Thu Dec 01 2022 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ข้อบังคับของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 24 ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตเป็นผู้ประจำหน้าที่


ข้อบังคับของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 24 ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตเป็นผู้ประจำหน้าที่

ข้อบังคับของส ํานักงํานกํารบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 24 ว่ ําด้วยคุณสมบัติของผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจ ําหน้ําที่ อําศัยอ ํานําจตํามควํามในมําตรํา 6/1 และมําตรํา 44 (3) แห่งพระรําชบัญญัติกํารเดินอํากําศ พ.ศ. 2497 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรําชกําหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรําชบัญญัติกํารเดินอํากําศ พ.ศ. 2497 พ.ศ. 2558 ประกอบกับมติคณะกรรมกํารกํารบินพลเรือนในครําวประชุมครั้งที่ 5 / 256 5 เมื่อวันที่ 27 กรกฎําคม 2565 ผู้อํานวยกํารสํานักงํานกํารบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงออกข้อบังคับ ตํามภําคผนวก 1 และบทแก้ไขเพิ่มเติมภําคผนวก 1 แห่งอนุสัญญําว่ําด้วยกํารบินพลเรือนระหว่ํางประเทศ ค.ศ. 1944 เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจ ําหน้ําที่ไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ข้อบังคับฉบับนี้ เรียกว่ํา “ ข้อบังคับของสํานักงํานกํารบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 24 ว่ําด้วยคุณสมบัติของผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจ ําหน้ําที่ ” ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งปีนับแต่วันประกําศในรําชกิจจํานุเบกษํา เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิก (1) ข้อบังคับของคณะกรรมกํารกํารบินพลเรือน ฉบับที่ 89 ว่ําด้วยคุณสมบัติของผู้ขออนุญําต เป็นผู้ประจ ําหน้ําที่ ประกําศ ณ วันที่ 28 กุมภําพันธ์ พ.ศ. 2556 (2) ข้อบังคับของสํานักงํานกํารบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 6 ว่ําด้วยคุณสมบัติ ของผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจ ําหน้ําที่ ประกําศ ณ วันที่ 4 สิงหําคม พ.ศ. 2560 (3) ข้อบังคับของสํานักงํานกํารบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 14 ว่ําด้วยคุณสมบัติ ของผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจ ําหน้ําที่ ประกําศ ณ วันที่ 26 มีนําคม พ.ศ. 2563 ข้อ 4 ในข้อบังคับนี้ “ เครื่องบิน ” ( Aeroplane ) หมํายควํามว่ํา อํากําศยํานหนักกว่ําอํากําศ มีกําลังขับเคลื่อน ซึ่งได้รับ แรงยกในกํารบินส่วนใหญ่จํากปฏิกิริยําพลวัตของอํากําศที่กระทําต่อปีกติดอยู่กับที่ตลอดเวลํา ภํายใต้ภําวะบินต่ําง ๆ ที่ก ําหนดไว้ “ เฮลิคอปเตอร์ ” ( Helicopter ) หมํายควํามว่ํา อํากําศยํานหนักกว่ําอํากําศซึ่งพยุงตัวบินอยู่ได้ โดยอําศัยปฏิกิริยําของอํากําศที่เกิดขึ้นบนใบพัด ( Rotor ) อันหนึ่งหรือหลํายอันที่ขับหมุนด้วยกําลังรอบแกน ซึ่งตั้งอยู่เกือบเป็นแนวยืน “ อํากําศยํานขึ้นลงทํางดิ่ง ” ( Powered - lift ) หมํายควํามว่ํา อํากําศยํานหนักกว่ําอํากําศ ที่สํา มํารถบินขึ้นลงในแนวดิ่งและบินด้วยควํามเร็วต่ํา โดยอําศัยเครื่องยนต์ขับดันหรือเครื่องยนต์ฉุด สําหรับกํารลอยตัวระหว่ํางกํารบินท่ําทํางเหล่ํานั้น และไม่มีส่วนที่หมุนเพื่อกํารยกตัว ( Non - rotating aerofoil ( s )) ในกํารบินแนวระนําบ ้ หนา 18 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

“ นําวําอํากําศ ” ( Airship ) หมํายควํามว่ํา อํากําศยํานเบํากว่ําอํากําศซึ่งมีก ําลังขับเคลื่อน “ เครื่องร่อน ” ( Glider ) หมํายควํามว่ํา อํากําศยํานหนักกว่ําอํากําศไม่มีกําลังขับเคลื่อน ซึ่งได้รับแรงยกในกํารบินส่วนใหญ่จํากปฏิกิริยําพลวัตของอํากําศที่กระท ําต่อปีกซึ่งติดอยู่กับที่ตลอดเวลํา ภํายใต้ภําวะบินต่ําง ๆ ที่ก ําหนดไว้ “ บัลลู น ” ( Balloon ) หมํายควํามว่ํา อํากําศยํานเบํากว่ําอํากําศซึ่งไม่มีกําลังขับเคลื่อน “ เวลําบินเดี่ยว ” ( Solo flight time ) หมํายควํามว่ํา เวลําบินที่นักบินศิษย์กํารบินอยู่คนเดียว ในอํากําศยําน “ นักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานภํายใต้กํารอ ํานวยกําร ” ( Pilot - in - command under supervision ) หมํายควํามว่ํา นักบินผู้ช่วยที่กระท ําหน้ําที่และปฏิบัติงํานของนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานภํายใต้ กํารอ ํานวยกํารของนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานตํามวิธีกํารอ ํานวยกํารที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง “ เครื่องช่วยฝึกบิน ” หมํายควํามว่ํา เครื่องช่วยฝึกบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินขั้ นพื้นฐําน ( Basic Instrument Flight Trainer ) เครื่องช่วยฝึกวิธีกํารบิน ( Flight Procedures Trainer ) และ เครื่องช่วยฝึกบินจ ําลอง ( Flight Simulator ) “ ศิษย์พนักงํานควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ ” หมํายควํามว่ํา ผู้ที่จบกํารศึกษําตํามหลักสูตร กํารควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกําร รับรอง ซึ่งยังไม่ได้รับใบอนุญําตพนักงํานควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ แต่ได้ฝึกปฏิบัติงํานควบคุม กํารจรําจรทํางอํากําศจริงภํายใต้กํารอํานวยกํารของผู้มีศักยควบคุมก ํารจรําจรทํางอํากําศที่เหมําะสม ณ หน่วยงํานควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศบริเวณสนํามบิน เขตประชิดสนํามบิน หรือในพื้นที่ควบคุม “ สมรรถนะ ” ( Competency ) หมํายควํามว่ํา ควํามสํามํารถของมนุษย์ที่นํามําใช้เป็นเกณฑ์ วัดควํามสําเร็จของกํารทํางํานผ่ํานพฤติกรรมที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน ในด้ําน ควํามรู้ ( Knowledge ) ทักษะ ( Skills ) และทัศนคติ ( Attitudes ) ที่เกี่ยวข้องในกํารดําเนินงํานภํายใต้เงื่อนไขที่กําหนด “ กํารอบรมบนพื้นฐํานสมรรถนะและกํารประเมินผล ” ( Competency - based training and assessment ) หมํายควํามว่ํา กํารฝึกอบรมและกํารประเมินผลที่เน้นมําตรฐํานของผลงําน ประกอบกับ กํารพัฒนํากํารฝึกอบรมเพื่อให้ได้มําตรฐํานกํารท ํางํานตํามที่กําหนด “ กรอบแนวคิดสมรรถนะขององค์กํารกํารบินพลเรือนระหว่ํางประเทศ ” ( ICAO competency framework ) หมํายควํามว่ํา กรอบแนวคิดด้ํานสมรรถนะที่ถูกพัฒนําขึ้นโดยอ งค์กํารกํารบินพลเรือน ระหว่ํางประเทศ ( ICAO ) เพื่อใช้สําหรับกํารเดินอํากําศโดยเฉพําะ ซึ่งมีคําอธิบํายที่เกี่ยวข้องและ แนวทํางกํารปฏิบัติที่ชัดเจน “ เกณฑ์ควํามสํามํารถ ” ( Performance criteria ) หมํายควํามว่ํา หลักในกํารประเมินระดับ ควํามสํามํารถที่กําหนดขึ้นเพื่อบรรลุตํามสมรรถนะ ประกอบด้วยพฤติกรรมที่สังเกต เงื่อนไข และ มําตรฐํานสมรรถนะ ้ หนา 19 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

“ นักบินผู้ควบคุมเที่ยวบิน ” ( Pilot flying : PF ) หมํายควํามว่ํา นักบินผู้ที่มีภํารกิจหลักคือ กํารควบคุมและจัดกํารในเที่ยวบิน ภํารกิจล ําดับรองคือกํารปฏิบัติหน้ําที่ที่ไม่เกี่ยวกับกํารกระท ําเกี่ยวกับ เส้นทํางกําร บิน เช่น กํารสื่อสํารทํางวิทยุ ระบบเครื่องบิน และกิจกรรมอื่น ๆ ในขณะปฏิบัติกํารบิน รวมถึงกํารตรวจสอบลูกเรือ “ นักบินผู้ตรวจตรําเที่ยวบิน ” ( Pilot monitoring : PM ) หมํายควํามว่ํา นักบินผู้ที่มีภํารกิจหลัก คือตรวจตรํา ( Monitor ) และกํารจัดกํารเที่ยวบินที่ดําเนินกํารโดยนักบินผู้ควบคุมเที่ยวบิน ภํารกิจ ลําดับรองคือกํารปฏิบัติหน้ําที่ที่ไม่เกี่ยวกับกํารกระทําเกี่ยวกับเส้นทํางกํารบิน เช่น กํารสื่อสํารทํางวิทยุ ระบบเครื่องบิน และกิจกรรมอื่น ๆ ในขณะปฏิบัติกํารบิน รวมถึงกํารตรวจสอบลูกเรือ “ แบบจําลอ งกํารปรับปรุงสมรรถนะ ” ( Adapted competency model ) หมํายควํามว่ํา แบบจําลองกํารปรับปรุงสมรรถนะในกํารฝึกอบรมตํามกรอบที่องค์กํารกํารบินพลเรือนระหว่ํางประเทศ ( ICAO ) ก ําหนด อันประกอบด้วยค ําอธิบํายและหลักเกณฑ์กํารปฏิบัติงํานที่มีประสิทธิภําพ เพื่อให้ สถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินน ําไปใช้ในกํารพัฒนํากํารฝึกอบรมบนพื้นฐํานสมรรถนะและกํารประเมินผล ( Competency - based training and assessment ) “ อํากําศยํานเบํา ” ( Light Aircraft ( LA )) หมํายควํามว่ํา (1) เครื่องบินแบบเครื่องยนต์เดียวลูกสูบ - พื้นดิน ( Single - engine piston aeroplanes - Land ) หรือเครื่องบินแบบเครื่องยนต์เดียวลูกสูบ - พื้นน้ ํา ( Single - engine piston aeroplanes - Sea ) หรือ เครื่องร่อนมอเตอร์ทัวริ่ง ( Touring Motor Gliders ( TMGs )) ซึ่งมีมวลรวมวิ่งขึ้นสูงสุดไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม และมีผู้โดยสํารได้ไม่เกิ น 3 คน (2) เฮลิคอปเตอร์เครื่องยนต์เดียว ( Single - engine helicopter ) ซึ่งมีมวลรวมวิ่งขึ้นสูงสุด ไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม และมีผู้โดยสํารได้ไม่เกิน 3 คน (3) เครื่องร่อนซึ่งมีมวลรวมวิ่งขึ้นสูงสุดไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม (4) บัลลูนที่ใช้ควํามร้อน ( Hot - Air Balloon ) หรือนําวําอํากําศที่ใช้ควํามร้อน ( Hot - Air Airships ) ซึ่งมีปริมําตรสูงสุดไม่เกิน 3,400 ลูกบําศก์เมตร ( m 3 ) หรือแก๊สบัลลูน ( Gas balloons ) ซึ่งมี ปริมําตรสูงสุดไม่เกิน 1 , 26 0 ลูกบําศก์เมตร ( m 3 ) และมีผู้โดยสํารได้ไม่เกิน 3 คน “ ระบบกํารเชื่อมต่อสั่งกํารและกํารควบคุม C 2 ” ( Command and control ( C 2 ) link ) หมํายควํามว่ํา กํารเชื่อมโยงข้อมูลระหว่ํางอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกลและสถํานีควบคุม อํากําศยําน โดยมีวัตถุประสงค์ในกํารจัดกํารเที่ยวบิน (ใช้บังคับถึงวันที่ 25 พฤศจิกํายน 2569) “ ระบบอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ” ( Remotely piloted aircraft system ( RPAS )) หมํายควํามว่ํา อํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล สถํานีควบคุมอํากําศยํานและ กํารเชื่อมต่อกํารสั่งกํารควบคุม ( C 2 ) รวมทั้งมีองค์ประกอบอื่น ๆ ตํามที่กําหนดตํามแบบของอํากําศยําน (ใช้บังคับถึงวันที่ 25 พฤศจิกํายน 2569) “ ผู้อ ํานวยกําร ” หมํายควํามว่ํา ผู้อ ํานวยกํารส ํานักงํานกํารบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ้ หนา 20 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

