Tue May 30 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2566


ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2566

ระเบียบส ํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐ พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นกํารสมควรปรับปรุงระเบียบสํานักนํายกรัฐมนตรีว่ําด้วยกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐ ซึ่งเป็นมําตรกํารในกํารควบคุมดูแลเรื่องกํารเรี่ยไรของทํางรําชกํารเพื่อป้องกันกํารทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนกํารปฏิรูปประเทศด้ํานกํารป้องกันและปรําบปรํามกํารทุจริตและประพฤติมิชอบ และกฎหมํายประกอบรัฐธรรมนูญว่ําด้วยกํารป้องกันและปรําบปรํามกํารทุจริต จึงสมควร กําหนด ระเบียบดังกล่ําวเสียใหม่ เพื่อให้มีควํามเหมําะสมกับสถํานกํารณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน อําศัยอ ํานําจตํามควํามในมําตรํา 11 (8) แห่งพระรําชบัญญัติระเบียบบริหํารรําชกํารแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นํายกรัฐมนตรีโดยควํามเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงวํางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่ํา “ ระเบียบสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐ พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจํากวันประกําศในรําชกิจจํานุเบกษําเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิก (1) ระเบียบส ํานักนํายกรัฐมนตรีว่ําด้วยกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐ พ.ศ. 2544 (2) ระเบียบส ํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 ข้อ 4 ในระเบียบนี้ “ กํารเรี่ยไร ” หมํายควํามว่ํา กํารเก็บเงินหรือทรัพย์สิน โดยขอร้องให้ช่วยออกเงินหรือ ทรัพย์สินตํามใจสมัคร และให้หมํายควํามรวมถึงกํารซื้อขําย แ ลกเปลี่ยน ชดใช้หรือบริกํารซึ่งมีกําร แสดงโดยตรงหรือโดยปริยํายว่ํามิใช่เป็นกํารซื้อขําย แลกเปลี่ยน ชดใช้หรือบริกํารธรรมดํา แต่เพื่อรวบรวมเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มําทั้งหมดหรือบํางส่วนไปใช้ในกิจกํารอย่ํางใดอย่ํางหนึ่งนั้นด้วย “ เข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไร ” หมํา ยควํามว่ํา เข้ําไปช่วยเหลือโดยมีส่วนร่วมในกําร จัดให้มีกํารเรี่ยไรในฐํานะเป็นผู้ร่วมจัดให้มีกํารเรี่ยไร ผู้สนับสนุน หรือเป็นกรรมกําร อนุกรรมกําร คณะทํางําน ที่ปรึกษํา หรือในฐํานะอื่นใดในกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐที่ขออนุมัติจัดให้มีกํารเรี่ยไร หรือหน่วยงําน องค์ก ร บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นใด ที่มีเจ้ําหน้ําที่ของรัฐเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่ํา จะโดยตรงหรือโดยอ้อมกับกํารเรี่ยไรนั้น “ หน่วยงํานของรัฐ ” หมํายควํามว่ํา รําชกํารส่วนกลําง