ระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ว่าด้วยการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท พ.ศ. 2561
ระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ว่าด้วยการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท พ.ศ. 2561
ระเบียบส ํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลําง ว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท พ.ศ. 25 61 โดยที่เป็นกํารสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบส ํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วย กํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท อําศัยอํานําจตํามควํามในข้อ 3 และข้อ 4 แห่งกฎกระทรวง จัดตั้งสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แต่งตั้งนํายทะเบียน และกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีกํารในกําร จดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัทจํากัด พ.ศ. 2549 ออกตํามควํามในประมวลกฎหมํายแพ่งแล ะพําณิชย์ นํายทะเบียนกลําง จึงออกระเบียบ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่ํา “ ระเบียบส ํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วย กํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท พ.ศ. 25 61” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวําคม 25 61 เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิก (1) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท พ.ศ. 25 54 (2) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 255 4 (3) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้น ส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 255 4 ( 4 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 255 5 ( 5 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 255 5 ( 6 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 255 6 ( 7 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วน บริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 255 7 ( 8 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 255 7 ( 9 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 255 7 ้ หนา 14 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
( 10 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 255 7 ( 11 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 255 8 ( 12 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 255 9 ( 13 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 25 59 ( 14 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 25 60 ( 15 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 15) พ.ศ. 25 60 ( 16 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้น ส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 25 61 ( 17 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 25 61 ( 18 ) ระเบียบสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลํางว่ําด้วยกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 25 61 บรรดําคําสั่ง ประกําศ และระเบียบอื่นใดในส่วนที่ได้กําหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่ง ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน หมวด 1 บททั่ วไป ส่วนที่ 1 หลักทั่วไป ข้อ 4 ค ําขอจดทะเบียนที่นํายทะเบียนจะรับจดทะเบียนให้ไม่ได้ (1) ผู้เริ่มก่อกําร กรรมกําร หุ้นส่วนผู้จัดกําร หรือผู้ช ําระบัญชีเป็นนิติบุคคล (2) ผู้เป็นหุ้นส่วน หุ้นส่วนผู้จัดกําร ผู้เริ่มก่อกําร กรรมกําร หรือผู้ชําระบัญชี มอบอํานําจ ให้ผู้อื่นเป็นผู้ลงลํายมือชื่อแทนในคําขอจดทะเบียนหรือเอกสํารประกอบ ข้อ 5 กํารแก้ไข ขีดฆ่ํา หรือตกเติมคําหรือข้อควํามในคําขอจดทะเบียน รํายกํารจด ทะเบียน และเอกสํารประกอบกํารจดทะเบียนใด ๆ ให้หุ้นส่วนผู้จัดกําร ผู้เริ่มก่อกําร กรรมกําร ้ หนา 15 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ผู้ชําระบัญชี ซึ่งเป็นผู้ขอจดทะเบียน หรือผู้รับมอบอํานําจจํากบุคคลดังกล่ําวโดยหนังสือมอบอํานําจ ได้ให้อ ํานําจไว้ เป็นผู้ลงลํายมือชื่อก ํากับกํารแก้ไข ขีดฆ่ํา หรือตกเติม กํารแก้ไข ขีดฆ่ํา หรือตกเติมคําหรือข้อควํามในหนังสือมอบอํานําจ จะต้องให้ผู้มอบอํานําจ ที่ลงลํายมือชื่อในค ําขอจดทะเบีย นลงลํายมือชื่อก ํากับกํารแก้ไข ขีดฆ่ํา หรือตกเติมนั้น ข้อ 6 กํารส่งคําขอจดทะเบียนและเอกสํารประกอบระหว่ํางสํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท ให้กระท ําโดยพนักงํานเจ้ําหน้ําที่หรือโดยส่งทํางไปรษณีย์ ข้อ 7 ค ําขอจดทะเบียนที่ไม่ได้ยื่นภํายในเวลําที่กฎหมํายก ําหนดเพรําะมีพฤติกํารณ์ ที่ จําเป็น อันมิได้เกิดจํากควํามผิดของผู้มีหน้ําที่ต้องจดทะเบียน ถ้ําผู้นั้นมีหนังสือขอขยํายเวลําโดยแจ้ง พฤติกํารณ์ที่จ ําเป็นต่อนํายทะเบียนภํายในสิบห้ําวันนับแต่วันที่พฤติกํารณ์เช่นว่ํานั้นสิ้นสุดลง นํายทะเบียนอําจขยํายเวลําให้อีกไม่เกินหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ขอขยํายเวลํา ในกร ณีที่นํายทะเบียนเห็นว่ําควรขยํายเวลําเกินกว่ําที่กําหนดตํามวรรคหนึ่ง ให้ส่งเรื่องให้ นํายทะเบียนกลํางพิจํารณําสั่งกําร ข้อ 8 กํารยื่นขอจดทะเบียนภํายหลังเวลําที่กฎหมํายก ําหนดให้ต้องจดทะเบียนตั้งแต่ หนึ่งปีขึ้นไป นํายทะเบียนจะรับจดทะเบียนได้เมื่อผู้ขอจดทะเบียนได้ทําหนังสือ ยืนยันว่ํามติของที่ประชุม ที่ยื่นขอจดทะเบียนนั้นยังไม่มีกํารเปลี่ยนแปลงแต่ประกํารใดด้วย ส่วนที่ 2 กํารพิจํารณําค ําขอจดทะเบียน ข้อ 9 เมื่อมีกํารยื่นคําขอจดทะเบียน ให้นํายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่มีหน้ําที่รับผิดชอบ ตํามที่ได้รับมอบหมํายสํามํารถตรวจพิจํารณําสั่งกํารรับจดทะเบียนหรือปฏิเสธกํารจดทะเบียนได้เองทั้งหมด ค ําขอจดทะเบียนมีปัญหําข้อเท็จจริง ปัญหําข้อกฎหมําย หรือมีกํารคัดค้ํานกํารขอจดทะเบียน นํายทะเบียนสํามํารถตรวจพิจํารณําสั่งกํารรับจดทะเบียนหรือปฏิเสธกํารจดทะเบียนได้เอง และ เมื่ อดําเนินกํารแล้วให้รํายงํานตํามแบบรํายงํานที่กําหนดแนบท้ํายระเบียบให้นํายทะเบียนกลํางหรือ ผู้ที่นํายทะเบียนกลํางมอบหมํายทรําบภํายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้พิจํารณําสั่งกําร คําขอจดทะเบียนใดที่นํายทะเบียนไม่อําจพิจํารณําสั่งกํารได้ ให้สรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมําย และทําควํามเห็นแสดงเ หตุผล เสนอตํามลําดับชั้นถึงนํายทะเบียนกลํางหรือผู้ที่นํายทะเบียนกลําง มอบหมํายเพื่อวินิจฉัยสั่งกําร ข้อ 10 ในกรณีคําขอจดทะเบียนใดมิได้ดําเนินกํารตํามที่กําหนดไว้ในระเบียบนี้ แต่นํายทะเบียน เห็นว่ําควรรับจดทะเบียนได้ ให้นํายทะเบียนดําเนินกํารตํามข้อ 9 วรรคสํามโดยอนุโลม ข้อ 11 ในกรณีมีเหตุผลสมควร กํารพิจํารณําคําขอจดทะเบียนนํายทะเบียนอําจตรวจสอบ ข้อเท็จจริงหรือให้จัดส่งเอกสํารหลักฐํานเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องผูกพันเฉพําะอยู่กับคําขอจดทะเบียนหรือ พยํานหลักฐํานที่ผู้ขอจดทะเบียนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องยื่นเป็นหลักฐํานเท่ํานั้น ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
กํารดําเนินกํารตํามวร รคหนึ่ง จะต้องได้รับอนุญําตเป็นลํายลักษณ์อักษรจํากผู้อํานวยกําร กลุ่มทะเบียนธุรกิจและอํานวยควํามสะดวกทํางกํารค้ําผู้อํานวยกํารส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลําง ผู้อํานวยกําร สํานักงํานพัฒนําธุรกิจกํารค้ําเขต แล้วแต่กรณี และให้ผู้อนุญําตรํายงํานตํามแบบรํายงํานที่กําหนด แนบท้ํายระเบียบให้นํายทะเบียนกลํางหรือผู้ที่นํายทะเบียนกลํางมอบหมํายทรําบภํายในเจ็ดวัน นับแต่วันอนุญําต ส่วนที่ 3 วิธีปฏิบัติของนํายทะเบียน ข้อ 12 คําขอที่รับจดทะเบียนแล้ว หํากปรํากฏในภํายหลังว่ํานํายทะเบียนได้จดทะเบียนไป โดยมีข้อเท็จจริงที่เป็นสําระสําคัญไม่ถูกต้อง จนเป็นเหตุให้อําจถูกเพิกถอนกํารจดทะเบียน ให้นํายทะเบียน ที่รับจด ทะเบียน สรุ ปข้ อเท็จจริ ง ข้ อกฎห มําย แ ละ ท ําคว ํามเห็น เสนอตํามล ําดับชั้น ถึงนํายทะเบียนกลํางหรือผู้ที่นํายทะเบียนกลํางมอบหมํายเพื่อขอควํามเห็นชอบก่อนดําเนินกําร กรณีผิดเล็กน้อยซึ่งไม่ใช่สําระส ําคัญ ให้นํายทะเบียนแก้ไขหรือเรียกให้ผู้ขอจดทะเบียน มําดําเนินกํารแก้ไข กํารดําเนินกํารตํามวรรคหนึ่งและวรรคสอง หํากนํายทะเบียนที่รับจดทะเบียนไม่ได้ปฏิบัติหน้ําที่ ในส ํานักงํานนั้นหรือไม่อําจปฏิบัติหน้ําที่ได้ ให้นํายทะเบียนที่เป็นหัวหน้ําส ํานักงํานเป็นผู้ด ําเนินกําร ข้อ 13 ในกํารพิจํารณําค ําขอจดทะเบียนบริษัทจ ํากัดที่อยู่ระหว่ํางกํารตรวจกํารงําน ให้นํายทะเบียนพิจํารณําคําขอจดทะเบียนต่อไปได้ และเมื่อรับจดทะเบียนแล้วให้แจ้งกองธรรมําภิบําลธุรกิจ ทรําบภํายในเจ็ดวันนับแต่วันรับจดทะเบียน ข้อ 14 เมื่อรับจดทะเบียนคําขอจดทะเบียนแล้ว ให้นํายทะเบี ยนหรือเจ้ําหน้ําที่ที่ได้รับ มอบหมํายปฏิบัติ ดังนี้ (1) บันทึกข้อมูลและภําพค ําขอจดทะเบียนและเอกสํารประกอบเข้ําระบบคอมพิวเตอร์ โดยทันที (2) ออกหนังสือรับรองกํารจดทะเบียนและรับรองส ําเนําเอกสํารจํากระบบคอมพิวเตอร์ ข้อ 15 กํารรับจดทะเบียนในกรุงเทพมหํานคร เมื่อด ําเนินกําร ตํามข้อ 14 แล้ว หํากแฟ้มทะเบียนสําหรับจัดเก็บคําขอมิได้อยู่ในควํามรับผิดชอบ ให้จัดส่งค ําขอและเอกสํารประกอบนั้น ไปยังหน่วยงํานที่เก็บรักษําแฟ้มทะเบียนภํายในวันท ํากํารถัดจํากวันที่รับจดทะเบียน ข้อ 16 เมื่อได้รับจดทะเบียนย้ํายสํานักงํานแห่งใหญ่ข้ํามเขตจังหวัด ให้ดําเนินกําร ดังนี้ (1) กรณีรับจดทะเบียนในกรุงเทพมหํานครให้สํานักงํานที่รับจดทะเบียนหรือหน่วยงํานที่เก็บ รักษําแฟ้มทะเบียนดําเนินกํารโอนแฟ้มทะเบียนโดยส่งต้นฉบับค ําขอและเอกสํารประกอบไปยังสํานักงําน ทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทย้ํายสํานักงํานแห่งใหญ่ไปตั้ งอยู่ให้เสร็จสิ้นภํายในสํามวันทํากําร นับแต่วันที่รับจดทะเบียนหรือวันที่ได้รับค ําขอและเอกสํารประกอบตํามข้อ 15 แล้วแต่กรณี ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(2) กรณีรับจดทะเบียนในจังหวัดอื่นนอกจํากกรุงเทพมหํานครให้ด ําเนินกํารโอนแฟ้มทะเบียน โดยส่งต้นฉบับค ําขอและเอกสํารประกอบไปยังส ํานักงํานทะเบียนหุ้นส่ว นบริษัทที่ห้ํางหุ้นส่วน หรือบริษัทย้ํายส ํานักงํานไปตั้งอยู่ให้เสร็จสิ้นภํายในสํามวันท ํากําร นับแต่วันที่รับจดทะเบียน ข้อ 17 ในกรณีห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทได้จดทะเบียนเลิกแล้ว ห้ํามมิให้นํายทะเบียนรับส ําเนํา บัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นหรือรับจดทะเบียนใด ๆ เว้นแต่จดทะเบียน แก้ไขเพิ่มเติมรํายกํารจดทะเบียนเลิก หรือจดทะเบียนเสร็จกํารช ําระบัญชี ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ถูกนํายทะเบียนขีดชื่อออกจํากทะเบียนแล้วไม่ว่ําก่อนหรือหลังระเบียบนี้ ใช้บังคับเป็นอันสิ้นสภําพนิติบุคคลลง ห้ํามมิให้นํายทะเบียนรับจดทะเบียนใด ๆ หรือรับสําเนําบัญชี รํายชื่อ ผู้ถือหุ้น ส่วนที่ 4 แบบพิมพ์และเอกสํารที่ใช้ในกํารจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท ข้อ 18 ค ําขอจดทะเบียน รํายกํารจดทะเบียน เอกสํารประกอบรํายกํารจดทะเบียน และเอกสํารประกอบค ําขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท ให้ท ําตํามแบบพิมพ์ที่นํายทะเบียนก ําหนด รูปแบบแนบท้ํายระเบียบ กํารยื่นค ําขอจดทะเบียนให้ยื่นค ําขอจดทะเบียนและเอกสํารประกอบจ ํานวนหนึ่งชุด ตํามประเภทกํารจดทะเบียนแนบท้ํายระเบียบนี้ รํายละเอียดวัตถุที่ประสงค์ที่จะจดทะเบียน ผู้ขอจดทะเบียนจะจัดพิมพ์ขึ้นโดยใช้แบบ ว. หรือใช้แบบ ว. 1 - แบบ ว. 5 แบบใดแบบหนึ่งที่กําหนดไว้แนบท้ํายระเบียบนี้ก็ได้ แต่จะเพิ่มเติม หรือแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงคําหรือข้อควํามในแบบ ว. 1 - แบบ ว. 5 ไม่ได้ หํากประสงค์จะกําหนด รํายละเอียดวัตถุที่ประสงค์เพิ่มเติม หรือแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงคําหรือข้อควําม ให้แตกต่ํางไปจํากที่ ก ําหนดไว้ในแบบ ว. 1 - แบบ ว. 5 ผู้ขอจดทะเบียนจะต้องจัดพิมพ์ขึ้นโดยใช้แบบ ว. ข้อ 19 กํารกรอกข้อควํามในแบบพิมพ์คําขอจดทะเบียนและเอกสํารที่ใช้ในกํารจดทะเบียน ให้พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ข้อ 20 เอกสํารประกอบคําขอจดทะเบียนที่ เป็นภําษําต่ํางประเทศ ให้จัดทําคําแปลเป็น ภําษําไทยและให้ผู้แปลรับรองควํามถูกต้องของคําแปลตํามกฎหมํายว่ําด้วยวิธีปฏิบัติรําชกํารทํางปกครอง ข้อ 21 ส ําเนําเอกสํารที่ยื่นต่อนํายทะเบียนต้องชัดเจนและต้องให้ผู้ขอจดทะเบียน อย่ํางน้อยหนึ่งคนลงลํายมือชื่อรับรองควํามถูกต้อง เว้นแต่สําเนํา บัตรประจําตัวหรือหลักฐํานกํารเป็นหุ้นส่วน ผู้เริ่มก่อกําร กรรมกําร หรือผู้รับรองลํายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน ให้ผู้เป็นเจ้ําของบัตรหรือหลักฐําน ดังกล่ําวหรือผู้ขอจดทะเบียนอย่ํางน้อยหนึ่งคนเป็นผู้ลงลํายมือชื่อรับรองควํามถูกต้อง ้ หนา 18 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ข้อ 22 ในกํารติดต่อรําชกํารเกี่ยวกับห้ํางหุ้ นส่วนหรือบริษัท ให้หุ้นส่วนผู้จัดกําร ผู้เริ่ม ก่อกําร กรรมกําร ผู้ชําระบัญชี ผู้รับมอบอํานําจ หรือผู้เกี่ยวข้องอื่นแสดงบัตรประจําตัวต่อนํายทะเบียน