“ ส ํานักงําน ” หมํายควํามว่ํา ส ํานักงํานกํารบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ข้อ 5 ผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจ ําหน้ําที่ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ (1) นักบินศิษย์กํารบิน ( Student pilot ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 17 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่ศิษย์กํารบินเครื่องร่อน ศิษย์กํารบินบัลลูน ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 16 ปีบริบูรณ์ (ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นสอง (2) นักบินส่วนบุคคลเครื่องบิน นักบินส่วน บุคคลเฮลิคอปเตอร์ และนักบินส่วนบุคคลนําวําอํากําศ ( Airship ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 17 ปีบริบูรณ์ (ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นสอง (ค) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) กฎหมํายกํารบิน ( Air law ) ในเรื่อง ก) กฎและข้อบังคับที่เกี่ยวกับผู้ถือใบอนุญําตนักบินส่วนบุคคล ข) กฎจรําจรทํางอํากําศ ( Rules of the air ) ค) วิธีกํารตั้งเครื่องวัดระยะสูง ง) วิธีปฏิบัติและวิธีดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศที่เกี่ยวข้อง 2) ควํามรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอํากําศยําน ( Aircraft general knowledge ) ในเรื่อง ก) หลักกํารท ํางํานและหน้ําที่ของเครื่องยนต์ ระบบ และเครื่องวัด ข) ข้อจ ํากัดกํารท ํางํานของอํากําศยํานและเครื่องยนต์ของอํากําศยํานตํามประเภท ที่ขอใบอนุญําต และข้อมูลกํารท ํางํานที่เกี่ยวข้องจํากคู่มือกํารบินหรือเอกสํารอื่นที่เหมําะสม ส ําหรับเฮลิคอปเตอร์ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องกํารทํางํานของชุดส่งกําลัง และส ําหรับนําวําอํากําศต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องสถํานะและวิธีใช้ก๊ําซ 3) สมรรถนะ กํารวํางแผนกํารบินและกํารบรรทุก ( Flight performance, planning and loading ) ในเรื่อง ก) ผลกระทบของกํารบรรทุกและกํารกระจํายน้ําหนักที่มีผลต่อท่ําทํางกํารบิน และกํารคํานวณน้ ําหนักและสมดุล ข) กํารใช้และกํารปฏิบัติจริงในข้อมูลที่เกี่ยวกับกํารบินขึ้นบินลง และสมรรถนะ ด้ํานอื่น ๆ ค) กํารทําแผนกํารบิน ( Flight planning ) ที่เกี่ยวกับกํารปฏิบัติกํารบินส่วนบุคคล ทั้งก่อนทํากํารบินและในระหว่ํางทํากํารบินตํามกฎกํารบินด้วยทัศนวิสัย กํารเตรียมกํารและกํารยื่น แผนกํารบินต่อหน่วยบริกํารจรําจรทํางอํากําศ วิธีกํารดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศ กํารรํายงําน ้ หนา 21 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ตํา แหน่งที่บินอยู่ วิธีกํารตั้งเครื่องวัดระยะสูง และกํารปฏิบัติกํารบินในบริเวณที่มีปริมําณกํารจรําจร ทํางอํากําศหนําแน่น 4) สมรรถนะบุคคล ( Human performance ) ที่เกี่ยวข้องกับนักบินส่วนบุคคล รวมถึงหลักกํารของกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) 5) อุตุนิยมวิทยํา ( Meteorology ) ในเรื่องอุตุนิยมวิทยํากํารบินขั้นพื้นฐําน กํารใช้ และวิธีกํารได้รับข้อมูลทํางด้ํานอุตุนิยมวิทยํา วิทยําศําสตร์เกี่ยวกับกํารวัดควํามสูง ( Altimetry ) กํารหลีกเลี่ยงสภําพอํากําศที่เป็นอันตรําย 6) กํารนํา ทําง ( Navigation ) ในเรื่องกํารเดินอํากําศและเทคนิคในกํารบินเดินทําง ( Dead - reckoning ) และกํารใช้แผนภูมิกํารเดินอํากําศ 7) วิธีปฏิบัติ ( Operational procedures ) ในเรื่อง ก) กํารน ํา หลักกํารของกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) มําใช้กับสมรรถนะในกํารปฏิบัติกํารบิน ข) วิธีกํารตั้งเครื่องวัดระยะสูง ค) กํารใช้เอกสํารด้ํานกํารบิน เช่น เอกสํารแถลงข่ําวกํารบิน ( AIP ) ประกําศ ผู้ท ํากํารในอํากําศ ( NOTAM ) และกํารใช้รหัสและตัวย่อทํางกํารบิน ง) วิธีกํารปฏิบัติสําหรับป้องกันและวิธีดําเนินกํารเมื่อ เกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึง กํารกระทํา เพื่อหลีกเลี่ยงสภําพอํากําศที่เป็นอันตรําย กระแสลมมวลวน และกํารปฏิบัติอื่น ๆ ที่ทําให้เกิด อันตรําย สําหรับเฮลิคอปเตอร์ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องกํารสูญเสียแรงยกเนื่องจําก รอบกํารหมุนของใบพัดลดลง ( Settling with power ) กํารสั่นอย่ํางรุนแรงอันเนื่องมําจํากกํารเสียสมดุล ของแรงต่ําง ๆ ของใบพัดประธําน ขณะอยู่บนพื้นหรือกํารลงสู่พื้นอย่ํางรุนแรง ( Ground resonance ) กํารสูญเสียแรงยกของใบพัดประธํานที่หมุนตํามลมสัมพัทธ์ ( Retreating blade stall ) อันตรํายที่อําจ เกิดขึ้นในกํารลงสู่พื้นที่มีควํามลําดเอียงหรือกํารลงสู่พื้นที่มีกระแสลมแรงขวํางสนํามหรือกํารวิ่งขึ้นจําก สนํามบินด้วยท่ําบินที่รุนแรง ( Dynamic roll - over ) และวิธีปฏิบัติเพื่อควํามปลอดภัยเมื่อทํากํารบิน ในสภําพอํากําศที่บินด้วยทัศนวิสัย 8) หลักกํารบิน ( Principles of flight ) 9) กํารติดต่อสื่อสําร ( Communications ) (ง) ควํามช ํานําญ ต้องมีควํามช ํานําญ ดังต่อไปนี้ 1) นักบินส่วนบุคคลเครื่องบิน ต้องมีควํามช ํานําญในกํารบิน ( As a pilot ) กับเครื่องบิน มําแล้วไม่น้อยกว่ํา 45 ชั่วโมงบิน โดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรนักบินส่วนบุคคลที่ผู้อํานวยกําร รับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง ทั้งนี้ ให้นําชั่วโมงบินภํายใต้กํารควบคุม ้ หนา 22 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ของครูกํารบินกับเครื่องช่วยฝึกบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองมําใช้ค ํานวณเป็นชั่วโมงบินในจ ํานวน 45 ชั่วโมงบินได้ ไม่เกิน 5 ชั่วโมงบิน ในกรณีที่ผู้ขออนุญําตมีชั่วโมงบินกับอํากําศยํานแบบอื่น ผู้อํานวยกํารอําจประกําศ ก ําหนดให้ใช้เป็นชั่วโมงบินส ําหรับเครื่องบินได้ ทั้งนี้ ผู้ขออนุญําตจะต้องมีชั่วโมงบินคู่กับครูกํารบิน ( Dual Flight Instruction ) จํานวน 25 ชั่วโมงบิน และทํากํารบินเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบินภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบิน ซึ่งจะต้องประกอบด้วยกํารบินเดินทํางเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 5 ชั่วโมงบิน โดยในกํารบินเดินทํางเดี่ยวอย่ํางน้อย หนึ่งครั้งต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 270 กิโลเมตร (150 NM ) และต้องจบกํารบินล ง ( Full - stop landing ) ที่สนํามบินต่ํางกันอย่ํางน้อยสองแห่งซึ่งไม่ใช่สนํามบินที่ท ํากํารบินขึ้น 2) นักบินส่วนบุคคลเฮลิคอปเตอร์ ต้องมีควํามชํานําญในกํารบินกับเฮลิคอปเตอร์ มําแล้วไม่น้อยกว่ํา 45 ชั่วโมงบิน และจะต้องมีชั่วโมงบินอย่ํางน้อยจํานวน 35 ชั่วโมงบินที่ท ํากํารบินกับ เฮลิคอปเตอร์แบบเดียวกับที่ใช้ในกํารสอบภําคปฏิบัติ โดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรนักบินส่วนบุคคล ที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง ทั้งนี้ ให้น ําชั่วโมงบินภํายใต้ กํารควบคุมของครูกํารบินกับเครื่องช่วยฝึก บินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองมําใช้ค ํานวณเป็นชั่วโมงบินในจ ํานวน 45 ชั่วโมงบิน ได้ไม่เกิน 5 ชั่วโมงบิน ในกรณีที่ผู้ขออนุญําตมีชั่วโมงบินกับอํากําศยํานแบบอื่นผู้อํานวยกํารอําจประกําศ ก ําหนดให้ใช้เป็นชั่วโมงบินส ําหรับเฮลิคอปเตอร์ได้ ทั้งนี้ ผู้ขออนุญําตจะต้องมีชั่วโมงบินคู่กับครูกํารบิน ( Dual Flight Instruction ) จํานวน 25 ชั่วโมงบิน และทํากํารบินเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน ภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบิน ซึ่งจะต้องประกอบด้วยกํารบินเดินทํางเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 5 ชั่วโมงบิน โดยในกํารบินเดิน ทํางเดี่ยวอย่ํางน้อย หนึ่งครั้งต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 185 กิโลเมตร (100 NM ) และต้องจบกํารบินลง ( Full - stop landing ) ที่สนํามบินต่ํางกันอย่ํางน้อยสองแห่งซึ่งไม่ใช่สนํามบินที่ท ํากํารบินขึ้น 3) นักบินส่วนบุคคลนําวําอํากําศ จะต้องสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรนักบินส่วนบุคคล ที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง โดยมีควํามชํานําญในกํารบินกับ นําวําอํากําศมําแล้วไม่น้อยกว่ํา 35 ชั่วโมงบิน โดยผู้ขออนุญําตจะต้อง ก) มีชั่วโมงบินคู่กับครูกํารบินไม่น้อยกว่ํา 25 ชั่วโมงบิน ( Dual Flight Instruction ) ซึ่งประกอบด้วยกํารบินเดินทํางไม่น้อยกว่ํา 3 ชั่วโมงบิน โดยในกํารบินเดินทํางอย่ํางน้อย 1 ครั้ง ต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 65 กิโลเมตร (35 NM ) และต้องท ํากํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน จ ํานวนไม่น้อยกว่ํา 3 ชั่วโมงบิน ข) ท ํากํารบินขึ้น 8 ครั้ง และบินลงโดยจบกํารบินลงที่สนํามบินตํามวงจรกํารบิน 8 ครั้ง รวมถึงขั้นตอนวิธีปฏิบัติในกํารอัดและปล่อยลม ( Masting and Unmasting Procedure ) ้ หนา 23 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ค) ทํากํารบินเดี่ยวจํานวน 8 ชั่วโมงบิน ภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบิน ( Supervised Solo Flight Time ) ในกรณีที่ผู้ขออนุญําตมีชั่วโมงบินกับอํากําศยํานแบบอื่นผู้อ ํานวยกําร อําจประกําศกําหนดให้ใช้เป็นชั่วโมงบินส ําหรับนําวําอํากําศได้ (3) นักบินผู้ช่วยเครื่องบิน ( Multi - crew pilot license ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 18 ปีบริ บูรณ์ (ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นหนึ่ง (ค) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้อย่ํางน้อยตํามที่ก ําหนดไว้ใน (5) (ค) ส ําหรับผู้ขออนุญําตเป็น ผู้ประจําหน้ําที่ในตําแหน่งนักบินพําณิชย์เอกเครื่องบิน โดยสําเร็จกํารศึกษําหลักสูตรกํารฝึกอบรม บนพื้นฐํานสมรรถนะ ( Competency - base Training ) ที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรม ด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง โดยเพิ่มเติมข้อกําหนดเฉพําะที่มีมําตรฐํานเป็นไปตํามแบบจําลอง กํารปรับปรุงสมรรถนะ ( Adapted competency model ) ทั้งนี้ หลักสูตรกํารฝึกอบรมส ําหรับนักบิน ผู้ช่วยเครื่องบิ นต้องประกอบด้วยกํารฝึกอบรมควํามรู้เฉพําะด้ําน ( Underpinning Knowledge Requirement ) และกํารฝึกอบรมทักษะเฉพําะด้ําน ( Underpinning Skill Requirement ) (ง) ควํามช ํานําญ ต้องมีควํามช ํานําญ ดังต่อไปนี้ 1) สําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบิน ที่ผู้อํานวยกํารรับรอง โดยต้องทํากํารบินในฐํานะที่เป็นนักบินผู้ควบคุมเที่ยวบิน ( Pilot Flying ) และ นักบินผู้ตรวจตรําเที่ยวบิน ( Pilot Monitoring ) ด้วยกํารบินจริงและกํารบินจําลอง ( Actua l and Simulated Flight ) ไม่น้อยกว่ํา 240 ชั่วโมงบิน 2) กํารบินจริง ( Actual Flight ) ตําม (3) (ง) 1) อย่ํางน้อยจะต้องประกอบด้วย ควํามชํานําญสําหรับนักบินส่วนบุคคลตํามที่กําหนดไว้ใน (2) (ง) กํารฝึกเพื่อแก้ไขท่ําทํางกํารบิน ที่ผิดปกติ ( Upset Recovery Training ) กํารบินในเวลํากลํางคืน และกํารบินโดยใช้เครื่องวัดประกอบกํารบิน เพียงอย่ํางเดียว 3) ทํากํารบินกับเครื่องบินเครื่องยนต์กังหันก๊ําซ ( Turbine - powered aeroplane ) ที่ได้รับกํารรับรองจํากผู้อํานวยกํารให้ใช้นักบินอย่ํางน้อยสองคนตํามที่ระบุไว้ในคู่มือประกอบกํารบิน ( Flight manual ) หรือท ํากํารบินกับเครื่องช่วยฝึกบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง ทั้งนี้ ผู้ขอจะต้องแสดงสรรถนะตํามที่ระบุในแบบจําลองกํารปรับปรุงสมรรถนะ ( Adapted competen cy model ) ในฐํานะนักบินผู้ช่วยกับเครื่องบินพําณิชย์เครื่องยนต์กังหันก๊ําซ ที่ผู้อํานวยกํารรับรองให้ทํากํารบินโดยนักบินอย่ํางน้อยสองคนขึ้นไป โดยใช้มําตรฐํานที่ระบุในเอกสําร the Procedures for Air Navigation Services - Training ( PANS - TRG, Doc 9868 ) (4) นักบินพําณิชย์ตรีเครื่องบิน นักบินพําณิชย์ตรีเฮลิคอปเตอร์ และนักบินพําณิชย์ตรีนําวําอํากําศ (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 18 ปีบริบูรณ์ ้ หนา 24 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

(ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นหนึ่ง (ค) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) กฎหมํายกํารบิน ในเรื่อง ก) กฎและข้อบังคับที่เกี่ยวกับผู้ถือใบอนุญําตนักบินพําณิชย์ตรี ข) กฎจรําจรทํางอํากําศ ค) วิธีปฏิบัติและวิธีดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศที่เกี่ยวข้อง 2) ควํามรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอํากําศยําน ในเรื่อง ก) หลักกํารท ํางํานและหน้ําที่ของเครื่องยนต์ ระบบและเครื่องวัดประ กอบกํารบิน ข) ข้อจ ํากัดกํารท ํางํานของอํากําศยํานและเครื่องยนต์ของอํากําศยําน ตํามประเภทที่ขอใบอนุญําต และข้อมูลกํารท ํางํานที่เกี่ยวข้องจํากคู่มือกํารบินหรือเอกสํารอื่นที่เหมําะสม ค) กํารใช้และกํารตรวจสอบกํารใช้งํานได้ของอุปกรณ์ และระบบของอํากําศยําน ง) วิธีกํารบ ํารุงรักษําล ําตัวอํากําศยําน ระบบและเครื่องยนต์อํากําศยําน สําหรับเฮลิคอปเตอร์ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องกํารทํางํานของชุดส่งกําลัง และสําหรับนําวําอํากําศ ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องสถํานะและวิธีใช้ก๊ําซ 3) สมรรถนะ กํารวํางแผนกํารบิน และกํารบรรทุก ในเรื่ อง ก) ผลกระทบของกํารบรรทุกและกํารกระจํายน้ําหนักที่มีผลต่อกํารจัดกําร อํากําศยําน ( Aircraft handling ) ต่อท่ําทํางกํารบินและสมรรถนะอํากําศยําน และกํารคํานวณน้ําหนัก และสมดุลด้ํานอื่น ๆ ข) กํารใช้และกํารปฏิบัติจริงในข้อมูลที่เกี่ยวกับกํารบินขึ้นบินลงและสมรรถนะ ด้ํานอื่น ๆ ค) กํารท ําแผนกํารบินที่เกี่ยวกับกํารปฏิบัติกํารบินพําณิชย์ทั้งก่อนท ํากํารบินและ ในระหว่ํางทํากํารบินพําณิชย์ตํามกฎกํารบินด้วยทัศนวิสัย กํารเตรียมกํารและกํารยื่นแผนกํารบินต่อ หน่วยบริกํารจรําจร ทํางอํากําศ วิธีกํารดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศ และวิธีกํารตั้งเครื่องวัดระยะสูง สําหรับเฮลิคอปเตอร์ และนําวําอํากําศต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องผลกระทบของกํารบรรทุกภํายนอก ( External loading ) ด้วย 4) สมรรถนะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนักบินพําณิชย์ตรี รวมถึงหลักก ํารของกํารบริหําร จัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) 5) อุตุนิยมวิทยํา ( Meteorology ) ในเรื่อง ก) กํารตีควํามและกํารใช้รํายงํานอํากําศกํารบิน แผนภูมิและพยํากรณ์อํากําศ ทํางด้ํานอุตุนิยมวิทยํากํารบิน กํารใช้และวิธีกํารได้รับข่ําวอํากําศก่อนกํารบินและในระหว่ํางกํารบิน และ วิทยําศําสตร์เกี่ยวกับกํารวัดควํามสูง ( Altimetry ) ้ หนา 25 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ข) อุตุนิยมวิทยํากํารบิน สภําพอํากําศวิทยํา ( Climatology ) ในบริเวณ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอําจมีผลกระทบต่อกํารบิน กํารเคลื่อนตัวของระบบควํามกดอํากําศ โคร งสร้ํางของแนว ควํามกดอํากําศ กํารเริ่มต้น และลักษณะของปรํากฏกํารณ์ของสภําพอํากําศที่มีผลกระทบต่อกํารบินขึ้น กํารบินเดินทําง และกํารบินลง ค) สําเหตุ กํารรู้จัก และผลกระทบของกํารเกิดน้ําแข็ง วิธีกํารบินผ่ํานเข้ําไป ในแนวควํามกดอํากําศ และกํารหลีกเลี่ยงสภําพอํากําศที่เป็นอันตรําย 6) กํารน ําทําง ในเรื่องกํารเดินอํากําศ รวมถึงกํารใช้แผนภูมิกํารเดินอํากําศ เครื่องวัด และเครื่องช่วยในกํารเดินอํากําศ ควํามเข้ําใจในหลักกํารทํางํานและคุณลักษณะของระบบ กํารน ําทําง และกํารท ํางํานของอุปกรณ์ที่ใช้ในกํารบินขึ้น ส ําหรับนําวําอํากําศต้องมีควํามรู้เพิ่มเติม ในเรื่อง ก) กํารใช้ ข้อจ ํากัด และกํารใช้งํานได้ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กํารบิน ( Avionic ) และเครื่องวัดที่จ ําเป็นส ําหรับกํารควบคุมและกํารนําทําง ข) กํารใช้ ควํามแม่นย ํา และควํามเชื่อถือได้ของระบบกํารน ําทํางที่ใช้ ในขั้นตอนกํารบินออกจํากจุดต้นทําง กํารบินในเส้นทําง ( En - route ) กํารบินเข้ําสู่สนํามบินและ กํารบินลง และกํารแสดงตําแหน่งของวิทยุเครื่องช่วยกํารเดินอํากําศ 7) วิธีปฏิบัติ ในเรื่อง ก) กํารน ําหลักกํารของกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat a nd error management ) มําใช้กับสมรรถนะในกํารปฏิบัติกํารบิน ข) กํารใช้เอกสํารด้ํานกํารบิน เช่น เอกสํารแถลงข่ําวกํารบิน ( AIP ) ประกําศ ผู้ท ํากํารในอํากําศ ( NOTAM ) และกํารใช้รหัสและตัวย่อทํางกํารบิน ค) วิธีกํารตั้งเครื่องวัดระยะสูง ง) วิธีกํารปฏิบัติส ําหรับป้องกันและวิธีดําเนินกํารเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จ) กํารปฏิบัติกํารในกํารรับขนสินค้ําซึ่งอําจก่อให้เกิดอันตรํายเนื่องจํากเป็น วัตถุอันตรําย ฉ) ข้อกําหนดและวิธีปฏิบัติสําหรับกํารแจ้งให้ผู้โดยสํารทรําบในเรื่องที่เกี่ยวกับ ควํามปลอดภัย รวมถึงกํารระวั งล่วงหน้ําที่จะต้องสังเกตเมื่อมีกํารขนถ่ํายผู้โดยสํารขึ้นและลงจํากอํากําศยําน สําหรับเฮลิคอปเตอร์ ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องกํารสูญเสียแรงยกเพรําะ รอบกํารหมุนของใบพัดลดลง กํารสั่นอย่ํางรุนแรงอันเนื่องมําจํากกํารเสียสมดุลของแรงต่ําง ๆ ของใบพัด ประธํานขณะอยู่บนพื้นหรือกํารลงสู่พื้นอย่ํางรุนแรง กํารสูญเสียแรงยกของใบพัดประธํานที่หมุน ตํามลมสัมพัทธ์ อันตรํายที่อําจเกิดขึ้นในกํารลงสู่พื้นที่มีควํามลําดเอียงหรือกํารลงสู่พื้นที่มีกระแสลมแรง ขวํางสนํามหรือกํารวิ่งขึ้นจํากสนํามด้วยท่ําบินที่รุนแรง และวิธีปฏิบัติ เพื่อควํามปลอดภัยเมื่อท ํากํารบิน ในสภําพอํากําศที่บินด้วยทัศนวิสัย ้ หนา 26 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