รําชกํารส่วนภูมิภําค รําชกํารส่วนท้องถิ่น รัฐวิสําหกิจ องค์กํารมหําชน และหน่วยงํานที่อยู่ในกํากับดูแลของฝ่ํายบริหําร ทั้งในรําชกํารส่วนกลําง รําชกํารส่วนภูมิภําค และรําชกํารส่วนท้องถิ่น “ เจ้ําหน้ําที่ของรัฐ ” หมํายควํามว่ํา ข้ํารําชกําร พนักงําน ลูกจ้ําง หรือผู้ปฏิบัติงํานอื่น ในหน่วยงํานของรัฐ ้ หนา 1 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 125 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤษภาคม 2566

ข้อ 5 ให้ปลัดส ํานัก นํายกรัฐมนตรีรักษํากํารตํามระเบียบนี้ หมวด 1 บททั่วไป ข้อ 6 หน่วยงํานของรัฐจะจัดให้มีกํารเรี่ยไรหรือเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไรมิได้ เว้นแต่เป็นกํารเรี่ยไรตํามข้อ 19 หรือได้รับอนุมัติจําก กคร. หรือ กคร. จังหวัด แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ตํามหลักเกณฑ์ที่ก ําหนดไว้ในระเบียบนี้ หน่วยงํานของรัฐซึ่งจะต้องได้รับอนุญําตในกํารเรี่ยไรตํามกฎหมํายว่ําด้วยกํารควบคุมกํารเรี่ยไร นอกจํากจะต้องปฏิบัติตํามกฎหมํายว่ําด้วยกํารควบคุมกํารเรี่ยไรแล้ว จะต้องปฏิบัติตํามหลักเกณฑ์ ที่กําหนดไว้ในระเบียบนี้ด้วย ในกรณีนี้ กคร. อําจ กําหนดแนวทํางปฏิบัติของหน่วยงํานของรัฐดังกล่ําว ให้สอดคล้องกับกฎหมํายว่ําด้วยกํารควบคุมกํารเรี่ยไรก็ได้ ข้อ 7 ให้ผู้บังคับบัญชํามีหน้ําที่ควบคุมดูแลให้เจ้ําหน้ําที่ของรัฐปฏิบัติตํามระเบียบนี้ โดยเคร่งครัด ในกรณีที่เจ้ําหน้ําที่ของรัฐผู้ใดฝ่ําฝืนหรือไม่ปฏิบัติตํามระเบียบนี้ ให้ผู้บังคับบัญชําดําเนินกําร ลงโทษทํางวินัยแก่เจ้ําหน้ําที่ของรัฐผู้นั้นตํามควรแก่กรณี และในกรณีที่ผู้บังคับบัญชําเห็นว่ํากํารกระทํานั้น อําจมีเหตุเกี่ยวข้องกับกํารทุจริตและประพฤติมิชอบในวงรําชกําร มีมูลควํามผิดทํางอําญํา หรือ อําจเป็นกํารฝ่ําฝืนกฎหมํายอื่น ให้ผู้บังคับบัญ ชําแจ้งให้หน่วยงํานที่มีหน้ําที่และอํานําจในเรื่องนั้น เพื่อพิจํารณําดําเนินกํารต่อไป หมวด 2 คณะกรรมกํารควบคุมกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐ ข้อ 8 ให้มีคณะกรรมกํารควบคุมกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐ เรียกโดยย่อว่ํา “ กคร. ” ประกอบด้วยรองนํายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจําสํานักนํายกรัฐมนตรีที่นํายกรัฐมนตรีมอบหมําย เป็นประธํานกรรมกําร ผู้แทนสํานักนํายกรัฐมนตรี ผู้แทนกระทรวงกลําโหม ผู้แทนกระทรวงกํารคลัง ผู้แทนกระทร วงกํารท่องเที่ยวและกีฬํา ผู้แทนกระทรวงมหําดไทย ผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนกระทรวงศึกษําธิกําร ผู้แทนกระทรวงสําธํารณสุข ผู้แทนส ํานักงํานต ํารวจแห่งชําติ และ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนํายกรัฐมนตรีแต่งตั้งอีกไม่เกินสี่คน เป็นกรรมกําร และผู้แทนส ํานักงํานปลัด ส ํานักนํายกรัฐมนตรี เป็นกรรมกํารและเลขํานุกําร