ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียน พ.ศ. 2566
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียน พ.ศ. 2566
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียน พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียน ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 อนุมัติให้ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้แก่นักเรี ยนระดับชั้นเด็กเล็ก ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในอัตราตามขนาดของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้รับอาหารกลางวัน และสารอาหารที่ครบถ้วน เพียงพอต่อความต้องการ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 13 (4) และ (6) แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 และ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 ประกอบกับมติ คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ในการประชุมครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียน พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิก ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียน พ.ศ. 2552 ข้อ 4 ใน ประกาศนี้ “ อาหารกลางวัน ” หมายความว่า อาหารที่โรงเรียนจัดทาหรือจัดหาให้นักเรียนรับประทาน ในมื้อกลางวัน “ เงินอุดหนุ นเป็นค่าอาหารกลางวัน ” หมายความว่า เงินอุดหนุนที่รัฐจ่ายให้แก่โรงเรียน เป็นค่าอาหารกลางวันตามจำนวนนักเรียนที่มีสิทธิได้รับการอุดหนุนและตามงบประมาณที่ได้รับ “ แผนบริหารจัดการอาหารกลางวัน ” หมายความว่า แผนบริหารจัดการเพื่อดาเนินการ จัดทำหรือจัดหา และแจก จ่ายอาหารกลางวันให้แก่นักเรียน โดยให้มีสารอาหารที่ครบถ้วนและมีปริมาณ ที่เหมาะสม ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหาร “ นักเรียนทุพโภชนาการ ” หมายความว่า นักเรียนที่มีน้าหนักและส่วนสูงไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข “ นักเรียนขาดแคลนอาหารกลางวัน ” หมายความว่า นักเรียนที่มีฐานะยากจน หรือไม่มีเงิน ค่าอาหารกลางวัน “ ผู้รับใบอนุญาต ” หมายความว่า ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้รับใบอนุญาต ้ หนา 9 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 109 ง ราชกิจจานุเบกษา 11 พฤษภาคม 2566
“ ผู้อนุญาต ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนหรือ ผู้ที่ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนมอบหมาย “ คณะกรรมการบริหาร ” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารโรงเรียน “ สานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ” หมายความว่า สานักงานการศึกษาเอกชนในจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา “ สานั กงานศึกษาธิการจังหวัด ” หมายความว่า สานักงานศึกษาธิการจังหวัดที่โรงเรียนตั้งอยู่ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร “ สำนักงาน ” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ข้อ 5 โรงเรียนที่มีสิทธิขอรับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันต้องเป็นโรงเรียนในระบบ ที่มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ (1) เป็นโรงเรียนการกุศล หรือเป็นโรงเรียนสามัญศึกษาทั่วไปที่ได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคล (2) ไม่เป็นโรงเรียนการศึกษาพิเศษที่ได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคลในอัตรานักเรียนพิการ ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยกำรกาหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชน เป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล พ.