ข้อบังคับสภาการสัตวบาล ว่าด้วยการเลือกกรรมการสภาการสัตวบาลตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566

ข้อบังคับสภาการสัตวบาล ว่าด้วยการเลือกกรรมการสภาการสัตวบาลตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 โดยเป็นการสมควรให้มีการได้มาซึ่งกรรมการสภาการสัตวบาลตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) ประกอบมาตรา 62 วรรคหนึ่ง (2) และมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพ การสัตวบาล พ.ศ. 2565 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 62 วรรคหนึ่ง (1) และมาตรา 24 วรร คหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 โดยความเห็นชอบ ของสภานายกพิเศษ ตามมาตรา 28 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 คณะกรรมการสภาการสัตวบาล จึงออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ ข้อบังคับสภาการสัตวบาลว่าด้วยการเลือกกรรมการสภา การสัตวบาลตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ในข้ อบังคับนี้ “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณะกรรมการสภาการสัตวบาล “ กรรมการ ” หมายความว่า กรรมการสภาการสัตวบาล “ คณะอนุกรรมการ ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการเลือกกรรมการสภาการสัตวบาล ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบำล พ.ศ. 2565 แล้วแต่กรณี ตามข้อบังคับนี้ “ ประธานอนุกรรมการ ” หมายความว่า ประธานคณะอนุกรรมการเลือกกรรมการสภา การสัตวบาลตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 แล้วแต่กรณี ตามข้อบังคับนี้ “ ผู้มีสิทธิ ” หมายความว่า ผู้มีสิทธิเลือกและรับเลือกเป็นกรรมการสภาการสัตวบาล ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 แล้วแต่กรณี “ การเลือก ” หมายความว่า การเลือกกรรมการสภาการสัตวบาลตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 แล้วแต่กรณี “ วันเลือก ” หมายความว่า วันที่ผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกกรรมการ หรือวันนับคะแนนจากการ ลงคะแนนเลือกกรรมการ เพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมการสภาการสัตวบาลตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 แล้วแต่กรณี ้ หนา 31 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 175 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 กรกฎาคม 2566

“ การลงคะแนน ” หมายความว่า การหย่อนบัตรลงคะแนนลงในหีบบัตรลงคะแนน หรือการ ส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ หรือด้วยวิธีการอื่นใดตามที่คณะกรรมการสภาการสัตวบาลกาหนด “ บัตรลงคะแนน ” หมายความว่า บัตรลง คะแนนเลือกกรรมการ ที่คณะอนุกรรมการทาขึ้น หรือสิ่งอื่นใดตามที่คณะอนุกรรมการกำหนดขึ้นเพื่อการเลือก ตามข้อบังคับนี้ “ สมาชิก ” หมายความว่า สมาชิกสภาการสัตวบาล ข้อ 4 ข้ อบังคับนี้ให้ใช้กับการเลือกกรรมการในวาระเริ่มแรกตามมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติ วิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 ข้อ 5 ให้คณะกรรมการประกาศกาหนดวันเลือกและจานวนกรรมการที่เลือก ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 แล้วแต่กรณี ข้อ 6 ให้คณะกรรมการประกาศวิธีการเลือก ตามวิธีใดวิธีหนึ่งใ นข้อ 20 หมวด 1 คณะอนุกรรมการ ข้อ 7 ให้คณะกรรมการแต่งตั้งกรรมการตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (1) หรือ (2) เป็นประธานคณะอนุกรรมการหนึ่งคน และแต่งตั้งกรรมการ หรือสมาชิก เป็นอนุกรรมการอีกแปดคน ข้อ 8 ให้คณะอนุกรรมการ มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (1) ดำเนินการเลือกกรรมการตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 ข้อบังคับสภาการสัตวบาลที่เกี่ยวข้อง และตามที่คณะกรรมการกาหนด ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม (2) ตรวจสอบรายชื่อและคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกและรับเลือกเป็นกรรมการ ทาบัญชีรายชื่อ ผู้มีสิทธิที่เป็นปัจจุบัน และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิโดยเปิดเผย ณ ที่ทาการสภาการสัตวบาล และ สถานที่อื่น หรือโดยวิธีอื่น ตามที่คณะอนุกรรมการเห็นสมควร ทั้งนี้ ไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนวันเลือก ให้คณะอนุกรรมการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำบั ญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกและรับเลือก รวมถึง การแก้ไขข้อบกพร่องบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ ทั้งนี้ ให้อยู่ในการกำกับดูแลของคณะอนุกรรมการอย่างใกล้ชิด (3) ประกาศกาหนดวันสมัครรับเลือกเป็นกรรมการ รับสมัครผู้มีสิทธิที่ประสงค์ขอรับเลือก เป็นกรรมการ ทาบัญชีรายชื่อ และกาหนดหมายเลขประจาตัวผู้สมัคร ประกาศรายชื่อผู้สมัครพร้อม หมายเลขประจาตัว เพื่อประโยชน์ในการลงคะแนนของผู้มีสิทธิเลือก ทั้งนี้ ให้ประกาศโดยเปิดเผย ณ ที่ทำการสภาการสัตวบาล และสถานที่อื่น หรือโดยวิธีอื่น ตามที่คณะอนุกรรมการเห็นสมควร ให้คณะอนุกรรมการแต่งตั้งคณะทางานเพื่อดาเนินการรับสมัครผู้มีสิทธิที่ประสงค์ ขอรับเลือก เป็นกรรมการ ทาบัญชีรายชื่อและกาหนดหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ทั้งนี้ ให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ของคณะอนุกรรมการอย่างใกล้ชิด ้ หนา 32 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 175 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 กรกฎาคม 2566

(4) กำหนดและจัดทำ บัตรลงคะแนน หีบรับบัตรลงคะแนน กำหนดวิธีการส่ง หรือ การขนส่งบัตรลงคะแนน การรวบรวมและเก็บรักษาบัตรลงคะแนนทั้งก่อนและหลังการลงคะแนน แล้วแต่กรณี รวมถึงกากับการนับคะแนน ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และสุจริต (5) กาหนดสถานที่และกากับดูแลสถานที่ลงคะแนน รวมถึงการดา เนินงานระหว่างการลงคะแนน ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเรียบร้อย (6) แต่งตั้งสมาชิกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้สมัคร เป็นคณะทางานเพื่อดาเนินงาน ตามความจาเป็น หรือแต่งตั้งบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อดาเนินงาน ที่เกี่ยวกับกำรเลือกตามที่คณะอนุกรรมการกำหนด และให้หัวหน้าคณะทำงานทุกคณะรายงาน การปฏิบัติงานต่อคณะอนุกรรมการ (7) ดาเนินงานอื่นใดที่จาเป็น