Thu Dec 01 2022 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมจังหวัดตรัง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565


ข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมจังหวัดตรัง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565

ข้อก ําหนด เกี่ยวกับกํารจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อําศัยและพําณิชยกรรมจังหวัดตรัง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 อําศัยอํานําจตํามควํามในมําตรํา 14 (1) และมําตรํา 16 แห่งพระรําชบัญญัติกํารจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 อันเป็นกฎหมํายที่มีบทบัญญัติบํางประกํารเกี่ยวกับกํารจํากัดสิทธิและเสรีภําพของบุคคล ซึ่งมําตรํา 29 ประกอบกับมําตรํา 33 มําตรํา 41 และมําตรํา 43 ของรัฐธรรมนูญแห่ง รําชอําณําจักรไทยบัญญัติให้กระทําได้โดยอําศัยอํานําจตํามบทบัญญัติแห่งกฎหมําย คณะกรรมกําร จัดสรรที่ ดินจังหวัดตรัง จึงออกข้อกําหนดเกี่ยวกับกํารจัดทําแผนผัง โครงกําร และวิธีกํารในกํารจัดสรรที่ดิน เพื่อที่อยู่อําศัยและพําณิชยกรรม โดยควํามเห็นชอบจํากคณะกรรมกํารจัดสรรที่ดินกลํางไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ข้อก ําหนดนี้เรียกว่ํา “ ข้อก ําหนดเกี่ยวกับกํารจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อําศัยและ พําณิชยกรรมจังหวัดตรัง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ” ข้อ 2 ข้อกําหนดนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสํามสิบวันนับแต่วันประกําศในรําชกิจจํานุเบกษํา เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกควํามใน (1) (3) และ (6) ของข้อ 13.6 ของข้อกําหนดเกี่ยวกับ กํารจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อําศัยและพําณิชยกรรมจังหวัดตรัง พ.ศ. 2547 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “( 1) ขนําดเส้นผ่ําศูนย์กลํางภํายในของท่อระบํายน้ําขนําดเล็กที่สุด ไม่ต่ํากว่ํา 60 เซนติเมตร ยกเว้นในกรณีเลือกใช้ระบบระบํายน้ ําเสียแยกจํากระบบระบําย น้ ําฝน (3) ระดับควํามลําดเอียงของท่อระบํายน้ํา ต้องต่อเนื่องกันไปตลอดทั้งระบบและมีระดับ ควํามลําดเอียง ต้องไม่ต่ํากว่ํา 1 : 1000 (6) บ่อพักท่อระบํายน้ํา ก. ประเภทบ้ํานเดี่ยว ต้องจัดให้มีประจ ําทุกแปลงย่อย ข. ประเภทบ้ํานแฝด บ้ํานแถว หรืออําคํารพําณิชย์ จัดให้หนึ่งบ่อต่อสองแปลง ทั้งนี้ ต้องแยกท่อระบํายน้ําเข้ําบ่อพักออกจํากกันและระยะห่ํางระหว่ํางบ่อพักต้องไม่เกิน 15.00 เมตร โดยต้องมีทุกจุดที่มีกํารเปลี่ยนขนําดท่อ จุดเลี้ยว จุดบรรจบของท่อ หรือรํางระบํายน้ํา และตั้งอยู่ ในพื้นที่ของแผนผังโครงกํารจัดสรรที่ดิน ” ข้อ 4 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 19 ข้อ 20 และข้อ 21 ของข้อก ําหนดเกี่ยวกับ กํารจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อําศัยและพําณิชยกรรมจังหวัดตรัง พ.