ศ. 2558 ข้อ 6 นักเรียนที่มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ ( 1 ) เป็นนักเรียนที่ได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคลในระดับก่อนปร ะถมศึกษาถึงระดับประถมศึกษา ในโรงเรียนตามข้อ 5 ( 2 ) เป็นนักเรียนที่ลงทะเบียนและเรียนอยู่จริงโดยถูกต้องตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาต หรือ ตราสารจัดตั้ง ( 3 ) เป็นนักเรียนในโรงเรียนสามัญศึกษาทั่วไปที่มีปัญหาทุพโภชนาการหรือขาดแคลนอาหารกลางวัน ( 4 ) ไม่เป็นนักเรียนพิ การที่ได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคลในอัตรานักเรียนพิการตามระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการกาหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุน รายบุคคล พ.ศ. 2558 ข้อ 7 อัตราเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน ให้กำหนดตามขนาดของโรงเรียน ตามจำนวนนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาถึงระดับประถมศึกษาที่ได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคล ณ วันที่ 10 มิถุนายน ของปีที่ขอเบิก ดังต่อไปนี้ (1) โรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 40 คน ให้ได้รับอัตราอุดหนุน 36 บาท ต่อนักเรียน 1 คน ต่อวัน (2) โรงเรียนที่มีนั กเรียนไม่เกิน 100 คน ให้ได้รับอัตราอุดหนุน 27 บาท ต่อนักเรียน 1 คน ต่อวัน ้ หนา 10 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 109 ง ราชกิจจานุเบกษา 11 พฤษภาคม 2566
(3) โรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 120 คน ให้ได้รับอัตราอุดหนุน 24 บาท ต่อนักเรียน 1 คน ต่อวัน (4) โรงเรียนที่มีนักเรียนตั้งแต่ 121 คนขึ้นไป ให้ได้รับอัตราอุดหนุน 22 บาท ต่อนักเรียน 1 คน ต่อวัน ข้อ 8 การยื่นคาขอรับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียนให้โรงเรียนดาเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย จากัด (มหาชน) ชื่อบัญชี “ เงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน โรงเรียน… ” เว้นแต่โรงเรียนที่ได้รับเงินอุดหนุน และมีบัญชีเงินฝากธนาคารอยู่ก่อนแล้วให้ใช้เลขที่บัญชีเดิม (2) สำรวจจำนวนนักเรีย น ณ วันที่ 10 มิถุนายน ของปีที่ขอเบิก ตามแบบที่สำนักงานกาหนด และจัดทำแผนบริหารจัดการอาหารกลางวัน เสนอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อขอความเห็นชอบ (3) วิธีการยื่นขอรับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน ให้โรงเรียนจัดทาคาขอรับเงินอุดหนุน เป็นค่าอาหารกลางวันตาม แบบหรือตามโปรแกรมอิเล็กทรอนิกส์ที่สานักงานกาหนด พร้อมสาเนา เลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารและรายงานการประชุมคณะกรรมการบริหาร สาหรับโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นต่อสานักงาน ส่วนโรงเรียนในส่วนภูมิภาคให้ยื่นต่อสานักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสานักงาน การศึกษาเอกชน จังหวัดที่โรงเรียนตั้งอยู่ แล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 20 มิถุนายน ของทุกปี ข้อ 9 เมื่อได้รับเอกสารตามข้อ 8 ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสำนักงาน การศึกษาเอกชนจังหวัด ดาเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) ตรวจสอบคำขอรับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน (2) รวบรวมและจัดทาแบบสรุปจานวนโรงเรียน จานวนนักเรียนของโรงเรียนในส่วนภูมิภาค ที่มีสิทธิรับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน ตามแบบหรือตามโปรแกรมอิเล็กทรอนิกส์ที่สานักงานกาหนด แล้วจัดส่งแบบสรุปจำนวนโรงเรียนและนักเรียน ส่งให้สำนักงาน ภายในวันที่ 1 0 กรกฎาคม ของทุกปี (3) เมื่อสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด แล้วแต่กรณีได้รับ การจัดสรรเงินงบประมาณค่าอาหารกลางวันผ่านระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ จากสานักงานแล้ว ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดดาเนินการ เบิกจ่ายเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันและโอนเข้าบัญชีโรงเรียนภายใน 5 วันทาการ นับแต่วันที่ได้รับ การโอนเงินจากสำนักงานตามยอดเงินที่ได้รับการอนุมัติและรวบรวมใบเสร็จรับเงินของโรงเรี ยนเพื่อตรวจสอบ (4) ให้สานักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด รวบรวมแบบรายงาน ผลการดาเนินงานค่าอาหารกลางวันในปีที่ผ่านมาของโรงเรียน แล้วจัดทาแบบสรุปรายงานผลการดาเนินงาน ค่าอาหารกลางวันในภาพรวมของสานักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสานักงานการศึ กษาเอกชนจังหวัด ้ หนา 11 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 109 ง ราชกิจจานุเบกษา 11 พฤษภาคม 2566