เพื่อตรวจสอบทุกครั้ง บัตรประจําตัว ให้หมํายถึง บัตรประจําตัวประชําชน บัตรประจําตัวข้ํารําชกําร บัตรประจําตัว พนักงํานองค์กํารของรัฐหรือรัฐวิสําหกิจ ใบส ําคัญประจ ําตัวคนต่ํางด้ําว หนังสือเดินทําง เอกสํารใช้แทน หนังสือเดินทําง หรือเอกสํารอื่นที่ใช้แทนเอกสํารดังกล่ําวได้ตํามกฎหมําย ทั้งนี้ หลักฐํานข้ํางต้น ต้องเป็นหลักฐํานที่ยังไม่หมดอํายุ สําหรับผู้เยําว์ซึ่งยังไม่ถึงเกณฑ์มีบัตรประ จําตัวประชําชน ให้แสดงบัตรประจําตัวนักเรียน ที่ยังไม่หมดอํายุและส ําเนําทะเบียนบ้ําน ข้อ 23 กํารติดต่อรําชกํารด้วยตนเองหรือท ําเป็นหนังสือเกี่ยวกับกํารจดทะเบียน กํารคัดค้ําน กํารจดทะเบียน กํารอุทธรณ์คําสั่งนํายทะเบียน กํารขอให้เพิกถอนกํารจดทะเบียน หรือกํารชี้แจง เพิ่มเติม ให้กระทําโดยผู้ขอจดทะเบียน ผู้เป็นหุ้นส่วน ผู้เริ่มก่อกําร กรรมกําร ผู้ถือหุ้น ผู้ชําระบัญชี หรือผู้มีอ ํานําจท ํากํารแทนนิติบุคคล หรือคู่กรณี ในกรณีบุคคลดังกล่ําวมอบอ ํานําจให้บุคคลอื่นเป็นผู้ติดต่อหรือเป็นผู้ลงชื่อในหนังสือ ให้ส่งหนังสือมอบอํานําจด้วย ส่วนที่ 5 กํารจองชื่อนิติบุคคล กํารขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ข้อ 24 กํารจองชื่อนิติบุคคลเพื่อขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ให้ผู้เป็นหุ้นส่วน ผู้เริ่มก่อกําร หรือกรรมกําร เป็นผู้ขอจองชื่อ สําหรับกรณีกํารยื่นคําขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนบริษัทพร้อมกัน ภํายในวันเดียวกันจะให้ผู้ถือหุ้นเป็นผู้ขอจองชื่อก็ได้ ข้อ 25 ในกํารจองชื่อนิติบุคคล ชื่อที่ขอจองต้องเป็นภํา ษํา ไทยและภําษําอังกฤษ ซึ่งต้องมี ควํามหมํายหรือมีเสียงเรียกขํานตรงกับชื่อภําษําไทย กรณีที่จะขอใช้ชื่อภําษําต่ํางประเทศอื่นนอกจํากที่กําหนดไว้ในวรรคแรก ให้ใช้แบบขอใช้ ชื่อนิติบุคคลเป็นภําษําต่ํางประเทศ ยื่นประกอบคําขอจดทะเบียนด้วย ข้อ 26 ชื่อนิติบุคคลที่จองได้แล้ว จะใช้จดทะเบียนนิติบุคคลใดก็ได้ แต่จะต้องใช้ยื่นขอจดทะเบียน ภํายในสํามสิบวันนับแต่วันที่จองชื่อได้ หํากวันครบกําหนดสํามสิบวันเป็นวันหยุดทํากําร ให้นับวันเริ่มทํากํารใหม่วันแรกเป็นวัน ครบก ําหนดสํามสิบวัน ข้อ 27 กํารขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีส ํานักงํานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขต กรุงเทพมหํานคร ให้ยื่นคําขอจดทะเบียนที่ส่วนจด ทะเบียนธุรกิจกลําง หรือสํานักงํานพัฒนําธุรกิจ ้ หนา 19 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
กํารค้ําเขตแห่งใดแห่งหนึ่ง ยกเว้นกํารขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีวัตถุที่ประสงค์ประกอบ กิจกํารหลักทรัพย์ คลังสินค้ํา ห้องเย็น ไซโล นํายหน้ําประกันภัย บริหํารสินทรัพย์ ให้ยื่นคําขอ จดทะเบียนที่ส่วนจดทะเบียนธุ รกิจกลําง กํารขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีสํานักงํานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดอื่น ให้ยื่น คําขอจดทะเบียนที่สํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดซึ่งห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นมีสํานักงํานแห่งใหญ่ ตั้งอยู่ ส่วนที่ 6 กํารจองชื่อนิติบุคคล กํารขอจดทะเบี ยนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัททํางอินเทอร์เน็ต ข้อ 28 ผู้ที่ขอจองชื่อนิติบุคคล ต้องกรอกแบบจองชื่อนิติบุคคลที่เว็บไซต์กรมพัฒนําธุรกิจกํารค้ํา เมื่อจองชื่อนิติบุคคลได้ ให้ผู้ขอจองชื่อสั่งพิมพ์ ( Print out ) ใบแจ้งผลกํารจองชื่อนิติบุคคล เพื่อใช้เป็นเอกสํารประกอบคําขอจดทะเบียน ข้อ 29 กํารขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัททํางอินเทอร์เน็ต ยกเว้นกํารขอจด ทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีวัตถุที่ประสงค์ประกอบกิจกํารหลักทรัพย์ คลังสินค้ํา ห้องเย็น ไซโล นํายหน้ําประกันภัย บริหํารสินทรัพย์ สํามํารถดํา เนินกํารได้ตํามขั้นตอนและวิธีกําร ดังต่อไปนี้ (1) ลงทะเบียนสมําชิกที่เว็บไซต์ www . dbd . go . th แล้วกรอกข้อมูลในคําขอและเอกสําร ประกอบทํางเว็บไซต์ ยกเว้นผู้ที่ลงทะเบียนสมําชิกขอจองและใช้ชื่อนิติบุคคลทํางอินเทอร์เน็ตแล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนสมําชิกใหม่ (2) เมื่อผู้ขอจ ดทะเบียนได้รับแจ้งผลกํารตรวจพิจํารณําจํากจดหมํายอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Mail ) หรือทรําบผลจํากเว็บไซต์แล้ว หํากปรํากฏผลว่ําถูกต้องให้สั่งพิมพ์ ( Print out ) คําขอจดทะเบียนและ เอกสํารประกอบจํากเว็บไซต์แล้วให้ผู้เกี่ยวข้องกับกํารจดทะเบียนทุกคนลงลํายมือชื่อให้ครบถ้วน (3) ติดต่อ ขอจดทะเบียนโดยยื่นคําขอจดทะเบียนและเอกสํารประกอบซึ่งดําเนินกํารตําม (2) แล้ว ที่ส ํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทหรือส่งทํางไปรษณีย์ ดังนี้ (3.1) กํารขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีส ํานักงํานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขต กรุงเทพมหํานคร ให้ยื่นหรือส่งคําขอจดทะเบียนที่ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลําง หรือสํานักงํานพัฒนําธุรกิจ กํารค้ําเขตแห่งใดแห่งหนึ่ง (3.2) กํารขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีส ํานักงํานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขต จังหวัดอื่น ให้ยื่นหรือส่งคําขอจดทะเบียนที่สํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดที่ห้ํางหุ้นส่วน หรือบริษัท มีส ํานักงํานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ (4) ผู้ขอจดทะเบียนทํางอินเทอร์เน็ตสํามํารถเลือกช ําระค่ําธรรมเนียม ดังนี้ (4.1) ค ําขอจดทะเบียนตําม (3.1) ให้เลือกช ําระค่ําธรรมเนียมโดยวิธี ้ หนา 20 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(ก) ช ําระโดยกํารโอนเงินผ่ํานระบบอินเทอร์เน็ต ( Internet Banking ) ทํางเว็บไซต์ของธนําคํารตํามที่กรมพัฒนําธุรกิจกํารค้ํากําหนด หรือ (ข) ช ําระเงินที่ธนําคํารตํามที่กรมพัฒนําธุรกิจกํารค้ํากําหนด หรือ (ค) ชําระเงินผ่ํานเครื่องเอทีเอ็ม ( ATM ) ของธนําคํารตํามที่กรมพัฒนําธุรกิ จ กํารค้ํากําหนด หรือ (ง) ชําระด้วยเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คขีดคร่อม สั่งจ่ํายในนํามกรมพัฒนําธุรกิจกํารค้ํา ณ ส ํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่ยื่นค ําขอจดทะเบียน (4.2) คําขอจดทะเบียนตําม (3.2) ให้ชําระค่ําธรรมเนียม ณ สํานักงํานทะเบียน หุ้นส่วนบริษัทจังหวัดโดย วิธีชําระด้วยเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คขีดคร่อมสั่งจ่ํายในนํามกระทรวงกํารคลัง (ผ่ํานสํานักงํานคลังจังหวัดที่จดทะเบียน) หรือโดยวิธีที่กําหนดใน (4.1) ตํามที่กรมพัฒนําธุรกิจกํารค้ํา ท ําควํามตกลงและก ําหนดในภํายหลัง ส่วนที่ 7 กํารขอหนังสือรับรองข้อควํามในทะเบียน หรือกํารขอตรวจ ขอส ําเนําหรือขอให้ถ่ํายเอกสํารพร้อมทั้งค ํารับรอง ข้อ 30 กํารขอหนังสือรับรองข้อควํามในทะเบียน หรือกํารขอตรวจ ขอสําเนําหรือขอให้ ถ่ํายเอกสํารพร้อมทั้งคํารับรองคําขอจดทะเบียนและเอกสํารประกอบที่นํายทะเบียนรับจดทะเบียนแล้ว หรือเอกสํารอื่นที่นํายทะเบียนเก็บรักษําไว้ ให้ผู้ขอยื่นคําขอตํามแบบที่อธิบดีกรมพัฒนําธุรกิจกํารค้ํา ก ําหนดและช ําระค่ําธรรมเนียมตํามที่กําหนดในกฎกระทรวง สํารบัญจํากแฟ้มทะเบียนจะให้บริกํารได้เฉพําะกํารขอตรวจเอกสําร ข้อ 31 หนังสือรับรองข้อควํามในทะเบียน ให้หมํายควํามรวมถึงหนังสือรับรองช่วงด้วย ทั้งนี้ แบบหนังสือรับร องทํางอิเล็กทรอนิกส์และเป็นภําษําอังกฤษให้เป็นไปตํามแบบแนบท้ํายระเบียบ หนังสือรับรองช่วง หมํายถึง หนังสือรับรองรํายกํารทํางทะเบียนรํายกํารใดรํายกํารหนึ่ง หรือหลํายรํายกํารในแต่ละช่วงเวลําที่รับจดทะเบียน ผู้ที่ประสงค์จะขอหนังสือรับรองช่วง ให้แจ้งช่วงเวลําที่จะขอไว้ในคําข อ หํากผู้ขอไม่ทรําบ ช่วงเวลําที่จะขอ ให้เป็นหน้ําที่ของเจ้ําหน้ําที่หรือนํายทะเบียนที่จะต้องให้บริกํารในกํารตรวจค้นเอกสําร กํารออกหนังสือรับรองช่วง รํายกํารใดรํายกํารหนึ่งหํากมีหลํายช่วงให้เรียกเก็บ ค่ําธรรมเนียม แต่ละรํายกํารช่วงละสี่สิบบําท กํารขอหนังสือรับรองช่วง ให้ยื่ นคําขอได้ที่ส ํานักงํานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัททั่วรําชอําณําจักร ข้อ 32 ในกํารขอสําเนําหรือขอให้ถ่ํายเอกสํารพร้อมทั้งคํารับรองให้ผู้ขอแจ้งไว้ในคําขอว่ํา จะขอส ําเนําหรือขอให้ถ่ํายเอกสํารฉบับใด หํากผู้ขอไม่ทรําบให้เป็นหน้ําที่ของเจ้ําหน้ําที่หรือนํายทะเบียน ที่จะต้องให้บริกํารในกํารตรวจค้นเอกสําร ้ หนา 21 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ห้ํามมิให้ออกสําเนําเอกสํารพร้อมทั้งคํารับรองสําเนําเอกสํารที่นํายทะเบียนเก็บรักษําไว้ เช่น สําเนําบัตรประจําตัวประชําชน สําเนําบัตรประจําตัวข้ํารําชกําร สําเนําบัตรประจ ําตัวพนักงํานองค์กําร ของรัฐหรือรัฐวิสําหกิจ สําเนําใบสําคัญประจําตัวคนต่ํางด้ ําว สําเนําหนังสือเดินทําง สําเนําเอกสําร ใช้แทนหนังสือเดินทํางสําเนําใบรับคําขอมีบัตรประจําตัวประชําชน สําเนําเอกสํารที่ใช้แทนบัตรประจําตัว ส ําเนําหลักฐํานแสดงกํารเป็นผู้รับรองลํายมือชื่อ ส ําเนําทะเบียนบ้ําน เว้นแต่ได้รับควํามยินยอม เป็นหนังสือจํากเจ้ําของข้อมูลหรือเป็นไปตําม หลักเกณฑ์ของพระรําชบัญญัติข้อมูลข่ําวสํารของรําชกําร พ.ศ. 2540 ข้อ 33 ห้ํามมิให้ตรวจหรือคัดสําเนําคําขอจดทะเบียนและเอกสํารประกอบซึ่งนํายทะเบียน ยังมิได้รับจดทะเบียน เว้นแต่จะมีคําสั่งศําลหรือได้รับอนุญําตจํากผู้อํานวยกํารกลุ่มทะเบียนธุรกิจและ อํานวยควํามสะดวกทํางกํารค้ํา ผู้ อํานวยกํารส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลําง ผู้อํานวยกํารสํานักงํานพัฒนํา ธุรกิจกํารค้ําเขต ผู้อ ํานวยกํารกองทะเบียนธุรกิจ หรือผู้อ ํานวยกํารกองข้อมูลธุรกิจ แล้วแต่กรณี บุคคลที่จะได้รับอนุญําตให้ตรวจหรือคัดส ําเนําเอกสํารตํามวรรคหนึ่งได้โดยไม่มีค ําสั่งศําลจะต้อง เป็นผู้ขอจดทะเบียน ผู้คั ดค้ํานกํารจดทะเบียน หรือผู้มีส่วนได้เสียจํากค ําสั่งของนํายทะเบียน หรือผู้ซึ่ง ได้เข้ํามําในกระบวนกํารพิจํารณําของนํายทะเบียนเนื่องจํากสิทธิของบุคคลนั้นจะถูกกระทบกระเทือน จํากค ําสั่งของนํายทะเบียน หรือผู้รับมอบอ ํานําจจํากบุคคลดังกล่ําวโดยส่งหนังสือมอบอ ํานําจที่มีกํารระบุ เอกส ํารที่จะตรวจและคัดส ําเนําให้ชัดเจน ควํามข้อนี้มิให้ใช้บังคับกับกํารขอตรวจเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องหรือช ําระค่ําธรรมเนียม ซึ่งกระท ําเป็นปกติในกํารขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท ข้อ 34 กํารรับรองสําเนําเอกสํารของห้ํางหุ้นส่วนและบริษัทที่สั่งพิมพ์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ให้นําย ทะเบียนลงลํายมือชื่อรับรองโดยมีข้อควําม ดังนี้ ้ หนา 22 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
กํารรับรองสําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้น งบกํารเงินของบริษัทที่สั่งพิมพ์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ให้นํายทะเบียนลงลํายมือชื่อรับรองโดยมีข้อควําม ดังนี้ กรณีข้ํางต้นไม่ใช้บังคับแก่กํารรับรองส ําเนํางบกํารเงินของห้ํางหุ้นส่วนสํามัญนิติบุคคล ห้ํางหุ้นส่วนจํากัด นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตํามกฎหมํายของต่ํางประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย หรือกิจกํารร่วมค้ําตํามประมวลรัษฎํากร ในกรณีไม่สํามํารถสั่งพิมพ์เอกสํารจํากระบบคอมพิวเตอร์ ใ ห้ประทับตรําซึ่งมีข้อควํามตํามวรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง ข้อ 35 เมื่อจดทะเบียนจัดตั้งหรือแก้ไขเพิ่มเติมชื่อของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ให้นํายทะเบียน ออกใบส ําคัญแสดงกํารจดทะเบียนให้และเรียกเก็บค่ําธรรมเนียมด้วยทุกครั้ง กํารขอใบสําคัญแสดงกํารจดทะเบียนหลังจํากจดทะเบียนแล้ว บุคคลที่จะขอใบสําคัญได้จะต้องเป็น ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ผู้เป็นหุ้นส่วน หุ้นส่วนผู้จัดกําร ผู้ถือหุ้น กรรมกําร หรือผู้รับมอบอํานําจจําก บุคคลดังกล่ําวโดยส่งหนังสือมอบอ ํานําจ โดยยื่นคําขอตํามแบบพิมพ์ที่นํายทะเบียนก ําหนด กํารขอใบสําคัญแสดงกํารจดทะเบียนของห้ํางหุ้นส่วน หรือบริษัท ให้ยื่นคําขอได้ที่สํานักงําน ทะเบียนหุ้นส่วนบริษัททั่วรําชอําณําจักร ข้อ 36 ให้เรียกเก็บค่ําธรรมเนียมกํารขอหนังสือรับรองข้อควํามในทะเบียน หรือกํารขอตรวจ ขอสําเนําหรือขอให้ถ่ํายเอกสํารพร้อมทั้งคํารับรองของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทซึ่งมีสํานักงํานแห่งใหญ่ ตั้งอยู่ นอกเขตจังหวัดในอัตรําเดียวกันกับห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัด ไม่ว่ําจะให้บริกําร โดยระบบคอมพิวเตอร์ ระบบโทรสําร หรือจดหมํายอิเล็กทรอนิกส์ ( e - Mail ) ส่วนที่ 8 กํารขอหนังสือรับรองข้อควํามในทะเบียน หรือกํารขอตรวจ ขอส ําเนําหรือขอให้ถ่ํายเอกสํารพร้อมทั้ งคํารับรองทํางอินเทอร์เน็ต ข้อ 37 กํารขอหนังสือรับรองข้อควํามในทะเบียน หรือกํารขอตรวจ ขอสําเนําหรือขอให้ ถ่ํายเอกสํารพร้อมทั้งคํารับรองคําขอจดทะเบียนและเอกสํารประกอบที่นํายทะเบียนรับจดทะเบียนแล้ว ้ หนา 23 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
