คำสั่งนายทะเบียน ที่ 36/2565 เรื่อง ให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนด ตามมาตรา 52 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551
คำสั่งนายทะเบียน ที่ 36/2565 เรื่อง ให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนด ตามมาตรา 52 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551
ค ําสั่งนํายทะเบียน ที่ 36 / 256 5 เรื่อง ให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จ ํากัด (มหําชน) แก้ไขฐํานะและกํารด ําเนินกํารตํามที่นํายทะเบียนกําหนด ตํามมําตรํา 52 วรรคหนึ่ง แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ตํามที่บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จ ํากัด (มหําชน) “ บริษัท ” ได้ยื่นค ําขอผ่อนผันต่อนํายทะเบียน ตํามประกําศคณะกรรมกํารกํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง มําตรกํารสําหรับ บริษัทประกันวินําศภัยที่มีค่ําสินไหมทดแทน COVID - 19 ในช่วงสถํานกํารณ์กํารแพร่ระบําดโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนํา 2019 ( COVID - 19 ) ซึ่งในระหว่ํางที่บริษัทได้รับกํารผ่อนผันตํามประกําศดังกล่ํา วนั้น ปรํากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวข้องกับฐํานะกํารเงินของบริษัท จํากรํายงํานเกี่ยวกับฐํานะกํารเงินและกิจกําร และรํายงํานกํารดํารงเงินกองทุนงวดเดือนกุมภําพันธ์ 2565 ประกอบกับข้อมูลกํารเรียกร้องค่ําสินไหมทดแทน ที่เกิดขึ้นจริงในเดือนมีนําคม 2565 อีกทั้งบริษัทแสดงประมําณกํารอัตรําส่วนควํามเพียงพอ ของเงินกองทุนต่ํากว่ําที่กฎหมํายกําหนดในเดือนมีนําคม 2565 จึงมีควํามเป็นไปได้แน่นอนว่ําบริษัท ไม่สํามํารถด ํารงเงินกองทุน ณ วันที่ 31 มีนําคม 2565 ครบถ้วนตํามที่กฎหมํายก ําหนด เพื่อคุ้มครองไม่ให้เกิดควํามเสียหํายต่อปร ะชําชนและผู้เอําประกันภัย นํายทะเบียนจึงอําศัยอํานําจตําม ควํามในมําตรํา 27/5 ประกอบมําตรํา 51 (3) และ (4) แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ให้บริษัท เสนอโครงกํารเพื่อแก้ไขฐําน ะเงินกองทุนภํายในสํามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจํากนํายทะเบียน เมื่อวันที่ 21 เมษํายน 2565 ซึ่งต่อมํา เมื่อวันที่ 20 พฤษภําคม 2565 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จํากัด (มหําชน) ได้เสนอโครงกํารเพื่อแก้ไขฐํานะเงินกองทุนและนําส่งเอกสํารหลักฐํานของบริษัท เพิ่มเ ติมให้นํายทะเบียนพิจํารณํา โดยนํายทะเบียนได้พิจํารณําโครงกํารเพื่อแก้ไขฐํานะเงินกองทุนของ บริษัทแล้ว เห็นว่ํา โครงกํารเพื่อแก้ไขฐํานะเงินกองทุนมีรํายกํารไม่ครบถ้วนตํามที่กําหนดไว้มําตรํา 27/5 วรรคสําม (1) (2) (3) และ (4) แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 จึงอําศัยอํานําจตํามควํามในมําตรํา 27/5 วรรคสี่ แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรําชบัญญัติ ประกันวินําศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ไม่ให้ควํามเห็นชอบโครงกํารเพื่อแก้ไขฐํานะเงินกองทุน ตํามมําตรํา 27/5 ที่บริษัทเสนอ โดยบริษัทได้รับหนังสือแจ้งผลกํารพิจํารณําเมื่อวันที่ 20 มิถุนํายน 2565 ต่อมําเมื่อวันที่ 19 กรกฎําคม 2565 บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ค ําสั่งดังกล่ําวต่อคณะกรรมกํารก ํากับและ ส่งเสริมกํารป ระกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งมติที่ประชุม คปภ. ครั้งที่ 10/2565 เมื่อวันที่ 23 กันยํายน 2565 มีมติยกอุทธรณ์โครงกํารเพื่อแก้ไขฐํานะเงินกองทุนของบริษัท จึงเป็นกรณี ้ หนา 66 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 1 ง ราชกิจจานุเบกษา 3 มกราคม 2566