ตามแบบที่สานักงานกาหนดหรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และส่งให้สำนักงานปีละ 1 ครั้ง ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี ข้อ 10 การดาเนินงานเกี่ยวกับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันของสานักงานให้ดาเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) ตรวจสอบ รวบรวม และจัด ทาแบบสรุปจานวนโรงเรียน จานวนนักเรียนในกรุงเทพมหานคร ที่มีสิทธิรับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน (2) รวบรวมแบบสรุปจานวนโรงเรียน จานวนนักเรียนของโรงเรียนในส่วนภูมิภาคที่มีสิทธิ รับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันที่ได้รับจากสานักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสานักงานการศึกษา เอกชนจังหวัด (3) สรุปข้อมูลจำนวนโรงเรียน และจำนวนนักเรียนที่ขอรับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน ตาม (1) และ (2) เพื่อพิจารณาและดาเนินการจัดสรรและขออนุมัติเบิก จ่าย โดยเบิกจ่ายเงินอุดหนุน เป็นค่าอาหารกลางวัน ปีการศึกษาละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ ต้องไม่เกินวงเงินงบประมาณที่สานักงานได้รับ โดยจัดสรรแก่โรงเรียนการกุศลเป็นลำดับแรก หากมีงบประมาณคงเหลือให้จัดสรรให้แก่โรงเรียนสามัญทั่วไป (4) โอนเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหาร กลางวันที่ได้รับอนุมัติ ให้แก่โรงเรียนในกรุงเทพมหานคร และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด (5) สรุปรายงานผลการดำเนินงานเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันของปีการศึกษา ที่ผ่านมาต่อกระทรวงศึกษาธิการ ข้อ 1 1 การบริหารงบประมาณเงินอุดหนุ นเป็นค่าอาหารกลางวันที่โรงเรียนได้รับให้ดาเนินการ ดังนี้ (1) จัดทำรายชื่อนักเรียนที่ได้รับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน แล้วติดประกาศ ให้ผู้ปกครองทราบในที่เปิดเผยของโรงเรียน (2) จัดส่งใบเสร็จรับเงินตามจานวนเงินที่ได้รับ ส่งสานักงานสาหรับโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร ส่วนโรงเรียนในส่วนภูมิภาคให้ส่งสานักงานศึกษาธิการจังหวัดหรือสานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันที่ได้รับทราบการโอนเงินเข้าบัญชีโรงเรียน (3) เมื่อโรงเรียนได้รับโอนเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลา งวันแล้วให้ดาเนินการจัดอาหาร ให้มีสารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ และมีจำนวนที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนโดยเร็ว และจัดเก็บหลักฐานการจ่ายเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันพร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ (4) จัดทาบัญชีการรับ - จ่ายเงินค่าอาหารกลางวันให้ถูกต้องเป็นปั จจุบันพร้อมให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบได้ (5) เก็บรักษาเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันไว้ในบัญชี ตามข้อ 8 ( 1) โดยเงินในบัญชีนี้ จะต้องนาไปใช้จ่ายเพื่อจัดหาหรือจัดทาอาหารกลางวันให้กับนักเรียนเท่านั้น หากมีเงินเหลือจ่ายหรือ ได้รับเงินดอกผลจากการนำเงินฝากธนาคาร โรงเรียนสามารถนำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายเกี่ยวกับ ้ หนา 12 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 109 ง ราชกิจจานุเบกษา 11 พฤษภาคม 2566
