ประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48/2565 เรื่อง มาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565)
ประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48/2565 เรื่อง มาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565)
ประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48/2565 เรื่อง มาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565) อาศัยอำนาจตามมาตรา 7 (3) และมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 ที่กำหนดให้สภาวิชาชีพบัญชีมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดและปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการจัดทาบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชีและกฎหมายอื่น ทั้งนี้ มาตรฐาน การบัญชีนั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมกา รกากับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี และ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จึงจะใช้บังคับได้ สภาวิชาชีพบัญชี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกากับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี ในการประชุมครั้งที่ 70 (4/2565) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 จึงออกประกาศไว้ ดังต่อ ไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 2 ให้ยกเลิกประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 20/2554 เรื่อง มาตรฐานการรายงาน ทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ข้อ 3 ให้ใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565) ตามที่กาหนดท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 25 6 5 วรวิทย์ เจนธนากุล นายกสภาวิชาชีพบัญชี ้ หนา 1 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 279 ง ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤศจิกายน 2565
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 1 มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 2 สารบัญ บทที่ เรื่อง ย่ อหน้ำ ที่ 1 ความเป็ นมาและวัตถุประสงค์ 1 . 1 - 1 . 4 2 ขอบเขต 2 . 1 - 2 . 4 3 กรอบแนวคิด 3 . 1 - 3 . 23 4 การนา เสนองบการเงิน 4 . 1 - 4 . 23 5 การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี และข้ อผิดพลาด 5 . 1 - 5 . 23 6 เงินสดและรายการเที ยบเท่ำเงินสด 6 . 1 - 6 . 6 7 ลูกหนี้ 7 . 1 - 7 . 9 8 สินค้ำคงเหลือ 8 . 1 - 8 . 19 9 เงินลงทุน 9 . 1 - 9 . 21 10 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 10 . 1 - 10 . 47 11 สินทรัพย์ ไม่ มีตั วตน 11 . 1 - 11 . 4 4 12 อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุ น 12 . 1 - 12 . 32 13 ต้ นทุนการกู้ ยืม 13 . 1 - 13 . 16 14 สัญญาเช่ำ 14 . 1 - 14 . 64 15 ภาษีเงินได้ 15 . 1 - 15 . 2 16 ประมาณการหนี้ สิ น หนี้ สินที่อาจเกิดขึ้น และสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น 16 . 1 - 16 . 16 17 เหตุการณ์ ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน 17 . 1 - 17 . 6 18 รายได้ 18 . 1 - 18 . 32 19 การรับรู้ รายได้ จากการขายอสังหาริ มทรัพย์ 19 . 1 - 19 . 9 20 สัญญาก่ อสร้ำง 20 . 1 - 20 . 24 21 ผลกระทบจากการเปลี่ ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ ยนเงิ นตราต่ำงประเทศ 21 . 1 - 21 . 1 8 22 เกษตรกรรม 22 . 1 - 22 . 1 8 23 เงินอุดหนุนจากรัฐบาล 23 . 1 - 23 . 15 24 อนุพันธ์ 24 . 1 - 24 . 3 25 การรวมธุรกิจ 25 . 1 - 25 . 8 26 การสารวจและประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่ 26 . 1 - 26 . 3 27 ข้อตกลงสัมปทานบริการ 27 . 1 - 27 . 11 28 วันถือปฏิบัติและ การปฏิบัติในช่วงเปลี่ยน ผ่าน 28 . 1 - 28 . 21
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 3 บทที่ 1 ความเป็ นมาและวัตถุประสงค์ ความเป็ นมา 1 . 1 ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการแบ่งระดับของการใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินออกเป็น 2 ระดับกล่าวคือ ( 1 ) มาตรฐานการรายงานทางการเงิน สาหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ( Thai Financial Reporting Standards for Publicly Accountable Entities – TFRS for PAEs ) ซึ่งอ้าง อิง จากมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ ( International Financial Reporting Standards - IFRSs ) เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยนามาถือปฏิบัติ กับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ และ ( 2 ) มาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ( Thai Financial Reporting Standard for Non - Publicly Accountable Entities : TFRS for NPAEs ) ซึ่งจัดทำ ขึ้นโดยประเทศไทยเอง โดยนำมาถือปฏิบัติกับกิจการที่ไม่มี ส่วนได้เสียสาธารณะตามที่นิยามไว้ในย่อหน้าที่ 2 . 2 เพื่อลดภาระและต้นทุนในการจัดทา รายงานการเงินของกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะที่ส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดกลาง และขนาดเล็ก 1 . 2 มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะได้มีผลบังคับใช้ใน ประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554 และภายหลังจากนั้นได้มีการออกประกาศสภา วิชาชีพบัญชีอีกหลายฉบับ เพื่อให้กิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะได้นามาถือปฏิบัติในการจัดทา รายงำนทางการเงิน อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพแวดล้อม ลักษณะการประกอบธุรกิจ ความซับซ้อน และความหลากหลายของธุรกรรมได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากปี 2554 ดังนั้น สภาวิชาชีพบัญชีฯ จึงได้ แต่ง ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาการนามาตรฐานการรายงานทางการเงิน สาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้ เสียสาธารณะมาปฏิบัติใช้เพื่อดาเนินการศึกษาและปรับปรุงมาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับนี้ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มทางเลือกทางบัญชี และ สามารถนามาปฏิบัติได้กับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจสาหรับประเทศไทย 1 . 3 หลักสาคัญของการปรับปรุงมาตรฐานการรายงานทางการเงิ นฉบับนี้ คือ 1 . 3 . 1 ทาให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยเพิ่มวิธีปฏิบัติทางบัญชีสาหรับธุรกรรมต่างๆ เช่น เกษตรกรรม อนุพันธ์ การรวมธุรกิจ เงินอุดหนุนจากรัฐบาล การสารวจและประเมินค่า แหล่งทรัพยากรแร่ ข้อตกลงสัมปทานบริการ เป็นต้น 1 . 3 . 2 คงความง่ายในทางปฏิบัติ กล่าวคือ คงวิธีปฏิบัติ ทางบัญชี ที่ใช้อยู่เดิมไว้ เพื่อกิจการที่ ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะเดิมไม่ถูกกระทบรวมถึงรวบรวมประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีผลบังคับใช้ในปัจจุบันเข้ามารวมไว้ใ น มำ ตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับนี้ เช่น การจัดทางบการเงินระหว่างกาล การตีราคาใหม่ของที่ดิน อาคารและ อุปกรณ์ การวัดมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เป็นต้น และ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 4 1 . 3 . 3 เพิ่มทางเลือกในวิธีปฏิบัติทางบัญชี เช่น การจัดทางบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ การจัดทา ง บการเงินรวม ทางเลือกในการกำหนด สกุลเงินที่ใช้ในการดาเนินงานที่ไม่ใช่สกุลเงินบาท เป็นต้น 1 . 4 วัตถุประสงค์ ของมาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะคือ การให้ แ นวทางในการรายงานการเงินที่ มี คุณภาพที่ จะก่อให้ เกิ ดประโยชน์ ดังนี้ 1 . 4 . 1 ส่ งเสริมการนาเสนอข้ อมูลที่มีประโยชน์ ต่ อการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจของผู้ ประกอบการ และผู้ ใช้ งบการเงินอื่นๆ 1 . 4 . 2 สนับสนุนให้ เกิดการจัดสรรทรัพยากรให้ มี ประสิ ทธิภาพทั้ งระดั บจุลภาคและระดับมหภาค 1 . 4 . 3 เพิ่มความสามารถในการเข้ำถึงแหล่ งเงินทุนให้ ง่ำยขึ้น และช่ วยลดต้ นทุนของเงินทุน 1 . 4 . 4 ส่ งเสริมให้ เกิดความสม่าเสมอและเปรียบเทียบกันได้ ของข้ อมูลทางการเงินที่ช่ วยให้ ผู้ ประกอบการและผู้ ใช้ งบการเงินเกิดความเชื่อมั่น ซึ่งนาไปสู่ การเติบโตของธุรกิจและ ระบบเศรษฐกิจโดยรวม
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 5 บทที่ 2 ขอบเขต 2 . 1 สภาวิชาชีพบัญชีฯ กำหนดมาตรฐานการรายงานทางการเงินนี้เพื่อกิจการที่ ไม่ มีส่ วนได้ เสีย สาธารณะ โดยครอบคลุมถึงผู้ มี หน้ำที่จัดทาบัญชีตามที่ กา หนดในพระราชบั ญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 มาตรา 8 ที่มิใช่ กิจการที่มีส่ วนได้ เสียสาธารณะ ไม่ ว่ำจะอยู่ ในลักษณะของห้ำงหุ้ นส่ วน จดทะเบียนหรือบริษัท จำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมาย ต่ำงประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย และกิจการร่ วมค้ำตามประมวลรัษฎากร และเป็ น ไปตามเงื่อนไขในย่ อหน้ำที่ 2 . 2 ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ 2 . 2 กิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะ ( Non - Publicly Accountable Entities ) หมายถึง กิจการที่ ไม่ ใช่ กิจการดังต่ อไปนี้ 2 . 2 . 1 กิจการที่มีตราสารทุนหรือตราสารหนี้ของกิจการ ซึ่งมีการซื้อขายต่ อประชาชน ไม่ ว่ำจะ เป็ นตลาดหลักทรัพย์ ในประเทศหรือต่ำงประเทศ หรือการซื้อขายนอกตลาด หลักทรัพย์ ( Over the Counter ) รวมทั้งตลาดในท้ องถิ่นและในภูมิภาค หรือกิจการที่ นำส่ งหรืออยู่ ในกระบวนการของการนำส่ งงบการเงินของกิจการให้ แก่ สำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลั กทรัพย์ หรือหน่ วยงานกากับดูแลอื่น เพื่อวัตถุประสงค์ ในการออกขายหลักทรัพย์ ใดๆ ต่ อประชาชน 2 . 2 . 2 กิจการที่ ดาเนินธุรกิจหลักในการดูแลสินทรัพย์ ของกลุ่ มบุคคลภายนอกในวงกว้ำง เช่ น สถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทหลักทรัพย์ กองทุน รวม ตลาดสินค้ำเกษตรล่ วงหน้ำแห่ งประเทศไทย ตามกฎหมายว่ำด้ วยการนั้น เป็ นต้ น 2 . 2 . 3 บริษัทมหาชน ตามกฎหมายว่ำด้ วยบริษัทมหาชน 2 . 2 . 4 กิจการอื่นที่จะกาหนดเพิ่มเติม 2 . 3 กิจการบางกิจการไม่ ได้ ดาเนินธุรกิจหลักในการดูแลสินทรัพย์ ของกลุ่ มบุคคลภายนอกในวงกว้ำง แต่ ได้ รับความเชื่อถือจากลูกค้ำให้ ดูแลหรือจั ดการทรัพยากรทางการเงินของลูกค้ำโดยที่ลูกค้ำ ห รือสมาชิก ไม่ ได้ เข้ำมามีส่ วนในการบริหารกิจการนั้น กิจการเหล่ำนี้ ถือเป็ นกิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสีย สาธารณะ ตัวอย่ำงเช่ น ตัวแทนการท่ องเที่ยว ตั วแทนหรือนายหน้ำค้ำอสังหาริมทรัพย์ โรงรับจำนา และบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีสถานภาพเป็นบริษัทจากัด เป็ นต้ น 2 . 4 ในกรณีที่กิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะไม่ ประสงค์ ที่จะจัดทำรายงานทางการเงินตาม มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ ให้ กิจการจัดทารายงานทางการเงินตามมาตรฐาน การรายงานทางการเงิน สำหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ( TFRS for PAEs ) ทุกฉบับ โดยปฏิบัติอย่ำงสม่า เสมอ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 6 บทที่ 3 กรอบแนวคิด 3 . 1 กรอบแนวคิดในการจัดทาและนาเสนองบการเงินของกิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะมุ่ งเน้ น การจัดทาและนาเสนองบการเงินที่มีวัตถุประสงค์ ทั่วไป ภายใต้ ข้ อจากัดเกี่ยวกับการจัดทารายงาน การเงินของกิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะ 3 . 2 ข้ อสมมติที่ใช้ ในการนาเสนองบการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่ มี ส่ วน ได้ เสียสาธารณะ ได้ แก่ เกณฑ์ คงค้ำง และการดาเนินงานต่ อเนื่อง 3 . 3 เกณฑ์ คงค้ำงกำหนดให้ กิจการต้ องรั บรู้ รายการค้ำในรอบระยะเวลา รายงาน ที่เกิดรายการนั้น ซึ่งอาจเป็ นรอบระยะเวลา รายงาน เดียวกันหรือต่ำงกันกับรอบระยะเวลา รายงาน ที่กิจการได้ รับหรือ จ่ำยชาระเงินสด 3 . 4 การดาเนินงานต่ อเนื่อง คือ ข้ อสมมติว่ำกิจการจะยังคงดาเนินงานอยู่ ต่ อไปในอนาคต ในการ จัดทางบการเงินฝ่ายบริหารต้องประเมินความสามารถของกิจการในการดาเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดย ต้องจัดทา งบการเงิน ขึ้นตามเกณฑ์การดาเนินงานต่อเนื่อง เว้นแต่ฝ่ายบริหารมีความตั้งใจที่จะ ชาระบัญชี หรือหยุดประกอบธุรกิจ หรือไม่มีทางเลือกที่เป็นไปได้จริงอื่นใดนอกเหนือจากชาระ บัญชีหรือหยุดประกอบธุรกิจ หากจากการประเมินความสามารถของกิจการในการดาเนินงาน อย่างต่อเนื่ องทาให้ฝ่ายบริหารตระหนักว่ามีความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสาคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ใดที่อาจทาให้เกิดความสงสัยอย่างมีนัยสาคัญเกี่ยวกับความสามารถในการ ดาเนินงานอย่าง ต่อเนื่องของกิจการ กิจการต้องเปิดเผยให้ทราบถึงความไม่แน่นอนดังกล่าว ในกรณีที่งบการเงิ นมิได้จัดทาขึ้นตามหลักการดาเนินงานต่อเนื่อง กิจการต้องเปิดเผยถึงข้อเท็จจริง นี้ พร้อมทั้งเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดทางบการเงินนั้นซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ต่างจากเกณฑ์ที่มาตรฐานการ รายงานทางการเงินฉบับนี้ํกำหนดไว้ และเหตุผลที่ไม่อาจถือได้ว่ากิจการเป็นกิจการที่จะ ดาเนินงานอย่ำงต่อเนื่องได้ ในการประเมินความเหมาะสมของข้อสมมติเกี่ยวกับการดาเนินงาน ต่อเนื่องของกิจการ ฝ่ายบริหารพิจารณาข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่เกี่ยวกับอนาคตเป็นเวลาอย่างน้อย 12 เดือนนับตั้งแต่วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน ระดับของการพิจารณาขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงในแต่ ละกรณี ในกรณีที่กิจการมีการดาเนินงานที่มีกาไรในอดีตและมีความพร้อมที่จะหาแหล่งเงินทุน รองรับ กิจการอาจสรุปได้ว่าการใช้หลักการดาเนินงานต่อเนื่องในการนาเสนองบการเงินมีความ เหมาะสมแล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ในรายละเอียด ในกรณีอื่นฝ่ายบริหารอาจต้อง พิจารณาปัจจัยต่า งๆ ที่เกี่ยวกับความสามารถในการทากาไรทั้งในปัจจุบันและจากการคาดหวัง ในอนาคต กาหนดการชาระคืนหนี้และแหล่งเงินทุนทดแทนที่เป็นไปได้ ก่อนที่จะสามารถสรุปได้ ว่าการใช้เกณฑ์การดาเนินงานต่อเนื่องในการนาเสนองบการเงินนั้นมีความเหมาะสม 3 . 5 กรอบแนวคิดนี้ ครอบคลุมถึง 3 . 5 . 1 วัตถุประสงค์ ของงบการเงิน 3 . 5 . 2 ผู้ ใช้ งบการเงินและความต้ องการข้ อมูลของผู้ ใช้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 7 3 . 5 . 3 ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลในงบการเงิน 3 . 5 . 4 คานิยามและการรับรู้ องค์ ประกอบของงบการเงิน 3 . 5 . 5 การวัดมูลค่ำองค์ ประกอบของงบการเงิน วัตถุประสงค์ ของงบการเงิน 3 . 6 วัตถุประสงค์ ของงบการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสีย สาธารณะ คือ การนาเสนอข้ อมูลที่เกี่ยวข้ องกั บฐานะการเงิน และผลการดาเนินงานของกิจการที่มี ประโยชน์ ต่ อการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจ 3 . 7 ข้ อมูลที่มีประโยชน์ ตามย่ อหน้ำข้ำงต้ น คือ ข้ อมูลทางการเงินที่แสดงผลกระทบของรายการใน อดีตที่มีต่ อฐานะการเงิน และผลการดาเนินงาน ของกิจการที่ ช่ วยผู้ ใช้ งบการเงินในการประเมิน ความสามารถของกิจการในการก่ อให้ เกิดเงินสดและรายการเทียบเท่ำเงินสดไม่ ว่ำจะเป็ นจานวน เงิน จั งหวะเวลา และความแน่ นอนของกระแสเงินสด 3 . 8 ข้ อมูลในงบการเงินยังช่ วยผู้ ใช้ งบการเงินอื่นในการประเมินความสามารถในการดูแล และความ รับผิดชอบของผู้ บริหารของกิจการ ผู้ ใช้ งบการเงินและความต้ องการข้ อมูลของผู้ ใช้ 3 . 9 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้กำหนดแนวปฏิบัติในการนำเสนองบการเงินที่มี วัตถุ ประสงค์ หลักในการสนองความต้ องการของเจ้ำของกิจการ 3 . 9 . 1 เพื่อประเมินฐานะการเงิน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง และผลการดำเนินงานและการ เปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของกิจการสาหรับรอบระยะเวลา รายงาน ของกิจการ 3 . 9 . 2 เพื่อให้ ข้ อมูลทางการเงินเกี่ยวกั บการจัดหาเงินทุนจากเจ้ำของกิจการ 3 . 9 . 3 เพื่อประเมินโอกาสในการลงทุนต่ อและเป็ นปั จจัยในการพิจารณาเกี่ยวกับการบริหาร การเงิ น 3 . 10 ข้ อมูลในงบการเงินยังมีประโยชน์ ในการตั ดสินใจเชิงเศรษฐกิจของผู้ ใช้ งบการเงินอื่นๆ ดั งต่ อไปนี้ 3 . 1 0 . 1 ผู้ ให้ กู้ ผู้ ขายสินค้ำและเจ้ำหนี้อื่ น 3 . 10 . 1 . 1 เพื่อประเมินความเสี่ยงในการตั ดสินใจให้ กู้ หรือให้ สินเชื่อ 3 . 10 . 1 . 2 เพื่อให้ ข้ อมู ลทางการเงินที่ ใช้ ในกระบวนการติดตามสิ นเชื่ อ 3 . 10 . 2 หน่ วยงานรัฐบาลและหน่ วยงานกำกับดูแลกิจการ 3 . 10 . 2 . 1 เพื่อให้ ข้ อมูลที่เป็ นประโยชน์ ในการกำกับดูแลการเสียภาษี 3 . 10 . 2 . 2 เพื่อให้ ข้ อมูลที่เป็ นประโยชน์ ในการส่ งเสริมการค้ำและการลงทุน 3 . 10 . 2 . 3 เพื่อประโยชน์ ในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 8 ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลในงบการเงิน ลักษณะเชิงคุณภาพพื้ นฐาน 3 . 11 วัตถุประสงค์ หลักของการรายงานทางการเงิน คือ การให้ ข้ อมูลที่เป็ นประโยชน์ ต่ อการตัดสินใจ เชิงเศรษฐกิจของผู้ ใช้ งบการเงิน ข้ อมูลดังกล่ำวต้ องมีลักษณะเชิงคุณภาพพื้ นฐานดังต่ อไปนี้ 3 . 11 . 1 เป็นตัวแทนอันเที่ยงธรรม – ข้ อมูลที่ เป็นตัวแทนอันเที่ยงธรรม ต้ องนาเสนอเหตุการณ์ เชิงเศรษฐกิจโดยครบถ้ วน เป็ นกลาง และปราศจากข้ อผิดพลาดที่มีสาระสาคัญ 3 . 11 . 2 เกี่ยวข้ องกับการตัดสินใจ – ข้ อมูลที่เกี่ยวข้ องกับการตัดสินใจต้ องสามารถสร้ำงความ แตกต่ำงในการตัดสินใจได้ อย่ำงมีสาระสาคัญ โดยช่ วยผู้ ใช้ งบการเงินยืนยันผลของ เหตุการณ์ หรือรายการค้ำที่คาดการณ์ ไว้ ในอดีต และคาดคะเนผลของเหตุการณ์ หรือ รายการค้ำในปั จจุบันที่จะเกิดขึ้ นในอนาคต ลักษณะเชิงคุณภาพเสริม 3 . 12 นอกจากลักษณะเชิงคุณภาพพื้นฐานแล้ ว ข้ อมูลในรายงานทางการเงินต้ องมีลักษณะเชิงคุณภาพ เสริ ม เพื่อแยกข้ อมูลที่มีประโยชน์ ในการตัดสินใจมากกว่ำออกจากข้ อมูลที่มีประโยชน์ ในการ ตั ดสินใจน้ อยกว่ำลักษณะเชิงคุณภาพเสริม มีดั งต่ อไปนี้ 3 . 12 . 1 เปรียบเทียบกั นได้ – ข้ อมูลในรายงานทางการเงินต้ องสามารถใช้ ในการระบุความ แตกต่ำง หรือความเหมือนของเหตุการณ์ เชิงเศรษฐกิจระหว่ำงสองเหตุการณ์ ได้ การใช้ นโยบายทางการบัญชีมาถือป ฏิ บัติอย่ำงสม่า เสมอจะสามารถช่ วยให้ ข้ อมูลสามารถ เปรียบเทียบกั นได้ 3 . 12 . 2 ยืนยันความถูกต้ องได้ – ข้ อมูลที่สามารถยืนยันความถูกต้ องได้ สามารถทาให้ ผู้ ใช้ งบการเงินที่ มีระดับของความรู้ และความเป็ นอิสระที่แตกต่ำงกันเกิดความเห็น ที่ยอมรับร่ วมกันได้ ถึงแม้ จะไม่ เห็นด้ วยอย่ำงสมบูรณ์ ก็ตาม 3 . 12 . 3 ทันต่ อเวลา – ข้ อมูลที่มีความทั นต่ อเวลาจะต้ องเป็ นข้ อมูลที่ผู้ ใช้ รำยงานทางการเงิน สามารถนาไปใช้ ประโยชน์ ในการตั ดสินใจได้ ก่ อนที่ข้ อมูลนั้นจะสูญเสียความสามารถ ในการมีอิทธิ พลต่ อการตัดสินใจ 3 . 12 . 4 เข้ำใจได้ – ข้ อมูลที่ทาให้ ผู้ ใช้ รายงานทางการเงินสามารถเข้ำใจได้ เป็ นข้ อมูลที่นาเสนอ อย่ำงกระชับชัดเจน โดยมีข้ อสมมติว่ำผู้ ใช้ รายงานทางการเงินมีความรู้ พอควรเกี่ยวกับ ธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้ องและมีความสามารถที่จะอ่ำนและวิเคราะห์ รายงานทางการเงินได้ โดยใช้ ความพากเพียรพอควร ข้ อควรพิจารณาอื่น 3 . 13 ข้ อมูลจะถือว่ำมีสาระสาคัญ หากการไม่ แสดงข้ อมูลหรือการแสดงข้ อมูลผิดพลาดมีผลกระทบต่ อ การตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจของผู้ ใช้ งบการเงิน ความมีสาระสาคัญขึ้ นอยู่ กับขนาดของรายการหรือ ขนาดของความผิดพลาด และ/หรือลั กษณะของรายการที่เกิดขึ้นภายใต้ สภาพการณ์ เฉพาะ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 9 ซึ่งต้ องพิจารณาเป็ นแต่ ละกรณี ดังนั้น ความมีสาระสาคัญจึงถือเป็ นข้ อพิจารณามากกว่ำจะเป็ น ลักษณะเชิงคุณภาพ ซึ่งข้ อมูลต้ องมีหากข้ อมูลนั้ น จะถือว่ำมี ประโยชน์ 3 . 14 โดยทั่วไป ผู้ จัดทางบการเงินต้ องประสบกับความไม่ แน่ นอนอันหลีกเลี่ยงไม่ ได้ เกี่ยวกับเหตุการณ์ และสภาพแวดล้ อมต่ำงๆ ตัวอย่ำงเช่ น ความสามารถในการเก็บหนี้ การประมาณอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของโรงงานและอุปกรณ์ และจานวนการเรียกร้ องค่ำเสียหายที่อาจเกิดขึ้ นตามสัญญา รับประกัน กิจการต้ องแสดงความไม่ แน่ นอนดังกล่ำวโดยใช้ หลักความระมัดระวังในการจัดทา งบการเงิน หลักความระมัดระวัง คือ การใช้ ดุล ยพิ นิ จ ที่ จาเป็ นในการประมาณการภายใต้ ความ ไม่ แน่ นอนเพื่ อมิให้ สินทรัพย์ หรือรายได้ แสดงจานวนสูงเกินไปและหนี้สินหรือค่ำใช้ จ่ำยแสดง จานวนต่า เกินไป อย่ำงไรก็ตาม การใช้ หลักความระมัดระวังมิได้ อนุญาตให้ กิจการตั้ งสารองลับ หรือตั้งค่ำเผื่อไว้ สูงเกินไปโดยเจตนาแสดงสินทรัพย์ ห รือรายได้ ให้ ต่าเกินไปหรือแสดงหนี้สินหรือ ค่ำใช้ จ่ำยให้ สูงเกินไปเนื่องจากจะทาให้ ง บการเงินขาดความเป็ นกลาง ซึ่งมีผลต่ อความน่ำเชื่อถือ 3 . 