ประกาสธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกช. 4/2566 เรื่อง หลักเกณฑ์ทั่วไปในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบริการชำระเงินภายใต้การกำกับ (ฉบับที่ 2)

ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกช. 4 / 2566 เรื่อง หลักเกณฑ์ทั่วไปในการกากับดูแล การประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกากับ (ฉบับที่ 2) 1 . เหตุผลในการออกประกาศ ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนช. 6/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ทั่วไปในการกากับดูแลการประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินภายใต้การกากับ ลงวันที่ 16 เมษายน 2561 เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลการให้บริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ ให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกากับดูแลให้ผู้ประกอบธุรกิจ มีความน่าเชื่อถือ และคุ้มครองผู้ใช้บริการ นั้น เพื่อส่งเสริมให้การประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินภายใต้การกากับมีการดาเนินงานที่โปร่งใส และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและหลักธรรมาภิบาลที่ดี คานึงถึงผู้มีส่วนได้เสียและความเสี่ยงอย่างรอบด้าน อันจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงเห็นควรแก้ไข หลักเกณฑ์ทั่วไปในการกากับดูแลผู้ประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินภายใต้การ กากับให้สอดคล้องกับ การปรับเพิ่มคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ และผู้ซึ่งมีอานาจจัดการของผู้ประกอบธุรกิจ ดังกล่าว 2 . อำนาจตามกฎหมาย อาศัยอานาจตามความในมาตรา 24 มาตรา 25 และมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติ ระบบการชาระเงิน พ.ศ. 2560 ธนาคารแห่งประเทศไทยกาหนดหลักเกณฑ์ทั่วไปในการกากับดูแล การประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ ตามความในประกาศฉบับนี้ 3 . ประกาศที่แก้ไข ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนช. 6/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ทั่วไปในการกำกับดูแล การประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ ลงวันที่ 16 เมษายน 2561 4 . ขอบเขตการบังคับใช้ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินภายใต้การกำกับ ตามกฎหมาย ว่าด้วยระบบการชำระเงิน 5 . เนื้อหา 5.1 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (10.3 ) ของข้อ 4.2.3 ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนช. 6/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ทั่วไปในการกากับดูแลการประกอบธุรกิจบริการการชาระเงิน ภายใต้การกำกับ ลงวันที่ 16 เมษายน 2561 ้ หนา 42 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 163 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 กรกฎาคม 2566

“(10.3) ผู้ประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินภายใต้การกากับต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้น ตามที่กาหนดไว้ในคู่มือสาหรับประชาชนให้ ธปท. ทราบเป็นหนังสือหรือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายใน 15 วันทาการนับแต่วันที่มีบุคคลใดถือหรือมีไว้ซึ่งหุ้นของผู้ประกอบธุรกิจบริกำรการชาระเงิน ภายใต้การกากับเกินกว่าร้อยละ 10 ของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยให้นับรวมหุ้นของ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าวด้วย ผู้ที่เกี่ยวข้องตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับอีกบุคคลหนึ่งในลักษณะ ดังต่อไปนี้ ( 1 ) เป็นคู่ สมรส ( 2 ) เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือ ( 3 ) เป็นตัวการ ตัวแทน ” 5.2 ให้ยกเลิกความในข้อ 4.3 ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนช. 6/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ทั่วไปในการกากับดูแลการประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินภายใต้การกากับ ลงวันที่ 16 เมษายน 2561 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “4.3 การยกเว้นหลักเกณฑ์การกากับดูแลทั่วไป สาหรับสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ ต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งสาขาเพื่อประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคา รพาณิชย์ต่างประเทศ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รัฐวิสาหกิจ บริษัทบริหารสินทรัพย์ และผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ซึ่งอยู่ภายใต้ การกำกับดูแลของ ธปท. เนื่องจากมีกฎหมายในการกำกับดูแลเป็นการเฉพาะแล้ว 4.3.1 ผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับที่เป็นสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และรัฐวิสาหกิจ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านฐานะ ทางการเงิน ตามข้อ 4.2.1 (1) - (4) และหลักเกณฑ์ด้านธรรมาภิบาล ตามข้อ 4.2.2 (1.3) 4.3.2 ผู้ป ระกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับที่เป็นสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงินตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ที่มีกฎหมายเฉพาะกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแล และอยู่ภายใต้การกำกับดูแล ของ ธปท. หากได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดไว้ดังกล่าวแล้ว ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ตามประกาศนี้ ในเรื่องดังต่อไปนี้ ( 1 ) การแจ้งเปลี่ยนแปลงกรรมการหรือผู้ซึ่งมีอำนาจจัดการของนิติบุคคล ตามข้อ 4.2.2 (1.4) ( 2 ) การจัดให้มีการตรวจสอบการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยง และจัดส่งสำเนาผลการตรวจสอบ ตามข้อ 4.2.2 (3.4) ( 3 ) การจัดให้มีการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศและ จัดส่งสำเนาผลการตรวจสอบ ตามข้อ 4.2.3 (4.2) ( 4 ) การขออนุญาตย้ายสำนักงานใหญ่ ตามข้ อ 4.2.3 (7.1) ( 5 ) การเปลี่ยนแปลงชื่อนิติบุคคล ตามข้อ 4.2.3 (7.2.3) และ (7.4.1) ้ หนา 43 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 163 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 กรกฎาคม 2566

