ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการขออนุญาต และการอนุญาตให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ำ ตามมาตรา 73 (1) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2566
ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการขออนุญาต และการอนุญาตให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ำ ตามมาตรา 73 (1) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2566
ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการขออนุญาต และการอนุญาตให้หน่วยงานของรัฐดาเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์นา ตามมาตรา 73 (1) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. 256 6 โดยที่เป็นการสมควรกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาต การดำเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์นา แก่หน่วยงานของรัฐตามภารกิจ ของหน่วยงานของรัฐนั น เพื่อประโยชน์ในการสำรวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ การคุ้มครองสัตว์ป่า การบาบัดเยียวยาสัตว์ป่า การป้องกัน หรือแก้ไขภยันตรายแก่ประชาชนหรือสัตว์ หรือเพื่อส่งเสริมการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า หรือเพื่อส่งเสริมกิจการสวนสัตว์ ตามมาตรา 73 (1) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสั ตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งหน่วยงานของรัฐจะต้องได้รับอนุญาต เป็นหนังสือจากอธิบดี และเมื่อผู้ได้รับอนุญาตได้กระทาการตามที่ได้รับอนุญาตนัน จะไม่มีความผิด ตามมาตรา 12 มาตรา 14 วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาตรา 15 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 มาตรา 28 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 73 (1) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 อธิบดีกรมประมงโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี ข้อ 1 ระเบียบนีเรียกว่า “ ระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการขออนุญาต และการอนุญาต ให้หน่วยงานของรัฐดาเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์นา ตามมาตรา 73 (1) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ระเบียบนีให้ใช้บังคับตังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ในระเบียบนี “ หน่วยงานของรัฐ ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ หรือองค์การมหาชน ที่ตังขึนโดยพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกา และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มีพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นหน่วยงานของรัฐ และสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันการศึกษาเอกชนด้วย “ ภารกิจของหน่วยงานของรั ฐ ” หมายความว่า การดำเนินการตามอำนาจ หน้าที่ และภารกิจของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ในการสารวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลอง ทางวิชาการ การคุ้มครองสัตว์ป่า การบำบัดเยียวยาสัตว์ป่า การป้องกัน หรือแก้ไขภยันตราย แก่ประชาชนหรือสัตว์ หรือเพื่อส่งเสริมการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า หรือเพื่อส่งเสริมกิจการสวนสัตว์ “ สัตว์ป่า ” หมายความว่า สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์นา ตามกฎหมายว่าด้วย การสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ้ หนา 1 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 169 ง ราชกิจจานุเบกษา 13 กรกฎาคม 2566
“ คำขอ ” หมายความว่า คาขออนุญาตตามระเบียบนี ข้อ 4 เพื่อให้การบังคับใช้ระเบียบนีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกต่อเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้บรรดาแบบคำขออนุญาต ใบรับคาขออนุญาต แบบเสนอโครงการ หนังสืออนุญาต เป็นไปตามแบบที่กำหนดท้ายระเบียบนี ข้อ 5 ให้อธิบดีกรมประมงรักษาการตามระเบียบนี ในกรณีที่มีปัญหาการตีความ ให้อธิบดี กรมประมงเสนอแนวทางการตีความต่อคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และให้ปฏิบัติตามมติ ของคณะกรรมการดังกล่าว หมวด 1 การขออนุญาต ข้อ 6 ผู้ขออนุญาตต้องเป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอานาจ หน้าที่ หรือดาเนินการเป็นไป ตามภารกิจของหน่วยงานของรัฐ โครงการขออนุญาตที่หน่วยงานของรัฐตามวรรคหนึ่งประสงค์ที่จะดาเนินการแก่สัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุม หรือซากของสัตว์ป่าดังกล่าวที่เป็นสัตว์นา สัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้จาก การเพาะพันธุ์ สัตว์ป่าควบคุมที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดให้แจ้งการครอบครองหรือให้เพาะพันธุ์ได้ และสัตว์ป่าอันตราย ต้องระบุชนิด และจานวนให้ชัดเจน และกระทาการได้นอกเขตความรับผิดชอบ ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โค รงการต้องระบุคณะผู้ดำเนินโครงการซึ่งประกอบด้วย ผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการ ผู้ร่วมโครงการ รวมทั งคณะผู้รับจ้าง หรือผู้ช่วยเหลือในโครงการ หมวด 2 การรับคำขอและการพิจารณาคำขอ ข้อ 7 หน่วยงานของรัฐแห่งใดที่ประสงค์จะขออนุญาตกระทำการใด ๆ แก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์นา ตามมาตรา 12 มาตรา 14 วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาตรา 15 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 มาตรา 28 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เพื่อวัตถุประสงค์ในการสารวจ การศึกษา การวิจัย หรือกำรทดลอง ทางวิชาการ การคุ้มครองสัตว์ป่า การบำบัดเยียวยาสัตว์ป่า การป้องกันหรือแก้ไขภยันตราย แก่ประชาชนหรือสัตว์ การส่งเสริมการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า หรือการส่งเสริมกิจการสวนสัตว์ให้ยื่นคาขอ พร้อมเอกสาร หลักฐาน และแบบเสนอโครงการ เพื่อขออนุญาตต่ออธิบดีกรมประมง โครงการตามวรรคหนึ่งจะต้องมีสาระสำคัญ ดังนี (1) ชื่อโครงการ (2) ชื่อหน่วยงาน และสังกัดของรัฐ ้ หนา 2 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 169 ง ราชกิจจานุเบกษา 13 กรกฎาคม 2566
( 3 ) ชื่อผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการ และผู้ร่วมโครงการ และลงลายมือชื่อผู้ควบคุม หรือหัวหน้าโครงการ และผู้ร่วมโครงการ ( 4 ) หน้าที่ ภารกิจ หรือความรับผิดชอบ ของหน่วยงานของรัฐ ( 5 ) วัตถุประสงค์ เหตุผลความจำเป็นที่จะขออนุญาตกระทำการใด ๆ แก่สัตว์ป่า ( 6 ) สถานที่ดำเนินโครงการ ( 7 ) แผนงาน และวิธีการกระทำการใด ๆ แก่สัตว์ป่า ( 8 ) ระยะเวลาดาเนินโครงการ ( 9 ) ชนิด และจำนวนของสัตว์ป่า ข้อ 8 ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐยื่นคาขอ ณ กองบริหารจัดการทรัพยากรและกาหนด มาตรการ การยื่นคำขอตามวรรคหนึ่ง อาจแจ้งโดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ หรือโดยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใดตามที่อธิบดีกำหนดก็ได้ การแจ้งผลการขออนุญาตตามระเบียบนี หากผู้ขออ นุญาตได้แจ้งความประสงค์หรือยินยอม ให้แจ้งผลการพิจารณาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พนักงานเจ้าหน้าที่อาจแจ้งโดยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ข้อ 9 เมื่อได้รับคำขอแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องตรวจสอบคำขอ และเอกสาร หรือหลักฐานที่แนบมาพร้อมแบบคำขอ กรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่าคำขอไม่ถูกต้อง หรือเอกสาร หรือหลักฐานไม่ครบถ้วน ให้แจ้ง ให้หน่วยงานของรัฐผู้ขออนุญาตทราบ พร้อมด้วยเหตุผลเพื่อแก้ไขคาขอ หรือเอกสาร หรือหลักฐาน ประกอบคาขอให้ถูกต้อง หรือจัดส่งเอกสาร หรือหลักฐานให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำห นด หากผู้ขออนุญาตไม่แก้ไขคาขอ หรือเอกสาร หรือหลักฐานประกอบคาขอให้ถูกต้อง หรือไม่ จัดส่งเอกสาร หรือหลักฐานให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กาหนดในวรรคสอง ให้ถือว่าผู้ขออนุญาต ทิ้งคาขอ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จาหน่ายเรื่องออกจากสารบบ และแจ้งเป็นหนังสือพร้อมเหตุผล ให้ผู้ขออนุญาตทราบ หากผู้ขออนุญาตได้แก้ไขคาขอ หรือส่งเอกสาร หรือหลักฐานแล้วแต่ยังไม่ถูกต้อง หรือยังไม่ ครบถ้วน แล้วแต่กรณี ให้ดาเนินการตามวรรคสอง ข้อ 10 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาแบบเสนอโครงการแล้วเสนอความเห็นเพื่อประกอบ การพิจารณาของอธิบดีกรมประมง โดยโครงการที่ขออนุญาตต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการดารงอยู่ ของจำนวนประชากรเป้าหมาย และประชากรอื่น ๆ ตามธรรมชาติมากเกินสมควร รวมถึงต้อง ไม่ทำลายระบบนิเวศ หรือทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง โดยคำนึงถึงมาตรการการดำเนินการที่เหมาะสม เพียงพอต่อภารกิจของหน่วยงานของรัฐ ้ หนา 3 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 169 ง ราชกิจจานุเบกษา 13 กรกฎาคม 2566
การพิจารณาตามวรรคหนึ่ง อธิบดีกรมประมงอาจแต่งตั งคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ให้ความเห็นประกอบการพิจารณาอนุญาตก็ได้ ข้อ 11 เมื่ออธิบดีพิจารณาคำขอประกอบความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือคณะกรรมการ เกี่ยวกับการขออนุญาตนันแล้ว เห็นว่าถูกต้องและเหมาะสม ให้อธิบดีกรมประมงออกหนังสืออนุญาต ให้หน่วยงานของรัฐดาเนินการตามโครงการได้ โดยอาจวางข้อกาหนดในหนังสืออนุญาต หรือเงื่อนไข ท้ายหนังสืออนุญาตก็ได้ หากเป็นกรณีดาเนินโครงการในพืนที่ของหน่วยงานของรัฐอื่น ซึ่งมิใช่ในพืนที่ ที่หน่วยงำนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ได้รับอนุญาตต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงาน ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลพืนที่ดังกล่าวด้วย หนังสืออนุญาตให้มีอายุตามความจำเป็นของโครงการ แต่ไม่เกินหนึ่งปี และไม่เกินคาขอ ข้อ 12 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งผลการอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ผู้ขออนุญาตทราบ เป็นหนังสือพร้อมด้วยเหตุผลโดยไม่ชักช้า การพิจารณาคาขอตามข้อ 11 ให้พิจารณาตามวัตถุประสงค์ของการขออนุญาต โดยคำนึงถึง มาตรการการดาเนินการที่เหมาะสมเพียงพอและภารกิจของหน่วยงานของรัฐนัน รวมถึงหลักเกณฑ์ ประกอบการพิจารณา ดังต่อไปนี (1) เหตุผลความจำเป็นของโครงการ (2) ภาระที่จะตกแก่ทางราชการหากไม่กระทำการใด ๆ (3) ความเสียหาย หรือความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการกระทำการนั น (4) ความเหมาะสมตามหลักวิชาการของวิธีการที่ขอกระทำการตามโครงการ (5) พฤติการณ์ อื่น ๆ ตามที่เห็นสมควร ข้อ 13 เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับหนังสืออนุญาตจากอธิบดีกรมประมง หากเป็นกรณี การดาเนินโครงการในพืนที่ของหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นที่มิใช่พืนที่ในความรับผิดชอบดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หน่วยงานของรัฐที่ได้รับหนังสืออนุญาต ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐ ที่รับผิดชอบดูแลพื นที่ดังกล่าวให้เข้าดำเนินการในพื นที่ดังกล่าวด้วย ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับอนุญาตนันไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบดูแลพืนที่ ให้หนังสืออนุญาตของอธิบดี กรมประมงนันเป็นอันสิ นผล หมวด 3 การดำเนินการของหน่วยงานของรัฐตามที่ได้รับอนุญาต ข้อ 14 หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตและคณะผู้ดาเนินโครงการต้องดาเนินการตามหนังสืออนุญาต โครงการ และเงื่อนไขในการอนุญาต โดยเคร่งครัด ระหว่างดาเนินการตามโครงการ หากพบว่าสัตว์ป่าได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วย อ่อนแอ หรือเป็น โรคติดต่อ หน่วยงานของรัฐผู้ได้รับอนุญาต หรือคณะผู้ดาเนินโครงการต้องรักษาพยาบาล และฟื้นฟู ้ หนา 4 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 169 ง ราชกิจจานุเบกษา 13 กรกฎาคม 2566
สุขภาพสัตว์ป่านันให้แข็งแรง หากสัตว์ป่านันตายลง จะต้องแจ้งสาเหตุการตายให้พนั กงานเจ้าหน้าที่ทราบ โดยเร็ว พร้อมเสนอวิธีการจัดการแก่ซากสัตว์ป่านันด้วย เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสาเหตุ การตาย และพิจารณาดาเนินการแก่ซากสัตว์ป่านันตามกฎหมายและระเบียบ แล้วแต่กรณี ต่อไป ข้อ 15 หากหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตมีความจาเป็นที่จะเปลี่ยนแปลงโครงการที่ได้รับ อนุญาตให้ยื่นคาขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการเป็นหนังสือต่ออธิบดีกรมประมงพร้อมชีแจงเหตุผล ของการขอเปลี่ยนแปลง พร้อมด้วยเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และให้นาความในหมวด 2 มาใช้ บังคับแก่การขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการโดยอนุโลม การขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการตามวรรคหนึ่ง โดยให้กระทำได้เฉพาะเรื่อง ต่อไปนี ( 1 ) การเปลี่ยนแปลงพื นที่หรือขอขยายพืนที่ในการดาเนินการ ( 2 ) การเปลี่ยนแปลงผู้ร่วมดาเนินการ ทั งนี ไม่เกิน 2 ใน 3 ของผู้ร่วมดาเนินการเดิม ( 3 ) การเปลี่ยนแปลงวิธีการล่าสัตว์ป่า ( 4 ) การเปลี่ยนแปลงจำนวนของสัตว์ป่า ทั งนี ต้องไม่เกินกว่าที่เคยได้รับอนุญาต ในกรณีที่มีคาสั่งอนุญาตให้แก้ไขรายการในหนังสืออนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีกรมประมง ออกหนังสืออนุญาตฉบับใหม่แทนหนังสื ออนุญาตฉบับเดิม และแจ้งให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตทราบ เมื่อได้ออกหนังสืออนุญาตฉบับใหม่แล้วให้หนังสืออนุญาตฉบับเดิมเป็นอันสิ นผลบังคับ ข้อ 16 ในกรณีที่ผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการ หรือผู้ร่วมโครงการ ผู้ใดพ้นจากคณะดาเนินการ โครงการ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตแจ้งต่ออธิบดีกรมประมงภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ ผู้นั นพ้นจากคณะดาเนินโครงการ ทั งนี หากการพ้นจากคณะดาเนินโครงการ มีผลกระทบต่อการดาเนินการ ของโครงการที่ไม่อาจดาเนินโครงการต่อไปได้ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐดังกล่าวแจ้งการล้มเลิก โครงการนั นต่ออธิบดีกรมประมงโดยเร็ว ในกรณีเช่นว่านีให้หนังสืออนุญาตเป็นอันสิ นผล ข้อ 17 ให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตส่งรายงานโครงการฉบับสมบูรณ์เมื่อสินสุดโครงการ หากโครงการมีระยะเวลามากกว่าหกเดือนให้ส่งรายงานความก้าวหน้าโครงการทุกหกเดือน ข้อ 18 เมื่อสิ นสุดระยะเวลาโครงการหรืออธิบดีกรมประมงมีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาต หรือหนังสืออนุญาตสิ นผลตามระเบียบนี ให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตสรุปชนิดและจำนวนสัตว์ป่า หรือซาก สัตว์ป่าที่คงเหลืออยู่จากการดาเนินโครงการ และเสนอแนวทางการดาเนินการต่อไปแก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่านันต่ออธิบดีกรมประมงเพื่อพิจารณาสั่งดาเนินการ หากเห็นชอบให้สั่งดาเนินการตามที่เสนอ หรือสั่งดาเนินการเป็นอย่างอื่นต่อไป กรณีสิ นสุดระยะเวลาโครงการปกติและหากหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตประสงค์ จะครอบครองสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าตามหนังสืออนุญาตที่สินสุดนัน มีการเปลี่ยนแปลงไปจาก รายละเอียดในโครงการที่ได้รับอนุญาต ให้เสนอเป็นหนังสือต่ออธิบดีกรมประมง ในกรณีเช่นว่านี ให้พนั กงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่คงเหลือเท่าใด ถูกต้องตามรายงานตามวรรคหนึ่ง หรือไม่ และพิจารณาความเหมาะสมดังกล่าวโดยเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาต่ออธิบดีกรมประมง ในการออกหนังสืออนุญาตให้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่านันได้ ้ หนา 5 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 169 ง ราชกิจจานุเบกษา 13 กรกฎาคม 2566