15 การพิจารณาความสมดุลระหว่ำงประโยชน์ ที่ได้ รับกับต้ นทุนที่เสียไป เป็ นประเด็นสาคัญสาหรับ กิจการที่ ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะมากกว่ำกิจการที่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะ เนื่องจากกิจการที่ไม่ มี ส่ วนได้ เสียสาธารณะจะไม่ ได้ ประโยชน์ จากการประหยัดจากขนาด ( Economies of Scale ) ทาให้ ต้ นทุนต่ อหน่ วยในการจัดทารายงานการเงินสูงกว่ำ และกิจการที่ ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะมี ทรัพยากรเพื่อการจัดทารายงานทางการเงินจากั ด 3 . 16 ในทางปฏิบั ติ การสร้ำงความสมดุลระหว่ำงลั กษณะเชิ งคุณภาพต่ำงๆ ถื อเป็ นสิ่ งจำเป็ น วัตถุ ประสงค์ หลัก คือ การหาความสมดุลของลักษณะเชิงคุณภาพต่ำงๆ เพื่อให้ งบการเงินบรรลุ วัตถุประสงค์ แต่ ความสำคัญของลักษณะเชิงคุณภาพจะแตกต่ ำงกันไปในแต่ ละกรณี จึงจำเป็ นต้ องใช้ ดุลยพินิจเยี่ยงผู้ ประกอบวิชาชีพในการตัดสินใจเลือกความสมดุลดังกล่ำว การรับรู้ รายการและองค์ ประกอบของงบการเงิน 3 . 17 การรับรู้ รายการ หมายถึง การรวมรายการเข้ำเป็ นส่ วนหนึ่งของงบแสดงฐานะการเงิน หรืองบ กำไรขาดทุน ( หรืองบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ แล้วแต่กรณี) 3 . 18 องค์ ประกอบของงบการเงินที่ให้ ข้ อมูลแก่ ผู้ ใช้ งบการเงินในการประเมินฐานะการเงินของกิจการ ได้ แก่ รายการสินทรัพย์ รายการหนี้สินและรายการส่ วนของเจ้ำของ องค์ ประกอบดังกล่ำว มีความหมายและหลักการรับรู้ รายการดังต่ อไปนี้ 3 . 18 . 1 สินทรัพย์ หมายถึง ทรัพยากรที่อยู่ ในความควบคุมของกิจการ ทรัพยากรดังกล่ำวเป็ น ผลของเหตุการณ์ ในอดีต ซึ่งกิจการคาดว่ำจะได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจจาก ทรัพยากรนั้นในอนาคต การรับรู้ รายการสินทรัพย์ ต้ องเป็ นไปตามเ กณฑ์ การรับรู้ รายการสินทรัพย์ ทุกข้ อดังนี้ 3 . 18 . 1 . 1 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจ ในอนาคต 3 . 18 . 1 . 2 รายการนั้นมีราคาทุนหรือมูลค่ำที่วัดได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 10 3 . 18 . 2 หนี้ สิน หมายถึง ภาระผูกพันปั จจุบันของกิจการ โดยภาระผูกพันดังกล่ำวเป็ นผลของ เหตุการณ์ ในอดีต ซึ่งการชำระภาระผูกพันนั้นคาดว่ำจะส่ งผลให้ กิจการสูญเสีย ทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจ การรับรู้ รายการหนี้สินต้ องเป็ นไปตามเกณฑ์ การรับรู้ รายการ หนี้ สิ นทุกข้ อดังนี้ 3 . 18 . 2 . 1 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่ประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจของทรัพยากรจะ ออกจากกิจการ อันเนื่องมาจากการชาระภาระผูกพั น 3 . 18 . 2 . 2 มูลค่ำที่ต้ องชาระภาระผูกพันสามารถวัดได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 3 . 18 . 3 ส่ วนของเจ้ำของ หมายถึง ส่ วนได้ เสียคงเหลือในสินทรัพย์ ของกิจการ หลังจากหัก หนี้สินทั้งสิ้ น ออกแล้ ว 3 . 1 9 ในกรณีที่กิจการเลือกจัดทางบการเงินรวม ซึ่งใน เรื่องของงบการเงินรวมได้ให้ความสาคัญกับ “ อานาจควบคุม ” โดยพิจารณาถึงเนื้อหาทางเศรษฐกิจมากกว่า “ สัดส่วนการถือหุ้นที่มีสิทธิออก เสียง ” ซึ่งเป็นรูปแบบทางกฎหมาย เนื่องจากบริษัทใหญ่เข้าไปมีอานาจในการกาหนดนโยบาย ทางการเงินและการดาเนินงานของบริษัทย่อย แม้ว่าบริษัทใหญ่นั้นถือหุ้นในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่า กึ่งหนึ่งในบริษัทย่อยก็ตาม เช่น บริษัทใหญ่ให้เงินกู้แก่บริษัทย่อยซึ่งเงินกู้ดังกล่าวถือเป็นแหล่ง เงินทุนส่วนใหญ่ของบริษั ทย่อย หรือบริษัทใหญ่ค้าประกันหนี้สินส่วนใหญ่ของบริษัทย่อย หรือ บริษัทใหญ่มี อำนา จแต่งตั้งกรรมการส่วนใหญ่ของบริษัทย่อย เป็นต้น ซึ่งในกรณีนี้บริษัทใหญ่ต้อง รวมบริษัทย่อยเหล่านี้ในการ จัดทางบการเงินรวม 3 . 20 องค์ ประกอบของงบการเงินที่ให้ ข้ อมูลแก่ ผู้ ใช้ งบการเงิน ในการประเมินผลการดาเนินงาน ได้ แก่ รายการรายได้ และรายการค่ำใช้ จ่ำย องค์ ประกอบดังกล่ำวมีความหมายและหลักการรับรู้ รายการ ดังต่ อไปนี้ 3 . 20 . 1 รายได้ หมายถึง การเพิ่มขึ้นของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลารายงาน หรือ การเพิ่มค่ำของสินทรัพย์ หรือการลดลงของหนี้สิน ซึ่งส่ งผลให้ ส่ วนของเจ้ำของเพิ่ มขึ้น โดยที่ไม่ รวมถึง เงินทุนที่ได้ รับจากเจ้ำของ กิจการต้ องรับรู้ รายได้ เมื่อกิจการคาดว่ำจะ ได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคตเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ หรือ การลดลงของหนี้สิน และกิจการสามารถวั ดมูลค่ำของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจใน อนาคตได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ ทั้งนี้รายได้ ตามคานิยามรวมถึงรายได้ จากกิจกรรมหลักของ การดาเนินงานตามปกติและผลกาไร โดยผลกาไรอาจเกิดจากกิจกรรมตามปกติของ กิจการหรือไม่ ก็ได้ เช่ น กาไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่ำงประ เทศ กาไรจากการ ขายสินทรัพย์ เป็ นต้ น ตามปกติแล้ ว ผลกาไรเมื่อมีการรับรู้ จะแสดงเป็ นรายการแยก ต่ำงหาก โดยมักแสดงสุทธิจากค่ำใช้ จ่ำยที่เกี่ยวข้ อง เนื่องจากข้ อมูลดังกล่ำวเป็ น ประโยชน์ ต่ อการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจ 3 . 20 . 2 ค่ำใช้ จ่ำย หมายถึง การลดลงของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลารายงาน หรือ การลดค่ำของสินทรัพย์ หรือการเพิ่มขึ้ นของหนี้สิน ซึ่งส่ งผลให้ ส่ วนของเจ้ำของลดลง โดยที่ไม่ รวมถึงการแบ่ งปั นให้ กั บเจ้ำของ กิจการควรรับรู้ ค่ำใช้ จ่ำยเมื่ อกิจการคาดว่ำจะ เสียประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคต อันเนื่องมาจากการลดลงของสิ นทรัพย์ หรือการ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 11 เพิ่มขึ้นของหนี้สิน และกิจการสามารถวัดมูลค่ำของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคต ได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ ทั้งนี้ค่ำใช้ จ่ำยตามคานิยามรวมถึงค่ำใช้ จ่ำยที่เกิดจากกิจกรรมหลัก ของการดำเนินงานตามปกติและผลขาดทุน โดยผลขาดทุนอาจเกิดจากกิจกรรม ตามปกติของกิจการหรื อไม่ ก็ได้ เช่ น ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่ำงประเทศ ขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ เป็ นต้ น ตามปกติแล้ ว ผลขาดทุนเมื่อมีการรับรู้ จะแสดง เป็ นรายการแยกต่ำงหาก โดยมักแสดงสุทธิจากรายได้ ที่เกี่ ยวข้ อง เนื่องจากข้ อมูล ดั งกล่ำวเป็ นประโยชน์ ต่ อการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจ การวัดมูลค่ำองค์ ป ระกอบของงบการเงิน 3 . 21 การวัดมูลค่ำ คือ การกาหนดจานวนที่เป็ นตัวเงินเพื่อรับรู้ องค์ ประกอบของงบการเงิน 3 . 22 เกณฑ์ ที่ใช้ ในการวัดมูลค่ำ ได้ แก่ 3 . 22 . 1 ราคาทุนเดิม หมายถึง จานวนเงินสดหรือรายการเทียบเท่ำเงินสดที่ต้ องจ่ำยชาระ เพื่อให้ ได้ มาซึ่งสินทรัพย์ ณ วันที่รับรู้ เมื่อเริ่มแรกหรือจานวนเงินสดหรือรายการ เทียบเท่ำเงินสดที่ได้ รับจากการก่ อหนี้สิน ณ วันที่รับรู้ เมื่อเริ่มแรก 3 . 22 . 2 ราคาทุนปั จจุบัน หมายถึง จานวนเงินสดหรือรายการเทียบเท่ำเงินสดที่ต้ องจ่ำยชาระ เพื่อให้ ได้ มาซึ่ งสินทรัพย์ ที่เทียบเคียงกันกับสินทรั พย์ นั้ น หรือจานวนเงินสดหรือ รายการเทียบเท่ำเงินสดที่จะต้ องใช้ ในการชาระภาระผูกพันในขณะนั้ น 3 . 22 . 3 มูลค่ำที่จะได้ รับหรือชาระ หมายถึง จานวนเงินสดหรือรายการเทียบเท่ำเงินสดที่ จะได้ จากการขายสินทรัพย์ ที่ไม่ ใช่ การบั งคับขายในวันที่วัดมูล ค่ำของสินทรัพย์ น้ัน หรือ จานวนเงินสดหรือรายการเทียบเท่ำเงินสดที่คาดว่ำจะต้ องจ่ำยเพื่อชาระหนี้สินโดยไม่ ต้ องคิดลด 3 . 22 . 4 มูลค่ำปั จจุบัน หมายถึง การแสดงสินทรัพย์ ด้ วยมูลค่ำปั จจุบันของกระแสเงินสดรับ สุทธิในอนาคต ซึ่ งคาดว่ำจะได้ รับจากสินทรัพย์ นั้นในการดาเนินงานตามปกติของ กิจการ และการแสดงหนี้สินด้ วยมูลค่ำปั จจุบันของกระแสเงินสดจ่ำยสุทธิ ซึ่งคาดว่ำ จะต้ องจ่ำยชาระหนี้สินในการดาเนินงานตามปกติของกิจการ 3 . 22 . 5 มูลค่ำยุติธรรม หมายถึง จานวนเงินที่ผู้ ซื้อและผู้ ขายตกลงแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ หรือ จ่ำยชาระหนี้ กันในขณะที่ทั้งสองฝ่ำยมีความรอบรู้ และเต็มใจในการแลกเปลี่ยน และ สามารถต่ อรองราคากันได้ อย่ำงเป็ นอิสระในลักษณะของ ผู้ที่่ ไม่ มี ความเกี่ ยวข้ องกั น เช่ น ราคาตลาด ( ซื้อขายคล่ อง) หรือมูลค่ำปั จจุบันของราคาที่จะต้ องชาระเพื่อโอน หนี้สินให้ แก่ คู่ สัญญาอีกฝ่ำยหนึ่ง เป็ นต้ น 3 . 23 เกณฑ์ ในการวั ดมูลค่ำรายการที่กิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะใช้ ในการจัดทางบการเงิน คือ ราคาทุนเดิม โดยใช้ ร่ วมกับเกณฑ์ อื่นๆ เช่ น สินค้ำคงเหลือแสดงด้ วยราคาทุนหรือมูลค่ำสุทธิที่ จะได้ รับแล้ วแต่ ราคาใดจะต่า กว่ำ หลักทรัพย์ ในความต้ องการของตลาดแสดงด้ วยมูลค่ำ ยุติธรรม เป็ นต้ น ถึงแม้ ว่ำมูลค่ำยุติธรรมมีประโยชน์ ต่ อผู้ ใช้ งบการเงิน แต่ กิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสีย สาธารณะอาจต้ องแบกรับภาระต้ นทุนการจัดทารายงานการเงินที่ตั้งอยู่ บนพื้นฐานของมูลค่ำ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 12 ยุติธรรมสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ ที่ได้ รับจากข้ อมูลดั งกล่ำว ดังนั้น การวัดมูลค่ำ ของสินทรัพย์ และหนี้ สินบางรายการจึงใช้ มูลค่ำยุติธรรมหากรายการดังกล่ำวมีมูลค่ำยุติธรรมจาก ตลาดที่มีสภาพคล่ องสูง เนื่องจากมูลค่ำยุติธรรมสามารถหาได้ โดยตรงจากแหล่ งข้ อมูลที่เชื่อถือ ได้ และมีต้ นทุนต่า อย่างไรก็ตาม มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ กำหนดทางเลือกในการ วัดมูลค่าที่นอกเหนือจากราคาทุนในบางรายการเพื่อให้กิจการพิจารณาปรับใช้ให้สอดคล้องกับ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจของกิจการ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 13 บทที่ 4 การนาเสนองบการเงิน 4 . 1 มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะฉบับนี้ กาหนดให้ งบการเงินที่ สมบูรณ์ ต้ องประกอบด้ วย 4 . 1 . 1 งบแสดงฐานะการเงิน ซึ่งนาเสนอข้ อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินของกิจการ ณ วันสิ้ นงวด 4 . 1 . 2 งบกาไรขาดทุน หรืองบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ แสดงถึงผลการดาเนินงานของกิจการ สา หรั บงวด 4 . 1 . 3 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่ วนของเจ้ำของ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในรายการที่เป็ น องค์ ประกอบต่ำงๆ ของเจ้ำของ สาหรับ งวด 4 . 1 . 4 หมายเหตุประกอบงบการเงิน แสดงถึงข้ อมูลเกี่ ยวกับเกณฑ์ ที่ใช้ ในการจัดทางบการเงิน นโยบายการบั ญชีที่ สาคัญ และข้ อมูล ที่ให้คาอธิบายอื่น 4 . 2 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ ไม่ กาหนดให้ กิ จการต้ องทางบกระแสเงินสด แต่ หาก กิจการเห็นถึงประโยชน์ ของงบกระแสเงินสดก็สามารถจัดทาได้ โดยปฏิบัติตามข้ อกาหนดใน มาตรฐานกา ร บัญชี ฉบับที่ 7 เรื่อง งบกระแสเงินสด 4 . 3 กิจการต้ องจัดทางบการเงินอย่ำงน้ อยปี ละหนึ่งคร้ัง งบการเงินควรนาเสนอข้ อมูลที่ เปรียบเทียบได้ โดยรายการต่ำงๆ ที่นำเสนอในงบการเงินต้ องสามารถเปรียบเทียบได้ กับรายการที่นาเสนอ สาหรับงวดก่ อน 4 . 4 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ไม่กาหนดให้กิจการต้องทางบการเงินระหว่างกาล แต่ หากกิจการเห็นถึงประโยชน์ของงบการเงินระหว่างกาลก็สามารถจัดทาได้ โดยในการนา เสนอ งบการเงินระหว่างกาลและการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินระหว่างกาล กิจการอาจเลือกนาเสนอ งบการเงินระหว่างกาลตามรูปแบบที่กาหนดในมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 34 เรื่อง การรายงาน ทาง การเงินระหว่างกาล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนาเสนอรายการและการเปิดเผยข้อมูลโดย ยกเว้นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ เช่น การจัดทางบกระแสเงินสด การแสดงกาไรต่อหุ้น การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน เป็นต้น 4 . 5 รายการที่มี ลักษณะหรือหน้ำที่ที่คล้ำยคลึงกันแต่ ละประเภทที่มีสาระสาคัญต้ องแยกแสดงใน งบการเงิน รายการที่มีลักษณะหรือหน้ำที่ที่ไม่ คล้ำยคลึงกั นแต่ ละรายการต้ องแยกแสดงในงบ การเงินเว้ นแต่ รายการเหล่ำนั้นไม่ มีสาระสาคัญ 4 . 6 กิจการต้ องไม่ นาสินทรัพย์ และหนี้สิน หรือรายได้ และค่ำใช้ จ่ำยมาหักกลบกัน นอกจากมาตรฐาน การรายงานทางการเงิน ฉบับนี้ มีข้ อกาหนดหรืออนุญาตให้ หั กกลบได้ 4 . 7 งบการเงินของกิจการต้ องมีการระบุเอกลักษณ์ อย่ำงชัดเจน โดยต้ องแสดงรายการต่ อไปนี้ 4 . 7 . 1 ชื่อของงบการเงิน เช่ น งบแสดงฐานะการเงิน งบกาไรขาดทุน (หรืองบกาไรขาดทุน เบ็ดเสร็จ) เป็ นต้ น
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 14 4 . 7 . 2 ชื่อของกิจการที่เสนอรายงาน และการเปลี่ยนแปลงของข้ อมูลดังกล่ำว นับจากสิ้นรอบ ระยะเวลารายงานงวดก่ อน 4 . 7 . 3 วันสิ้ นรอบระยะเวลา รายงาน ของงบการเงินชุด ที่นาเสนอ 4 . 7 . 4 สกุลเงินที่ใช้ รายงาน 4 . 7 . 5 จานวนหลักที่ใช้ ในการแสดงจำนวนเงินในงบการเงิน งบแสดงฐานะการเงิน 4 . 8 ข้ อมูลที่ เป็ นประโยชน์ ต่ อผู้ ใช้ งบการเงินในการประเมินฐานะการเงิน ได้ แก่ ข้ อมูลเกี่ยวกับ สินทรัพย์ หนี้สิน และส่ วนของเจ้ำของ โดยแยกแสดงการจัดประเภทสินทรัพย์ และหนี้ สินในงบ แสดงฐานะการเงินเป็ นรายการหมุนเวียนและไม่ หมุนเวียน ดั งนี้ 4 . 8 . 1 สินทรัพย์ ต้ องจัดเป็ นสิ นทรั พย์ หมุนเวียน เมื่ อเป็ นไปตามเงื่อนไขข้ อใดข้ อหนึ่ง ดังต่ อไปนี้ 4 . 8 . 1 . 1 สินทรัพย์ นั้นเป็ นเงินสดหรือรายการเทียบเท่ำเงินสดที่ไม่ มีข้ อจากัดในการ ใช้ 4 . 8 . 1 . 2 กิจการคาดว่ำจะได้ รับประโยชน์ จากสินทรัพย์ นั้นหรือตั้งใจจะขายหรือใช้ ภายใน รอบระยะเวลาการดาเนินงานตามปกติของกิจการ 4 . 8 . 1 . 3 กิจการมีสินทรัพย์ นั้นไว้ โดยมีวัตถุประสงค์ เบื้ องต้ น คือ มีไว้ เพื่อค้ำ 4 . 8 . 1 . 4 กิจการคาดว่ำจะได้ รับประโยชน์ จากสินทรัพย์ นั้น ภายในระยะเวลา 12 เดือน นับจากรอบระยะเวลารำยงาน สินทรัพย์ ไม่ เป็ นไปตามเงื่ อนไขข้ำงต้ นถื อเป็ นสิ นทรั พย์ ไม่ หมุ นเวียน 4 . 8 . 2 หนี้สินต้ องจั ดเป็ นหนี้สินหมุนเวียน เมื่อเป็ นไปตามเงื่อนไขข้ อใดข้ อหนึ่งดั งต่ อไปนี้ 4 . 8 . 2 . 1 กิจการคาดว่ำจะชำระคืนหนี้ สินภายในรอบระยะเวลาดาเนินงานปกติ 4 . 8 . 2 . 2 หนี้สินนั้นถึงกำหนดชาระภายใน 12 เดือน นับจากรอบระยะเวลารายงาน 4 . 8 . 2 . 3 กิจการไม่ มีสิทธิอันปราศจากเงื่อนไขในการเลื่อนการชาระหนี้ออกไปอีก เป็ นเวลาไม่ น้ อยกว่ำ 12 เดือน นับจากรอบระยะเวลารายงาน ตัวอย่างเช่น (ก) หากก่อนหรือ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน กิจการละเมิด เงื่อนไขสัญญาเงินกู้ยืมระยะยาวซึ่งเป็นผลให้หนี้สินนั้นกลายเป็น หนี้สินที่จ่ายคืนเมื่อทวงถาม กิจการจัดประเภทหนี้สินนั้นเป็น หนี้สินหมุนเวียน แม้ว่าภายหลังรอบระยะเวลารายงานและก่อน วันที่ได้รับอนุมัติให้ออกงบการ เงิน เจ้าหนี้ตกลงที่จะไม่เรียกคืน หนี้นั้นทั้งที่ได้มีการละเมิดเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้ กิจการจัด ประเภทหนี้สินนี้เป็นหนี้สินหมุนเวียน เนื่องจาก ณ วันสิ้นรอบ ระยะเวลารายงาน กิจการไม่มีสิทธิอันปราศจากเงื่อนไขที่จะเลื่อน การชาระหนี้ออกไปเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 12 เดื อนนับจาก วันที่ดังกล่าว
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 15 (ข) อย่างไรก็ตาม หากภายในวันสิ้นรอบระยะเวลารายงานผู้ให้กู้ ตกลงที่จะผ่อนผันหนี้ให้เป็นเวลาอย่างน้อย 12 เดือนนับจาก สิ้นรอบระยะเวลารายงาน เพื่อให้กิจการดาเนินการแก้ไขการ ละเมิดเงื่อนไข ซึ่งภายในช่วงระยะเวลาดังกล่าวผู้ให้กู้จะไม่ สามาร ถเรียกร้องให้จ่ายชาระหนี้คืนในทันที กิจการจัดประเภท หนี้สินนี้เป็นหนี้สินไม่หมุนเวียน หนี้ สิ นที่ ไม่ เป็ นไปตามเงื่อนไขข้ำงต้ นให้ จั ดเป็ นหนี้ สิ นไม่ หมุ นเวียน 4 . 9 กิจการต้ องแสดงรายการต่ อไปนี้ ในงบแสดงฐานะการเงินเป็ นอย่ำงน้ อย (ถ้ำมี) โดยแยกแสดง รายการแต่ ละบรรทัดพร้ อมจานวนเงิน 4 . 9 . 1 เงินสดและรายการเทียบเท่ำเงินสด 4 . 9 . 2 เงินลงทุนชั่ ว คราว 4 . 9 . 3 ลูกหนี้การค้ำและลูกหนี้อื่น 4 . 9 . 4 เงินให้ กู้ ยืมระยะสั้น 4 . 9 . 5 สินค้ำคงเหลือ 4 . 9 . 6 สินทรัพย์ชีวภาพ ภายในขอบเขตของบทที่ 22 เรื่อง เกษตรกรรม 4 . 9 . 7 สินทรั พย์ หมุนเวียนอื่น 4 . 9 . 8 เงินลงทุนในบริษัทย่อย ร่วมหรือการร่วมค้า 4 . 9 . 9 เงินลงทุนระยะยาว อื่น 4 . 9 . 10 เงินให้ กู้ ยืมระยะยาว 4 . 9 . 11 อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน 4 . 9 . 12 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 4 . 9 . 13 สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน 4 . 9 . 14 ค่าความนิยม ภายในขอบเขต ของบทที่ 25 เรื่อง การรวมธุรกิจ 4 . 9 . 15 สินทรัพย์ ไม่ หมุนเวียนอื่น 4 . 9 . 16 เงินเบิกเกินบัญชีธนาคารและเงินกู้ ยืมระยะสั้นจากสถาบั นการเงิน 4 . 9 . 17 เจ้ำหนี้การค้ำและเจ้ำหนี้อื่ น 4 . 9 . 18 เงินกู้ ยืมระยะยาวที่ถึงกาหนดชาระภายในหนึ่งปี 4 . 9 . 19 เงินกู้ ยืมระยะสั้น 4 . 9 . 20 ประมาณการหนี้ สิ นระยะสั้ น 4 . 9 . 21 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 4 . 9 . 22 เงินกู้ ยืมระยะยาว 4 . 9 . 23 ประมาณการหนี้สินระยะยาว 4 . 9 . 24 หนี้ สิ นไม่ หมุ น เวียนอื่น 4 . 9 . 25 ทุนที่ออกและสารองต่ำงๆ รวมทั้งกำไร (ขาดทุน) สะสม
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 16 4 . 10 กิจการที่ไม่ มีหุ้ นทุน เช่ น ห้ำงหุ้ นส่ วนจากัด หรือนิติบุคคลต่ำงประเทศ ต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลซึ่ง เทียบเท่ำกับข้ อมูลที่ กำหนดในย่ อหน้ำที่ 4 . 9 . 25 ของส่ วนของเจ้ำของแต่ ละประเภท งบกาไรขาดทุน หรืองบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ งบกาไรขาดทุน 4 . 11 กิจการต้ องรับรู้ รายการรายได้ และค่ำใช้ จ่ำยทุกรายการสำหรับงวดในงบกำไรขาดทุน เพื่อ คำนวณหาผลกำไร (ขาดทุน) ยกเว้ นรายการกำไรหรือขาดทุน ซึ่งมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบับนี้ กำหนดให้ กิจการต้ องรั บรู้ โดยตรงไปยังส่ วนของเจ้ำของ 4 . 12 กิจการต้ องแสดงรายการดังต่ อไปนี้ในงบกำไรขาดทุนเป็ นอย่ำงน้ อย โดยแยกแสดงรายการแต่ ละ บรรทัดพร้ อมจานวนเงิน 4 . 12 . 1 รายได้ 4 . 12 . 2 ต้ นทุนทางการเงิน ซึ่งประกอบด้ วยดอกเบี้ ยจ่ำยและต้ นทุนทางการเงินอื่ นๆ 4 . 12 . 3 ภาษีเงินได้ 4 . 12 . 4 กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 4 . 13 ในการรายงานค่ำใช้ จ่ำย กิจการจะเลือกจัดประเภทค่ำใช้ จ่ำยตามหน้ำที่ หรือตามลักษณะขึ้นอยู่ กับดุลยพินิจของผู้ บริหาร เพื่อให้ ได้ ข้ อมูลที่เชื่อถือได้ และเกี่ยวข้ องกับการตัดสินใจ 4 . 13 . 1 การจำแนกค่ำใช้ จ่ำยตามลั กษณะ 4 . 13 . 1 . 1 กิจการต้ องรวบรวมและนาเสนอค่ำใช้ จ่ำยในงบกาไรขาดทุนตามลักษณะ ของรายการ โดยไม่ ปั นส่ วนตามหน้ำที่ต่ำงๆ ภายในกิจการ 4 . 13 . 1 . 2 ตัวอย่ำงของค่ำใช้ จ่ำยที่จาแนกตามลักษณะ เช่น ค่ำเสื่อมราคา ซื้อวัตถุดิบ ค่ำขนส่ ง ค่ำตอบแทนพนั กงาน และค่ำโฆษณา เป็ นต้ น 4 . 13 . 1 . 3 ตัวอย่ำงของงบกาไรขาดทุนจาแนกค่ำใช้ จ่ำยตามลักษณะของค่ำใช้ จ่ำย สำหรับกิจการผลิต กิจการค้ำปลีกและค่ำส่ ง และกิจการให้ บริการ แสดงได้ ดังนี้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 17 กิจการผลิต รายได้ รายได้ จากการขาย XX รายได้ อื่น XX รวมรายได้ XX ค่ำใช้ จ่ำย การเปลี่ยนแปลงในสิ นค้ำสาเร็จรูปและงานระหว่ำงทา XX งานที่ทาโดยกิ จการและบันทึกเป็ นรายจ่ำยฝ่ำยทุน XX วัตถุดิบและวัสดุสิ้นเปลืองใช้ ไป XX ค่ำใช้ จ่ำยพนักงาน XX ค่ำเสื่อมราคาและค่ำตั ดจำ หน่ำย XX ค่ำใช้ จ่ำยอื่ น XX รวมค่ำใช้ จ่ำย XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนต้ นทุนทางการเงินและภาษีเงิ นได้ XX ต้ นทุนทางการเงิ น XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนภาษี เงินได้ XX ภาษีเงิ นได้ XX กำไร (ขาดทุน) สุทธิ XX กิจการค้ำปลีกและค้ำส่ ง รายได้ รายได้ จากการขาย XX รายได้ อื่น XX รวมรายได้ XX ค่ำใช้ จ่ำย การเปลี่ยนแปลงในสิ นค้ำสาเร็จรูป XX ซื้อ XX ค่ำใช้ จ่ำยพนักงาน XX ค่ำเสื่อมราคาและค่ำตั ดจำ หน่ำย XX ค่ำใช้ จ่ำยอื่ น XX รวมค่ำใช้ จ่ำย XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนต้ นทุนทางการเงินและภาษีเงิ นได้ XX ต้ นทุนทางการเงิ น XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนภาษี เงินได้ XX ภาษีเงิ นได้ XX กำไร (ขาดทุน) สุทธิ XX
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 18 กิ จการให้ บริ การ รายได้ รายได้ จากการ ให้บริการ XX รายได้ อื่น XX รวมรายได้ XX ค่ำใช้ จ่ำย ค่ำใช้ จ่ำยพนักงาน XX ค่ำเสื่อมราคาและค่ำตั ดจำ หน่ำย XX ค่ำใช้ จ่ำยอื่ น XX รวมค่ำใช้ จ่ำย XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนต้ นทุนทางการเงินและภาษีเงิ นได้ XX ต้ นทุนทางการเงิ น XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนภาษี เงินได้ XX ภาษีเงิ นได้ XX กำไร (ขาดทุน) สุทธิ XX 4 . 13 . 2 การจำแนกค่ำใช้ จ่ำยตามหน้ำที่ 4 . 13 . 2 . 1 กิจการต้ องรวบรวมและนาเสนอค่ำใช้ จ่ำยในงบกำไรขาดทุนตามหน้ำที่ 4 . 13 . 2 . 2 ตัวอย่ำงของค่ำใช้ จ่ำยที่จาแนกตามหน้ำที่ เช่น ต้ นทุนขาย ค่ำใช้ จ่ำยในการ ขาย ค่ำจัดส่ งสินค้ำ และค่ำใช้ จ่ำยเพื่อการบริหาร เป็ นต้ น 4 . 13 . 2 . 3 กิจการที่เลือกวิธีการจาแนกค่ำใช้ จ่ำยตามหน้ำที่ อาจเลือกนาเสนองบกำไร ขาดทุนแบบขั้ น เดียวหรื อแบบหลายขั้น 4 . 13 . 2 . 3 . 1 งบกำไรขาดทุนแบบขั้นเดียว กิจการต้ องแสดงรายได้ ประเภทต่ำงๆ และค่ำใช้ จ่ำยประเภทต่ำงๆ แยกออกจากกัน และแสดง ผลต่ำงของรายได้ และค่ำใช้ จ่ำยเป็ นกำไร ดังตัวอย่ำงต่ อไปนี้ รายได้ รายได้จากการขาย/ รายได้ จากการ ให้บริการ XX รายได้ อื่น XX รวมรายได้ XX ค่ำใช้ จ่ำย ต้นทุนขาย/ต้นทุนการให้บริการ XX ค่ำ ใช้จ่ายในการขาย XX ค่าใช้จ่ายในการบริหาร XX ค่ำใช้ จ่ำยอื่ น XX
