ประกาศสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต เรื่อง กำหนดห้วงเวลาให้ผู้ประสงค์ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ประเภท การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง และการเพาะเลี้ยงหอยทะเล มายื่นคำขอรับใบอนุญาต พ.ศ. 2566

ประกาศสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต เรื่อง กำหนดห้วงเวลาให้ผู้ประสงค์ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ประเภท การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง และการเพาะเลี้ยงหอยทะเล มายื่นคาขอรับใบอนุญาต พ.ศ. 2566 โดยที่กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้าในที่จับสัตว์น้า ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. 2559 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 กาหนดให้ประมงจังหวัด ประกาศกาหนดห้วงเวลาที่จะให้ผู้ประสงค์จะทาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้าในที่จับสัตว์น้าซึ่งเป็นสาธารณสมบัติ ของแผ่นดิน มายื่นคำขอรับใบอนุญาต ตามประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดแบบคำขอใบรับอนุญาต ใบรับคาขอ ใบอนุญาต คาขอรับโอนใบอนุญาต คาขอรับใบแทนใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในที่จับสัตว์น้าซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ประกอบกับคณะกรรมการประมงประจาจังหวัดภูเก็ตได้กาหนดเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้าสาหรับกิจการ เพาะเลี้ยงสัตว์น้าควบคุม ประเภท กา รเพาะเลี้ยงสัตว์น้าในกระชัง และการเพาะเลี้ยงหอยทะเล ตามประกาศคณะกรรมการประมงประจาจังหวัดภูเก็ต เรื่อง กาหนดเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้าสาหรับ กิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้าควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงสัตว์น้าในกระชัง พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 และประกาศคณะกรรมการประมงประจาจังหวัดภูเก็ต เรื่อง กาหนดเขต เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสาหรับกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้าควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงหอยทะเล พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 นั้น อาศัยอานาจตามความในข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้ทาการ เพาะเลี้ยงสัตว์น้าในที่จับสัตว์น้าซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. 2559 ประมงจังหวัดภูเก็ต จึงออกประกาศกาหนดห้วง เวลา ที่จะให้ผู้ประสงค์จะทาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้าในที่จับสัตว์น้าซึ่งเป็นสาธารณสมบัติ ของแผ่น ดิน ประเภท การเพาะเลี้ยงสัตว์น้าในกระชัง และการเพาะเลี้ยงหอยทะเล มายื่นคาขอรับใบอนุญาต ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 เมื่อพ้นกาหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลบังคับใช้ ให้ผู้ประสงค์จะทาการ เพาะเลี้ยงสัตว์น้าในที่จับสัตว์น้าซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ประเภท การเพาะเลี้ยงสัตว์น้า ในกระชัง และการเพาะเลี้ยงหอยทะเล มายื่นคำขอรับใบอนุญาต ในวันและเวลาราชการ ระยะเวลาในการยื่นคำขอตามวรรคหนึ่งให้มีกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ข้อ 2 สถานที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต การเพาะเลี้ยงสัตว์น้าในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ประเภท การเพาะเลี้ยง สัตว์น้าในกระชัง และการเพาะเลี้ยงหอยทะเล ในอาเภอเมืองภูเก็ต และอาเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ให้ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานประมงอาเภอ แห่งท้องที่ที่ประสงค์จะ ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้า หรือส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ของสานักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ( E - mail ) fpo_phuket@fisheries . go . th ที่ประสงค์จะทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ้ หนา 10 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 125 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤษภาคม 2566

ข้อ 3 เอกสารหรือหลักฐานที่ต้องแนบหรือแสดงประกอบการยื่นคำขอรับใบอนุญาต ( 1 ) แสดงบัตรประจำตัวประชาชนผู้ยื่นคาขอที่ยังไม่หมดอายุ ( 2 ) แสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ และหลักฐาน แสดงวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการประมง ซึ่งออกให้ไม่เกิน 6 เดือน หรือสาเนาภาพถ่าย (กรณีเป็นนิติบุคคล) ( 3 ) แนบเอกสารหรือหลั กฐานการได้รับอนุญาตจากกรมประมงล่าสุด (ถ้ามี) ( 4 ) แนบหนังสือเดินทางหรือใบสำคัญประจาตัวคนต่างด้าว (เฉพาะกรณี คนต่างด้าวที่ได้รับ การยกเว้นตามมาตรา 10 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542) ( 5 ) แนบหลักฐานการได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว (เฉพาะกรณี คนต่างด้าวที่ได้รับการยกเว้นตามมาตรา 10 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ ของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542) ( 6 ) แนบใบอนุญาตประกอบธุรกิจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุร กิจ ของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (เฉพาะกรณี คนต่างด้าวที่ได้รับการยกเว้นตามมาตรา 10 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542) ( 7 ) แนบหนังสือมอบอานาจ ปิดอากรแสตมป์ 10 บาท พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ผู้มอบอำนาจ และแสดงบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจ) ( 8 ) แนบแผนผังหรือแผนที่โดยสังเขปแสดงที่ตั้งสถานที่ที่จะขออนุญาตทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 2 8 เมษายน พ.ศ. 256 6 สิทธิพล เมืองสง ประมงจังหวัดภูเก็ต ้ หนา 11 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 125 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤษภาคม 2566