ข้อ 19 หากสินสุดระยะเวลาตามหนังสืออนุญาตแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาต และยังดาเนินโครงการไม่แล้วเสร็จ แจ้งเหตุผลความจาเป็นที่ไม่สามารถดาเนินการให้แล้วเสร็จได้ เป็นหนังสือก่อนหนังสืออนุญาตสินระยะเวลาที่กาหนดไม่น้อยกว่าสามสิบวัน พร้อมเสนอขอขยาย ระยะเ วลาหรือยุติโครงการ และรายงานผลการดาเนินโครงการต่ออธิบดีกรมประมง การขยายระยะเวลาหนังสืออนุญาตตามวรรคหนึ่งกระทำได้ไม่เกินคราวละหนึ่งครัง ครั งละไม่เกิน หนึ่งปี และขยายได้ไม่เกินระยะเวลาตามใบอนุญาตเดิม และให้นาความในหมวด 2 มาใช้ในการ พิจารณาการขอขยายระยะเวลาหรือการดาเนินการใด ๆ ในโครงการต่อไป โดยอนุโลม หากอธิบดีกรมประมงพิจารณาแล้ว เห็นว่าหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาต มีความจาเป็น ต้องดาเนินการโครงการให้แล้วเสร็จสมบูรณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อวัตถุประสงค์ของโครงการ อธิบดีกรมประมง จะขยายระยะเวลาการดาเนินการโครงการเกินกว่าระยะเวลาตามวรรคสองก็ได้ แต่ไม่เกินหนึ่งปี หมวด 4 การกำกับดูแล และการควบคุม ข้อ 20 โครงการที่ดำเนินการในเขตความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น ให้ดำเนินการ ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเข้าไปในพืนที่หรือการกระทำการใด ๆ ในพืนที่ดังกล่าวด้วย ข้อ 21 พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจในการเข้าตรวจสอบ ควบคุมการดาเนินการใด ๆ ได้ โดยคณะผู้ดำเนินโครงการต้องอานวยความสะดวกในการตรวจสอบแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ในเวลากลางวัน หรือต่อเนื่องไปในเวลากลางคืน เพียงเท่าที่จำเป็น กรณีพืนที่ตามวรรคหนึ่งอยู่ในพืนที่ของหน่วยงานอื่น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานหน่วยงาน เจ้าของพื นที่ก่อนเข้าตรวจสอบ ควบคุมการดาเนินการของคณะผู้ดาเนินโครงการ ข้อ 22 ระหว่างดาเนินโครงการ หากหน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับอนุญาต ไม่อานวยความสะดวก ในการตรวจสอบการดาเนินโครงการ หรือมีเหตุอันควรสงสัยได้ว่า หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาต หรือผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในหนังสืออนุญาตหรือเงื่อนไขท้าย หนังสืออนุญาตหรือดาเนินโครงการไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกต้องตามที่ได้รับอนุญาต ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ สั่งระงับการดำเนินการแก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่ได้รับอนุญาต หรือที่มีผลกระทบแก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่า โดยชั่วคราวไม่เกินสามสิบวันเพื่อเข้าตรวจสอบโคร งการ และสั่งการให้หน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับอนุญาตปรับปรุง แก้ไข ให้เหมาะสมหรือถูกต้องภายในระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด เมื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งแล้ว หากหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาต หรือผู้ควบคุม หรือหัวหน้าโครงการ ไม่ยินยอมให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หรือไม่ปฏิบัติคาสั่งของพนักงาน เจ้าหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอข้อเท็จจริงพร้อมความเห็นรายงานต่ออธิบดีกรมประมงเพื่อมีคำสั่ง ให้คณะผู้ดำเนินโครงการระงับการดาเนินการแก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่า จนกว่าจะมีการแก้ ไขให้ถูกต้อง ในกรณีที่อธิบดีกรมประมงเห็นว่าการดาเนินการของคณะผู้ดำเนินโครงการแก่สัตว์ป่า หรือซาก สัตว์ป่า หรือรังของสัตว์ป่านันเป็นการดาเนินการที่นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตและเป็นความผิด อย่างร้ายแรงให้อธิบดีกรมประมงมีคำสั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาต ้ หนา 6 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 169 ง ราชกิจจานุเบกษา 13 กรกฎาคม 2566
คำสั่งระงับการดาเนินโครงการหรือคาสั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาต ให้อธิบดีกรมประมงแจ้งเป็น หนังสือพร้อมแสดงเหตุผลแก่หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตทราบ ข้อ 23 สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่คงเหลือจากโครงการเฉพาะ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รับคืน หรือให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รั บอนุญาตส่งคืนให้แก่กรมประมงภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่สิ นสุด ระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต หากไม่สามารถส่งคืนได้ให้ชาระเป็นเงินแทน โดยเทียบเคียงกับราคาสัตว์ป่า ที่กาหนดในระเบียบกรมประมงที่ออกตามมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ข้อ 