มีความกวางสุทธิไม่นอยกวา 80 เซนติเมตร ชวงหนึ่งสูงไม่เกิน 3 เมตร ลูกตั้งสูงไม่เกิน 20 เซนติเมตร ลูกนอนเมื่อหักสวนที่ขั้นบันได เหลื่อมกันออกแล้วเหลือความกวางไม่นอยกวา 22 เซนติเมตร และต้องมีพื้นหน้าบันไดมีความกวาง และยาวไม่นอยกวาความกวางของบันไดบันไดที่สูงเกิน 3 เมตร ต้องมีชานพักบันไดทุกชวง 3 เมตร หรือนอยกวานั้น และชานพักบันไดต้องมีความกวางและยาวไม่นอยกวาความกวางของบันได ระยะดิ่งจากขั้นบันไดหรือชานพักบันไดถึงสวนต่ําสุดของอาคารที่อยู่เหนือขึ้นไปต้องสูงไม่นอยกวา 1.90 เมตร ขอ 32 บันไดของอาคารอยู่อาศัยรวม หอพักตามกฎหมายวาด้วยหอพัก สํานักงานอาคารสาธารณะ อาคารพาณิชย โรงงาน และอาคารพิเศษ สําหรับที่ใชกับชั้นที่มีพื้นที่อาคารชั้นเหนือขึ้นไปรวมกัน ไม่เกิน 300 ตารางเมตร ต้องมีความกวางสุทธิไม่นอยกวา 1.20 เมตร แต่สําหรับบันไดของอาคารดังกลาว ที่ใชกับชั้นที่มีพื้นที่อาคารชั้นเหนือขึ้นไปรวมกันเกิน 300 ตารางเมตร ต้องมีความกวางสุทธิไม่นอยกวา 1.50 เมตร ถาความกวางสุทธิของบันไดนอยกวา 1.50 เมตร ต้องมีบันไดอยางนอยสองบันได และแต่ละบันไดต้องมีความกวางสุทธิไม่นอยกวา 1.20 เมตร บันไดของอาคารที่ใชเป็นที่ชุมนุมของคนจํานวนมาก เชน บันไดหองประชุมหรือหองบรรยาย ที่มีพื้นที่รวมกันตั้งแต่ 500 ตารางเมตรขึ้นไป หรือบันไดหองรับประทานอาหารหรือสถานบริการ ที่มีพื้นที่รวมกันตั้งแต่ 1 , 000 ตารางเมตรขึ้นไป หรือบันไดของแต่ละชั้นของอาคารนั้นที่มีพื้นที่รวมกัน ตั้งแต่ 2 , 000 ตารางเมตรขึ้นไป ้ หนา 142 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
ต้องมีความกวางไม่นอยกวา 1.50 เมตร ต้องมีบันไดอยางนอยสองบันไดถามีบันไดเดียวต้อง มีความกวางไม่นอยกวา 3 เมตร บันไดที่สูงเกิน 4 เมตร ต้องมีชานพักบันไดทุกชวง 4 เมตร หรือนอยกวานั้น และระยะดิ่ง จากขั้นบันไดหรือชานพักบันไดถึงสวนต่ําสุดของอาคารที่อยู่เหนือขึ้นไปต้องสูงไม่นอยกวา 2.10 เมตร ชานพักบันไดและพื้นหน้าบันไดต้องมีความกวางและความยาวไม่นอยกวาความกวางสุทธิของบันได เวนแต่บันไดที่มีความกวางสุทธิเกิน 2 เมตร ชานพักบันไดและพื้นหน้าบันไดจะมีความยาวไม่เกิน 2 เมตรก็ได้ บันไดตามวรรคหนึ่ง และวรรคสองต้องมีลูกตั้งสูงไม่เกิน 18 เซนติเมตร ลูกนอนเมื่อหักสวน ที่ขั้นบันไดเหลื่อมกันออกแล้วเหลือความกวางไม่นอยกวา 25 เซนติเมตร และต้องมีราวบันไดกันตกบันได ที่มีความกวางสุทธิเกิน 6 เมตร และชวงบันไดสูงเกิน 1 เมตร ต้องมีราวบันไดทั้งสองขางบริเวณจมูกบันได ต้องมีวัสดุกันลื่น ขอ 33 บันไดตามขอ 32 จะต้องมีระยะหางไม่เกิน 40 เมตร