ตํามมําตรํา 27/7 (3) ที่ก ําหนดให้นํายทะเบียนต้องพิจํารณําด ําเนินกํารตํามมําตรํา 52 แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบกับปรํากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐํานะและกํารดําเนินกํารของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จ ํากัด (มหําชน) สรุปได้ ดังนี้ (1) บริษัทมีฐํานะก ํารเงินไม่มั่นคง โดยมีหนี้สินเกินกว่ําทรัพย์สิน จัดสรรเงินส ํารอง ตํามมําตรํา 23 และจัดสรรสินทรัพย์หนุนหลังตํามมําตรํา 27/4 ไม่เพียงพอตํามที่กฎหมํายกําหนด มีสภําพคล่องไม่เพียงพอสําหรับกํารเรียกร้องค่ําสินไหมทดแทน และปรํากฏว่ําอัตรําส่วนควํามเพียงพอ ของเงินกองทุนต่ํากว่ ําเกณฑ์ที่กฎหมํายกําหนด รวมทั้งผู้สอบบัญชีรับอนุญําตไม่ให้ข้อสรุปจํากกํารสอบทําน ต่องบกํารเงินงวด ณ วันที่ 30 มิถุนํายน 2565 เนื่องจํากไม่สํามํารถได้รับหลักฐํานที่เหมําะสม เพียงพอเพื่อเป็นเกณฑ์ในกํารไม่ให้ข้อสรุปจํากกํารสอบทํานงบกํารเงินดังกล่ําวได้และบริษัทมีควําม ไม่แน่นอนที่เป็นสําระสําคัญทําให้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับควํามสํามํารถของบริษัทในกํารดําเนินงํานต่อเนื่อง จึงทําให้นํายทะเบียนไม่สํามํารถมั่นใจได้ว่ํา บริษัทมีควํามสํามํารถในกํารช ําระหนี้ตํามภําระผูกพันที่มีต่อ ผู้เอําประกันภัยหรือประชําชนได้ นอกจํากนี้ยังไม่ปรํากฏข้อเท็จจริงชัดเจนใ นเรื่องกํารเพิ่มทุน หรือ แนวทํางกํารแสวงหําเงินทุนหรือแหล่งเงินทุนของบริษัท เนื่องจํากบริษัทจะหําแหล่งเงินทุนใหม่และ กํารปรับโครงสร้ํางทุนด้วยกํารเพิ่มทุน และ/หรือแปลงหนี้เป็นทุน โดยบริษัทจะทรําบจ ํานวนเงินกองทุน ที่บริษัทต้องแก้ไขให้ครบถ้วนตํามที่กฎหมํายกําหนด ภํายหลั งทรําบผลกํารเจรจําแนวทํางและจํานวน กํารจ่ํายช ําระหนี้สินไหมโควิด - 19 ในชั้นกํารเสนอแผนฟื้นฟูกิจกํารต่อที่ประชุมเจ้ําหนี้แล้ว (2) บริษัทมีกํารรับประกันวินําศภัยในระหว่ํางที่บริษัทมีหนี้สินเกินกว่ําทรัพย์สินและอัตรําส่วน ควํามเพียงพอของเงินกองทุนต่ ํากว่ําที่กฎหมํายก ําหนดและมีค่ํา ติดลบ ซึ่งตํามมําตรํา 31 (2) แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ห้ํามมิให้บริษัทรับประกันวินําศภัยเกินกว่ําจํานวนเงิน เอําประกันภัยเกินกว่ําร้อยละสิบของเงินกองทุน เว้นแต่จะได้รับอนุญําตเป็นหนังสือจํากนํายทะเบียน (3) บริษัทไม่บันทึกรํายกํารเรียกร้องค่ําสินไหมทดแทนตํามกรมธรรม์ประกันภัย COVID - 19 ในสมุดทะเบียนค่ําสินไหมทดแทนและสมุดบัญชีของบริษัทเป็นจํานวนมําก ซึ่งตํามมําตรํา 44 วรรคสอง แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 กําหนดให้ต้องลงรํายกํารในสมุดทะเบียนและ สมุดบัญชี เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท ไม่ช้ํากว่ําเจ็ดวันนับแต่วันที่มีเหตุอันจะต้องลงรํายกํารนั้น (4) จ่ํายค่ําสินไหมทดแทนล่ําช้ํา อันเข้ําข่ํายเป็นกํารฝ่ําฝืนหรือไม่ปฏิบัติตํามมําตรํา 36 และมําตรํา 37 (11) แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ประกอบกับประกําศ กระทรวงพําณิชย์ว่ําด้วยหลักเกณฑ์ วิธีกําร และระยะเวลําที่ถือว่ําเป็นกํารประวิงกํารจ่ํายค่ําสินไหมทดแทน หรือประวิงกํารคืนเบี้ยประกันภัยของบริษัทประกันวินําศภัย พ.ศ. 2549 และประกําศคณะกรรมกําร กํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีกําร และเ งื่อนไขในกํารชดใช้เงิน หรือค่ําสินไหมทดแทนตํามสัญญําประกันภัยของบริษัทประกันวินําศภัย พ.ศ. 2559 รวมทั้งยังคง ้ หนา 67 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 1 ง ราชกิจจานุเบกษา 3 มกราคม 2566
มีจํานวนค่ําสินไหมทดแทนคงค้ํางจํานวนมํากจนส่งผลกระทบต่อฐํานะและกํารดําเนินกํารของบริษัท ตลอดจนชื่อเสียงและควํามน่ําเชื่อถือของธุรกิจประกันภัย (5) บริษัทไม่ได้ยื่นงบกํารเงิน รํายงํานเกี่ยวกับฐํานะทํางกํารเงินและกิจกําร รํายงําน กํารดํารงเงินกองทุน และงบกํารเงินของบริษัท สําหรับงวด ณ วันที่ 31 มีนําคม 2565 ภํายใน ระยะเวลําที่กฎหมํายกําหนดตํามประกําศคณะกรรมกํารก ํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง ให้บริษัทประกันวินําศภัยยื่นรํายงํานเกี่ยวกับฐํานะกํารเงินและกิจกํารของบริษัท พ.ศ. 2559 ประกําศคณะกรรมกํารกํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีกําร เงื่อนไข และระยะเวลํา ในกํารจัดทําและยื่นงบกํารเงินและรํายงํานเกี่ยวกับผลกํารดําเนินงํานบริษั ท ประกันวินําศภัย พ.ศ. 2559 และประกําศคณะกรรมกํารกํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจ ประกันภัย เรื่อง กําหนด หลักเกณฑ์ วิธีกํารและเงื่อนไขในกํารจัดทํารํายงํานกํารดํารงเงินกองทุน ของบริษัทประกันวินําศภัย พ.ศ. 2564 จํากข้อเท็จจริงที่ปรํากฏตํามหลักฐํานดังกล่ําวข้ํางต้น นํา ยทะเบียนจึงเห็นว่ํา กํารที่ คณะกรรมกํารมีคําวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์โครงกํารเพื่อแก้ไขฐํานะเงินกองทุนของบริษัท เป็นกรณี ตํามมําตรํา 27/7 (3) ที่ก ําหนดให้นํายทะเบียนต้องพิจํารณําด ําเนินกํารตํามมําตรํา 52 แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จํากัด (มหําชน) มีฐํานะหรือกํารดําเนินกําร อยู่ในลักษณะอันอําจเป็นเหตุให้เกิดควํามเสียหํายแก่ผู้เอําประกันภัยหรือประชําชน อันเป็นไป ตํามมําตรํา 52 วรรคหนึ่ง แห่งพระรําชบัญญัติประ กันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 อย่ํางไรก็ดี เมื่อวันที่ 17 พฤษภําคม 2565 บริษัทได้ยื่นค ําร้องขอต่อศําลล้มละลํายกลํางให้ฟื้นฟูกิจกําร ตํามประกําศส ํานักงําน คปภ. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีกําร และเงื่อนไข กํารขอควํามยินยอมในกํารฟื้นฟูกิจกํารของบริษัทประกันวินําศภัย พ.