หรือเอกสํารอื่นที่นํายทะเบียนเก็บรักษําไว้ สําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือ หุ้น หรืองบกํารเงินของห้ํางหุ้นส่วน หรือบริษัท สํามํารถยื่นค ําขอทํางอินเทอร์เน็ตได้โดยด ําเนินกํารตํามขั้นตอน ดังนี้ (1) เข้ําเว็บไซต์ www . dbd . go . th แล้วเลือกรํายกํารขอหนังสือรับรอง/คัดสําเนํา/ขอถ่ําย เอกสําร จํากหัวข้อ e - Service (2) แจ้งชื่อผู้ใช้ ( Username ) และรหัสผ่ําน ( Password ) เพื่อเข้ําสู่ระบบ หํากยังไม่มี ให้ลงทะเบียนสมัครสมําชิกใหม่ (3) เลือกใช้บริกํารตํามขั้นตอนข้อแนะน ํากํารใช้บริกํารในระบบ (4) เลือกช ําระค่ําธรรมเนียมและค่ําบริกํารตํามที่กําหนดไว้ในระบบ เมื่อมีกํารขอตํามวรรคหนึ่ง ให้นํายทะเบียนสั่งพิมพ์ ( Print out ) ค ําขอจํากระบบคอมพิวเตอร์ และให้ถือว่ําคําขอที่สั่งพิมพ์นั้นเป็นคําขอหนังสือรับรอง ขอตรวจ ขอสําเนําหรือขอให้ถ่ํายเอกสําร พร้อมทั้งค ํารับรอง แล้วแต่กรณี ส่วนที่ 9 ชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ข้อ 38 ชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทจะต้องไม่มีคําหรือข้อควํามใด ๆ ดังต่อไปนี้ (1) พระนํามของพระเจ้ําแผ่นดิน พระมเหสี รัชทํายําท หรือพระบรมวงศํานุวงศ์ในพระรําชวงศ์ ปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับพระบรมรําชํานุญําต (2) ชื่อกระทรวง ทบวง กรม ส่วนรําชกําร รําชกํารส่วนท้องถิ่น หน่วยงํานหรือองค์กํารของรัฐ เว้นแต่จะได้รับอนุญําตจํากรัฐมนตรีเจ้ํา กระทรวงที่เกี่ยวข้อง (3) ชื่อประเทศ กรณีใช้ชื่อประเทศเป็นส่วนหนึ่งของชื่อให้ระบุไว้ในวงเล็บท้ํายชื่อ (4) ชื่อที่อําจก่อให้เกิดสําคัญผิดว่ํารัฐบําล กระทรวง ทบวง กรม ส่วนรําชกําร รําชกําร ส่วนท้องถิ่น หน่วยงํานหรือองค์กํารของรัฐทั้งของประเทศไทยหรือต่ํางประเทศ หรื อองค์กํารระหว่ํางประเทศ เป็นเจ้ําของ หรือผู้ดําเนินกําร (5) ชื่อซึ่งมีคําว่ํา “ บริษัทมหําชนจํากัด ” “ บริษัทจํากัด (มหําชน) ” “ บมจ ” “ สมําคมกํารค้ํา ” หรือ “ หอกํารค้ํา ” หรือชื่อที่คล้ํายกันหรือเรียกขํานคล้ํายกับคําเช่นว่ํานั้น (6) ชื่อภําษําไทยหรือภําษําต่ํางประเทศ ซึ่งมีควํามหมํายหรือท ําให้เข้ําใจได้ว่ําประกอบ ธุรกิจธนําคํารพําณิชย์ ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ธุรกิจข้อมูลเครดิต ธุรกิจขํายตรง ธุรกิจตลําดแบบตรง กิจกํารประกันภัย และกิจกํารจัดหํางําน หรือชื่อที่มีคํา ใดคําหนึ่ง ที่กําหนดไว้ท้ํายระเบียบนี้ และที่จะกําหนดขึ้นในภํายหลังประกอบชื่อ เว้นแต่จะได้แสดงหลักฐําน ควํามเห็นชอบให้ประกอบธุรกิจดังกล่ําวได้จํากส่วนรําชกํารที่เกี่ยวข้อง ้ หนา 24 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
คําว่ํา “ โรงเรียน ” “ สถําบัน ” “ วิทยําลัย ” “ มหําวิทยําลัย ” หรือคําในภําษําต่ํางประเทศ ที่มีควํามหมํายอย่ํางเดียวกัน เว้นแต่จะได้แสดงหลักฐํานควํามเห็นชอบให้ประกอบธุรกิจดังกล่ําวได้ จํากส่วนรําชกํารที่เกี่ยวข้อง (7) ชื่อที่เป็นกํารสลับชื่อระหว่ํางห้ํางหุ้นส่วนกับห้ํางหุ้นส่วน ห้ํางหุ้นส่วนกับบริษัท หรือ บริษัทกับบริษัท (8) ชื่อที่เหมือน หรือมีเสียงเ รียกขํานตรงกันกับชื่อห้ํางหุ้นส่วน หรือชื่อในหนังสือบริคณห์สนธิ หรือชื่อบริษัทที่ได้ยื่นขอจดทะเบียน หรือนํายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้ก่อนแล้ว ซึ่งอําจทําให้ เกิดควํามหลงผิดได้ เว้นแต่ (8.1) ชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อแล้ว หรือ ( 8.2) ชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ได้จดทะเบียนเสร็จกํารช ําระบัญชีแล้ว หรือ (8.3) ชื่อในหนังสือบริคณห์สนธิซึ่งนํายทะเบียนรับจดทะเบียนแล้วและปรํากฏข้อควําม ว่ําผู้เริ่มก่อกํารทุกคนตกลงให้หนังสือบริคณห์สนธิฉบับนั้นสิ้นผล และไม่มีกํารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ภํายในสิบปี นับแต่วันที่จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ (9) ชื่อที่เหมือน หรือมีเสียงเรียกขํานตรงกับชื่อห้ํางหุ้นส่วน หรือบริษัทจํากัดที่นํายทะเบียน ขีดชื่อออกจํากทะเบียนแล้ว เว้นแต่จะพ้นเวลําสิบปีนับแต่วันที่นํายทะเบียนขีดชื่อ (10) ชื่อซึ่งมีเครื่องหมําย สัญลักษณ์ หรือ ตัวเลขโรมัน (11) ชื่อ ค ํา หรือข้อควํามที่ไม่สํามํารถใช้เป็นชื่อห้ํางหุ้นส่วนและบริษัทแนบท้ํายระเบียบนี้ (12) ชื่อที่ขัดต่อแนวนโยบํายแห่งรัฐ หรือขัดต่อควํามสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี ของประชําชน (13) ชื่อที่ใช้ภําษําต่ํางประเทศมีควํามหมําย หรือเสียงเรียกขํานไม่ตรงกับชื่อภําษําไทย ( 14 ) ชื่อที่ใช้ค ํา หรือตัวอักษรไม่ถูกหลักภําษําไทย ผู้ขอจองชื่อต้องตรวจสอบชื่อที่ขอจองในระบบกํารจองชื่อ ตํามหลักเกณฑ์ในข้อ 38 (1) - (11) ก่อนจองชื่อ ยกเว้นกรณีตํามข้อ 38 (12) - (1 4) ให้นํายทะเบียนเป็นผู้ตรวจพิจํารณํา กรณีห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทใช้ชื่อซึ่งพ้องกับชื่อในหนังสือบริคณห์สนธิฉบับอื่นซึ่งได้จดทะเบียน ไว้แล้ว หรือพ้องกับชื่อห้ํางหุ้นส่วน หรือบริษัทอื่นซึ่งได้จดทะเบียนไว้แล้ว หรือคล้ํายคลึงกับชื่อเช่นว่ํานั้น จนอําจทําให้เกิดควํามหลงผิดได้ จะต้องรับผิดชอบในกํารใช้ชื่อ ดังกล่ําว ตํามประมวลกฎหมํายแพ่ง และพําณิชย์มําตรํา 18 มําตรํา 67 และมําตรํา 1115 ข้อ 39 ชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัททั้งภําษําไทยและภําษําต่ํางประเทศจะต้องมีค ําแสดง ประเภทนิติบุคคลตํามประกําศที่ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติกําหนดควํามผิดเกี่ยวกับห้ํางหุ้นส่วน จดทะเบียน ห้ํางหุ้ นส่วนจ ํากัด บริษัทจ ํากัด สมําคมและมูลนิธิ พ.ศ. 2499 ้ หนา 25 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ส่วนที่ 10 ตรําของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ข้อ 40 ตรําของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทต้องไม่มีลักษณะอย่ํางใดอย่ํางหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) เครื่องหมํายตรํามหําจักรีบรมรําชวงศ์ (2) พระบรมรําชําภิไธย พระปรมําภิไธยย่อของพระมหํากษัตริย์ทุกรัชกําล และพระนํามําภิไธยย่อ ของสมเด็จพระอัครมเหสีหรือสมเด็จพระยุพรําช (3) พระบรมรําชสัญลักษณ์ และพระรําชสัญลักษณ์ของพระมหํากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี และสมเด็จพระยุพรําช (4) พระมหํามงกุฎ มงกุฎขัตติยรําชนํารี หรือเครื่อง รําชอิสริยําภรณ์อื่นใดที่ใกล้เคียงกับมงกุฎ (5) ฉัตรต่ําง ๆ อันเป็นลักษณะของเครื่องประกอบพระบรมรําชอิสริยยศ (6) ตรําแผ่นดิน ตรํารําชกําร ตรําครุฑพ่ําห์ ธงหลวง ธงชําติ หรือธงรําชกําร เว้นแต่ จะได้รับพระรําชทํานพระบรมรําชํานุญําต (7) พระรําชลัญจกร และลัญจกรในรําชกําร (8) เครื่องหมํายกําชําด ชื่อกําชําด กําเจนีวํา เครื่ องหมํายรําชกํารหรือเครื่องหมํายใด ๆ ที่ขัดต่อรัฐประศําสโนบํายหรือศีลธรรมอันดีของประชําชน (9) เครื่องหมํายที่รําชกําร องค์กําร หน่วยงํานของรัฐ หรือองค์กํารระหว่ํางประเทศ ขอสงวนไว้ (10) สัญลักษณ์ประจ ําชําติไทย ได้แก่ ช้ํางไทย ดอกรําชพฤกษ์ และศําลําไทย ข้อ 41 ตรําจะมีชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือไม่ก็ได้ หํากตรํามีชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทชื่อ ในตรํานั้นต้องชัดเจนและตรงกับชื่อที่ขอจดทะเบียนหรือตรงกับชื่อภําษําต่ํางประเทศที่ขอใช้ และต้อง มี ค ําแสดงประเภทของนิติบุคคลด้วย ในกรณีนํายทะเบียนรับจดทะเบียนตรําของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีลักษณะเป็นตรําดุน หรือตรํานูน ให้นํายทะเบียนใช้ดินสอดําระบํายตรําดุนหรือตรํานูนให้ปรํากฏเป็นรูปรอยและหมํายเหตุข้ํางรูป รอยตรํานั้นว่ํา “ ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทนี้จดทะเบียนตรําเป็ นตรําดุนหรือตรํานูน ” ก่อนบันทึกเข้ําระบบ คอมพิวเตอร์ ข้อ 42 กํารจดทะเบียนตรํามํากกว่ําหนึ่งดวง จะต้องจดทะเบียนไว้ในรํายกํารอย่ํางอื่น ซึ่งเห็นสมควรจะให้ประชําชนทรําบเพื่อระบุให้ชัดเจนว่ําตรําดวงใดใช้ในกรณีใดด้วย ข้อ 43 บริษัทจํากัดจะขอจดทะเบียนตรําหรือไม่ก็ได้ เว้นแต่อํา นําจกรรมกํารกําหนดให้ ประทับตรําก็ต้องจดทะเบียนตรําด้วย ้ หนา 26 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ส่วนที่ 11 วัตถุที่ประสงค์ของห้ํางหุ้นส่วนและบริษัท ข้อ 44 วัตถุที่ประสงค์ของห้ํางหุ้นส่วนและบริษัทจะต้องไม่มีลักษณะ ดังต่อไปนี้ (1) ขัดต่อกฎหมําย ควํามสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชําชน หรือขัดต่อ รัฐประศําสโนบําย (2) ใช้ค ําหรือข้อควํามที่มีควํามหมํายไม่ชัดเจน หรือไม่ก ําหนดขอบเขตให้ชัดเจนแน่นอน (3) ธุรกิจธนําคําร ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ( 4 ) กิจกํารแชร์ ( 5 ) ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจหลักทรัพย์ กิจกํารข้อมูลเครดิต บริหํารสินทรัพย์ เว้น แต่ จะได้รับอนุญําตให้ประกอบธุรกิจดังกล่ําวจํากหน่วยงํานที่เกี่ยวข้อง ( 6 ) กิจกํารจัดหํางําน เว้นแต่จะได้รับอนุญําตให้ประกอบกิจกํารดังกล่ําวจํากกรมกํารจัดหํางําน ( 7 ) กิจกํารนํายหน้ํา ตัวแทน และตัวแทนค้ําต่ํางในธุรกิจต่ําง ๆ เว้นแต่จะได้ระบุว่ํา ยกเว้น กิจกํารประกันภัย กํารหําสมําชิกให้สมําคม และกํารค้ําหลักทรัพย์ ( 8 ) กิจกํารเกี่ยวกับกํารรับจํานองทรัพย์สิน เว้นแต่จะระบุไว้โดยชัดแจ้งว่ํา “ โดยมิได้รับ ฝํากเงินหรือรับเงินจํากประชําชนและใช้ประโยชน์จํากเงินนั้น ” ( 9 ) กิจกํารนํายหน้ําประกันภัย เว้นแต่จะได้รับควํามเห็นชอบจํากสํานักงํานคณะกรร มกําร ก ํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย (1 0 ) กิจกํารซื้อขํายสินค้ําล่วงหน้ํา (คอมโมดิตี้) เว้นแต่จะได้รับอนุญําตให้ประกอบธุรกิจ ดั งกล่ําวจํากหน่วยงํานที่เกี่ยวข้อง ( 11 ) กิจกํารซื้อขํายแลกเปลี่ยนเงินตรําต่ํางประเทศ กํารศึกษํา โรงเรียน สถําบันกํารศึกษํา เว้นแต่จะ ได้ระบุข้อควํามว่ํา “ เมื่อได้รับอนุญําตจํากหน่วยงํานที่เกี่ยวข้องแล้ว ” ( 12 ) ธุรกิจขํายตรง หรือธุรกิจตลําดแบบตรง เว้นแต่จะได้รับกํารจดทะเบียนให้ประกอบธุรกิจ ดังกล่ําวจํากส ํานักงํานคณะกรรมกํารคุ้มครองผู้บริโภค ( 13 ) กิจกํารคลังสินค้ํา กิจกํารไซโล หรือกิจกํารห้องเย็น เว้ นแต่จะได้ระบุข้อควํามว่ํา “ ทั้งนี้ จะประกอบกิจกํารได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญําตจํากกรมกํารค้ําภํายในแล้ว ” ส่วนที่ 12 กํารลงทุนด้วยแรงงําน ข้อ 45 หุ้นส่วนจ ําพวกจ ํากัดควํามรับผิดในห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัดจะลงทุนด้วยแรงงํานไม่ได้ ข้อ 46 แรงงํานที่จะน ํามําตีรําคําเป็นทุนจดทะเบียนในห้ํางหุ้นส่วนจะเป็นแรงงํานที่ได้ กระท ําไปแล้วหรือกระท ําภํายหลังกํารจดทะเบียนเป็นห้ํางหุ้นส่วนก็ได้ ้ หนา 27 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
แรงงํานที่จะนํามําตีรําคําเป็นค่ําหุ้นในบริษัทต้องเป็นแรงงํานที่ได้กระท ําไปแล้ว ส่วนที่ 13 กํารลงลํายมือชื่อในค ําขอจดทะเบียนและเอกสํา รประกอบ ข้อ 47 กํารลงลํายมือชื่อในค ําขอจดทะเบียนและเอกสํารประกอบ ผู้เป็นหุ้นส่วน ผู้เริ่มก่อกําร กรรมกําร หรือผู้ช ําระบัญชี ต้องลงลํายมือชื่อด้วยตนเอง ข้อ 48 กํารลงลํายมือชื่อในคําขอจดทะเบียน กระท ําได้ตํามวิธี ดังนี้ (1) กํารลงลํายมือชื่อในคําขอจดทะเบียนในรําช อําณําจักร กระท ําได้โดย (1.1) ลงลํายมือชื่อต่อหน้ํานํายทะเบียน หรือ (1.2) ลงลํายมือชื่อต่อหน้ําพนักงํานฝ่ํายปกครอง ต ํารวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งประจ ําอยู่ใน ท้องที่ที่ผู้ขอจดทะเบียนมีภูมิลําเนําอยู่ สํามัญสมําชิกหรือสมําชิกวิสํามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภํา ผู้สอบบัญชี รับอนุญําตตํามกฎหมํายว่ําด้วยวิชําชีพบัญชี หรือบุคคลอื่นตํามที่นํายทะเบียนกลํางประกําศกําหนด กํารลงลํายมือชื่อต่อหน้ํานํายทะเบียน ผู้ลงลํายมือชื่อต้องแสดงบัตรประจําตัวต่อนํายทะเบียน เพื่อตรวจสอบ และให้นํายทะเบียนบันทึกข้อควําม “ ได้เห็นต้นฉบับแล้ว ” ในสําเนําบัตรประจ ําตัวแล้ ว ลงลํายมือชื่อกํากับไว้เป็นหลักฐําน (2) กํารลงลํายมือชื่อในค ําขอจดทะเบียนในต่ํางประเทศ ผู้ขอจดทะเบียนจะต้องลงลํายมือชื่อ ต่อหน้ําบุคคล ดังต่อไปนี้ (2.1) เจ้ําหน้ําที่ผู้มีอํานําจของสถํานทูตไทยหรือสถํานกงสุลไทย หรือหัวหน้ําสํานักงําน สังกัดกระทรวงพําณิชย์ซึ่งรับผิดชอบกํารดําเนินงําน ณ ประเทศนั้น หรือเจ้ําหน้ําที่ผู้ได้รับมอบหมําย ให้ท ํากํารแทนบุคคลดังกล่ําว หรือ (2.2) บุคคลซึ่งสํามํารถให้กํารรับรองที่สมบูรณ์ตํามแบบของกฎหมํายแห่งประเทศนั้น (2.3) บุคคลที่ควรเชื่อถือได้สองคนมําลงลํายมือชื่อรับรองต่อ หน้ํานํายทะเบียนว่ําเป็น ลํายมือชื่อผู้นั้นจริง กํารลงลํายมือชื่อตํามวิธีข้ํางต้น ให้ถือว่ําลํายมือชื่อนั้นเป็นลํายมือชื่อที่ถูกต้องและนํายทะเบียน ไม่ต้องตรวจสอบลํายมือชื่อนั้นอีก ส่วนที่ 14 กํารรับจดทะเบียนผู้เยําว์เข้ําเป็นหุ้นส่วน ผู้เริ่มก่อกําร กรรมกําร หรือผู้ช ํา ระบัญชี ของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ข้อ 49 นํายทะเบียนจะรับจดทะเบียนผู้เยําว์เข้ําเป็นหุ้นส่วน ผู้เริ่มก่อกําร กรรมกําร หรือ ผู้ช ําระบัญชีของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทได้ เมื่อปรํากฏว่ํา (1) ผู้เยําว์มีอํายุไม่น้อยกว่ําสิบสองปี ้ หนา 28 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(2) ผู้เยําว์ได้ลงลํายมือชื่อในคําขอจดทะเบียน หรือเอกสํารประกอบด้วยตนเอง ในกรณีผู้เยําว์เข้ําเป็นหุ้นส่วนในห้ํางหุ้นส่วนโดยกํารรับมรดก ให้นํายทะเบียนรับจดทะเบียน