( 6 ) การรายงานเปิดสานักงานสาขาแห่งใหม่ หรือย้าย หรือปิดสานักงานสาขา ตามข้อ 4.2.3 (7.3) และ (7.4.2) ( 7 ) การหยุดให้บริการชั่วคราว ตามข้อ 4.2.3 (8) ( 8 ) การรายงานและส่งงบการเงิน ตามข้อ 4.2.3 (10) ( 9 ) การจัดส่งประกาศค่าธรรมเนียม ตามข้อ 4.2.4 (3.3) 4.3.3 ผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับที่เป็นสถาบันการเงิน บริษัทบริหารสินทรัพย์ และผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงินตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ซึ่งอยู่ภายใต้การกากับดูแลของ ธปท. ซึ่งมีกฎหมายกาหนดเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามหรือคุณสมบัติของ ผู้ถือหุ้นของบุคคลดังกล่าวไว้เป็นการเฉพาะแล้ว และผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นธนาคารพาณิชย์ ต่างประเทศ ที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งสาขาเพื่อประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ที่เป็น บริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และรัฐวิสาหกิจ ให้ได้รับยกเว้น ไม่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นตามข้อ 4.2.3 (10.3)” 5 .3 บทเฉพาะกาล 5.3.1 กรณีกรรมการ หรือผู้ซึ่งมีอานาจจัดการของผู้ประกอบธุรกิจบริการการชาระเงิน ภายใต้การกากับซึ่งดารงตาแหน่งอยู่ในวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ตามที่กาหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต และการขอขึ้นทะเบียนการประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ (ฉบับที่ 3) ให้บุคคลดังกล่าว ยังคงดารงตาแหน่งต่อไปได้ไม่เกิน 180 วันนับจากวันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ โดยผู้ประกอบธุรกิจบริการ การชำระเงินภายใต้การกำกับจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้กรรมการหรือผู้ซึ่งมีอำนาจจัดการของตน มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดภายในระยะเวลาดังกล่าว 5.3.2 กรณีผู้ประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินภายใต้การกากับได้รับอนุญาต หรือ ขึ้นทะเบียนให้ประกอบธุรกิจอยู่ในวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นตาม ข้อ 4.2.3 (10.3) ของประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนช. 6/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ทั่วไป ในการกากับดูแลการประกอบธุรกิจบริการการชาระเงินภายใต้การกากับ ล งวันที่ 16 เมษายน 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ ธปท. ทราบภายใน 60 วันนับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ตามแบบที่ ธปท. กำหนดในคู่มือสำหรับประชาชน 6 . วันเริ่มต้นบังคับใช้ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 2 9 มิถุนายน พ.ศ. 256 6 เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย ้ หนา 44 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 163 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 กรกฎาคม 2566