  1. หลักกํารบิน 9) กํารติดต่อสื่อสําร ( Communications ) (ง) ควํามช ํานําญ ต้องมีควํามช ํานําญ ดังต่อไปนี้ 1) นักบินพําณิชย์ตรีเครื่องบินต้องมีควํามชํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตร นักบินพําณิชย์ ตรีที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง โดยต้องท ํา กํารบินในฐํานะนักบิน ( As a pilot ) กับเครื่องบินมําแล้วไม่น้อยกว่ํา 150 ชั่วโมงบิน ทั้งนี้ ให้นําชั่วโมงบินภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบินกับเครื่องช่วยฝึกบินที่ผู้อํานวยกํารรับรองมําใช้คํานวณ เป็นชั่วโมงบินในจ ํานวน 150 ชั่วโมงบิน ได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมงบิน โดยผู้ขออนุญําตจะต้อง ก) ท ํากํารบินในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 70 ชั่วโมงบิน ข) ท ํากํารบินเดินทํางในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 20 ชั่วโมงบิน ซึ่งในกํารบินเดินทํางอย่ํางน้อยหนึ่งครั้งต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 540 กิโลเมตร (300 NM ) และ ต้องจบกํารบินลง ( Full - stop landing ) ที่สนํามบินต่ํางกันอย่ํางน้อยสองแห่งซึ่งไม่ใช่สนํามบิน ที่ท ํากํารบินขึ้น ค) ทํากํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินจํานวนไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน โดยให้นํากํารฝึกบินด้วยเครื่องช่วยฝึกบินมํารวมค ํานวณได้ไม่เกิน 5 ชั่วโมงบิน และ ง) กรณีผู้ขอไม่มีศักยกํารบิน กลํางคืน ( Night rating ) จะต้องทํากํารบินเวลํา กลํางคืนจํานวน 5 ชั่วโมงบิน โดยบินคู่กับครูกํารบินไม่น้อยกว่ํา 3 ชั่วโมงบิน ซึ่งต้องทํากํารบิน เดินทํางรวมอยู่ด้วยอย่ํางน้อย 1 ชั่วโมงบินในจํานวน 3 ชั่วโมงบิน และต้องทํากํารบินขึ้นเดี่ยว ไม่น้อยกว่ํา 5 ครั้ง และจบกํารบินลงเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 5 ครั้ง จ) ทํากํารบินไม่น้อยกว่ํา 5 ชั่วโมงบินกับเครื่องบินตํามแบบที่ได้รับกํารรับรอง ให้สํามํารถขนส่งผู้โดยสํารและนักบินได้อย่ํางน้อย 4 คนขึ้นไป โดยเครื่องบินจะต้องมีลักษณะใบพัด สํามํารถปรับมุมปะทะกับอํากําศได้ ( Variable pitch propeller ) และฐํานล้อสํามํารถพับเก็บได้ ( Retractable landing gear ) ในกรณีที่ผู้ขออนุญําตมีชั่วโมงบินกับอํากําศยํานแบบอื่น ผู้อ ํานวยกํารอําจ ประกําศกําหนดให้ใช้เป็นชั่วโมงบินส ําหรับเครื่องบินได้ ในกรณีผู้ถือใบอนุญําตนักบินส่วนบุคคลเครื่องบินและมีประสบกํารณ์ทํา กํารบิน กับเครื่องบินมําแล้วไม่น้อยกว่ํา 200 ชั่วโมงบิน จะต้องส ําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรนักบินพําณิชย์ตรี เพิ่มเติม ( CPL Modular Course - Aeroplane ) หรือหลักสูตรอื่นที่เทียบเท่ํา ที่ผู้อํานวยกํารรับรอง จํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง โดยผู้ขออนุญําตจะต้อง ก) ท ํากํารบินในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 100 ชั่วโมงบิน ข) ท ํากํารบินเดินทํางในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 20 ชั่วโมงบิน ซึ่งในกํารบินเดินทํางอย่ํางน้อยหนึ่งครั้งต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 540 กิโลเมตร ้ หนา 27 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

(3 00 NM ) และต้องจบกํารบินลง ( Full - stop landing ) ที่สนํามบินต่ํางกันอย่ํางน้อยสองแห่ง ซึ่งไม่ใช่สนํามบินที่ท ํากํารบินขึ้น ค) ทํากํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบิน จ ํานวนไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน โดยให้น ําชั่วโมงบินด้วยเครื่อง ช่วยฝึกบินที่มีควํามเหมําะสม ตํามหลักสูตรมํารวมค ํานวณได้ไม่เกิน 5 ชั่วโมงบิน และ ง) ทํากํารบินเวลํากลํางคืนไม่น้อยกว่ํา 5 ชั่วโมงบิน โดยบินคู่กับครูกํารบิน ไม่น้อยกว่ํา 3 ชั่วโมงบิน ซึ่งต้องทํากํารบินเดินทํางรวมอยู่ด้วยไม่น้อยกว่ํา 1 ชั่วโมงบินในจํานวน 3 ชั่วโมงบิน และต้องท ํากํารบินขึ้นเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 5 ครั้ง และจบกํารบินลงเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 5 ครั้ง จ) กรณีทํากํารทดสอบภําคอํากําศ ( Skill Test ) กับเครื่องบินสองเครื่องยนต์ จะต้องท ํากํารบินกับเครื่องบินสองเครื่องยนต์ไม่น้อยกว่ําจ ํานวน 6 ชั่วโมงบิน 2) นักบินพําณิชย์ตรีเฮลิคอปเตอร์ ต้องมีควํามช ํานําญโดยส ําเร็จกํารศึกษํา ตํามหลักสูตรนักบินพําณิชย์ตรีที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง โดยต้องทํากํารบินในฐํานะนักบิน ( As a pilot ) กับเฮลิคอปเตอร์มําแล้วไม่น้อยกว่ํา 100 ชั่วโมงบิ น ทั้งนี้ ให้นําชั่วโมงบินภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบินกับเครื่องช่วยฝึกบินที่ผู้อํานวยกํารรับรองมําใช้ ค ํานวณเป็นชั่วโมงบินในจ ํานวน 100 ชั่วโมงบิน ได้ไม่เกิน 10 ชั่วโมงบิน โดยผู้ขออนุญําตจะต้อง ก) ท ํากํารบินในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 35 ชั่วโมงบิน ข) ท ํากํารบินเดินทํางในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน ซึ่งในกํารบินเดินทํางอย่ํางน้อยหนึ่งครั้งต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 185 กิโลเมตร (100 NM ) และ ต้องจบกํารบินลง ( Full - stop landing ) ที่สนํามบินต่ํางกันอย่ํางน้อยสองแห่งซึ่งไม่ใช่สนํามบิน ที่ท ํากํารบินขึ้น ค) ทํากํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินจํานวนไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน โดยให้นํากํารฝึกบินด้วยเครื่องช่วยฝึกบินภําคพื้นมํารวมค ํานวณได้ไม่เกิน 5 ชั่วโมงบิน และ ง) ท ํากํารบินเวลํากลํางคื นจ ํานวน 5 ชั่วโมงบิน โดยบินคู่กับครูกํารบิน ไม่น้อยกว่ํา 3 ชั่วโมงบิน ซึ่งต้องทํากํารบินเดินทํางรวมอยู่ด้วยอย่ํางน้อย 1 ชั่วโมงบิน และต้องทํา กํารบินเดี่ยว 5 วงจรกํารบิน ( Circuits ) ซึ่งแต่ละวงจรกํารบินจะต้องมีกํารบินขึ้นและบินลง ในกรณีที่ผู้ขออนุญําตมีชั่วโมงบินกับอํากําศยํานแบบอื่น ผู้อ ํานวยกําร อําจประกําศกําหนดให้ใช้เป็นชั่วโมงบินส ําหรับเฮลิคอปเตอร์ได้ ในกรณีผู้ถือใบอนุญําตนักบินส่วนบุคคลเฮลิคอปเตอร์และมีประสบกํารณ์ทํากํารบิน กับเฮลิคอปเตอร์มําแล้วไม่น้อยกว่ํา 185 ชั่วโมงบิน จะต้องส ําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรนักบิน พําณิชย์ตรีเพิ่มเติม ( CPL Modular Course - Helicopter ) หรือหลักสูตรอื่นที่เทียบเท่ําที่ผู้อ ํานวยกําร รับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง โดยผู้ขออนุญําตจะต้อง ก) ท ํากํารบินในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 50 ชั่วโมงบิน ้ หนา 28 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ข) ท ํากํารบินเดินทํางในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน ซึ่งในกํารบินเดินทํางอย่ํางน้อยหนึ่งครั้งต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 185 กิโลเมตร (100 NM ) และ ต้องจบกํารบินลง ( Full - stop landing ) ที่สนํามบินต่ํางกันอย่ํางน้อยสองแห่งซึ่งไม่ใช่สนํามบิน ที่ท ํากํารบินขึ้น ค) ทํากํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินจํานวนไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน โดยให้นํากํารฝึกบินด้วยเครื่องช่วยฝึกบินภําคพื้นมํารวมค ํานวณได้ไม่เกิน 5 ชั่วโมงบิน และ ง) กรณีผู้ขอไม่มีศักยกํารบินกลํางคืน ( Night rating ) จะต้องทํากํารบินเวลํา กลํางคืนจํานวน 5 ชั่วโมงบิน โดยบินคู่กับครูกํารบินไม่น้อยกว่ํา 3 ชั่วโมงบิน ซึ่งต้องทํากํารบิน เดินทํางรวมอยู่ด้วยอย่ํางน้อย 1 ชั่วโมงบิน และต้องทํากํารบินเดี่ยว 5 วงจรกํารบิน ( Cir cuits ) ซึ่งแต่ละวงจรกํารบินจะต้องมีกํารบินขึ้นและบินลง 3) นักบินพําณิชย์ตรีนําวําอํากําศ ต้องมีควํามช ํานําญโดยส ําเร็จกํารศึกษํา ตํามหลักสูตรนักบินพําณิชย์ตรีที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง ในกํารบินกับอํากําศยํานมําแล้วไม่น้อยกว่ํา 200 ชั่วโมงบิน โดยผู้ขออนุญําตจะต้อง ก) ท ํากํารบินในฐํานะนักบิน ( As a pilot ) กับนําวําอํากําศไม่น้อยกว่ํา 50 ชั่วโมงบิน ข) ทํากํารบินในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยําน หรือนักบินผู้ควบคุมอํากําศยําน ภํายใต้กํารอ ํานวยกํารกับนําวําอํากําศไม่น้อยกว่ํา 30 ชั่ วโมงบิน โดยต้องท ํากํารบินเดินทํางไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน และท ํากํารบินเวลํากลํางคืนไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน ค) ท ํากํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินไม่น้อยกว่ํา 40 ชั่วโมงบิน ซึ่งต้อง ท ํากํารบินในอํากําศไม่น้อยกว่ํา 20 ชั่วโมงบิน โดยต้องท ํากํารบินกับนําวําอํากําศไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน และ ง) ท ํากํารฝึกบินกับนําวําอํากําศในเรื่องเกี่ยวกับกํารปฏิบัติกํารบินที่ผู้อ ํานวยกําร ประกําศกําหนดไม่น้อยกว่ํา 20 ชั่วโมงบิน สําหรับผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจําหน้ําที่นักบินพําณิชย์ตรีเครื่องบิน นักบินพําณิ ชย์ตรี เฮลิคอปเตอร์ และนักบินพําณิชย์ตรีนําวําอํากําศ ซึ่งทํากํารบินกับอํากําศยํานรําชกําร ต้องมีอํายุ สุขภําพ ควํามรู้ และควํามช ํานําญ ตํามหลักเกณฑ์กํารเทียบคุณสมบัติที่ผู้อ ํานวยกํารประกําศก ําหนด (5) นักบินพําณิชย์เอกเครื่องบิน และนักบินพําณิชย์เอกเฮลิคอปเตอร์ (ก) อํายุ ต้ องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 21 ปีบริบูรณ์ (ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นหนึ่ง (ค) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) กฎหมํายกํารบิน ในเรื่อง ก) กฎและข้อบังคับที่เกี่ยวกับผู้ถือใบอนุญําตนักบินพําณิชย์เอก ้ หนา 29 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ข) กฎจรําจรทํางอํากําศ ค) วิธีปฏิบัติและวิธีดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศที่เกี่ยวข้อง 2) ควํามรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอํากําศยําน ในเรื่อง ก) คุณลักษณะและข้อจ ํากัดทั่วไปของไฟฟ้ํา ไฮดรอลิก กํารปรับควํามดัน และ ระบบอื่น ๆ ของอํากําศยําน ระบบควบคุมกํารบิน กํารบินอัตโนมัติ และกํารรักษําสมดุลของอํากําศยําน ข) หลักกํารทํางํานและวิธีกํารจัดกํารกํารทํางํานของเครื่องยนต์ ผลกระทบจําก สภําวะชั้นบรรยํากําศที่มีต่อสมรรถนะเครื่องยนต์และข้อมูลกํารท ํางํานที่เกี่ยวข้องจํากคู่มือกํารบิน หรือ เอกสํารอื่นที่เหมําะสม ค) วิธีดําเนินกํารและข้อจํากัดกํารปฏิบัติกํารของอํากําศยํานที่เกี่ยวข้อง และ ผลกระทบจํากสภําวะชั้นบรรยํากําศที่มีต่อสมรรถนะอํากําศยํานและข้อมูลกํารท ํางํานที่เกี่ยวข้องจํากคู่มือ กํารบินหรือเอกสํารอื่นที่เหมําะสม ง) กํารใช้และกํารตรวจสอบกํารใช้งํานได้ ของอุปกรณ์และระบบของอํากําศยําน จ) เครื่องวัดประกอบกํารบิน เข็มทิศ กํารปรับและกํารเทียบค่ําคลําดเคลื่อน เครื่องวัดไจโร ข้อจํากัดกํารทํางํานและผลกระทบจํากแรงหมุนของโลก วิธีปฏิบัติและวิธีดําเนินกําร ในเหตุกํารณ์ที่เครื่องวัดประกอบกํารบินและหน่วยแสดงผลทํางอิเล็กทรอ นิกส์ท ํางํานผิดพลําดหลํายอย่ําง ฉ) วิธีกํารบ ํารุงรักษําล ําตัวอํากําศยําน ระบบ และเครื่องยนต์อํากําศยําน ส ําหรับเฮลิคอปเตอร์ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องกํารท ํางํานของชุดส่งก ําลังด้วย 3) สมรรถนะและกํารวํางแผนกํารบิน ในเรื่อง ก) ผลกระทบของกํารบรรทุกและกํารกระจํายน้ําหนักที่มีผลต่อกํารจัดกําร อํากําศยํานต่อท่ําทํางกํารบินและสมรรถนะอํากําศยําน และกํารคํานวณน้ ําหนักและสมดุล ข) กํารใช้และกํารปฏิบัติจริงในข้อมูลที่เกี่ยวกับกํารบินขึ้นบินลง และสมรรถนะ ด้ํานอื่น ๆ รวมถึงวิธีปฏิบัติในกํารควบคุมกํารบินเดินทํา ง ค) กํารท ําแผนกํารปฏิบัติกํารบินก่อนท ํากํารบินและในระหว่ํางท ํากํารบิน กํารเตรียมกํารและกํารยื่นแผนกํารบินต่อหน่วยบริกํารจรําจรทํางอํากําศ วิธีกํารดําเนินบริกํารจรําจร ทํางอํากําศ วิธีกํารตั้งเครื่องวัดระยะสูง สําหรับเฮลิคอปเตอร์ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องผลกระทบขอ งกํารบรรทุก ภํายนอกด้วย 4) สมรรถนะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนักบินพําณิชย์เอกรวมถึงหลักกํารของกํารบริหําร จัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) 5) อุตุนิยมวิทยํา ( Meteorology ) ในเรื่อง ้ หนา 30 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ก) กํารตีควํามและกํารใช้รํายงํานอํากําศกํารบิน แผนภูมิและพยํากรณ์อํากําศ ทํางด้ํานอุตุนิยมวิทยํากํารบิน รหัสและตัวย่อ กํารใช้และวิธีกํารได้รับข่ําวอํากําศก่อนทํากํารบินและ ในระหว่ํางท ํากํารบิน และวิทยําศําสตร์เกี่ยวกับกํารวัดควํามสูง ข) อุตุนิยมวิทยํากํารบิน สภําพอํากําศวิทยําในบริเวณที่เกี่ยวข้องซึ่งอําจมี ผลกระทบต่อกํารบิ นกํารเคลื่อนตัวของระบบควํามกดอํากําศ โครงสร้ํางของแนวควํามกดอํากําศ กํารเริ่มต้นและลักษณะของปรํากฏกํารณ์ของสภําพอํากําศที่มีผลกระทบต่อกํารบิน กํารบินเดินทําง และกํารบินขึ้นลง ค) สําเหตุ กํารรู้จัก และผลกระทบของกํารเกิดน้ําแข็ง วิธีกํารบินผ่ํานเข้ําไป ในแนวควํามกดอํากําศ กํารหลีกเลี่ยงสภําพอํากําศที่เป็นอันตรําย สําหรับเครื่องบินต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องอุตุนิยมวิทยํา บรรยํากําศในระยะสูง ที่สูงเหนือพื้นโลก รวมถึงกํารตีควํามและกํารใช้รํายงํานอํากําศกํารบิน แผนภูมิและพยํากรณ์อํากําศ ทํางด้ํานอุตุนิยมวิทยํากํารบิน และกระแสลมของบรรยํากําศใ นระดับสูงเหนือพื้นโลก 6) กํารน ําทําง ในเรื่อง ก) กํารเดินอํากําศ รวมถึงกํารใช้แผนภูมิกํารเดินอํากําศ เครื่องวิทยุช่วยกําร เดินอํากําศ และระบบเครื่องช่วยกํารเดินอํากําศในพื้นที่ และข้อกําหนดเฉพําะในกํารเดินอํากําศ ส ําหรับกํารบินระยะทํางไกล ข) กํารใช้ ข้อจํากัดและกํา รใช้งํานได้ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กํารบิน และ เครื่องวัดที่จ ําเป็นส ําหรับกํารควบคุมและกํารนําทํางอํากําศยําน ค) กํารใช้ควํามแม่นยําและควํามเชื่อถือได้ของระบบกํารนําทํางที่ใช้ในขั้นตอน กํารบินออกจํากจุดต้นทํางกํารบินในเส้นทําง กํารบินเข้ําสู่สนํามบินและกํารบินลง และกํารแสดงตําแหน่ง ของวิทยุเครื่องช่วยกํารเดินอํากําศ ง) หลักกํารท ํางํานและลักษณะของระบบกํารเดินอํากําศในแบบที่ท ํางําน โดยใช้อุปกรณ์ภํายในและในแบบที่กํารทํางํานโดยใช้อุปกรณ์อ้ํางอิงจํากภํายนอกและกํารทํางํานของอุปกรณ์ ที่ใช้ในกํารบินขึ้น 7) วิธีปฏิบัติ ในเรื่อง ก) กํารน ําหลักกํารของกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) มําใช้กับสมรรถนะในกํารปฏิบัติกํารบิน ข) กํารแปลควํามหมํายและกํารใช้เอกสํารด้ํานกํารบิน เช่น เอกสํารแถลงข่ําว กํารบิน ( AIP ) ประกําศผู้ทํากํารในอํากําศ ( NOTAM ) และกํารแปลควํามหมํายและกํารใช้รหัสและ ตัวย่อทํางกํารบิน ค) วิธีกํารปฏิบัติส ําหรับป้องกันและวิธีดําเนินกํารเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และ วิธีปฏิบัติเพื่อควํามปลอดภัย ้ หนา 31 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ง) กํารปฏิบัติกํารในกํารรับขนสินค้ําซึ่งอําจก่อให้เกิดอันตรํายเนื่องจํากเป็น วัตถุอันตรําย จ) ข้อกําหนดและวิธีปฏิบัติสําหรับกํารแจ้งให้ผู้โดยสํารทรําบในเรื่องที่เกี่ยวกับ ควํามปลอดภัย รวมถึงกํารระวังล่วงหน้ําที่จะต้องสังเกตเมื่อมีกํารขนถ่ํายผู้โดยสํารขึ้นและลงจํากอํากําศยําน สําหรับเฮลิคอปเตอร์ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องกํารสูญเสียแรงยกเพรําะรอบ กํารหมุนของใบพัดลดลง กํารสั่นอย่ํางรุนแรงอันเนื่องมําจํากกํารเสียสมดุลของแรงต่ําง ๆ ของใบพัด ประธํานขณะอยู่บนพื้นหรือกํารลงสู่พื้นอย่ํางรุนแรง กํารสูญเสียแรงยกของใบพัด ประธํานที่หมุน ตํามลมสัมพั ทธ์ อันตรํายที่อําจเกิดขึ้นในกํารลงสู่พื้นที่มีควํามลําดเอียงหรือกํารลงสู่พื้นที่มีกระแสลมแรง ขวํางสนํามหรือกํารวิ่งขึ้นจํากสนํามด้วยท่ําบินที่รุนแรง และวิธีปฏิบัติเพื่อควํามปลอดภัยเมื่อทํากํารบิน ในสภําพอํากําศที่บินด้วยทัศนวิสัย 8) หลักกํารบิน 9) กํารติดต่อสื่อสําร ( Communications ) สําหรับนักบินพําณิชย์เอกเครื่องบิน นอกจํากจะต้องมีควํามรู้ที่กล่ําวมําข้ํางต้นทั้งหมดแล้ว ต้องมีควํามรู้ตํามที่ก ําหนดไว้ใน (6) (ก) ส ําหรับศักยกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินด้วย (ง) ควํามช ํานําญ ต้องมีควํามช ํานําญ ดังต่อไปนี้ 1) นักบินพําณิชย์เอกเครื่องบิน ต้องถือใบอนุญําตนักบินผู้ช่วยเครื่องบินหรือนักบิน พําณิชย์ตรีเครื่องบิน ในกรณีนักบินพําณิชย์ตรีเครื่องบินจะต้องมีศักยกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน กับเครื่องบินหลํายเครื่องยนต์ ( Multi - engine IR for aeroplanes ) และจะต้องผ่ํานกํารฝึกอบรม หลักสูตร Multi Crew Corporation ( MCC ) หรือหลักสูตรอื่นที่เทียบเท่ําที่ผู้อํานวยกํารรับรองจําก สถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง และมีควํามช ํานําญโดยส ําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตร ภําคทฤษฎีนักบินพําณิชย์เอกที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองจํากสถ ําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง และต้องทํากํารบินในฐํานะนักบิน ( As a pilot ) กับเครื่องบินมําแล้วไม่น้อยกว่ํา 1 , 500 ชั่วโมงบิน ทั้งนี้ ให้นําชั่วโมงบินภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบินกับเครื่องช่วยฝึกบินประเภทเครื่องช่วยฝึกบิน จําลองกํารฝึกบินเต็มรูปแ บบ ( Full Flight Simulator ) ที่ผู้อํานวยกํารรับรองมําใช้ค ํานวณเป็นชั่วโมงบิน ในจํานวน 1 , 500 ชั่วโมงบิน ได้ไม่เกิน 100 ชั่วโมงบิน แต่จะนําชั่วโมงบินที่ได้จํากเครื่องช่วยฝึกบิน ประเภทเครื่องช่วยฝึกวิธีกํารเดินทํางและกํารบิน ( Flight and Navigation Procedures Trainer ) มําคํานวณได้ไม่เกิน 25 ชั่วโมงบิน โดยผู้ขออนุญําตจะต้องท ํากํารบินกับเครื่องบิน ดังต่อไปนี้ ก) ทํากํารบินไม่น้อยกว่ํา 500 ชั่วโมงบินกับเครื่องบินที่กําหนดให้ใช้นักบิน อย่ํางน้อยสองคนขึ้นไปในกํารท ํากํารบิน ( Multi Pilot Operation ) ข) ท ํากํารบิน ดังนี้ 1. ในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานภํายใต้กํารอํานวยกําร 500 ชั่วโมงบิน หรือ ้ หนา 32 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