ศ. 2547 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 19 ถนนแต่ละสํายให้มีควํามยําวจํากทํางแยกหนึ่งถึงอีกทํางแยกหนึ่งไม่เกิน 300.00 เมตร และไม่ควรให้เป็นแนวตรงยําวเกินกว่ํา 600.00 เมตร ้ หนา 25 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 284 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ถนนในโครงกํารที่มีควํามยําวระหว่ํางทํางแยกเกินกว่ํา 120.00 เมตร ให้จัดทํา สันชะลอควํามเร็วทุกระยะไม่เกิน 120.00 เมตร ถนนที่เป็นปลํายตันต้องจัดให้มีที่กลับรถ ดังนี้ 19 .1 ถนนปลํายตันที่มีระยะเกิน 50.00 เมตร แต่ไม่เกิน 100.00 เมตร ให้จัดท ําที่กลับรถบริเวณปลํายตัน 19 .2 ถนนปลํายตันที่มีระยะควํามยําวเกิน 100.00 เมตร ให้จัดทําที่กลับรถ ทุกระยะ 100.00 เมตร แต่หํากมีระยะเป็นเศษไม่ครบ 100.00 เมตร ต้องจัดทําที่กลับรถ ตํามเงื่อนไข ต่อไปนี้ (1) หํากระ ยะตั้งแต่จุดที่ครบ 100.00 เมตร จุดสุดท้ํายไปจนถึง จุดปลํายตันของถนนมีระยะไม่เกิน 50.00 เมตร ให้จัดทําที่กลับรถที่บริเวณปลํายตันของถนน โดยไม่ต้องจัดท ําที่กลับรถในบริเวณที่ครบระยะ 100.00 เมตร จุดสุดท้ําย (2) หํากระยะตั้งแต่จุดที่ครบ 100.00 เมตร จุดสุดท้ํายไปจนถึง จุดปลํายตันของถนนมีระยะเกิน 50.00 เมตร ให้จัดท ําที่กลับรถที่บริเวณปลํายตันของถนนด้วย 19 .3 ที่กลับรถต้องจัดให้เป็นไปตํามมําตรฐําน ดังนี้ (1) กรณีที่เป็นวงเวียน ต้องมีรัศมีควํามโค้งวัดจํากจุดศูนย์กลํางถึงกึ่งกลํางถนน ไม่ต่ํากว่ํา 6.00 เม ตร และผิวจรําจรกว้ํางไม่ต่ํากว่ํา 6.00 เมตร (2) กรณีเป็นรูปตัวที ( T ) ต้องมีควํามยําวสุทธิของไหล่ตัวทีด้ํานละ ไม่ต่ํากว่ํา 5.00 เมตร เว้นแต่จัดทําที่บริเวณปลํายตันให้มีควํามยําวของไหล่ตัวทีด้ํานละไม่ต่ํากว่ํา 2.50 เมตร และผิวจรําจรกว้ํางไม่ต่ํากว่ํา 4.00 เมตร (3) กรณีเป็นรูปตัวแอล ( L ) ต้องมีควํามยําวสุทธิของขําแต่ละด้ําน ไม่ต่ํากว่ํา 5.00 เมตร และผิวจรําจรกว้ํางไม่ต่ํากว่ํา 4.00 เมตร หํากจัดทําในบริเวณปลํายตันของถนน ให้จัดท ําห่ํางจํากบริเวณปลํายตันไม่น้อยกว่ํา 5.00 เมตร (4) กรณีเป็นรูปตัววําย ( Y ) ต้องมีควํามยําวสุทธิของแขนตัววํายด้ํานละ ไม่ต่ํากว่ํา 5.00 เมตร