เมื่อปรํากฏว่ํา (1) ผู้เยําว์ได้ลงลํายมือชื่อในคําขอจดทะเบียน หรือเอกสํารประกอบด้วยตนเอง หรือ (2) ผู้เยําว์ที่มีอํายุต่ํากว่ําสิบสองปีโดยมีผู้แทนโดยชอบธรรมลงลํายมือชื่อแทนในคําขอจดทะเบียน หรือเอกสํารประกอบ ส่วนที่ 15 กํารนับระยะเวลําตํามกฎหมําย ข้อ 50 กํารนับระยะเวลําส่งคําบอกกล่ําวเรียกประชุมตั้งบริษัทตํามมําตรํา 1107 ให้เริ่มนับ ตั้งแต่วันถัดจํากวันที่ส่งคําบอกกล่ําวเป็นวันแรกแห่งระยะเวลํา และกํารประชุมจะมีขึ้นได้ในวันถัดจําก วันสิ้นสุดแห่งก ําหนดระยะเวลํานั้น กํารนับระยะเวลําส่งค ําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นตํามมําตรํา 1175 ให้เริ่มนับตั้งแต่ วันถัดจํากวันที่ลงพิมพ์โฆษณําในหนังสือพิมพ์ หรือวันที่ส่งคําบอกกล่ําวทํางไปรษณีย์ตอบรับซึ่งเป็นวันที่ ด ําเนินกํารหลังสุดเป็นวันแรกแห่งระยะเวลํา และกํารประชุมจะมีขึ้นได้ในวันถัดจํากวันสิ้นสุด แห่งก ําหนดระยะเวลํานั้น วันที่ส่งคําบอกกล่ําวตํามควํามในวรรคหนึ่งและวรรคสองให้ถือเอําวันที่ลงในคําบอกกล่ําว เว้นแต่จะมีหลั กฐํานปรํากฏแก่นํายทะเบียนเป็นอย่ํางอื่น ข้อ 51 กํารนับระยะเวลํายื่นคําขอจดทะเบียนดังต่อไปนี้ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันถัดจํากวันที่ ที่ประชุมได้มีกํารลงมติหรือมติพิเศษ หรือวันถัดจํากวันที่ได้มีกํารเปลี่ยนแปลงเป็นวันแรกแห่งระยะเวลํา และให้ยื่นคําขอจดทะเบียนภํายในวันสุ ดท้ํายแห่งกําหนดระยะเวลํานั้น (1) ค ําขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนผู้จัดกํารของห้ํางหุ้นส่วนสํามัญนิติบุคคลหรือ ห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัด ตํามมําตรํา 1064/2 หรือมําตรํา 1078/2 (2) ค ําขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ตํามมําตรํา 1112 (3) ค ําขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ของบริษัท ตํามมําตรํา 1146 (4) ค ําขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมกํารของบริษัท ตํามมําตรํา 1157 (5) ค ําขอจดทะเบียนมติพิเศษให้เพิ่มทุน ลดทุน หรือควบบริษัท ตํามมําตรํา 1228 หรือมําตรํา 1239 (6) ค ําขอจดทะเบียนควบบริษัท ตํามมําตรํา 1241 (7) ค ําขอจดทะเบียนเลิกห้ําง หุ้นส่วนและบริษัท ตํามมําตรํา 1254 (8) ค ําขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมผู้ช ําระบัญชีและอ ํานําจของผู้ช ําระบัญชีห้ํางหุ้นส่วน หรือบริษัท ตํามมําตรํา 1258 หรือมําตรํา 1262 ้ หนา 29 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(9) ค ําขอจดทะเบียนเสร็จกํารช ําระบัญชีห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ตํามมําตรํา 1270 ข้อ 52 กํารนับระยะเวลํายื่นค ําขอจดทะเบียนแปรสภําพห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัดเป็นบริษัท ตํามมําตรํา 1246/4 ให้เริ่มนับตั้งแต่วันถัดจํากวันที่ดําเนินกํารตํามมําตรํา 1246/3 ครบถ้วนแล้ว เป็นวันแรกแห่งระยะเวลํา และให้ยื่นคําขอจดทะเบียนภํายในวันสุดท้ํายแห่งกําหนดระยะเวลํานั้น ข้อ 53 รํายงํานกํารชําระบัญชีของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทตํามมําตรํา 1267 ฉบับแรก ให้เริ่มนับตั้งแต่วันถัดจํากวันที่เลิกกันเป็นวันแรกแห่งระยะเวลําของรํายงําน และรํายงํานกํารชําระ บัญชีฉบับต่อไปให้เริ่มนับตั้งแต่วันถัดจํากวันสุดท้ํายตํามที่ปรํากฏในรํายงํานกํารชําระบัญชีฉบับก่อน เป็นวันแ รกแห่งระยะเวลําของรํายงํานฉบับหลัง ข้อ 54 กํารส่งส ําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นตํามมําตรํา 1139 ให้เริ่มนับตั้งแต่วันถัดจํากวันที่ มีกํารประชุมเป็นวันแรกแห่งระยะเวลํา และให้ส่งภํายในวันสุดท้ํายแห่งกําหนดระยะเวลํานั้น ข้อ 55 กํารส่งสําเนํางบดุลของบริษัทตํามมําตรํา 1199 ให้ เริ่มนับตั้งแต่วันถัดจํากวันที่ ที่ประชุมลงมติอนุมัติงบดุลนั้นเป็นวันแรกแห่งระยะเวลําและให้ส่งภํายในวันสุดท้ํายแห่งก ําหนด ระยะเวลํานั้น ข้อ 56 หํากวันสุดท้ํายแห่งระยะเวลําเป็นวันหยุดทํากําร ให้นับวันทํากํารถัดจํากวันหยุด เป็นวันสุดท้ํายแห่งระยะเวลํานั้น ข้อ 57 กํารนั บระยะเวลําคัดค้ํานกํารลดทุน ควบบริษัท และแปรสภําพห้ํางหุ้นส่วน จดทะเบียนและห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัดเป็นบริษัทจ ํากัด ตํามมําตรํา 1226 มําตรํา 1240 หรือ มําตรํา 1246/1 (2) ให้เริ่มนับตั้งแต่วันถัดจํากวันที่ลงพิมพ์โฆษณําในหนังสือพิมพ์หรือวันที่ส่งคําบอกกล่ําว ไปยังบรรดําผู้ซึ่งบริษัทหรือห้ํางหุ้นส่วนรู้ว่ําเป็นเจ้ําหนี้ซึ่งเป็นวันที่ด ําเนินกํารหลังสุดเป็นวันแรก แห่งระยะเวลําคัดค้ําน กํารนับระยะเวลําคัดค้ํานกํารควบห้ํางหุ้นส่วนตํามมําตรํา 1074 ให้เริ่มนับตั้งแต่วันถัดจําก วันที่ลงพิมพ์โฆษณําในหนังสือพิมพ์ครั้งสุดท้ํายหรือวันที่ ส่งค ําบอกกล่ําวไปยังบรรดําผู้ซึ่งห้ํางหุ้นส่วนรู้ว่ํา เป็นเจ้ําหนี้ซึ่งเป็นวันที่ดําเนินกํารหลังสุดเป็นวันแรกแห่งระยะเวลําคัดค้ําน หมวด 2 ห้ํางหุ้นส่วน ส่วนที่ 1 กํารจดทะเบียนจัดตั้งห้ํางหุ้นส่วน ข้อ 58 ห้ํางหุ้นส่วนสํามัญนิติบุคคล ห้ํางหุ้นส่วนจํากัด บริษัทจํากัด จะเป็นหุ้นส่วนจําพวก จ ํากัดควํามรับผิดหรือจ ําพวกไม่จ ํากัดควํามรับผิดในห้ํางหุ้นส่วนก็ได้ ้ หนา 30 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ห้ํามมิให้บริษัทมหําชนจํากัดเป็นหุ้นส่วนในห้ํางหุ้นส่วนสํามัญหรือเป็นหุ้นส่วนจําพวกไม่จํากัด ควํามรับผิดในห้ํางหุ้นส่วนจ ํากัด ส่วนที่ 2 กํารจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมห้ํางหุ้นส่ วน ข้อ 59 ให้น ําควํามในข้อ 58 มําใช้บังคับแก่กํารจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมห้ํางหุ้นส่วน โดยอนุโลม ข้อ 60 คําขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมห้ํางหุ้นส่วน ต้องลงลํายมือชื่อโดยหุ้นส่วนผู้จัดกําร ตํามที่จดทะเบียนไว้เดิม คําขอจดทะเบียนตํามวรรคหนึ่ง ถ้ํามีหนังสือคัดค้ํานกํารขอจดทะเบียนของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้มีส่วนได้เสีย หรือผู้รับมอบอํานําจจํากบุคคลดังกล่ําวโดยส่งหนังสือมอบอํานําจ และคําคัดค้ํานนั้น เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ขอจดทะเบียน ให้นํายทะเบียนเรียกสัญญําหุ้นส่วนแก้ไขเพิ่มเติ มซึ่งลงลํายมือชื่อ โดยผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนเป็นเอกสํารประกอบค ําขอจดทะเบียนด้วย ข้อ 61 ในกรณีที่หุ้นส่วนผู้จัดกํารตํามที่จดทะเบียนไว้เดิมมิได้ลงลํายมือชื่อในค ําขอ จดทะเบียนเนื่องจํากออกจํากกํารเป็นหุ้นส่วนผู้จัดกําร ให้หุ้นส่วนผู้จัดกํารซึ่งได้รับกํารแต่งตั้งใหม่ เป็น ผู้ลงลํายมือชื่อในค ําขอจดทะเบียน ทั้งนี้ จะต้องส่งสัญญําหุ้นส่วนแก้ไขเพิ่มเติมซึ่งลงลํายมือชื่อ โดยผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนเป็นเอกสํารประกอบค ําขอจดทะเบียน ข้อ 62 ในกรณีที่หุ้นส่วนผู้จัดกํารตํามที่จดทะเบียนไว้เดิมมิได้ลงลํายมือชื่อในค ําขอ จดทะเบียนเนื่องจํากถึงแก่กรรม ให้หุ้นส่วนผู้จัดกํารซึ่งได้รับกํารแต่งตั้งใหม่เป็นผู้ลงลํายมือชื่อในคําขอ จดทะเบียน ทั้งนี้ จะต้องส่งสัญญําหุ้นส่วนแก้ไขเพิ่มเติมซึ่งผู้จัดกํารมรดกในฐํานะเป็นผู้แทนทํายําทของผู้เป็น หุ้นส่วนที่ถึงแก่กรรม และผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนลงลํายมือชื่อครบถ้วนเป็นเอกสํารประ กอบคําขอจดทะเบียน และให้ส่งส ําเนําหลักฐํานกํารเป็นผู้จัดกํารมรดกด้วย ส่วนที่ 3 กํารจดทะเบียนแปรสภําพห้ํางหุ้นส่วนเป็นบริษัทจ ํากัด ข้อ 63 ห้ํามมิให้นํายทะเบียนรับจดทะเบียนแปรสภําพห้ํางหุ้นส่วนเป็นบริษัทจ ํากัด หํากปรํากฏว่ําห้ํางหุ้นส่วนไม่ได้แจ้งควํามยินยอมต่อนํายทะเบียนภํายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ผู้เป็นหุ้นส่วน ทุกคนให้ควํามยินยอมที่จะให้แปรสภําพห้ํางหุ้นส่วนเป็นบริษัทจ ํากัด กํารนับระยะเวลําตํามวรรคหนึ่ง ให้นับตั้งแต่วันถัดจํากวันที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนให้ควํามยินยอม เป็นวันแรกแห่งระยะเวลํา ้ หนา 31 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
กํารแจ้งควํามยินยอมให้ทําเป็นหนังสือโดยแนบสําเนําหลักฐํานที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนให้ควํามยินยอม ซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดกํารรับรองควํามถูกต้องด้วย ข้อ 64 ห้ํางหุ้นส่วนจดทะเบียนหรือห้ํางหุ้นส่วนจํากัดที่มีสํานักงํานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขต กรุงเทพมหํานคร ให้ แจ้งควํามยินยอมต่อนํายทะเบียนที่กองข้อมูลธุรกิจ หรือส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลําง หรือสํานักงํานพัฒนําธุรกิจกํารค้ําเขตแห่งใดแห่งหนึ่ง สําหรับห้ํางหุ้นส่วนจดทะเบียนหรือห้ํางหุ้นส่วนจํากัด ที่มีส ํานักงํานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดอื่น ให้แจ้งควํามยินยอมต่อนํายทะเบียนที่ส ํานักงําน ทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดซึ่งห้ํางหุ้นส่วนนั้นมีส ํานักงํานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ ให้นํายทะเบียนลงทะเบียนรับหนังสือแจ้งควํามยินยอมพร้อมสําเนําหลักฐําน และหมํายเหตุ กํารแจ้งควํามยินยอมในสํารบัญทะเบียน รวมทั้งบันทึกข้อมูลและภําพเข้ ําระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที และจัดเก็บหลักฐํานกํารแจ้งควํามยินยอมข้ํางต้นในแฟ้มทะเบียนของห้ํางหุ้นส่วน กรณีที่รับแจ้ง ในกรุงเทพมหํานครและสํานักงํานที่รับแจ้งมิได้รับผิดชอบในกํารเก็บรักษําแฟ้มทะเบียนของห้ํางหุ้นส่วน ให้ส่งหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงํานที่เก็บรักษําแฟ้มเพื่อจั ดเก็บ ข้อ 65 ห้ํามมิให้นํายทะเบียนรับจดทะเบียนคําขอจดทะเบียนแปรสภําพห้ํางหุ้นส่วนเป็น บริษัทจํากัดในกรณีที่กํารให้ควํามยินยอมและดําเนินกํารต่ําง ๆ ตํามมําตรํา 1246/2 ไม่มีผู้เป็น หุ้นส่วนทุกคนเข้ําร่วมประชุมด้วยตนเอง หรือผู้เป็นหุ้นส่วนที่ได้เข้ําประชุมไม่ได้ให้ควํามเ ห็นชอบทุกคน เว้นแต่จะมีสัญญําของผู้เป็นหุ้นส่วนก ําหนดในเรื่องกํารออกเสียงลงมติไว้เป็นอย่ํางอื่น ข้อ 66 กํารจัดท ําหนังสือบริคณห์สนธิประกอบกํารจดทะเบียนแปรสภําพห้ํางหุ้นส่วน เป็นบริษัทจ ํากัด ให้ระบุวันที่จัดท ําเป็นวันเดียวกับวันที่ผู้เป็นหุ้นส่วนได้ประชุมเพื่อแปรสภ ําพ ตํามมําตรํา 1246/2 โดยไม่ต้องกรอกรํายละเอียดเกี่ยวกับผู้เริ่มก่อกํารและพยําน ห้ํามมิให้นํายทะเบียนรับจดทะเบียนคําขอจดทะเบียนแปรสภําพห้ํางหุ้นส่วนเป็นบริษัทจํากัด ที่มีรํายกํารชื่อบริษัทจ ํากัด ส ํานักงํานของบริษัท วัตถุที่ประสงค์ ทุนของบริษัท ผู้ถือหุ้นและส่วนลงหุ้น ของแต่ละคนต่ํางไปจํากที่ห้ํางหุ้นส่วนได้จดทะเบียนไว้ ข้อ 67 ในกํารรับจดทะเบียนแปรสภําพห้ํางหุ้นส่วนเป็นบริษัทจํากัด ให้ออกเลขทะเบียน บริษัทจ ํากัดโดยไม่ต้องออกเลขทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 68 เมื่อได้รับจดทะเบียนแปรสภําพห้ํางหุ้นส่วนเป็นบริษัทจํากัดแล้ว ให้ ดําเนินกําร ดังต่อไปนี้ (1) ให้นํายทะเบียนที่รับจดทะเบียนหมํายเหตุในสํารบัญแฟ้มทะเบียนและในระบบ คอมพิวเตอร์ของห้ํางหุ้นส่วนที่แปรสภําพว่ํา “ ห้ํางหุ้นส่วนนี้หมดสภําพกํารเป็นห้ํางหุ้นส่วนตํามประมวล กฎหมํายแพ่งและพําณิชย์ โดยจดทะเบียนแปรสภําพเป็นบริษัท…จํากัด ทะเบี ยนเลขที่… เมื่อวันที่ …” และหมํายเหตุในสํารบัญแฟ้มทะเบียนในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทจํากัดที่ได้ แปรสภําพมําจํากห้ํางหุ้นส่วนว่ํา “ บริษัทจํากัดนี้จดทะเบียนแปรสภําพมําจํากห้ํางหุ้นส่วน…ทะเบียน ้ หนา 32 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