กคร. จะแต่งตั้งข้ํารําชกํารในส ํานักงํานปลัดส ํานักนํายกรัฐมนตรีจ ํานวนไม่เกินสองคน เป็นผู้ช่วยเลขํานุกํารก็ได้ ข้อ 9 ให้กรรมกํารซึ่งนํายกรัฐมนตรีแต่งตั้งมีวําระอยู่ในตําแหน่งครําวละสองปี กรรมกําร ซึ่งพ้นจํากตําแหน่งอําจได้รับแต่งตั้งอีกได้ ้ หนา 2 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 125 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤษภาคม 2566

ให้กรร มกํารซึ่งพ้นจํากตําแหน่งตํามวําระปฏิบัติหน้ําที่ไปพลํางก่อน จนกว่ําจะมีกํารแต่งตั้ง กรรมกํารใหม่ ข้อ 10 นอกจํากกํารพ้นจํากตําแหน่งตํามวําระตํามข้อ 9 กรรมกํารซึ่งนํายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง พ้นจํากตําแหน่งเมื่อ (1) ตําย (2) ลําออก (3) ต้องโทษจําคุกตํามคําพิพํากษําถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับควํามผิดที่กระทํา โดยประมําทหรือควํามผิดลหุโทษ (4) เป็นคนไร้ควํามสํามํารถหรือคนเสมือนไร้ควํามสํามํารถ (5) เป็นบุคคลล้มละลําย (6) นํายกรัฐมนตรีให้ออก ในกรณีที่กรรมกํารซึ่งนํายกรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจํากตําแหน่งก่อนวําระ ให้นํายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ผู้อื่นเป็นกรร มกํารแทน และให้กรรมกํารซึ่งได้รับแต่งตั้งอยู่ในตําแหน่งเท่ําวําระที่เหลืออยู่ของกรรมกําร ซึ่งตนแทน เว้นแต่วําระกํารดํารงตําแหน่งของกรรมกํารเหลืออยู่ไม่ถึงเก้ําสิบวันจะไม่แต่งตั้งกรรมกําร แทนก็ได้ ในกรณีที่กรรมกํารซึ่งนํายกรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจํากตําแหน่งก่อนวําระ ให้ กคร . ประกอบด้วย กรรมกํารทั้งหมดเท่ําที่มีอยู่จนกว่ําจะมีกํารแต่งตั้งตํามวรรคสอง ข้อ 11 กคร. มีหน้ําที่และอ ํานําจดังต่อไปนี้ (1) พิจํารณําเสนอควํามเห็นต่อคณะรัฐมนตรีในกํารแก้ไขปรับปรุงระเบียบนี้ (2) กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีกํารในกํารยื่นคําขออนุมัติให้จัดให้มีกํารเรี่ยไร หรือเข้ําไปมีส่วน เกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไรตํามระเบียบนี้ (3) พิจํารณําอนุมัติให้หน่วยงํานของรัฐที่ประสงค์จะทํากํารเรี่ยไร หรือเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้อง กับกํารเรี่ยไรในเขตกรุงเทพมหํานครหรือในเขตท้องที่เกินหนึ่งจังหวัด จัดให้มีกํารเรี่ยไรหรือเข้ําไปมีส่วน เกี่ยวข้องกับก ํารเรี่ยไรตํามหลักเกณฑ์ที่ก ําหนดไว้ในระเบียบนี้ (4) ระงับกํารเรี่ยไรที่ไม่ได้รับอนุมัติตํามระเบียบนี้ หรือเพิกถอนกํารอนุมัติที่อยู่ระหว่ําง กํารเรี่ยไรในกรณีที่หน่วยงํานของรัฐไม่ปฏิบัติตํามระเบียบนี้ (5) กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีดําเนินกํารกับเงินหรือทรัพย์สินที่หน่ว ยงํานของรัฐได้รับมําจําก กํารเรี่ยไร โดยฝ่ําฝืนหรือไม่ปฏิบัติตํามระเบียบนี้ (6) ให้ค ําปรึกษําแก่หน่วยงํานของรัฐและเจ้ําหน้ําที่ของรัฐในกํารปฏิบัติตํามระเบียบนี้ (7) มอบหมํายให้ กคร. จังหวัด ปฏิบัติกํารอื่นใดตํามที่เห็นสมควร (8) ตีควํามและวินิจฉัยปัญหําเกี่ยวกับกํารปฏิบั ติตํามระเบียบนี้ ้ หนา 3 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 125 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤษภาคม 2566