เว้นแต่จัดทําที่บริเวณปลํายตันให้มีควํามยําวของไหล่ตัววํายด้ํานละไม่ต่ํากว่ํา 2.50 เมตร และผิวจรําจรกว้ํางไม่ต่ํากว่ํา 4.00 เมตร มุมตัววํายต้องไม่เล็กกว่ํา 120 องศํา ข้อ 20 ที่จอดรถสําหรับที่ดินแปลงย่อยประเภทอําคํารพําณิชย์ ต้องจัดให้มีจ ํานวนที่จอดรถ ไม่น้อยกว่ํา 1 คัน ต่อ 1 แปลง 20 .1 กรณีจัดท ําที่จอดรถบริเวณด้ํานหน้ําของที่ดินแปลงย่อยแต่ละแปลง ให้มีลักษณะ ดังนี้ (1) กรณีจัดให้มีที่จอดรถยนต์ตั้งฉํากกับแนวทํางเดินรถให้ มีควํามกว้ําง ไม่น้อยกว่ํา 2 .5 0 เมตร และควํามยําวไม่น้อยกว่ํา 5.00 เมตร (2) กรณีจัดให้มีที่จอดรถยนต์ขนํานแนวทํางเดินรถ หรือทํามุมกับทํางเดินรถ น้อยกว่ํา 30 องศํา ให้มีควํามกว้ํางไม่น้อยกว่ํา 2 .5 0 เมตร และควํามยําวไม่น้อยกว่ํา 6.00 เมตร ้ หนา 26 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 284 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

(3) กรณีจัดให้มีที่จอดรถยนต์ทํามุมกับทํางเดินรถตั้งแต่ 30 องศําขึ้นไป ให้มีควํามกว้ํางไม่น้อยกว่ํา 2 .5 0 เมตร และควํามยําวไม่น้อยกว่ํา 5.50 เมตร ให้แสดงขอบเขตที่จอดรถแต่ละคันไว้ให้ปรํากฏในบริเวณที่จอดรถ 20 .2 กรณีจัดที่จอดรถบริเวณพื้นที่ที่จัดไว้เป็นที่จอด รถในบริเวณอื่นต้องจัดที่จอดรถ ในบริเวณใกล้เคียงที่ดินแปลงย่อย และสํามํารถเดินทํางได้โดยสะดวกมีระยะทํางไม่เกิน 200.00 เมตร จํากที่ดินแปลงย่อยซึ่งอยู่ในโครงกํารจัดสรรที่ดินเดียวกัน และให้ถือเป็นสําธํารณูปโภคของโครงกําร จัดสรรที่ดินนั้นที่ให้ใช้เฉพําะที่ดินแปลงย่อยประเภทอําคํารพําณิชย์ โดยให้มีลักษณะกํารจัดท ํา ตํามกฎหมํายว่ําด้วยกํารควบคุมอําคําร และให้แสดงขอบเขตที่จอดรถแต่ละคันไว้ให้ปรํากฏในบริเวณ ที่จอดรถดังกล่ําวด้วย ข้อ 21 ทํางเดินและทํางเท้ํา 21 .1 ถนนด้ํานที่ใช้เป็นทํางเข้ําออกสู่ที่ ดินแปลงย่อยประเภทที่อยู่อําศัยและ พําณิชยกรรมต้องจัดให้มีทํางเดินและทํางเท้ํา มีควํามกว้ํางทํางเดินและทํางเท้ําสุทธินับจํากเขตแปลงที่ดิน ต้องไม่ต่ํากว่ํา 50 เซนติเมตร ตลอดควํามยําวของถนนโดยไม่มีสิ่งกีดขวําง 21.2 ในกรณีที่เป็นทํางเดินและทํางเท้ํายกระดับ ขอบทํางเดินและท ํางเท้ํา ต้องเป็นคันหินสูงระหว่ําง 12 ถึง 15 เซนติเมตร สม่ําเสมอกันไปตลอดจนควํามยําวถนนสํายหลัก ยกเว้นถนนด้ํานที่ใช้เป็นทํางเข้ําสู่ที่ดินแปลงย่อยประเภทบ้ํานแฝด หรือบ้ํานแถว จะไม่ทําเป็นทํางเท้ํา ยกระดับก็ได้ 21.3 จุดที่เป็นทํางเข้ําออกสู่ที่ดินแปลงย่อยให้ลดคันหินลง ให้รถยนต์เข้ําออกได้ แต่ให้รักษําระดับทํางเดินและทํางเท้ําให้สูงเท่ําเดิม