ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยจริยธรรมของกรรมการและผู้บริหารสภาวิศวกร พ.ศ. 2566
ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยจริยธรรมของกรรมการและผู้บริหารสภาวิศวกร พ.ศ. 2566
ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยจริยธรรมของกรรมการและผู้บริหารสภาวิศวกร พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรกาหนดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรมของสภาวิศวกร เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ ยึดถือปฏิบัติของคณะกรรมการสภาวิศวกรและผู้บริหาร ในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบแบบแผน และจริยธรรมอันดีเพื่อประโยชน์ต่อสภาวิศวกรและสาธารณชน รวมถึงเป็น การ ส่งเสริมคุณธรรมภายในองค์กรอันนาไปสู่การเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 33 (3) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 ประกอบกับมติที่ประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 คณะกรรมการ สภาวิศวกร ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกร ว่าด้วยจริยธรรมของกรรมการ และผู้บริหารสภาวิศวกร พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ในระเบียบนี้ “ กรรมการ ” หมายความว่า กรรมกำรสภาวิศวกร “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณะกรรมการสภาวิศวกร “ ผู้บริหาร ” หมายความว่า นายกสภาวิศวกร อุปนายกสภาวิศวกรคนที่หนึ่ง อุปนายกสภาวิศวกร คนที่สอง เลขาธิการสภาวิศวกร เหรัญญิกสภาวิศวกร และตำแหน่งอื่นใดที่ได้รับการแต่งตั้ง ตามความเห็นชอบของคณะกรรมกำรสภาวิศวกร โดยการเสนอชื่อของนายกสภาวิศวกร ตามมาตรา 26 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 ข้อ 4 กรรมการและผู้บริหารต้องประพฤติปฏิบัติตนตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่กำหนดไว้ ในระเบียบนี้ ข้อ 5 ให้นายกสภาวิศวกรเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ และมีอานาจออกคาสั่งเพื่อปฏิบัติ ตามระเบียบนี้ กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการสภาวิศวกรเป็นผู้มีอานาจ วินิจฉัยชี้ขาดและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการสภาวิศวกรถือเป็นที่สุด หมวด 1 จริยธรรมของกรรมการและผู้บริหาร ส่วนที่ 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 100 ง ราชกิจจานุเบกษา 28 เมษายน 2566
ข้อ 6 กล้าตัดสินใจ กล้ากระทาและยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมและถูกกฎหมาย รวมทั้งกล้าคัดค้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง กล้าเปิดเผยหรือรายงานการทุจริตประพฤติมิชอบต่อผู้มีหน้าที่ รับผิดชอบ ใช้ดุลพินิจในการปฏิบัติหน้าที่โดย เที่ยงธรรมปราศจากอคติ ข้อ 7 คานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนบุคคล เสียสละ มีจิตสาธารณะ ไม่กระทำการอันมีลักษณะเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม ข้อ 8 ยึดมั่นการทางานที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ มีความพร้อมรับการตรวจสอบและรั บผิด ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ใช้สถานะหรือตาแหน่งหน้าที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้สาหรับ ตนเองหรือผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ในทางทรัพย์สินหรือไม่ก็ตาม ตลอดจนไม่รับของขวัญ ของกานัล ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลอื่น เว้นแต่เป็นการรับทรัพ ย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากญาติ หรือจากบุคคลที่ให้กันในโอกาสต่าง ๆ โดยปกติตามขนบธรรมเนียม ประเพณี หรือวัฒนธรรม หรือ ให้กันตามมารยาทที่ปฏิบัติกันในสังคม และจะต้องดูแลให้คู่สมรส ญาติสนิท หรือบุคคลในครอบครัว ของตนปฏิบัติเช่นเดียวกันด้วย ข้อ 9 ปฏิบัติหน้ำที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึกที่ดีและรับผิดชอบต่อหน้าที่ โดยต้องดารงตน ดังต่อไปนี้ (1) ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส ยึดมั่นในหลัก นิติธรรม ซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติและปราศจากอคติ (2) ไม่ใช้หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้สถานะหรือตาแหน่งของตนไปแสวงหาประโยชน์ที่มิควร ได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ในทางทรัพย์สินหรือไม่ก็ตาม (3) ไม่เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสาหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ (4) ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ (5) ไม่ใช้หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของสภาวิศวกรหรือของราชการเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเพื่อผลประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น (6) ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่ อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดารงตาแหน่ง (7) แสดงความรับผิดชอบตามควรแก่กรณีเมื่อปฏิบัติหน้าที่บกพร่องหรือผิดพลาด ข้อ 10 กล้าตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม โดยต้องดารงตน ดังต่อไปนี้ (1) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นกลาง โปร่งใส และปราศ จากอคติ โดยไม่หวั่นไหว ต่ออิทธิพล แรงกดดัน หรือกระแสสังคม อันมิชอบด้วยกฎหมาย (2) ยึดมั่นในกฎหมายและไม่ใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น (3) คำนึงถึงระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งผู้สมควรดารงตาแหน่งต่าง ๆ (4) เปิดเผยหรือให้ข้อมูล การทุจริต การใช้อานาจในทางที่ผิด การฉ้อฉล หลอกลวง หรือ การกระทำอื่นใดที่ทำให้สภาวิศวกรเสียหายต่อเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 100 ง ราชกิจจานุเบกษา 28 เมษายน 2566
(5) เปิดเผยหรือให้ข้อมูลข่าวสารอันอยู่ในความรับผิดชอบของตนอย่างถูกต้อง ครบถ้วนและ ไม่บิดเบือน ข้อ 11 ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมและมีจิตสาธารณ ะ โดยต้องดารงตน ดังต่อไปนี้ (1) มีอุดมการณ์ในการทางานเพื่อสภาวิศวกร และต้องถือเอาผลประโยชน์ของสภาวิศวกร สมาชิกสภาวิศวกร และประชาชนเป็นสำคัญ (2) ไม่กระทาการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ไม่ว่าโดย ทางตรงหรือทางอ้อม (3) ไม่นา ข้อมูลข่าวสารอันเป็นความลับของสภาวิศวกร ภาครัฐ หรือเอกชน ซึ่งตนได้มา ในระหว่างอยู่ในตาแหน่ง ไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนหรือบุคคลอื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือ โดยมิได้รับอนุญาตจากสภาวิศวกร ทั้งในระหว่างการดารงตาแหน่งและเมื่อพ้นจากตาแหน่ง (4) มีจิตสา ธารณะ จิตอาสา และอุทิศตนปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของสภาวิศวกร สมาชิกสภาวิศวกร และประชาชนโดยรวม (5) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบมุ่งหมายให้ทุกภาคส่วนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรม ผาสุก และสามัคคีปรองดอง ข้อ 12 รักษาไว้ซึ่งความลับในการประชุม การพิจารณาวินิจฉัย รวมทั้งเคารพต่อมติที่ประชุม ฝ่ายข้างมาก และเหตุผลของทุกฝ่ายอย่างเคร่งครัด ข้อ 13 ไม่ให้คาปรึกษาแก่บุคคลภายนอก หรือแสดงความคิดเห็น หรือข้อมูลต่อสาธารณะ หรือสาธารณชนในเรื่องที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสียความเป็นธรรม แก่การปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายขององค์กร ข้อ 14 ไม่กระทาการอันมีลักษณะเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ จนเป็นเหตุทาให้ ผู้ถูกกระทำได้รับความเดือดร้อน เสียหาย หรือกระทบต่อการปฏิบั ติหน้าที่ ไม่นำความสัมพันธ์ในทางเพศที่ตนมีต่อบุคคลใด มาเป็นเหตุหรือมีอิทธิพลครอบงำให้ใช้ดุลพินิจ ในการปฏิบัติหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลนั้นหรือผู้อื่น ข้อ 15 ในการประชุมต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามวิธีการและข้อกาหนดการประชุม ให้เกียรติ ประธานที่ประชุมและผู้เข้าร่วมประชุม แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องของที่ประชุม ปฏิบัติตามมติของ ที่ประชุมด้วยความเคารพต่อความคิดเห็นและการลงมติของที่ประชุม และไม่นาความเห็นส่วนตน ของบุคคลในที่ประชุมไปเปิดเผยหรือวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดความเสียหายแก่ บุคคลดังกล่าว ส่วนที่ 2 มาตรฐานทางจริยธรรมทั่วไป ข้อ 16 ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกาลังความสามารถโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงานที่มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ ้ หนา 18 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 100 ง ราชกิจจานุเบกษา 28 เมษายน 2566
ข้อ 17 ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ โดยต้องดารงตน ดังต่อไปนี้ (1) ปฏิบัติหน้าที่ด้ วยความเที่ยงธรรม เสมอภาค เท่าเทียม ปราศจากอคติ และไม่เลือกปฏิบัติ โดยการใช้ความรู้สึกหรือความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือเหตุผลของความแตกต่างทางเชื้อชาติ ถิ่นกาเนิด ศาสนา เพศ เพศสภาพ อายุ ความพิการ สภาพทางกาย สุขภาพ หรือสถานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม รวมทั้งเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (2) ปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน และผู้เกี่ยวข้องอย่างให้เกียรติ (3) ไม่ใช้สถานะหรือตาแหน่งของตนเข้าไปก้าวก่าย หรือแทรกแซง การปฏิบัติงาน การดาเนินงาน การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตาแหน่ง เลื่อนเงินเดือน และการดาเนินการทางวินัยหรือ การให้พ้นจากตาแหน่งของเจ้าหน้าที่สภาวิศวกร เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่และอานาจตามที่ กฎหมายและระเบียบคณะกรรมการสภาวิศวกรว่าด้วยการบริหารงานบุคคลกำหนด (4) ไม่ยินยอมให้คู่สมรส บุคคลในครอบครัว ญาติ หรือผู้ใกล้ชิด ก้าวก่าย หรือแทรกแซง การปฏิบัติหน้าที่ของตนเองหรือผู้อื่น (5) ปฏิบัติต่อองค์กรธุรกิจที่ติดต่อทำธุรกิจกับสภาวิศวกรตามระเบียบและขั้นตอน อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ ข้อ 18 ต้องอุทิศเวลาให้แก่การประชุม โดยคานึงถึงการตรงต่อเวลาและต้องไม่ขาดการประชุม โดยไม่จำ เป็น เว้นแต่กรณีมีเหตุสุดวิสัย หมวด 2 การบังคับใช้ ข้อ 19 การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมในหมวด 1 ส่วนที่ 1 ให้ถือว่า มีลักษณะร้ายแรง ข้อ 20 การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมในหมวด 1 ส่วนที่ 2 ให้ถือว่า มีลักษณะไม่ร้ายแรง ข้อ 21 เมื่อคณะกรรมการได้รับเรื่องร้องเรียนหรือพบการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมแล้วแต่กรณี คณะกรรมการอาจตั้งคณะทางานขึ้น เพื่อตรวจสอบกลั่นกรอง แสวงหาข้อเท็จจริงหรื อรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นในเรื่องที่กล่าวหานั้นก็ได้ และให้คณะทางานดาเนินกระบวนพิจารณาให้แล้วเสร็จ และเสนอ รายงานต่อคณะกรรมการภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกาหนด กรณีตามวรรคหนึ่ง หากคณะกรรมการมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากของจานวนกรรมการ ที่เข้าร่วมประชุมเห็นว่ำเรื่องร้องเรียนมีมูลเพียงพอที่จะรับไว้พิจารณา ให้คณะกรรมการรับเรื่องร้องเรียน ไว้พิจารณา และให้ดาเนินการต่อไปตามข้อ 22 หากคณะกรรมการมีมติไม่รับเรื่องไว้พิจารณา ให้คณะกรรมการจำหน่ายเรื่องร้องเรียนดังกล่าว และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ ้ หนา 19 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 100 ง ราชกิจจานุเบกษา 28 เมษายน 2566
ข้อ 22 เมื่อคณะกรรมการ มีมติรับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณาแล้ว ให้คณะกรรมการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐาน พร้อมจัดทารายงานสรุปผลการสอบสวนประกอบด้วยข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมแสดง ความเห็นว่าผู้ถูกร้องกระทาการอันเข้าข่ายความผิดหรือไม่ถ้ากระทาความผิดสมควรลงโทษสถานใด เสนอต่อคณะกรรมการพร้อมทั้งสำนวนการสอบสวน ให้คณะอนุกรรมการตามวรรคหนึ่งดาเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) รวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง (2) แจ้งข้อร้องเรียนและสรุปพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียนให้ผู้ถูกร้องเรียนทราบ (3) ให้โอกาสผู้ถูกร้องเรียนได้ชี้แจงแสดงพยานหลักฐานเพื่อแก้ข้อร้องเรียน (4) พิจารณาทำความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่สอบสวน (5) ทำรายงานผลการสอบสวนพร้อมความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการ ข้อ 23 เมื่อได้รับรายงานสรุปผลการไต่สวนแล้ว กรณีที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณา วินิจฉัยว่าผู้ถูกร้องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมในกรณีร้ายแรง ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ของจำนวนกรรมการที่เข้าร่วมประชุม ให้คณะกรรมการเสนอเรื่องต่อที่ประชุมใหญ่สภาวิศวก ร เพื่อพิจารณาถอดถอนบุคคลดังกล่าวตามมาตรา 29 (4) แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ หากผู้ถูกร้องดารงตาแหน่งเลขาธิการสภาวิศวกร เหรัญญิกสภาวิศวกร และตาแหน่งอื่นใด ตามมาตรา 26 วรรคสอง ให้นายกสภาวิศวกรดาเนินการเสนอเรื่องถอดถอนบุคคลดังกล่า วต่อ คณะกรรมการตามมาตรา 26 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 ไปก่อนโดยมิชักช้า กรณีที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยว่าผู้ถูกร้องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน ทางจริยธรรมในกรณีไม่ร้ายแรงด้วยคะแนนเสียงข้างมากของจำนวนกรรมการที่เข้าร่วมประชุม ให้คณะกรรมการมีอานาจที่จะลงโทษ ขอโทษต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ว่ากล่าวตักเตือน การให้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือภาคทัณฑ์ ตามวิธีการที่คณะกรรมการเห็นสมควร ทั้งนี้ คำวินิจฉัย ของคณะกรรมการให้ถือเป็นที่สุด ข้อ 24 การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่เข้าข่ายมีลักษณะร้ายแรง กรณีหากมีเหตุผลอันสมควรอันเนื่องมาจากพฤติการณ์แห่งการกระทำ สภาพแวดล้อมแห่งกรณี ความเสียหายที่เกิดขึ้น หรือประวัติคุณงามความดี คณะกรรมการอาจวินิจฉัยลงโทษเช่นเดียวกันกับ การฝ่าฝืนห รือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่ไม่ร้ายแรงก็ได้ ประกาศ ณ วันที่ 1 9 เ ม ษายน พ.ศ. 25 6 6 รองศาสตราจารย์ปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ นายกสภาวิศวกร ้ หนา 20 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 100 ง ราชกิจจานุเบกษา 28 เมษายน 2566