จากจุดที่ไกลสุดบนพื้นที่ชั้นนั้น ขอ 34 บันไดตามขอ 31 และขอ 32 ที่เป็นแนวโคงเกิน 90 องศา จะไม่มีชานพักบันไดก็ได้ แต่ต้องมีความกวางเฉลี่ยของลูกนอนไม่นอยกวา 22 เซนติเมตร สําหรับบันไดตามขอ 31 และไม่นอยกวา 25 เซนติเมตร สําหรับบันไดตามขอ 32 ขอ 35 บันไดซึ่งมีชวงระยะสูงกวาที่กําหนดไวให้ทําที่พักมีขนาดกวางยาวไม่นอยกวา สวนกวางของบันไดนั้น ถาตอนใดต้องทําเลี้ยวมีบันไดเวียนสวนแคบที่สุดของลูกนอนต้องกวางไม่นอยกวา 10 เซนติเมตร อาคารที่มีบันไดติดต่อกันตั้งแต่สี่ชั้นขึ้นไป พื้น ประตู หน้าตาง วงกบของหอง บันได และสิ่งกอสรางโดยรอบบันไดต้องกอสรางด้วยวัตถุทนไฟ หน้าตางหรือชองระบายอากาศ หรือชองแสงสวาง ซึ่งทําติดต่อกันสูงเกิน 10 เมตร ต้องสรางด้วยวัตถุทนไฟ ขอ 36 ลิฟตสําหรับบุคคลใชสอยให้ทําได้แต่ในอาคารที่ซึ่งประกอบด้วยวัตถุทนไฟเป็นสวนใหญ และโดยเฉพาะสวนต่อเนื่องกับลิฟตนั้นต้องเป็นวัตถุทนไฟทั้งสิ้น สวน ปลอดภัยของลิฟตต้องมีอยู่ ไม่นอยกวาสี่เทาของน้ําหนักที่กําหนดให้ ขอ 37 วัตถุมุงหลังคาให้ทําด้วยวัตถุทนไฟ เวนแต่อาคารซึ่งตั้งอยู่หางอาคารอื่นซึ่งมุง ด้วยวัตถุทนไฟ หรือหางเขตที่ดินหรือทางสาธารณะเกิน 40 เมตรจะใชวัตถุอื่นก็ได้ ้ หนา 143 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
ขอ 38 สวนฐานรากของอาคารซึ่งอยู่ใตดินต่อเนื่องกับทางสาธารณะจะล้ําทางสาธารณะเขาไปไม่ได้ ฐานรากของอาคารต้องทําเป็นลักษณะถาวรมั่นคงพอที่จะรับน้ําหนักของอาคาร และน้ําหนักที่จะใชบรรทุกได้ โดยปลอดภัย ในกรณีที่เห็นวาการกําหนดฐานรากยังไม่มั่นคงเพียงพอให้เรียกรายการคํานวณจาก เจ้าของอาคารเพื่อประกอบการพิจารณาได้ ขอ 39 อาคารที่ปลูกสรางสูงเกินเจ็ดชั้นให้มีพื้นที่ดาดฟาเพื่อใชเป็นทางหนีไฟทางอากาศ ตามสภาพที่เหมาะสม หมวด 4 แนวอาคารและระยะตาง ๆ ขอ 40 หามมิให้บุคคลใดปลูกสรางอาคารหรือสวนของอาคารยื่นออกมาในหรือเหนือทาง หรือที่ดินสาธารณะ ขอ 41 ตึกแถว หองแถว อาคารพาณิชย โรงงาน และอาคารสาธารณะที่ได้รนแนวหาง จากเขตทางสาธารณะไม่เกิน 2 เมตร ทองกันสาดของพื้นชั้นแรกต้องสูงจากระดับทางเทาที่กําหนด 3.25 เมตรระเบียงดานหน้าอาคารยื่นได้ไม่เกินสวนยื่นสถาปตยกรรม หามระบายน้ําจากกันสาดดานหน้าอาคารและจากหลังคาลงในที่สาธารณะหรือในที่ดิน ที่ได้รนแนวอาคารจากเขตทางสาธารณะโดยตรง แต่ให้มีรางระบายหรือทอระบายน้ําจากกันสาด หรือหลังคาให้เพียงพอลงไปถึงพื้นดินแล้วระบายลงสูทอสาธารณะหรือบอพัก อาคารตามวรรคหนึ่งที่ได้รนแนวหางจากเขตทางสาธารณะเกิน 2 เมตร หากมีกันสาดระเบียง หรือสวนยื่นสถาปตยกรรมใดยื่นออกมาในระยะ 2 เมตรจากเขตทางสาธารณะต้องปฏิบัติตามสองวรรคแรกด้วย ขอ 42 หามมิให้ปลูกสรางอาคารสูงกวาระดับพื้นดินเกินสองเทาของระยะจากผนังดานหน้า ของอาคารถึงแนวถนนฟากตรงขาม เวนแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานทองถิ่นเป็นกรณีพิเศษ ขอ 43 อาคารที่กอสรางหรือดัดแปลงใกลถนนสาธารณะที่มีความกวางนอยกวา 6 เมตร ให้รนแนวอาคารหางจากกึ่งกลางถนนสาธารณะอยางนอย 3 เมตร อาคารที่สูงเกินสองชั้นหรือเกิน 8 เมตร หองแถว ตึกแถว บ้านแถว อาคาพาณิชย โรงงาน อาคารสาธารณะ ปายหรือสิ่งที่สรางขึ้นสําหรับติดหรือตั้งปายหรือคลังสินคา ที่กอสราง หรือดัดแปลง ใกลถนนสาธารณะ ้ หนา 144 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
(1) ถาถนนสาธารณะนั้นมีความกวางนอยกวา 10 เมตร ให้รนแนวอาคารหางจาก กึ่งกลางถนนสาธารณะอยางนอย 6 เมตร (2) ถาถนนสาธารณะนั้นมีความกวางตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20 เมตร ให้รนแนวอาคารหางจากเขตถนนสาธารณะอยางนอย 1 ใน 10 ของความกวางของถนนสาธารณะ (3) ถาถนนสาธารณะนั้นมีความกวางเกิน 20 เมตรขึ้นไป ให้รนแนวอาคารหางจาก เขตถนนสาธารณะอยางนอย 2 เมตร ขอ 44 อาคารหลังเดี่ยวซึ่งมีถนนสาธารณะสองสายขนาดไม่เทากันขนาบอยู่เมื่อระยะระหวาง ถนนสาธารณะสองสายนั้นไม่เกิน 60 เมตร และสวนกวางของอาคารตามแนวถนนสาธารณะ ที่กวางกวาไม่เกิน 60 เมตร ความสูงของอาคาร ณ จุดใดต้องไม่เกินสองเทาของระยะราบที่ใกลที่สุด จากจุดนั้นไปตั้งฉากกับแนวเขตถนนสาธารณะดานตรงขามของสายที่กวางกวา ขอ 45 อาคารหลังเดี่ยวซึ่งอยู่ที่มุมถนนสายสาธารณะสองสายขนาดไม่เทากัน ความสูงของอาคาร ณ จุดใดต้องไม่เกินสองเทาของระยะราบที่ใกลที่สุด จากจุดนั้นไปตั้งฉากกับแนวเขตถนนสาธารณะ ดานตรงขามของสายที่กวางกวา และความยาวของอาคารตามแนวถนนสาธารณะที่แคบกวาต้องไม่เกิน 60 เมตร สําหรับอาคารซึ่งเป็นหองแถวหรือตึกแถว ความยาวของอาคารตามแนวถนนสาธารณะ ที่แคบกวาต้องไม่เกิน 15 เมตร ขอ 46 ระยะหางของอาคารกับเขตที่ดิน กรณีผนังอาคารมีประตูหน้าตาง ชองระบายอากาศ ชองแสง หรือระเบียงอาคาร ต้องมีระยะหางจากเขตที่ดิน ดังนี้ (1) ผนังอาคารสวนที่สูงไม่เกิน 9 เมตร ต้องอยู่หางเขตที่ดินที่ไม่นอยกวา 2 เมตร (2) ผนังอาคารสวนที่สูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่เกิน 23 เมตร ต้องอยู่หางเ ขตที่ดิน ไม่นอยกวา 3 เมตร ขอ 47 ผนังอาคารที่อยู่หางเขตที่ดินนอยกวาที่กําหนดไวในในขอ 46 (1) และ (2) ต้องอยู่หางเขตที่ดินไม่นอยกวา 50 เซนติเมตร และต้องกอสรางเป็นผนังทึบและดาดฟาของอาคารดานนั้น ให้ทําผนังทึบสูงจากดาดฟาไม่นอยกวา 1.80 เมตร ในกรณีกอสรางชิดเขตที่ดินต้องได้รับความยินยอม เป็นหนังสือจากเจ้าของที่ดินขางเคียงดานนั้นด้วย ขอ 48 อาคารแต่ละหลังหรือหนวยต้องมีที่วางตามที่กําหนด ดังต่อไปนี้ ้ หนา 145 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