(9) ปฏิบัติกํารอื่นใดตํามที่ระเบียบนี้กําหนดให้เป็นหน้ําที่และอํานําจของ กคร. หรือตํามที่ คณะรัฐมนตรีหรือนํายกรัฐมนตรีมอบหมําย เมื่อ กคร. ได้พิจํารณําอนุมัติตําม (3) แล้ว ให้แจ้งให้สํานักงํานกํารตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อทรําบด้วย ข้อ 12 กํารประชุมของ กคร. ต้องมีกรรมกํารมําประชุมไม่น้อยกว่ํากึ่งหนึ่งของจ ํานวน กรรมกํารทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม ในกํารประชุมครําวใด ถ้ําประธํานกรรมกํารไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สํามํารถปฏิบัติหน้ําที่ได้ ให้กรรมกํารที่มําประชุมเลือกกรรมกํารคนหนึ่งเป็นประธํานในที่ประชุม กํารวินิจฉัยชี้ขําดข องที่ประชุมให้ถือเสียงข้ํางมําก กรรมกํารคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในกําร ลงคะแนน ถ้ําคะแนนเสียงเท่ํากัน ให้ประธํานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขําด ข้อ 13 กคร. จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมกํารหรือคณะทํางํานเพื่อพิจํารณํา หรือปฏิบัติกําร อย่ํางใดอย่ํางหนึ่ง ตํามที่ กคร. มอบหมํายก็ได้ กํารประชุมของคณะอนุกรรมกําร หรือคณะท ํางําน ให้นําควํามในข้อ 12 มําใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ 14 ให้มีสํานักงํานเลขํานุกําร กคร. ขึ้นในสํานักงํานปลัดสํานักนํายกรัฐมนตรี มีหน้ําที่ ปฏิบัติงํานธุรกํารและงํานอื่นตํามที่ กคร. มอบหมําย หมวด 3 คณะกรรมก ํารควบคุมกํารเรี่ยไรจังหวัด ข้อ 15 ให้มีคณะกรรมกํารควบคุมกํารเรี่ยไรจังหวัดในทุกจังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหํานคร เรียกโดยย่อว่ํา “ กคร. จังหวัด ” โดยออกนํามจังหวัดนั้น ประกอบด้วย ผู้ว่ํารําชกํารจังหวัด เป็นประธํานกรรมกําร ปลัดจังหวัด อัยกํารจังหวัดซึ่งเป็นหัวหน้ําที่ทํากํารอัยกํารจังหวัด ผู้บังคับกําร ตํารวจภูธรจังหวัด ศึกษําธิกํารจังหวัด สรรพํากรพื้นที่ นํายแพทย์สําธํารณสุขจังหวัด ผู้อํานวยกําร สํานักงํานพระพุทธศําสนําจังหวัด นํายกองค์กํารบริหํารส่วนจังหวัด และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งผู้ว่ํารําชกําร จังหวัดแต่งตั้ งอีกไม่เกินสี่คน เป็นกรรมกําร และหัวหน้ําส ํานักงํานจังหวัดเป็นกรรมกํารและเลขํานุกําร กคร. จังหวัด จะแต่งตั้งเจ้ําหน้ําที่ของส ํานักงํานจังหวัดจ ํานวนไม่เกินสองคนเป็น ผู้ช่วยเลขํานุกํารก็ได้ ข้อ 16 ให้ กคร. จังหวัด มีหน้ําที่ช่วย กคร. ปฏิบัติกํารในจังหวัด และให้มีหน้ําที่ และอ ํานําจดังต่อไปนี้ (1) พิจํารณําอนุมัติให้หน่วยงํานของรัฐที่ประสงค์จะทํากํารเรี่ยไรหรือเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้อง กับกํารเรี่ยไรภํายในเขตจังหวัด จัดให้มีกํารเรี่ยไรหรือเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไรตํามหลักเกณฑ์ ที่ก ําหนดไว้ในระเบียบนี้ ้ หนา 4 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 125 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤษภาคม 2566

(2) ระงับก ํารเรี่ยไรที่ไม่ได้รับอนุมัติตํามระเบียบนี้ หรือเพิกถอนกํารอนุมัติที่อยู่ระหว่ําง กํารเรี่ยไรในกรณีที่หน่วยงํานของรัฐไม่ปฏิบัติตํามระเบียบนี้ (3) ปฏิบัติกํารอื่นใดตํามที่ระเบียบนี้ก ําหนดให้เป็นหน้ําที่และอ ํานําจของ กคร. จังหวัด หรือ ตํามที่ กคร. มอบหมําย เมื่อ กคร. จังหวัด ได้พิจํารณําอนุมัติตําม (1) แล้ว ให้แจ้งให้สํานักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนั้น และรํายงําน กคร. เพื่อทรําบด้วย ข้อ 17 ให้นําควํามในข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 12 และข้อ 13 มําใช้บังคับกับวําระกํารดํารงตําแหน่ง และกํารพ้นจํากตําแหน่งของกรรมกํารซึ่งผู้ว่ํารําชกํารจังหวั ดแต่งตั้ง กํารประชุม กคร. จังหวัด และ กํารแต่งตั้งคณะอนุกรรมกํารหรือคณะท ํางํานโดยอนุโลม หมวด 4 หลักเกณฑ์กํารเรี่ยไร ข้อ 18 กํารเรี่ยไรหรือเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไรที่ กคร. หรือ กคร. จังหวัด แล้วแต่กรณี จะพิจํารณําอนุมัติให้ตํามข้อ 6 ได้นั้นจะต้องมีลักษณะและวัตถุประสงค์อย่ํางหนึ่งอย่ํางใด ดังต่อไปนี้ (1) เป็นกํารเรี่ยไรที่หน่วยงํานของรัฐเป็นผู้ด ําเนินกํารเพื่อประโยชน์แก่หน่วยงํานของรัฐนั้นเอง (2) เป็นกํารเรี่ยไรที่หน่วยงํานของรัฐเป็นผู้ดําเนินกํารเพื่อประโยชน์แก่กํารป้องกันหรือพัฒนํา ประเทศ (3) เป็ นกํารเรี่ยไรที่หน่วยงํานของรัฐเป็นผู้ด ําเนินกํารเพื่อสําธํารณประโยชน์ (4) เป็นกรณีที่หน่วยงํานของรัฐเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไรของบุคคลหรือนิติบุคคล ที่ได้รับอนุญําตจํากคณะกรรมกํารควบคุมกํารเรี่ยไรตํามกฎหมํายว่ําด้วยกํารควบคุมกํารเรี่ยไรแล้ว ข้อ 19 กํารเรี่ยไรหรือเ ข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไรดังต่อไปนี้ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้อง ขออนุมัติจําก กคร. หรือ กคร. จังหวัด แล้วแต่กรณี (1) เป็นนโยบํายเร่งด่วนของรัฐบําล และมีมติคณะรัฐมนตรีให้เรี่ยไรได้ (2) เป็นกํารเรี่ยไรที่รัฐบําลหรือหน่วยงํานของรัฐจําเป็นต้องดําเนินกํารเพื่อ ช่วยเหลือผู้เสียหําย หรือบรรเทําควํามเสียหํายที่เกิดจํากสําธํารณภัยหรือเหตุกํารณ์ใดที่ส ําคัญ (3) เป็นกํารเรี่ยไรเพื่อร่วมกันท ําบุญเนื่องในโอกําสกํารทอดผ้ําพระกฐินพระรําชทําน (4) เป็นกํารเรี่ยไรตํามข้อ 18 (1) หรือ (3) เพื่อให้ได้เงินหรือทรัพย์สินไม่เกินจํานวนเงิน หรือมูลค่ ําตํามที่ กคร. ก ําหนดโดยประกําศในรําชกิจจํานุเบกษํา (5) เป็นกํารเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไรตํามข้อ 18 (4) ซึ่ง กคร. ได้ประกําศ ในรําชกิจจํานุเบกษํายกเว้นให้หน่วยงํานของรัฐดําเนินกํารได้โดยไม่ต้องขออนุมัติ ้ หนา 5 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 125 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤษภาคม 2566