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 19 รวมค่ำใช้ จ่ำย XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนต้ นทุนทางการเงินและภาษีเงิ นได้ XX ต้ นทุนทางการเงิ น XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนภาษี เงินได้ XX ภาษีเงิ นได้ XX กำไร (ขาดทุน) สุทธิ XX 4 . 13 . 2 . 3 . 2 งบกาไรขาดทุนแบบหลายขั้ น กิจการต้ องนาเสนอกาไรใน ระดับต่ำงๆ ได้ แก่ กำไรขั้ นต้ น กำไรจากการดำเนินงาน กาไรก่ อนหักต้ นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ และกาไร สุทธิ ดังตัวอย่ำงต่ อไปนี้ รายได้จากการขาย/ รายได้ จากการ ให้บริการ XX ต้นทุนขาย/ต้นทุนการให้บริการ XX กำไร (ขาดทุน) ขั้นต้น XX รายได้อื่น XX กำไร (ขาดทุน) ก่อนค่าใช้จ่าย XX ค่ำ ใช้จ่ายในการขาย XX ค่าใช้จ่ายในการบริหาร XX ค่ำใช้ จ่ำยอื่ น XX รวมค่ำใช้ จ่ำย XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนต้ นทุนทางการเงินและภาษีเงิ นได้ XX ต้ นทุนทางการเงิ น XX กำไร (ขาดทุน) ก่ อนภาษี เงินได้ XX ภาษีเงิ นได้ XX กำไร (ขาดทุน) สุทธิ XX งบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ 4 . 1 4 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ไม่กาหนดให้กิจการต้องทางบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ แต่ หากกิจการเห็นถึงประโยชน์ของงบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จก็สามารถจัดทาได้ โดย กิจการอาจเลือก จัดทา งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ แทนงบกำไรขาดทุน หากกิจการมีรายการกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ทั้งนี้รายการกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น คือ รายการรายได้และค่าใช้จ่าย ที่ ไม่อนุญาตให้รับรู้ในงบ กาไรขาดทุนโดยข้อกาหนดของมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ รายการ กาไรขาดทุน เบ็ดเสร็จอื่น ประกอบด้วย 4 . 1 4 . 1 การเปลี่ยนแปลงในส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ (ดูบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ )
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 20 4 . 1 4 . 2 ผลกำไร หรือ ขาดทุนจากหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยจากการวัดมูลค่าใหม่ของโครงการ ผลประโยชน์ที่กาหนดไว้ (ดูบทที่ 16 เรื่อง ประมาณการหนี้สิน หนี้สินที่อาจเกิดขึ้น และสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น ) 4 . 1 4 . 3 ผลกาไรหรือขาดทุนจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนในตราสารทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ใน ความต้องการของตลาดของหลักทรัพย์เผื่อขาย (ดูบทที่ 9 เรื่อง เงินลงทุน ) 4 . 1 4 . 4 ผลกาไรหรือขาดทุนจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนในตราสาร หนี้ ในหลักทรัพย์ที่อยู่ใน ความต้องการของตลาดของหลักทรัพย์เ ผื่อขาย (ดูบทที่ 9 เรื่อง เงินลงทุน ) 4 . 1 4 . 5 ผลกาไรและขาดทุนจากการแปลงค่างบการเงินของหน่วยงานต่างประเทศ (ดูบทที่ 21 เรื่อง ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของอัตราแล ก เปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ) 4 . 1 4 . 6 ผลกาไรและขาดทุนที่มีประสิทธิผลจากเครื่องมือที่ใช้ป้องกันความเสี่ยงในการป้องกัน ความเสี่ยงในกระแสเงินสด ( ดูบทที่ 24 เรื่อง อนุพันธ์ ) สาหรับ รายการ กาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้กาหนดให้ กิจการต้ องรั บรู้ โดยตรงไปยังส่ วนของเจ้ำของ 4 . 15 งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ สามารถจัดทาได้ 2 รูปแบบ กล่าวคือ 4 . 15 . 1 กิจการอาจแสดงงบเดียวที่รวมงบกาไรขาดทุนและรายการกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ( รวม เรียกว่า “ งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ ”) ซึ่งงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จจะ แสดงรายกำร เพิ่มเติมจากงบกำไรขาดทุน โดยการเพิ่มในส่วนของรา ยการของกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ อื่นสาหรับงวด (แทนการ รั บรู้ โดยตรงไปยังส่ วนของเจ้ำของ ) หรือ 4 . 15 . 2 กิจการอาจแสดง แยกต่างหากสาหรับ ส่วนของกาไรหรือขาดทุนไว้ในงบกาไรขาดทุน และ ตามด้วยส่วนที่แสดงแยกต่างหากสาหรับ ส่วนของกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ไว้ในงบ กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นซึ่งงบดังกล่าวจะต้องตั้งต้นด้วยกำไรหรือขาดทุน 4 . 16 ข้อมูลที่ต้องนาเสนอในส่วนของกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นต้องแยกแสดงรายการเป็นรายบรรทัด สาหรับจำนวนเงินสาหรับงวดของ ส่วนแบ่ง กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นของบริษัทร่วมและการร่วมค้า ตามวิธีส่วนได้เสีย (สาหรับในกรณีที่จัดทางบการเงินรวม หรืองบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธี ส่วนได้เสีย) โดยจัดประเภทตามลักษณะรายการและตามการจัดกลุ่มที่บทต่างๆ ของมาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับนี้ได้กาหนดไว้หรือ หากมีการอ้างอิงตามหลักการของมาตรฐานการ รายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะที่เกี่ยวข้องได้กาหนดไว้ ดังต่อไปนี้ 4 . 16 . 1 จะไม่มีการจัดประเภทรายการใหม่ในงบกำไรขาดทุนในภายหลัง และ 4 . 16 . 2 จะมีการจัดประเภทรายการใหม่ในงบกำไรขาดทุนในภายหลัง ทั้งนี้ จำนวน ปรับปรุงการจัดประเภทรายการใหม่ คือ จานวนที่เคยรับรู้ในกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ในงวดปัจจุบันหรืองวดก่อนๆ ซึ่งถูกจัดประเภทรายการใหม่เข้าไปไว้ในงบกาไรขาดทุนในงวด ปัจจุบันมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้กำหนดให้องค์ประกอบของกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ อื่นย่อ หน้าที่ 4 . 1 4 . 1 และ 4 . 1 4 . 2 ถือ เป็นรายการที่ จะไม่มีการจัดประเภทรายการใหม่ในงบกาไร ขาดทุนในภายหลัง
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 21 4 . 17 กิจการต้องเปิดเผยจานวนของภาษีเงินได้ที่เกี่ยวกับแต่ละองค์ประกอบของกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ อื่น (หากถือปฏิบัติตามย่อหน้าที่ 15 . 2 ) รวมถึงการปรับปรุงการจัดประเภทรายการใหม่ที่ เกี่ยวกับองค์ประกอบของกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ในงบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จหรือในหมายเหตุ ประกอบงบการเงิน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่ วนของเจ้ำของ 4 . 18 กิจการต้ องนาเสนองบแสดงการเปลี่ยนแปลงของเจ้ำของโดยนาเสนอรายการต่ อไปนี้ 4 . 18 . 1 เงินทุนที่ได้ รั บจากเจ้ำของและจ่ำยคืนให้ แก่ เจ้ำของ รวมทั้งส่ วนแบ่ งกำไร 4 . 18 . 2 กำไรหรือขาดทุนสุทธิสาหรับรอบระยะเวลารายงาน 4 . 18 . 3 ยอดคงเหลือ ณ วันต้ นงวดของกาไร (ขาดทุน) สะสม และรายการต่ำงๆ ในส่ วนของ เจ้ำของการเปลี่ยนแปลงรายการต่ำงๆ ระหว่ำงงวดและยอดคงเหลือของรายการนั้นๆ ณ วันสิ้ นงวด 4 . 18 . 4 รายการซึ่งมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้กาหนดให้ กิจการต้ องรับรู้ โดยตรง ไปยังส่ วนของเจ้ำของ หรือรายการกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น (หากกิจการเลือกจัดทา งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) หมายเหตุประกอบงบการเงิน 4 . 19 หมายเหตุประกอบงบการเงินของกิจการต้ องแสดงข้ อมูล ดังต่ อไปนี้ 4 . 19 . 1 ข้ อความที่ระบุว่ำงบการเงินได้ จัดทาขึ้ น ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับ กิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะ 4 . 19 . 2 สรุปนโยบายการบัญชีที่เลือกใช้ 4 . 19 . 3 ข้ อมูลที่ มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้กำหนดให้ เปิ ดเผยเป็ นการเฉพาะ 4 . 19 . 4 ข้ อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้ อง เช่ น หนี้สินที่ อาจเกิดขึ้น ภาระผูกพันตามสัญญา 4 . 20 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ไม่ กาหนดให้ กิจการเสนอข้ อมูลทางการเงินจาแนกตาม ส่ วนงาน หากกิจการเห็นถึงปร ะโยชน์ ของการเสนอข้ อมูลทางการเงินจำแนกตามส่ วนงาน ก็สามารถจัดทาได้ โดยปฏิบัติตามข้ อกาหนดที่เกี่ยวข้ องในมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 8 เรื่อง ส่วนงานดาเนินงาน 4 . 21 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบั บนี้ไม่ กาหนดให้ กิจการเปิ ดเผยข้ อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือ กิจการที่เกี่ ยวข้ องกัน หากกิจการเห็นถึงประโยชน์ ของการเปิ ดเผยข้ อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือ กิจการที่เกี่ยวข้ อง กัน ก็สามารถจัดทำได้ โดยปฏิบั ติ ตามข้ อกำหนดที่ เกี่ ย วข้ องในมาตรฐาน การบัญชี ฉบับที่ 24 เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือกิจกำรที่เกี่ ยวข้องกัน 4 . 22 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ไม่ กาหนดให้ กิจการเปิ ดเผยข้ อมูลสาหรับเครื่องมือ ทางการเงิน หากกิจการเห็นถึงประโยชน์ ของการเปิ ดเผยข้ อมูลสาหรับเครื่องมือทางการเงิน ก็สามารถจัดทาได้ โดยปฏิบัติตามข้ อกาหนดที่เกี่ยวข้ องในมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 7 เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลเครื่องมือทางการเงิน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 22 งบการเงินของกลุ่มกิจการ 4 . 23 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ไม่ได้กำหนดให้กิจการต้องทำงบการเงินรวมหรือ งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย แต่หากกิจการเห็นถึงประโยชน์ของงบการเงิน ดังกล่าวก็สามารถจัดทาได้ เมื่อกิจการเลือกจัดทางบการเงินรวมหรืองบการเงินที่แสดงเงินลงทุน ตามวิธีส่วนได้เสีย กิจการต้องนาเสนองบการเงินเฉพาะกิจการด้วย และ กิจการต้องถือปฏิบัติตาม มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ทั้ง 6 ฉบับ ดังนี้ ( ก ) มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 27 เรื่อง งบการเงินเฉพาะกิจการ ( ข ) มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 28 เรื่อง เงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า ( ค ) มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 10 เรื่อง งบการเงินรวม ( ง ) มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 11 เรื่อง การร่วมการงาน และ ( จ ) มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 12 เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับส่วนได้เสีย ในกิจการอื่น ( ฉ ) แนวปฏิบัติทางการบัญชีสาหรับการรวมธุรกิจภายใต้การควบคุมเดียวกัน ยกเว้น การพิจารณา ว่าเงินลงทุนดั งกล่าวถือเป็น เงินลงทุนในบริษัทย่อย หรือไม่ นั้น กิจการต้อง พิจารณา ตามนิยามที่กาหนดไว้ในย่อหน้าที่ 9 . 5 ของมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้แทน มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 10 เรื่อง งบการเงินรวม
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 23 บทที่ 5 การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเปลี่ ยนแปลงประมาณการทางบัญชี และ ข้ อผิดพลาด 5 . 1 การเปลี่ยนแปลงทางการบัญชี ประกอบด้ วย (ก) การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี (ข) การเปลี่ยนแปลงประมาณการบัญชี และ (ค) ข้ อผิดพลาดในงวดก่ อน 5 . 2 การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี หมายถึง การเปลี่ยนแปลงวิธีป ฏิ บัติทางการบัญชี ซึ่ งเป็ นไป ตามมาตรฐานการ รายงานทางการเงินฉบับนี้ เป็ นอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็ นไปตามมาตรฐานการ รายงาน ทางการเงินฉบับนี้ เช่ นเดียวกัน 5 . 3 การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี หมายถึง การปรับปรุงมูลค่ำตามบัญชีของสินทรัพย์ หรือ หนี้ สิ น หรือจานวนที่ มี การใช้ ประโยชน์ ของสิ นทรัพย์ ในร ะหว่ำงงวด อันเป็ นผลมาจากการประเมิน สภาพปั จจุบันของสินทรัพย์ และหนี้สิน และการประเมินประโยชน์ และภาระผูกพันที่ คาดว่ำจะ เกิดขึ้ นในอนาคตที่เกี่ยวข้ องกับสินทรัพย์ และหนี้สินนั้น การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี เป็ นผลจากการได้ รับข้ อมูลใหม่ หรือมีการพัฒนาเพิ่มเติมจากเดิม การเปลี่ยนแปลงประมาณการ จึงไม่ ถือเป็ นการแก้ ไขข้ อผิดพลาด 5 . 4 ข้ อผิดพลาดในงวดก่ อน หมายถึง การละเว้ นการแสดงรายการและการแสดงรายการที่ขัดต่ อ ข้ อเท็จจริงในงบการเงินของกิจการในงวดใดงวดหนึ่งหรือหลายงวดก็ตาม ซึ่งข้ อมูลดังกล่ำว (ก) มีอยู่ ในงบการเงินของงวดก่ อนที่ได้ รับการอนุมัติให้ เผยแพร่ (ข) สามารถคาดการณ์ ได้ อย่ำง สมเหตุสมผลว่ำสามารถหาข้ อมูลได้ และนามาใช้ ในการจัดทาและการแสดงรายการในงบการเงิน ข้ อผิดพลาดดังกล่ำวรวมถึงผลกระทบจากการคานวณผิดพลาด ข้ อผิดพลาดจากการใช้ นโยบาย การบัญชี การมองข้ำมหรือการตีความข้ อเท็จจริงผิดพลาด และการทุจริต นโยบายการบัญชี 5 . 5 ในกรณีที่มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้มิได้ กาหนดแนวทางปฏิบัติสาหรับรายการค้ำ เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ อื่นเป็ นการเฉพาะ กิจการต้ องใช้ ดุลยพินิจในการเลือกใช้ นโยบาย การบัญชีโดยอ้ำงอิง และพิจา รณาการใช้ นโยบายการบัญชีจากแหล่ งต่ำงๆ ตามลาดับต่ อไปนี้ 5 . 5 . 1 ข้ อกาหนดและแนวปฏิบัติที่ระบุไว้ ในมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้สาหรับ เรื่ องที่คล้ำยคลึงและเกี่ยวข้ องกั น 5 . 5 . 2 ลักษณะเชิงคุณภาพของข้ อมูลในงบการเงิน คานิยามและการรับรู้ รายการ และการวัด มูลค่ำองค์ ประกอบของงบการเงิน ที่ระบุไว้ ในกรอบแนวคิดของมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบั บนี้ 5 . 5 . 3 มาตรฐานการรายงานทางการเงิน สาหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ( TFRS for PAEs ) เฉพาะรายการนั้นๆ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 24 การเลือกใช้ และการปฏิบัติตามนโยบายการบัญชี 5 . 6 เมื่อกิจการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินไปถือปฏิบัติเป็ นการเฉพาะกับรายการค้ำ เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ อื่นทางบัญชี นโยบายการบัญชีหรือวิธีปฏิบัติทางบัญชีที่นามาใช้ ปฏิบัติ กับรายการดังกล่ำวต้ องเป็ นไปตามข้ อกาหนดของมาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับเรื่อง นั้น 5 . 7 มาตรฐานการรายงานทางการเงินได้ กาหนดนโยบายการบัญชีที่ สรุปว่ำมีผลทาให้ งบการเงินแสดง ข้ อมูลที่มีความเกี่ยวข้ องกับการตัดสินใจและน่ำเชื่อถือเกี่ยวกับรายการ เหตุการณ์ อื่นและ สถานการณ์ ที่ เป็ นอยู่ นโยบายการบัญชีไม่ จำเป็ นต้ องถือปฏิบัติกับรายการที่ไม่ มีสาระสาคัญ ความสม ่า เสมอของนโยบายการบัญชี 5 . 8 กิจการต้ องเลือกใช้ และนานโยบายการบัญชีมาถือปฏิบั ติ อย่ำงสม่า เสมอกับรายการค้ำ เหตุการณ์ และสถานการณ์ อื่นที่มีลักษณะคล้ำยคลึงกัน เว้ นแต่ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับนี้ ได้ กาหนดหรือ อนุญาตเป็ นการเฉพาะให้ ใช้ นโยบายการบัญชีที่แตกต่ำงกันได้ สาหรับรายการแต่ ละ ประเภท หากมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับนี้ กาหนดหรืออนุญาตให้ ปฏิบัติดั งกล่ำวได้ กิจการต้ องเลือกและนานโยบายการบั ญชีที่เหมาะสมมาถือปฏิบัติอย่ำงสม่า เสมอสาหรับรายการ แต่ ละประเภท การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี 5 . 9 กิจการต้ องเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี ถ้ำการเปลี่ยนแปลงนั้ นเข้ำเงื่อนไขข้ อใดข้ อหนึ่ง ดังนี้ 5 . 9 . 1 เกิดจากข้ อกาหนดของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับนี้ 5 . 9 . 2 ทาให้ งบการเงินให้ ข้ อมูลที่น่ำเชื่ อถือและเกี่ยวข้ อง กับ การตัดสินใจมากขึ้นในส่ วนที่ เกี่ยวกับผลกระทบของ รายการค้ำ เหตุการณ์ และสถานการณ์ อื่นที่มีต่ อฐานะการเงิน และผลการดา เนินงานของกิจการ 5 . 10 ผู้ ใช้ งบการเงินมีความต้ องการที่จะเปรียบเทียบงบการเงินของกิจการในรอบระยะเวลาต่ำงกัน เพื่อระบุถึงแนวโน้ มของฐานะการเงิน และผลการดาเนินงานของกิจการ ดังนั้ น กิจการจึงต้ องใช้ นโยบายการบั ญชีเดียวกันในแต่ ละงวดบั ญชีและจากงวดหนึ่งไปยังงวดถัดไป เว้ นแต่ การเปลี่ยน แปลนโยบายการบัญชีจะเข้ำเงื่อนไขข้ อใดข้ อหนึ่งที่กล่ำวข้ำงต้ น 5 . 11 กรณีต่ อไปนี้ไม่ ถือเป็ นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี 5 . 11 . 1 การนานโยบายการบัญชีใหม่ มาถือปฏิบัติกับรายการค้ำ เห ตุการณ์ หรือสถานการณ์ อื่น ที่มีเนื้อหาแตกต่ำงจากรายการและเหตุการณ์ ที่เคยเกิดขึ้นมาก่ อน 5 . 11 . 2 การนานโยบายการบัญชีใหม่ มาถือปฏิบัติกับรายการค้ำ เหตุการณ์ และสถานการณ์ อื่ น ที่ไม่ เคยเกิดขึ้นมาก่ อน หรือเคยเกิดขึ้นแต่ ไม่ มีสาระสาคั ญ 5 . 12 เมื่อกิจการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีให้ กิจการรับรู้ ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงโดยการ นานโยบายการบัญชีใหม่ มาถือปฏิบัติย้ อนหลัง เว้ นแต่ ในทางปฏิบัติไม่ สามารถระบุจานวนเงิน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 25 ของผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ ละงวดบัญชี ที่แสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบไม่ว่างวดใดงวดหนึ่งหรือ หลาย งวดก็ตาม กิจการต้องปรับปรุงยอดยกมาต้นงวดของสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของเจ้าของ สาหรับงวดบัญชีแรกสุดที่สามารถปฏิบัติได้ (ซึ่งอาจเป็นงวดบัญชีปัจจุบัน) แต่หากกิจการ ไม่ สามารถระบุจำนวนเงินของผลกระทบสะสม ณ ต้นงวดบัญชีปัจจุบัน ที่เกิดจากการเปลี่ ยนแปลง นโยบายการบัญชี ที่มีต่องบการเงินของงวดบัญชีก่อนๆ ได้ กิจการต้องปรับปรุงข้อมูลเปรียบเทียบ โดย ใช้ วิธีเปลี่ ยนทันทีเป็ นต้ นไป กล่ำวคือ ใช้ นโยบายบัญชีใหม่ สาหรั บรายการค้ำ เหตุการณ์ และ สถานการณ์ ต่ำงๆ นับจากวันแรกสุดที่สามารถปฏิบัติได้ 5 . 12 ก การเริ่มนานโยบายการบัญชีสาหรับการบันทึกมูลค่าสินทรัพย์ด้วยราคาที่ตีใหม่ตามบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการปรับมูลค่าตามที่ กำหนด ไว้ ในบทดังกล่าว มากกว่าที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีตามที่กล่าว ไว้ ในบทนี้ การเปิ ดเผยข้ อมูล 5 . 13 เมื่อกิจการเริ่มนามาตรฐานการรายงานทางการเงินมาถือปฏิบัติทาให้ เกิดผลกระทบต่ องวดบัญชี ปั จจุบัน หากกิจการไม่ สามารถระบุจานวนเงินของการปรับปรุงผลกระทบนั้ นหรือหากผลกระทบ นั้นมีผลต่ องวดบัญชีในอนาคต กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลดังต่ อไปนี้ 5 . 13 . 1 ชื่อมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่นามาถือปฏิบัติ 5 . 13 . 2 การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเป็ นการปฏิบัติตามที่กาหนดไว้ ในวิธีปฏิบัติในช่ วง เปลี่ยนแปลง 5 . 13 . 3 ลักษณะของการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบญชี 5 . 13 . 4 คาอธิบายเกี่ยวกับข้ อกาหนดในช่ วงที่มีการเปลี่ยน แปลง 5 . 13 . 5 ข้ อกาหนดในช่ วงที่ มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจมีผลกระทบในงวดต่ อไป 5 . 13 . 6 สาหรั บงวดบัญชีปั จจุบัน หากสามารถปฏิบั ติได้ กิจการต้ องเปิ ดเผยจานวนเงินของ รายการปรับปรุงที่กระทบต่ อ ( ก ) รายการแต่ ละบรรทัดในงบการเงินที่ได้ รับผลกระทบ ( ข ) งบการเงินสาหรับงวดบั ญชีถัดไปไม่ ต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลเหล่ำนี้อีก 5 . 14 หากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีโดยความสมัครใจทาให้ เกิดผลกระทบต่ องวดบัญชีปั จจุบัน ผลกระทบดั งกล่ำวจะมีผลต่ องวดบัญชีนั้นๆ เว้ นแต่ จะไม่ สามารถทาได้ ในทางปฏิบัติที่จะระบุ จานวนเงินที่ต้ องปรับปรุง หรืออาจมีผลกระทบต่ อง วดบั ญชีในอนาคต กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูล ดังต่ อไปนี้ 5 . 14 . 1 ลักษณะของการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบั ญชี 5 . 14 . 2 เหตุผลว่ำการใช้ นโยบายการบัญชีใหม่ ทาให้ งบการเงินมีความน่ำเชื่อถือและเกี่ยวข้ อง กับการตัดสินใจมากยิ่งขึ้ นได้ อย่ำงไร 5 . 14 . 3 สาหรับงวดบัญชีปั จจุบัน หากสามารถปฏิบัติได้ กิจการต้ องเปิ ดเผยจานวนเงินของ รายการ ปรับปรุงที่กระทบต่ อรายการแต่ ละบรรทั ดในงบการเงิน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 26 5 . 14 . 4 จานวนเงินของรายการปรับงบการเงินที่นาเสนอหากสามารถทาได้ ในทางปฏิบัติ และ งบการเงินสาหรับงวดบัญชีถัดไปไม่ ต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลเหล่ำนี้อีก การเปลี่ ยนแปลงประมาณการทางบัญชี 5 . 15 กิจการต้ องรับรู้ ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงประมาณการบัญชี โดยใช้ วิธีเปลี่ยนทันทีเป็ นต้ น ไป ด้ วยการรั บรู้ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงประมาณการบัญชีสาหรับงวดปั จจุบันและงวด อนาคตที่ได้ รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนั้น เช่ น การเปลี่ยนแปลงมูลค่ำสุทธิที่จะได้ รับของ สินค้ำคงเหลือ การเปลี่ยนแปลงจานวนหนี้สงสัยจะสูญ การเปิ ดเผยข้ อมูล 5 . 16 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลเกี่ยวกับลักษณะและจำนวนเงินของการเปลี่ยนแปลงประมาณการ ทางบัญชี ที่มีผลกระทบต่ องบการเงินสาหรับงวดบัญชีปั จจุบัน หรือคาดว่ำจ ะมีผลกระทบต่ องวด บัญชีต่ อไป เว้ นแต่ ไม่ สามารถประมาณจำนวนเงินของผลกระทบได้ 5 . 17 หากกิจการไม่ เปิ ดเผยผลกระทบต่ องวดบัญชีในอนาคต เนื่องจากไม่ สามารถประมาณจานวนเงิน ของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีต่ องวดบัญชีในอนาคตได้ กิจการต้ อง เปิ ดเผยข้ อเท็จจริงดังกล่ำว ข้ อผิดพลาด 5 . 18 กิจการต้ องแก้ ไขข้ อผิดพลาดที่มีสาระสำคัญของงวดก่ อน โดยปรับย้ อนหลังในงบการเงิน ฉบับแรกที่ได้ รั บการอนุมั ติ ใ ห้ เผยแพร่ หลั งจากที่ พบข้ อผิดพลาดโดย 5 . 18 . 1 ปรับงบการเงินงวดก่ อนที่ แสดงเป็ นข้ อมูลเปรียบเทียบ เสมือนว่ำข้ อผิดพลาดได้ ถูก แก้ ไขในงวดบัญชีที่ข้ อผิดพลาดได้ เกิดขึ้น หรือ 5 . 18 . 2 หากข้ อผิดพลาดเป็ นข้ อผิดพลาดที่ เกิดขึ้ นในงวดบัญชีก่ อนงวดบัญชีแรกสุดที่แสดง เป็ นข้ อมูลเปรียบเทียบ กิจการต้ องปรับปรุงยอดคงเหลือยกมาต้ นงวดของสินทรัพย์ หนี้ สิน และส่ วนของเจ้ำของในงบการเงินงวดแรกสุดที่นำมาแสดงเป็ น ข้ อมูล เปรียบเทียบ 5 . 19 กิจการต้ องแก้ ไขข้ อผิดพลาดของงบการเงินงวดก่ อนโดย ใช้วิธี ปรับงบการเงินย้ อนหลัง เว้ นแต่ ในทางปฏิบัติไม่ สามารถระบุจานวนเงินของผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ ละงวดบัญชี หรือไม่ สามารถ ระบุจานวนเงินของผลกระทบสะสมที่เกิดจากข้ อผิดพลาดได้ 5 . 20 หากในทางปฏิบัติ กิจการไม่ สามารถระบุผลกระทบที่เกิดจากข้ อผิดพลาดของแต่ ละงวดที่แสดง เป็ นข้ อมูลเปรียบเทียบไม่ ว่ำงวดใดงวดหนึ่งหรือหลายงวดก็ตาม กิจการต้ องปรับปรุงยอดยกมา ต้ นงวดของสินทรัพย์ หนี้ สิ นและส่ วนของเจ้ำของสา หรับงวดบัญชี แรกสุ ดที่ สา มารถปฏิบัติได้ (ซึ่ งอาจเป็ นงวดบัญชีปั จจุบั น ) 5 . 21 หากในทางปฏิบัติ กิจการไม่ สามารถระบุผลกระทบสะสม ณ ต้ นงวดบั ญชีปั จจุบันที่เกิดจาก ข้ อผิดพลาดที่มีต่ องบการเงินของงวดบัญชีก่ อนๆ ได้ กิจการต้ องแก้ ไขข้ อผิดพลาดโดยปรับปรุง