  1. ในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 250 ชั่วโมงบิน หรือ 3. ทํากํารบินไม่น้อยกว่ํา 250 ชั่วโมงบินในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยําน ไม่น้อยกว่ํา 70 ชั่วโมงบิน และชั่วโมงบินที่เหลือในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานภํายใต้ กํารอ ํานวยกํารก็ได้ ค) ท ํากํารบินเดินทํางไม่น้อยกว่ํา 200 ชั่วโมงบิน ซึ่งอย่ํางน้อย 100 ชั่วโมงบิน ในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยําน หรือในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานภํายใต้กํารอ ํานวยกําร ง) ท ํากํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินไม่น้อยกว่ํา 75 ชั่วโมงบิน แต่จะใช้ชั่วโมงบินภําคพื้นด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินมํารวมค ํานวณได้ไม่เกิน 30 ชั่วโมงบิน และ จ) ท ํากํารบินในเวลํากลํางคืนไม่น้อยกว่ํา 100 ชั่วโมงบินในฐํานะนักบิน ผู้ควบคุมอํากําศยําน หรือในฐํานะนักบินผู้ช่วย ในกรณีที่ผู้ขออนุญําตมีชั่วโมงบินกับอํากําศยํานแบบอื่น ผู้อ ํานวยกําร อําจประกําศกําหนดให้ใช้เป็นชั่วโมงบินส ําหรับเครื่องบินได้ 2) นักบินพําณิชย์เอกเฮลิคอปเตอร์ ต้องถือใบอนุญําตนักบินพําณิชย์ตรีเฮลิคอปเตอร์ ที่มีศักยกํารบินเฮลิคอปเตอร์ที่กําหนดให้ใช้นักบินอย่ํางน้อยสองคนขึ้นไป ( Multi - pilot helicopter ) ในกํารทํากํารบินและจะต้องผ่ํานกํารฝึกอบรมหลักสูตร Multi Crew Corporation ( MCC ) หรือ หลักสูตรอื่นที่เทียบเท่ําที่ผู้อ ํา นวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง และ มีควํามชํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรภําคทฤษฎีนักบินพําณิชย์เอกที่ผู้อํานวยกํารรับรองจําก สถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง และต้องท ํากํารบินในฐํานะนักบิน ( As a pilot ) กับ เฮลิคอปเตอร์ มําแล้วไม่น้อยกว่ํา 1 , 000 ชั่วโมงบิน ทั้งนี้ ให้นําชั่วโมงบินภํายใต้กํารควบคุมของ ครูกํารบินกับเครื่องช่วยฝึกบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองมําใช้คํานวณเป็นชั่วโมงบินในจ ํานวน 1 , 000 ชั่วโมงบิน ได้ไม่เกิน 100 ชั่วโมงบิน แต่จะนําชั่วโมงบินที่ได้จํากเครื่องช่วยฝึกบินประเภทเครื่องช่วยฝึกวิธีกําร เดินทํางและกํารบิน ( Flight and Navigation Procedures Trainer ) มํารวมค ํานวณได้ไม่เกิน 25 ชั่วโมงบิน โดยผู้ขออนุญําตจะต้องท ํากํารบินกับเฮลิคอปเตอร์ ดังต่อไปนี้ ก) ทํากํารบินไม่น้อ ยกว่ํา 350 ชั่วโมงบินกับเฮลิคอปเตอร์ที่กําหนดให้ใช้ นักบินอย่ํางน้อยสองคนขึ้นไปในกํารท ํากํารบิน ( Multi Pilot Operation ) ข) ท ํากํารบิน ดังนี้ 1 . ในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานไม่น้อยกว่ํา 250 ชั่วโมงบิน หรือ 2 . ในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยําน 100 ชั่วโมงบิน และในฐํานะ นักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานภํายใต้กํารอ ํานวยกําร 150 ชั่วโมงบิน หรือ 3 . ในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานภํายใต้กํารอ ํานวยกําร 250 ชั่วโมงบิน ค) ท ํากํารบินเดินทํางไม่น้อยกว่ํา 200 ชั่วโมงบิน ซึ่งอย่ํางน้อย 100 ชั่วโมงบิน ในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานหรือในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานภํายใต้กํารอ ํานวยกําร ้ หนา 33 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ง) ท ํากํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินไม่น้อยกว่ํา 30 ชั่วโมงบิน แต่จะใช้ชั่วโมงบินภําคพื้นด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินมํารวมค ํานวณได้ไม่เกิน 10 ชั่วโมงบิน และ จ) ทําก ํารบินในเวลํากลํางคืนไม่น้อยกว่ํา 100 ชั่วโมงบิน ในฐํานะนักบิน ผู้ควบคุมอํากําศยําน หรือในฐํานะนักบินผู้ช่วย ในกรณีที่ผู้ขออนุญําตมีชั่วโมงบินกับอํากําศยํานแบบอื่น ผู้อ ํานวยกํารอําจ ประกําศกําหนดให้ใช้เป็นชั่วโมงบินส ําหรับเฮลิคอปเตอร์ได้ ส ําหรับควํามช ํานําญในกํารบิ นของนักบินพําณิชย์เอกเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ ตําม 1) และ 2) ในกรณีที่ผู้ขออนุญําตเป็นนักบินของรําชกํารทหําร ตํารวจหรือส่วนรําชกํารอื่น จะต้องมีควํามชํานําญในกํารบินในฐํานะนักบิน ( As a pilot ) กับอํากําศยํานที่ใช้ในกํารขนส่งซึ่งเป็น อํากําศยํานที่มีใบรับรองแบบ ( Type Certificate ) ที่ออกโดยโรงงํานผู้ผลิตกําหนดให้เป็นอํากําศยํานขนส่ง ( Transport Aircraft ) ตํามที่ก ําหนดไว้ในภําคผนวกแนบท้ํายข้อบังคับนี้ ไม่น้อยกว่ํา 200 ชั่วโมงบิน รวมอยู่ด้วย (6) ศักยกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( Instrument Rating ) สําหรับเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และนําวําอํากําศ (ก) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) กฎหมํายกํารบินในเรื่อง ก) กฎและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ข) วิธีปฏิบัติและวิธีดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศที่เกี่ยวข้อง 2) ค วํามรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอํากําศยํานสําหรับอํากําศยํานตํามประเภทที่ขอใบอนุญําต ในเรื่อง ก) กํารใช้ ข้อจ ํากัด และกํารใช้งํานได้ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กํารบิน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องวัดที่จําเป็นสําหรับกํารควบคุมและกํารนําทํางอํากําศยํานตํามกฎกํารบิน ด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( IFR ) และในสภําพอํากําศที่ต้องใช้เครื่องวัด ( Instrument meteorological condition ) กํารใช้และข้อจํากัดกํารบินอัตโนมัติ เข็มทิศ กํารปรับและกํารเทียบค่ําคลําดเคลื่อน เครื่องวัดไจโร ข้อจํากัดกํารท ํางํานและผลกระทบจํากแรงหมุนของโลก และ วิธีปฏิบัติและวิธีดําเนินกําร ในเหตุกํารณ์ที่เครื่องวัดประกอบกํารบินท ํางํานผิดพลําด ข) วิธีกํารบ ํารุงรักษําล ําตัวอํากําศยําน ระบบและเครื่องยนต์อํากําศยําน 3) สมรรถนะและกํารวํางแผนกํารบิน สําหรับอํากําศยํานตํามประเภทที่ขอใบอนุญําต ในเรื่อง ก) กํารเตรียมกํารและกํารตรวจสอบก่อนทํากํารบินที่เหมําะสมสําหรับกํารบิน ด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ้ หนา 34 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ข) ก ํา ร ท ํา แ ผ น ก ํา ร ป ฏิ บั ติ ก ํา ร บิ น ( Operational flight planning ) กํารเตรียมกํารและกํารยื่นแผนกํารบินต่อหน่วยบริกํารจรําจรทํางอํากําศตํามกฎกํารบินด้วยเครื่องวัด ประกอบกํารบินและวิธี กํารตั้งเครื่องวัดระยะสูง 4) สมรรถนะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน รวมถึง หลักกํารของกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error Management ) 5) อุตุนิยมวิทยํา ( Meteorology ) ในเรื่อง ก) กํารใช้อุตุนิยมวิทยํากํารบิน กํารแปลควํามหมํายและกํารใช้รํายงํานอํากําศ กํารบิน แผนภูมิและพยํากรณ์อํากําศทํางด้ํานอุตุนิยมวิทยํากํารบิน รหัสและตัวย่อ กํารใช้และวิธีกําร ได้รับข้อมูลด้ํานอุตุนิยมวิทยําก่อนทํากํารบินและในระหว่ํางทํากํารบิน และวิทยําศําสตร์เกี่ยวกับกํารวัด ควํามสูง ข) สําเหตุ กํารรู้จัก และผลกระทบของกํารเกิดน้ําแข็ง วิธีกํารบินผ่ํานเข้ําไป ในแนวควํามกดอํากําศ และกํารหลีกเลี่ยงสภําพอํากําศที่เป็นอันตรําย ส ําหรับเฮลิคอปเตอร์ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องกํารเกิดน้ ําแข็งที่ใบพัด ( Rotor ) 6) กํารน ําทําง ส ําหรับอํากําศยํานตํามประเภทที่ขอใบอนุญําต ในเรื่อง ก) กํารเดินอํากําศโดยใช้วิทยุเครื่องช่วยกํารเดินอํากําศ ข) กํารใช้ควํามแม่นยําและควํามเชื่อถือได้ของระบบกํารนําทํางที่ใช้ในขั้นตอน กํารบินออกจํากจุดต้นทําง กํารบินในเส้นทําง กํารบินเข้ําสู่สนํามบินและกํารบินลง และกํารแส ดง ตําแหน่งของวิทยุเครื่องช่วยกํารเดินอํากําศ 7) วิธีปฏิบัติ ส ําหรับอํากําศยํานตํามประเภทที่ขอใบอนุญําต ในเรื่อง ก) กํารน ําหลักกํารของกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) มําใช้กับสมรรถนะในกํารปฏิบัติกํารบิน ข) กํารแ ปลควํามหมํายและกํารใช้เอกสํารด้ํานกํารบิน เช่น เอกสํารแถลงข่ําว กํารบิน ( AIP ) ประกําศผู้ทํากํารในอํากําศ ( NOTAM ) และกํารแปลควํามหมํายและกํารใช้รหัสและ ตัวย่อทํางกํารบิน และแผนภูมิ วิธีดําเนินกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินสําหรับกํารบินออกจําก จุดต้นทําง กํารบินในเส้นทําง กํารบินลดระดับ และกํารบินเข้ําสู่สนํามบิน ค) วิธีกํารปฏิบัติส ําหรับป้องกันและวิธีดําเนินกํารเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และ วิธีปฏิบัติเพื่อควํามปลอดภัยในส่วนที่เกี่ยวกับกํารบินตํามกฎกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน รูปแบบกํารแจ้ง ระยะห่ํางจํากสิ่งกีดขวํางตํามสภําพภูมิ ประเทศ 8) กํารติดต่อสื่อสําร ( Communications ) (ข) ควํามช ํานําญ ต้องมีควํามช ํานําญ ดังต่อไปนี้ ้ หนา 35 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