อาหารกลางวันได้ โดยต้องมีรายงานยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการไว้ในแผนบริหารจัดการอาหารกลางวันเพื่อเสนอ คณะกรรมการบริหาร (6) ให้โรงเรียนรายงานผลการ ดำเนินงานของปีที่ผ่านมา ตามแบบที่สำนักงานกำหนด ส่งสานักงานสาหรับโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร ส่วนโรงเรียนในส่วนภูมิภาคให้ส่งสานักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ภายในวันที่ 30 มิถุนายน ของทุกปี ข้อ 1 2 โรงเรียนต้องจัดทำบัญชีรายชื่อนัก เรียนทุพโภชนาการและนักเรียนขาดแคลน อาหารกลางวันที่ได้รับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันในแต่ละภาคเรียนจาแนกตามรายชั้นเรียน โดยให้โรงเรียนกากับดูแลนักเรียนที่มีภาวะทุพโภชนาการอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งรายงานผลการดาเนินงาน และการพัฒนาด้านร่างกายของนักเรียนทุ พโภชนาการให้คณะกรรมการบริหารทราบทุกภาคเรียน ข้อ 1 3 โรงเรียนต้องไม่เก็บค่าอาหารกลางวันจากนักเรียนที่ได้รับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน ข้อ 1 4 ในกรณีที่โรงเรียนไม่ยื่นคำขอรับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันภายในเวลา ที่กำหนดตามข้อ 8 (3) ให้ถือว่าโรงเรียนไม่ประสงค์จะขอรับเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวัน ข้อ 1 5 ให้ผู้อนุญาตแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อทำการตรวจสอบการขอรับเงินอุดหนุน เป็นค่าอาหารกลางวัน ในกรณีที่ปรากฏว่ามีเหตุอันสมควร หรือสงสัยว่าโรงเรียนที่ขอรับเงินอุดหนุน มีการเบิกเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันโดยผิดพลาดหรือโดยทุจริต ในกรณีที่ตรวจพบว่าโรงเรียนมีการเบิกเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันโดยผิดพลาด หรือโดยทุจริตให้ผู้อนุญาตเรียกเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันคืนพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของจำนวนเงินที่ เบิกโดยผิดพลาดหรือโดยทุจริตนับแต่วันที่เบิกจ่ายจนถึงวันที่ชำระเสร็จสิ้น ในกรณีที่โรงเรียนดาเนินการเกี่ยวกับการเบิกเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันโดยทุจริต นอกจากดำเนินการเรียกเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยตามวรรคสองแล้วให้ผู้อนุญาตพิจารณาดาเนินการ ตามกฎหมายที่เกี่ย วข้องแก่ผู้กระทำความผิดต่อไป ข้อ 16 เมื่อปรากฏว่าโรงเรียนไม่เบิกจ่ายเงินจากบัญชีเงินอุดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันไปใช้ ตามวัตถุประสงค์ ให้ผู้อนุญาตมีหนังสือให้โรงเรียนคืนเงินดังกล่าว ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับ หนังสือแจ้ง หากไม่ดาเนินการภายในระยะเวลาที่กาหนด ให้ผู้อนุญาตสั่งระงับการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน เป็นค่าอาหารกลางวันไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าโรงเรียนจะส่งเงินคืนให้ครบจำนวน ข้อ 17 ในวาระเริ่มแรก สาหรับภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ให้สานักงานเบิกจ่าย เงินอุ ดหนุนเป็นค่าอาหารกลางวันที่เพิ่มขึ้นตามอัตราที่กาหนดในข้อ 7 เป็นจานวน 63 วันทาการ นับตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยให้สานักงาน สานักงานศึกษาธิการจังหวัด และสานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ดาเนินการเบิกจ่ายให้กับโรงเ รียนตามข้อ 9 (3) และข้อ 10 (4) โดยอนุโลม ้ หนา 13 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 109 ง ราชกิจจานุเบกษา 11 พฤษภาคม 2566
ข้อ 18 ให้เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนรักษาการตามประกาศนี้ และให้มีอานาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25 6 6 ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ้ หนา 14 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 109 ง ราชกิจจานุเบกษา 11 พฤษภาคม 2566