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 27 ข้ อมูลที่นามาแสดงเป็ นข้ อมูลเปรียบเทียบด้ วยวิธีเปลี่ยนทันทีเป็ นต้ นไป นับจากวั นแรกสุดที่ สามารถทาได้ ในทางปฏิบัติ 5 . 22 การแก้ ไขข้ อผิดพลาดแตกต่ำงจากการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี โดยการประมาณการ ทางบัญชีมีลักษณะเป็ นการประมาณการที่อาจต้ องมีการทบทวนเมื่อกิจการได้ รับข้ อมูลเพิ่มเติม ตัวอย่ำงเช่ น ผลกาไรหรือผลขาดทุนที่รับรู้ จากผลของรายการที่มีความไม่ แน่ นอนไม่ ถือเป็ นการ แก้ ไขข้ อผิดพลาด การเปิ ดเผยข้ อมูลเมื่อมีข้ อผิดพลาดในงวดก่ อน 5 . 23 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลดังนี้ 5 . 23 . 1 ลักษณะของข้ อผิดพลาดที่เกิ ดขึ้ นในงบการเ งิ นงวดก่ อ น 5 . 23 . 2 สาหรับงบการเงินของงวดก่ อนที่ นามาแสดงเปรียบเทียบ กิจการต้ องเปิ ดเผยจา นวน เงิ นของรายการปรับปรุงเท่ำที่สามารถปฏิบั ติ ได้ ที่ มี ผลกระทบต่ อรายการแต่ ละบรรทัด ในงบการเงิ น 5 . 23 . 3 จำนวนเงิ นของรายการปรั บปรุง ณ วันต้ นงวดของงวดบัญชี แรกสุดที่นำมาแสดง เปรียบเทียบ 5 . 23 . 4 หากในทางปฏิบัติกิ จการไม่ สามารถปรับงบการเงินย้ อนหลังสาหรั บงบการเงินงวดก่ อน งวดใดงวดหนึ่งได้ กิจการต้ องเปิ ดเผยสถานการณ์ ที่นาไปสู่ การเกิดขึ้ น ของเงื่อนไข ดังกล่ำวและ รายละเอียดว่ำกิจการแก้ ไขข้ อผิ ดพลาดเมื่อใดและอย่ำงไร งบการเงินสาหรับงวดบั ญชีถัดไปไม่ ต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลเหล่ำนี้อีก
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 28 บทที่ 6 เงินสดและรายการเทียบเท่ำเงินสด 6 . 1 เงินสด หมายถึง เงินสดในมือและเงินฝากธนาคาร ที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถาม 6 . 2 รายการเทียบเท่ำเงินสด หมายถึง เงินลงทุนระยะสั้ น ที่ มี สภ ำพคล่ องสู ง ซึ่ งพร้ อมที่ จะเปลี่ ยนเป็ น เงิ น สดในจานวนที่ทราบได้ และมีความเสี่ยงต่ อการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ำน้ อยหรือไม่ มีสาระสาคัญ เช่ น เงินลงทุนที่มีวันครบกาหนดในระยะสั้น กล่ำวคือ 3 เดือน หรือน้ อยกว่ำนับจากวันที่ได้ มา เป็ นต้ น 6 . 3 กิจการต้ องนาเสนอเงินสดและรายการเทียบเท่ำเงินสดรวมเป็ นรายการเดียวกัน 6 . 4 กิจการไม่ ควรนาเสนอเงินฝากธนาคารที่ มีข้ อจากัดในการเบิกถอนเป็ นรายการเงินสดและรายการ เทียบเท่ำเงินสด ตัวอย่ำงของเงินฝากธนาคารที่มีข้ อจากัดในการเบิกถอน เช่ น เงินฝากธนาคารที่ กิจการนำไปเ ป็ นหลักประกันการกู้ ยืมและไม่ สามารถถอนได้ เป็ นต้ น มาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบับนี้กำหนดให้ กิ จการแสดงเงินฝากธนาคารที่ มีข้ อจำกั ดในการเบิ กถอนเป็ น สิ นทรัพย์ อื่ น โดยจัดประเภทเป็ นสินทรัพย์ หมุนเวียนหรือไม่ หมุนเวียน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ กับกำหนดเวลา ของข้ อจากัดในการเบิกถอน 6 . 5 หากกิจการมีรายการเงินฝากธนาคารที่ มีข้ อจากัดในการเบิกถอ น กิจการต้ องเปิ ดเผยรายละเอียด เกี่ยวกับเงื่อนไขหรือข้ อจากัดในหมายเหตุประกอบงบการเงินด้ วย 6 . 6 เงินเบิกเกินบัญชีธนาคารจัดเป็ นหนี้สินหมุนเวียน ดังนั้ น จึงไม่ สามารถนามาหักกลบกับรายการ เงิน สดและรายการเทียบเท่ำเงินสด
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 29 บทที่ 7 ลูกหนี้ 7 . 1 ลูกหนี้ หมายถึง สิทธิที่ กิจการจะได้ รับเงินสดหรือทรัพยากรหรือประโยชนเชิงเศรษฐกิจอื่นๆ เมื่อ ถึงกาหนดชาระ ลูกหนี้ อาจรวมถึงลูกหนี้การค้ำและลูกหนี้อื่น 7 . 1 . 1 ลูกหนี้การค้ำ หมายถึง ลูกหนี้ที่เกิดจากการขายสินค้ำหรือการให้ บริการที่กิจการได้ ส่ ง ใบแจ้ งหนี้หรือได้ ตกลงอย่ำงเป็ นทางกา รกั บผู้ ซื้อ รายการดังกล่ำวนี้อาจอยู่ ในรูปของ ตั๋วเงินรับ 7 . 1 . 2 ลูกหนี้ อื่น หมายถึง ลูกหนี้ ที่ไม่ ใช่ ลูกหนี้การค้ำ เช่ น ลูกหนี้และเงินให้ กู้ ยืมแก่ กรรมการ และลูกจ้ำง เงินให้ กู้ ยื มอื่น เป็ นต้ น 7 . 2 ลูกหนี้การค้ำและลูกหนี้ อื่ นอาจเกี่ยวข้ องกับกิจการที่เป็ นอิสระ หรือบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้ อง กัน หากลูกหนี้การค้ำเกิดจากธุรกรรมการค้ำระหว่ำงบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้ องกัน กิจการต้ อง ใช้ มูลค่ำยุติธรรมของสิ่งตอบแทนที่ได้ รับหรือค้ำงรับเป็ นเกณฑ์ ในการกำหนดมูลค่ำลูกหนี้การค้ำ 7 . 3 ลูกหนี้ การค้ำและลูกหนี้อื่นต้ องวัดมูลค่ำภายหลังด้ วยมูลค่ำที่จะได้ รับ ซึ่งหมายถึงมูลค่ำหลังจาก หักค่ำเผื่อหนี้ สงสัยจะสูญ 7 . 4 การรับรู้ รายได้ จำกดอกเบี้ยรั บให้ เป็ นไปต ำมข้ อกาหนดในบทที่ 18 เรื่ อง รายได้ วิธีการประมาณหนี้สงสัยจะสูญ 7 . 5 วิธีการประมาณหนี้สงสัยจะสูญสามารถทาได้ สามวิธี ได้ แก่ วิธีอัตราร้ อยละของยอดขายเชื่อสุทธิ วิ ธีอัตราร้ อยละของลูกหนี้ ที่ ค้ำงชา ระจำแนกตามอายุของลู กหนี้้ และวิธี พิ จารณาลู กหนี้้ เป็ นแต่ ละราย 7 . 5 . 1 วิธีอัตราร้ อยละของยอดขายเชื่อสุทธิ คานวณจานวนหนี้ สงสัยจะสูญเป็ นร้ อยละของ ยอดขายเชื่อสุทธิ 7 . 5 . 2 วิธีอัตราร้ อยละของลูกหนี้ ที่ค้ำงชำระจำแนกตามอายุของลูกหนี้ คำนวณโดยการ จัดกลุ่ มลูกหนี้จาแนกตามอายุของหนี้ ที่่ ค้ำงชา ระ ลู กหนี้ กลุ่ มที่ ค้ำงชา ระนานนำมา คานวณหาจานวนหนี้สงสัยจะสูญด้ วยอัตราร้ อยละที่สูงกว่ำลูกหนี้ที่ เริ่มค้ำงชาระเกิน กำหนดโดยถือว่ำลูกหนี้ ที่ค้ำงชาระนานจะมีโอกาสไม่ ชาระหนี้มากกว่ำลูกหนี้ที่เริ่ม เกิดขึ้น 7 . 5 . 3 วิธีพิจารณาลูกหนี้ เป็ นแต่ ละราย พิจารณาจากความสามารถในการชาระหนี้ และจานวน เงินที่คาดว่ำจะได้ รับชาระจากลูกหนี้ 7 . 6 กิจการต้ องรับรู้ จานวนหนี้สงสัยจะสูญเป็ นค่ำใช้ จ่ำยในงบกาไรขาดทุน ควบคู่ กับการรับรู้ ค่ำเผื่ อ หนี้ สงสัยจะสูญ ซึ่งเป็ นบัญชีปรับมูลค่ำบัญชีลูกหนี้ ในงบแสดงฐานะการเงิน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 30 การตัดจาหน่ำ ยหนี้ สูญ 7 . 7 หากลูกหนี้ยังไม่ ชาระหนี้ เมื่อครบกาหนดแล้ ว และกิ จการได้ มีการดาเนินการทวงถามหนี้จาก ลูกหนี้ จนถึงที่สุดแล้ ว และคาดหมายได้ ค่ อนข้ำงแน่ นอนว่ำจะไม่ ได้ รับชาระหนี้ ให้ กิจการจำหน่ำย ลูกหนี้ออกจากบัญชี และปรับลดค่ำเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เกี่ยวข้ อง หนี้สูญได้ รับคืน 7 . 8 หากลูกหนี้ ที่ กิจการตัดจำหน่ำยไปแล้ วกลับมาชำระหนี้ให้ แก่ กิจการ ให้ กิจการโอนกลับ บัญชีลูกหนี้ และค่ำเผื่อหนี้ สงสัยจะสูญที่เกี่ยวข้ องด้ วยจานวนเงิน ที่ได้ รับกลับคืน พร้ อมบันทึก รายการรั บชาระหนี้จากลูกหนี้ หรือกิจการสามารถเลือกบันทึกหนี้สูญได้รับคืนเป็นรายได้อื่นๆ ใน งบกำไรขาดทุน ทั้งนี้ให้กิจการเปิดเผยในนโยบายการบัญชีสาหรับการบันทึกหนี้สูญได้รับคืน การเปิ ดเผยข้ อมูล 7 . 9 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลต่ อไปนี้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน 7 . 9 . 1 มูลค่ำหนี้สูญที่ตั ดจำหน่ำยระหว่ำงงวด 7 . 9 . 2 หนี้สูญได้ รับคืนสาหรับงวด 7 . 9 . 3 จานวนและรายละเอียดของลูกหนี้ที่ใช้ เป็ นหลักทรัพย์ ค้า ประกั น
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 31 บทที่ 8 สินค้ำคงเหลือ 8 . 1 สินค้ำคงเหลือ หมายถึง สินทรั พย์ ซึ่ง มีลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่ อไปนี้ 8 . 1 . 1 ถือไว้ เพื่อขายตามลักษณะการประกอบธุรกิจตามปกติ ของกิจการ 8 . 1 . 2 อยู่ ในระหว่ำงกระบวนการผลิตเพื่อให้ เป็ นสิ นค้ำสาเร็จรูปเพื่อขาย 8 . 1 . 3 อยู่ ในรูปของวัตถุดิบ หรือวัสดุที่มีไว้ เพื่อใช้ ในกระบวนการผลิตสินค้ำหรือให้ บริการ 8 . 2 สินค้ำคงเหลือรวมถึงสินค้ำที่ซื้ อและถือไว้ เพื่อขาย เช่ น สินค้ำที่ ผู้ ค้ำปลีกซื้อและถือไว้ เพื่อขาย หรือ ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ อื่นที่ถือไว้ เพื่อขาย สินค้ำคงเหลือรวมถึงสินค้ำสาเร็จรูปที่ผลิต สินค้ำระหว่ำงผลิต วัตถุดิบ และวัสดุที่ถือไว้ เพื่อรอที่จะใช้ ในกระบวนการผลิต และในกรณีที่เป็ น กิจการให้ บริการ สินค้ำ คงเหลือจะรวมถึงต้ นทุนงานให้ บริการส่ วนที่กิจการยังไม่ ได้ รั บรู้ เป็ นรายได้ 8 . 3 บทนี้ไม่ นา มา ถือปฏิบัติเฉพาะในเรื่องของการวัดมูลค่าสินค้า คงเหลือที่ถือไว้โดย 8 . 3 . 1 ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ ผลิตผลทางการเกษตรภายหลัง การเก็บเกี่ยว แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ สินค้าคงเหลือเหล่านั้น ให้ วัดมูลค่าด้วยมูลค่า สุทธิที่จะได้รับซึ่งเป็นวิธีที่ถือปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเหล่านั้น เมื่อ กิจการวัดมูลค่าสินค้าคงเหลือดังกล่าวด้วยมูลค่าสุท ธิที่จะได้รับ การเปลี่ยนแปลงใน มูลค่าดังกล่าวจะรับรู้ใน งบ กำ ไรขาดทุนในงวดที่มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่านั้น 8 . 3 . 2 นายหน้า – ผู้ค้าสินค้าโภคภัณฑ์ ( ผู้ซึ่งซื้อหรือขายสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อบุคคลอื่นหรือ เพื่อตนเอง สินค้าคงเหลือโดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าคงเหลือที่ได้มาโดยมีวั ตถุประสงค์ เพื่อขายในอนาคตอันใกล้เพื่อที่จะได้รับกา ไรจากการผันผวนของราคาหรือจากส่วน ต่างของราคาซื้อขายของนายหน้า – ผู้ค้า ) ซึ่งวัดมูลค่า สินค้าคงเหลือด้วยมูลค่า ยุติธรรมหักต้นทุนในการขาย เมื่อสินค้าคงเหลือดังกล่าววัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรม หักต้นทุนในการขาย กา รเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมหักต้นทุนในการขายจะรับรู้ใน งบ กำ ไรขาดทุนในงวดที่มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่านั้น การวัดมูลค่ำสินค้ำคงเหลือ 8 . 4 สินค้ำคงเหลือต้ องวัดมูลค่ำด้ วยราคาทุนหรือมูลค่ำสุทธิที่ จะได้ รับ แล้ วแต่ มูลค่ำใดจะต่ากว่ำ ต้ นทุนของสินค้ำคงเหลือ 8 . 5 ต้ นทุนของสินค้ำคงเหลือต้ องประกอบด้ วยต้ นทุนทั้งหมดในการซื้อ ต้ นทุนแปลงสภาพและต้ นทุน อื่นๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ สินค้ำคงเหลือนั้ น อยู่ ในสถานที่และอยู่ ในสภาพที่เป็ นอยู่ ในปั จจุบัน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 32 ต้ นทุนในการซื้อ 8 . 6 ต้ นทุนในการซื้อของสินค้ำคงเหลือประกอบด้ วย ราคาซื้อ อากรขาเข้ำและภาษีอื่น (สุทธิจาก จานวนที่กิจการจะได้ รับคืนในภายหลังจากหน่ วยงานที่มีหน้ำที่จัดเก็บภาษี) รวมทั้งค่ำขนส่ ง ค่ำ ขนถ่ำย และต้ นทุนอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวข้ องโดยตรงกับการได้ มาซึ่งสินค้ำสาเร็จรูป วัตถุดิบ และบริการ ในการคานวณต้ นทุนในการซื้อสินค้ำให้ นาส่ วนลดการค้ำ เงินที่ได้ รับคืนและรายการอื่นๆ ที่ คล้ำยคลึงกันมาหักออก ต้ นทุนแปลงสภาพ 8 . 7 ต้ นทุนแปลงสภาพของสินค้ำคงเหลือ หมายถึง ต้ นทุนการผลิตที่ใช้ ในการแปลงสภาพวัตถุดิบ ทางตรงให้ เป็ นสินค้ำสาเร็จรูป ต้ นทุนแปลงสภาพ ประกอบด้ วย ค่ำแรงงานทางตรง ค่ำใช้ จ่ำยการ ผลิตคงที่ และค่ำใช้ จ่ำยการผลิตผันแปร ค่ำใช้ จ่ำยการผลิตคงที่ คือ ต้ นทุนการผลิตทางอ้ อมที่ เกิดขึ้นในการผลิตโดยไม่ สัมพันธ์ กับปริมาณการผลิต เช่ น ค่ำเสื่ อมราคา และค่ำบารุงรักษาอาคาร โรงงานและอุปกรณ์ โรงงาน และต้ นทุนเกี่ยวกับฝ่ำยจัดการโรงงาน และการบริหารโรงงาน เป็ นต้ น ส่ วนค่ำใช้ จ่ำ ยการผลิตผันแปร คือ ต้ นทุนการผลิตทางอ้ อมที่ผันแปรโดยตรงหรือค่ อนข้ำงจะ ผันแปรโดยตรงกับปริมาณการผลิต เช่ น วั ตถุดิบทางอ้ อม และค่ำแรงงานทางอ้ อม เป็ นต้ น ต้ นทุนงานให้ บริการ 8 . 8 ในกรณีที่กิจการให้ บริการมีสินค้ำคงเหลือให้ วัดมูลค่ำสินค้ำดังกล่ำวด้ วยต้ นทุนในการผลิต ต้ นทุน ดังกล่ำวโดยส่ วนใหญ่ ประกอบด้ วย ค่ำแรงงาน และต้ นทุนอื่นที่เกี่ยวกับบุคลากรที่ มีส่ วนเกี่ ยวข้ อง โดยตรงกับการให้ บริการ ซึ่งรวมถึงบุคลากรที่ควบคุมและดูแลและต้ นทุนที่เกี่ ยวข้ องกับการ ให้ บริการ การคำนวณต้ นทุน 8 . 9 ในการคานวณต้ นทุนของสินค้ำเมื่อขาย กิจการอาจเลือกใช้ วิธีการคานวณต้ นทุนสินค้ำที่ ขายโดย ใช้ วิธีราคาเจาะจง หรือวิธีเข้ำก่ อนออกก่ อน หรือวิธีถัวเฉลี่ยต้ นทุนสินค้ำที่ซื้ อเข้ำมาแต่ ละงวด ราคาทุนหรือมูลค่ำสุทธิที่จะได้ รับ แล้ วแต่ มูลค่ำใดจะต ่า กว่ำ 8 . 10 ต้ นทุนของสินค้ำคงเหลืออาจจะไม่ ได้ รับคืนถ้ำสินค้ำคงเหลือเหล่ำนั้นเกิดความเสียหายหรือเกิด ความล้ำสมัยบางส่ วนหรือทั้งหมดหรือราคาขายลดลง ต้ นทุนของสินค้ำคงเหลืออาจจะไม่ ได้ รับคืน หากประมาณการต้ นทุนในการทาต่ อให้ เสร็จหรือประมาณการต้ นทุนที่เกิดขึ้นเพื่อทาให้ สินค้ำขาย ได้ เพิ่ มขึ้น การตีราคาสินค้ำคงเหลือลดลงจากรำคาทุนให้ เท่ำกับมูลค่ำสุทธิที่จะได้ รับสอดคล้ อง กับแนวความคิดที่ว่ำสินทรัพย์ ไม่ ควรแสดงมูลค่ำตามบัญชีที่สูงกว่ำมูลค่ำสุทธิที่จะได้ รับจากการ ขายหรือประโยชน์ ที่จะได้ รับจากการใช้ 8 . 11 มูลค่ำสุทธิที่ จะได้ รับ หมายถึง ราคาโดยประมาณที่คาดว่ำจะขายได้ ตามปกติธุรกิจ หักด้ วย ประมาณการต้ นทุนในการผลิตสินค้ำ นั้น ให้ เสร็ จและต้ นทุ นที่ จา เป็ นต้ องจ่ำยไปเพื่ อให้ ขายสิ นค้ำ นั้ นได้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 33 8 . 12 การลดมูลค่ำของสินค้ำคงเหลือลงให้ เท่ำกับมูลค่ำสุทธิที่ จะได้ รับ ให้ พิจารณาจากสินค้ำแต่ ละ ประเภท แต่ ในบางสถานการณ์ อาจพิจารณาจากกลุ่ มสินค้ำที่มีลักษณะคล้ำยคลึงกันหรือมีความ เกี่ยวพันกัน 8 . 13 กิจการต้ องไม่ ปรับมูลค่ำวัตถุดิบหรือวัสดุอื่นที่ถือไว้ เพื่อใช้ ในการผลิตสินค้ำให้ ลดต่า กว่ำราคาทุน หากสินค้ำสาเร็จรูปที่ผลิตจากวัตถุดิบหรือวัสดุนั้ น คาดว่ำจะขายได้ ในราคาเท่ำกั บหรื อสู งกว่ำราคา ทุนของสินค้ำสาเร็จรูปดังกล่ำว อย่ำงไรก็ตาม หากสินค้ำสาเร็จรูปที่ผลิตจากวัตถุดิบหรือวัสดุนั้ น คาดว่ำจะขายได้ ในราคาต่า กว่ำราคาทุน ให้ กิจการปรับลดมูลค่ำวัตถุดิบและวัสดุอื่นให้ ลดลง เท่ำกับมูลค่ำสุทธิที่จะได้ รับในสถานการณ์ เช่ นนี้ ต้ นทุนเปลี่ยนแทนของวัตถุดิบและวัสดุอื่นอาจ เป็ นมูลค่ำที่ ดี ที่สุดในการกาหนดมูลค่ำสุทธิที่จะได้ รั บ 8 . 14 กิจการต้ องไม่ ปรับมูลค่ำ งานระหว่ำงทาให้ ลดต่า กว่ำราคาทุน หากสินค้ำสาเร็จรูปที่ผลิตจากงาน ระหว่ำงทานั้ น คาดว่ำจะขายได้ ในราคาเท่ำ กับหรือสูงกว่ำราคาทุนของสินค้ำสาเร็ จรู ปนั้ น อย่ำงไร ก็ ตาม หากสินค้ำสาเร็จรูปที่ผลิตจากงานระหว่ำงทานั้นคาดว่ำจะขายได้ ในราคาต่า กว่ำราคาทุน ให้ กิจการปรับลดมูลค่ำงานระหว่ำงทาให้ ลดลงเท่ำกับมูลค่ำสุทธิที่จะได้ รับของสินค้ำสาเร็จรูป หักต้ นทุน โดยประมาณในการทาต่ อให้ เสร็จ การรับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำย 8 . 15 เมื่อมีการขายสินค้ำคงเหลือออกไป มูลค่ำตามบัญชีของสินค้ำนั้นต้ องรับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำย โดยแสดงเป็ นส่ วนหนึ่งของต้ นทุนขายในงวดที่มีการรับรู้ รายได้ ที่เกี่ยวข้ อง 8 . 16 มูลค่ำที่ลดลงของสินค้ำคงเหลือเนื่ องจากการปรับมูลค่ำให้ เท่ำกับมูลค่ำสุทธิที่จะได้ รับต้ องบันทึก เป็ นค่ำใช้ จ่ำยโดยแสดงเป็ นส่ วนหนึ่งของต้ นทุนขายในงวดที่ ปรับมูลค่ำสินค้ำให้ ลดลง ส่ วนผล ขาดทุนอื่นที่เกี่ยวข้ องกับสินค้ำคงเหลือ (เช่ น ขาดทุนจากสินค้ำสูญหาย เป็ นต้ น) ต้ องบันทึกเป็ น ค่ำใช้ จ่ำย โดยแสดงเป็ นส่ วนหนึ่งของค่ำใช้ จ่ำยในการบริหารในงวดที่มีผลขาดทุนเกิดขึ้น 8 . 17 โดยปกติกิจการสามารถขายสินค้ำคงเหลือจากงวดก่ อนในงวดปั จจุบัน ดังนั้ น กิ จการจึงต้ องรั บรู้ จำ นวนที่เกิดจากการกลั บรายการปรับลดมูลค่ำสินค้ำคงเหลือที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่ำสุทธิ ที่จะได้ รับในงวดปั จจุบัน โดยนาไปหักจากต้ นทุนขายสาหรับงวดปั จจุบัน 8 . 18 สินค้ำบางส่ วนอาจถูกปั นส่ วนไปยังบัญชีสินทรัพย์ อื่น เช่ น สินค้ำที่ใช้ เป็ นส่ วนประกอบของอาคาร และอุปกรณ์ ที่สร้ำงขึ้นเอง เป็ นต้ น สินค้ำที่ปั นส่ วนไปยั งสินทรัพย์ ประเภทอื่นในลักษณะนี้ให้ รับรู้ เป็ นส่ วนหนึ่งของราคาทุนของสินทรัพย์ และรับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำย ตลอดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของ สินทรั พย์ นั้น