เพื่อประโยชน์ต่อการเลือก และเพื่อให้การเลือกกรรมการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (8) ประธานคณะอนุกรรมการมีอานาจเรียกประชุมคณะอนุกรรม การ และหัวหน้าคณะทางาน ตามที่เห็นสมควร (9) ประธานอนุกรรมการ หรือผู้ที่ประธานคณะอนุกรรมการมอบหมาย เป็นผู้มีอานาจ ประกาศผลการเลือกกรรมการ ข้อ 9 ให้ประธานคณะอนุกรรมการจัดทำงบประมาณการดำเนินงานเพื่อการเลือก เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาและอนุมัติ ข้อ 10 ให้ประธานคณะอนุกรรมการรายงานการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายเงินตามงบประมาณ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการตามที่คณะกรรมการกำหนด หมวด 2 คุณสมบัติและหน้าที่ผู้มีสิทธิ ข้อ 11 คุณสมบัติของบุคคลผู้มีสิทธิ ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (3) แห่งพระราชบัญญัติ วิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 ต้องเป็นบุคคลที่มีตาแหน่งเป็นคณบดี หรือหัวหน้าหน่วยงาน ที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะหรือหัวหน้าภาควิชา หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาที่ผลิตบัณฑิต ด้านวิชาการสัตวบาลในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและ เอกชน ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย และแต่ละสถาบันมีผู้มีสิทธิแห่งละหนึ่งคน ข้อ 12 คุณสมบัติของบุคคลผู้มีสิทธิ ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติ วิชาชีพการสัตวบาล พ.ศ. 2565 ต้องเป็นบุคคลที่มีตาแหน่งเป็นผู้บริหารสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร หรือวิ ทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี หรือผู้ดูแลหลักสูตร หรือหัวหน้าแผนกหรือหัวหน้างานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าแผนกวิชาที่ผลิตผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาด้านวิชาการสัตวบาล สังกัดสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร และที่ผลิตผู้สาเร็จการศึกษาในระดับประกาศนียบั ตรวิชาชีพชั้นสูง ้ หนา 33 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 175 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 กรกฎาคม 2566

และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพด้านวิชาการสัตวบาล จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และแต่ละสถาบันมีผู้มีสิทธิแห่งละหนึ่งคน ข้อ 13 บุคคลผู้มีสิทธิ ตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพ การสัตวบาล พ.ศ. 2565 มีคุณสมบัติ ดังนี้ (1) มีตาแหน่งเป็นนายกสมาคมที่เกี่ยวกับการปศุสัตว์ และเลี้ยงสัตว์ ที่สภาการสัตวบาลรับรอง (2) เป็นสมาชิกสภาการสัตวบาล (3) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ข้อ 14 ให้ผู้มีสิทธิแสดงตนและยื่นเอกสารหรือหลักฐานการมีสิทธิต่อคณะอนุกรรมการ ภายในเวลาที่คณะอนุกรรมการกำหนด ข้อ 15 ให้ผู้มีสิทธิตรวจสอบสิทธิของตน และทำคำร้องขอแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ กรณีรายชื่อของผู้ใดตกหล่นจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิให้ดาเนินการแก้ไขให้เส