ศ. 2565 ฉบับลงวันที่ 12 เมษํายน 2565 และต่อมําศําลล้มละลํายกลํางได้มีค ําสั่งรับค ําร้องขอ ฟื้นฟูกิจกํารในวันที่ 18 พฤษภําคม 2565 โดยศําลล้มละลํายกลํางได้ไต่สวนคําร้องขอฟื้นฟูกิจกําร ในวันที่ 6 9 และ 16 กันยํายน 2565 และต่อมําวันที่ 20 ตุลําคม 2565 ศําลล้มละลํายกลําง ได้ไต่สวนได้ควํามจริงว่ํา ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวและเป็นหนี้เจ้ําหนี้หลํายคนรวมกันเป็นจ ํานวน ไม่น้อยกว่ําสิบล้ํานบําท กิจกํารของลูกหนี้ยังมีรํายได้ กรณียังมีช่องทํางและมีเห ตุอันสมควร และลูกหนี้ ยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจกํารโดยสุจริต ทั้งไม่ปรํากฏว่ําลูกหนี้ขําดคุณสมบัติในกํารเป็นผู้ทําแผน จึงมีคําสั่ง ให้ฟื้นฟูกิจกํารของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จํากัด (มหําชน) ลูกหนี้และตั้งบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จํากัด (มหําชน) ลูกหนี้เป็นผู้ ทําแผน ตํามคดีหมํายเลขดําที่ ฟฟ 9/2565 ซึ่งตํามมําตรํา 90/12 (3) แห่งพระรําชบัญญัติล้มละลําย พุทธศักรําช 2483 กําหนดว่ํา นับแต่วันที่ศําลมีคําสั่งรับค ําร้องขอไว้ เพื่อพิจํารณําจนถึงวันครบกําหนดระยะเวลําดําเนินกํารตํามแผน หรือวันที่ดําเนินกํารเป็นผลสําเร็จ ตํามแผนหรือวันที่ศําลมีคําสั่งยกคําร้องขอ หรือจําหน่ํายคดีหรือยกเลิกคําสั่งให้ฟื้นฟูกิจกํารหรือยกเลิก ้ หนา 68 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 1 ง ราชกิจจานุเบกษา 3 มกราคม 2566
กํารฟื้นฟูกิจกํารหรือพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขําดตําม ห้ํามมิให้กรมกํารประกันภัย ซึ่งหมํายถึง สํานักงํานคณะกรรมกํารกํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย สั่งให้เพิก ถอนใบอนุญําต ประกอบกิจกํารของลูกหนี้หรือสั่งให้ลูกหนี้หยุดประกอบกิจกําร เว้นแต่จะได้รับอนุญําตจํากศําล ที่รับค ําร้องขอ เพื่อให้กํารกํากับดูแลและติดตํามกํารแก้ไขปัญหําฐํานะและกํารดําเนินกํารของบริษัท เป็นไป อย่ํางรอบด้ําน ครอบคลุมทั้งกํารติดตํามควํามมั่นคงทํางกํารเงินและธุรกรรมก ํารดําเนินงําน ในระหว่ําง ที่บริษัทอยู่ระหว่ํางดําเนินกํารตํามกระบวนกํารฟื้นฟูกิจกํารตํามพระรําชบัญญัติล้มละลําย พุทธศักรําช 2483 อําศัยอํานําจตํามควํามในมําตรํา 51 (3) และ (4) ประกอบกับมําตรํา 52 วรรคหนึ่ง แห่งพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติ มโดยพระรําชบัญญัติประกันวินําศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบกับ มติคณะกรรมกํารก ํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจ ประกันภัย ในกํารประชุมครั้งที่ 11/ 2565 เมื่อวันที่ 28 ตุลําคม พ.ศ. 2565 นํายทะเบียนด้วย ควํามเห็นชอบของคณะกรรมกํารกํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย จึงมีคําสั่งให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จ ํากัด (มหําชน) ดําเนินกําร ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้เพิ่มทุนและแก้ไขฐํานะกํารเงินให้เพียงพอต่อภําระผูกพันและให้มีอัตรําส่วนของ เงินกองทุนเพีย งพอตํามที่กฎหมํายก ําหนดภํายใน 1 ปี ข้อ 2 เปิดเผยข้อมูลทํางกํารเงิน สินทรัพย์สภําพคล่อง และภําระหนี้สินตํามสัญญํา ประกันภัย ในหน้ําเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อให้ผู้เอําประกันภัยและประชําชน ทรําบถึงสถํานะของบริษัท ตลอดช่วงเวลําที่อยู่ภํายใต้กระบวนกํารฟื้นฟูกิจกําร และให้ส่งข้ อมูลดังกล่ําวให้สํานักงําน