(1) อาคารอยู่อาศัย อาคารอยู่อาศัยรวมต้องมีที่วางไม่นอยกวา 30 ใน 100 สวนของพื้นที่ชั้นใดชั้นหนึ่งที่มากที่สุดของอาคาร (2) หองแถว ตึกแถว อาคารพาณิชย โรงงาน อาคารสาธารณะ และอาคารอื่น ซึ่งไม่ได้ใชเป็นที่อยู่อาศัย ต้องมีที่วางไม่นอยกวา 10 ใน 100 สวนของพื้นที่ชั้นใดชั้นหนึ่งที่มากที่สุด ของอาคารแต่ถาอาคารดังกลาวใชเป็นที่อยู่อาศัยด้วยต้องมีที่วางตาม (1) (3) หองแถวหรือตึกแถวซึ่งดานหน้าไม่ติดริมถนนสาธารณะต้องมีที่วางดานหน้าอาคาร กวางไม่นอยกวา 6 เมตร โดยไม่ให้มีสวนใดของอาคารยื่นล้ําเขาไปในพื้นที่ดังกลาวหองแถว หรือตึกแถวต้องมีที่วางดานหลังอาคารกวางไม่นอยกวา 3 เมตร เพื่อใชติดต่อถึงกันโดยไม่ให้มีสวนใด ของอาคารยื่นล้ําเขาไปในพื้นที่ดังกลาว เวนแต่การสรางบันไดหนีไฟภายนอกอาคารที่ยื่นล้ําไม่เกิน 1.40 เมตร ระหวางแถวดานขางของหองแถวหรือตึกแถวที่สรางถึงสิบคูหา หรือมีความยาวรวมกันถึง 40 เมตร ต้องมีที่วางระหวางแถวดานขางของหองแถวหรือตึกแถวนั้นกวางไม่นอยกวา 4 เมตร เป็นชองตลอดความลึก ของหองแถวหรือตึกแถวเพื่อเชื่อมกับที่วางหลังอาคารหองแถวหรือตึกแถวที่สรางติดต่อกันไม่ถึงสิบคูหา หรือมีความยาวรวมกันไม่ถึง 40 เมตรแต่มีที่วางระหวางแถวดานขางของหองแถวหรือตึกแถวนั้น กวางนอยกวา 4 เมตร ไม่ให้ถือวาเป็นที่วางระหวางแถวดานขางของหองแถวหรือตึกแถว แต่ให้ถือวาหองแถว หรือตึกแถวนั้นสรางต่อเนื่องเป็นแถวเดียวกัน ที่วางตามวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสามจะกอสรางอาคาร รั้ว กําแพง หรือสิ่งกอสรางอื่นใด หรือจัดให้เป็นบอน้ํา สระวายน้ํา ที่พักมูลฝอย หรือที่พักรวมมูลฝอยไม่ได้ หองแถวหรือตึกแถวที่มีดานขางใกลเขตที่ดินของผู้อื่นต้องมีที่วางระหวางดานขางของหองแถว หรือตึกแถวกับเขตที่ดินของอื่นนั้นกวางไม่นอยกวา 2 เมตร เวนแต่หองแถวหรือตึกแถวที่กอสรางขึ้น ทดแทนอาคารเดิมโดยมีพื้นที่ไม่มากกวาพื้นที่ของอาคารเดิม และมีความสูงไม่เกิน 15 เมตร ขอ 49 หองแถว ตึกแถว และอาคารพาณิชยต้องมีชองหน้าตางหรือประตูเปดสูภายนอกได้ ไม่นอยกวา 20 ใน 100 สวนของพื้นที่อาคารทุกชั้นชองหน้าตางหรือประตูเปดสูภายนอก หมายถึงชองเปดของผนังดานทางสาธารณะหรือดานที่หางที่ดินเอกชนสําหรับอาคารชั้นสองลงมาไม่นอยกวา 2 เมตร สําหรับชั้นสามขึ้นไปไม่นอยกวา 3 เมตร ้ หนา 146 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