ร็จสิ้นในสิบวันก่อนวันเลือก เมื่อพ้นกาหนดแล้วให้ถือว่าผู้นั้นสละสิทธิ ข้อ 16 ให้ผู้มีสิทธิที่ประสงค์ขอรับเลือกเป็นกรรมการ ยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ณ สถานที่ วัน และเวลาหรือตามวิธีการที่คณะอนุกรรมการกำหนด พร้อมเอกสารและภาพถ่าย ดังต่อไปนี้ (1) บัตรประจาตั วประชาชน หรือบัตรประจาตัวข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ พร้อมสาเนา จำนวน 1 ฉบับ (2) เอกสารหลักฐานหรือหนังสือรับรอง ที่แสดงว่ามีคุณสมบัติตามข้อ 11 ข้อ 12 หรือข้อ 13 แล้วแต่กรณี (3) ภาพถ่ายตามที่คณะอนุกรรมการกำหนด ให้การรับสมัครผู้มีสิทธิที่ประสง ค์รับเลือกเป็นกรรมการ ทำได้ด้วยวิธีการอื่นตามที่ คณะกรรมการกาหนด ข้อ 17 การกาหนดหมายเลขประจาตัวผู้สมัครรับเลือกแต่ละคน ให้เป็นไปตามลาดับเวลา การยื่นใบสมัครต่อคณะทางานนับตั้งแต่เวลาเปิดให้ยื่นใบสมัคร กรณีผู้สมัครมาถึงสถานที่รับสมัครก่อน เวลาที่กำหนดและแสดง ตนยื่นใบสมัครพร้อมกัน ให้ถือว่าผู้สมัครดังกล่าวมาถึงสถานที่รับสมัครพร้อมกัน ให้ผู้สมัครตกลงกันว่าจะให้ผู้สมัครคนใดยื่นใบสมัครในลำดับก่อนหรือหลัง หรือโดยวิธีอื่นตามที่ตกลงกัน ระหว่างผู้สมัครและคณะทำงาน กรณีที่ไม่อาจตกลงกันได้ ให้คณะทำงานรับสมัครใช้วิธีจั บฉลากกำหนด ลำดับการยื่นใบสมัครเป็นรายบุคคล ข้อ 18 ให้ใช้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครรับเลื อก ที่คณะอนุกรรมการเลือกประกาศ ตามข้อ 8 (3) เป็นหมายเลขที่ใช้ในการลงคะแนน หมวด 3 วิธีการเลือกกรรมการ ้ หนา 34 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 175 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 กรกฎาคม 2566

ข้อ 19 สิทธิเลือกเป็นสิทธิเฉพาะตน ให้ผู้มีสิทธิเลือกกันเองในกลุ่มตามข้อ 11 ข้อ 12 หรือข้อ 13 แล้วแต่กรณี ให้ได้จานวนกรรมการตามที่คณะกรรมการประกาศตามข้อ 5 และให้ใช้วิธีเลือก แบบปิดลับ ผู้มีสิทธิหนึ่งคน มีหนึ่งเสียง และเลือกกรรมการได้เท่าจำนวนกรรมการที่ เลือกตามข้อ 5 ข้อ 20 ให้คณะกรรมการเลือกวิธีการเลือก ตามวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) วิธีการลงคะแนนแบบหย่อนบัตรลงคะแนนในหีบบัตรลงคะแนน ให้กระทา ณ สถานที่ ที่เป็นคูหาตามที่คณะอนุกรรมการเลือกกาหนดในวันเลือก กรณีนี้ ให้มีคณะทางานกากับดูแลสถานที่ ที่เป็นคูหา คณะทางานดูแลหีบบัตรลงคะแนนและการขนส่งหีบบัตรลงคะแนน คณะทางานนับคะแนนเสียง ณ สถานที่นับคะแนนซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้มีสิทธิและผู้ใช้สิทธิรับเลือกเป็นกรรมการสามารถ สังเกตการนับคะแนนได้ คณะทำงานปิดผนึกหีบบัตรลงคะแนน เก็บรักษาหีบบัตรลงคะแนน และทาลายบัตรลงคะแนน เมื่อคณะกรรมการสั่งให้ทาลาย ตามวิธีที่กำหนด และอาจมีคณะทำงานอื่น ตามความจำเป็นอีกก็ได้ (2) วิธีการลงคะแนนแบบส่งบัตรลงคะแนนผ่านทางไปรษณีย์ ให้ใช้บัตรลงคะแนนแบบปิดผนึก และใช้ตราประทับไปรษณีย์เป็นวันเวลาที่ผู้มีสิทธิลงคะแนน ให้ผู้มีสิทธิ เริ่มลงคะแนนเสียงก่อนกาหนด วันเลือกเจ็ดวันและปิดรับการลงคะแนนก่อนกาหนดวันเลือกยี่สิบสี่ชั่วโมง กรณีนี้ให้มีคณะทางาน ประสานงาน การไปรษณีย์เพื่อเช่าตู้ไปรษณีย์ให้เป็นเสมือนหีบบัตรลงคะแนน