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 34 การเปิ ดเผยข้ อมูล 8 . 19 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลทุกข้ อต่ อไปนี้ในงบการเงิน 8 . 19 . 1 นโยบายการบัญชีที่ใช้ ในการวัดมูลค่ำสินค้ำคงเหลือ และวิธีที่ใช้ คานวณราคาทุน 8 . 19 . 2 มูลค่ำตามบัญชีรวมของสินค้ำคงเหลือและมูลค่ำตามบัญชีของสินค้ำคงเหลือแต่ ละ ประเภท จาแนกตามความเหมาะสมของแต่ ละกิจการ โดยทั่วไปสินค้ำคงเหลือจะถูก จัดประเภทเป็ นสินค้ำสาเร็จรูป สินค้ำระหว่ำงทา วัตถุดิบและวัสดุการผลิต สาหรับ สินค้ำคงเหลือของผู้ ให้ บริการ อาจแสดงเป็ นงานระหว่ำงทา 8 . 19 . 3 มูลค่ำของสินค้ำคงเหลือที่รับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำยในการบริหารในรอบระยะเวลารายงาน 8 . 19 . 4 มูลค่ำของสินค้ำคงเหลือที่ปรับลดลงและรั บรู้ เป็ นส่ วนหนึ่งของต้ นทุนขายในรอบ ระยะเวลารายงาน 8 . 19 . 5 มูลค่าการบันทึกกลับรายการมูลค่าของสินค้าคงเหลือที่ปรับลดลง และรับรู้เป็นส่วน หนึ่ง ของต้ นทุนขายในรอบระยะเวลารายงานก่ อน 8 . 19 . 6 มูลค่ำตามบัญชีของสินค้ำคงเหลือที่ใช้ เป็ นหลักประกันหนี้สิน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 35 บทที่ 9 เงินลงทุน 9 . 1 เงินลงทุน หมายถึง ตราสารหนี้และตราสารทุนที่กิจการมีไว้ เพื่ อเพิ่มความมั่งคั่ งให้ กับกิจการ ไม่ ว่ำจะอยู่ ในรูปของส่ วนแบ่ งที่จะได้ รับ เช่ น ดอกเบี้ ย ค่ำสิทธิ และเงินปั นผล หรืออ ยู่ ในรูปของ ราคาที่เพิ่มขึ้น หรือในรูปของประโยชน์ ที่ กิจการได้ รั บ เช่ น ประโยชน์ ที่ได้ จากความสัมพันธ์ ทาง การค้ำ การวัดมูลค่ำเมื่อเริ่มแรก 9 . 2 กิจการต้ องจัดประเภทเงินลงทุนในตราสารหนี้ และเงินลงทุนในตราสารทุนเป็ น 9 . 2 . 1 เงินลงทุนในหลักทรัพย์ ที่อยู่ ในความต้ องการของตลาด ซึ่ งหมายถึง หลักทรัพย์ ที่มีการ ซื้ อขายในตลาด โดยมีการซื้ อขายตลอดเวลาทาการ ระหว่ำงผู้ ซื้อและผู้ ขายที่มีความ รอบรู้ มีความเต็มใจ และเป็ นอิสระจากกัน และมีการเปิ ดเผยราคาต่ อสาธารณชน ตัวอย่ำงของตลาดที่มีลักษณะข้ำงต้ น ได้ แก่ ตลาดหลักทรัพย์ แห่ งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ และตลาดตราสารหนี้ ( Bond Electronic Exchange : BEX ) เป็ นต้ น โดยแบ่ งเป็ น 2 ประเภท ดังนี้ 9 . 2 . 1 . 1 หลักทรั พย์ เพื่อค้ำ หมายถึง เงินลงทุนในตราสารทุนในความต้ องการของ ตลาดหรือตราสารหนี้ทุกชนิดที่กิจการถือไว้ โดยมีวัตถุประสงค์ หลักที่จะ ขายในอนาคตอันใกล้ ทาให้ กิจการถือหลักทรัพย์ นั้นไว้ เป็ นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อหากาไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์ ดังนั้น หลักทรัพย์ เพื่ อค้ำจึงมีอัตราการหมุนเวียนสูง 9 . 2 . 1 . 2 หลั กทรั พย์ เผื่อขาย หมายถึง เงินลงทุนในตราสารทุนในความต้ องการของ ตลาดหรือตราสารหนี้ทุกชนิด ซึ่ งไม่ ถือเป็ นหลักทรัพย์ เพื่อค้ำและใน ขณะเดียวกันไม่ เป็ นตราสารหนี้ที่กิจการตั้งใจจะถือจนครบกาหนด 9 . 2 . 2 เงินลงทุนที่ไม่ ใช่ หลักทรัพย์ ที่อยู่ ในความต้ องการของตลาด 9 . 3 เงินลงทุนในตราสารหนี้ต้ องจั ดประเภทตราสารหนี้เป็ นหลักทรัพย์ เพื่ อค้ำหรือหลักทรัพย์ เผื่อขาย เว้ นแต่ ว่ำตราสารหนี้ นั้นเป็ นตราสารหนี้ที่ จะถือจนครบกำหนด 9 . 4 เงินลงทุนในตราสารทุนต้ องจัดประเภทตามที่ระบุไ ว้ ในย่ อหน้ำที่ 9 . 2 เว้ นแต่ ว่ำตราสารทุนนั้นเป็ น เงินลงทุนในบริษั ทย่ อย บริษัทร่ วม หรือการร่ วมค้ำ 9 . 5 เงินลงทุนในบริษัทย่อย หมายถึง เงินลงทุนในตราสารทุนของกิจการ (ซึ่งรวมถึงกิจการที่ไม่ได้ ก่อตั้งในรูปบริษัท เช่น ห้างหุ้นส่วน) ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ลงทุน (ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่) บริษัทใหญ่ถือว่ามีอานาจในการควบคุมเมื่อบริษัทใหญ่มีอานาจในการออกเสียงเกินก ว่ากึ่งหนึ่ง ในกิจการที่ไปลงทุน ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมโดยผ่านบริษัทย่อยอื่น ยกเว้นในกรณีที่ บริษัทใหญ่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอานาจในการออกเสียงนั้นไม่ทาให้บริษั ทใหญ่ สามารถควบคุมกิจการดังกล่าวได้ ในทางกลับกัน บริษัทใหญ่ถือว่าไม่มีอานาจ ในการควบคุมเมื่อ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 36 บริษัทใหญ่มีอานาจในการออกเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งในกิจการที่ไปลงทุน ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือ ทางอ้อมโดยผ่านบริษัทย่อยอื่น ยกเว้นในกรณีที่บริษัทใหญ่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าอานาจในการออกเสียงนั้นทาให้บริษัทใหญ่สามารถควบคุมกิจการดัง กล่าวได้ 9 . 6 เงินลงทุนในบริษัทร่วม หมายถึง เงินลงทุนในตราสารทุนของกิจการ (ซึ่งรวมถึงกิจการที่ไม่ได้ ก่อตั้งในรูปบริษัท เช่น ห้างหุ้นส่วน) ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลอย่างมีนัยสาคัญของผู้ลงทุนและไม่ถือ เป็นบริษัทย่อยหรือส่วนได้เสียในการร่วมค้า ผู้ลงทุนถือว่ามีอิทธิ พลอย่างมีนัยสาคัญต่อกิจการที่ ไปลงทุน เมื่อผู้ลงทุนมีอานาจในการออกเสียง อย่างน้อยร้อยละ 20 ในกิจการที่ไปลงทุนไม่ว่าจะ เป็นทางตรงหรือทางอ้อม (เช่น โดยผ่านบริษัทย่อย) ยกเว้นในกรณีที่ผู้ลงทุนมีหลักฐานที่แสดง ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอิทธิพลนั้นไม่เกิดขึ้น 9 . 7 เงิน ลงทุนในการร่วมค้า หมายถึง เงินลงทุนในตราสารทุนของกิจการ (ซึ่งรวมถึงกิจการที่ไม่ได้ ก่อตั้งในรูปบริษัท เช่น ห้างหุ้นส่วน) ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมร่วมของผู้ร่วมค้า โดยผู้ร่วมค้า มีสิทธิในสินทรัพย์สุทธิของการร่วมการงานนั้น 9 . 8 กิจการต้ องวัดมูลค่ำเงินลงทุนทุกประเภทเมื่อเริ่มแรกด้ วยราคาทุน ซึ่งหมายถึงมูลค่ำยุติธรรมของ สิ่งตอบแทนที่ ให้ ไ ปเพื่อให้ ได้ มาซึ่งเงินลงทุน นั้ น บวกด้วยต้นทุนการทารายการ 9 . 9 ต้นทุนการทารายการ คือ ต้นทุนที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินลงทุนนั้น โดยต้นทุนนี้ จะไม่เกิดขึ้นหากกิจการไม่ซื้อเงินลงทุนดังกล่าว ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนี ยมและค่านายหน้าที่จ่าย ให้กับตัวแทน ที่ปรึกษา นายหน้าและตัวแทนจาหน่าย และค่าภาษีอากรในการโอน ต้นทุนการทา รายการไม่รวมถึงส่วนเกินหรือส่วนลดมูลค่าของตราสารหนี้ ต้นทุนในการจัดหาเงินทุนหรือ ค่าใช้ จ่ายในการบริหารเป็นการภายใน หรือต้นทุนในการถือครอง 9 . 10 ราคาทุนของเงินลงทุนในตราสารหนี้เมื่อเริ่มแรกไม่ รวมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นก่ อนที่กิจการจะได้ เงิน ลงทุนดังกล่ำวมา เช่ น ดอกเบี้ ยที่เกิดขึ้นก่ อนที่กิจการจะได้ หุ้ นกู้ ที่ ระบุอัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ย ดังกล่ำ วรวมอยู่ ในราคาซื้อของหุ้ นกู้ แต่ ไม่ ถือเป็ นส่ วนหนึ่งของราคาทุนของเงินลงทุน เป็ น ต้ น การวัดมูลค่ำภายหลังการได้ มา เงินลงทุนในตราสารทุน 9 . 11 กิจการต้ องวัดมูลค่ำเงินลงทุนในตราสารทุนที่เป็ นหลักทรัพย์ ที่ อยู่ ในความต้ องการของตลาด ด้ วย มูลค่ำยุติธรรม ณ วันสิ้ นรอบระยะเวลารายงาน ตามปกติกิจการจะวัดมูลค่ำเงินลงทุนในตราสารที่ ถื ออยู่ ด้ ว ย ราคาเสนอซื้อปั จจุบั น หากราคาเสนอซื้อปั จจุบั นไม่ สามารถหาได้ หรือไม่ เป็ นตัวแทน ของมูลค่ำยุติธรรม กิจการอาจใช้ ราคาซื้ อขายครั้งล่ำสุดเมื่อสถานการณ์ ทางเศรษฐกิจไม่ เปลี่ ยนแปลงอย่ำงเป็ นสาระสา คัญระหว่ำงวันที่มีการซื้อขายครั้งล่ำสุดกั บวั นที่วัดมูลค่ำ กิจการต้ อ ง รับรู้ ผลต่ำงระหว่ำง มูลค่า ตามบัญชีและมูลค่ำยุติธรรม ณ วั นสิ้ นรอบระยะเวลารายงานเป็ นกาไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่ เกิดขึ้นจากการปรับมูลค่ำเงินลงทุนในหลักทรัพย์ ในความต้ องการของตลาดไป ยังงบกาไรขาดทุน หากหลักทรัพย์ นั้ นเป็ นไปตามคา นิยามของหลั กทรัพย์ เพื่ อค้ำ และรั บรู้ กาไร
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 37 (ขาดทุน) ดั งกล่ำวไปยังส่ วนของเจ้ำของ (หรือรายการกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น หากกิจการเลือก จัดทางบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) หากหลักทรัพย์ นั้นเป็ นไปตามคานิยามของหลักทรัพย์ เผื่อขาย 9 . 12 กิจการต้ องวัดมูลค่ำเงินลงทุนในตราสารทุนที่ไม่ ใช่ หลักทรัพย์ ที่อยู่ ในความต้ องการของตลาด หรือ เงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทร่วม หรือการร่วมค้าด้ วย ราคาทุนเดิมหักด้ วยค่ำเผื่อการลดลงของ มูลค่ำ (ถ้ำมี) ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน เงินลงทุนในตราสารหนี้ 9 . 13 กิจการต้ องวัดมูลค่ำเงินลงทุนในตราสารหนี้ทุกชนิดที่กิจการตั้งใจจะถือจนครบกาหนดและเงิน ลงทุนในตราสารหนี้ ที่ ไม่ ใช่ หลักทรัพย์ ที่ อยู่ ในความต้ องการของตลาดที่กิจการไม่ ได้ ตั้ งใจจะถือจน ครบกาหนด ด้ วยราคาทุนตัดจาหน่ำยหั กด้ วยค่ำเผื่อการลดลงของมูลค่ำ (ถ้ำมี) ณ วันสิ้นรอบ ระยะเวลารายงาน โดยราคาทุนตัดจำหน่ำย หมายถึง ราคาทุนของตราสารหนี้ที่ได้ มาเมื่อเริ่มแรก หักเงินต้ นที่จ่ำยคืน และบวกหรือหักค่ำตัดจำหน่ำยสะสมของส่ วนต่ำงระหว่ำงราคาทุนเริ่มแรกกับ มูลค่ำที่ตราไว้ โดยใช้ วิธีการตั ดจาหน่ำยส่ วนต่ำงตามวิธีอัตรา ดอกเบี้ย ที่แท้ จริงหรือวิธีอื่นที่ให้ ผล ไม่ แตกต่ำงจากวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้ จริงอย่ำงมีสาระสาคัญ 9 . 14 กิจการต้ องวัดมูลค่ำเงินลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็ นหลักทรัพย์ ที่ อยู่ ในความต้ องการของตลาดที่ กิจการไม่ ได้ ตั้งใจจะถือจนครบกาหนดด้ วยมูลค่ำยุติธรรม และกิจการต้ องรับรู้ ผลต่ำงระหว่ำง ราคาทุนตัดจาหน่ำยและมูลค่ำยุติธรรม ณ วัน สิ้นรอบระยะเวลารายงาน เป็ นกาไร (ขาดทุน) ที่ยัง ไม่ เกิดขึ้นจากการปรั บมูลค่ำเงินลงทุนในหลักทรัพย์ ในความต้ องการของตลาดไปยังงบกาไร ขาดทุนหากหลักทรัพย์ นั้ นเป็ นไปตามคานิยามของหลักทรัพย์ เพื่อค้ำ และรับรู้ กาไร (ขาดทุน) ดังกล่ำวไปยังส่ วน ของเจ้ำของ (หรือรายการกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น หากกิจการเลือกจัดทางบ กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) หากหลักทรัพย์ นั้น เป็ นไปตามคานิยามของหลั กทรั พย์ เผื่ อขาย ค่ำเผื่อการลดมูลค่ำของเงินลงทุน 9 . 15 ในกรณีที่มีข้ อบ่ งชี้ว่ำเงินลงทุนมีมูลค่ำลดลงอย่ำงถาวร เช่ น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ลดลงอย่ำงมี สาระสาคัญและติดต่ อกันเป็ นระยะเวลายาวนาน หรือมีหลักฐานที่แสดงให้ เห็นว่ำความน่ำ เชื่อถือ ของผู้ ออกตราสารลดลงอย่ำงเป็ นสาระสาคัญ เป็ นต้ น กิจการต้ องรับรู้ ผลขาดทุนจากการลดมูลค่ำ ของเงินลงทุนในงบกาไรขาดทุน หากกิจการสามารถประมาณราคาขำยได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือโดยที่ไม่ มีต้ นทุนสูงมากจนเกินไป และราคาขายหักด้ วยต้ นทุนในการขายเงินลงทุนต่า กว่ำ มูลค่า ตามบัญชี ของเงินลงทุน ในกรณีที่ไม่ ปรากฏว่ำมีข้ อบ่ งชี้ ข้ำงต้ นอีกต่ อไป กิจการสามารถบันทึกกลับรายการ ผลขาดทุนดั งกล่ำวได้ การจาหน่ำยเงินลงทุน 9 . 16 ในการจาหน่ำยเงินลงทุน กิจการต้ องบันทึกผลต่ำงระหว่ำงมูลค่ำยุติธรรมของสิ่งตอบแทนสุทธิที่ ได้ รับกับ มูลค่า ตามบัญชีของเงินลงทุนเป็ นกาไร (ขาดทุน) ทันทีที่เกิดขึ้น
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 38 9 . 17 หากกิจการจาหน่ำยเงินลงทุนเพียงบางส่ ว น มูลค่า ตามบัญชีต่ อหน่ วยที่ใช้ ในการคานวณกาไร (ขาดทุน) จากการจาหน่ำยเงินลงทุนชนิดเดียวกันต้ องคานวณโดยใช้ วิธีถัวเฉลี่ยถ่ วงน้า หนักหรือ วิธีเข้ำก่ อน - ออกก่ อน การโอนเปลี่ยนประเภทเงินลงทุน 9 . 18 ตามปกติ การโอนเปลี่ยนเงินลงทุนจากประเภทหนึ่งไปเป็ นอีกประเภทหนึ่งจะไม่ เกิดขึ้นบ่ อย เนื่องจากกิจการต้ องมีวั ตถุประสงค์ ที่ ชัดเจนในการถือเงินลงทุน นับตั้ งแต่ เริ่มแรกที่ได้ เงินลงทุน มา หากกิจการไม่ มีวัตถุประสงค์ ที่ชัดเจน กิจการต้ องจัดประเภทเงินลงทุนนั้นเป็ นหลักทรัพย์ เผื่อ ขา ย ในทันที อย่ำงไรก็ตาม สถานการณ์ ที่เปลี่ ยนไปอาจทาให้ กิจการต้ องโอนเปลี่ยนประเภทเงิน ลงทุน การโอนเปลี่ยนประเภท เงินลงทุนต้ องมีหลักฐานสนับสนุนอย่ำงเพียงพอ 9 . 19 กิจการต้ องปฏิบัติเกี่ยวกับการโอนเปลี่ยนเงินลงทุนจากประเภทหนึ่งไปเป็ นอีกประเภทหนึ่ง ดังต่ อไปนี้ 9 . 19 . 1 สาหรั บการโอนเปลี่ยนหลักทรัพย์ เพื่อค้ำไปเป็ นเงินลงทุนประเภทอื่น กิจการต้ องใช้ มูลค่ำยุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชี และรับรู้ ผลต่ำงระหว่ำง มูลค่า ตามบัญชี กับมูลค่ำยุติธรรม ณ วันนั้นในงบกำไรขาดทุนทันที 9 . 19 . 2 สาหรั บการโอนเปลี่ยนเงินลงทุนประเภทอื่นไปเป็ นหลักทรัพย์ เพื่อค้ำ กิจการต้ องใช้ มูลค่ำยุติธรรม ณ วันที่ โอนในการบันทึกบัญชี และรับรู้ ผลต่ำงระหว่ำง มูลค่า ตามบัญชี กับมูลค่ำยุติธรรม ณ วันนั้น พร้ อมทั้งกลับบัญชีทุกบัญชีที่ เกี่ยวข้ องกับเงินลงทุนที่โอน เปลี่ยนในงบกาไรขาดทุนทันที 9 . 19 . 3 สาหรับตราสารหนี้ที่โอนเปลี่ยนจากหลักทรัพย์ เผื่อขายไปเป็ นตราสารหนี้ที่จะถือจน ครบกำหนด กิจการต้ องใช้ มูลค่ำยุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชี และปรับปรุง ส่ วนเกินทุนหรือส่ วนต่า กว่ำทุนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ำของเงินลงทุนด้ วย ผลต่ำงระหว่ำง มูลค่า ตามบัญชีกับมูลค่ำยุติธรรม ณ วั นที่โอน ส่ วนเกินทุนหรือส่ วนต่า กว่ำทุนดังกล่ำวยังคงแสดงเป็ นรายการแยกต่ำงหากในส่ วนของเจ้ำของ และต้ องตัด จำหน่ำย ตลอดอายุที่เหลืออยู่ ของตราสารหนี้ ในลักษณะเดียวกับการตัดจาหน่ำย ส่ วนเกินหรือส่ วนลดของตราสารหนี้โดยใช้ วิ ธีอัตราดอกเบี้ ยที่แท้ จริงหรือวิธีอื่นที่ให้ ผล ไม่ แตกต่ำงกันอย่ำงมีนั ยสาคัญ 9 . 19 . 4 สาหรับการโอนเปลี่ยนตราสารหนี้ ที่ จะถือจนครบกาหนดไปเป็ น หลักทรั พย์ เผื่ อขาย กิจการต้ องใช้ มูลค่ำยุติธรรม ณ วั นที่ โ อนในการบันทึกบัญชี และรับรู้ ผลต่ำงระหว่ำ ง มูลค่า ตามบัญชีกับมูลค่ำยุติธรรม ณ วันที่โอนเป็ นรายการแยกต่ำงหากในส่ วนของ เจ้ำของ 9 . 19 . 5 สาหรับตราสารทุนที่โอนเปลี่ยนจากหลั กทรัพย์ เผื่อขายไปเป็ นตราสารทุนที่ไม่ ใช่ หลักทรัพย์ ที่อยู่ ในความต้ องการของตลาดหรือเงินลงทุนในบริษัทย่ อย บริษัทร่ วม หรือการร่ วมค้ำ กิจการต้ องใช้ มูลค่ำยุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชี พร้ อมทั้ง กลับบัญชีทุกบัญชีที่เกี่ยวข้ องกับหลักทรัพย์ เผื่ อขาย กิจการต้ องปฏิบัติตามข้ อกาหนด
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 39 ในบทที่ 5 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการทาง บัญชี และข้อผิดพลาด เมื่อกิจการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีที่ใช้ 9 . 19 . 6 สาหรับตราสารทุนที่โอนเปลี่ยนจากตราสารทุนที่ไม่ ใช่ หลักทรัพย์ ที่อยู่ ในความต้ องการ ของตลาดหรือเงินลงทุนในบริษัทย่ อย บริษัทร่ วม หรือการ ร่ วมค้ำ ไปเป็ นหลักทรัพย์ เผื่อขาย กิจการต้ องใช้ มูลค่ำยุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชี และรับรู้ ผลต่ำง ระหว่ำงราคาตามบัญชีกับมูลค่ำยุติธรรม ณ วันที่โอนเป็ นรายการแยกต่ำงหากในส่ วน ของเจ้ำของ การเปิ ดเผยข้ อมูล 9 . 20 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลเกี่ยวกับเงินลงทุน ดังนี้ 9 . 20 . 1 สาหรับเงินลงทุนในตราสารหนี้ที่ไม่ ใช่ หลักทรัพย์ ที่อยู่ ในความต้ องการของตลาดและ เงินลงทุนในตราสารหนี้ที่ เป็ นหลักทรัพย์ ที่อ ยู่ ในความต้ องการของตลาดที่กิจการตั้ งใจ ถือจนครบกาหนด ให้ กิจการเปิ ดเผยข้ อมูลเกี่ยวกับราคาทุนตัดจาหน่ำย จานวนเงิน ตามสัญญา และระยะเวลาครบกำหนด 9 . 20 . 2 สาหรับเงินลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็ นหลักทรัพย์ ที่อยู่ ในความต้ องการของตลาดที่ กิจการไม่ ได้ ตั้งใจถือจนครบกาหนด ให้ กิจการเปิ ดเผยข้ อมูลเกี่ยวกับมูลค่ำยุติธรรม ราคาทุนตัดจาหน่ำย จานวนเงินตามสัญญา กาไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่ เกิดขึ้นจากกำร ปรับมูลค่ำเงินลงทุน และระยะเวลาครบกำหนด 9 . 20 . 3 สาหรับเงินลงทุนในตราสารทุนที่ไม่ ใช่ หลักทรัพย์ ที่ อยู่ ในความต้ องการของตลาด ให้ กิจการเปิ ดเผยข้ อมูลเกี่ยวกั บราคาทุนและขาดทุนจากการปรับมูลค่ำเงินลงทุน (ถ้ำมี) 9 . 20 . 4 สำหรับเงินลงทุนในตราสารทุนที่เป็ นหลักทรัพย์ ที่อยู่ ในความต้ องการของตลาด ให้ กิจการเปิ ดเผยข้ อมูลเกี่ ยวกั บมูลค่ำยุติธรรม ราคาทุน และกาไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่ เกิดขึ้นจากการปรับมูลค่ำเงินลงทุน 9 . 20 . 5 ให้ เปิ ดเผยข้ อจากัดในการขายเงินลงทุน เช่ น การนาเงินลงทุนไปใช้ เป็ นหลักประกัน เป็ นต้ น หากเงินลง ทุนข้ำงต้ นมีข้ อจากัดดังกล่ำว
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 40 บทที่ 10 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 10 . 1 ที่ ดิน อาคารและอุปกรณ์ หมายถึง สินทรัพย์ ที่มีตัวตนที่กิจการมีไว้ เพื่ อใช้ ประโยชน์ ในการผลิต ในการจาหน่ำยสินค้ำ ให้ บริการ ให้ เช่ำหรือใช้ ในการบริหารงาน ซึ่งกิจการคาดว่ำจะใช้ ประโยชน์ มากกว่ำหนึ่งรอบระยะเวลา รายงาน การรับรู้ รายการ 10 . 2 กิจการต้ องรับรู้ ต้ นทุนเริ่มแรกเพื่อให้ ได้ มาหรือก่ อสร้ำงรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ และ ต้ นทุน ที่เกิดขึ้นในภายหลังเมื่อมีการซ่ อมบำรุง ต่ อเติม ดัดแปลง ปรับปรุง เปลี่ยนแทน ส่ วนประกอบของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เป็ นสินทรัพย์ เมื่อเป็ นไปตามเงื่อนไขทุกข้ อ ต่ อไปนี้ 10 . 2 . 1 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะได้ รั บประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจาก รายการนั้ น 10 . 2 . 2 กิจการสามารถวัดมูลค่ำต้ นทุนของรายการนั้นได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 10 . 3 ตามปกติ ชิ้ นส่ วนอะไหล่ และอุปกรณ์ ที่ใช้ ในการซ่ อมบารุงจะจัดประเภทเป็ นสินค้ำคงเหลือและ รับรู้ ในงบกาไรขาดทุนเมื่อนามาใช้ อย่ำงไรก็ตาม ชิ้ นส่ วนอะไหล่ ที่สาคัญและอุปกรณ์ ที่สารองไว้ ใช้ งานที่ กิจการคาดว่ำจะใช้ ประโยชน์ ได้ มากกว่ำหนึ่งรอบระยะเวลารายงาน ให้ ถือเป็ นที่ ดิน อาคารและอุปกรณ์ สาหรับชิ้นส่ วนอะไหล่ และอุปกรณ์ ที่ ใช้ ในการซ่ อมบำรุงที่ต้ องใช้ ร่ วมกับ รายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ กิจการต้ องบันทึกชิ้ นส่ วนอะไหล่ และอุปกรณ์ นั้นเป็ นที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ การวัดมูลค่ำเมื่อเริ่มแรก 1 0 . 4 กิจการต้ องวัดมูลค่ำของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ที่เข้ำเงื่อนไขการรับรู้ รายการเป็ น สินทรัพย์ โดยใช้ ราคาทุน ส่ วนประกอบของราคาทุน 1 0 . 5 ราคาทุนของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ประกอบด้ วย 10 . 5 . 1 ราคาซื้อรวมอากรขาเข้ำและภาษีซื้อที่เรียกคืน ไม่ ได้ หลังหักส่ วนลดการค้ำ และจานวน ที่ไ ด้ รับคืนจากผู้ ขาย 10 . 5 . 2 ต้ นทุนทางตรงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้ องกับการจัดหาสินทรัพย์ เพื่ อให้ สินทรัพย์ นั้นอยู่ ใน สถานที่ และสภาพที่พร้ อมจะใช้ งานได้ ตามความประสงค์ ของฝ่ำยบริหาร 10 . 5 . 3 ต้ นทุนที่ประมาณที่ดีที่สุดสาหรับการรื้ อ การขนย้ำย และการบูรณะสถานที่ ตั้งของ สินทรัพย์ ซึ่งเป็ นภาระผูกพันของกิจกา รที่เกิดขึ้ นเมื่อกิจการได้ สินทรัพย์ นั้นมาหรือเป็ น ผลจากการใช้ สินทรัพย์ นั้นในช่ วงเวลาหนึ่ง
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 41 การวัดมูลค่ำของราคาทุน 1 0 . 6 กิจการอาจได้ รับรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ จากการแลกเปลี่ยนกับรายการสินทรัพย์ ที่ ไม่ เป็ นตัวเงินหรือแลกเปลี่ยนกับทั้ งรายการสินทรัพย์ ที่ เป็ นตัวเงินและไม่ เป็ นตัวเงิน กิจการต้ อง วัดมูลค่ำต้ นทุนของสินทรัพย์ ที่ ได้ มาด้ วยมู ลค่ำยุติธรรมของสิ นทรั พ ย์ ที่ นา ไปแลกเปลี่ ยนเว้ นแต่ กรณีที่ มูลค่ำยุติธรรมของสินทรัพย์ ที่ ได้ มานั้นมี หลั กฐานสนับสนุนที่ ชัดเจนกว่ำ หากไม่ สามารถวัด มูลค่ำยุติธรรมได้ อย่ำงน่ำเชื่ อถือได้ กิจ การต้ องบันทึกสินทรัพย์ ที่ได้ รับจากการแลกเปลี่ ยนด้ วย มูลค่า ตามบัญชีของสินทรัพย์ ที่นาไปแลกเปลี่ยน 10 . 7 ในการครอบครองอาคารชุดหรือสินทรัพย์ อื่นที่มีลักษณะคล้ำยคลึงกั น ในสถานการณ์ ที่กิจการได้ สิทธิ ในการครอบครองและใช้ ประโยชน์ เฉพาะพื้นที่ของอาคารชุดหน่ วยนั้น และทรัพย์ สิน ส่ วนกลางที่มีสิทธิในการใช้ ร่ วมกันกับเจ้ำของอาคารชุดหน่ วยอื่น ให้ กิจการรับรู้ ต้ นทุนทั้งหมดของ การได้ มาซึ่งอาคารชุดหรือสินทรัพย์ อื่นที่มีลักษณะคล้ำยคลึงกันไว้ เป็ นรายการอาคารและอุปกรณ์ ที่ ได้ มาเป็ นหน่ วยเดียวกัน 1 0 . 8 กิจการต้ องปั นส่ วนรายจ่ำยที่เกิดขึ้นให้ กับรายการสินทรัพย์ ทุกรายการที่รวมอยู่ ในรายจ่ำยนั้ น และบันทึกรายการแต่ ละรายการเป็ นสินทรัพย์ แยกจากกัน หากสินทรัพย์ แต่ ละรายการมีอายุการ ใช้ ประโยชน์ ไม่ เท่ำกันหรือให้ ประโยชน์ ต่ อกิจการในรูปแบบที่ต่ำงกันอย่ำงมีสาระสาคัญ ซึ่งทาให้ กิจการต้ องใช้ วิธี การคิดค่ำเสื่อมราคาและอัตราที่ไม่ เหมือนกัน ตัวอย่ำงเช่ น กิจการจาเป็ นต้ อง แยกบันทึกอาคารออกจากลิฟท์ หรือบันไดเลื่อน และแยกบั นทึกอาคารออกจากที่ดิน เป็ นต้ น ต้ นทุนที่เกิดขึ้นในภายหลัง 1 0 . 9 ภายใ ต้ เกณฑ์ การรับรู้ รายการตามย่ อหน้ำที่ 10 . 2 กิจการต้ องไม่ รับรู้ ต้ นทุนที่เกิดขึ้ นในการซ่ อม บารุงรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ที่เกิดขึ้นเป็ นประจาเป็ นส่ วนหนึ่งของมูลค่ำตามบัญชีของ รายการ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ นั้นหากรายจ่ำยดังกล่ำวมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็ น “ ค่ำซ่ อมแซม และบารุงรักษา ” รายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ แต่ กิจการต้ อง รับรู้ ต้ นทุนดังกล่ำวเป็ นค่ำใช้ จ่ำย ในงบกำไรขาดทุนเมื่อเกิดขึ้น 1 0 . 10 กิจการอาจจาเป็ นต้ องเปลี่ยนแทนส่ วนประกอบของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ บางรายการ ตามระยะเวลาที่กาหนด กิจการต้ องรั บรู้ ต้ นทุ นในกำ รเปลี่ ยนแทนส่ วนประกอบดังกล่ำวเป็ นส่ วน หนึ่ งของมูลค่ำตามบั ญชีของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้ อง เมื่อต้ นทุนนั้นเกิดขึ้ น และเป็ นไปตามเกณฑ์ การรับรู้ รายการ กิจการต้ องตัดมูลค่ำตามบัญชีของชิ้นส่ วนที่ถูกเปลี่ยนแทน ตามหลักการของการ เลิกรับรู้ รายการที่กาหนดไว้ ในมาตรฐานการรายงานทางการเงินนี้ 1 0 . 11 กิจการอาจจาเป็ น ต้ องจัดให้ มีการตรวจสอบสภาพครั้งใหญ่ ตามระยะเวลาที่กาหนด เพื่อค้ นหา ข้ อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ ว่ำจะมีการเปลี่ยนแทนชิ้นส่ วนใดหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อให้ รายการที่ ดิน อาคารและอุปกรณ์ อยู่ ในสภาพที่สามารถใช้ งานได้ ต่ อเนื่อง กิจการต้ องรับรู้ ต้ นทุนที่ เกิดขึ้ นจาก การตรวจสอบสภาพครั้งใหญ่ แต่ ละครั้งเป็ นส่ วนหนึ่งของมูลค่ำตามบัญชีของรายการที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ เช่ นเดียวกับกรณีการเปลี่ยนแทน หากเป็ นไปตามเกณฑ์ การรับรู้ รายการตาม