คปภ. เพื่อจะได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของส ํานักงําน คปภ. ข้อ 3 ลงทุนได้เฉพําะในสินทรัพย์ ดังต่อไปนี้ (ก) ฝํากเงินไว้กับสถําบันกํารเงิน (ข) ตรําสํารหนี้ที่ออก สั่งจ่ําย รับรอง รับอําวัล หรือค้ําประกันโดยรัฐบําลไทยธนําคําร แห่งประเทศไทย กระทรวงกํารคลัง หรือกองทุนเพื่อกํารฟื้นฟูและพัฒนําระบบสถําบันกํารเงิน (ค) ตรําสํารหนี้ที่ออก สั่งจ่ําย รับรอง รับอําวัล หรือค้ ําประกันโดยสถําบันกํารเงิน หรือตรําสํารหนี้ ที่ออกโดยบริษัทจ ํากัด องค์กรหรือรัฐวิสําหกิจ ที่มีอันดับควํามน่ําเชื่อถือของตรําสํารหรือ ของผู้ออก ตรําสําร ไม่ต่ํากว่ําอันดับควํามน่ําเชื่อถือที่สํามํารถลงทุนได้ (ง) หน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่มีนโยบํายลงทุนในตรําสํารตําม (ก) (ข) และ (ค) (จ) ตรําสํารทุนที่ออกโดยบริษัท กลํางคุ้มครองผู้ประสบภัยจํากรถ จ ํากัด หรือ กรณีที่บริษัทจะลงทุนในสินทรัพย์อื่นนอกจําก (ก) (ข) (ค) (ง) และ (จ) หรือประกอบธุรกิจอื่น ต้องได้รับควํามเห็นชอบจํากนํายทะเบียน ข้อ 4 บันทึกรํายกํารในสมุดทะเบียนและสมุดบัญชีเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท คํานวณและ ดํารงเงินส ํารองประกันภัยให้เพียงพอ ถูกต้อง และครบถ้วนตํามที่กฎหมํายก ําหนด ้ หนา 69 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 1 ง ราชกิจจานุเบกษา 3 มกราคม 2566
ข้อ 5 ตรวจสอบรํายกํารรับแจ้งกํารเรียกร้องค่ําสินไหมทดแทน และดําเนินกํารบันทึก รํายกํารในสมุดทะเบียนและสมุดบัญชีโดยเร็ว และให้เป็นไปตํามระยะเวลําที่กฎหมํายก ําหนด ข้อ 6 ให้บริษัทพิจํารณําและชดใช้เงินค่ําสินไหมทดแทนตํามสัญญําประกันภัยให้ครบถ้วน ภํายในระยะเวลําที่กฎหมํายกําหนด และขออ นุญําตศําลล้มละลํายกลํางให้มีคําสั่งอนุญําต ให้บริษัท ชดใช้เงินค่ําสินไหมทดแทนตํามสัญญําประกันภัยตํามค ําชี้ขําดของอนุญําโตตุลํากํารหรือค ําพิพํากษําของศําล ส ําหรับประเภทสัญญําประกันภัยที่บริษัทด ําเนินกํารค้ําตํามปกติ ข้อ 7 รํายงํานฐํานะกํารเงิน อัตรําส่วนควํามเพียงพอของเงินกองทุนและสิ นทรัพย์ สภําพคล่องของบริษัท ตํามที่นํายทะเบียนกําหนดนับตั้งแต่วันที่ศําลล้มละลํายกลํางมีคําสั่งรับคําร้องขอ ฟื้นฟูกิจกํารไว้พิจํารณํา ข้อ 8 รํายงํานควํามคืบหน้ํากํารดําเนินกําร ตํามข้อ 1 ถึงข้อ 7 ทุกเจ็ดวัน ทั้งนี้ กํารดําเนินงํานของบริษัทยังคงต้องอยู่ภํายใต้กํารกํากับดูแลของสํานักงํานคณะกรรมกําร กํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย ตํามกฎหมํายว่ําด้วยประกันวินําศภัย กฎหมํายว่ําด้วย ล้มละลํายและกฎหมํายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือตํามที่ศําลล้มละลํายกลํางจะมีคําสั่งเป็นอย่ํางอื่น หํากบริษัท ไ ม่เห็นด้วยกับค ําสั่งนี้ บริษัทมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมกํารก ํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย ภํายในสิบห้ําวันนับแต่วันที่ได้รับทรําบค ําสั่ง สั่ง ณ วันที่ 31 ตุลําคม พ.ศ. 25 6 5 สุทธิพล ทวีชัยกําร เลขําธิกําร คณะกรรมกํารกํากับและส่งเสริมกํารประกอบธุรกิจประกันภัย นํายทะเบียน ้ หนา 70 ่ เลม 140 ตอนพิเศษ 1 ง ราชกิจจานุเบกษา 3 มกราคม 2566