และเคลื่อนย้าย บัตรลงคะแนนไปยังสถานที่นับคะแนนในวันเลือก คณะทางานกา กับดูแลสถานที่นับคะแนนซึ่งเป็นสถานที่ ที่ผู้มีสิทธิและผู้ใช้สิทธิรับเลือกสามารถสังเกตการนับคะแนนได้ คณะทางานตรวจสอบความถูกต้อง ของบัตรลงคะแนนและนับคะแนน คณะทำงานบรรจุบัตรลงคะแนนลงกล่องปิดผนึก เก็บรักษา และทาลายบัตรลงคะแนนเมื่อคณะกรรมการสั่งให้ทาลายตา มวิธีที่กาหนด และอาจมีคณะทางานอื่น ตามความจำเป็นอีกก็ได้ (3) วิธีการลงคะแนนแบบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และแอปพลิเคชันของสภาการสัตวบาล ให้คณะอนุกรรมการทาการประชาสัมพันธ์ถึงการเลือกกรรมการ วิธีการเลือกกรรมการ และช่องทาง ที่ผู้มีสิทธิสามารถติดต่อขอข้อมูลและวิธีการลงคะแนนจากเจ้าหน้าที่สภาการสัตวบาล และให้ผู้มีสิทธิ ลงคะแนนในวันเลือก กรณีนี้ ให้มีคณะทำงานควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการลงคะแนน ให้เป็นไปตามกฎหมายและประกาศของทางราชการที่เกี่ยวกับมาตรฐานความมั่นคงและปลอดภั ย ของการทาธุรกรรมผ่านเครือข่ายระบบอิเล็กทรอนิกส์ และให้มีหน้าที่ตรวจสอบตัวตนของผู้มีสิทธิลงคะแนน ความถูกต้องของการลงคะแนน การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและการลงคะแนนไว้เป็นความลับ และให้มีหน้าที่ลบข้อมูลส่วนบุคคล และการลงคะแนนเมื่อคณะกรรมการสั่งให้ลบข้อมูลออกจาก หน่วยความจำของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการลงคะแนน และอาจมีคณะทำงานอื่นตามความจำเป็นอีกก็ได้ (4) วิธีการอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนด หมวด 4 การตัดสินและประกาศผลการเลือก ้ หนา 35 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 175 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 กรกฎาคม 2566

ข้อ 21 เมื่อการนับคะแนนเลือกกรรมการแล้ วเสร็จโดยสมบูรณ์ ให้จัดทำบัญชีรายชื่อ ผู้ใช้สิทธิรับเลือกเรียงตามลาดับคะแนนที่ได้จากการลงคะแนนจากมากไปหาน้อย ให้ผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุด และผู้ที่ได้คะแนนลดหลั่นกันลงมาได้เป็นกรรมการ ทั้งนี้ ให้ได้กรรมการครบจำนวนตามข้อ 5 กรณีผู้ใช้สิทธิรับเลือกได้คะแนน เท่ากันสาหรับตาแหน่งกรรมการในลาดับสุดท้าย หรือลาดับ รองสุดท้าย ซึ่งมีสิทธิได้รับเลือกเป็นกรรมการเท่ากัน ให้คณะอนุกรรมการตัดสินเลือกผู้ใช้สิทธิรับเลือก ที่มีคะแนนเท่ากันด้วยวิธีจับฉลาก เพื่อให้ได้กรรมการครบจำนวนตามข้อ 5 ข้อ 22 ให้ประธานคณะอนุกรรมการ หรือผู้ที่ประธานคณะอนุกรรมการมอบหมาย ประกาศ ผลการเลือกกรรมการ โดยประกาศเรียงลาดับจากผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดและผู้ที่ได้คะแนนลดหลั่น กันลงมา จนได้จำนวนกรรมการครบตามข้อ 5 หมวด 5 การคัดค้านผลการเลือกกรรมการ ข้อ 23 ให้ผู้สมัครรับเลือกเท่านั้น เป็นผู้มีสิทธิทาคาร้องคัดค้านการเลือกกรรมการ โดยระบุ สาเหตุ แห่งคาร้อง และชื่อบุคคลหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนที่สามารถนาไปสู่การสอบสวนได้ เสนอต่อคณะกรรมการภายในเจ็ดวันทาการนับแต่วันประกาศผลการเลือกกรรมการ พร้อมพยานหลักฐาน และเหตุผล ข้อ 24 ใ ห้คณะกรรมการพิจารณาในเบื้องต้น ดังนี้ (1) คำร้องคัดค้าน