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 42 ย่ อหน้ำที่ 10 . 2 กิจการต้ องพิจารณาตัดมูลค่ำตามบัญชีที่คงเหลือของต้ นทุนการตรวจสอบสภาพ ครั้งใหญ่ ในครั้ งก่ อน การวัดมูลค่ำภายหลังการรับรู้ รายการ 10 . 12 กิจการต้ อง เลือก ใช้ นโยบายการบัญชีโดยใช้ วิธีราคาทุน หรือวิธีการตีราคาใหม่ ทั้งนี้กิจการต้องใช้ นโยบายการบัญชีเดียวกันสาหรับที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ทุกรายการที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน วิธีราคาทุน 10 . 13 ภายหลังจากการรับรู้รายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์เป็นสินทรัพย์ กิจการต้ องแสดงรายการ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ นั้นด้ วยราคาทุนหักค่ำเสื่ อมราคาสะสม และค่ำเผื่อการลดลงของมูลค่ำ (ถ้ำมี) วิธีการตีราคาใหม่ 10 . 14 ภายหลังจากการรับรู้รายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์เป็นสินทรัพย์ หากที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ นั้นสามารถวัดมูลค่ายุติธรรมได้อย่างน่าเชื่อถือ กิจการต้องแสดงรายการดังกล่าวด้วยราคา ที่ตีใหม่ ราคาที่ตีใหม่ คือ มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่มีการตีราคาใหม่หักด้วยค่าเสื่อมราคาสะสม และค่าเผื่อการ ลดลง ของมูลค่าที่เกิดขึ้นในภายหลัง (ถ้ามี) โดย กิจการต้องตีราคาสินทรัพย์ใหม่ อย่างสม่าเสมอ เพื่อให้ มั่น ใจว่ามูลค่าตามบัญชีจะไม่แตกต่างจากมูลค่ายุติธรรม ณ วันสิ้นรอบ ระยะเวลารายงานอย่างมีสาระสาคัญ 10 . 15 มาตรฐาน การรายงานทางการเงินฉบับนี้สนับสนุน (แต่ไม่ได้บังคับ) ให้ กิจการวัดมูลค่ายุติธรรม ของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ โดยใช้การประเมินมูลค่าจากผู้ประเมินราคาอิสระซึ่งมีคุณสมบัติ ทางวิชาชีพและประสบการณ์ในทางวิชาชีพที่เกี่ยวข้องในการประเมินราคาของที่ดิน อาคารและ อุปกรณ์ดังกล่าว 10 . 16 ความถี่ในการตีราคาใหม่ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยน แปลงในมูลค่ายุติธรรมของรายการที่ดิน อาคารและ อุปกรณ์ที่มีการตีราคาใหม่นั้น ในกรณีที่มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ที่เคยมีการตีราคาใหม่ ต่างไปจากมูลค่าตามบัญชีอย่างมีสาระสาคัญ กิจการจาเป็นต้องตีราคาสินทรัพย์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง มูลค่ายุติธรรมของรายการที่ดิน อาคารแ ละอุปกรณ์บางรายการอาจมีความผันผวนและมีการ เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสาคัญจนทาให้กิจการจาเป็นต้องตีราคาใหม่ทุกปี อย่างไรก็ตาม การตี ราคาบ่อยครั้งไม่จาเป็นสาหรับรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่มูลค่ายุติธรรมเปลี่ยนแปลง อย่างไม่มีนัยสาคัญ ในกรณีดังกล่าว การ ตีราคาใหม่ทุ ก 3 หรือ 5 ปี ถือว่าเพียงพอ 10 . 17 เมื่อมีการตีราคารายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ใหม่ ให้ปรับปรุงมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ เป็นราคาที่ตีใหม่ โดย ณ วันที่ตีราคาใหม่ กิจการต้องถือปฏิบัติ ตามข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ 10 . 17 . 1 ปรับปรุงมูลค่าตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสมในลักษณะที่สม่าเสมอกับ การตีราคาใหม่ของมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ ตัวอย่างเช่น มูลค่าตามบัญชีก่อนหัก ค่าเสื่อมราคาสะสมอาจจะปรับโดยการอ้างอิงจากข้อมูลในตลาดที่สังเกตได้ หรือ ปรับ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 43 ให้เป็นสัดส่วนกับการเปลี่ยนแปลงในมู ลค่าตามบัญชี ค่าเสื่อมราคาสะสม ณ วันที่ตี ราคาใหม่จะถูกปรับปรุงให้เท่ากับผลต่างระหว่างมูลค่าตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคา สะสม และมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์หลังจากรับรู้ค่าเผื่อการลดลงของมูลค่า หรือ 10 . 17 . 2 นาค่าเสื่อมราคาสะสมไปหักออกจากมูลค่าตามบัญชีก่อนหัก ค่าเสื่อมราคาสะสมของ สินทรัพย์ จำนวนเงินที่เป็นผลจากรายการปรับปรุงอันเกิดจากปรับยอดค่าเสื่อมราคาสะสมให้ถือเป็น ส่วนหนึ่งของมูลค่าตามบัญชีที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงที่จะถือปฏิบัติตามข้อกาหนดในย่อหน้าที่ 10 . 20 และ 10 . 21 10 . 18 หากกิจการเลือกตีราคาที่ดิน อาคารและอุ ปกรณ์รายการใดรายการหนึ่งใหม่ กิจการต้องใช้วิธีการ ตีราคาใหม่กับรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ทุกรายการที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน 10 . 19 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ทุกรายการที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันต้องตีราคาใหม่พร้อมกัน ทั้งนี้เพื่อมิให้มีการเลือกตีราคาเฉพาะสินทรั พย์บางรายการ และเพื่อมิให้มูลค่าของสินทรัพย์ที่ แสดงอยู่ในงบการเงินมีทั้งต้นทุนและราคาที่ตีใหม่ ณ เวลาแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม กิจการอาจ ทยอยตีราคาสินทรัพย์ที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันได้หากการตีราคาของสินทรัพย์ประเภทนั้นจะ เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาอันสั้น และราคา ของสินทรัพย์ที่ตีใหม่แสดงถึงข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน 10 . 20 หากการตีราคาสินทรัพย์ใหม่ทาให้มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์นั้นเพิ่มขึ้น กิจการต้องรับรู้มูลค่า ตามบัญชีของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการตีราคาใหม่ไปยังส่วนของเจ้าของโดยตรง (หรือรายการ กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น หากกิจการเลือกจัดทำงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) ภายใต้หัวข้อ “ ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ ” อย่างไรก็ตาม กิจการต้องรับรู้ส่วนเพิ่มจากการตีราคาใหม่ นี้ในงบกาไรขาดทุนไม่เกินจานวนที่ตีราคาสินทรัพย์ดังกล่าวลดลงในอดีตและเคยรับรู้ในงบกาไร ขาดทุน 10 . 21 หากการตีราคา สินทรัพย์ใหม่ทาให้มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์นั้นลดลง กิจการต้องรับรู้มูลค่า ตามบัญชีของสินทรัพย์ที่ลดลงจากการตีราคาใหม่ในงบกาไรขาดทุน อย่างไรก็ตาม กิจการต้อง นาส่วนที่ลดลงจากการตีราคาใหม่ไปรับรู้ในส่วนของเจ้าของโดยตรง (หรือรายการกาไรขาดทุน เบ็ดเสร็จอื่น หากกิ จการเลือกจัดทางบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) ใน จานวนที่ไม่เกินยอดคงเหลือ ด้านเครดิตที่มีอยู่ในบัญชี “ ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ ” ของสินทรัพย์รายการเดียวกันนั้น 10 . 22 กิจการอาจโอนส่วนเกินทุนจากการตีราคารายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ที่รวมอยู่ใน ส่วนของเจ้าของไปยังกาไรสะสมโดยตรงเมื่อกิจการ เลิกรับรู้ รายการสินทรัพย์นั้น โดยอาจจะโอน ส่วนเกินทุนทั้งหมดจากการตีราคาสินทรัพย์ดังกล่าวไปยังกาไรสะสมเมื่อกิจการจาหน่ายหรือเลิก ใช้สินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่กิจการใช้งานสินทรัพย์ดังกล่าว กิจการอาจทยอยโอน ส่ วนเกินทุนบางส่วนไปยังกาไรสะสม ในกรณีนี้จานวนของส่วนเกินทุนที่โอนไปยังกาไรสะสม จะเท่ากับผลต่างระหว่างค่าเสื่อมราคาที่คานวณจากมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่ตีราคาใหม่กับ ค่าเสื่อมราคาที่คานวณจากราคาทุนเดิมของสินทรัพย์นั้น การโอนส่วนเกินทุนจากการตีราคา สินทรัพ ย์ ต้องโอนผ่าน โดยตรง ไปยังกำไรสะสม
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 44 10 . 23 หากกิจการ เลือก ถือปฏิบัติตาม มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 12 เรื่อง ภาษีเงินได้ กิจการต้องรับรู้ รายการและเปิดเผยรายการผลกระทบทางภาษี ( ถ้ามี ) จากการตีราคาใหม่ สาหรับรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์โดยปฏิบัติตามข้อกาหนดในมาตรฐานการ บัญชีดังกล่าวอย่างสม่าเสมอ ค่ำเสื่อมราคา 10 . 24 กิจการต้ องคิดค่ำเสื่อมราคาสาหรับส่ วนประกอบของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ แต่ ละส่ วน ที่มีนัยสาคัญแยกต่ำงหากจากกัน 10 . 25 มูลค่ำเสื่อมสภาพของรายการอาคารและอุปกรณ์ ต้ องปั นส่ วนเป็ นค่ำเสื่อมราคาอย่ำงมีระบบตลอด อายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ วิธีการคิดค่ำเสื่อมราคาต้ องสะท้ อนถึงประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจที่ กิจการได้ รับจากการใช้ สินทรัพย์ ค่ำเสื่อมราคาที่เกิดขึ้นแต่ ละงวดต้ องรับรู้ เป็ นค่ำใ ช้ จ่ำย ยกเว้ น ค่ำเสื่อมราคาที่ต้ องนาไปรวมเป็ น มูลค่า ตามบัญชีของสินทรัพย์ ชนิดอื่น กิจการต้ องไม่ คิดค่ำเสื่อม ราคาสาหรับสินทรั พย์ ที่มี อายุ การใช้ ประโยชน์ ไม่ จำ กั ด เช่ น ที่ ดิน เป็ นต้ น จานวนที่คิดค่ำเสื่อมราคาและระยะเวลาการคิดค่ำเสื่อมราคา 1 0 . 26 กิจการต้ องปั นส่ วนจานวนที่คิดค่ำเสื่อมราคาของสินทรัพย์ อย่ำงมีระบบตลอดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ 1 0 . 27 จานวนที่คิดค่ำเสื่อมราคาของสินทรัพย์ ต้ องเป็ น ราคาทุนของสินทรัพย์ หลังจากหักมูลค่ำคงเหลือ หรือ ราคาที่ตีใหม่ หลังจากหักมูลค่ำคงเหลือ 1 0 . 28 มูลค่ำคงเหลือ หมายถึง จานวนเงินที่กิจการคาดว่ำจะได้ รับในปั จจุบันจากการจาหน่ำยสินทรัพย์ หลังจากหักต้ นทุนที่คาดว่ำจะเกิดขึ้นจากการจาหน่ำยสินทรัพย์ น้ัน หากสินทรัพย์ นั้นมีอายุและ สภาพที่คาดว่ำจะเป็ น ณ วันสิ้นสุดอายุการ ใช้ ประโยชน์ 1 0 . 29 กิจการควรทบทวนมูลค่ำคงเหลือและอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ อย่ำงสม่าเสมอ หาก กิจการคาดว่ำมูลค่ำคงเหลือและอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ แตกต่ำงไปจากที่ได้ ประมาณไว้ อย่ำงมีสาระสาคัญ กิจการต้ องคานวณค่ำเสื่อมราคาใหม่ โดยใช้ วิธี เปลี่ ยนทั นที เป็ นต้ นไป 1 0 . 30 การคิดค่ำเสื่อมราคาของสินทรัพย์ จะเริ่มต้ นเมื่ อสินทรัพย์ นั้นพร้ อมใช้ งาน เช่ น เมื่อสินทรัพย์ อยู่ ในสถานที่ และสภาพที่พร้ อมจะใช้ งานได้ ตามความประสงค์ ของฝ่ำยบริหาร การคิดค่ำเสื่อมราคา จะสิ้นสุดเมื่อกิจการ เลิกรับรู้ รายการสินทรัพย์ นั้ นหรือเมื่ อ ได้ จัดประเภทสิ นทรั พย์ ดังกล่ำวเป็ น สินทรัพย์ ไม่ หมุนเวียนที่ถือไว้ เพื่อขาย แล้ วแ ต่ เหตุการณ์ ใดจะเกิดขึ้นก่ อน 1 0 . 31 ในการกำหนดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ กิจการต้ องคานึงถึงปั จจัยดังต่ อ ไปนี้ 10 . 31 . 1 ประโยชน์ ที่คาดว่ำจะได้ รับจากการใช้ สิ นทรั พย์ โดยประเมินจากกาลั งการผลิ ตหรื อ ผลผ ลิ ตที่ คาดว่ำจะได้ จากสินทรัพย์ นั้น 10 . 31 . 2 การชารุดเสียหายทางกายภาพที่คาดว่ำจะเกิดขึ้นจากปั จจัยต่ำงๆ ในการดาเนินงาน เช่ น จานวนผลัดในการใช้ และแผนการซ่ อมแซมและบารุงรักษา รวมทั้งการดูแลและ บารุงรักษาสินทรัพย์ ในขณะที่หยุดใช้ งานสินทรั พย์
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 45 10 . 31 . 3 ความล้ำสมัยทางด้ำนเทคนิคหรือทางพาณิชย์ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงหรือการ ปรับปรุงการผลิต หรือเกิดจากการเปลี่ ยนแปลงความต้ องการในสินค้ำหรือบริการ ซึ่ง เป็ นผลผลิตจากสินทรัพย์ นั้น 10 . 31 . 4 ข้อกาหนดทางกฎหมายหรือข้อจากัดอื่นที่คล้ายคลึงกันในการใช้สินทรัพย์ เช่น การ สิ้นสุดอายุของสัญญาเช่าที่เกี่ยวข้อง 10 . 32 ที่ดินและอาคารเป็นสินทรัพย์ที่แยกจากกันได้และบันทึกแยกจากกันแม้ว่าจะได้มาพร้อมกัน ที่ดิน จะมีอายุการใช้ประโยชน์ไม่จำกัดจึงไม่จำเป็นต้องคิดค่าเสื่อมราคา ยกเว้นในบางกรณี เช่น เหมือง แร่ที่ทาบนผิวดิน หรือพื้นที่ที่ใช้สาหรับการทิ้งขยะ อาคารมีอายุการใช้ประโยช น์ที่จากัดจึงเป็น สินทรัพย์ที่เสื่อมสภาพได้ การเพิ่มขึ้นของมูลค่าที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารไม่มีผลกระทบต่อการ กาหนดจานวนที่คิดค่าเสื่อมราคาของอาคาร 10 . 33 หากกิจการรวมต้นทุนสาหรับการรื้อ การขนย้าย และการบูรณะสถานที่ตั้งของสินทรัพย์เป็นส่วน หนึ่งของต้นทุนที่ดิน กิจการ ต้อง คิดค่าเสื่อมราคาสาหรับต้นทุนดังกล่าวตลอดระยะเวลาที่คาดว่า จะได้รับประโยชน์จากต้นทุนนั้น ในบางกรณี ที่ดินอาจมีอายุการใช้ประโยชน์จากัดจึงต้องมีการ คิดค่าเสื่อมราคาในลักษณะที่สะท้อนให้เห็น ถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากที่ดินดังกล่าว วิธีการคิดค่ำเสื่อมราคา 10 . 34 กิจการต้ องเลือกใช้ วิธีการคิดค่ำเสื่อมราคาที่สะท้ อนรูปแบบของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคต ที่ กิจการคาดว่ำจะได้ รับจากสินทรั พย์ 10 . 35 กิจการต้ องทบทวนวิธีการคิดค่ำเสื่อมราคาของสินทรัพย์ อย่ำงสม่าเสมอ หากกิจการพบว่ำลักษณะ รูปแบบของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจที่คาดว่ำจะได้ รั บ ในอนาคตจากสินทรั พย์ นั้นเปลี่ ยนแปลงไป อย่ำงมีสาระสาคัญ กิจการต้ องเปลี่ยนวิธีการคิดค่ำเสื่อมราคา เพื่อสะท้ อนถึงลักษณะรูปแบบของ ประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจที่เปลี่ ยนแปลงไปโดยใช้ วิธีเปลี่ยนทั นทีเป็ นต้ นไป 10 . 36 วิธีการคิดค่ำเสื่อมราคามีหลายวิธี เช่ น วิธีเส้ นตรง วิธียอดคงเหลือลดลง และวิธีจานวนผลผลิต เป็ น ต้ น วิธีเส้ นตรงมีผลทาให้ ค่ำเสื่อมราคามีจานวนคงที่ตลอดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ หากมูลค่ำคงเหลือของสินทรัพย์ นั้นไม่ เปลี่ยนแปลง วิธียอดคงเหลือลดลงมีผลทาให้ ค่ำ เสื่อมราคา ลดลงตลอดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ วิธีจำนวนผลผลิตมีผลทาให้ ค่ำเสื่อมราคาขึ้นอยู่ กับ ประโยชน์ หรือผลผลิตที่คาดว่ำจะได้ รั บจากสินทรั พย์ การคิดค่ำเสื่อมราคาต้ องตั้ ง อยู่ บนพื้นฐานของมูลค่ำตามบัญชีภายหลั งค่ำเผื่ อการลด ล งของ มู ลค่ำ ของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ณ วันที่กาหนดมูลค่ำของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ใหม่ นั้น การลดลงของมูลค่าที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 10 . 37 ในกรณีที่มีข้ อบ่ งชี้ว่ำรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ มีมูลค่ำลดลงอย่ำงถาวร เช่ น มีหลักฐาน แสดงให้ เ ห็นว่ำสินทรัพย์ ล้ำสมั ยหรือชารุดเสียหาย มีการเปลี่ยนแปลงอย่ำงมีนัยสาคัญเกี่ยวกับ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 46 ลักษณะที่กิจการใช้ หรือคาดว่ำจะใช้ สินทรัพย์ ซึ่งส่ งผลกระทบทางลบต่ อกิจการในระหว่ำงงวด หรือคาดว่ำจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ รวมถึงการที่สินทรัพย์ ไม่ ได้ ถู กใช้ งานอีกต่ อไป การเกิด ภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อย่ำงรุนแรงติดต่ อกันเป็ นระยะเวลายาวนาน ซึ่งไม่ สามารถ คาดการณ์ ได้ ว่ำภาวะดังกล่ำวจะหมดไปเมื่อไร เป็ นต้ น กิจการต้ องรับรู้ ผลขาดทุนจากการลด มูลค่ำของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ในงบกาไรขาดทุน หากกิจการสามารถประมาณราคา ขายได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือโดยที่ไม่ มีต้ นทุนสูงมากจนเกินไป (ไม่ จาเป็ นต้ องเป็ นราคาที่ประเมินโดยผู้ ประเมินราคาอิสระ) และราคาขายหักด้ วยต้ นทุนในการขายรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ต่า กว่ำ มูลค่า ตามบัญชีของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ในกรณีที่ไม่ ปรากฏว่ำมีข้ อบ่ งชี้ข้ำงต้ น อีกต่ อไป กิจการสามารถบันทึกกลับรายการผลขาดทุนดังกล่ำวได้ 10 . 38 ในการประมาณผลขาดทุน ตามย่อหน้าที่ 10 . 37 กิจการสามารถพิจารณามูลค่าจากการใช้ของ สินทรัพย์ (ตามวิธีคานวณที่ระบุในมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 36 เรื่อง การด้อยค่าของสินทรัพย์ ) แทนประมาณราคาขายหักด้วยต้นทุนในการขายได้ หาก สามารถประมาณ มูลค่าจากการใช้ สินทรัพย์ ได้อย่างน่าเชื่อถือ สินทรัพย์ ไม่ หมุนเวียนที่ถือไว้ เพื่อขาย 10 . 39 กิจการต้ องจัดประเภท สินทรัพย์ เป็ นสินทรั พย์ ไม่ หมุนเวียนที่ถือไว้ เพื่อขาย หากกิจการมี วัตถุประสงค์ ที่จะถือไว้ เพื่อขายโดยพิจารณาจากการที่มูลค่ำตามบัญชีที่จะได้ รับคืนส่ วนใหญ่ มา จากการขาย มิใช่ มาจากการใช้ สินทรัพย์ นั้น 10 . 40 เมื่อกิจการจัดประเภทสินทรัพย์ เป็ นสินทรั พย์ ไม่ หมุนเวียนที่ถือไว้ เพื่อขาย ให้ กิจการปฏิบัติดังนี้ 10 . 40 . 1 วัดมูลค่ำสินทรัพย์ ที่จัดประเภทเป็ นสินทรัพย์ ไม่ หมุนเวียนที่ถือไว้ เพื่อขาย ด้ วยจานวน ที่ ต่า กว่ำระหว่ำงมูลค่ำตามบัญชีและราคาที่คาดว่ำจะขายได้ สุทธิจากต้ นทุนในการขาย และรับรู้ ผลขาดทุนจากการลดมูลค่ำสาหรับการลดมูลค่ำในครั้งแรกหรือในครั้งต่ อๆ ไปของสินทรัพย์ ในงบกาไรขาดทุนทันที เพื่อให้ มูลค่ำของสินทรัพย์ เท่ำกับราคาที่ คาดว่ำจะขายได้ สุทธิจากต้ นทุนในการขาย 10 . 40 . 2 กิจการต้ องรับรู้ ผลกาไรจากการเพิ่มขึ้นในภายหลังของราคาที่คาดว่ำจะขายได้ สุทธิจาก ต้ นทุนในการขายของสินทรัพย์ ในงบกำไรขาดทุน แต่ ไม่ เกินยอดผลขาดทุนจากการลด มูลค่ำสะสมที่เคยรั บรู้ ก่ อนหน้ำนี้ 10 . 40 . 3 กิจการต้ องไม่ บันทึกค่ำเสื่อมราคา (หรือค่ำตัดจาหน่ำย) ของสินทรัพย์ นั้นระหว่ำงที่ สินทรัพย์ นั้นถูกจัดประเภทเป็ นสินทรัพย์ ไม่ หมุนเวียนที่ถือไว้ เพื่อขาย 10 . 40 . 4 เมื่อกิจการจาหน่ำยสินทรัพย์ กิจการต้ องรับรู้ กาไร (ขาดทุน) ที่เกิดขึ้นในงบกำไร ขาดทุน เมื่อกิจการ เลิ กรับรู้ รายการสินทรัพย์ นั้น 10 . 40 . 5 กิจการต้องแยกแสดงการจัดประเภทของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายในงบ แสดงฐานะการเงินเป็นรายการหมุนเวียนและไม่หมุนเวียน โดยให้ถือปฏิบัติตาม ย่อหน้าที่ 4 . 8 ของบทที่ 4 เรื่อง การนำเสนองบการเงิน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 47 การ เลิกรับรู้ รายการ 10 . 41 กิจการต้ อง เลิกรับรู้ รายการมูลค่ำตามบัญชีของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เมื่อเป็ นไปตาม เงื่ อนไขข้ อใดข้ อหนึ่ งดังต่ อไปนี้ 1 0 . 41 . 1 กิจการจำหน่ำยสินทรัพย์ 1 0 . 41 . 2 กิจการคาดว่ำจะไม่ ได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจากการใช้ สินทรัพย์ หรือจาก การจำหน่ำยสินทรัพย์ 10 . 42 มูลค่าตามบัญชี คือ จานวนเงินของสินทรัพย์ที่รับรู้หลังจากหักค่าเสื่อมราคาสะสม และค่าเผื่อการ ลดลงของมูลค่า 10 . 43 ในกรณีที่กิจการ เลิกรับรู้ รายการมูลค่ำตามบัญชีของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เมื่อกิจการ จาหน่ำยสินทรัพย์ กิจการต้ องรั บรู้ กา ไร ( ขาดทุ น) ที่ เกิ ดขึ้ นจากการ เลิกรับรู้ รายการที่ ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ในงบกาไรขาดทุนเมื่อกิจการ เลิกรับรู้ รายการสินทรัพย์ นั้น โดยผลกาไร (ขาดทุน) ที่ เกิดจากการ เลิกรับรู้ รายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ คือ ผลต่ำงระหว่ำงสิ่งตอบแทนสุทธิ ที่ ได้ รับจากการจำหน่ำยสินทรัพย์ กับมูลค่ำตามบัญชีของสินทรัพย์ นั้น 10 . 44 ในกรณีที่กิจการ เลิกรับรู้ รายการมูลค่ำตามบัญชีของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เมื่อกิจการ คาดว่ำจะไม่ ได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจากการใช้ สินทรัพย์ หรือจากการจาหน่ำย สินทรัพย์ กิจการต้ องรับรู้ กาไร (ขาดทุน) ที่เกิดขึ้ นจากการ เลิกรับรู้ รายการที่ดิน อาคารและ อุปกรณ์ ในงบกำไรขาดทุนเมื่อกิจการ เลิกรับรู้ รายการสินทรัพย์ โดยผลกำไร (ขาดทุ น) ที่เกิดจาก การ เลิกรับรู้ รายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ คือ มูลค่ำตามบัญชีของสินทรัพย์ นั้น การเปิ ดเผยข้ อมูล 10 . 45 กิจการต้ องเปิ ดเผยรายการต่ อไปนี้ทุกข้ อในงบการเงินสาหรับที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ แต่ ละ ประเภท 10 . 45 . 1 เกณฑ์ การวัดมูลค่ำที่ใช้ กำหนดมูลค่ำตามบัญชี ก่ อนหักค่ำเสื่อมราคาสะสมของ สินทรัพย์ และค่ำเผื่อการลด ลงของ มูลค่ำ (ถ้ำมี) 10 . 45 . 2 วิธีการคิดค่ำเสื่อมราคา 10 . 45 . 3 อายุการ ใช้ ประโยชน์ หรืออั ตราค่ำเสื่อมราคาที่ใช้ 10 . 45 . 4 มูลค่ำตามบัญชีก่ อนหักค่ำเสื่อมราคาสะสม ค่ำเสื่อมราคาสะสมของสินทรัพย์ และ ค่ำเผื่อการลดมูลค่ำ ณ วั นต้ นงวดและสิ้นงวด และรายการกระทบยอดของมูลค่ำตาม บัญชีระหว่ำงวั นต้ นงวดถึงวันสิ้ นงวดที่แสดงถึง 10 . 45 . 4 . 1 มูลค่ำของสิน ทรัพย์ ที่เพิ่มขึ้ น 10 . 45 . 4 . 2 มูลค่าของสินทรัพย์ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อ ขาย 10 . 45 . 4 . 3 ค่ำเสื่อมราคา 10 . 45 . 4 . 4 ผลขาดทุนจากการลดมูลค่าและการกลับรายการผลขาดทุนที่รับรู้ในงบ กำไรขาดทุน (ถ้ามี)
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 48 10 . 45 . 4 . 5 การเปลี่ยนแปลงอื่น 10 . 46 กิจการต้ องเปิ ดเผยรายการต่ อไปนี้ทุกรายการในงบการเงินด้ วย 10 . 46 . 1 ข้ อบ่ งชี้ว่ำรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ มี มู ลค่ำลดลงอย่ำงถาวร 10 . 46 . 2 จานวนและข้ อจากัดในกรรมสิทธิ์ของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ที่ ใช้ เป็ นหลั กประกัน หนี้สิน 10 . 46 . 3 จานวนเงินภาระผูกพันตามสัญญาที่ตกลงไว้ เพื่อให้ ได้ มาซึ่งที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 10 . 47 ในกรณีที่กิจการเลือกนโยบายการบัญชีด้วยวิธีการตีราคาใหม่ กิจการต้องเปิดเผยรายการต่อไปนี้ เพิ่มเติม 10 . 47 . 1 วันที่มีการตีราคาสินทรัพย์ใหม่ 10 . 47 . 2 ข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ประเมินราคาอิสระมีส่วนร่วมในการตีราคาใหม่หรือไม่ หากกรณีที่ ไม่ได้ใช้ผู้ประเมินราคาอิสระ กิจการต้องบอกถึงวิธีการประมาณการของมูลค่ายุติธรรม ดังกล่าว 10 . 47 . 3 สาหรับที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ที่แต่ละประเภทมีการตีราคาใหม่ให้เปิดเผยมูลค่าตาม บัญชีที่ ควรจะรับรู้หากสินทรัพย์นั้นแสดงโดยใช้วิธีราคาทุน 10 . 47 . 4 การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของสินทรัพย์ซึ่งเป็นผลจากการตีราคาใหมที่รับรู้ไปยังส่วนของ เจ้าของ โดยตรง (หรือรายการกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น หากกิจการเลือกจัดทางบกาไร ขาดทุนเบ็ดเสร็จ) และ จากการรับรู้หรือกลับรายการผลขาดทุนจากการลดลงของมูลค่า ไปยังงบกำไรขาดทุน และ 10 . 47 . 5 ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ ซึ่งกิจการต้องแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ของส่วนเกินทุนดังกล่าวในระหว่างงวด และข้อจากัดในการจ่ายส่วนเกินทุนนั้นให้กับ ผู้ถือหุ้น