เลขที่… ” และให้บันทึกข้อมูลและภําพ ค ําขอจดทะเบียนและเอกสํารประกอบเข้ําระบบ คอมพิวเตอร์โดยทันที (2) กรณีรับจดทะเบียนในกรุงเทพมหํานครและสํานักงํานที่รับจดทะเบียนมิได้รับผิดชอบ ในกํารเก็บรักษําแฟ้มทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนที่แปรสภําพแล้ว ให้แจ้งไปยังหน่วยงํานที่รับผิดชอบในกํารเก็บรักษํา แฟ้มทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนที่แปรสภําพ หมํายเหตุข้อควํามในสํารบัญแฟ้มของห้ํางหุ้นส่วนที่แปรสภําพ หมวด 3 บริษัทจ ํากัด ส่วนที่ 1 กํารจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 69 กํารขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ จะต้องให้ผู้เริ่มก่อกํารคนใดคนหนึ่งลงลํายมือชื่อ เป็นผู้ขอจดทะเบียนในค ําขอและเอกสํารประกอบกํารจดทะเบียน กรณีคําขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิซึ่งนํายทะเบียนรับจดทะเบียนแล้ว ถ้ําหนังสือ บริคณห์สนธิปรํากฏข้อควํามว่ําผู้เริ่มก่อกํารทุกคนตกลงให้หนังสือบริคณห์สนธิฉบับนั้นสิ้นผลหํากไม่ได้ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทภํายในสิบปีนั บแต่วันที่จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ ห้ํามมิให้นํายทะเบียนรับ จดทะเบียนใด ๆ เมื่อพ้นก ําหนดระยะเวลําดังกล่ําวแล้ว ส่วนที่ 2 กํารจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ก่อนกํารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจ ํากัด ข้อ 70 กํารขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิก่อนกํารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจํากัด ต้องส่งหลักฐํานกํารให้ควํามยินยอมของผู้เริ่มก่อกํารทุกคนประกอบค ําขอจดทะเบียนด้วย กํารขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิก่อนกํารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจํากัด จะต้องให้ผู้เ ริ่มก่อกํารคนใดคนหนึ่งลงลํายมือชื่อเป็นผู้ขอจดทะเบียนในคําขอและเอกสํารประกอบ กํารจดทะเบียน ข้อ 71 กํารขอจดทะเบียนเปลี่ยนตัวผู้เริ่มก่อกํารก่อนกํารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจํากัด จะกระท ําได้ต่อเมื่อผู้เริ่มก่อกํารเดิมและเข้ําใหม่ (ถ้ํามี) ทุกคนได้ให้ควํามยินยอมเป็นหนังสื อและจะต้อง มีผู้เริ่มก่อกํารเดิมเหลืออยู่ไม่น้อยกว่ําสํามคน เมื่อได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจํากัดแล้ว ห้ํามมิให้มีกํารจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรํายกําร เกี่ยวกับผู้เริ่มก่อกํารในหนังสือบริคณห์สนธิ ้ หนา 33 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ส่วนที่ 3 กํารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจ ํากัด ข้อ 72 สําเนําหนังสือนัดประชุมตั้งบริษัทกรณีที่ได้มีกํารจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิไว้ก่อน ให้ถือเป็นเอกสํารประกอบค ําขอจดทะเบียนตํามข้อ 18 ข้อ 73 ให้นํายทะเบียนปฏิเสธกํารจดทะเบียนในกรณีที่รํายงํานกํารประชุมจัดตั้งบริษัท ตํามมําตรํา 1108 ไม่ปรํากฏกิจกํารอันเป็นสําระส ําคัญซึ่งจ ําเป็นต้องกระท ําในที่ประชุม ข้อ 74 สําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นในวันประชุมจัดตั้งบริษัทที่ส่งประกอบคําขอจดทะเบียน จะต้องปรํากฏชื่อของผู้เริ่มก่อกํารทุกคนเป็นผู้ถือหุ้นอย่ํางน้อยคนละหนึ่งหุ้น ข้อ 75 รํายงํานกํารป ระชุมจัดตั้งบริษัท ไม่จําเป็นต้องปรํากฏว่ํามีผู้เริ่มก่อกํารหรือผู้เข้ําชื่อ ซื้อหุ้นเข้ําร่วมประชุมทุกคน แต่มติของที่ประชุมจะต้องเป็นไปตํามมําตรํา 1109 ข้อ 76 ให้นํายทะเบียนปฏิเสธกํารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจํากัดหํากมีกํารยื่นคําขอจดทะเบียน ภํายหลังสํามเดือนนับแต่วันประ ชุมจัดตั้งบริษัท ข้อ 77 ให้นํายทะเบียนปฏิเสธกํารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจํากัด ถ้ําปรํากฏว่ําได้มีกํารส่ง หนังสือบอกกล่ําวนัดประชุมตั้งบริษัทก่อนกํารรับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทนั้น ส่วนที่ 4 กํารจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนบริษัท พร้อมกันภํายในวั นเดียวกัน ข้อ 78 กํารขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนบริษัทพร้อมกันภํายในวันเดียวกัน ให้จัดท ําเป็นค ําขอเดียวโดยให้กรรมกํารผู้มีอ ํานําจท ํากํารแทนบริษัทลงลํายมือชื่อเป็นผู้ขอ จดทะเบียน ข้อ 79 กํารประชุมจัดตั้งบริษัทตํามมําตรํา 1111/1 (2) จะต้องมีผู้เริ่มก่อกํารและผู้เข้ําชื่อ ซื้อหุ้นทุกคนเข้ําร่วมประชุมนับจํานวนหุ้นได้ครบตํามจํานวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท และผู้เข้ําชื่อซื้อหุ้น ทุกคนจะต้องให้ควํามเห็นชอบในกิจกํารที่ได้ประชุมกันนั้น ข้อ 80 ในกํารจัดตั้งบริษัทที่ได้ดําเนินกํารถูกต้องและครบทุกขั้นตอนภ ํายในวันเดียวกับวันที่ ผู้เริ่มก่อกํารจัดทําหนังสือบริคณห์สนธิ จะต้องยื่นคําขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนบริษัท พร้อมกันภํายในวันเดียวกัน และให้นํายทะเบียนเรียกเก็บค่ําธรรมเนียมทั้งสองประเภท กํารจดทะเบียนตํามอัตรําที่กําหนดในกฎกระทรวง เมื่อนํายทะเบียนรับจดทะเบียนแล้วให้ออกเลขทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและเลขทะเบียน บริษัทจ ํากัด ้ หนา 34 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ข้อ 81 กํารขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและจดทะเบียนบริษัทพร้อมกันภํายใน วันเดียวกันสํามํารถยื่นขอจดทะเบียนได้นับตั้งแต่ได้ดําเนินกํารถูกต้องครบทุกขั้นตอนตํามมําตรํา 1111/1 ทั้งนี้ ไม่เกินสํามเดือนนับแต่วันที่ได้ประชุมกัน ข้อ 82 ห้ํามมิให้นํายทะเบียนรับจดทะเบียนค ําขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและ จดทะเบียนบริษัทพร้อมกันภํายในวันเดียวกันที่ไม่ได้ดําเนินกํารครบทุกขั้นตอนหรือดําเนินกํารไม่ถูกต้อง ตํามที่กําหนดไว้ในมําตรํา 1111/1 เว้นแต่ผู้ ขอจดทะเบียนประสงค์จะขอจดทะเบียนเฉพําะหนังสือ บริคณห์สนธิไว้ก่อน ให้นํายทะเบียนพิจํารณํารับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธินั้นได้ถ้ําหนังสือบริคณห์สนธิ ได้ท ําขึ้นถูกต้องตํามมําตรํา 1098 และผู้เริ่มก่อกํารเป็นผู้ลงลํายมือชื่อในค ําขอและเอกสําร ประกอบกํารจดทะเบียน เมื่อน ํายทะเบียนรับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิไว้แล้ว ให้นํายทะเบียนคืนเอกสําร ที่ ไม่เกี่ยวข้องกับกํารจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิแก่ผู้ขอจดทะเบียน ในกรณีที่ได้จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว กํารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจะต้องดําเนิน กระบวนกํารจัดตั้งบริษัทเสียใหม่โดยเริ่ มตั้งแต่กํารจองซื้อหุ้น กํารนัดประชุมตั้งบริษัท กํารประชุมตั้งบริษัท กํารส่งมอบกิจกําร และกํารเรียกเก็บเงินค่ําหุ้น หลังจํากนั้นจึงจะสํามํารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ ส่วนที่ 5 กํารจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมบริษัทจ ํากัด ข้อ 83 ค ําขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมบริษัทจ ํากัดต้ องลงลํายมือชื่อโดยกรรมกําร ผู้มี อ ํานําจท ํากํารแทนบริษัทตํามที่จดทะเบียนไว้เดิม คําขอจดทะเบียนตํามวรรคหนึ่ง ถ้ํามีหนังสือคัดค้ํานกํารขอจดทะเบียนของกรรมกําร หรือ ผู้ถือหุ้น หรือผู้รับมอบอํานําจจํากบุคคลดังกล่ําวโดยส่งหนังสือมอบอําน ําจ และคําคัดค้ํานนั้นเกี่ยวข้อง กับเรื่องที่ขอจดทะเบียน ให้นําควํามในข้อ 84 ข้อ 85 และข้อ 8 6 มําใช้บังคับแก่กํารพิจํารณํา ค ําขอจดทะเบียนโดยอนุโลม ข้อ 84 คําขอจดทะเบียนกรรมกําร หรือแก้ไขเพิ่มเติมอํานําจกรรมกํารโดยจะมีกํารจดทะเบียน แก้ไขเพิ่มเติมรํายกํารอื่นใดด้วยหรือไม่ก็ตํามซึ่งมิได้เป็นไปตํามข้อ 83 วรรคหนึ่ง ให้นํายทะเบียน ปฏิเสธกํารจดทะเบียน เว้นแต่คําขอจดทะเบียนได้ลงลํายมือชื่อโดยกรรมกํารผู้มีอํานําจซึ่งได้รับแต่งตั้ง โดยมติที่ประชุมคณะกรรมกํารหรือมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น และส่งหลักฐําน ประกอบคําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ แล้วแต่กรณี (1) กํารขอจดทะเบียนโดยอําศัยมติที่ประชุมคณะกรรมกํารให้ผู้ขอจดทะเบียนส่งหลักฐําน ประกอบคําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ ้ หนา 35 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(1.1) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวนัดประชุมคณะกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่ง หนังสือบอกกล่ําวนัดประชุมนั้นไปยังก รรมกํารทุกคนหรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารนัดประชุม ของกรรมกํารทุกคน (1.2) ส ําเนํารํายงํานกํารประชุมคณะกรรมกํารที่ปรํากฏมติแต่งตั้งกรรมกําร หรือ ก ําหนดอ ํานําจกรรมกํารตํามที่ขอจดทะเบียน และ (1.3) ส ําเนํารํายชื่อซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อกรรมกํารที่ได้เข้ําประชุมคณะกรรมกําร (2) กํารขอจดทะเบียนโดยอําศัยมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นซึ่งคณะกรรมกํารเป็นผู้นัดเรียกประชุม โดยมิได้มีผู้ถือหุ้นร้องขอให้เรียกประชุม ให้ผู้ขอจดทะเบียนส่งหลักฐํานประกอบคําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ (2.1) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวนัดประชุมคณะกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่ ง หนังสือบอกกล่ําวนัดประชุมนั้นไปยังกรรมกํารทุกคนหรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารนัดประชุม ของกรรมกํารทุกคน (2.2) สําเนํารํายงํานกํารประชุมคณะกรรมกํารที่ปรํากฏมติให้เรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น เพื่อพิจํารณําเรื่องกรรมกําร หรืออ ํานําจกรรมกําร (2.3) ส ําเนํารํายชื่อซึ่งปรํากฏลํายมือชื่ อกรรมกํารที่ได้เข้ําประชุมคณะกรรมกําร (2.4) หนังสือพิมพ์ที่ลงพิมพ์โฆษณําคําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (2.5) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจํารณําเรื่องกรรมกําร หรืออํานําจกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทํางไปรษณีย์ตอบรับ ไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนหรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี (2.6) ส ําเนํารํายงํานกํารประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่ปรํากฏมติแต่งตั้งกรรมกําร หรือ ก ําหนดอ ํานําจกรรมก ํารตํามที่ขอจดทะเบียน และ (2.7) ส ําเนํารํายชื่อซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้เข้ําประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (3) กํารขอจดทะเบียนโดยอําศัยมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นซึ่งคณะกรรมกํารเป็นผู้นัดเรียกประชุม ตํามที่ผู้ถือหุ้นจ ํานวนรวมกันไม่น้อยกว่ําหนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้นข องบริษัทร้องขอให้เรียกประชุม ให้ผู้ขอจดทะเบียนส่งหลักฐํานประกอบค ําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ (3.1) สําเนําหนังสือของผู้ถือหุ้นจํานวนไม่น้อยกว่ําหนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้นของบริษัท ที่ร้องขอให้คณะกรรมกํารเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (3.2) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวนัดประชุ มคณะกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือ บอกกล่ําวนัดประชุมนั้นไปยังกรรมกํารทุกคนหรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารนัดประชุมของกรรมกํารทุกคน (3.3) สําเนํารํายงํานกํารประชุมคณะกรรมกํารที่ปรํากฏมติให้เรียกประชุมใหญ่ผู้ถือ หุ้นเพื่อพิจํารณําเรื่องกรรมกําร หรืออ ํานําจกรรมกําร (3.4) ส ําเนํารํายชื่อซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อกรรมกํารที่ได้เข้ําประชุมคณะกรรมกําร ้ หนา 36 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(3.5) หนังสือพิมพ์ที่ลงพิมพ์โฆษณําคําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (3.6) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจํารณําเรื่องกรรมกําร หรืออํานําจกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํา นกํารส่งหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทํางไปรษณีย์ตอบรับ ไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนหรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี (3.7) สําเนํารํายงํานกํารประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่ปรํากฏมติแต่งตั้งกรรมกําร หรือกําหนด อ ํานําจกรรมกํารตํามที่ขอจดทะเบี ยน และ (3.8) ส ําเนํารํายชื่อซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้เข้ําประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (4) กํารขอจดทะเบียนโดยอําศัยมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นซึ่งผู้ถือหุ้นจ ํานวนรวมกันไม่น้อยกว่ํา หนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้นของบริษัทร้องขอให้เรียกประชุม และเป็นผู้นัดเรียกประชุม เอง ให้ผู้ขอจดทะเบียน ส่งหลักฐํานประกอบค ําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ (4.1) สําเนําหนังสือของผู้ถือหุ้นจํานวนไม่น้อยกว่ําหนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้นของบริษัท ที่ร้องขอให้คณะกรรมกํารเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือร้องขอให้เรียก ประชุมนั้นไปยังคณะกรรมกําร หรือหลักฐํานที่คณะกรรมกํารได้รับหนังสือร้องขอ (4.2) หนังสือพิมพ์ที่ลงพิมพ์โฆษณําคําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (4.3) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจํารณําเรื่อง กรรมกําร หรืออํานําจกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทํางไปรษณีย์ตอบรับ ไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนหรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี (4.4) สําเนํารํายงํานกํารประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่ปรํากฏมติแต่งตั้งกรร มกําร หรือกําหนด อ ํานําจกรรมกํารตํามที่ขอจดทะเบียน และ (4.5) ส ําเนํารํายชื่อซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้เข้ําประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น ข้อ 85 กํารยื่นคําขอจดทะเบียนตํามข้อ 84 ซึ่งอําศัยมติที่ประชุมคณะกรรมกํารหรือมติ ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่ได้กระทําผ่ํานสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตํามประกําศคณะรักษําควํามสงบแห่งชําติ ฉบับที่ 74/2557 เรื่อง กํารประชุมผ่ํานสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 27 มิถุนํายน พ.ศ. 2557 และต้องเป็นไปตํามประกําศกระทรวงเทคโนโลยีสํารสนเทศและกํารสื่อสําร เรื่อง มําตรฐํานกํารรักษํา ควํามมั่นคงปลอดภัยของกํารประชุมผ่ํานสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 24 พฤศจิกํายน พ.