  1. ทํากํารบินเดินทํางไม่น้อยกว่ํา 50 ชั่วโมงบินในฐํานะผู้ควบคุมอํากําศยําน ในประเภทอํากําศยํานที่ผู้อํานวยกํารยอมรับ โดยต้องเป็นอํากําศยํานตํามประเภทที่ขออนุญําตไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน และมีใบอนุญําตนักบินตํามประเภทอํากําศยํานที่ขออนุญําต และ 2 ) สําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบินที่ผู้อํานวยกําร รับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง ซึ่งต้องมีเวลําบินด้วยเครื่องวัดประกอบ กํารบินกับอํากําศยําน ไม่น้อยกว่ํา 40 ชั่วโมงบิน โดยจะใช้เวลําบินภําคพื้นด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( Instrument ground time ) ภํายใต้กํารอํานวยกํารของครูกํารบินมําคํานวณ หรือจะใช้ชั่วโมงบิน กับเครื่องช่วยฝึกบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองมําค ํานวณได้ไม่เกินจ ํานวนชั่วโมงบินตํามหลักสูตรที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง (7) ศักยครูกํารบิน ( Flight instructor rating ) สําหรับเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และ นําวําอํากําศ แบ่งออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่ ครูฝึกผู้ประจําหน้ําที่ในอํากําศนักบินที่ทํากํารสอน ภําคอํากําศ - ( Flight instructor - FI ) ครูฝึกผู้ประจําหน้ําที่ในอํากําศนักบินที่ทํากํารสอนภําคอํากําศ สําหรับศักยทํากํารอํากําศยํานเฉพําะแบบ ( Type Rating Instructor - TRI ) ครูฝึกผู้ประจําหน้ําที่ ในอํากําศนักบินที่ทํากํารสอนภําคอํากําศสําหรับศักยทํากํารชั้น ( Class Rating Instructor - CRI ) ครูฝึกผู้ประจ ําหน้ําที่ในอํากําศนักบินที่ท ํากํารสอนภําคอํากําศส ําหรับศักยกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( Instrument Rating Instructor - IRI ) ครูฝึกผู้ประจําหน้ําที่ในอํากําศนั กบินที่ทํากํารสอนเกี่ยวกับ ขั้นตอนกํารปฏิบัติกํารบินในสภําวะปกติ ผิดปกติ และในกรณีฉุกเฉินกับเครื่องช่วยฝึกบินตํามแบบที่จะ ทํากํารสอน ( Synthetic Flight Instructor - SFI ) ครูฝึกผู้ประจําหน้ําที่ในอํากําศนักบินที่ทํากํารสอน กํารปฏิบัติกํารบินร่วมกันในสภําวะปกติ ผิดปกติ แ ละในกรณีฉุกเฉิน ( Multi - crew cooperation Instructor - MCCI ) และครูฝึกผู้ประจ ําหน้ําที่ในอํากําศนักบินที่ท ํากํารสอนเกี่ยวกับขั้นตอนกํารปฏิบัติกํารบิน ในสภําวะปกติ ผิดปกติ และในกรณีฉุกเฉินกับเครื่องช่วยฝึกวิธีกํารบิน ตํามแบบที่จะทํากํารสอน ( Synthetic Training Instructor - STI ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 18 ปีบริบูรณ์ (ข) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ โดยต้องมีสมรรถนะและผ่ํานกํารประเมินผลทํางด้ํานสมรรถนะ ( Competencies and Assessment ) ในเรื่อง ดังต่อไปนี้ 1 ) กํารจัดเตรียมทรัพยํากร ( Prepare resources ) 2 ) กํารสร้ํางสภําพแวดล้อมที่เหมําะสมต่อกํารเรียนกํารสอน ( Create A Climate Conducive to Learning ) 3 ) กํารถ่ํายทอดควํามรู้ ( Present knowledge ) 4 ) หลักกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error Management ) กับกํารบริหํารทรัพยํากรบุคคลด้ํานกํารบิน ( Crew resource management ) 5 ) กํารบริหํารเวลําเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์กํารฝึกอบรม 6 ) กํารส่งเสริมกํารเรียนกํารสอน ( Facilitate learning ) ้ หนา 36 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

7 ) กํารประเมินสมรรถนะศิษย์กํารบิน ( Assess trainee performance ) 8 ) กํารควบคุมและกํารตรวจสอบควํามก้ําวหน้ํา ( Monitor and review progress ) 9 ) กํารประเมินผลภําคกํารศึกษํา ( Evaluate training sessions ) 10 ) กํารรํายงํานผลกํารฝึกอบรม ( Report outcome ) (ค) ควํามชํานําญ ต้องมีควํามชํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรครูกํารบินแต่ละ ประเภทที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง (8) ศักยกํารบินเครื่องบินเครื่องยนต์เดียวหรือหลํายเครื่องยนต์ ( Single / Multi Engine rating ) และศักยกํารบินอํากําศยํานเฉพําะแบบ ( Type Rating ) ต้องมีควํามชํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษํา ตํามหลักสูตรที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง (9) ศักยกํารบินเพิ่มเติม ( Additional Rating ) เช่น ศักยกํารบินผําดแผลง ศักยกํารบิน ลํากเครื่องร่อนและลํากป้ําย ศักยกํารบินกลํางคืน ต้องมีควํามช ํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตร ที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง (10) นักบินเครื่องร่อน ( Glider pilot ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 16 ปีบริบูรณ์ (ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นสอง (ค) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) กฎหมํายกํารบิน ในเรื่อง ก) กฎและข้อบังคับที่เกี่ยวกับผู้ถือใบอนุญําตนักบินเครื่องร่อน ข) กฎจรําจรทํางอํากําศ ค) วิธีปฏิบัติและวิธีดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศที่เกี่ยวข้อง 2) ควํามรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอํากําศยําน ในเรื่อง ก) หลักกํารท ํางํานของระบบและเครื่องวัดในเครื่องร่อน ข) ข้อจํากัดกํารทํางํานของเครื่องร่อน และข้อมูลกํารทํางํานที่เกี่ยวข้องจําก คู่มือกํารบินหรือเอกสํารอื่นที่เหมําะสม 3) สมรรถนะและกํารวํางแผนกํารบิน ในเรื่อง ก) ผลกระทบของกํารบรรทุกและกํารกระจํายน้ําหนั กที่มีผลต่อท่ําทํางกํารบิน และกํารพิจํารณําน้ําหนักและสมดุล ข) กํารใช้และกํารปฏิบัติจริงในข้อมูลที่เกี่ยวกับกํารปล่อย ( Launching ) กํารบินลงและสมรรถนะด้ํานอื่น ๆ ค) กํารทําแผนกํารบินก่อนทํากํารบินและในระหว่ํางทํากํารบินตํามกฎกํารบิน ด้วยทัศนวิสัย วิธีกํารดําเนินบริก ํารจรําจรทํางอํากําศ วิธีกํารตั้งเครื่องวัดระยะสูง และกํารปฏิบัติกํารบิน ในบริเวณที่มีปริมําณกํารจรําจรทํางอํากําศหนําแน่น ้ หนา 37 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

  1. สมรรถนะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนักบินเครื่องร่อน รวมถึงหลักกํารของกํารบริหําร จัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) 5) อุตุนิยมวิทยํากํารบิน ในเรื่องอุตุนิยมวิทยํากํารบินเบื้องต้น กํารใช้และวิธีกําร ได้รับข้อมูลด้ํานอุตุนิยมวิทยํา และวิทยําศําสตร์เกี่ยวกับกํารวัดควํามสูง 6) กํารนําทํางในเรื่องที่เกี่ยวกับกํารเดินอํากําศและเทคนิคในกํารบินเดินทํางและ กํารใช้แผนภูมิกํารเดินอําก ําศ 7) วิธีปฏิบัติ ในเรื่อง ก) กํารใช้เอกสํารด้ํานกํารบิน เช่น เอกสํารแถลงข่ําวกํารบิน ( AIP ) ประกําศ ผู้ท ํากํารในอํากําศ ( NOTAM ) และกํารใช้รหัสและตัวย่อทํางกํารบิน ข) วิธีกํารปล่อยในลักษณะต่ําง ๆ และวิธีดําเนินกํารที่เกี่ยวข้องกับกํารปล่อย ค) วิธีกํารปฏิบัติสําหรับป้องกันและวิธีดําเนินกํารเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึง กํารกระทําเพื่อหลีกเลี่ยงสภําพอํากําศที่เป็นอันตรําย กระแสลมมวลวน และกํารปฏิบัติอื่น ๆ ที่ทําให้ เกิดอันตรําย 8) หลักกํารบินที่เกี่ยวข้องกับเครื่องร่อน 9) กํารติดต่อสื่อสําร ( Communica tions ) (ง) ควํามชํานําญ ต้องมีควํามชํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรที่ผู้อํานวยกําร รับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง และต้องทํากํารบินกับเครื่องร่อนมําแล้ว ไม่น้อยกว่ํา 6 ชั่วโมงบิน โดยต้องเป็นกํารบินเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 2 ชั่วโมงบิน ซึ่งเป็นกํารปล่อยและ กํารบินลงไม่น้อยกว่ํา 20 ครั้ง ในกรณีที่ผู้ขออนุญําตมีชั่วโมงบินกับเครื่องบินผู้อํานวยกํารอําจประกําศกําหนดให้ใช้เป็น ชั่วโมงบินส ําหรับเครื่องร่อนตํามวรรคหนึ่งได้ (11) นักบินบัลลูน ( Free balloon pilot ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 16 ปี บริบูรณ์ (ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นสอง (ค) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) กฎหมํายกํารบิน ในเรื่อง ก) กฎและข้อบังคับที่เกี่ยวกับผู้ถือใบอนุญําตนักบินบัลลูน ข) กฎจรําจรทํางอํากําศ ค) วิธีปฏิบัติและวิธีดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศที่เกี่ยวข้อง 2) ควํามรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอํากําศยําน ในเรื่อง ก) หลักกํารท ํางํานของระบบและเครื่องวัดในเครื่องร่อน ้ หนา 38 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ข) ข้อจํากัดกํารทํางํานของเครื่องร่อน และข้อมูลกํารทํางํานที่เกี่ยวข้องจําก คู่มือกํารบินหรือเอกสํารอื่ นที่เหมําะสม ค) คุณสมบัติทํางกํายภําพและวิธีปฏิบัติในกํารน ําแก๊สไปใช้ในบัลลูน 3) สมรรถนะและกํารวํางแผนกํารบิน ในเรื่อง ก) ผลกระทบของกํารบรรทุกที่มีต่อท่ําทํางกํารบิน กํารค ํานวณน้ ําหนักและสมดุล ข) กํารใช้และกํารปฏิบัติจริงในข้อมูลที่เกี่ยวกับกํารปล่อย กํารบินลงและ สมรรถนะด้ํานอื่น ๆ รวมถึงผลกระทบของอุณหภูมิ ค) กํารทําแผนกํารบินก่อนทํากํารบินและในระหว่ํางทํากํารบินตํามกฎกํารบิน ด้วยทัศนวิสัย วิธีกํารดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศ วิธีกํารตั้งเครื่องวัดระยะสูง และกํารปฏิบัติกํารบิน ในบริเวณที่มีปริมําณกํารจรําจรทํางอําก ําศหนําแน่น 4) สมรรถนะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนักบินบัลลูน รวมถึงหลักกํารของภัยคุกคําม และกํารจัดกํารที่ผิดพลําด 5) อุตุนิยมวิทยํากํารบิน ในเรื่องกํารใช้และวิธีกํารได้รับข่ําวอํากําศ และวิทยําศําสตร์ เกี่ยวกับกํารวัดควํามสูง 6) กํารน ําทําง ในเรื่องที่เกี่ยวกับกํารเดินอํากําศและเทคนิคในกํารบินเดินทําง และ กํารใช้แผนภูมิกํารเดินอํากําศ 7) วิธีปฏิบัติ ในเรื่อง ก) กํารใช้เอกสํารด้ํานกํารบิน เช่น เอกสํารแถลงข่ําวกํารบิน ( AIP ) ประกําศ ผู้ท ํากํารในอํากําศ ( NOTAM ) และกํารใช้รหัสและตัวย่อทํางกํารบิน ข) วิธีกําร ปล่อยในลักษณะต่ําง ๆ และวิธีดําเนินกํารที่เกี่ยวข้องกับกํารปล่อย ค) วิธีกํารปฏิบัติสําหรับป้องกันและวิธีดําเนินกํารเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึง กํารกระทําเพื่อหลีกเลี่ยงสภําพอํากําศที่เป็นอันตรําย กระแสลมมวลวน และกํารปฏิบัติอื่น ๆ ที่ทําให้ เกิดอันตรําย 8) หลักกํารบินที่เกี่ยวข้องกับบัลลูน (ง) ควํามชํานําญ ต้องมีควํามชํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรที่ผู้อํานวยกําร รับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง และต้องทํากํารบินกับบัลลูนมําแล้ว ไม่น้อยกว่ํา 16 ชั่วโมงบิน ซึ่งเป็นกํารปล่อย ( Launches ) และ กํารขึ้น ( Ascent ) ไม่น้อยกว่ํา 8 ครั้ง โดยต้องเป็นกํารบินเดี่ยวหนึ่งครั้ง (12) นักบินเครื่องบินเบํา นักบินเฮลิคอปเตอร์เบํา นักบินเครื่องร่อนเบํา และนักบินบัลลูนเบํา ( Light Aircraft Pilot ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 17 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่นักบินเครื่องร่อนเบํา และนักบินบัลลูนเบํา ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 16 ปีบริบูรณ์ ้ หนา 39 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

(ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นสอง (ค) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1 ) ควํามรู้ทั่วไป ก) กฎหมํายกํารบิน ( Air Law ) ข) สมรรถนะบุคคล ( Human Performance ) ค) อุตุนิยมวิทยํา ( Meteorology ) ง) กํารติดต่อสื่อสําร ( Communications ) จ) กํารน ําทําง ( Navigation ) เว้นแต่นักบินบัลลูนเบําและนักบินเครื่องร่อนเบํา 2 ) ควํามรู้เฉพําะ ก) หลักกํารบิน ( Principle of Flight ) ข) วิธีปฏิบัติ ( Operational Procedures ) ค) สมรรถนะและกํารวํางแผนกํารบิน ( Flight Performance and Planning ) ง) ควํามรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอํากําศยําน ( Aircraft general knowledge ) (ง) ควํามช ํานําญ ต้องมีควํามช ํานําญ ดังต่อไปนี้ 1 ) นักบินเครื่องบินเบํา ต้องมีควํามช ํานําญในก ํารบินในฐํานะนักบิน ( As apilot ) มําแล้วไม่น้อยกว่ํา 30 ชั่วโมงบิน โดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบัน ฝึกอบรมด้ํานกํารบินสําหรับอํากําศยํานเบํา ( A Declared Training Organisation ( DTO )) ที่ผู้อํานวยกํารรับรอง หรือสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบิน ( ATO ) ที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง โดย ก) ท ํากํารบินคู่กับครูกํารบิน ( Dual Flight Instruction ) ไม่น้อยกว่ํา 15 ชั่วโมงบินกับเครื่องบินเบําตํามแบบที่ใช้ทดสอบภําคปฏิบัติ ข) ทํากํารบินเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 6 ชั่วโมงบิน ภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบิน ( Supervised Solo Flight Time ) ซึ่งจะต้องประกอบด้วยกํารบินเดินทํางเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 3 ชั่วโมงบิน โดยกํารบินเดินทํางเดี่ยวอย่ํางน้อยหนึ่งครั้งต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 150 กิโลเมตร (80 NM ) และ ต้องจบกํารบินลง ( Full - stop l anding ) ที่สนํามบินต่ํางกันกับสนํามบินที่ท ํากํารบินขึ้น 2 ) นักบินเฮลิคอปเตอร์เบํา ต้องมีควํามช ํานําญในกํารบินในฐํานะนักบิน ( As a pilot ) มําแล้วไม่น้อยกว่ํา 40 ชั่วโมงบิน โดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบัน ฝึกอบรมด้ํานกํารบินส ําหรับอํากําศยํานเบํา ( A Declared Training Organisation ( DTO )) ที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง หรือสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบิน ( ATO ) ที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง โดย ก) ท ํากํารบินคู่กับครูกํารบิน ( Dual Flight Instruction ) ไม่น้อยกว่ํา 20 ชั่วโมงบิน ข) ทํากํารบินเดี่ยวไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน ภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบิน ( Supervised Solo Flight Time ) ซึ่งจะต้องประกอบด้วยกํารบินเดินทํางเดี่ยว ( Solo Cross - ้ หนา 40 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

Country Flight ) ไม่น้อยกว่ํา 5 ชั่วโมงบิน โดยกํารบินเดินทํางเดี่ยวอย่ํางน้อย 1 ครั้งต้องมี ระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 150 กิโลเมตร (80 NM ) และต้องจบกํารบินลง ( Full - stop landing ) ที่สนํามบินต่ํางกันกับสนํามบินที่ท ํากํารบินขึ้น 3 ) นักบินเครื่องร่อนเบํา ต้องมีควํามชํานําญในกํารบินในฐํานะนักบิน ( As a pilot ) มําแล้วไม่น้อยกว่ํา 15 ชั่วโมงบิน โดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรที่ผู้อํานวยกํารรับรองสถําบันฝึกอบรม ด้ํานกํารบินสําหรับอํากําศยํานเบํา ( A Declared Training Organisation ( DTO )) ที่ผู้อํานวยกํารรับรอง หรือสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบิน ( ATO ) ที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองโดย ก) ท ํากํารบินคู่กับครูกํารบิน ( Dual Flight Instruction ) ไม่น้อยกว่ํา 10 ชั่วโมงบิน ข) ท ํากํารบินเดี่ยวภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบิน ( Supervised Solo Flight Time ) จ ํานวน 2 ชั่วโมงบิน ค) ท ํากํารปล่อยและบินลง ไม่น้อยกว่ํา 45 ครั้ง ง) ทํากํารบินเดินทํางเดี่ยว ( Solo Cross - Country Flight ) อย่ํางน้อย 1 ครั้ง จะต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 50 กิโลเมตร (27 NM ) หรือทํากํารบินเดินทํางคู่ ( Dual Cross - Country Flight ) อย่ํางน้อย 1 ครั้ง จะต้องมีระยะทํางไม่น้อยกว่ํา 100 กิโลเมตร (55 NM ) 4 ) นักบินบัลลูนเบํา ต้องมีควํามชํานําญในกํารบินในฐํานะนักบิน ( As a pilot ) มําแล้วไม่น้อยกว่ํา 16 ชั่วโมงบิน โดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรม ด้ํานกํารบินสําหรับอํากําศยํานเบํา ( A Declared Training Organisation ( DTO )) ที่ผู้อํานวยกํารรับรอง หรือสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบิน ( ATO ) ที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองโดย ก) ท ํากํารบินคู่กับครูกํารบิน ( Dual Flight Instruction ) ไม่น้อยกว่ํา 12 ชั่วโมงบิน ข) ทํากํารสูบลมหรือเป่ําลม ไม่น้อยกว่ํา 10 ครั้ง และทํากํารบินขึ้นและบินลง ไม่น้อยกว่ํา 20 ครั้ง ค) ทํากํารบินเดี่ยวอย่ํางน้อย 1 ครั้ง ภํายใต้กํารกํากับดูแลของครูกํารบิน ( Supervised Solo Flight Time ) โดยมีชั่วโมงบินไม่น้อยกว่ํา 30 นําที ( 1 3) ศิษย์กํารบินอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ( Student remote pilot ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 1 8 ปี บริบูรณ์ (ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นหนึ่ง หรือชั้นสําม ( 1 4) นักบินอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ( Remote pilot ) สําหรับเครื่อ งบิน นําวําอํากําศ เครื่องร่อน อํากําศยํานปีกหมุน อํากําศยํานขึ้นลงทํางดิ่ง และบัลลูน (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 18 ปี บริบูรณ์ (ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นหนึ่ง หรือชั้นสําม ้ หนา 41 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

(ค) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ที่เหมําะสมตํามแบบของอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจําก ระยะไกล และสถํานีควบคุมระยะไกล ที่จะรับศักยกํารบินและสิทธิทํากําร โดยมีควํามรู้อย่ํางน้อย ดังต่อไปนี้ 1 ) กฎหมํายกํารบิน ( Air Law ) ในเรื่อง ก) กฎและข้อบังคับที่เกี่ยวกับผู้ถือใบอนุญําตนักบินอํากําศยําน ที่ควบคุมกํารบิน จํากระยะไกล ข) กฎกํารจรําจรทํางอํากําศ ( Rules of the air ) ค) กฎและข้อบังคับที่เกี่ยวกับปฏิบัติกํารบินภํายใต้กฎกํารบินด้วยเครื่องวัด ประกอบกํารบิน ( IFR ) และวิธีปฏิบัติและกํารดําเนินกํารบริกํารจรําจรทํางอํากําศที่เกี่ยวข้อง 2 ) ควํามรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ในเรื่อง ก) หลักกํารท ํางํานและหน้ําที่ของเครื่องยนต์ ระบบ และเครื่องวัดประกอบกํารบิน ข) ข้อจ ํากัดกํารท ํางํานของอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกลและ เครื่องยนต์ของอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกลตํามข้ อมูลกํารปฏิบัติกํารบินที่เกี่ยวข้องจํากคู่มือ กํารบินหรือเอกสํารอื่นที่เหมําะสม ค) วิธีกํารตรวจควํามสมควรเดินอํากําศ และพร้อมใช้งํานของอุปกรณ์และ ระบบของอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ง) กํารซ่อมบํารุง และวิธีกํารซ่อม ระบบโครงสร้ําง ระบบกํารทํางําน และ เครื่อง ยนต์ของอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล จ) กํารใช้งําน ข้อจํากัด และควํามสมควรเดินอํากําศของ อุปกรณ์กํารบํารุงรักษํา ระบบอิเล็กทรอนิกส์กํารบิน ( Avionics, Electronic devices and instruments ) ที่จําเป็นในกําร ควบคุม และกํารนําทําง ( Navigation ) ของอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกลภํายใต้กฎกํารบิน ด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( IFR ) และในสภําพอํากําศปิด ฉ) เครื่องวัดประกอบกํารบิน ( Flight instruments ) เครื่องมือไจโรสโคป ( Gyroscopic instruments ) ขีดจํากัดในกํารปฏิบัติกํารบิน และวิธีปฏิบัติในกรณีเกิดควํามผิดปกติ ของเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่ําง ๆ ( Event of malfunctions ) ช) ควํามรู้พื้นฐํานของสถํานีควบคุมระยะไกล ( Remote pilot station ) 1 . หลักกํารท ํางํานของระบบและอุปกรณ์ของสถํานีควบคุมระยะไกล 2 . กํารใช้งําน และกํารตรวจควํามพร้ อมในกํารใช้งํานของอุปกรณ์ 3 . วิธีกํารปฏิบัติในกรณีที่อุปกรณ์เสียไม่พร้อมใช้งําน ( Event of malfunction ) ซ) ควํามรู้พื้นฐํานของระบบกํารเชื่อมต่อกํารสั่งกํารและควบคุม C 2 ( Command and Control link ) 1 . แบบ คุณลักษณะ ข้อจ ํากัด และควํามแตกต่ํางของแต่ละระบบ ้ หนา 42 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

2 . กํารใช้งําน และกํารตรวจควํามพร้อมในกํารใช้งํานของระบบ 3 . วิธีกํารปฏิบัติในกรณีที่ระบบอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล กรณีไม่พร้อมใช้งําน หรือเสียหําย ฌ) กํารตรวจพบและหลีกเลี่ยงกํารปฏิบัติกํารบินตํามขีดควํามสํามํารถของ อํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล สําหรับอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ประเภทอํากําศยํานปีกหมุน จะต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องระบบส่งก ําลัง ( Transmission ( power trains )) และส ําหรับอํากําศยําน ที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ประเภทบัลลูน ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องคุณสมบัติทํางกํายภําพ และวิธีปฏิบัติในกํารน ําแก๊สไปใช้ในบัลลูน 3 ) สมรรถนะ กํารวํางแผนกํารบินและกํารบรรทุก ( Flight Performance, Planning And Loading ) ในเรื่อง ก) ผลกระทบของกํารบรรทุกและกํารกระจํายน้ําหนักที่มีผลต่อท่ําทํางกํารบิน และกํารคํานวณน้ ําหนักและสมดุล ข) กํารใช้และกํารปฏิบัติจริงในข้อมูลที่เกี่ยวกับกํารบินขึ้นบินลง และสมรรถนะ ด้ํานอื่น ๆ ค) กํารท ําแผนกํารบิน ( Flight planning ) ที่เกี่ยวกับกํารปฏิบัติกํารบินทั้งก่อน ทํากํา รบินและในระหว่ํางทํากํารบินตํามกฎกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( IFR ) กํารเตรียมกําร และกํารยื่นแผนกํารบินต่อหน่วยบริกํารจรําจรทํางอํากําศ วิธีกํารดําเนินบริกํารจรําจรทํางอํากําศ วิธีกําร ตั้งเครื่องวัดระยะสูง ส ําหรับอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ประเภทนําวําอํากําศ ปร ะเภทอํากําศยํานปีกหมุน และประเภทอํากําศยํานขึ้นลงทํางดิ่ง จะต้องค ํานึงถึงผลกระทบจํากภําระ บรรทุกที่อยู่นอกอํากําศยําน 4 ) สมรรถนะบุคคล ( Human performance ) ที่เกี่ยวข้องกับนักบินอํากําศยําน ที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล และกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน รวมถึงกํารคุกคํามและ ข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) 5 ) อุตุนิยมวิทยํา ( Meteorology ) ในเรื่องอุตุนิยมวิทยํากํารบินขั้นพื้นฐําน กํารใช้ และวิธีกํารได้รับข้อมูลทํางด้ํานอุตุนิยมวิทยํา วิทยําศําสตร์เกี่ยวกับกํารวัดควํามสูง ( Altimetry ) กํารหลีกเลี่ยงสภําพอํา กําศที่เป็นอันตรําย และยังรวมถึงหัวข้อต่อไปนี้ ก) อุตุนิยมวิทยํากํารบิน ( Aeronautical meteorology ) ผลกระทบของ สภําพอํากําศต่อกํารปฏิบัติกํารบินและอํากําศยําน ข) ผลกระทบจํากสภําพน้ําแข็งจับพอก ( Icing condition ) และวิธีกํารปฏิบัติ ในกรณีที่เกิดน้ ําแข็งจับพอกอํากําศยําน รวมทั้งกํารจับพอกบริเวณชุดใบพัดประธําน ( Rotor ) ้ หนา 43 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ค) กํารปฏิบัติกํารบินในระดับสูง ( High altitude operation ) ควํามเข้ําใจ สภําพอํากําศที่ระดับสูง กํารอ่ํานและใช้รํายงํานข่ําวอํากําศรวมทั้งกระแสอํากําศ ( Weather repor ts, Charts and forecasts; Jetstream ) 6 ) กํารน ําทําง ( Navigation ) ในหัวข้อ ต่อไปนี้ ก) กํารเดินอํากําศและเทคนิคในกํารบินเดินทําง และกํารใช้แผนภูมิ กํารเดินอํากําศ ข) กํารใช้อุปกรณ์ในกํารน ําทําง และควํามเข้ําใจคุณลักษณะพื้นฐํานของระบบน ําทําง รวมทั้งระบบอุปกรณ์ของระบบอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ค) ข้อจ ํากัด และสภําพควํามพร้อมใช้งํานของอุปกรณ์ที่จ ําเป็นเพื่อใช้ในกํารน ําทําง ง) ควํามถูกต้องแม่นยําของระบบนําทํางที่ใช้ในระหว่ํางขั้นตอนกํารปฏิบัติกํารบินต่ําง ๆ ( Departure, En - route, Approach and landing ) รวมทั้งระบบสื่อสํารวิทยุ จ) คุณลักษณะพื้นฐํานของระบบนําทํางที่เป็นอิสระจํากระบบภํายนอกอํากําศยําน และระบบที่ต้องอ้ํางอิงจํากระบบภํายนอกอํากําศยําน 7 ) วิธีปฏิบัติ ( Operational procedures ) ในเรื่อง ก) กํารนําหลักกํารของกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดสภําวะ คุ กคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) มําใช้กับสมรรถนะในกํารปฏิบัติกํารบิน ข) กํารใช้เอกสํารด้ํานกํารบิน เช่น เอกสํารแถลงข่ําวกํารบิน ( AIP ) ประกําศ ผู้ท ํากํารในอํากําศ ( NOTAM ) และกํารใช้รหัสและตัวย่อทํางกํารบิน ค) วิธีกํารตั้งเครื่องวัดระยะสูงวิธีกํารปฏิบัติส ําหรับป้องกันและวิธีกํารดําเนินกําร เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงกํารกระท ําเพื่อหลีกเลี่ยงสภําพอํากําศที่เป็นอันตรําย กระแสลมมวลวน และ กํารปฏิบัติอื่น ๆ ที่ท ําให้เกิดอันตรําย ง) ตํามกฎกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน และก ํารบินหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวําง จ) วิธีกํารปฏิบัติกํารบิน ขนส่งสินค้ํา รวมทั้งวัตถุอันตรําย และกํารจัดกํารวัตถุอันตรําย ฉ) ข้อก ําหนดกํารบรรยํายสรุปเรื่องควํามปลอดภัย กับนักบินอํากําศยําน ที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกลที่ท ํากํารบินร่วมกัน ช) วิธีกํารปฏิบัติในกํารประสํานงําน และกํารส่งต่อกํารควบคุมอํากําศยําน ซ) วิธีกํารปฏิบัติเมื่อใช้งํานระบบกํารเชื่อมต่อกํารสั่งกํารและควบคุม C 2 ทั้งใน สภําวะปกติ และเมื่อระบบท ํางํานผิดปกติ ส ําหรับอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินระยะไกล ประเภทอํากําศยํานปีกหมุน และ ประเภทอํากําศยํานขึ้นลงทํางดิ่ง ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องกํารสูญเสียแรงยกเนื่องจํากรอบกํารหมุน ของใบพัดลดลง ( Settling with power ) กํารสั่นอย่ํางรุนแรงอันเนื่องมําจํากกํารเสียสมดุลของแรงต่ําง ๆ ของใบพัดประธํานขณะอยู่บนพื้นหรือกํารลงสู่พื้นอย่ํางรุนแรง ( Ground resonance ) กํารสูญเสีย ้ หนา 44 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