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 49 บทที่ 11 สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน 11 . 1 สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน หมายถึง สินทรัพย์ ที่ ไม่ เป็ นตัวเงินที่สามารถระบุได้ และไม่ มีลักษณะทาง กายภาพ ตัวอย่ำงเช่ น สินทรัพย์ ทางปั ญญา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เครื่องหมายการค้ำ ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร สัมปทาน และฟิ ล์ มภาพยนตร์ เป็ นต้ น 11 . 2 สินทรัพย์ สามารถระบุได้ ก็ต่ อเมื่อ 11 . 2 . 1 สามารถแยกเป็ นเอกเทศได้ กล่ำวคือ สามารถแยกหรือแบ่ งจากกิจการ และสามารถขาย โอน ให้ สิทธิ ให้ เช่ำ หรือแลกเปลี่ ยนได้ อย่ำงเอกเทศ หรือโดยรวมกับสัญญา เป็ น สินทรัพย์ หรือหนี้ สิน ที่สามารถระบุได้ โดยไม่ คา นึงว่ำกิจการตั้งใจจะแยกเป็ นเอกเทศ หรือไม่ หรือ 11 . 2 . 2 ได้ มาจากการทาสัญญาหรือสิทธิทางกฎหมายอื่ นๆ โดยไม่ คานึงถึงว่ำสิทธิเหล่ำนั้นจะ สามารถโอนหรือสามารถแบ่ งแยกจากกิจการ หรือจากสิทธิและภาระผูกพันอื่นๆ การรับรู้ รายการ 11 . 3 กิจการรับรู้ สินทรั พย์ ไม่ มีตัวตนได้ ก็ต่ อเมื่อเข้ำเกณฑ์ ทุกข้ อต่ อไปนี้ 11 . 3 . 1 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะได้ รับประโยชนเชิงเศรษฐกิจในอนาคตที่จะ เกิดจากสินทรัพย์ นั้น 11 . 3 . 2 ราคาทุนของสินทรัพย์ สามารถวัดมูลค่ำได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 11 . 4 กิจการต้ องประเมินความน่ำจะเป็ นที่กิจการจะได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจาก สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน โดยใช้ ข้ อสมมติที่สมเหตุสมผลและมีหลักฐานสนับสนุน ข้ อสมมติดังกล่ำว ต้ องแสดงให้ เห็นถึงการประมาณที่ดีที่สุดของฝ่ำยบริหารต่ อสภาวะทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตลอด ช่ วงอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ 1 1 . 5 ในบางกรณี กิจการก่ อให้ เกิดรายจ่ำยเพื่อให้ ได้ มาซึ่งประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคต แต่ ไม่ สามารถรับรู้ รายจ่ำยดังกล่ำวเป็ นสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนหรือสินทรัพย์ อื่นได้ ตัวอย่ำงของรายจ่ำยที่ ต้ องรับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำยเมื่อเกิดขึ้นรวมถึงรายการต่ อไปนี้ 11 . 5 . 1 รายจ่ำยเกี่ยวกับกิจกรรมก่ อนการดาเนินงาน เช่ น ค่ำที่ ปรึกษากฎหมายและค่ำใช้ จ่ำย ด้ำนเลขานุการ ที่เกิดขึ้นในการจัดตั้งกิจการให้ เป็ นนิติบุคคล รายจ่ำยในการเปิ ด โรงงานหรือธุรกิจใหม่ หรือรายจ่ำยสาหรับเริ่มการดาเนินงานใหม่ หรือการเปิ ดตัว ผลิตภัณฑ์ ใหม่ หรือกรรมวิธีใหม่ 11 . 5 . 2 รายจ่ำยในกิจกรรมการอบรมบุคลากรต่ำง ๆ 11 . 5 . 3 รายจ่ำยในกิจกรรมการโฆษณาและการส่ งเสริมการขาย 1 1 . 5 . 4 รายจ่ำยในการย้ำยสถานที่หรือรายจ่ำยในการจัดองค์ กรใหม่ ไม่ ว่ำจะเป็ นการย้ำย สถานที่ หรือจัดองค์ กรใหม่ ทั้งหมดหรือบางส่ วน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 50 การวัดมูลค่ำเมื่อเริ่ มแรก 1 1 . 6 กิจการต้ องวัดมูลค่ำสินทรั พย์ ไม่ มีตัวตนเมื่อเริ่มแรกด้ วยราคาทุน สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่ได้ มาแยกต่ำงหาก 1 1 . 7 ราคาทุนของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่ได้ มาแยกต่ำงหาก ประกอบด้ วย 11 . 7 . 1 ราคาซื้อรวมภาษีนาเข้ำและภาษีซื้อที่เรียกคืนไม่ ได้ หั กด้ วยส่ วนลดการค้ำต่ำงๆ และ จานวนที่ได้ รับคืนจากผู้ ขาย 11 . 7 . 2 ต้ นทุนทางตรงอื่นๆ ที่เกี่ยวกั บการจั ดเตรียมสินทรัพย์ เพื่อให้ พร้ อมที่จะใช้ ประโยชน์ ได้ ตามความประสงค์ 1 1 . 8 ตัวอย่ำงของต้ นทุนทางตรง ประกอบด้ วย 11 . 8 . 1 ต้ นทุ นผลประโยชน์ ของพนักงานที่เกิดขึ้นโดยตรงจากการทาให้ สินทรัพย์ อยู่ ในสภาพ พร้ อมใช้ งาน 1 1 . 8 . 2 ค่ำธรรมเนียมทางวิชาชีพที่เกิ ดขึ้ นโดยตรงจากการทา ให้ สิ นทรั พย์ อ ยู่ ในสภาพพร้ อมใช้ งาน 1 1 . 8 . 3 ต้ นทุนการทดสอบสภาพความพร้ อมใช้ งาน 1 1 . 9 ตัวอย่ำงของรายจ่ำยที่ไม่ ถือเป็ นส่ วนหนึ่งของต้ นทุนสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน ประกอบด้ วย 11 . 9 . 1 ต้ นทุนในการแนะนำสินค้ำหรือบริการใหม่ (รวมถึงต้ นทุนในการโฆษณาและการ ส่ งเสริมการขาย) 1 1 . 9 . 2 ต้ นทุนในการดาเนินธุรกิจในสถานที่ ตั้งใหม่ หรือกับลูกค้ำกลุ่ ม ใหม่ (รวมทั้งต้ นทุน ในการฝึ กอบรมพนักงาน) 1 1 . 9 . 3 ต้ นทุนในการบริหารและค่ำใช้ จ่ำยทั่วไป สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่ได้ จากการแลกเปลี่ยน 11 . 10 กิจการอาจได้ รับรายการสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนจากการแลกเปลี่ยนกับรายการสินทรัพย์ ที่ไม่ เป็ น ตัวเงินหรือแลกเปลี่ยนกับทั้ งรายการสินทรัพย์ ที่เป็ นตัวเงินและไม่ เป็ นตัวเงิน กิจการต้ องวัดมูลค่ำ ต้ นทุนของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่ ได้ มาด้ วยมูลค่ำยุติธรรมของสินทรัพย์ ที่ นาไปแลกเปลี่ยน เว้ นแต่ กรณีที่มูลค่ำยุติธรรมของสินทรัพย์ ที่ได้ มานั้ นมีหลักฐานสนับสนุนที่ชัดเจนกว่ำ หากไม่ สามารถวัด มูลค่ำยุติธรรมได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือได้ กิจการต้ องบันทึกสินทรัพย์ ไม่ มีตวตนที่ ได้ รับจากการ แลกเปลี่ยนด้ วย มูลค่า ตามบัญชีของสินทรัพย์ ที่ นาไปแลกเปลี่ยน สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่เกิดขึ้ นภายใน 1 1 . 11 กิจการต้ องไม่ รับรู้ สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่เกิดขึ้นภายในเป็ นสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน แต่ ให้ รับรู้ รายการ ดังกล่ำวเป็ นค่ำใช้ จ่ำยในงบกาไรขาดทุนในงวดที่เกิดขึ้ น เว้ นแต่ สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่ เกิดขึ้น ภายใน ดังกล่ำวเข้ำเกณฑ์ การรับรู้ รายการ 11 . 12 ในการประเมินว่ำสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่เกิดขึ้ นภายในเ ข้ำเกณฑ์ การรับรู้ รายการหรือไม่ กิจการ ต้ องแยกขั้นตอนการก่ อให้ เกิดสินทรัพย์ ดังต่ อไปนี้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 51 11 . 12 . 1 ขั้นตอนการวิจัย 11 . 12 . 2 ขั้นตอนการพัฒนา การวิจัย หมายถึง การสารวจตรวจสอบที่วางแผนและริเริ่มเพื่อให้ ได้ มาซึ่งความรู้ ความเข้ำใจ ใหม่ ๆ ทางด้ำนวิทยาศาสตร์ หรือทางด้ำนเทคนิค การพัฒนา หมายถึง การนาผลของการวิจัยหรือความรู้ อื่นมาใช้ ในแผนงานหรือการออกแบบเพื่อ ผลิตสิ่งใหม่ หรือสิ่งที่ดีขึ้นกว่ำเดิมอย่ำงเป็ นสาคัญก่ อนที่จะเริ่มผลิตหรือใช้ ในเชิงพาณิชย์ ไม่ ว่ำสิ่ง นั้นจะเป็ นวัตถุดิบชิ้นส่ วนอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ กระบวนการ ระบบ หรือบริการ 1 1 . 13 หากกิจการไม่ สามารถแยกขั้นตอนการวิจัยออกจากขั้นตอนการพัฒนาสาหรับโครงการภายในของ กิจการที่ก่ อให้ เกิดสินทรั พย์ ไม่ มีตัวตน กิจการต้ องถือว่ำรายจ่ำยของโครงการดังกล่ำวเป็ นรายจ่ำย ที่เ กิดในขั้นตอนการวิจัยเท่ำนั้น ขั้นตอนการวิจัย 1 1 . 14 กิจการต้ องไม่ รับรู้ รายจ่ำยที่เกิดจากการวิจัย หรือเกิดในขั้นตอนการวิจัยของโครงการภายในเป็ น สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน แต่ ต้ องรับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำยเมื่อรายจ่ำยนั้นเกิดขึ้น 1 1 . 15 ตัวอย่ำงของกิจกรรมการวิจัยมีดังต่ อไปนี้ 11 . 15 . 1 กิจกรรมซึ่งมุ่ งที่จะให้ ได้ มาซึ่งความรู้ ใหม่ 11 . 15 . 2 การค้ นหา การประเมินผล และการคัดเลือกขั้ นสุดท้ำย เพื่อนาผลการวิจัยหรือความรู้ อื่นมาประยุกต์ หรือปฏิบัติ 11 . 15 . 3 การค้ นหาทางเลือกสาหรับวัตถุดิบ ชิ้นส่ วน ผลิตภัณฑ์ ขั้นตอน ระบบ หรือบริการ และ 11 . 15 . 4 สูตรการออกแบบ การประเมินผล และการคัดเลือกขั้นสุดท้ำยของทางเลือกที่เป็ นไป ได้ สำหรับนวัตกรรมหรือสิ่งที่ ดีขึ้นกว่ำเดิม ไม่ ว่ำสิ่งนั้นจะเป็ นวัตถุดิบ ชิ้นส่ วน ผลิตภัณฑ์ ขั้ น ตอน ระบบ หรือบริการ ขั้นตอนการพัฒนา 1 1 . 16 กิจการจะรับรู้ รายจ่ำยที่เกิดจากการพัฒนาหรือเกิดในขั้นตอนการพัฒนาของโครงการภายในเป็ น สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนได้ ก็ต่ อเมื่อกิจการสามารถแสดงว่ำเป็ นไปตามข้ อกาหนดทุกข้ อต่ อไปนี้ 11 . 16 . 1 มีความเป็ นไปได้ ทางเทคนิคที่กิจการจะทาสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนให้ เสร็จสมบูรณ์ เพื่อ นามาใช้ ประโยชน์ หรือขายได้ 1 1 . 16 . 2 กิจการมีความตั้ งใจที่จะทาสินทรัพย์ ไม่ มีตั วตนให้ เสร็จสมบูรณ์ และนามาใช้ ประโยชน์ หรือขาย 1 1 . 16 . 3 กิจการมีความสามารถที่จะนาสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนนั้นมาใช้ ประโยชน์ หรือขาย 1 1 . 16 . 4 กิจการสามารถแสดงให้ เห็นถึงวิธีที่ สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนจะก่ อให้ เกิดประโยชน์ เชิง เศรษฐกิจในอนาคต เหนืออื่ นใดกิจการต้ องสามารถแสดงให้ เห็นว่ำสินทรัพย์ ไม่ มี ตัวตนหรือสิ่งที่จะเกิดจากสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนนั้นมีตลาดรองรับอยู่ จริง หรือหาก
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 52 กิจการนาสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนไปใช้ เป็ นการภายใน กิจการต้ องสามารถแสดงให้ เห็นถึง ประโยชน์ ที่จะได้ รั บจากสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนนั้น 1 1 . 16 . 5 กิจการมีความสามารถในการจั ดหาทรัพยากรด้ำนเทคนิค ด้ำนการเงิน และด้ำนอื่นได้ เพียงพอที่จะนามาใช้ เพื่ อทาให้ การพัฒนาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ และนาสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน มาใช้ ประโยชน์ หรือนามาขายได้ 1 1 . 16 . 6 กิจการมีความสามารถที่จะวัดมูลค่ำของรายจ่ำยที่เกี่ยวข้ องกับสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่ เกิดขึ้นในระหว่ำงการพัฒนาได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 11 . 17 ในระหว่ำงขั้ นตอนการพัฒนาของโครงการภายใน บางกรณีกิจการสามารถระบุสินทรัพย์ ไม่ มี ตัวตน และสามารถแสดงให้ เห็นว่ำมีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่สินทรัพย์ นั้นจะก่ อให้ เกิด ประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งนี้เพราะขั้นตอนการพัฒนาของโครงการเป็ นขั้นตอนที่ ก้ำวหน้ำมากกว่ำขั้นตอนการวิจัย 11 . 18 ตัวอย่ำงของกิจกรรมการพัฒนา ได้ แก่ 11 . 18 . 1 การออกแบบ การก่ อสร้ำง และการทดสอบแม่ แบบและแบบจำลองในระหว่ำงขั้ นตอน ก่ อนการผลิตหรือขั้นตอนก่ อนการใช้ 11 . 18 . 2 การออกแบบเครื่องมือ โครงประกอบ แม่ พิมพ์ และเบ้ำที่ เกี่ยวข้ องกับเทคโนโลยีใหม่ 11 . 18 . 3 การออกแบบ การก่ อสร้ำง และการดาเนินงานของโรงงานนาร่ อง ซึ่งไม่ ใช่ ขนาดที่จะ สามารถ ทาการผลิตในเชิงพาณิชยได้ 11 . 18 . 4 การออกแบบ การก่ อสร้ำง และการทดสอบ สาหรับทางเลือกที่ ได้ คัดเลือกแล้ ว สาหรับ วัตถุดิบ ชิ้นส่ วน ผลิตภัณฑ์ ขั้นตอน ระบบ หรือบริการใหม่ ๆ หรือที่ได้ ปรับปรุงให้ ดีขึ้น 1 1 . 19 ตัวอย่ำงที่แสดงให้ เห็นว่ำกิจการมีความสามารถในการจัดหาทรัพยากรที่จะทาให้ สินทรัพย์ ไม่ มี ตัวตนเสร็จสมบูรณ์ หรือทาให้ กิจการสามารถใช้ หรือได้ รั บประโยชน์ จากสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน ได้ แก่ แผนงานธุรกิจที่แสดงถึงทรัพยากรด้ำนเทคนิค ด้ำนการเงิน และด้ำนอื่ นที่จาเป็ น และ กิจการมีความสามารถที่จะจัดหาทรัพยากรดังกล่ำวได้ อย่ำงแน่ นอน ในบางกรณี กิจการอาจแสดง ถึง ความสามารถในการจัดหาแหล่ งเงินทุนภายนอกด้ วยหลักฐานที่แสดงถึงเจตจานงที่จะให้ เงิน สนั บสนุนโครงการจากผู้ ให้ กู้ 1 1 . 20 ตามปกติ ระบบต้ นทุนของกิจการจะสามารถวัดราคาทุนของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่เกิดขึ้นภายใน ได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ ตัวอย่ำงเช่ น เงินเดือนหรือรายจ่ำยอื่นที่ เกิดขึ้นเพื่อปกป้ องลิขสิทธิ์หรือ ใบอนุญาต หรือรายจ่ำยที่เกิดขึ้ นเพื่อพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 1 1 . 21 รายจ่ำยสาหรับตราผลิตภัณฑ์ หัวหนังสือ ชื่อสิ่งพิมพ์ รายชื่อลูกค้ำ และรายการอื่นที่โดยเนื้อหา แล้ วคล้ำยคลึงกัน ซึ่งกิจการก่ อให้ เกิดขึ้นภายในเป็ นรายจ่ำยที่ไม่ สามำรถแยกจากต้ นทุนในการ พัฒนาธุรกิจโดยรวม ดังนั้น กิจการต้ องไม่ รับรู้ รายการดังกล่ำวเป็ นสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน ราคาทุนของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่เกิดขึ้นภายใน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 53 11 . 22 ราคาทุนของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่ เกิดขึ้นภายใน คือ ผลรวมของรายจ่ำยที่เกิดขึ้นนับตั้ งแต่ วันที่ สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนเข้ำเกณฑ์ การรับรู้ รายการเป็ นครั้งแรก 1 1 . 23 กิจการต้ องไม่ รับรู้ รายจ่ำยเกี่ยวกั บรายการไม่ มีตัวตนที่ได้ รับรู้ เมื่อเริ่ มแรกเป็ นค่ำใช้ จ่ำยแล้ ว กลับมาเป็ นส่ วนหนึ่งของราคาทุนของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนในภายหลัง 1 1 . 24 ราคาทุนของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่เกิดขึ้นภายในประกอบด้ วยรายจ่ำยที่เกี่ยวข้ องโดยตรงทุก รายการที่ จำเป็ นในการสร้ำงสรรค์ ผลิต และจัดเตรียมสินทรัพย์ เพื่อให้ สามารถนามาใช้ ประโยชน์ ตามประสงค์ ของผู้ บริหาร ตัวอย่ำงของต้ นทุนโดยตรงดังกล่ำว ได้ แก่ 11 . 24 . 1 ต้ นทุนสาหรั บวัตถุดิบและค่ำบริการที่ใช้ ในการก่ อให้ เกิดสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน 11 . 24 . 2 ต้ นทุนผลประโยชน์ ของพนักงานที่เกี่ยวข้ องโดยตรงกับการก่ อให้ เกิดสินทรัพย์ ไม่ มี ตัวตน 11 . 24 . 3 ค่ำธรรมเนียมในการจดทะเบียนเพื่อให้ ได้ มาซึ่งสิทธิตามกฎหมาย 11 . 24 . 4 ค่ำตัดจาหน่ำยของสิทธิบัตรและใบอนุญาตที่ก่ อให้ เกิดสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน 11 . 25 ตัวอย่ำงต่ อไปนี้ไม่ ถือเป็ นส่ วนประกอบของราคาทุนของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่เกิดขึ้ นภายใน 11 . 25 . 1 รายจ่ำยในการขาย การบริหาร และค่ำใช้ จ่ำยทั่วไปอื่น เว้ นแต่ รายจ่ำยดังกล่ำวเกี่ยวข้ อง โดยตรงกั บการจั ดเตรียมสินทรัพย์ ให้ สามารถนามาใช้ ประโยชน์ ได้ 11 . 25 . 2 ความไม่ มีประสิทธิภาพที่สามารถระบุได้ และขาดทุนจากการดาเนินงานเริ่มแรกที่ เกิดขึ้นก่ อนที่ สินทรัพย์ จะสามารถให้ ประโยชน์ ได้ ตามแผนที่ วางไว้ 11 . 25 . 3 รายจ่ำยในการอบรมพนักงานเพื่อนาสินทรัพย์ มาใช้ ในการดาเนินงาน การวัดมูลค่ำภายหลังการรับรู้ รายการ 1 1 . 26 กิจการต้ องวัดมูลค่ำภายหลังการรับรู้ รายการ โดยใช้ วิธีราคาทุน โดยแสดงรายการสินทรัพย์ ไม่ มี ตัวตนด้ วยราคาทุนหักค่ำตั ดจำหน่ำยสะสม และค่ำเผื่ อการลดลงของมูลค่ำ (ถ้ำ มี) 11 . 2 7 ภายหลังจากการรับรู้ รายการสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนเป็ นสินทรัพย์ หากสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนสามารถ วัดมูลค่ำยุติธรรมได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ กิจการอาจเปิ ดเผยมูลค่ำยุติธรรมและเกณฑ์ ในการกาหนด มูลค่ำยุติธรรมในหมายเหตุประกอบงบการเงิน 1 1 . 2 8 ในกรณีที่มีข้ อบ่ งชี้ ว่ำรายการสิ นทรั พย์ ไม่ มี ตั วตน เช่ น การเปลี่ ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ ทา ให้ สิ ทธิ ในสินทรัพย์ ลดลง เป็ นต้ น กิจการต้ องรับรู้ ผลขาดทุนจากการลดมูลค่ำของรายการสินทรัพย์ ไม่ มี ตัวตนในงบกาไรขาดทุน หากกิจการสามารถ ประมาณ ราคาขายของสินทรั พย์ ไม่ มีตัวตนได้ อ ย่ำง น่ำเชื่อถือโดยที่ไม่ มี ต้ นทุนสูงมากจนเกินไป (ไม่ จาเป็ นต้ องเป็ นราคาที่ประเมินโดยผู้ เชี่ยวชาญ พิเศษ) และราคาขายดั งกล่ำวมีจานวนเงินต่า กว่ำ มูลค่า ตามบัญชีของรายการสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน ในกรณีที่ไม่ ปรากฏว่ำมีข้ อบ่ งชี้ ข้ำงต้ นอีกต่ อไป กิจการสามารถบั นทึกกลับรายการผลขาดทุน ดังกล่ำว ได้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 54 อายุการ ใช้ ประโยชน์ 11 . 2 9 กิจการต้ องประเมินอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนว่ำจะกาหนดอายุได้ หรือไม่ และ หา ก สามารถกาหนดได้ อายุการ ใช้ ประโยชน์ จะกาหนดจากระยะเวลาหรือจานวนการผลิตหรือ หน่ วยวั ดอื่นๆ ที่ คล้ำยคลึงกัน กิจการจะพิจารณาว่ำสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนมีอายุการ ใช้ ประโยชน์ ที่ ไม่ ทราบแน่ นอนก็ต่ อเมื่อจากการวิเคราะห์ ปั จ จัยที่เกี่ยวข้ องแล้ ว ไม่ พบข้ อจากัดที่สามารถคาดได้ เกี่ยวกับระยะเวลาที่สินทรัพย์ ดังกล่ำวจะสามารถก่ อให้ เกิดกระแสเงินสดสุทธิที่กิจการจะได้ รับ 11 . 30 ปัจจัยที่ใช้พิจารณาในการกาหนดอายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนรวมถึง 11 . 30 . 1 การนาสินทรัพย์ไม่มีตัวตนมาใช้ประโยชน์ตามที่คาดไว้ ซึ่งรวมถึงการพิจารณาฝ่าย บริหารอื่นสามารถบริหารสินทรัพย์นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ 11 . 30 . 2 วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนและข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการประมาณการ อายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ที่คล้ายคลึงกันที่นำมาใช้ประโยชน์ในลักษณะ เดียวกัน 11 . 30 . 3 ความล้าสมัยด้านเทคนิค เทคโนโลยี การค้า หรือด้านอื่นๆ 11 . 30 . 4 เสถียรภาพของอุตสาหกรรมที่นาสินทรัพย์ไม่มีตัวตนมาใช้ประโยชน์ และการเปลี่ยนแปลง ในความต้องการของตลาดสาหรับสินค้าหรือบริการที่เป็นผลิตผลจากสินทรัพย์ไม่มีตัวตน 11 . 30 . 5 การโต้ตอบจากคู่แข่งในปัจ จุบันหรือคู่แข่งในอนาคตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 11 . 30 . 6 ระดับของรายจ่ายในการบารุงรักษาที่จาเป็นเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ ในอนาคตที่คาดว่าจะได้รับจากสินทรัพย์ไม่มีตัวตน และความสามารถและความตั้งใจ ของกิจการที่จะใช้จ่ายให้เป็นไปตามระดับของรายจ่ายดังกล่า ว 11 . 30 . 7 ระยะเวลาที่กิจการสามารถควบคุมสินทรัพย์และขอบเขตตามกฎหมายหรือขอบเขตอื่น เกี่ยวกับการใช้สินทรัพย์ที่คล้ายคลึงกัน เช่น วันครบกาหนดของสัญญาเช่าที่เกี่ยวข้อง และ 11 . 30 . 8 อายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนขึ้นอยู่กับอายุการใช้ประโยชน์ของ สินทรัพย์อื่ นของกิจการหรือไม่ 1 1 . 3 1 อายุการ ใช้ ประโยชน์ ที่ไม่ ทราบแน่ นอนมิได้ หมายถึงไม่ มีที่สิ้นสุด อายุการ ใช้ ประโยชน์ ของ สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนจะสะท้ อนให้ เห็นเพียงระดับของรายจ่ำยในการบารุงรักษาที่จะเกิดขึ้นใน อนาคตเพื่อดาร ง ให้ สินทรัพย์ มี มาตรฐานของการปฏิบัติงานตามที่ ได้ มี กำ รประเมิ นไว้ ณ เวลาที่ มี การ ประมาณอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ และยังรวมถึงความสามารถและความมุ่ งมั่นของ กิจการเพื่อให้ บรรลุถึงระดับดังกล่ำว แม้ ว่ำอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนอาจมี เวลายาวนานหรือไม่ ทราบแน่ นอน แต่ ตามปกติแล้ วต้ องมีวันสิ้นสุดความไม่ แน่ นอนอาจเป็ นเหตุ ให้ กิจการประมาณอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนโดยใช้ หลักความระมั ดระวัง แต่ ความไม่ แน่ นอนดังกล่ำวไม่ ถือเป็ นเหตุผลที่ กิจการจะสามารถนามาอ้ำงเพื่อกำหนดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนให้ สั้นกว่ำความเป็ นจ ริงจนไม่ สมเหตุสมผล
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 55 11 . 3 2 อายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรั พย์ ไม่ มีตัวตนที่เกิดจากการทาสัญญาหรือสิทธิทางกฎหมายอื่น จะต้ องไม่ เกินอายุสัญญาหรือสิทธิทางกฎหมายอื่น แต่ อาจจะสั้นกว่ำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ กับระยะเวลาที่ กิจการคาดว่ำจะใช้ ประโยชน์ ในสินทรั พย์ นั้นๆ หากสัญญาหรือสิทธิทางกฎหมายนั้นมีระยะเวลาที่ จากัดแต่ สามารถต่ ออายุได้ อายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนนั้นต้ องรวมระยะเวลาที่ ต่ ออายุใหม่ เ ฉพาะกรณีที่มีหลักฐานสนับสนุนได้ ว่ำกิจการไม่ มีต้ นทุนที่เป็ นสาระสาคั ญ จากการต่ อ อายุดั งกล่ำว ระยะเวลาในการตัดจาหน่ำยและวิธีการตัดจาหน่ำย 11 . 3 3 กิจการต้ องปั นส่ วนจานวนที่คิดค่ำตัดจำหน่ำยของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนอย่ำงมีระบบตลอดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวต น กิจการต้ องเริ่มตัดจำหน่ำยสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนเมื่อสินทรัพย์ นั้น พร้ อ มที่ให้ ประโยชน์ ได้ วิธีการตัดจาหน่ำยที่ใช้ ต้ องสะท้ อนถึงรูปแบบที่กิจการคาดว่ำจะได้ ใช้ ประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคต หากไม่ สามารถกาหนดรูปแบบดังกล่ำวได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ กิจการต้ องใช้ วิธีเส้ นตรงในการตั ดจาหน่ำย ค่ำตัดจาหน่ำยในแต่ ละงวดต้ องรับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำยใน งบกำไรขาดทุน 11 . 3 4 วิธีการตัดจาหน่ำยที่ใช้ ในการปั นส่ วนจานวนที่ คิดค่ำตัดจาหน่ำยของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนตาม เกณฑ์ ที่เป็ นระบบตลอดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ นั้ นมีหลายวิธี วิธี ดั งกล่ำวรวมถึงวิธี เส้ นตรง วิธี ยอดคงเหลือลดลง และวิธีจานวนผลผลิต กิจการต้ องเลือกวิธีการตัดจาหน่ำยตาม รูปแบบที่คาดว่ำจะได้ รับประโยชน์ ในอนาคตจากสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน และต้ องใช้ วิธีการตั ด จาหน่ำยนั้นอย่ำงสม่า เสมอในทุกงวด นอกจากว่ำรูปแบบที่คาดว่ำจะได้ รับประโยชน์ ในอนาคต จากสินทรัพย์ นั้นจะเปลี่ยนแปลงไป 11 . 3 5 สำหรับสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่มีอายุการ ใช้ ประโยชน์ ทราบได้ แน่ นอนให้ กิจการตัดจำหน่ำย สินทรัพย์ ตลอดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ที่ทราบได้ แน่ นอนนั้น ส่ วนสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่อายุการ ใช้ ประโยชน์ ไม่ ทราบได้ แน่ นอนให้ กิ จการกำหนดอายุการ ใช้ ประโยชน์ ไม่เกิน 10 ปี มูลค่ำคงเหลือ 1 1 . 3 6 กิจการต้ องกำหนดมูลค่ำคงเหลือของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนให้ เป็ นศูนย์ เว้ นแต่ จะเป็ นไปตาม ข้ อกาหนดข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ 11 . 3 6 . 1 บุคคลที่สามให้ สัญญาว่ำจะซื้ อสินทรัพย์ ไม่ มีตั วตนเมื่อสินทรัพย์ นั้นสิ้นสุดอายุการ ใช้ ประโยชน์ 1 1 . 3 6 . 2 สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนนั้ น มี ตลาดซื้ อขายคล่ องรองรั บ และเป็ นไปตามเงื่อนไขทุ กข้ อ ต่ อไปนี้ 11 . 3 6 . 2 . 1 มูลค่ำคงเหลือสามารถกาหนดได้ โดยอ้ำงอิงกับราคาที่ได้ จากตลาดซื้ อขาย คล่ อง 11 . 3 6 . 2 . 2 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่ตลาดซื้อขายคล่ องนั้นจะมีอยู่ เมื่ออายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรั พย์ สิ้ นสุ ดลง