ศ. 2557 ให้ผู้ขอจดทะเบียนส่งหลักฐํานประกอบค ําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ แล้วแต่กรณี (1) กํารขอจดทะเบียนโดยอําศัยมติที่ประชุมคณะกรรมกํารให้ผู้ขอจดทะเบีย นส่งหลักฐําน ประกอบคําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ (1.1) ส ําเนําหนังสือบอกกล่ําวนัดประชุมคณะกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือ บอกกล่ําวนัดประชุมนั้นไปยังกรรมกํารทุกคน หรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารนัดประชุมของกรรมกํารทุกคน (1.2) สําเนํารํายงํานกํารประชุมคณะกรรมกํารที่ปรํากฏม ติแต่งตั้งกรรมกํารหรือก ําหนด อ ํานําจกรรมกํารตํามที่ขอจดทะเบียน และ ้ หนา 37 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(1.3) สําเนําหลักฐํานกํารแสดงตนเข้ําประชุมคณะกรรมกําร ซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อหรือ รํายละเอียดของกรรมกํารที่ได้เข้ําร่วมประชุม (2) กํารขอจดทะเบียนโดยอําศัยมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นซึ่งคณะกรรมกํารเป็นผู้นัดเรียก ประชุม โดยมิได้มีผู้ถือหุ้นร้องขอให้เรียกประชุมใหญ่ ผู้ขอจดทะเบียนส่งหลักฐํานประกอบค ําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ (2.1) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวนัดประชุมคณะกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่ง หนังสือบอกกล่ําวนัดประชุมนั้นไปยังกรรมกํารทุกคนหรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารนัดประ ชุมของ กรรมกํารทุกคน (2.2) สําเนํารํายงํานกํารประชุมคณะกรรมกํารที่ปรํากฏมติให้เรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น เพื่อพิจํารณําเรื่องกรรมกําร หรืออ ํานําจกรรมกําร (2.3) สําเนําหลักฐํานกํารแสดงตนเข้ําประชุมคณะกรรมกําร ซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อหรือ รํายละเอียดของกรรมกํารที่ได้เข้ําร่วมประชุม (2.4) หนังสือพิมพ์ที่ลงพิมพ์โฆษณําคําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (2.5) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจํารณําเรื่องกรรมกํารหรือ อํานําจกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทํางไปรษณีย์ตอบรับ หรือทํางจดหมํา ยอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ถือหุ้นทุกคน หรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี (2.6) สําเนํารํายงํานกํารประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่ปรํากฏมติแต่งตั้งกรรมกําร หรือกําหนด อ ํานําจกรรมกํารตํามที่ขอจดทะเบียน และ (2.7) สําเนําหลักฐํานกํารแสดงตนเข้ําประชุมใหญ่ ผู้ถือหุ้น ซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อหรือ รํายละเอียดของผู้ถือหุ้นที่ได้เข้ําร่วมประชุม (3) กํารขอจดทะเบียนโดยอําศัยมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นซึ่งคณะกรรมกํารเป็นผู้นัดเรียกประชุม ตํามที่ผู้ถือหุ้นจํานวนรวมกันไม่น้อยกว่ําหนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้นของบริษัทร้องขอให้เรียกประชุ มใหญ่ ผู้ขอจดทะเบียนส่งหลักฐํานประกอบค ําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ (3.1) สําเนําหนังสือของผู้ถือหุ้นจํานวนไม่น้อยกว่ําหนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้นของบริษัท ที่ร้องขอให้คณะกรรมกํารเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (3.2) ส ําเนําหนังสือบอกกล่ําวนัดประชุมคณะกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือ บอกกล่ําวนัดประชุมนั้นไปยังกรรมกํารทุกคนหรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารนัดประชุมของกรรมกํารทุกคน (3.3) สําเนํารํายงํานกํารประชุมคณะกรรมกํารที่ปรํากฏมติให้เรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น เพื่อพิจํารณําเรื่องกรรมกําร หรืออ ํานําจกรรมกําร (3.4) สําเนําหลักฐํานก ํารแสดงตนเข้ําประชุมคณะกรรมกําร ซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อหรือ รํายละเอียดของกรรมกํารที่ได้เข้ําร่วมประชุม ้ หนา 38 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(3.5) หนังสือพิมพ์ที่ลงพิมพ์โฆษณําคําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (3.6) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจํารณําเรื่องกรรมกํารหรือ อํานําจกรรมก ําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทํางไปรษณีย์ตอบรับ หรือทํางจดหมํายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ถือหุ้นทุกคน หรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารเรียกประชุมใหญ่ ผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี (3.7) สําเนํารํายงํานกํารประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่ปรํากฏมติแต่งตั้ งกรรมกําร หรือกําหนด อ ํานําจกรรมกํารตํามที่ขอจดทะเบียน และ (3.8) สําเนําหลักฐํานกํารแสดงตนเข้ําประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น ซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อหรือ รํายละเอียดของผู้ถือหุ้นที่ได้เข้ําร่วมประชุม (4) กํารขอจดทะเบียนโดยอําศัยมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นซึ่งผู้ถือหุ้นจํานวนรวมกันไม่น้อยกว่ํา หนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้นของบริษัทร้องขอให้เรียกประชุม และเป็นผู้นัดเรียกประชุมเอง ให้ผู้ขอจดทะเบียน ส่งหลักฐํานประกอบค ําขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้ (4.1) สําเนําหนังสือของผู้ถื อหุ้นจํานวนไม่น้อยกว่ําหนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้นของบริษัท ที่ร้องขอให้คณะกรรมกํารเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือร้องขอให้เรียก ประชุมนั้นไปยังคณะกรรมกําร หรือหลักฐํานที่คณะกรรมกํารได้รับหนังสือร้องขอ (4.2) หนังสือพิมพ์ที่ลงพิมพ์โฆษณําคําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (4.3) สําเนําหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจํารณําเรื่องกรรมกํารหรือ อํานําจกรรมกําร พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทํางไปรษณีย์ตอบรับ หรือทํางจดหมํายอิเล็ กทรอนิกส์ไปยังผู้ถือหุ้นทุกคน หรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารเรียกประชุมใหญ่ ผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี (4.4) สําเนํารํายงํานกํารประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่ปรํากฏมติแต่งตั้งกรรมกําร หรือกําหนด อ ํานําจกรรมกํารตํามที่ขอจดทะเบียน และ (4.5) สําเนําหลักฐํานกํารแสดงตนเข้ําประชุมใหญ่ผู้ถื อหุ้น ซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อหรือ รํายละเอียดของผู้ถือหุ้นที่ได้เข้ําร่วมประชุม ข้อ 8 6 ถ้ํานํายทะเบียนได้รับค ําขอจดทะเบียนกรรมกําร หรือแก้ไขเพิ่มเติมอํานําจกรรมกําร ที่มิได้ลงลํายมือชื่อโดยกรรมกํารผู้มีอํานําจทํากํารแทนบริษัทตํามที่จดทะเบียนไว้เดิมตํามข้อ 83 วรรคหนึ่ง ให้น ํายทะเบียนมีหนังสือส่งทํางไปรษณีย์ตอบรับแจ้งรํายละเอียดเกี่ยวกับกํารขอจดทะเบียนนั้น ไปยังกรรมกํารผู้มีอํานําจทํากํารแทนบริษัทตํามที่จดทะเบียนไว้เดิม หรือกรรมกํารผู้ที่ถูกจดทะเบียนให้ออก จํากตําแหน่งหรือผู้คัดค้ํานกํารจดทะเบียนแล้วแต่กรณีด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้ ภํายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับ ค ําขอดังกล่ําว ถ้ําผู้ที่นํายทะเบียนได้มีหนังสือแจ้งให้ทรําบตํามควํามในวรรคหนึ่งมิได้มีหนังสือคัดค้ํานต่อ นํายทะเบียนภํายในสิบห้ําวันนับแต่วันที่ลงในหนังสือแจ้ง หรือไม่ได้มีกรรมกํารหรือผู้ถือหุ้นอื่นหรือ ้ หนา 39 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ผู้มีส่วนได้เสียคัดค้ํานกํารจดทะ เบียนไว้ก่อน หรือมีกํารคัดค้ํานแต่คําคัดค้ํานนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ ขอจดทะเบียนหรือคําคัดค้ํานนั้นฟังไม่ขึ้น และในระหว่ํางพิจํารณําไม่ปรํากฏแก่นํายทะเบียนว่ําศําล มีคําสั่งห้ํามมิให้นํายทะเบียนรับจดทะเบียนเป็นกํารชั่วครําวหรือมีคําสั่งศําลในทํานองเดียวกัน ก็ให้ นํายทะ เบียนพิจํารณําคําขอจดทะเบียนต่อไป ในกรณีที่ข้อเท็จจริงของคู่กรณีทั้งสองฝ่ํายไม่มีหลักฐํานชัดเจนเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ว่ํา ฝ่ํายใด ดําเนินกํารถูกต้อง ให้นํายทะเบียนรอค ําวินิจฉัยประเด็นดังกล่ําวจํากค ําพิพํากษําหรือคําสั่งศําล ข้อ 8 7 ควํามในข้อ 83 ข้อ 84 ข้อ 85 และข้อ 8 6 มิให้นํามําใช้บังคับแก่คําขอ จดทะเบียนกรรมกําร หรือแก้ไขเพิ่มเติมอํานําจกรรมกํารที่มิได้ลงลํายมือชื่อโดยกรรมกํารผู้มีอํานําจ ทํากํารแทนบริษัทตํามที่จดทะเบียนไว้เดิมเพรําะเหตุที่กรรมกํารผู้มีอํานําจกระทํากํารแทนบริษัทเดิม ทั้งหมดหรือแต่บํางส่วนได้พ้นจํากตําแหน่งเนื่องจํากถึง แก่กรรมโดยกรรมกํารที่เหลืออยู่ไม่สํามํารถ ลงลํายมือชื่อในคําขอจดทะเบียนให้ครบถ้วนตํามอํานําจกรรมกํารตํามที่จดทะเบียนไว้ และคําขอ จดทะเบียนดังกล่ําวได้ลงลํายมือชื่อโดยกรรมกํารผู้มีอ ํานําจกระท ํากํารแทนบริษัทซึ่งได้รับแต่งตั้งโดยมติ ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นหรือมติคณะกรรมกํารแล้ วแต่กรณี และได้ส่งสําเนําใบมรณะบัตรประกอบคําขอ จดทะเบียนด้วย คําขอจดทะเบียนตํามวรรคหนึ่ง ถ้ํามีหนังสือคัดค้ํานกํารขอจดทะเบียนของกรรมกําร หรือ ผู้ถือหุ้น หรือผู้มีส่วนได้เสีย หรือผู้รับมอบอํานําจจํากบุคคลดังกล่ําวโดยส่งหนังสือมอบอํานําจ ก่อนที่ นํายทะเบียนจะรับจดทะเ บียน ให้นําควํามในข้อ 84 ข้อ 85 และข้อ 8 6 มําใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ 8 8 บริษัทจํากัดใดไม่ได้จดทะเบียนข้อบังคับ หรือจดทะเบียนข้อบังคับแต่ไม่ได้กําหนด ชนิดของหุ้นไว้ จะขอจดทะเบียนเพิ่มทุนโดยออกหุ้นใหม่เป็นหุ้นบุริมสิทธิ์ก็ได้ แต่ผู้ขอจดทะเบียนจะต้อง มีห นังสือชี้แจงว่ําที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติกําหนดสภําพและบุริมสิทธิ์แห่งหุ้นนั้น ๆ ว่ําเป็นสถํานใด เพียงใด ประกอบกํารขอจดทะเบียนด้วย ข้อ 8 9 ในกํารเพิ่มทุนของบริษัทจะขอจดทะเบียนเพิ่มทุนเต็มจ ํานวนและแก้ไขเพิ่มเติม หนังสือบริคณห์สนธิเกี่ยวกับทุนตํามที่จดทะเบียนมติพิเศษให้เพิ่มทุนในครั้งเดียว หรือจะขอจดทะเบียน เพิ่มทุนเป็นครําว ๆ ตํามจ ํานวนหุ้นที่จ ําหน่ํายได้ในแต่ละครําวก็ได้ กํารขอจดทะเบียนเพิ่มทุนเป็นครําว ๆ ตํามจํานวนหุ้นที่จําหน่ํายได้ในแต่ละครําวซึ่งยังไม่เต็ม จํานวนตํามมติพิเศษให้เพิ่มทุนที่จดทะเบียนไว้ ถ้ําที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติพิเศษให้แก้ไข เพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิเกี่ยวกับทุนเป็นครําว ๆ ตํามจํานวนหุ้นที่จําหน่ํายได้ในแต่ละครําวไว้ด้วย บริษัท จะขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิเกี่ยวกับทุนเป็นครําว ๆ ให้ตรงตํามจํานวน ทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้รํายกํารเกี่ยวกับทุนในหนังสือบริคณห์สนธิสอดคล้องกับกํารเพิ่มทุนตํามควํามเป็นจริง ในแต่ละครําวก็ได้ ข้อ 90 ภํายหลังที่ได้จดทะเบียนมติพิเศษให้ลดทุนไว้ และบริ ษัทอยู่ระหว่ํางระยะเวลํา บอกกล่ําวควํามประสงค์จะลดทุนและขอให้เจ้ําหนี้ผู้มีข้อคัดค้ํานส่งคําคัดค้ํานกํารลดทุนนั้น บริษัท ้ หนา 40 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
จะประชุมคณะกรรมกํารกําหนดให้มีกํารประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นและส่งคําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น เพื่อให้มีมติพิเศษให้ลดทุนอีกก็ได้ แต่กํารประชุม ใหญ่ผู้ถือหุ้นดังกล่ําวจะต้องจัดให้มีขึ้นหลังจํากจดทะเบียนลดทุน ตํามมติพิเศษให้ลดทุนที่ได้จดทะเบียนไว้ก่อนนั้นแล้ว ข้อ 9 1 บริษัทจะกําหนดวําระกํารประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจํารณําและมีมติพิเศษให้ลดทุน และ เพิ่มทุน หรือมีมติพิเศษให้เพิ่มทุนและลดทุน ในกํารประชุมครําวเดี ยวกันก็ได้ แต่มติที่ประชุมดังกล่ําว จะต้องกําหนดให้ชัดเจนว่ําจะทํากํารลดทุนและเพิ่มทุน หรือเพิ่มทุนและลดทุนแต่ละขั้นตอนเมื่อดําเนินกําร ในขั้นตอนก่อนหน้ําเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทจะยื่นจดทะเบียนมติพิเศษตํามวรรคหนึ่งโดยจะจัดท ําเป็นค ําขอเดียวกันก็ได้ กรณีกํารจดทะเบียนลด ทุนและเพิ่มทุนจะต้องดําเนินกํารตํามลําดับวําระกํารประชุมโดยแยกคําขอ และให้นํายทะเบียนรับจดทะเบียนคนละวันกัน ข้อ 9 2 ในกํารลดทุนหรือควบบริษัท ให้ผู้ขอจดทะเบียนจัดทําคําขอจดทะเบียนมติพิเศษ ให้ลดทุนหรือมติพิเศษให้ควบบริษัทแล้วยื่นขอจดทะเบียนมติพิเศษไว้ก่อน เมื่อครบกําหนดระยะเวลํา ตํามกฎหมํายแล้วจึงจัดทําคําขอจดทะเบียนลดทุนหรือควบบริษัทแล้วยื่นขอจดทะเบียนลดทุนหรือ ควบบริษัทแล้วแต่กรณี เมื่อนํายทะเบียนรับจดทะเบียนบริษัทตั้งใหม่ตํามที่ควบเข้ํากันแล้ว ให้นํายทะเบียนหมํายเหตุ กํารจดทะเบียนบริษัทตั้งใหม่ดังกล่ําวไว้ในสํารบัญท ะเบียนของบริษัทที่ควบเข้ํากัน และบันทึกเข้ําระบบ คอมพิวเตอร์โดยทันที หมวด 4 กํารส่งเอกสํารที่ไม่ต้องยื่นคําขอจดทะเบียน ส่วนที่ 1 กํารส่งสําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้น ข้อ 9 3 กํารส่งสําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นต่อนํายทะเบียนจะต้องมีหนังสือนําส่งซึ่งลงลํายมือชื่อ โดยกรรมกํารตํามอํานําจที่จดทะเบียนไว้ หํากอํานําจกรรมกํารกําหนดให้ประทับตรําก็ต้องประทับตรําด้วย ส่วนสําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นที่ส่งพร้อมกับงบกํารเงินประจําปี ให้ถือว่ําแบบ ส.บช. 3 เป็นหนังสือนําส่ง โดยอนุโลม สําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นที่ส่งต่อนํายทะเบียน จะต้องให้กรรมกํารซึ่งลงลํายมือชื่อในหนังสือนําส่ง อย่ํางน้อยหนึ่งคนเป็นผู้ลงลํายมือชื่อรับรองควํามถูกต้องโดยจะประทับตรําหรือไม่ก็ได้ สําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นนอกจํากวันประชุมสํามัญประจํา ปี หํากผู้ยื่นไม่ได้ระบุวันประชุม สํามัญประจําปีหรือวิสํามัญก็ให้รับไว้ได้โดยให้ระบุว่ําได้คัดลอกบัญชีรํายชื่อจํากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น เมื่อวันเดือนปีใดแทน ้ หนา 41 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