ขอ 50 อาคารที่กอสรางมากอนขอบัญญัตินี้มีผลใชบังคับ มีแนวอาคารและระยะขัดขอบัญญัตินี้ หามต่อเติมหรือขยาย เวนแต่ซอมแซมเพื่อความมั่นคงแข็งแรง และเป็นระเบียบเรียบรอยสวยงาม หมวด 5 บทกําหนดโทษ ขอ 51 ผู้ใดฝาฝนขอบัญญัตินี้มีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บทเฉพาะกาล ขอ 52 การขออนุญาตปลูกสรางอาคารที่ได้ยื่นคําขอไวกอนขอบัญญัตินี้ใชบังคับให้ปฏิบัติ ตามขอบัญญัติและกฎกระทรวงที่ใชอยู่เดิม ขอ 53 ในกรณีที่รัฐมนตรีออกกฎกระทรวงกําหนดภายหลังขอบัญญัตินี้ใชบังคับแล้ว ขอบัญญัตินี้สวนที่ขัดหรือแยงกับกฎกระทรวงให้เป็นอันยกเลิกและให้ขอบัญญัตินี้ในสวนที่ไม่ขัดหรือแยง กับกฎกระทรวงยังมีผลใชบังคับต่อไป ขอบัญญัตินี้สวนที่ขัดหรือแยงกับกฎหมายวาด้วยการผังเมืองให้บังคับตามกฎหมายวาด้วย การผังเมืองนั้น ประกาศ ณ วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563 มูฮัมมัด สาแลแม นายกองคการบริหารสวนตําบลปูโยะ ้ หนา 147 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 180 ง ราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2566
บัญชีอัตราคาธรรมเนียมทายขอบัญญัติองคการบริหารสวนตําบลปูโยะ เรื่อง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2563 1. คาธรรมเนียมการออกใบอนุญาต ดังนี้ (1) ใบอนุญาตกอสราง ฉบับละ 20 บาท ( 2 ) ใบอนุญาตดัดแปลง ฉบับละ 10 บาท (3) ใบอนุญาตรื้อถอน ฉบับละ 10 บาท (4) ใบอนุญาตเคลื่อนยาย ฉบับละ 10 บาท (5) ใบอนุญาตเปลี่ยนการใช ฉบับละ 20 บาท (6) ใบรับรอง ฉบับละ 10 บาท (7) ใบแทนใบอนุญาตหรือใบแทนใบรับรอง ฉบับละ 5 บาท 2 . คาธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาต ดังนี้ (1) ใบอนุญาตกอสราง ฉบับละ 20 บาท ( 2 ) ใบอนุญาตดัดแปลง ฉบับละ 10 บาท (3) ใบอนุญาตรื้อถอน ฉบับละ 10 บาท (4) ใบอนุญาตเคลื่อนยาย ฉบับละ 10 บาท 3. คาธรรมเนียมการตรวจแบบแปลนกอสราง หรือดัดแปลงอาคาร สําหรับการกอสราง หรือสําหรับสวนที่มีการดัดแปลง ดังนี้ (1) อาคารซึ่งสูงไม่เกินสองชั้นหรือสูงไม่เกินสิบสองเมตร ให้คิดตามพื้นที่ของพื้นอาคารแต่ละชั้นรวมกัน ตารางเมตรละ 0.50 บาท ( 2) อาคารซึ่งสูงเกินสองชั้นแต่ไม่เกินสามชั้น หรือสูงเกินสิบสองเมตร แต่ไม่เกินสิบหาเมตร ให้คิดตามพื้นที่ของพื้นอาคารแต่ละชั้นรวมกัน ตารางเมตรละ 2 บาท (3) อาคารซึ่งสูงเกินสามชั้นหรือสูงเกินสิบหาเมตร ให้คิดตามพื้นที่ของอาคารแต่ละชั้นรวมกัน ตารางเมตรละ 4 บาท (4) อาคารประเภทซึ่งจะต้องมีพื้นรับน้ําหนักบรรทุกชั้นใดชั้นหนึ่งเกินหารอยกิโลกรัมต่อหนึ่งตารางเมตร ให้คิดตามพื้นที่ของพื้นอาคารแต่ละชั้นรวมกัน ตารางเมตรละ 4 บาท (5) พื้นที่หรือสิ่งที่สรางขึ้นเพื่อใชเป็นที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเขาออกของรถสําหรับอาคาร ที่กําหนดตามมาตรา 8 (9) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ให้คิดตามพื้นที่ของที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเขาออกของรถรวมกันตารางเมตรละ 0.50 บาท ในกรณีที่พื้นที่หรือสิ่งที่สรางขึ้นเพื่อใชเป็นที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเขาออกของรถสําหรับอาคาร ที่กําหนดดังกลาวอยู่ในอาคารหรือชั้นหนึ่งชั้นใดของอาคารไม่ต้องคิดคาธรรมเนียมการตรวจแบบแปลน ตามวรรคหนึ่งอีก (6) ปายให้คิดตามพื้นที่ของปายโดยเอาสวนกวางที่สุดคูณด้วยสวนยาวที่สุดตารางเมตรละ 4 บาท
(7) อาคารประเภทซึ่งต้องวัดความยาว เชน เขื่อน ทางหรือทอระบายนา รั้วหรือ กําแพง รวมทั้งประตูรั้วหรือกําแพงให้คิดตามความยาว เมตรละ 1 บาท ในการคิดคาธรรมเนียมการตรวจแบบแปลน เศษของตารางเมตรหรือเมตรตั้งแต่กึ่งหนึ่งขึ้นไป ให้ถือเป็นหนวยเต็ม ถาต่ํากวากึ่งหนึ่งให้ปดทิ้ง ในการคิดความสูงของอาคารเป็นชั้นให้นับจํานวนชั้นของพื้นอาคารที่บุคคลเขาใชสอยได้ ยกเวนพื้นชั้นลอย ในการคิดความสูงของอาคารเป็นเมตรให้วัดจากระดับพื้นดินถึงหลังคา หรือสวนของอาคารที่สูงที่สุด ในกรณีที่อาคารมีพื้นชั้นลอยให้คิดพื้นชั้นลอยเป็นพื้นที่ของพื้นอาคาร ในการคิดคาธรรมเนียมการตรวจแบบแปลนด้วย 4. ให้อาคารดังต่อไปนี้ได้รับการยกเวนคาธรรมเนียมการออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการตรวจแบบแปลนกอสรางหรือดัดแปลงอาคาร (1) อาคารของกระทรวง ทบวง กรมที่ใชในราชการหรือใชเพื่อสาธารณประโยชน ( 2 ) อาคารของราชการสวนทองถิ่นที่ใชในราชการหรือใชเพื่อสาธารณประโยชน (3) อาคารขององคการของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายที่ใชในกิจการขององคการ หรือใชเพื่อสาธารณประโยชน (4) โบราณสถาน วัดวาอาราม หรืออาคาร ตาง ๆ ที่ใ ชเพื่อการศาสนาซึ่งมีกฎหมาย ควบคุมการกอสรางไวแล้วโดยเฉพาะ (5) อาคารชั่วคราวเพื่อใชประโยชน ในการกอสรางอาคารถาวร ซึ่งสูงไม่เกินสองชั้น หรือสูงไม่เกินเกาเมตร และมีกําหนดเวลารื้อถอน (6) อาคารเพื่อใชประโยชนเป็นการชั่วคราวซึ่งสูงไม่เกินสองชั้นหรือสูงไม่เกินเกาเมตร และไม่ ใชอาคารสาธารณะ อาคารพิเศษ หรืออาคารประเภทควบคุมการใ ชตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และมีกําหนดเวลารื้อถอน