24 เมื่อหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตประสงค์จะนาบุคคลอื่นนอกเหนือจากรายชื่อ ที่ระบุในโครงการตามหนังสืออนุญาตเข้ามาช่วยเหลือในการดำเนินโครงการ ให้บุคคลเหล่านั น ดาเนินการได้เฉพาะในกรอบของโครงการที่ได้รับหนังสืออนุญาตภายใต้การกากับดูแลของผู้ควบคุม หรือหัวหน้ำโครงการของหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตและหน่วยงานเจ้าของพืนที่โครงการเท่านัน โดยผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการของหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาต ต้องรายงานให้หน่วยงานของรัฐ ที่มีอานาจหน้าที่กากับดูแลพืนที่เพื่อทราบและดาเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องตามที่ หน่วยงานของรัฐนั นได้แจ้งหรือออกคำสั่งให้ปฏิบัติด้วย ในการดาเนินโครงการของบุคคลอื่นตามวรรคหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติตามคาสั่งของหน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับอนุญาต หรือคำสั่งขอ งผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการโดยสุจริต บุคคลนั นย่อมไม่มีความผิด ข้อ 25 ความรับผิดทางอาญา ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาต ผู้ควบคุม หรือหัวหน้าโครงการ หรือผู้ร่วมโครงการกระทำการไม่เป็นไปตามโครงการที่ได้รับอนุญาตตามข้อกาหนด ในหนังสืออนุญาต หรือเงื่ อนไขท้ายหนังสืออนุญาต อันเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 12 มาตรา 14 วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาตรา 15 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 มาตรา 28 และมาตรา 32 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 89 มาตรา 90 มาตรา 91 มาตรา 92 มาตรา 93 และมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 แล้วแต่กรณี ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ แจ้งความดาเนินคดีแก่หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการ หรือผู้ร่วมโครงการ และดาเนินการตามมาตรา 81 (4) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต่อไป ข้อ 26 ความรับผิดทางแพ่งในกรณีที่หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาต ผู้ควบคุม หรือหัวหน้า โครงการ หรือผู้ร่วมโครงการ กระทาการอันเป็นความผิดตามข้อ 24 ซึ่งมีความรับผิดทางแพ่งด้วย ให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาต ผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการ และผู้ร่วมโครงการต้องรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กรมประมงโดยต้องรับผิดอย่างลูกหนี ร่วม หากบุคคลตามวรรคหนึ่ง ที่กระทาความผิดจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กรมประมง ตามระเบียบกรมประมง ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสงวนคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ก็ให้เรียกชดใช้ ค่าเสียหายตามระเบียบดังกล่าวมาในคราวเดียวกันกับการเรียกค่าเสียหายตามวรรคหนึ่ง ข้อ 27 กรณีหนังสืออนุญาตสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดเสียหายในสาระสำคัญ ให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาต ยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมประมง พร้อมด้วยหลักฐานบันทึกประจำวัน ้ หนา 7 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 169 ง ราชกิจจานุเบกษา 13 กรกฎาคม 2566
แจ้งหนังสืออนุญาตสูญหาย หรือสาเนาหนังสืออนุญาต หรือหนังสืออนุญาตที่ชารุดเสียหาย แล้วแต่กรณี เพื่อขอให้อธิบดีกรมประมงออกหนังสืออนุญาตฉบับใหม่แทนหนังสืออนุญาตฉบับเดิม เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและหลักฐานตามวรรคหนึ่งแล้ว เห็นว่าถูกต้อง และครบถ้วน และหนังสืออนุญาตสูญหาย ถูกทาลาย หรือชารุดเสียหายในสาระสาคัญจริง ให้เสนอ ความเห็นประกอบการพิจารณาต่ออธิบดีกรมประมงเพื่อออกหนังสืออนุญาตฉบับใหม่แทนหนังสืออนุญาต ฉบับเดิม และให้หนังสืออนุญาตฉบับเดิมเป็นอันสิ นผลบังคับ หมวด 5 บทเฉพาะกาล ข้อ 28 บรรดาการใดที่หน่วยงานของรัฐกระทำเพื่อประโยชน์ในการสำรวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ การคุ้มครองสัตว์ป่า การบาบัดเยียวยาสัตว์ป่า การป้องกัน หรือแก้ไขภยันตรายแก่ประชาชน หรือสัตว์ หรือเพื่อส่งเสริมการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า หรือเพื่อส่งเสริม กิจการสวนสัตว์ ก่อนระเบียบนีมีผลใช้บังคับ ซึ่งเป็นการได้รับอนุญาตตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และได้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการอนุญาตให้ทางราชการกระทาการล่า เพาะพันธุ์ ครอบครอง นาเข้า ส่งออก หรือนาผ่าน ซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่า การเก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งรังของสัตว์ป่า และการเรียกเก็บ และชาระค่าใช้จ่าย ค่าบริการ หรือค่าตอบแทน และราคาสัตว์ป่า พ.ศ. 2540 และได้กระทา ต่อเนื่องจนกว่าการได้รับอนุญาตสิ นสุดลง ให้ถือเสมือนว่าเป็นการกระทำที่ได้รับอนุญาตตามระเบียบนี ด้วย ประกาศ ณ วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 256 6 เฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง ้ หนา 8 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 169 ง ราชกิจจานุเบกษา 13 กรกฎาคม 2566