กรณีส ําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นที่ยื่นมีผู้ถือหุ้นเหลือไม่ถึงสํามคน ให้นํายทะเบียนรับไว้ โดยประทับตรําดัง นี้ “ บริษัทนี้มีผู้ถือหุ้นเหลือไม่ถึงสํามคน เป็นเหตุให้ศําลอําจสั่งให้เลิกบริษัทจํากัด ได้ตํามมําตรํา 1237 (4) ” ก่อนบันทึกเข้ําระบบคอมพิวเตอร์ และสํามํารถให้บริกํารตรวจ คัดส ําเนํา หรือถ่ํายเอกสํารพร้อมค ํารับรองได้ ในกรณีที่นํายทะเบียนจะรับรองสําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้ นหรือถ่ํายเอกสํารสําเนําบัญชีรํายชื่อ ผู้ถือหุ้นให้แก่ผู้ขอ หํากเป็นสําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับไว้ก่อนซึ่งมีผู้ถือหุ้นไม่ถึงสํามคนและมีกําร ประทับตรําว่ํามีผู้ถือหุ้นไม่ถึงเจ็ดคน ให้นํายทะเบียนแก้ไขจํานวนในตรําประทับเป็นไม่ถึงสํามคนและ ลงลํายมือชื่อกํากับกํารแก้ ไขไว้ หรือหํากเป็นสําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับไว้ก่อนซึ่งมีผู้ถือหุ้นไม่ถึง เจ็ดคนแต่ไม่น้อยกว่ําสํามคน ให้นํายทะเบียนขีดฆ่ํากํารประทับตรําดังกล่ําวและลงลํายมือชื่อกํากับไว้แล้ว จึงออกให้แก่ผู้ขอและให้บันทึกภําพสําเนําบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นที่แก้ไขแล้วเข้ําระ บบคอมพิวเตอร์แทน ฉบับเดิมด้วย ส่วนที่ 2 กํารส่งหนังสือแจ้งขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลทํางทะเบียน ข้อ 9 4 เมื่อนํายทะเบียนรับจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทใดแล้ว หํากปรํากฏในภํายหลัง ว่ําทํางรําชกํารได้แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงรํายละเอียดเกี่ยวกับที่ตั้งส ํานักงํานแห่งใหญ่ หรือส ํานักงํานสําขํา ของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ให้ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทแจ้งนํายทะเบียนเป็นหนังสือโดยลงลํายมือชื่อตําม อํานําจและประทับตรําของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท (ถ้ํามี) พร้อมทั้งส่งสําเนําหลักฐํานของทํางรําชกําร ที่ได้แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่ําวเพื่อขอแก้ไขทํางทะเบีย นให้ถูกต้องตรงกัน ข้อ 9 5 กรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมกําร หรือผู้ชําระบัญชี ได้เปลี่ยนคํานําหน้ํานําม ชื่อตัว ชื่อสกุล ให้บุคคลดังกล่ําวหรือห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทแจ้งนํายทะเบียนเป็นหนังสือโดยมีลํายมือชื่อเดิม และลํายมือชื่อใหม่พร้อมทั้งส่งสําเนําหลักฐํานกํารเปลี่ย นที่ทํางรําชกํารออกให้เพื่อขอแก้ไขทํางทะเบียน ให้ถูกต้องตรงกัน กรณีผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมกําร หรือผู้ชําระบัญชี เปลี่ยนแปลงที่อยู่ ให้บุคคลดังกล่ําวหรือ ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทแจ้งนํายทะเบียนเป็นหนังสือโดยส่งส ําเนําหลักฐํานเพื่อแก้ไขทํางทะเบียนให้ถูกต้อง ข้อ 9 6 ในกรณี ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมกําร หรือผู้ช ําระบัญชี เปลี่ยนแปลงลํายมือชื่อให้ บุคคลดังกล่ําว หรือห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทแจ้งนํายทะเบียนเป็นหนังสือโดยมีลํายมือชื่อเดิมและลํายมือ ชื่อใหม่พร้อมทั้งส่งส ําเนําบัตรประจ ําตัวของบุคคลนั้นด้วย กรณีไม่ได้ยื่นเอกสํารด้วยตนเองให้ส่งห นังสือมอบอํานําจด้วย ข้อ 9 7 เมื่อนํายทะเบียนได้รับหนังสือแจ้งขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลทํางทะเบียน ให้แก้ไข ข้อมูลทํางทะเบียนให้ถูกต้องและหมํายเหตุในสํารบัญทะเบียนและให้บันทึกข้อมูลและภําพเอกสําร เข้ําระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที ้ หนา 42 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
หมวด 5 กํารจดทะเบียนเลิกและเสร็จกํารช ําระบัญชี ส่วนที่ 1 กํารจดทะเบียนเลิกและอ ํานําจของผู้ชําระบัญชี ข้อ 9 8 ค ําขอจดทะเบียนเลิกและอ ํานําจของผู้ช ําระบัญชีห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทจะต้อง ลงลํายมือชื่อโดยผู้ชําระบัญชีซึ่งได้แก่หุ้นส่วนผู้จัดกํารหรือกรรมกํารที่ลงชื่อผูกพันห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ตํามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก ในกํารจดทะเบียนเลิกห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท หุ้นส่วนผู้จัดกํารทุกคนหรือกรรมกํารทุกคน ต้องเข้ําเป็นผู้ชําระบัญชีโดยผลของกฎหมําย ถ้ําผู้ชําระบัญชีมีหลํายคน ผู้ชําระบัญชีทุกคนต้องกระทํากําร ร่วมกัน เว้นแต่ที่ประชุมใหญ่หรือศําลจะได้ก ําหนดอ ํานําจไว้ เป็นอย่ํางอื่นในเวลําตั้งผู้ช ําระบัญชี คําขอจดทะเบียนตํามวรรคหนึ่ง ถ้ํามีหนังสือคัดค้ํานกํารขอจดทะเบียนของผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมกําร หรือผู้ถือหุ้น หรือผู้รับมอบอํานําจจํากบุคคลดังกล่ําวโดยส่งหนังสือมอบอํานําจ ก่อนที่ นํายทะเบียนจะรับจดทะเบียนและคําคัดค้ํานนั้นเกี่ยว ข้องกับเรื่องที่ขอจดทะเบียน ในกรณีห้ํางหุ้นส่วน ให้นําควํามในข้อ 60 วรรคสอง และในกรณีบริษัทให้นําควํามในข้อ 84 ข้อ 85 และข้อ 8 6 มําใช้บังคับแก่กํารพิจํารณําค ําขอจดทะเบียนโดยอนุโลม ข้อ 9 9 คําขอจดทะเบียนเลิกและอํานําจของผู้ชําระบัญชีห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ไม่ เป็นไป ตํามควํามในข้อ 9 8 วรรคหนึ่ง นํายทะเบียนจะรับจดทะเบียนได้ต่อเมื่อปรํากฏข้อเท็จจริงและ มีหลักฐํานประกอบค ําขอจดทะเบียนดังต่อไปนี้ แล้วแต่กรณี (1) ข้อบังคับของบริษัทก ําหนดไว้เป็นอย่ํางอื่น (2) มีข้อสัญญําของห้ํางหุ้นส่วนไว้เป็นอย่ํางอื่น โดยส่งส ําเนําข้อสัญญําขอ งห้ํางหุ้นส่วน (3) หุ้นส่วนผู้จัดกํารหรือกรรมกํารถึงแก่กรรมโดยส่งส ําเนําใบมรณะบัตร (4) ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนของห้ํางหุ้นส่วนตกลงให้ควํามยินยอมตั้งผู้ชําระบัญชีและกําหนด อํานําจของผู้ชําระบัญชีเป็นอย่ํางอื่น โดยส่งสําเนําข้อตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนที่ตกลงหรือให้ ควํามยิน ยอมในกํารตั้งผู้ชําระบัญชีหรือตั้งผู้อื่นที่ไม่ใช่หุ้นส่วนผู้จัดกํารทุกคนเป็นผู้ชําระบัญชี หรือกําหนด อ ํานําจของผู้ช ําระบัญชีเป็นอย่ํางอื่น (5) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติตั้งผู้ช ําระบัญชีหรือก ําหนดอ ํานําจของผู้ช ําระบัญชี เป็นอย่ํางอื่น โดยส่งสําเนํารํายงํานกํารประชุ มใหญ่ผู้ถือหุ้นที่มีมติในกํารตั้งผู้ชําระบัญชีหรือกําหนด อํานําจของผู้ชําระบัญชีเป็นอย่ํางอื่นโดยมีกรรมกํารผู้มีอํานําจทํากํารแทนบริษัทตํามที่จดทะเบียนไว้ ก่อนเลิกบริษัทลงลํายชื่อรับรองควํามถูกต้อง ้ หนา 43 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(6) ศําลมีคําสั่งหรือคําพิพํากษําโดยส่งสําเนําคําสั่งหรือคําพิพํากษําของศําลที่แต่งตั้งผู้ชําระบัญชี หรือก ําหนดอ ํานําจของผู้ช ําระบัญชี ข้อ 100 ควํามในข้อ 8 มิให้น ํามําใช้บังคับแก่กรณียื่นขอจดทะเบียนเลิกและเสร็จ กํารช ําระบัญชีของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ส่วนที่ 2 กํารจดทะเบียนภํา ยหลังจดทะเบียนเลิกห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ข้อ 10 1 คําขอจดทะเบียนที่ยื่นภํายหลังจดทะเบียนเลิกห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ต้องลง ลํายมือชื่อโดยผู้ช ําระบัญชีที่ลงชื่อผูกพันห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทตํามที่จดทะเบียนไว้เดิม ข้อ 10 2 ในกรณีผู้ช ําระบัญชีที่ลงชื่อผูกพันห้ํางหุ้นส่วนตํามที่จดทะเบียนไว้เดิม มิได้ ลงลํายมือชื่อในค ําขอจดทะเบียนตั้งหรือเปลี่ยนตัวผู้ช ําระบัญชีหรือแก้ไขเพิ่มเติมอ ํานําจของผู้ช ําระบัญชี เพรําะเหตุที่ผู้ชําระบัญชีถึงแก่กรรมหรือออกจํากกํารเป็นผู้ชําระบัญชี ให้ผู้ชําระบัญชีซึ่ งได้รับกํารแต่งตั้งใหม่ เป็นผู้ลงลํายมือชื่อในค ําขอจดทะเบียน และส่งหลักฐํานประกอบค ําขอจดทะเบียนดังต่อไปนี้ แล้วแต่กรณี (1) กรณีศําลมีคําสั่งหรือคําพิพํากษํา ให้ส่งสําเนําคําสั่งหรือคําพิพํากษําของศําลที่แต่งตั้ง ผู้ช ําระบัญชีหรือก ําหนดอ ํานําจของผู้ช ําระบัญชี (2) กรณีผู้เป็นหุ้นส่วนที่เป็นผู้ช ําระบัญชีถึงแก่กรรม ให้ส่ง (2.1) ข้อสัญญําของห้ํางหุ้นส่วนหรือข้อตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วนที่ตกลงหรือให้ควํามยินยอม ในกํารตั้งหรือเปลี่ยนตัวผู้ชําระบัญชีหรือกําหนดอํานําจของผู้ชําระบัญชีซึ่งผู้จัดกํารมรดกในฐํานะเป็น ผู้แทนทํายําทของผู้ช ําระบัญ ชีที่ถึงแก่กรรมและผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนลงลํายมือชื่อครบถ้วน (2.2) ส ําเนําหลักฐํานกํารเป็นผู้จัดกํารมรดก (2.3) ส ําเนําใบมรณะบัตร (3) กรณีผู้ช ําระบัญชีที่ถึงแก่กรรมมิได้เป็นผู้เป็นหุ้นส่วน ให้ส่ง (3.1) ข้อสัญญําของห้ํางหุ้นส่วนหรือข้อตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วนที่ตกลงหรื อให้ควํามยินยอม ในกํารตั้งหรือเปลี่ยนตัวผู้ชําระบัญชีหรือกําหนดอํานําจของผู้ชําระบัญชี ซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อของผู้เป็น หุ้นส่วนทุกคนครบถ้วน (3.2) ส ําเนําใบมรณะบัตร (4) กรณีผู้ช ําระบัญชีออกจํากกํารเป็นผู้ช ําระบัญชี ให้ส่งข้อสัญญําของห้ํางหุ้นส่วน หรือข้อตกลงของผู้เป็นหุ้น ส่วนที่ตกลงหรือให้ควํามยินยอมในกํารตั้งผู้ชําระบัญชีหรือกําหนดอํานําจของ ผู้ช ําระบัญชีซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนครบถ้วน ข้อ 10 3 ในกรณีผู้ชําระบัญชีที่ลงชื่อผูกพันบริษัทตํามที่จดทะเบียนไว้เดิมมิได้ลงลํายมือชื่อ ในคําขอจดทะเบียนตั้งหรือเปลี่ยนตัวผู้ชําระบัญชีหรือแก้ไขเพิ่มเติมอํานําจของผู้ชําระบัญชีเพรําะเหตุ ้ หนา 44 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ผู้ชําระบัญชีที่ลงชื่อผูกพันบริษัทเดิมทั้งหมดหรือแต่บํางส่วนถึงแก่กรรมหรือออกจํากกํารเป็นผู้ชําระบัญชี ให้ผู้ชําระบัญชีซึ่งได้รับกํารแต่งตั้งใหม่เป็นผู้ลงลํายมือชื่อในคําขอ จดทะเบียน และส่งหลักฐํานประกอบ ค ําขอจดทะเบียนดังต่อไปนี้ แล้วแต่กรณี (1) กรณีมีผู้ชําระบัญชีหลํายคนและยังมีผู้ชําระบัญชีเหลืออยู่ และปรํากฏว่ําผู้ชําระบัญชี ที่เหลืออยู่ได้เรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นและมีมติเปลี่ยนตัวผู้ชําระบัญชี หรือกําหนดอํานําจของผู้ชําระบัญชี ใ ห้ส่ง (1.1) ส ําเนําหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจํารณําเรื่องผู้ช ําระบัญชีหรือ กําหนดอํานําจของผู้ชําระบัญชี พร้อมด้วยหลักฐํานกํารส่งหนังสือบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น ทํางไปรษณีย์ตอบรับไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนหรือหลักฐํานกํารรับทรําบกํารเรียกประชุมให ญ่ผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี (1.2) หนังสือพิมพ์ที่ลงพิมพ์โฆษณําคําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (1.3) สําเนํารํายงํานกํารประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่ปรํากฏมติแต่งตั้งผู้ชําระบัญชีหรือกําหนด อ ํานําจของผู้ช ําระบัญชีตํามที่ขอจดทะเบียน (1.4) ส ําเนํารํายชื่อซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้เข้ําประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (1.5) ส ําเนําใบมรณะบัตร (กรณีถึงแก่กรรม) (2) กรณีไม่มีผู้ชําระบัญชีเหลืออยู่และผู้ถือหุ้นจํานวนรวมกันไม่น้อยกว่ําหนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้น ของบริษัทเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นและมีมติตั้งผู้ ช ําระบัญชีหรือกําหนดอ ํานําจของผู้ช ําระบัญชี ให้ส่ง (2.1) สําเนําหนังสือของผู้ถือหุ้นจํานวนไม่น้อยกว่ําหนึ่งในห้ําแห่งจํานวนหุ้นของบริษัท ที่เรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจํารณําเรื่องผู้ชําระบัญชี หรือกําหนดอํานําจของผู้ชําระบัญชี พร้อมด้วย หลักฐํานกํารส่งหนังสือบอกกล่ ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทํางไปรษณีย์ตอบรับไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนหรือ หลักฐํานกํารรับทรําบกํารเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี (2.2) หนังสือพิมพ์ที่ลงพิมพ์โฆษณําคําบอกกล่ําวเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (2.3) สําเนํารํายงํานกํารประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่ปรํากฏมติแต่งตั้ งผู้ชําระบัญชีหรือกําหนด อ ํานําจของผู้ช ําระบัญชีตํามที่ขอจดทะเบียน (2.4) ส ําเนํารํายชื่อซึ่งปรํากฏลํายมือชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้เข้ําประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น (2.5) ส ําเนําใบมรณะบัตร (กรณีถึงแก่กรรม) (3) กรณีศําลมีคําสั่งหรือคําพิพํากษํา ให้ส่งสําเนําคําสั่งหรือคําพิพํากษําของศําลที่แต่งตั้ง ผู้ช ําระบัญชี หรือก ําหนดอ ํานําจของผู้ช ําระบัญชี ส่วนที่ 3 กํารจดทะเบียนเสร็จกํารช ําระบัญชี ้ หนา 45 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ข้อ 10 4 กรณีห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทยื่นคําขอจดทะเบียนเสร็จกํารชําระบัญชี หํากปรํากฏ ข้อเท็จจริงว่ํากํารชําระบัญชียังไม่เสร็จสิ้น ให้นํายทะเบียนตรวจสอบหํากปรํากฏหลักฐํานชัดเจน ตํามข้อเท็จจริงดังกล่ําวก็ให้ระงับกํารจดทะเบียนเสร็จกํารช ําระบัญชีไว้ก่อน เพื่อรักษําประโยชน์ของรําชกําร ในกรณีที่หน่วยงํานของรัฐ ได้แก่ กรมสรรพํากร กรมศุลกํากร กรมสรรพสํามิต ส ํานักงํานคณะกรรมกํารคุ้มครองผู้บริโภค ส ํานั กงํานประกันสังคม ส ํานักงําน คณะกรรมกํารส่งเสริมกํารลงทุน มีหนังสือขอให้ระงับกํารจดทะเบียนเสร็จกํารชําระบัญชีห้ํางหุ้นส่วน หรือบริษัท ให้นํายทะเบียนให้ควํามร่วมมือระงับกํารจดทะเบียนเสร็จกํารช ําระบัญชีไว้เป็นเวลําไม่เกินหกเดือน นับแต่วันที่ลงในหนังสือ หํากหน่วยงํานใดประสงค์ จะขอให้ระงับกํารจดทะเบียนต่อไปอีกจะต้องมีหนังสือ แจ้งขอให้ระงับต่อไปอีกฉบับละไม่เกินหกเดือน เมื่อพ้นกําหนดระยะเวลําตํามหนังสือฉบับหนึ่ง ๆ แล้ว หํากไม่มีหนังสือแจ้งขอให้ระงับต่อไปอีก ให้นํายทะเบียนพิจํารณําสั่งกํารคําขอจดทะเบียนต่อไป กรณีหน่วยงํานอื่นของรัฐนอกจํากหน่วยงํานตํามวรรคสองมีหนังสือขอให้ระงับกํารจดทะเบียน เสร็จกํารชําระบัญชีห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท ให้นํายทะเบียนมีหนังสือแจ้งหน่วยงํานนั้น ๆ ว่ําจะระงับ กํารจดทะเบียนเสร็จกํารช ําระบัญชีไว้เป็นเวลําไม่เกินหกเดือนนับแต่วันที่ลงในหนังสือ หํากหน่ วยงํานใด ประสงค์จะขอให้ระงับกํารจดทะเบียนต่อไปอีกจะต้องมีหนังสือแจ้งขอให้ระงับต่อไปอีกฉบับละไม่เกินหกเดือน เมื่อพ้นก ําหนดระยะเวลําตํามหนังสือฉบับหนึ่ง ๆ แล้ว หํากไม่มีหนังสือแจ้งขอให้ระงับต่อไปอีก ให้นํายทะเบียนพิจํารณําสั่งกํารค ําขอจดทะเบียนต่อไป เมื่อนํายทะเบีย นให้ระงับกํารจดทะเบียนเสร็จกํารชําระบัญชีตํามที่กล่ําวข้ํางต้นไว้ครําวใด ให้หมํายเหตุในสํารบัญทะเบียนรวมทั้งบันทึกข้อมูลและภําพเอกสํารเข้ําระบบคอมพิวเตอร์โดยทันทีทุกครั้ง ข้อ 10 5 เมื่อได้รับจดทะเบียนเลิกหรือเสร็จกํารชําระบัญชีของห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทใดแล้ว ให้สํานักงําน ทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทรวบรวมรํายชื่อห้ํางหุ้นส่วนบริษัทดังกล่ําวแจ้งเจ้ําหน้ําที่สรรพํากร ภํายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป เว้นแต่กรณีที่ได้มีกํารเชื่อมโยงข้อมูลทํางทะเบียนของห้ํางหุ้นส่วนบริษัท ทํางสื่ออิเล็กทรอนิกส์กับกรมสรรพํากรแล้ว หมวด 6 กํารถอนทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนแ ละบริษัทจํากัดร้ําง ข้อ 10 6 เมื่อปรํากฏกรณีดังต่อไปนี้ ให้สันนิษฐํานว่ําห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทมิได้ทํากํารค้ํา หรือประกอบกํารงํานหรือไม่มีตัวผู้ชําระบัญชีทํากํารอยู่ แล้วแต่กรณี ให้นํายทะเบียนดําเนินกําร ตํามมําตรํา 1273/1 มําตรํา 1273/2 และมําตรํา 1273/3 เพื่อขีดชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น ออกจํากทะเบียน (1) ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทใดมิได้ส่งงบกํารเงินนับแต่ปีปัจจุบันย้อนหลังสํามปีติดต่อกัน หรือ ้ หนา 46 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(2) ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่อยู่ระหว่ํางช ําระบัญชี แต่ผู้ช ําระ บัญชีมิได้ท ํารํายงําน กํารชําระบัญชี หรือมิได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จกํารชําระบัญชีให้เสร็จสิ้นภํายในสํามปีนับแต่วันรับจดทะเบียนเลิก และนํายทะเบียนได้มีหนังสือส่งทํางไปรษณีย์ตอบรับไปยังห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทและผู้ชําระบัญชีแจ้งให้ ดําเนินกํารเพื่อให้มีตัวผู้ช ําระบัญชี หรือ ยื่นรํายงํานกํารชําระบัญชี หรือจดทะเบียนเสร็จกํารชําระบัญชี ภํายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ส่งหนังสือแล้ว แต่ผู้ช ําระบัญชีมิได้ปฏิบัติตําม หรือ (3) นํายทะเบียนมีมูลเหตุอื่นที่เชื่อได้ว่ําห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทมิได้ประกอบกํารงําน นอกเหนือจํากกรณีตําม (1) และ (2 ) ข้อ 10 7 ในระหว่ํางกํารดําเนินกํารถอนทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทร้ําง หํากปรํากฏ ข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้ให้นํายทะเบียนพิจํารณําระงับกํารขีดชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจํากทะเบียน ( 1 ) ภํายในสํามสิบวันนับแต่วันที่ส่งหนังสือสอบถํามกํารประกอบกํารงําน ถ้ํานํายทะเบียน ได้รับค ํา ตอบจํากห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทเป็นหนังสือว่ํายังคงท ํากํารค้ําหรือประกอบกํารงํานอยู่ ( 2 ) ภํายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ส่งหนังสือแจ้งให้ดําเนินกํารเพื่อให้มีตัวผู้ชําระบัญชี หรือยื่นรํายงํานกํารชําระบัญชีหรือจดทะเบียนเสร็จกํารชําระบัญชี ถ้ําห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือผู้ ชําระบัญชี ด ําเนินกํารให้มีตัวผู้ช ําระบัญชีหรือยื่นรํายงํานกํารช ําระบัญชีหรือจดทะเบียนเสร็จกํารช ําระบัญชี แล้วแต่กรณี ( 3 ) ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทแสดงหลักฐําน ให้เห็นว่ํามีเหตุอื่นที่ไม่อําจขีดชื่อออกจํากทะเบียนได้ เมื่อพ้นระยะเวลําตําม (1) หรือ (2) แล้ว ( 4 ) ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทไม่มีที่ตั้งสํานักงํานแห่งใหญ่ตํามที่จดทะเบียนไว้ แต่ในระหว่ําง ดําเนินกํารได้มําจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมที่ตั้งส ํานักงํานแห่งใหญ่ ( 5 ) มีกํารส่งงบกํารเงิน ( 6 ) มีกํารจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรํายกํารทํางทะเบียนหรือยื่นเอกสํารอื่นที่เกี่ยวข้องทํางทะเบียน ของห้ ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือมีกํารส่งบัญชีรํายชื่อผู้ถือหุ้นครั้งสุดท้ํายถึงวันที่ตรวจสอบไม่เกิน 3 ปี ( 7 ) มีกํารจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรํายกํารทํางทะเบียนเกี่ยวกับผู้ชําระบัญชีหรือสํานักงําน ของผู้ชําระบัญชี หรือยื่นเอกสํารอื่น ที่เกี่ยวข้องทํางทะเบียนของห้ํางหุ้นส่วนหรือ บริษัทครั้งสุดท้ําย ถึงวันที่ตรวจสอบไม่เกิน 3 ปี (8) ห้ํางหุ้นส่วนได้จดทะเบียนควบกับห้ํางหุ้นส่วน หรือบริษัทจํากัดได้จดทะเบียนควบกับ บริษัทจ ํากัดอื่นแล้ว หรืออยู่ในระหว่ํางดําเนินกํารจดทะเบียนควบห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัท แล้วแต่กรณี (9) ห้ํางหุ้นส่วนได้แปรสภําพเป็น บริษัทจ ํากัด หรือบริษัทจ ํากัดได้แปรสภําพเป็นบริษัท มหําชนจํากัดแล้ว หรืออยู่ในระหว่ํางดําเนินกํารจดทะเบียนแปรสภําพเป็นบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหําชนจ ํากัด แล้วแต่กรณี (10) มีกํารยื่นขอจดทะเบียนเลิกห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อนํายทะเบียน ทั้งนี้ ไม่ว่ํานํายทะเบียน จะได้ รับจดทะเบียนเลิกห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นแล้วหรือไม่ ้ หนา 47 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
(11) ห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทได้ถูกศําลพิพํากษําหรือมีคําสั่งให้ล้มละลําย พิทักษ์ทรัพย์ชั่วครําว หรือพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขําด หรือมีคําสั่งอื่นตํามกฎหมํายล้มละลําย (12) ศําลมีคําสั่งรับค ําร้องฟื้นฟูกิจกํารหรืออยู่ในระหว่ํางดําเนินกํารตํามแผนฟื้นฟูกิจกําร (13) มีหลักฐํานเป็นหนังสือแจ้งต่อนํายทะเบียนว่ําห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทอยู่ในระหว่ําง กํารฟ้องร้องดําเนินคดี หรือศําลมีคําสั่งห้ํามมิให้นํายทะเบียนรับจดทะเบียนเป็นกํารชั่วครําว หรือ มีค ําสั่ งศําลในท ํานองเดียวกัน หรือมีกํารคัดค้ํานกํารจดทะเบียน ข้อ 10 8 ให้น ําควํามในข้อ 10 4 วรรคสอง วรรคสําม และวรรคสี่ มําใช้บังคับแก่ กํารขอให้ระงับกํารขีดชื่อห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจํากทะเบียนโดยอนุโลม หมวด 7 กํารอุทธรณ์คําสั่งนํายทะเบียน ข้อ 10 9 ในกรณีนํายทะเบียนมีคําสั่งปฏิเสธกํารจดทะเบียน หรือกํารจดทะเบียนที่มีผู้คัดค้ําน และค ําคัดค้ํานฟังไม่ขึ้น ให้นํายทะเบียนแจ้งผลกํารพิจํารณําค ําขอจดทะเบียนหรือคําคัดค้ํานเป็นหนังสือ ส่งทํางไปรษณีย์ตอบรับไปยังภูมิล ําเนําของผู้ขอจดทะเบียนหรือผู้คัดค้ํานแล้วแต่กรณีโดยระบุ วัน เดือน และปี ที่ทําคําสั่ง ชื่อและตําแหน่งของเจ้ําหน้ําที่ที่ทําคําสั่ง ลํายมือชื่อของเจ้ําหน้ําที่ที่ทําคําสั่ง และ เหตุผลที่ทําคําสั่งซึ่งประกอบด้วยข้อเท็จจริงอันเป็นสําระสําคัญ ข้อกฎหมํายที่อ้ํางอิง ข้อพิจํารณําและ ข้อสนับสนุนในกํารใช้ดุลพินิจ พร้อมทั้งแจ้งให้ทรําบด้ว ยว่ําผู้นั้นมีสิทธิอุทธรณ์คําสั่งของนํายทะเบียน ภํายในสิบห้ําวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งค ําสั่งดังกล่ําว ข้อ 1 10 คําอุทธรณ์ต้องทําเป็นหนังสือระบุข้อโต้แย้ง ข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมํายที่อ้ํางอิง ให้ชัดเจนโดยยื่นต่อนํายทะเบียนผู้ออกค ําสั่ง ข้อ 11 1 เมื่อได้รับค ําอุทธรณ์ ให้นํายทะเบียนผู้ออกคําสั่งพิจํารณําค ําอุทธรณ์ หํากเห็นด้วย กับคําอุทธรณ์ก็ให้ดําเนินกํารเปลี่ยนแปลงคําสั่ง แต่หํากไม่เห็นด้วยกับคําอุทธรณ์ให้สรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมําย และทําควํามเห็นเสนอผู้มีอํานําจพิจํารณําคําอุทธรณ์ภํายในสํามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับ ค ําอุทธรณ์ตํามกฎหมํา ยว่ําด้วยวิธีปฏิบัติรําชกํารทํางปกครอง กรณีที่นํายทะเบียนผู้ออกคําสั่งไม่อยู่หรือไม่อําจปฏิบัติงํานได้ ให้ผู้อํานวยกํารกลุ่มทะเบียนธุรกิจ และอ ํานวยควํามสะดวกทํางกํารค้ํา หรือผู้อ ํานวยกํารส ํานักงํานพัฒนําธุรกิจกํารค้ําเขต หรือ ผู้อํานวยกํารส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลําง หรือผู้ทําหน้ ําที่แทนบุคคลดังกล่ําว เป็นผู้พิจํารณําคําอุทธรณ์ หรือมอบหมํายให้นํายทะเบียนอื่นเป็นผู้รับผิดชอบพิจํารณําค ําอุทธรณ์ตํามวรรคหนึ่ง หมวด 8 กํารถอน กํารจ ําหน่ําย และกํารทําลํายค ําขอจดทะเบียนและเอกสํารเกี่ยวกับทะเบียน ้ หนา 48 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566
ข้อ 11 2 ในกรณีที่นํายทะเบียนยังไม่ได้รับจดทะเบียนคําขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือ บริษัทใดที่ได้ยื่นขอจดทะเบียนไว้ หํากมีกํารขอถอนคําขอ นํายทะเบียนจะอนุญําตให้ถอนคําขอนั้นได้ เมื่อปรํากฏว่ํา ผู้ขอจดทะเบียนเป็นผู้ลงลํายมือชื่อในหนังสือขอถอนคําขอ เมื่ออนุญําตให้ถอนคําขอจดทะเบียน แล้ว ให้นํายทะเบียนบันทึกถอนคําขอในสํารบัญทะเบียน และในระบบคอมพิวเตอร์และให้จ ําหน่ํายค ําขอนั้นออกจํากสํารบบ ข้อ 11 3 ค ําขอจดทะเบียนห้ํางหุ้นส่วนหรือบริษัทที่นํายทะเบียนได้ตรวจพิจํารณําและมีคําสั่ง อย่ํางใดอย่ํางหนึ่งแล้ว ให้นํายทะเบียนแจ้งคําสั่งและกําหนดระยะเวลําให้ผู้ขอจดทะ เบียนหรือผู้รับมอบอํานําจ ทรําบว่ําจะต้องด ําเนินกํารตํามค ําสั่งให้เสร็จสิ้นภํายในสองเดือนนับแต่วันที่มีค ําสั่งในค ําขอนั้น โดยให้ลงลํายมือชื่อรับทรําบในแบบ ต. (แบบตรวจคําขอจดทะเบียน) และผู้ขอจดทะเบียนจะต้อง ดําเนินกํารตํามคําสั่งของนํายทะเบียนภํายในระยะเวลําที่ก ําหนด เมื่อคร บกําหนดระยะเวลําตํามวรรคหนึ่ง หํากผู้ขอจดทะเบียนยังมิได้ดําเนินกํารตํามคําสั่ง ของนํายทะเบียน ให้นํายทะเบียนจ ําหน่ํายค ําขอนั้นออกจํากสํารบบ และบันทึกจ ําหน่ํายค ําขอ ในสํารบัญทะเบียนและในระบบคอมพิวเตอร์ ข้อ 11 4 บรรดําคําขอที่นํายทะเบียนไม่รับจดทะเบียน คําขอที่ผู้ขอจดทะเบียนขอ ถอน หรือละทิ้ง เมื่อนํายทะเบียนได้จ ําหน่ํายออกจํากสํารบบแล้วให้ดําเนินกํารท ําลํายได้ตํามระเบียบงํานสํารบรรณ เอกสํารอื่นนอกจํากเอกสํารตํามวรรคหนึ่ง นํายทะเบียนจะทําลํายได้ก็ต่อเมื่อมีกฎหมําย ให้อ ํานําจนํายทะเบียนที่จะท ําลํายเอกสํารดังกล่ําวได้ อํากรแสตมป์ที่ผนึกอยู่บนเอกสํารที่จะท ําลํายได้ให้ท ําลํายเสียด้วย บทเฉพําะกําล ข้อ 11 5 บรรดําคําขอจดทะเบียนซึ่งได้ยื่นขอจดทะเบียนไว้ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้เป็นไปตํามระเบียบที่ใช้บังคับอยู่ในขณะยื่นค ําขอจดทะเบียนนั้น ข้อ 11 6 ค ําขอจดทะเบียนตํามข้อ 11 5 ที่นํายทะเบียนได้ตรวจพิจํารณําและมีคําสั่ง อย่ํางหนึ่งอย่ํางใดแล้วก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ถ้ําผู้ขอจดทะเบีย นมิได้ดําเนินกํารตํามคําสั่งของ นําย ทะเบียนให้เสร็จสิ้นภํายในสองเดือนนับแต่วันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ นํายทะเบียนจะจ ําหน่ํายค ําขอ จดทะเบียนนั้นออกจํากสํารบบ ประกําศ ณ วันที่ 1 พฤศจิกํายน พ.ศ. 2 561 วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนําธุรกิจกํารค้ํา นํายทะเบียนกลําง ้ หนา 49 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 13 ง ราชกิจจานุเบกษา 19 มกราคม 2566