แรงยกข องใบพัดประธํานที่หมุนตํามลมสัมพัทธ์ ( Retreating blade stall ) อันตรํายที่อําจเกิดขึ้น ในกํารลงสู่พื้นที่มีควํามลําดเอียงหรือกํารลงสู่พื้นที่มีกระแสลมแรงขวํางสนําม หรือกํารวิ่งขึ้นจํากสนําม ด้วยท่ําบินที่รุนแรง ( Dynamic roll - over ) และวิธีปฏิบัติเพื่อควํามปลอดภัยเมื่อทํากํารบินในสภําพอํากําศ ที่บินด้วยทัศนวิสัย 8 ) หลักกํารบิน ( Principles of flight ) 9 ) กํารติดต่อด้วยวิทยุ ( Radiotelephony ) ในเรื่องวิธีกํารและภําษําที่ใช้ในกําร ติดต่อสื่อสําร ( Communications ) และวิธีปฏิบัติในกรณีที่ไม่สํามํารถติดต่อทํางวิทยุได้ (ง) ควํามช ํานําญ ผู้ขอจะต้องมีควํามช ํานําญโดยส ําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตร กํารฝึกอบรมบนพื้นฐํานสมรรถนะ ( Competency - base Training ) ที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบัน ฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง โดย 1) ก ํารฝึกอบรมควํามรู้ควํามชํานําญในกํารปฏิบัติกํารบินอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบิน จํากระยะไกลภํายใต้กฎกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( IFR ) 2) กํารฝึกอบรมจะต้องกํารท ําภํายใต้ครูกํารบินนักบินที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล โดยจะต้องผ่ํานกํารอบรมในทุกขั้นตอนกํารบิน รวมทั้ง Upset Prevention and Recovery Training ( UPRT ) และกํารบินภํายใต้กฎกํารบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( IFR ) ทั้งระบบอํากําศยําน ที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ( RPAS ) อํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ( RPA ) และ สถํานีควบคุมระยะไกล ( RPS ) 3) ในกรณีที่จะทํากํารบินกับอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกลที่มีหลําย เครื่องยนต์ จะต้องได้รับกํารฝึกอบรมภํายใต้กํารควบคุมของครูกํารบิน และเป็นไปตํามประเภท ( Categories ) ของระบบอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล และอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบิน จํากระยะไกล รวมถึงกํารอบรมใ นกรณีที่เครื่องยนต์ท ํางํานผิดปกติ หรือไม่ท ํางําน ทั้งนี้ ผู้ขอต้องแสดงให้เห็นถึงทักษะ ( Skill ) ที่เหมําะสมจะท ําหน้ําที่นักบิน อํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกลในฐํานะผู้ควบคุมอํากําศยําน ( Pilot - in - command ) กับระบบอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล กับประเภทขอ งอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบิน จํากระยะไกล และสถํานีควบคุมระยะไกล และในกรณีของนักบินอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจําก ระยะไกลด้วยอํากําศยํานหลํายเครื่องยนต์ ( Multi - engined RPA ) จะต้องแสดงให้เห็นถึงควํามสํามํารถ ( Ability ) ในกํารปฏิบัติกํารบินในสภําวะที่ระบบเครื่องยนต์ท ํางํานไม่เต็มประสิทธิภําพ (15) ศักยครูกํารบินส ําหรับอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ( RPAS instructor rating ) (ก) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ตํามที่ก ําหนดไว้ใน (14) (ค) สําหรับผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจ ําหน้ําที่ ในตําแหน่งนั กบินอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ( RPA ) และควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) เทคนิคกํารสอน 2) กํารประเมินสมรรถนะศิษย์กํารบิน ้ หนา 45 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

  1. กระบวนกํารเรียนรู้ 4) องค์ประกอบของกํารสอนที่มีประสิทธิภําพ 5) กํารทดสอบและกํารประเมินผลศิษย์กํารบินและหลักปรัชญํากํารฝึกอบรม 6) กํารพัฒนําหลักสูตรกํารฝึกอบรม 7) กํารวํางแผนกํารเรียนกํารสอน 8) เทคนิคกํารสอนในห้องเรียน 9) กํารใช้อุปกรณ์กํารสอน รวมถึงกํารใช้เครื่องช่วยฝึกบินที่เหมําะสม 10) กํารวิเครําะห์และกํารแก้ไขข้อผิดพลําดของศิษย์กํารบิน 11) สมรรถนะบุคคล ( Human performance ) ที่เกี่ยวข้องกับกํารฝึกบิน ( Flight instruction ) รวมทั้งหลักกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) 12) อันตรํายที่เกี่ยวข้องกับระบบเครื่องช่วยฝึกบินที่ล้มเหลว และกํารท ํางําน ที่ผิดพลําด (ข) ควํามชํานําญ จะต้องมีควํามชํานําญโดยถือใบอนุญําตนักบินอํากําศยํานที่ควบคุม กํารบินจํากระยะไกลที่ยังไม่หมดอํายุ โดยส ําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองจํากสถําบัน ฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง ดังนี้ 1) หลักสูตรกํารจัดกํารอบรมตํามหลักสูตรกํารฝึกอบรมบนพื้นฐํานสมรรถนะ ( Competency - based training programme ) 2) หลักสูตรครูกํารบินระบบอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ( RPAS instructor training programme ) โดยมีรํายละเอียด ดังนี้ ก) กํารปรับใช้กํารเรียนกํารสอนโดยยึดหลักสมรรถนะ ในกํารประเมินผล กํารอบรมศิษย์กํารบินอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ข) กํารประเมินสมรรถนะ โดยกํารสังเกตพฤติกรรม และกํารปฏิบัติของศิษย์ กํารบินอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล รวมทั้งวิธีเก็บหลักฐํานประกอบกํารประเมินผล ค) ควํามเข้ําใจขีดควํามสํามํารถตํามมําตรฐํานด้ํานสมรรถนะ ( Competency standards ) ง) ควํามรู้ควํามสํามํารถในกํารวิเครําะห์หําสําเหตุของปัญหําที่มีผลให้ กํารฝึกอบรมต่ํากว่ํามําตรฐําน จ) สํามํารถสังเกตสถํานกํารณ์ที่ไม่ปลอดภัยในระหว่ํางกํารฝึกอบรม 3) หลักสูตรเทคนิคกํารสอน ( RPAS instructional techniques ) ในเรื่องกํารสําธิต กํารฝึกปฏิบัติ กํารตระหนักและกํารแก้ไขข้อผิดพลําดทั่วไปของศิษย์กํารบิน 4) เทคนิคกํารสอนภําคปฏิบัติ ( Practiced instructional techniques ) ้ หนา 46 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ทั้งนี้ ผู้ขอต้องผ่ํานกํารทดสอบควํามชํานําญในกํารสอน รวมทั้งกํารประเมินผลศิษย์กํารบิน และกํารประเมินผลตํามหลักสมรรถนะ และผ่ําน กํารประเมินผลควํามชํานําญในกํารสอนภําคปฏิบัติ จํากส ํานักงําน (16) ศิษย์พนักงํานควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ ( Student air traffic controller ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 18 ปีบริบูรณ์ (ข) สุขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นสําม (ค) ควํามชํานําญ ต้องมีควํามชํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรกํารควบคุม กํารจรําจรทํางอํากําศที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง (17) พนักงํานควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ ( Air traffic controller ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 21 ปีบริบูรณ์ (ข) สุ ขภําพ ต้องได้รับใบส ําคัญแพทย์ชั้นสําม (ค) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) กฎหมํายกํารบิน ในเรื่องกฎและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือใบอนุญําตพนักงําน ควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ 2) อุปกรณ์ที่ใช้ในกํารควบคุมจรําจรทํางอํากําศ ( Air traffic control equipment ) ในเรื่องหลักกํารกํารใช้และข้อจ ํากัดของอุปกรณ์ที่ใช้ในกํารควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ 3) ควํามรู้ทั่วไป ( General knowledge ) ในเรื่องหลักกํารบิน หลักกํารปฏิบัติ และกํารท ํางํานของอํากําศยํานและอํากําศยํานที่ควบคุมกํารบินจํากระยะไกล ( RPAS ) เครื่องยนต์ และ ระบ บต่ําง ๆ และสมรรถนะอํากําศยํานที่เกี่ยวกับกํารปฏิบัติ กํารควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ 4) สมรรถนะบุคคล ( Human performance ) ที่เกี่ยวข้องกับกํารควบคุมกํารจรําจร ทํางอํากําศ รวมถึงกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) 5) อุตุนิยมวิทยํา ( Meteorology ) ในเรื่องอุตุนิยมวิทยํากํารบิน กํารใช้เอกสําร และข้อมูลทํางอุตุนิยมวิทยํา กํารเกิดและลักษณะของสภําพอํากําศที่มีผลกระทบต่อกํารปฏิบัติกํารบิน และควํามปลอดภัยในกํารบิน และวิทยําศําสตร์เกี่ยวกับกํารวัดควํามสูง 6) กํารน ําทําง ในเรื่องหลักกํารของกํารเดินอํากําศ หลักกําร ข้อจํากัด และ ควํามแม่นย ําของระบบกํารน ําทํางและเครื่องช่วยกํารเดินอํากําศด้วยทัศนวิสัย และ 7) วิธีปฏิบัติ ในเรื่องกํารควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ กํารสื่อสําร วิธีกําร และ ภําษําที่ใช้ในกํารติดต่อสื่อสํารทั้งกรณีเหตุกํารณ์ปกติ ไม่ปกติ และฉุกเฉิน กํารใช้เอกสํารที่เกี่ยวข้องกับ กํารเดินอํากําศ และวิธีปฏิบัติเพื่อควํามปลอดภัยเกี่ยวกับกํารบิน (ง) ควํามชํานําญ ต้องมีควํามชํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรกํารควบคุม กํารจรําจรทํางอํากําศที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่อํานวยกํารรับรอง และ ้ หนา 47 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ต้องแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะ ( Competence ) ในกํารควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศจริงภํายใต้ กํารอ ํานวยกํารของครูฝึกภําคปฏิบัติกํารควบคุมจรําจรทํางอํากําศ ( OJTI ) เป็นเวลําไม่น้อยกว่ําสํามเดือน ทั้งนี้ ต้องมีควํามช ํานําญตํามที่กําหนดไว้ใน (18) (ค) และส ําหรับศักยของพนักงํานควบคุมกํารจรําจร ทํางอํากําศแต่ละประเภทถือเป็นส่วนหนึ่งของควํามช ํานําญตํามข้อนี้ด้วย (18) ศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศ ( Air traffic controller rating ) (ก) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ แบ่งเป็นประเภท ดังต่อไปนี้ 1) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํา กําศบริเวณสนํามบินด้วยทัศนวิสัย ( Aerodrome Control Visual ( ADV )) 2) ศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศบริเวณสนํามบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( Aerodrome Control Instrument ( ADI )) แบ่งออกเป็น ก) ศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศแบบ Air Control ( AIR ) ข) ศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศแบบ Ground Movement Control ( GMC ) ค) ศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศแบบ Tower Control ( TWR ) ง) ศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศแบบ Ground Movement Surveillance ( GMS ) จ) ศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศแบบ Aerodrome Radar Control ( RAD ) 3) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศเขตประชิดสนํามบินด้วยกฎเกณฑ์กํารปฏิบัติ ( Approach Control Procedural ( APP )) 4) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศเขตประชิดสนํามบินด้วยระบบติดตํามอํากําศยําน ( Approach Control Surveillance ( APS )) แบ่งออกเป็น ก) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศเขตประชิดสนํามบินด้วยเรดําร์ซึ่งบอก มุมร่อนระยะและทิศทําง ( Precision Approach Radar ( PAR )) ข) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศเขตประชิดสนํามบินด้วยระบบติดตําม อํากําศยํานด้วยเรดําร์ ( Surveillance Radar Approach ( SRA )) ค) ศักยควบ คุมกํารจรําจรทํางอํากําศในพื้นที่ควบคุมประชิดสนํามบิน ( Terminal Control ( TCL )) 5) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศในพื้นที่ควบคุมด้วยกฎเกณฑ์กํารปฏิบัติ ( Area Control Procedural ( ACP )) 6) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศในพื้นที่ควบคุมด้วยระบบติดตํามอํากําศยําน ( Area Control Surveillance ( ACS )) (ข) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) โครงสร้ํางของห้วงอํากําศ 2) กํารใช้กฎ วิธีดําเนินกําร และแหล่งที่มําของข้อมูลข่ําวสําร ้ หนา 48 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

  1. สิ่งอ ํานวยควํามสะดวกในกํารเดินอํากําศ 4) อุปกรณ์ควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศและกํารใช้งําน 5) ภูมิ ประเทศและลักษณะเด่นที่ใช้อ้ํางอิง 6) ลักษณะของกํารจรําจรทํางอํากําศ 7) ปรํากฏกํารณ์ของสภําพอํากําศ และ 8) แผนฉุกเฉิน และแผนกํารค้นหําและช่วยเหลือ ส ําหรับศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศบริเวณสนํามบินด้วยทัศนวิสัย ( Aerodrome Control Visual ( ADV )) และศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศบริเวณสนํามบินด้วย เครื่องวัดประกอบกํารบิน ( Aerodrome Control Instrument ( ADI )) ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่อง แผนผังของสนํามบิน ลักษณะทํางกํายภําพและเครื่องอํานวยควํามสะดวกในกํารเดินอํากําศ ประเภท ทัศนวิสัย สําหรับศักยควบคุมกํารจรําจร ทํางอํากําศเขตประชิดสนํามบินด้วยระบบติดตําม อํากําศยําน ( Approach Control Surveillance ( APS )) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศเขต ประชิดสนํามบินด้วยเรดําร์ซึ่งบอกมุมร่อนระยะและทิศทําง ( Precision Approach Radar ( PAR )) และศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศในพื้นที่ควบคุมด้วยระบบติดตํามอํากําศยําน ( Area Control Surveillance ( ACS )) ต้องมีควํามรู้เพิ่มเติมในเรื่องหลักกํารกํารใช้งํานและข้อจํากัดของระบบติดตําม อํากําศยํานสําหรับกํารบริกํารจรําจรทํางอํากําศ ( ATS surveillance systems ) ที่เกี่ยวข้ อง และ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และวิธีปฏิบัติสําหรับกํารให้บริกํารด้วยระบบติดตํามอํากําศยําน ( ATS surveillance systems ) รวมทั้งวิธีปฏิบัติที่ให้ควํามมั่นใจว่ําอํากําศยํานมีระยะห่ํางจํากภูมิประเทศที่เหมําะสม (ค) ควํามชํานําญ ต้องมีควํามชํานําญโดยสําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูต รกํารควบคุม กํารจรําจรทํางอํากําศที่ผู้อํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อํานวยกํารรับรอง และ ต้องแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะ ( Competence ) ตํามศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศในกํารปฏิบัติหน้ําที่ ภํายใต้กํารอ ํานวยกํารของครูฝึกภําคปฏิบัติกํารควบคุมจรําจรทํางอํากําศ ( OJTI ) ดังต่อไปนี้ 1) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศบริเวณสนํามบินด้วยทัศนวิสัย ( Aerodrome Control Visual ( ADV )) และศักยควบคุมจรําจรทํางอํากําศบริเวณสนํามบินด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน ( Aerodrome Control Instrument ( ADI )) ต้องให้บริกํารควบคุมบริเวณสนํามบิน ณ หน่ วยที่ขอศักย เป็นเวลําไม่น้อยกว่ํา 90 ชั่วโมง หรือหนึ่งเดือน แล้วแต่เวลําใดจะมํากกว่ํา 2) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศเขตประชิดสนํามบินด้วยกฎเกณฑ์กํารปฏิบัติ ( Approach Control Procedural ( APP )) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศเขตประชิดสนํามบิน ด้วยระบบติดตํามอํากําศยําน ( Approach Control Surveillance ( APS )) ศักยควบคุมกํารจรําจร ทํางอํากําศในพื้นที่ควบคุมด้วยกฎเกณฑ์กํารปฏิบัติ ( Area Control Procedural ( ACP )) และศักย ควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศในพื้นที่ควบคุมด้วย ระบบติดตํามอํากําศยําน ( Area Control ้ หนา 49 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