กรณีผู้ใช้สิทธิรับเลือกผู้ใดซึ่งได้รับเลือกเป็นกรรมการตามข้อ 22 มีการกระทาทุจริต หรือทาการอันขัดต่อกฎหมาย หรือข้อบังคับสภาการสัตวบาล เมื่อคณะกรรมการ พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่าคาร้องนั้นไม่มี เหตุผลอันสมควรหรือไม่มีมูล ให้ส่งคืนคาร้องพร้อมคาวินิจฉัย ของคณะกรรมการ กรณีคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าคาร้องนั้นมีมูล ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สอบสวนคาร้องคัดค้าน เพื่อดำเนินการสอบสวนตามคำร้องนั้น กรณีมีคาร้องคัดค้านหลายฉบับ คณะกรรมการอาจรวมคาร้องคัดค้านที่มีมูลเหตุและคาร้องคล้ายกันจากผู้ร้องหลายคนเพื่อพิจารณา ไปพร้อมกันก็ได้ หรือให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนคาร้องคัดค้านหลายคณะ เพื่อให้การสอบสวนคาร้องที่มีมูลเหตุและคาร้อง ต่างกันก็ได้ ทั้งนี้ เพื่อให้การพิจารณา คาร้องเป็นไป ด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม (2) คาร้องคัดค้าน กรณีการนับคะแนนคลาดเคลื่อน ให้คณะกรรมการพิจารณาในเบื้องต้น ว่าคะแนนที่อาจเปลี่ยนไปตามคาร้องนั้นทาให้ผลการเลือกกรรมการเปลี่ยนไปหรือไม่ กรณีไม่อาจทา ให้ผลการเลือกเปลี่ยนไป ให้ส่งคืนคำร้องพร้อมคาวินิ จฉัยของคณะกรรมการ กรณีที่อาจทำให้ผลการเลือกกรรมการเปลี่ยนไปตามคำร้อง ให้คณะกรรมการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการตรวจสอบคะแนน เพื่อดำเนินการนับคะแนนใหม่ตามคาร้องนั้น ้ หนา 36 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 175 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 กรกฎาคม 2566

ข้อ 25 การพิจารณาคาร้องตามข้อ 24 (1) ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สอบสวนคาร้องคัดค้าน ปร ะกอบด้วยกรรมการตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (1) หรือ (2) เป็นประธาน คณะอนุกรรมการสอบสวนคาร้องคัดค้านหนึ่งคน และให้กรรมการหรือสมาชิก เป็นคณะอนุกรรมการ สอบสวนคาร้องคัดค้านอีกสี่คน ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนคาร้องคัดค้านดาเนินการตามคำสั่ง คณะกรรมการให้แล้วเสร็จภาย ในสิบห้าวันทำการ โดยให้สอบสวนข้อเท็จจริงและส่งรายงาน การสอบสวนพร้อมความคิดเห็นให้คณะกรรมการ เพื่อการพิจารณาและวินิจฉัย ดังนี้ (1) กรณีได้ข้อเท็จจริงว่าผู้ใช้สิทธิรับเลือก ที่ได้รับเลือกเป็นกรรมการตามข้อ 22 มิได้กระทาทุจริต หรือกระทาการอันขัดต่อกฎหมำยหรือข้อบังคับสภาการสัตวบาล ให้คณะกรรมการ มีมติและคำวินิจฉัย ให้ยกคาร้องนั้น (2) กรณีได้ข้อเท็จจริงว่าผู้ใช้สิทธิรับเลือก ที่ได้รับเลือกเป็นกรรมการตามข้อ 22 กระทาทุจริตหรือกระทาการอันขัดต่อกฎหมาย หรือข้อบังคับสภาการสัตวบาลตามคาร้องคัดค้าน ให้คณะก รรมการมีมติและคำวินิจฉัย ให้การเป็นกรรมการที่ประกาศตามข้อ 22 นั้นเป็นโมฆะเฉพาะตัว ผู้ใช้สิทธิรับเลือก และให้คณะกรรมการประกาศเลื่อนผู้ใช้สิทธิรับเลือกที่ได้คะแนนลาดับถัดไปให้ ดารงตาแหน่งกรรมการ หากผู้ใช้สิทธิรับเลือกที่ได้รับคะแนนในลาดับถัดไปมีคะแนนเท่ำกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ให้ตัดสินชี้ขาดโดยการจับฉลาก และให้เลขาธิการแจ้งเหตุการณ์ถูกตัดสิทธิการเลือกเป็นกรรมการ ของผู้ใช้สิทธิรับเลือกไปยังต้นสังกัดของผู้นั้น พร้อมมติและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ หากการสอบสวนไม่แล้วเสร็จตามกาหนดเวลาในวรรคหนึ่ง ให้คณะอนุกรรมการชี้แจงเหตุผล ต่อคณะกรรมการเพื่อขอขยายเวลาได้อีกครั้งละสิบห้าวันทำการ แต่ต้องไม่เกินสองครั้ง ข้อ 26 การพิจารณาคาร้องตามข้อ 25 (2) ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ตรวจสอบคะแนน ประกอบด้วยกรรมการตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง (1) หรือ (2) เ ป็นประธาน คณะอนุกรรมการตรวจสอบคะแนนหนึ่งคน และให้กรรมการ หรือสมาชิก เป็นคณะอนุกรรมการ ตรวจสอบคะแนนอีกสี่คน และให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบคะแนนดาเนินการตามคำสั่งคณะกรรมการ ให้แล้วเสร็จในสิบห้าวันทาการ โดยให้ตรวจสอบบัตรลงคะแนนและนับคะแนนจากบัตรลงคะแนน ที่เก็บใ นวันเลือก และส่งรายงานการตรวจสอบคะแนนใหม่ พร้อมจัดทาบัญชีรายชื่อตามข้อ 21 ใหม่ และส่งให้คณะกรรมการเพื่อพิจารณาและวินิจฉัย ดังนี้ (1) กรณีได้ข้อเท็จจริงว่าการตรวจนับคะแนนใหม่ ได้ผลคะแนนเท่ากับคะแนนในวันเลือก ให้คณะกรรมการมีมติและคำวินิจฉัย ให้ยกคา ร้องนั้น (2) กรณีได้ข้อเท็จจริงว่าการตรวจนับคะแนนใหม่แล้ว ได้ผลคะแนนต่างจากคะแนนเดิม ที่นับในวันเลือก แต่เมื่อจัดเรียงลาดับรายชื่อตามคะแนนที่ผู้ใช้สิทธิได้รับ แล้วไม่ทาให้รายชื่อกรรมการ ที่ประกาศตามข้อ 22 เปลี่ยนแปลงไป ให้กรรมการมีมติและคำวินิจฉัยยืน ตามประกาศในข้อ 22 (3) กรณีผลการตรวจนับคะแนนใหม่ต่างจากคะแนนเดิมที่นับในวันเลือก และทาให้ลาดับ รายชื่อตามคะแนนใหม่เปลี่ยนแปลงไปจากประกาศตามข้อ 22 ให้กรรมการมีมติและคาวินิจฉัย ้ หนา 37 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 175 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 กรกฎาคม 2566

ให้รายชื่อกรรมการที่ประกาศตามข้อ 22 นั้นเป็นโมฆะ และประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รั บเลือกเป็นกรรมการใหม่ โดยเรียงลาดับจากผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดและผู้ที่ได้คะแนนลดหลั่นกันลงมาจนได้จานวนกรรมการ ครบตามข้อ 5 หากผู้สมัครที่ได้รับคะแนนลาดับสุดท้ายหรือรองสุดท้ายมีคะแนนเท่ากันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ให้ตัดสินชี้ขาดโดยการจับฉลาก หากการตรวจสอบคะแนนไม่แล้วเสร็จในเวลาที่กาหนดตามวรรคหนึ่ง ให้คณะอนุกรรมการ ชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการเพื่อขอขยายเวลาได้อีกครั้งละสิบห้าวันทำการ แต่ต้องไม่เกินสองครั้ง ข้อ 27 ให้มติและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการตามข้อ 25 และข้อ 26 เป็นที่สุด ให้ประกาศมติ และคำวินิจฉัยโดยเปิดเผย ณ ที่ทำการสภาการสัตวบาล และสถานที่อื่น หรือโดยวิธีอื่น ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร ประกาศ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 25 6 6 ประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกสภาการสัตวบาล ้ หนา 38 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 175 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 กรกฎาคม 2566