คําขออนุญาต กระทําการแก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ํา ตามมาตรา 73 ( 1 ) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ . ศ . 2562 _______________ เขียนที่ วันที่ เดือน พ . ศ . 1 . ข้าพเจ้า ( หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ) ตําแหน่งทางวิชาการ ( ถ้ามี ) บัตรประจําตัวประชาชน / บัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ เลขที่ อายุ ปี สัญชาติ วุฒิการศึกษาสูงสุด จากสถาบันการศึกษา สาขาวิจัยที่ชํานาญ โทรศัพท์ โทรสาร อีเมล์ สถานที่ทํางาน / สถาบัน ชื่อสถานที่ทํางาน / สถาบัน เลขที่ หมู่ที่ ถนน ตําบล / แขวง อําเภอ / เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ สังกัดหน่วยงานรัฐ กระทรวง / ทบวง / กรม ที่อยู่ปัจจุบัน เลขที่ หมู่ที่ ถนน ตําบล / แขวง อําเภอ / เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ 2 . มีภารกิจของหน่วยงานในการ ( ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ ) การสํารวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ การคุ้มครองสัตว์ป่า การบําบัดเยียวยาสัตว์ป่า การป้องกันหรือแก้ไขภยันตรายแก่ประชาชนหรือสัตว์ การส่งเสริมการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าหรือส่งเสริมกิจการสวนสัตว์
-
2 - 3 . ขอยื่นคําขอต่ออธิบดีกรมประมง โดยข้าพเจ้ามีความประสงค์ให้คณะผู้ดําเนินโครงการจํานวน คน มีรายชื่อดังนี้ ( 1 ) ผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการ ( 2 ) ผู้ร่วมโครงการ ( 3 ) ผู้ร่วมโครงการ ( 4 ) ผู้ร่วมโครงการ ( 5 ) ผู้ร่วมโครงการ 4 . ขอกระทําการแก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่า ตามมาตรา ( ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ ) มาตรา 12 ล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง มาตรา 15 ทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระ หรือกระทําการใดๆ ให้สัตว์ป่าพ้นจากการดูแลของตนซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือสัตว์ป่าควบคุม มาตรา 17 มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าดังกล่าว มาตรา 18 มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้จากการเพาะพันธุ์จากสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ และซากสัตว์ป่าดังกล่าว มาตรา 19 มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าควบคุม เฉพาะชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดให้แจ้งการครอบครอง และซากสัตว์ป่าดังกล่าว มาตรา 28 เพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ หรือสัตว์ป่าควบคุมที่รัฐมนตรีประกาศให้เพาะพันธุ์ได้ มาตรา 32 มีไว้ในครอบครองหรือดําเนินการใดๆ แก่สัตว์ป่าอันตรายที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด เพื่อวัตถุประสงค์ตามภารกิจของหน่วยงานตามข้อ 2 ในพื้นที่ / ท้องที่ ชื่อโครงการ ตั้งแต่วันที่ เดือน พ . ศ . ถึงวันที่ เดือน พ . ศ . เป็นระยะเวลา ปี เดือน วัน 5 . โดยจะกระทําการตามข้อ 4 แก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่า ดังต่อไปนี้ 1 . จํานวน 2 . จํานวน 3 . จํานวน 4 . จํานวน 5 . จํานวน รายละเอียดการกระทําการใดๆ แก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ํา เป็นไปตามแบบเสนอ โครงการที่แนบมาพร้อมนี้
-
3 - 6 . พร้อมกับคําขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาด้วย ดังนี้ ( 1 ) แสดงบัตรประจําตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) หรือสําเนาบัตร ประจําตัวประชาชน หรือบัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ( 2 ) แบบเสนอโครงการฉบับสมบูรณ์ ( 3 ) ประวัติผู้ร่วมโครงการ ( 4 ) เอกสารหรือหลักฐานอื่น ๆ ตามที่ทางราชการแจ้งให้นําส่ง ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อความที่ได้แสดงไว้ข้างต้นเป็นความจริงทุกประการ และข้าพเจ้ายินดี จะปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ตลอดจนเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง และจะปฏิบัติตามคําสั่ง ของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทําหน้าที่ควบคุม ดูแล และรับผิดชอบพื้นที่โดยเคร่งครัด โดยมอบหมายให้ เบอร์โทร . ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นผู้ประสานงาน กรณีคําขอฯ ไม่ถูกต้อง เอกสารหรือหลักฐานประกอบคําขอฯ ไม่ครบถ้วน หรือรายละเอียด แบบเสนอโครงการยังไม่เหมาะสมเพียงพอต่อการพิจารณา ทั้งนี้ ยินยอม ไม่ยินยอม ให้เจ้าหน้าที่ประสานงาน หรือแจ้งผลการพิจารณาด้วย วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ( ลงชื่อ ) ผู้ขออนุญาต ( ) ตําแหน่ง หัวหน้าโครงการ
ประวัติผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการ ข้าพเจ้า ตําแหน่งทางวิชาการ ( ถ้ามี ) บัตรประจําตัวประชาชน / บัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ เลขที่ อายุ ปี สัญชาติ วุฒิการศึกษาสูงสุด จากสถาบันการศึกษา สาขาวิจัยที่ชํานาญ โทรศัพท์ โทรสาร อีเมล . สถานที่ทํางาน / สถาบัน ชื่อสถานที่ทํางาน / สถาบัน เลขที่ หมู่ที่ ถนน ตําบล / แขวง อําเภอ / เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ ที่อยู่ปัจจุบัน เลขที่ หมู่ที่ ถนน ตําบล / แขวง อําเภอ / เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ ข้าพเจ้า เป็นผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการวิจัย เรื่อง ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อความที่ได้แสดงไว้ข้างต้นเป็นความจริงทุกประการ ( ลงชื่อ ) ( ) ผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการ หมายเหตุ เอกสารประกอบ แสดงบัตรประจําตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) หรือแนบสําเนาบัตรประจําตัว ประชาชน หรือบัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหนังสือเดินทาง
ประวัติผู้ร่วมโครงการ ข้าพเจ้า ( ภาษาไทย ) ( ภาษาอังกฤษ ) ตําแหน่งทางวิชาการ ( ถ้ามี ) บัตรประจําตัวประชาชน / บัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ เลขที่ อายุ ปี สัญชาติ วุฒิการศึกษาสูงสุด จากสถาบันการศึกษา สาขาวิจัยที่ชํานาญ โทรศัพท์ โทรสาร อีเมล์ สถานที่ทํางาน / สถาบัน ชื่อสถานที่ทํางาน / สถาบัน เลขที่ หมู่ที่ ถนน ตําบล / แขวง อําเภอ / เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ ที่อยู่ปัจจุบัน เลขที่ หมู่ที่ ถนน ตําบล / แขวง อําเภอ / เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ ข้าพเจ้า ร่วมดําเนินงานในโครงการ เรื่อง ข้าพเจ้าขอรับรองว่า ข้อความที่ได้แสดงไว้ข้างต้นเป็นความจริงทุกประการ ( ลงชื่อ ) ( ลงชื่อ ) ( ) ( ) ผู้ร่วมโครงการ หัวหน้าโครงการ หมายเหตุ เอกสารประกอบ แสดงบัตรประจําตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) หรือแนบสําเนาบัตรประจําตัว ประชาชน หรือบัตรประจําตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหนังสือเดินทาง
แบบเสนอโครงการ เพื่อกระทําการแก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ํา ตามมาตรา 73 (1) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ . ศ . 2562 1 . ชื่อโครงการ ( ภาษาไทย ) ( ภาษาอังกฤษ ) 2 . คณะผู้ดําเนินโครงการ ผู้ควบคุม / หัวหน้าโครงการ ผู้ร่วมโครงการ 1. 2. 3. 4. 5. 3 . ชื่อหน่วยงานของรัฐที่ให้การรับรอง สังกัด ( กระทรวง / ทบวง / กรม ) หน้าที่และภารกิจของหน่วยงานรัฐ อธิบายให้เห็นถึงภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุผลความจําเป็นในการขออนุญาต 4. หลักการและเหตุผล ความจําเป็นที่ต้องดําเนินโครงการ 5. วัตถุประสงค์โครงการ 6. สถานที่ดําเนินโครงการ 7. วิธีการดําเนินงานและแผนการปฏิบัติงาน 8. ระยะเวลาดําเนินโครงการ 9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1 0. งบประมาณ / แหล่งทุน ในการดําเนินโครงการ 1 1. เอกสารอ้างอิง ( กรณีขอกระทําการเพื่อการศึกษา วิจัย หรือทดลองทางวิชาการ ) ลงชื่อ ) ( ลงชื่อ ) ( ) ( ) หัวหน้าโครงการ ผู้ร่วมโครงการ ลงชื่อ ) ( ลงชื่อ ) ( ) ( ) ผู้ร่วมโครงการ ผู้ร่วมโครงการ ลงชื่อ ) ( ) ผู้ร่วมโครงการ
คําอธิบายรายละเอียดแบบเสนอโครงการ หัวข้อ คําอธิบายรายละเอียด 1 . ชื่อโครงการ ให้ระบุชื่อโครงการทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 2 . ชื่อหัวหน้าโครงการ และคณะผู้ร่วมโครงการ ให้ระบุชื่อหัวหน้าโครงการและผู้ร่วมโครงการทุกคน พร้อมทั้งระบุตําแหน่งชื่อหน่วยงานหรือสถานที่ทํางาน และบทบาทหน้าที่ใน โครงการ 3 . ชื่อหน่วยงาน สังกัดของ รัฐ รวมถึงหน้าที่ ภารกิจ หรือความรับผิดชอบ ของหน่วยงานของรัฐ 3 . 1 ให้ระบุชื่อหน่วยงานและสังกัดที่ร่วมโครงการ 3 . 2 หน้าที่ ภารกิจ หรือความรับผิดชอบของหน่วยงานข้อ 3 . 1 3 . 3 ให้ระบุชื่อหน่วยงานที่ร่วมโครงการ 3 . 4 ให้ระบุชื่อหน่วยงานราชการไทย หรือสถาบันทางวิชาการของรัฐ ที่ให้การรับรองโครงการ 4 . หลักการและเหตุผล ให้ชี้แจงหลักการและเหตุผลในการดําเนินโครงการโดยละเอียด ซึ่งสื่อให้เห็นถึง เหตุผลความจําเป็นที่จะขออนุญาตกระทําการใดๆ แก่สัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่ เป็นสัตว์น้ํา 5 . วัตถุประสงค์ ให้ระบุวัตถุประสงค์โครงการที่สําคัญเป็นข้อๆ 6 . สถานที่ดําเนินการ ให้ระบุชื่อพื้นที่หรือบริเวณที่เข้าไปดําเนินการตามโครงการให้ชัดเจน เพื่อสะดวก ต่อการควบคุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ 7 . วิธีการดําเนินการและ แผนการปฏิบัติงาน บรรยายวิธีการและขั้นตอนการดําเนินการ ตารางเวลาดําเนินการ ตลอดจน ขอบเขตและสถานที่ในการดําเนินการตามโครงการโดยละเอียด ทั้งนี้ หากผู้ขอ อนุญาตมีความประสงค์จะขอเก็บตัวอย่างทรัพยากรธรรมชาติ จะต้องมี รายละเอียดดังต่อไปนี้ด้วย ( 1 ) ระบุจํานวน ชนิด ขนาด ปริมาณ และวิธีการเก็บตัวอย่างให้ชัดเจน ( 2 ) ระบุเหตุผลความจําเป็นในการจัดเก็บตัวอย่าง ( 3 ) หากประสงค์จะนําตัวอย่างออกนอกประเทศ ต้องระบุชนิด จํานวน รูปแบบตัวอย่าง เหตุผล ความจําเป็น วิธีการปฏิบัติต่อตัวอย่าง และสถานที่ที่จะ นําไปดําเนินการโดยละเอียด ( 4 ) ระบุวิธีการจัดการกับส่วนหรือซากของตัวอย่างที่เสร็จสิ้นหรือเหลือ จากการดําเนินโครงการ หากมีโครงการหรือกิจกรรมย่อยภายใต้ชื่อโครงการที่เสนอ ให้แยกอธิบาย วิธีการและสถานที่ ตลอดจนขั้นตอนการดําเนินการโดยละเอียด เสมือนหนึ่งเป็น โครงการเอกเทศในแต่ละโครงการ 8 . ระยะเวลาดําเนินการ ให้ระบุระยะเวลาในการดําเนินโครงการตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการที่เสนอ ใน กรณีที่ขออนุญาตเข้าไปดําเนินการในพื้นที่หลายแห่ง จะต้องระบุช่วงเวลาที่ขอ เข้าพื้นที่แต่ละแห่งด้วย ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชขอสงวน สิทธิที่จะพิจารณาระยะเวลาที่เข้าไปดําเนินการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามความ เหมาะสม 9 . ผลที่คาดว่าจะได้รับ ให้ระบุประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการดําเนินการโครงการนี้
- 2 - หัวข้อ คําอธิบายรายละเอียด 10 . งบประมาณดําเนินการ หรือแหล่งทุน ให้แจ้งรายละเอียดงบประมาณตามหมวดรายจ่ายแยกแต่ละกิจกรรม / โครงการ เป็นรายปี จนเสร็จสิ้นโครงการ หรือแหล่งทุนเพื่อใช้ในการ ดําเนินโครงการในครั้งนี้ และแจ้งสถานภาพเพื่อให้ทราบว่าได้รับการอนุมัติ เงินทุนแล้วหรือไม่ ประการใด 11 . การอ้างอิง ให้ระบุทุกประเภทของเอกสารที่มีการอ้างอิงไว้ในโครงการ โดยการอ้างอิง นั้นให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล 12 . ลงลายมือชื่อผู้ควบคุมหรือ หัวหน้าโครงการ และผู้ร่วม โครงการ ให้คณะผู้ดําเนินโครงการทุกคนลงลายมือชื่อ
หนังสืออนุญาตให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ํา ตามมาตรา 73 (1) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ . ศ . 2562 เลขที่ / กรมประมง เกษตรกลาง กรุงเทพฯ วันที่ เดือน พ . ศ . อนุญาตให้ สังกัด เลขที่ หมู่ที่ ถนน ตําบล / แขวง อําเภอ / เขต จังหวัด รหัสไปรษณีย์ กระทําการแก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ํา ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ . ศ . 2562 ภายใต้โครงการ เพื่อประโยชน์ในการ โดยมี เป็นผู้ควบคุมหรือหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วยผู้ร่วมโครงการ จํานวน คน ดังนี้ ( 1 ) ( 2 ) ( 3 ) ( 4 ) ( 5 ) ในท้องที่ / พื้นที่ จํานวน แห่ง คือ ( 1 ) หน่วยงาน (2) หน่วยงาน ( 3 ) หน่วยงาน ตั้งแต่วันที่ เดือน พ . ศ . ถึงวันที่ เดือน พ . ศ . ทั้งนี้ ผู้ได้รับอนุญาตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตนี้ ลายมือชื่อ ผู้อนุญาต ( ) ตําแหน่ง
เงื่อนไขแนบท้ายหนังสืออนุญาต ให้ผู้ได้รับหนังสืออนุญาตดําเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ํา ตามระเบียบกรมประมง ว่าด้วยการขออนุญาตและการอนุญาตให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่า หรือซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์น้ํา ตามมาตรา 73 ( 1 ) แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ . ศ . 2562 พ . ศ . … ตามหนังสืออนุญาตฯ เลขที่ / ลงวันที่ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ 1. ก่อนการดําเนินการล่าสัตว์ป่า หน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตต้องแจ้งให้ประมงจังหวัดทราบก่อนเข้าไป ดําเนินการในพื้นที่ทุกครั้ง 2. ต้องปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ แผนงาน วิธีการ และเงื่อนไขที่ระบุไว้ในโครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับ อนุญาตจากกรมประมง เท่านั้น 3 . นําหนังสืออนุญาตไปด้วยเสมอ และต้องนําออกแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อมีการร้องขอ 4. อํานวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ทุกครั้งที่เข้าไปตรวจสอบ 5. ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ตลอดจนต้องปฏิบัติตามระเบียบ ข้อกําหนด ข้อบังคับ ประกาศ คําสั่ง วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนด รวมทั้งต้องปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งสั่งการตามอํานาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายอย่างเคร่งครัด 6. กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อกําหนด ข้อบังคับ ประกาศ คําสั่ง วิธีการ หรือเงื่อนไข หรือทําให้เกิดความเสียหาย หรือเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม อธิบดีกรมประมงอาจระงับการ อนุญาต และดําเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 7. ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ร่วมดําเนินโครงการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้ สถาบันทางวิชาการหรือ หน่วยงานราชการในประเทศไทยที่รับรองและร่วมรับผิดชอบโครงการ หรือหน่วยงานต้นสังกัด ต้องรับผิดชอบ ให้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้ 8. กระทําการโดยระมัดระวังตามสมควร เพื่อป้องกันมิให้การกระทําดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่า สิ่งแวดล้อม หรือแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า แล้วแต่กรณี มากเกินความจําเป็น 9. รายงานผลการดําเนินงานให้กรมประมงทราบภายในระยะเวลาที่กรมประมงร้องขอ 10. เมื่อสิ้นสุดโครงการให้รายงานผลดําเนินงานให้กรมประมงทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันสิ้นสุด โครงการ 11. เงื่อนไขอื่น ๆ ( ถ้ามี ) ลายมือชื่อ ผู้อนุญาต ( ) ตําแหน่ง