ทํางเดินและทํางเท้ําส่วนที่เป็นทํางเข้ําออกนี้ ให้ท ําเป็นผิวจรําจรเช่นเดียวกับข้อ 22.3 21.4 วัสดุปูทํางเท้ําต้องเป็นคอนกรีตหรือวัสดุอื่นที่ มีควํามมั่ น คงแข็งแรง 21.5 กํารปลูกต้นไม้หรือติดตั้งอุปกรณ์ประดับถนน ส่วนลําต้นของต้นไม้ต้องไม่ ล้ ําลงมําในส่วนที่เป็นทํางเดินและทํางเท้ําสุทธิ ” ข้อ 5 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 33.2 ของข้อกําหนดเกี่ยวกับกํารจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อําศัย และพําณิชยกรรมจังหวัดตรัง พ.ศ. 2547 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ 33.2 ในกรณีเป็นกํารจัดสรรที่ดินขนําดใหญ่ ผู้จัดสรรที่ดินจะต้องกันพื้นที่ไว้ เป็นที่ตั้งของสําธํารณูปโภคประเภทลํานกิจกรรมหรือลํานอเนกประสงค์ จ ํานวน 1 แห่ง เนื้อที่ไม่น้อยกว่ํา 200 ตํารํางวํา และต้องจัดให้มีพื้นที่ดังกล่ําวเพิ่มขึ้นทุก ๆ 500 แปลง หรือทุก ๆ 100 ไร่ ที่ดินที่กันไว้เพื่อจัดตั้งโรงเรียนอนุบําล ตํามแผนผัง โครงกํารและวิธีกําร จัดสรรที่ดิน ในโครงกํารจัดสรรที่ดินที่ได้รับอนุญําตให้ทํากํารจัดสรรที่ดิน ก่อนวันที่ข้อกําหนดฉบับนี้ มีผลใช้บังคับหํากไม่สํามํารถจัดตั้งโรงเรียนอนุบําลหรือโรงเรียนประเภทอื่นตํามระเบียบ กระทรวงศึกษําธิกํารได้ ให้ใช้พื้นที่ดังกล่ําวจัดท ําเป็นสําธํารณูปโภคอื่น เช่น ลํานกิจกรรม ้ หนา 27 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 284 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ลํานอเนกประสงค์ สวน สนํามเด็กเล่น สนํามกีฬํา เป็นต้น โดยผู้จัดสรรที่ดินที่ประสงค์จะจัดทํา สําธํารณูปโภคดังกล่ําวต้องยื่นคําขอแก้ไข เปลี่ยนแปลงแผนผัง โครงกํารหรือวิธีกํารที่ได้รับอนุญําต เพื่อให้คณะกรรมกํารพิจํารณําตํามนัยมําตรํา 32 แห่งพระรําชบัญญัติกํารจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ด้วย ” ข้อ 6 ให้เพิ่มควํามต่อไปนี้เป็นข้อ 36 ของข้อกําหนดเกี่ยวกับกํารจัดสรรที่ ดินเพื่อที่อยู่อําศัย และพําณิชยกรรมจังหวัดตรัง พ.ศ. 2547 “ ข้อ 36 ผู้ขอจัดสรรที่ดินต้องปฏิบัติตํามกฎหมํายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ” ข้อ 7 มิให้นําข้อกําหนดนี้มําใช้บังคับแก่กํารจัดสรรที่ดินที่ได้ยื่นคําขออนุญําตไว้ก่อนวันที่ ข้อกําหนดนี้ใช้บังคับ ให้ไว้ ณ วันที่ 19 ตุลําคม พ.ศ. 25 6 5 ขจรศักดิ์ เจริญโสภํา ผู้ว่ํารําชกํารจังหวัดตรัง ประธํานกรรมกํารจัดสรรที่ดินจังหวัดตรัง ้ หนา 28 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 284 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565