(6) เป็นกํารให้ควํามร่วมมือกับหน่วยงํานอื่นของรัฐที่ได้รับอนุมัติหรือได้รับยกเว้นในกําร ขออนุมัติตํามระเบียบนี้แล้ว ข้อ 20 ในกรณีที่หน่วยงํานของรัฐได้รับอนุมัติหรือได้รับยกเว้นตํามข้อ 19 ให้จัดให้มี กํารเรี่ยไรหรือเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไร ให้หน่วยงํานของรั ฐดําเนินกํารดังต่อไปนี้ (1) ให้กระท ํากํารเรี่ยไรเป็นกํารทั่วไป โดยประกําศหรือเผยแพร่ต่อสําธํารณชน (2) ก ําหนดสถํานที่หรือวิธีกํารที่จะรับเงินหรือทรัพย์สินจํากกํารเรี่ยไร (3) ออกใบเสร็จหรือหลักฐํานกํารรับเงินหรือทรัพย์สินให้แก่ผู้บริจําคทุกครั้ง เว้นแต่ โดยลักษณะแห่งกํารเ รี่ยไรไม่สํามํารถออกใบเสร็จหรือหลักฐํานดังกล่ําวได้ ก็ให้จัดท ําเป็นบัญชีกํารรับเงิน หรือทรัพย์สินนั้นไว้เพื่อให้สํามํารถตรวจสอบได้ (4) จัดทําบัญชีกํารรับจ่ํายเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จํากกํารเรี่ยไรตํามระบบบัญชีของทํางรําชกําร ภํายในเก้ําสิบวันนับแต่วันที่สิ้นสุดกํารเรี่ยไร หรื อทุกสํามเดือนในกรณีที่เป็นกํารเรี่ยไรที่กระท ํา อย่ํางต่อเนื่องและปิดประกําศโดยเปิดเผย ณ ที่ท ํากํารของหน่วยงํานของรัฐที่ได้ท ํากํารเรี่ยไรไม่น้อยกว่ํา สํามสิบวัน เพื่อให้บุคคลทั่วไปได้ทรําบและจัดให้มีเอกสํารเกี่ยวกับกํารดําเนินกํารเรี่ยไรดังกล่ําวไว้ ณ สถํานที่สําหรับประชํา ชนสํามํารถใช้ในกํารค้นหําและศึกษําข้อมูลข่ําวสํารของรําชกําร รวมทั้ง เผยแพร่ผ่ํานทํางระบบอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงํานของรัฐนั้นด้วย (5) รํายงํานกํารเงินของกํารเรี่ยไรพร้อมทั้งส่งบัญชีตําม (4) ให้ กคร. หรือ กคร. จังหวัด แล้วแต่กรณี และสํานักงํานกํารตรวจเงินแผ่นดินหรือสํานัก ตรวจเงินแผ่นดินจังหวัด แล้วแต่กรณี ภํายในสํามสิบวันนับแต่วันที่ได้จัดทําบัญชีตําม (4) แล้วเสร็จ หรือในกรณีที่เป็นกํารเรี่ยไรที่ได้กระทํา อย่ํางต่อเนื่อง ให้รํายงํานกํารเงินพร้อมทั้งส่งบัญชีดังกล่ําวทุกสํามเดือน รวมทั้งเผยแพร่ผ่ํานทํางระบบ อิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงํานข องรัฐนั้นด้วย ข้อ 21 ในกํารเรี่ยไรหรือเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไร ห้ํามมิให้หน่วยงํานของรัฐ ดําเนินกํารดังต่อไปนี้ (1) กําหนดประโยชน์ที่ผู้บริจําคหรือบุคคลอื่นจะได้รับซึ่งมิใช่ประโยชน์ที่หน่วยงํานของรัฐ ได้ประกําศไว้ (2) กําหนดให้ผู้บริจําคต้องบริจําคเงินหรือทรัพย์สินเป็นจํานวนหรือมูลค่ําที่แน่นอน เว้นแต่ โดยสภําพมีควํามจําเป็นต้องกําหนดเป็นจํานวนเงินที่แน่นอน เช่น กํารจําหน่ํายบัตรเข้ําชมกํารแสดง หรือบัตรเข้ําร่วมกํารแข่งขัน เป็นต้น (3) กระท ํากํารใด ๆ ที่เป็นกํารบังคับให้บุคคลใดท ํากํารเรี่ยไรหรือบริจําค หรือกระทํา ในลักษณะที่ท ําให้บุคคลนั้นต้องตกอยู่ในภําวะจ ํายอมไม่สํามํารถปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงที่จะไม่ช่วย ท ํากํารเรี่ยไรหรือบริจําคไม่ว่ําโดยทํางตรงหรือทํางอ้อม (4) ให้เจ้ําหน้ําที่ของรัฐออกทํากํารเรี่ยไร หรือใช้ สั่ง ขอร้ อง หรือบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชํา หรือบุคคลอื่นออกท ํากํารเรี่ยไร ้ หนา 6 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 125 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤษภาคม 2566

ข้อ 22 เจ้ําหน้ําที่ของรัฐที่เข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไรของบุคคลหรือนิติบุคคลที่ได้รับ อนุญําตจํากคณะกรรมกํารควบคุมกํารเรี่ยไรตํามกฎหมํายว่ําด้วยกํารควบคุมกํารเรี่ยไรซึ่งมิใช่หน่วยงําน ของรัฐจะต้องไ ม่กระท ํากํารดังต่อไปนี้ (1) ใช้หรือแสดงตําแหน่งหน้ําที่ให้ปรํากฏในกํารดําเนินกํารเรี่ยไรไม่ว่ําจะเป็นกํารโฆษณํา ด้วยสิ่งพิมพ์ตํามกฎหมํายว่ําด้วยกํารพิมพ์หรือสื่ออย่ํางอื่น หรือด้วยวิธีกํารอื่นใด (2) ใช้ สั่ง ขอร้อง หรือบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชํา หรือบุคคลใดช่วยทํากํารเรี่ ยไรให้ หรือ กระทําในลักษณะที่ทําให้ผู้ใต้บังคับบัญชําหรือบุคคลอื่นนั้นต้องตกอยู่ในภําวะจํายอมไม่สํามํารถปฏิเสธ หรือหลีกเลี่ยงที่จะไม่ช่วยท ํากํารเรี่ยไรให้ได้ไม่ว่ําโดยทํางตรงหรือทํางอ้อม บทเฉพําะกําล ข้อ 23 กํารเรี่ยไร หรือกํารเข้ําไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกํารเรี่ยไร ตําม ระเบียบสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐ พ.ศ. 2544 และได้ดําเนินกํารไปก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ก็ให้ดําเนินกํารต่อไปได้ตํามระเบียบสํานักนํายกรัฐมนตรีว่ําด้วยกํารเรี่ยไรของหน่วยงํานของรัฐ พ.ศ. 2544 จนกว่ําจะแล้วเสร็จ ข้อ 24 ให้ กคร. และ กคร. จังหวัด ตํามระเบียบสํานักนํายกรัฐมนตรีว่ําด้วยกํารเรี่ยไร ของหน่วยงํานของรัฐ พ.ศ. 2544 ซึ่งปฏิบัติหน้ําที่อยู่ในวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ปฏิบัติหน้ําที่ กคร. และ กคร. จังหวัด ตํามระเบียบนี้ไปพลํางก่อนจนกว่ําจะมีกํารแต่งตั้งกรรมกํารซึ่งนํายกรัฐม นตรี หรือผู้ว่ํารําชกํารจังหวัดแต่งตั้ง แล้วแต่กรณี ตํามระเบียบนี้ ประกําศ ณ วันที่ 16 พฤษภําคม พ.ศ. 25 6 6 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชํา นํายกรัฐมนตรี ้ หนา 7 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 125 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤษภาคม 2566