Fri Apr 28 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 3


ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 3

ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 3 เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 16 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 มาตรา 20 (4) และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการบริหาร หนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟ แห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ 1 . กระทรวงการคลังได้ดาเนินการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่ รฟท. สาหรับโครงการควำมร่วมมือ ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟ ความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) วงเงิน 3,800,000,000 บาท (สามพันแปดร้อยล้านบาทถ้วน) โดยวิธีการทำสัญญา กู้ยืมเงิน ( Term Loan ) กับสถาบันการเงิน 2 . การเบิกเงินกู้ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 จนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดยจะแจ้งผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทาการ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเบิกเงินกู้เป็นงวด ๆ โดยเรียงลาดับจากวงเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่าสุดก่อน และ เมื่อเบิกเงินกู้ครบจำนวนของวงเงินดังกล่าวแล้ว จึงจะเริ่มเบิกรับเงินกู้ในวงเงินลำดับถัดไป 3 . อายุเงินกู้ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 ครบกำหนดในวั นที่ 1 มีนาคม 2570 4 . อัตราดอกเบี้ย 4.1 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง บวกส่วนต่างเฉลี่ยร้อยละ 0.23426 (ศูนย์จุดสองสามสี่สองหก) ต่อปี 4.2 อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง หมายความว่า อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นตลาดกรุงเทพ ระยะ 6 เดือน ( BIBOR 6 M ) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย 4.3 การปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด 6 เดือน หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง โดยอัตราดอกเบี้ยงวดแรกจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ณ วันเบิกเงินกู้ สาหรับการใช้อัตราดอกเบี้ย ในงวดต่อ ๆ ไป จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้า งอิง ณ วันครบกาหนดชาระดอกเบี้ย เพื่อใช้คานวณดอกเบี้ย ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนถัดไป การคานวณดอกเบี้ยให้ถือว่าหนึ่งปีมี 365 วัน นับตามจานวน วันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชาระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 1 กันยายน 2566 และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันที่ 1 มีนาคม 2570 5 . การชาระดอกเบี้ย ตลอดเวลาที่สัญญายังมีอายุอยู่ให้แบ่งชาระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือวันที่ 1 มีนาคม และ 1 กันยายน ของทุกปี สาหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชาระพร้อมต้นเงินกู้ ้ หนา 21 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 100 ง ราชกิจจานุเบกษา 28 เมษายน 2566

ณ วันสิ้นสุด ตามสัญญากู้ยืมเงิน หากวันครบกาหนดชาระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ให้เลื่อนไปชาระในวันทาการถัดไป โดยไม่นับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าว เข้ารวมเพื่อคานวณดอกเบี้ยที่ถึงกาหนดชาระ ยกเว้นการชาระต้นเงินกู้งวดสุดท้ายให้คานวณดอกเบี้ ย จนถึงวันก่อนวันชำระหนี้ 6 . การชำระคืนต้นเงินกู้ กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนครบกำหนด ได้ทั้งจานวนหรือบางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทาการ โดยกระทรวงการคลังจะชาระดอกเบี้ยคงค้างของต้นเงินกู้ที่ค้างชาระ พร้อมกับการชาระคืน ต้นเงินกู้ก่อนกาหนดนั้น ทั้งนี้ ดอกเบี้ยคงค้างให้คานวณนับตั้งแต่วันที่กระทรวงการคลังชาระคืน ดอกเบี้ยครั้งล่าสุดจนถึงวันก่อนวันที่กระทรวงการคลังชาระคืนต้นเงินกู้ก่อนกาหนด โ ดยหากวันครบกำหนด ชำระคืนต้นเงินกู้ตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระคืนในวันทำการถัดไป 7 . ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใด ๆ ประกาศ ณ วันที่ 2 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25 6 6 บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ้ หนา 22 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 100 ง ราชกิจจานุเบกษา 28 เมษายน 2566