Surveillance ( ACS )) ต้องให้บริกํารควบคุมตํามที่ขอศักย ณ หน่วยที่ขอศักยเป็นเวลําไม่น้อยกว่ํา 180 ชั่วโมง หรือสํามเดือน แล้วแต่ว่ําเวลําใดจะมํากกว่ํา 3) ศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศเขตประชิดสนํามบินด้วยเรดําร์ซึ่งบอกมุมร่อน ระยะและทิศทําง ( Precision Approach Radar ( PAR )) ต้องให้บริกํารควบคุมด้วยกํารบอกมุมร่อน ระยะและทิศทํางเขตประชิดสนํามบิน ไม่น้อยกว่ํา 200 ครั้ง โดยให้นําจํานวนที่ฝึกปฏิบัติด้วยเครื่อง จําลอง ( Radar Simulator ) ที่ผู้อํานวยกํารรับรองมํารวมคํานวณได้ไม่เกิน 100 ครั้ง และต้องมี ประสบกํารณ์ทํากํารบอกมุมร่อน ระยะ และทิศทํางด้วยเรดําร์ ณ หน่วยและอุปกรณ์ที่ขอศักย ไม่น้อยกว่ํา 50 ครั้ง สําหรับศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศเขตประชิดสนํามบินด้วยระบบติดตํา ม อํากําศยําน ( Approach Control Surveillance ( APS ) ) และศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ เขตประชิดสนํามบินด้วยระบบติดตํามอํากําศยํานด้วยเรดําร์ ( Surveillance Radar Approach ( SRA )) ต้องมีควํามชํานําญในกํารปฏิบัติงํานนําอํากําศยํานเข้ํา - ออก สนํามบินด้วยระบบระบุตําแหน่งอํากําศยําน ( Plan Position Indicator ( PPI ) Approaches ) ด้วยเครื่องมือตํามแบบที่ใช้ ณ หน่วยที่ขอศักย และอยู่ภํายใต้กํารอ ํานวยกํารของผู้มีศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศที่เหมําะสม ไม่น้อยกว่ํา 25 ครั้ง ทั้งนี้ ผู้ขอต้องท ํากํารยื่นค ําขอส ําหรับศักยควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศภํายใน ระยะเวลํา 6 เดือนนับจํากวันที่มีควํามช ํานําญครบถ้วนตํามข้อ 1) 2) หรือ 3) ในกรณีที่ผู้ขอมีศักยประเภทอื่นหรือศักยเดียวกันในหน่วยอื่นผู้อ ํานวยกําร อําจประกําศกําหนดให้ลดควํามช ํานําญตํามที่กําหนดไว้ใน 1) 2) หรือ 3) ได้ตํามที่เห็นสมควร (19) พนักงํานอ ํานวยกํารบิน ( Flight operations officer / flight dispatcher ) (ก) อํายุ ต้องมีอํายุไม่ต่ํากว่ํา 21 ปีบริบูรณ์ (ข) ควํามรู้ ต้องมีควํามรู้ ดังต่อไปนี้ 1) กฎหมํายกํารบิน ในเรื่องกฎและข้อบังคับที่เกี่ยวกับผู้ถือใบอนุญําตพนักงําน อ ํานวยกํารบิน วิธีปฏิบัติและวิธีดําเนินกํารบริกํารควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ 2) ควํามรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอํากําศยําน ในเรื่อง ก) หลักกํารท ํางํานของเครื่องยนต์ ระบบ และเครื่องวัดของเครื่องบิน ข) ข้อจ ํากัดกํารท ํางํานของเครื่องบินและเครื่องยนต์ ค) รํายกํารอุปกรณ์ขั้นต่ํา 3) กํารค ํานวณสมรรถนะและวิธีกํารวํางแผนกํารบิน ( Flight performance calculation and planning procedures ) ในเรื่อง ก) ผลกระทบของกํารบรรทุกและกํารกระจํายน้ําหนักที่มีต่อสมรรถนะอํากําศยํา น และท่ําทํางกํารบิน และกํารคํานวณน้ ําหนักและสมดุล ้ หนา 50 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ข) กํารวํางแผนกํารปฏิบัติกํารบิน กํารสิ้นเปลืองของน้ํามันเชื้อเพลิง และ กํารคํานวณพิสัยบิน วิธีดําเนินกํารเลือกสนํามบินสํารอง กํารควบคุมขณะบินเดินทําง และกํารปฏิบัติกําร ขยํายช่วงกํารเดินทําง ค) สมรรถนะขณะบินขึ้น รวมถึงควํามยําวทํางวิ่ง กํารไต่ระดับสิ่งกีดขวําง และ ข้อจ ํากัด ง) สมรรถนะกํารบินระดับ รวมถึงควํามสูงขั้นต่ํา กํารสูญเสียควํามดันอํากําศ ภํายในเครื่อง กํารสูญเสียเครื่องยนต์ กํารกํางล้อ กํารวํางแผนในเหตุกํารณ์ต่ําง ๆ จ) สมรรถนะกํารลงจอด รวมถึงกํารไต่ระดับเข้ําสู่สนํามบิ น สิ่งกีดขวําง และ ข้อจ ํากัด ฉ) กํารเตรียมและกํารยื่นแผนกํารบินของบริกํารจรําจรทํางอํากําศ ช) หลักกํารพื้นฐํานของกํารใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในระบบวํางแผน 4) สมรรถนะบุคคล ( Human performance ) ที่เกี่ยวข้องกับกํารควบคุมในกําร ปฏิบัติกํารบิน ( Operational control ) รวมถึงกํารบริหํารจัดกํารเมื่อเกิดสภําวะคุกคํามและข้อผิดพลําด ( Threat and error management ) 5) อุตุนิยมวิทยํา ( Meteorology ) ในเรื่อง ก) อุตุนิยมวิทยํากํารบิน กํารเคลื่อนตัวของระบบควํามกดอํากําศ โครงสร้ําง ของแนวควํามกดอํากําศ กํารเริ่มต้นและลักษณะของปรํากฏกํารณ์ข องสภําพอํากําศที่มีผลกระทบต่อกํารบินขึ้น ต่อกํารบินในเส้นทําง และต่อกํารบินลง และกํารหลีกเลี่ยงสภําพอํากําศที่เป็นอันตรําย ข) กํารแปลควํามหมํายและกํารใช้รํายงําน แผนภูมิและพยํากรณ์อํากําศ ทํางด้ํานอุตุนิยมวิทยํากํารบิน รหัสและตัวย่อ กํารใช้และวิธีกํารได้รับข้อมูลทํางด้ํานอุตุนิยมวิทยํา 6) กํารนําทําง ( Navigation ) ในเรื่องหลักกํารของกํารเดินอํากําศ โดยเฉพําะกําร อ้ํางอิงด้วยเครื่องวัดประกอบกํารบิน 7) วิธีปฏิบัติ ในเรื่อง ก) กํารใช้เอกสํารด้ํานกํารบิน และคู่มือมําตรฐํานขั้นตอนกํารปฏิบัติกํารบิน ( S tandard operating procedures ) ข) วิธีปฏิบัติกํารส ําหรับกํารบรรทุกสินค้ําและวัตถุอันตรําย ค) วิธีด ําเนินกํารเกี่ยวกับอํากําศยํานประสบอุบัติเหตุและอุบัติกํารณ์และ วิธีดําเนินกํารในเที่ยวบินกรณีฉุกเฉิน ง) วิธีด ําเนินกํารเกี่ยวกับกํารแทรกแซงโดยมิชอบด้วยกฎหมํายและกํารก่อ วินําศกรรมอํากําศยําน 8) หลักกํารบินที่เกี่ยวข้องกับแบบของอํากําศยําน ้ หนา 51 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

  1. กํารติดต่อด้วยวิทยุ ในเรื่องวิธีกํารติดต่อสื่อสํารด้วยวิทยุระหว่ํางอํากําศยําน และสถํานีภําคพื้น (ค) ควํามช ํานําญ ต้องมีควํามช ํานําญ ดัง ต่อไปนี้ 1) ให้บริกํารเป็นเวลําไม่น้อยกว่ําสองปี ไม่ว่ําจะเป็นแต่ละประเภทโดยลําพังหรือ หลํายประเภทรวมกัน ดังต่อไปนี้ โดยมีเงื่อนไขว่ําถ้ําเป็นควํามชํานําญรวมกันระยะเวลําให้บริกําร ประเภทใดประเภทหนึ่งต้องไม่น้อยกว่ําหนึ่งปี ก) เป็นผู้ประจ ําหน้ําที่ในอํากําศ ( Flight crew member ) ในกํารขนส่ง ทํางอํากําศ หรือ ข) เป็นเจ้ําหน้ําที่อุตุนิยมวิทยําซึ่งปฏิบัติงํานในองค์กรซึ่งทําหน้ําที่จัดเตรียม กํารควบคุมปฏิบัติกํารบินให้กับกํารขนส่งทํางอํากําศ หรือ ค) เป็นพนักงํานควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ หรือคนอํานวยกําร ( Supervisor ) ด้ํานเทคนิคของพนักงํานอ ํานวยกํารบิน หรือในระบบกํารปฏิบัติกํารบินขนส่งทํางอํากําศ หรือ 2) ทําหน้ําที่ผู้ช่วยในกํารอํานวยกํารบินของกํารขนส่งทํางอํากําศเป็นเวลําไม่น้อยกว่ํา หนึ่งปี หรือ 3) สําเร็จกํารศึกษําตํามหลักสูตรบนพื้นฐํานสมรรถนะ ( Competency - base approved train ing ) ที่ผู้อ ํานวยกํารรับรองจํากสถําบันฝึกอบรมด้ํานกํารบินที่ผู้อ ํานวยกํารรับรอง ทั้งนี้ ผู้ขอจะต้องปฏิบัติงํานภํายใต้กํารอ ํานวยกํารของผู้มีใบอนุญําตพนักงําน อ ํานวยกํารบินเป็นเวลําไม่น้อยกว่ําเก้ําสิบวันท ํางําน ภํายในระยะเวลําหกเดือนก่อนวันยื่นค ําขอ ข้อ 6 มําตรฐํานในกํารออกและต่ออํายุใบส ําคัญแพทย์แต่ละชั้น ให้เป็นไปตํามที่ ผู้อํานวยกํารประกําศกําหนด ซึ่งต้องมีมําตรฐํานไม่ต่ํา ก ว่ําที่กําหนดในภําคผนวก 1 (ฉบับล่ําสุด) แห่งอนุสัญญํา และผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจําหน้ําที่ต้องไม่เสพยําเสพติดให้โทษ ดื่มหรือใช้เครี่องดื่ม ที่มีแอลก อฮอล์ ยํากดประสําท ยํานอนหลับ และยํากระตุ้นด้ํานจิตประสําทอื่น ๆ ในลักษณะที่จะ ก่อให้เกิดอันตรํายโดยตรงต่อผู้ขออนุญําต ข้อ 7 กํารนับเวลําบินตํามที่กําหนดในเรื่องควํามชํานําญ ( Crediting of flight time ) ให้เป็น ดังนี้ (1) นักบินศิษย์กํารบิน หรือผู้ถือใบอนุญําตนักบิน มีสิทธินับจํานวนชั่วโมงบินได้เต็มสําหรับ เวลําบินเดี่ยว เวลําบินคู่ภํายใต้ค ําแนะนําของครูกํารบิน และเวลําบินในฐํานะนักบินผู้ควบคุมอํากําศยําน ตํามที่กําหนดไว้ส ําหรับกํารออกใบอนุญําตนักบินครั้งแรก หรือกํารออกใบอนุญําตนักบินประเภทที่สูงขึ้น (2 ) ผู้ถือใบอนุญําตนักบิน เมื่อทําหน้ําที่นักบินผู้ช่วยที่ตําแหน่งของนักบิน ( at a pilot station ) ในอํากําศยํานที่ได้รับกํารรับรองให้ปฏิบัติกํารบินโดยใช้นักบินเพียงคนเดียว แต่ผู้อํานวยกําร กําหนดให้ปฏิบัติกํารบิน โดยมีนักบินผู้ช่วยมีสิทธินับจํานวนชั่วโมงบินนั้นไ ด้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของเวลําบิน ทั้งหมดที่กําหนดไว้สําหรับใบอนุญําตนักบินประเภทที่สูงขึ้น และผู้อํานวยกํารอําจพิจํารณําให้มีสิทธิ ้ หนา 52 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

นับจํานวนชั่วโมงบินนั้นได้เต็มเวลําบินทั้งหมดที่กําหนดไว้สําหรับใบอนุญําตนักบินประเภทที่สูงขึ้น ถ้ําอํากําศยํานนั้นได้มีกํารติดตั้งอุปกรณ์สําหรับกํารปฏิบัติกํารบินโดยนักบินผู้ช่วยและเป็นอํากําศยําน ที่ปฏิบัติกํารบินโดยใช้นักบินหลํายคน ( Multi - crew operation ) (3) ผู้ถือใบอนุญําตนักบิน เมื่อทําหน้ําที่เป็นนักบินผู้ช่วยที่ตําแหน่งของนักบินนักบิน ( At a pilot s tation ) ในอํากําศยํานที่ได้รับกํารรับรองให้ปฏิบัติกํารบินโดยมีนักบินผู้ช่วย มีสิทธินับจํานวน ชั่วโมงบินนั้นได้เต็มเวลําบินทั้งหมดที่ก ําหนดไว้ส ําหรับใบอนุญําตนักบินประเภทที่สูงขึ้น (4) ผู้ถือใบอนุญําตนักบิน เมื่อทําหน้ําที่เป็นนักบินผู้ควบคุมอํากําศยํานภํายใต้กํารอ ํานวย กําร มีสิทธินับจ ํานวนชั่วโมงบินนั้นได้เต็มเวลําบินทั้งหมดที่ก ําหนดไว้ส ําหรับใบอนุญําตนักบินประเภทที่สูงขึ้น ข้อ 8 ให้ผู้อํานวยกํารมีอํานําจออกข้อกําหนดเพื่อกําหนดรํายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ คุณสมบัติของผู้ขออนุญําตเป็นผู้ประจําหน้ําที่ตํามที่กําหนดไว้ในข้อบังคับฉบับนี้ รวมถึงกํารทดสอบ ควํามรู้ภําคทฤษฎีและกํารทดสอบภําคปฏิบัติของผู้ประจ ําหน้ําที่ ข้อ 9 บรรดําข้อก ําหนด ประกําศ และระเบียบ ตลอดจนค ําสั่งของผู้อ ํานวยกํารที่ออกตําม ควํามในข้อบังคับของคณะกรรมกํารกํารบินพลเรือน ฉบับที่ 89 ว่ําด้วยคุณสมบัติของผู้ขออนุญําต เป็นประจําหน้ําที่ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ ให้คงใช้บังคับต่อไป เท่ําที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติของข้อบังคับนี้ จนกว่ําจะมีข้อกําหนด ประกําศ และระเบียบ หรือ ค ําสั่งในเรื่องนั้น ๆ ออกมําใช้บังคับ ข้อ 10 บรรดําผู้ที่ได้รับใบอนุญําต ผู้ประจําหน้ําที่ในตําแหน่งนักบิน หรือพนักงํานควบคุม กํารจรําจรทํางอํากําศ หรือพนักงํานอํานวยกํารบิน อยู่ก่อนวันใช้ข้อบังคับนี้ หรือผู้ที่สําเร็จกํารศึกษํา หรือกํารฝึกอบรมตํามหลักสูตรด้ํานกํารบินของนักบิน พนักงํานควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ หรือ พนักงํานอํานวยกํารบิน ที่ได้รับก ํารรับรองอยู่ก่อนวันใช้ข้อบังคับนี้ หรือผู้ที่กําลังศึกษําหรือฝึกอบรม ในหลักสูตรด้ํานกํารบินของนักบิน พนักงํานควบคุมกํารจรําจรทํางอํากําศ หรือพนักงํานอํานวยกํารบิน ที่ได้รับกํารรับรองอยู่ก่อนวันใช้ข้อบังคับนี้ และได้สําเร็จกํารศึกษําหรือกํารฝึกอบรมตํามหลักสูตร ดังกล่ําว ให้ถือว่ําเป็นผู้มีคุณสมบัติในเรื่องควํามช ํานําญตํามข้อบังคับฉบับนี้ ประกําศ ณ วันที่ 22 กันยํายน พ.ศ. 256 5 สุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อ ํานวยกํารสํานักงํานกํารบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ้ หนา 53 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 283 ง ราชกิจจานุเบกษา 2 ธันวาคม 2565

ภาคผนวก อากาศยานที่ใชในการขนสง แนบทายขอบังคับของสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 24 วาด้วยคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตเป็นผู้ประจําหน้าที่ ภาคผนวก อากาศยานที่ใชในการขนสง อากาศยานที่ใชในการขนสงซึ่งเป็นแบบอากาศยานที่มีใบรับรองแบบ (Type Certificate ) ที่ออกโดยโรงงาน ผู้ผลิตกําหนดให้เป็นอากาศยานขนสง ( Transport Aircraft) 1. เครื่องบิน (Airplane) Manufacturer Aircraft Model / Name Airbus A300 - B4 series A300 - B4 600 series A310 - 200 series A310 - 300 series A318 - 100 series A319 - 100 series A320 - 100 series A320 - 200 series A321 - 100 series A321 - 200 series A330 - 300 series A350 - 900 series A340 - 500 series A340 - 600 series A380 - 800 series ATR ATR 42 (not PEC equipped) - ATR 42-200/320 ATR 72 (not PEC equipped) - ATR 72 -201 ATR 72 (glass cockpit or 72-600) - ATR 72-212A (with mod 5948) - ATR 72 - 500 BAE Systems (Operations) Ltd Jetstream 41 Beechcraft Raytheon RA-390

  • 2 - Manufacturer Aircraft Model / Name Boeing B737 - 200 series B737 - 200 series B737 - 400 series B737 - 800 series B737 - 900 series B747 - 200 series B747 - 300 series B747 - 400 series B767 - 200 series B767 - 300 series B777 - 200 series B777 - 300 series B787 - 8 series Bombardier inc. CL-600 – Challenger 604 Bombardier inc. DHC8 – 400 series Cessna 510 (Citation Mustang) 525B - CJ3+ CS 550 Bravo C650 Citation III C750 Citation X Dassault Falcon 2000 LX Falcon 2000S Gulfstream Aerospace Corporation Gulfstream V Gulfstream V-SP (G500/G550) Gulfstream GVI (G650) Gulfstream G200 (G200) Gulfstream G280 (G280) Hawker Beechcraft Corporation Hawker 125 series - Hawker 800XP/Proline 21 - Hawker 850XP/Proline 21 and IFIS 5000 Bae 125 - 800 series BE-200/B200 Beechjet 400 series

  • 3 - Manufacturer Aircraft Model / Na me Learjet (Bombardier) Learjet – 30 series Lockheed Martin C130H McDonnell Douglas DC6 series DC9 10 - 50 series DC10 series MD11 DC3 Saab 340B Sukhoi Superjet 100LR 2. เฮลิคอปเตอร ( Helicopter) Manufacturer Aircraft Model / Name Agusta Westland -ME Turbine- AB139/AW139 Airbus Helicopters -SE Turbine- EC 130 B4 – Ecureull EC 130 T2 – Ecureull EC 725 Airbus Helicopters Deutschland GmbH -ME Turbine- BK 117 C-2 BK 117 D-2 Bell Helicopters -ME Turbine- Bell 412 HP Bell 412 EP Bell 412 SP UH 1 H Robinson -SE Piston- R 44 R 44 Raven R 44 Raven II Robinson -SE Turbine- R 66 Sikorsky -ME Turbine- S76D S-92 A