Mon Jan 23 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ว่าด้วยการกำกับ ดูแล ตรวจสอบการดำเนินงาน หลักเกณฑ์และวิธีการรายงานการใช้จ่ายเงินขององค์กรสาธารณประโยชน์และองค์กรสวัสดิการชุมชน พ.ศ. 2565


ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ว่าด้วยการกำกับ ดูแล ตรวจสอบการดำเนินงาน หลักเกณฑ์และวิธีการรายงานการใช้จ่ายเงินขององค์กรสาธารณประโยชน์และองค์กรสวัสดิการชุมชน พ.ศ. 2565

ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ว่าด้วยการกากับ ดูแล ตรวจสอบการดาเนินงาน หลักเกณฑ์และวิธีการรายงาน การใช้จ่ายเงินขององค์กรสาธารณประโยชน์และองค์กรสวัสดิการชุมชน พ.ศ. 2565 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 13 (16) มาตรา 37 และมาตรา 40/2 แห่งพระราชบัญญัติ ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัด สวัสดิการสังคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ว่าด้วยการกากับ ดูแล ตรวจสอบการดาเนินงาน หลักเกณฑ์และวิธีการรายงานการใช้จ่ายเงินของ องค์กร สาธารณประโยชน์และองค์กรสวัสดิการชุมชน พ.ศ. 2565 ” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ข้อ 3 ให้ยกเลิก (1) ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ว่าด้วยการกากับ ดูแล ตรวจสอบการดาเนินงาน หลักเกณฑ์และวิธีการรายงานการใช้จ่ายเงินขององค์กรสาธารณประโยชน์และ องค์กรสวัสดิการชุมชน พ.ศ. 2555 (2) ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ว่าด้วยการกากับ ดูแล ตรวจสอบการดาเนินงาน หลักเกณฑ์และวิธีการรายงานการใช้จ่ายเงินขององค์กรสาธารณป ระโยชน์และ องค์กรสวัสดิการชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ข้อ 4 องค์กรสาธารณประโยชน์และองค์กรสวัสดิการชุมชนต้องดาเนินงานให้เป็นไปตาม แผนงานโครงการขององค์กรสาธารณประโยชน์หรือองค์กรสวัสดิการชุมชน ข้อ 5 ให้องค์กรสาธารณประโยชน์หรือองค์กรสวัสดิการชุมชนรายงานผลการ ปฏิบัติงาน ปีละสองครั้ง ตามแบบที่อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการกำหนด ภายในสามสิบวันนับแต่ วันสิ้นเดือนมีนาคมและวันสิ้นเดือนกันยายนของทุกปี โดยในกรุงเทพมหานครให้รายงานต่อ สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ในต่างจังหวัดให้รายงานต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและควำมมั่นคง ของมนุษย์จังหวัด และในต่างประเทศให้รายงานต่อสถานทูตไทย แล้วแต่กรณี องค์กรสาธารณประโยชน์หรือองค์กรสวัสดิการชุมชนจะส่งรายงานด้วยตนเอง ไปรษณีย์ลงทะเบียน ตอบรับ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือช่องทางอื่นก็ได้ ให้สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัด แล้วแต่กรณี ส่งรายงานดังกล่าวต่อสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ภายในกาหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน สาหรับในต่างประเทศ ให้สถานทูตไทยส่งรายงานต่อ สานักงานคณะกรรมการส่งเ สริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ภายในกาหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ ได้รับรายงาน ้ หนา 1 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 17 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 มกราคม 2566

ข้อ 6 ในการกากับ ดูแลและตรวจสอบการดาเนินงานขององค์กรสาธารณประโยชน์หรือ องค์กรสวัสดิการชุมชนให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) ให้คาปรึกษา แนะนาถึงหลักเกณฑ์แล ะวิธีการดาเนินงานขององค์กรสาธารณประโยชน์ หรือองค์กรสวัสดิการชุมชนที่ถูกต้องและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 (2) มีหนังสือแจ้งให้องค์กรสาธารณประโยชน์หรือองค์กรสวัสดิการชุมชนนั้ นชี้แจงข้อเท็จจริง หรือความเห็นในการปฏิบัติงานหรือส่งผู้แทนมาชี้แจงหรือให้ถ้อยคา หรือส่งเอกสารหรือพยานหลักฐานอื่น มาประกอบการพิจารณาภายในระยะเวลาที่กำหนด (3) มีหนังสือแจ้งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ หรือมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง หรือให้ส่ง วัตถุ เอกสาร หรือพยานเอกสาร หรือพยานหลักฐานอื่นประกอบการพิจารณา ข้อ 7 ในกรณีที่ปรากฏว่าองค์กรสาธารณประโยชน์หรือองค์กรสวัสดิการชุมชนใดมีพฤติการณ์ ในการจัดสวัสดิการสังคมที่ไม่สุจริต ให้สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษ ย์จังหวัด แล้วแต่กรณี พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อดำเนินการสอบข้อเท็จจริงต่อไป ให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมีอานาจหน้าที่ ตามข้อ 6 (2) และ (3) และต้องให้ องค์กรสาธารณประโยชน์หรืออ งค์กรสวัสดิการชุมชนมีโอกาสที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน เมื่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงดาเนินการแล้วเสร็จ ให้ทารายงานการสอบข้อเท็จจริง เสนอต่อสานักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร หรือสานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด แล้วแต่กรณี เพื่อเสนอคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติพิจารณาตามมาตรา 39 หรือมาตรา 40/3 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 254 6 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี ในกรณีคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติพิจารณาเห็นว่าองค์กรสาธารณประโยชน์ หรือองค์กรสวัสดิการชุมชนใดกระทำไม่สุจริต ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาหรือทางแพ่ง ให้แจ้งผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีหรือใช้สิทธิเรียกร้ องต่อไป ในกรณีต่างประเทศ สถานทูตอาจพิจารณาดาเนินการตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม ทั้งนี้ อาจนำวรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสามและวรรคสี่มาใช้ได้โดยอนุโลมได้ ข้อ 8 เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตท้องที่ใดได้กระทาการกากับ ดูแล และตรวจสอบ องค์กรสาธารณประโยชน์หรือองค์กรสวัสดิการชุมชนแล้ว ให้ทาบันทึกเป็นหนังสือรายงานผลการปฏิบัติงาน ต่อสานักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร หรือสานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือสถานทูตไทย แล้วแต่กรณี เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสั งคมแห่งชาติ อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ้ หนา 2 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 17 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 มกราคม 2566

ข้อ 9 ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ 6 ให้องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชนหรือบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกตามสมควรแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อ 10 เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการรับจ่ายเงินของอ งค์กรสาธารณประโยชน์หรือองค์กร สวัสดิการชุมชน ต้องเก็บรักษาสำเนาเอกสารไว้ไม่น้อยกว่าห้าปี ข้อ 11 ให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้และเป็น ผู้วินิจฉัยชี้ขาดในกรณีที่มีปัญหาหรือข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 256 5 จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ้ หนา 3 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 17 ง ราชกิจจานุเบกษา 24 มกราคม 2566