ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565
ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565
ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสาหรับสาขาวิชา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรเพิ่มเติมปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 25 (3) และมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2551 และมติที่ประชุ มสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในคราวประชุม ครั้งที่ 11/2565 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 จึงออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา (ฉบับที่ 3) พ. ศ. 2565” ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น 4.5 ของข้อ 4 ของข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา พ.ศ. 2553 “4.5 ปริญญาศิลป ศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาที่ใช้ชื่อปริญญานี้มีลักษณะวิทยาการจาก ทั้งศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ” ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น 5.5 ของข้อ 5 ของข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วย ปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา พ.ศ. 2553 “ 5.5 ปริญญาศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ ( 1 ) ปริญญาตรี เรียกว่า “ ศิลปศาสตรและวิทยาศาสตรบัณฑิต ” ชื่อย่อ “ ศศ.วท.บ. ” ชื่อภาษาอังกฤษ เรียกว่า “ Bachelor of Arts and Science ” ชื่อย่อ “ B . A . S .” ( 2 ) ปริญญาโท เรียกว่า “ ศิลปศาสตรและวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต ” ชื่อย่อ “ ศศ.วท.ม. ” ชื่อภาษาอังกฤษ เรียกว่า “ Master of Arts and Science ” ชื่อย่อ “ M . A . S .” ( 3 ) ปริญญาเอก เรียกว่า “ ศิลปศาสตรและวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ชื่อย่อ “ ศศ.วท.ด. ” หรือ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ชื่อย่อ “ ปร.ด. ” ชื่อภาษาอังกฤษ เรียกว่า “ Doctor of Arts and Science ” ชื่อย่อ “ D . A . S .” หรือ “ Doctor of Philosophy ” ชื่อย่อ “ Ph . D .” ” ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 256 5 ศาสตรำจารย์เกียรติคุณอาวุธ ศรีศุกรี อุปนายกสภามหาวิทยาลัย ทำหน้าที่แทน นายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ้ หนา 63 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566