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 56 1 1 . 3 7 ในกรณีที่กิจการต้ องกาหนดมูลค่ำคงเหลือตามข้ อยกเว้ นในย่ อหน้ำที่ 11 . 3 6 ให้ กิจการประมาณ มูลค่ำคงเหลือของสินทรัพย์ ไม่ มีตั วตนจากมูลค่ำที่คาดว่ำจะได้ รับคืนจากการจำหน่ำยสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน โดยใช้ ราคาขายที่มีอยู่ ณ วันที่มีการประมาณสาหรับการขายสินทรัพย์ ที่คล้ำยคลึงกันที่ อายุการ ใช้ ประโยชน์ กาลังจะสิ้นสุดลง ณ วันที่ประมาณการนั้น การทบทวนระยะเวลาในการตัดจาหน่ำย วิธีการตัดจาหน่ำยและมูลค่ำคงเหลือ 11 . 3 8 กิจการควรทบทวนวิธีการตั ดจำหน่ำยอย่ำงสม่า เสมอ หากกิจการพบว่ำลักษณะการได้ รับ ประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจจากสินทรั พย์ ไม่ มีตัวตนมีการเปลี่ยนแปลงอย่ำงมีสาระสาคัญ กิจการต้ อง เปลี่ ยนวิธีการตัดจาหน่ำยโดยใช้ วิธี เปลี่ ยน ทั นที เป็ นต้ นไป 1 1 . 3 9 กิจการควรทบทวนมูลค่ำคงเหลือและระยะเวลาในการตัดจาหน่ำยของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนอย่ำง สม่า เสมอ หากกิจการคาดว่ำมูลค่ำคงเหลือและระยะเวลาในการตั ดจาหน่ำยของสินทรัพย์ ไม่ มี ตัวตนแตกต่ำงไปจากที่ได้ ประมาณไว้ อย่ำงมีสาระสาคัญ กิจการต้ องคานวณค่ำตัดจาหน่ำยใหม่ โดยใช้ วิธีเปลี่ยนทั นทีเป็ นต้ นไป การเลิกใช้ และการจาหน่ำย 1 1 . 40 กิจการต้ อง เลิกรับรู้ สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน เมื่อ 11 . 40 . 1 กิจการจำหน่ำยสินทรั พย์ ไม่ มีตั วตน หรือ 1 1 . 40 . 2 กิจการคาดว่ำจะไม่ ได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจากการนาสินทรัพย์ นั้นมา ใช้ ประโยชน์ หรือจาหน่ำย 11 . 4 1 กิจการต้ องรั บรู้ ผลต่ำงระหว่ำงจานวนเงินสุทธิที่ได้ รับจากการจำหน่ำยสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน (ถ้ำมี) กั บมูลค่ำตามบัญชีของสินทรั พย์ ไม่ มีตัวตนนั้นเป็ นกาไร (ขาดทุน) ในงบกาไรขาดทุนทันทีที่ เกิดขึ้ น 1 1 . 4 2 กิจการต้ องตัดจาหน่ำยสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนต่ อไปแม้ จะไม่ ได้ ใช้ ประโยชน์ สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนนั้น อีกต่ อไป จนกว่ำกิจการจะตัดจาหน่ำยสินทรัพย์ ดังกล่ำวเต็มจานวนแล้ วหรือได้ จัดประเภท สินทรัพย์ ดังกล่ำวเป็ นสินทรัพย์ ไม่ หมุนเวียนที่ถือไว้ เพื่อขายและปฏิบัติตามข้ อกาหนดเกี่ ยวกับ สินทรัพย์ ไม่ หมุนเวียนที่ถือไว้ เพื่อขายตามย่ อหน้ำที่ 10 . 39 ถึง 10 . 4 0 การเปิ ดเผยข้ อมูล 1 1 . 4 3 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลทุกข้ อต่ อไปนี้ ในงบการเงินสาหรับสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนแต่ ละประเภท 11 . 4 3 . 1 อายุการ ใช้ ประโยชน์ หรืออัตราการตั ดจำหน่ำยของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน 11 . 4 3 . 2 วิธีการตัดจาหน่ำยสาหรั บสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน 11 . 4 3 . 3 มูลค่ำตามบัญชีก่ อนหักค่ำตัดจาหน่ำยสะสม ค่ำตัดจาหน่ำยสะสม และค่ำเผื่อการลด มูลค่ำ (ถ้ำมี) 11 . 4 3 . 4 การกระทบยอดระหว่ำงมูลค่ำตามบัญชี ณ วันต้ นงวดกับมูลค่ำตามบัญชี ณ วันสิ้นงวด ที่แสดงถึงรายการต่ อไปนี้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 57 11 . 4 3 . 4 . 1 จำนวนเงินของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่เพิ่มขึ้น 1 1 . 4 3 . 4 . 2 ค่ำตัดจาหน่ำยที่รับรู้ ในระหว่ำงงวด 11 . 4 4 นอกจากนี้กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลทุกข้ อต่ อไปนี้ในงบการเงิน 11 . 4 4 . 1 มูลค่ำตามบัญชี และระยะเวลาการตัดจาหน่ำยที่เหลืออยู่ สาหรับสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน แต่ ละรายการที่มีสาระสาคัญต่ องบการเงินของกิจการ 11 . 4 4 . 2 มูลค่ำตามบัญชีของสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนที่มีข้ อจากัดในการใช้ และมูลค่ำตามบัญชีของ สินทรั พย์ ไม่ มีตั วตนที่นาไปวางเป็ นประกันหนี้สินไว้ 11 . 4 4 . 3 จานวนเงินที่กิจการผูกมัดตามสัญญาว่ำจะซื้อสินทรัพย์ ไม่ มีตั วตน 11 . 4 4 . 4 ข้ อบ่ ง ชี้ว่ำรายการสินทรัพย์ ไม่ มีตัวตนมีมูลค่ำลดลงอย่ำงถาวร
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 58 บทที่ 12 อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน 1 2 . 1 อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน หมายถึง อสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน หรืออาคาร หรือส่ วนของอาคาร ( ส่ วนควบอาคาร) หรือทั้งที่ดินและอาคาร) ที่ถือครองโดยเจ้ำของหรือโดยผู้ เช่ำภายใต้ สัญญาเช่ำ เงิน ทุน เพื่อหาประโยชน์ จากรายได้ ค่ำเช่ำ หรือจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่ำของสิ นทรัพย์ หรือทั้ ง สอง อ ย่ำง ทั้ งนี้ ไม่ ได้ มีไว้ เพื่อใช้ ในการผลิตหรือจัดหาสินค้ำหรือให้ บริการ หรือใช้ ในการ บริหารงานของกิจการ หรือขายตามลั กษณะการประกอบธุรกิจตามปกติ 1 2 . 2 กิจการถือครองอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนไว้ เพื่อประโยชน์ จากรายได้ ค่ำเช่ำ หรือจากการ เพิ่มขึ้นของมูลค่ำของสินทรั พย์ หรือทั้งสองอย่ำง ดังนั้น อสั งหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนจึง ก่ อให้ เกิดกระแสเงินสดที่โดยส่ วนใหญ่ แล้ วเป็ นอิสระจากสินทรัพ ย์ ประเภทอื่นๆ ของกิจการ 12 . 3 ตัวอย่ำงของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนมีดังต่ อไปนี้ 12 . 3 . 1 ที่ดินที่กิจการถือครองไว้ เพื่ อหวังกาไรจากการเพิ่มมูลค่ำของที่ดินนั้นในระยะยาว มากกว่ำถือครองไว้ เพื่ อขายในระยะสั้ นตามลักษณะการประกอบธุรกิจตามปกติของ กิจการ 12 . 3 . 2 ที่ดินที่กิจการถือครองไว้ โดยที่ปั จจุบันยังมิได้ ระบุวัตถุประสงค์ ของการใช้ ในอนาคต ถ้ำกิจการยังมิได้ ระบุว่ำจะใช้ ที่ดินนั้นเป็ นอสังหาริมทรั พย์ มี ไว้ ใช้ งาน หรือเพื่ อขายใน ระยะสั้นตามลักษณะการประกอบธุรกิจตามปกติของกิจการ ให้ ถือว่ำที่ดินนั้ นถือไว้ เพื่อ หาประโยชน์ จากการเพิ่มมูลค่ำของที่ดิน 12 . 3 . 3 อาคารที่ กิจการเป็ นเจ้ำของ หรืออาคารที่กิจการครอบครองภายใต้ สัญญาเช่ำเงิน ทุน และให้ เช่ำต่ อด้ วยสัญญาเช่ำดาเนินงาน ไม่ ว่ำจะเป็ นหนึ่งสัญญาหรือมากกว่ำหนึ่ง สั ญญา 12 . 3 . 4 อาคารที่ยังไม่ มีผู้ เช่ำ ซึ่งกิจการถือครองเพื่อให้ เช่ำต่ อภายใต้ สัญญาเช่ำดาเนินงาน ไม่ ว่ำจะเป็ นหนึ่งสั ญญาหรือมากกว่ำหนึ่งสัญญาเช่ำ 12 . 3 . 5 อสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่ ในระหว่ำงก่ อสร้ำงหรือพัฒนา เพื่อใช้ เป็ นอสังหาริมทรัพย์ เพื่ อ การลงทุนในอนาคต 12 . 4 ตัวอย่ำงต่ อไปนี้ไม่ ถือเป็ นอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน ดั งนั้น จึงไม่ รวมอยู่ ในขอบเขตของ มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ 12 . 4 . 1 อสังหาริมทรัพย์ ที่กิจการมีไว้ เพื่อขายตามลักษณะการประกอบธุรกิจตามปกติ หรืออยู่ ในขั้ น ตอนการก่ อสร้ำงหรือพั ฒนาเพื่อขาย ตัวอย่ำงเช่ น อสังหาริมทรัพย์ ที่ กิจการได้ มา เพื่อจะจำหน่ำยในอนาคตอั นใกล้ หรือเพื่อนามาพัฒนาและขายต่ อ 12 . 4 . 2 อสั งหาริมทรัพย์ ที่อยู่ ในระหว่ำงการก่ อสร้ำง หรือพัฒนาให้ บุคคลอื่น 12 . 4 . 3 อสังหาริมทรั พย์ ที่มี ไว้ ใช้ งาน รวมถึงอสั งหาริมทรัพย์ ที่ กิจการถือครองเพื่ อใช้ ภายใน กิ จการในอนาคต อสั งหาริมทรั พย์ ที่กิจการถือครองเพื่ อการพัฒนาในอนาคตและ นามาใช้ ภายใน กิจการในเวลาต่ อมา อสังหาริมทรัพย์ ที่ใช้ ประโยชน์ โดยพนักงานไม่ ว่ำ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 59 พนักงานจะจ่ำยค่ำเช่ำในอัตราตลาดหรือไม่ ก็ตาม และอสังหาริมทรัพย์ ที่มีไว้ ใช้ งาน รอการจำหน่ำย 12 . 4 . 4 อสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ กิ จการอื่นเช่ำภายใต้ สั ญญาเช่ำเงิน ทุน 12 . 5 อสังหาริมทรัพย์ บางอย่ำงประกอบด้ วยส่ วนที่กิจการถือไว้ เพื่อหาประโยชน์ จากรายได้ ค่ำเช่ำหรือ จากการเพิ่มมูลค่ำของสินทรัพย์ และส่ วนที่กิจการถือครองเพื่อใช้ ในการผลิตสินค้ำหรือการจั ดหา สินค้ำ หรือการให้ บริการ หรือเพื่อวั ตถุประสงค์ ในการบริหารงาน ถ้ำแต่ ละส่ วนสามารถแยกขาย หรือแยกให้ เช่ำภายใต้ สัญญาเช่ำเงิน ทุน กิจการต้ องบั นทึกส่ วนต่ำงๆ แยกจากกัน แต่ ถ้ำไม่ สามารถแยกส่ วนขายได้ กิจการจะบันทึกอสังหาริมทรัพย์ เป็ นอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนได้ ต่ อเมื่อสัดส่ วนของอสังหาริมทรัพย์ ที่กิจการถือไว้ เพื่อใช้ ในการผลิตสินค้ำหรือจัดหาสินค้ำหรือ ให้ บริการ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ ในการบริหารงานนั้ น ไม่ มี นั ยสา คั ญ 12 . 6 ในบางกรณี กิจการให้ บริการเสริมอื่นๆ แก่ ผู้ ครอบครองสินทรัพย์ ของกิจการ กิจการจัดประเภท อสังหาริมทรัพย์ นั้นเป็ นอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนได้ หากบริการเสริมนั้นเป็ นส่ วนประกอบที่ ไม่ มีนัยสาคัญในการจัดการโดยรวม ตัวอย่ำงเช่ น การที่เจ้ำของอาคารสานักงานจัดให้ มียามรักษา ความปลอดภัยและการบริการบารุงรักษาให้ แก่ ผู้ เช่ำที่ใช้ อาคารสานักงานนั้น ในกรณีอื่นๆ ซึ่งการ บริ การที่ให้ ถือเป็ นส่ วนที่มีนัยสาคัญ ตั วอย่ำงเช่ น ถ้ำกิจการเป็ นเจ้ำของและเป็ นผู้ บริหารจัดการ โรงแรม บริการต่ำงๆ ที่ให้ กับแขกที่ เข้ำพักถือเป็ นองค์ ประกอบที่มีนัยสาคัญของการจัดการใน ภาพรวม ดังนั้น โรงแรมที่บริหารโดยเจ้ำของถือเป็ นอสังหาริมทรัพย์ ที่มีไว้ ใช้ งานไม่ ใช่ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน 12 . 7 กิจการต้ องใช้ ดุลยพินิจในการกำหนดว่ำอสังหาริมทรัพย์ นั้นถือเป็ นอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน หรือไม่ กิจการต้ องกำหนดหลักเกณฑ์ เพื่อช่ วยในการใช้ ดุลยพินิจได้ อย่ำงสม่า เสมอ โดยให้ สอดคล้ องกับคานิยามของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการล งทุน และแนวทางที่กาหนดไว้ กิจการต้ อง เปิ ดเผยหลักเกณฑ์ ดังกล่ำวเมื่อการจัดประเภทของสินทรัพย์ นั้ นทาได้ ยาก การรับรู้ รายการ 12 . 8 กิจการต้ องรับรู้ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนเป็ นสินทรัพย์ เมื่อเป็ นไปตามเงื่อนไขทุกข้ อต่ อไปนี้ 12 . 8 . 1 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจาก อสั งหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน 12 . 8 . 2 สามารถวั ดราคาทุนของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 12 . 9 กิจการต้ องประเมินราคาทุนของอสังหาริมทรัพย์ เพื่ อการลงทุน ณ เวลาที่ต้ นทุนเกิดขึ้น ต้ นทุน ดังกล่ำวรวมถึงต้ นทุนที่เกิดขึ้ นเมื่อเริ่มแรกที่ทาให้ กิจการได้ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนมา และ ต้ นทุนที่เกิดขึ้นภายหลังเพื่อต่ อเติม เปลี่ยนแทน (บางส่ วน) หรือให้ บริการแก่ อสังหาริมทรั พย์ 12 . 10 หากชิ้นส่ วนของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนได้ มาโดยการเปลี่ยนแทนและเป็ นไปตามเงื่อนไข การรับรู้ รายการ กิจการต้ องรับรู้ ต้ นทุนของการเปลี่ยนแทนส่ วนของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 60 ลงทุนรวมอยู่ ในมูลค่ำตามบัญชีของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนนั้น ณ เวลาที่ต้ นทุนนั้นเกิดขึ้ น และต้ องตั ดรายการชิ้ นส่ วนที่ถูกเปลี่ยนแทนด้ ว ยมูลค่ำตามบัญชีของชิ้นส่ วนนั้น การวัดมูลค่ำเมื่ อรับรู้ รายการ 12 . 11 กิจการต้ องวัดมูลค่ำเมื่อเริ่มแรกของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนด้ วยราคาทุน ซึ่ งรวมถึงต้ นทุน ในการทารายการ 12 . 12 ต้ นทุนของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนที่ได้ มาโดยการซื้ อ ประกอบด้ วย ราคาซื้อ และรายจ่ำ ย โดยตรงใดๆ ที่เกี่ยวกับการจัดหาสินทรัพย์ ตัวอย่ำงของรายจ่ำยโดยตรงที่เกี่ยวกับการจัดหา สินทรั พย์ ได้ แก่ ค่ำธรรมเนียมวิชาชีพสาหรับบริการทางกฎหมาย ค่ำภาษีในการโอนสินทรัพย์ และต้ นทุนในการทารายการอื่ นๆ ที่เกี่ยวข้ อง 12 . 13 ต้ นทุนของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน ไม่ รวมรายการต่ อไปนี้ 12 . 13 . 1 ต้ นทุนก่ อนการดาเนินงาน ยกเว้ นรายจ่ำยที่จาเป็ นเพื่อทาให้ อสังหาริมทรัพย์ นั้นอยู่ ใน สภาพ พร้ อมที่จะใช้ งานได้ ตามวัตถุประสงค์ ของผู้ บริหาร 12 . 13 . 2 ขาดทุนจากการดาเนินงานที่ เกิดขึ้นก่ อนที่อสั งหาริมทรั พย์ เพื่อการลงทุ นจะมี ผู้ เข้ำ ครอบครอง ในระดับที่วางแผนไว้ 12 . 13 . 3 จานวนสูญเสียที่เกินปกติจากวัตถุดิบ ค่ำแรงงาน หรือจากทรัพยากรอื่นๆ ที่เกิดขึ้นใน การก่ อสร้ำงหรือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 12 . 14 กิจการอาจได้ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนจากการแลกเปลี่ยนกับสินทรัพย์ ที่ไม่ เป็ นตัวเงิน หรือ สินทรัพย์ ซึ่งประกอบด้ วยสินทรัพย์ ที่เป็ นตัวเงินและสินทรัพย์ ที่ ไม่ เป็ นตัวเงิน กิจการต้ องวัดมูลค่ำ ต้ นทุนของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนที่ได้ มาด้ วยมูลค่ำยุติธรรมของสินทรัพย์ ที่ นำไป แลกเปลี่ ยน เว้ นแต่ กรณีที่มูลค่ำยุติธรรมของสินทรัพย์ ที่ ได้ มานั้นมี หลั กฐานสนับสนุนที่ ชั ดเ จนกว่ำ หากไม่ สามารถ วัดมูลค่ำยุติธรรมได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือได้ กิจการต้ องบันทึกสินทรัพย์ ที่ได้ รับจากการ แลกเปลี่ยนด้ วย มูลค่า ตามบัญชีของสินทรั พย์ ที่ นาไปแลกเปลี่ ยน การวัดมูลค่ำภายหลังการรับรู้ รายการ 12 . 15 กิจการต้อง เลือก ใช้นโยบายการบัญชี โดยใช้วิธีราคาทุน หรือวิธีมูลค่ายุติธรรม และต้องใช้ นโยบายการบัญชีนั้นกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนทั้งหมดของกิจการ วิธีราคาทุน 12 . 16 ภายหลังการรับรู้ รายการ เมื่อเริ่มแรกแล้ว กิจการที่เลือกใช้ วิธีราคาทุน ต้อง แสดงรายการ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนนั้ น ด้ วยราคาทุนหั กค่ำเสื่อมราคาสะสม และค่ำเผื่อการลดลงของ มูลค่ำ (ถ้ำมี) ตามแนวทางที่กาหนดไว้ในบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ในเรื่องวิธี ราคาทุนและเรื่องการลดลงของมูลค่าสินทรัพย์
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 61 วิธีมูลค่ายุติธรรม 12 . 17 ภายหลังการรับรู้รายการเมื่อเริ่มแรกแล้ว หากอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนนั้นสามารถวัดมูลค่า ยุติธรรมได้อย่างน่าเชื่อถือ กิจการต้องวัดมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนทั้งหมดด้วย มูลค่ายุติธรรมทุกวันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน 12 . 18 กิจการต้องรับรู้ผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติ ธรรมของ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในงบกาไรขาดทุนในงวดที่เกิดขึ้น 12 . 19 หากกิจการใช้วิธีวัดมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนด้วยมูลค่ายุติธรรมแล้ว กิจการต้องใช้วิธี มูลค่ายุติธรรมในการวัดมูลค่าอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีการจาหน่าย ( หรือเมื่อมีการโอน) แม้ว่า รำยการในตลาดที่เทียบเคียงกันได้จะเกิดขึ้นน้อยลงหรือหาราคาตลาดได้ยากขึ้นก็ตาม 12 . 20 มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับนี้สนับสนุน (แต่ไม่ได้บังคับ) ให้กิจการวัดมูลค่ายุติธรรม ของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนโดยใช้การประเมินมูลค่าจากผู้ประเมินราคาอิสระซึ่งมี คุณสมบัติทางวิชาชีพที่เกี่ยวข้องและประสบการณ์ในการประเมินราคาในทาเลพื้นที่และใน ประเภทของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่เกี่ยวข้อง การโอน 12 . 21 การโอน อสังหาริมทรั พย์ เพื่อการลงทุนไปยังบัญชีอื่นๆ หรือโอนจากบัญชีอื่นๆ มาเป็ น อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนจะทาได้ ก็ต่ อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ งานของอสังหาริมทรัพย์ นั้น โดยมีหลักฐานข้ อใดข้ อหนึ่งดังต่ อไปนี้ 12 . 21 . 1 เริ่มมีการใช้ งานอสังหาริมทรัพย์ ภายในกิจการเอง ทาให้ มีการโอนจากอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนไปเป็ นอสังหาริมทรัพย์ ที่ มี ไว้ ใช้ งาน 12 . 21 . 2 เริ่มมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีไว้ เพื่อขาย ทาให้ มีการโอนจากอสังหาริมทรัพย์ เพื่ อ การลงทุนไปเป็ นสินค้ำคงเหลือ 12 . 21 . 3 สิ้นสุดการใช้ งานอสังหาริมทรัพย์ ภายในกิจการเอง ทำให้ มีการโอนจาก อสังหาริมทรัพย์ ที่ มี ไว้ ใช้ งานไปเป็ นอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน 12 . 21 . 4 เริ่มสัญญาเช่ำแบบดาเนินงานกับกิจการอื่ น ทาให้ มีการโอนจากสินค้ำคงเหลือไปเป็ น อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน วิธีราคาทุน 12 . 22 การโอนระหว่ำงอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน อสังหาริมทรัพย์ ที่มีไว้ ใช้ งานกับสินค้ำคงเหลือจะ ไม่ ทำให้ มู ลค่ำตามบัญชีของอสั งหาริ มทรั พย์ นั้นเปลี่ ยนแปลงและจะไม่ ทำให้ ราคาทุนของ อสังหาริมทรัพย์ ที่ใช้ ในการวัดมูลค่ำหรือการเปิ ดเผยข้ อมูลเปลี่ยนแปลง วิธีมูลค่ายุติธรรม 12 . 23 ในการโอนจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่บันทึกด้วยมูลค่ายุติธรรมไปเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ มีไว้ใช้งานหรือสินค้าคงเหลือ ต้องใช้มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้งานเป็น
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 62 ราคาทุนของอสังหาริมทรัพย์ที่จะบันทึกตามบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ หรือบทที่ 8 เรื่อง สินค้าคงเหลือ 12 . 24 หากอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ใช้งานได้เปลี่ยนมาเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนซึ่งบันทึกด้วย มูลค่ายุติธรรม กิจการต้องปฏิบัติตามบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ จนถึงวันที่มีการ เปลี่ยนแปลงการใช้งาน กิจการต้องปฏิบัติกับผลต่างที่เกิดขึ้น ณ วันนั้น ระหว่างมูลค่าตามบัญชี ของอสังหาริมทรัพย์ตามบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ กับมูลค่ายุติธรรมด้วยวิธีการ เดียวกับการตีราคาใหม่ตามบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 12 . 25 กิจการต้องคิดค่าเสื่อมราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ใช้งาน และรับรู้ผลขาดทุน จาก การลดลง ของมูลค่าของสินทรัพย์จนถึงวันที่อสังหาริมทรัพย์นั้นได้เปลี่ยนมาเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการ ลงทุน กิจการต้องปฏิบัติต่อผลต่างที่เกิดขึ้น ณ วันนั้นระหว่างมูลค่าตามบัญชีของอสังหาริมทรัพย์ ตามบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ กับมูลค่ายุติธรรมของสินทรั พย์นั้นด้วยวิธีการ เดียวกันกับการตีราคาใหม่ตามบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ กล่าวคือ 12 . 25 . 1 กรณีมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ลดลงให้รับรู้ในงบกาไรขาดทุน อย่างไรก็ตาม หาก สินทรัพย์นั้นเคยมีการตีราคาเพิ่มขึ้นและมียอดคงค้างอยู่ในบัญชี “ ส่วนเกินทุนจาก การ ตีราคาสินทรัพย์ ” ในส่วนของเจ้าของ ส่วนที่ลดลงต้องนาไปลดบัญชี “ ส่วนเกินทุน จากการตีราคาสินทรัพย์ ” ใ นส่วนของเจ้าของโดยตรง 12 . 25 . 2 กรณีมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์เพิ่มขึ้น ให้รับรู้ดังนี้ 12 . 25 . 2 . 1 หากมูลค่าตามบัญชีที่เพิ่มขึ้นเป็นการกลับรายการผลขาดทุนจากการลดลง ของมูลค่าของสินทรัพย์ที่เคยบันทึกไว้ จานวนที่เพิ่มขึ้นให้รับรู้ในงบกาไร ขาดทุนสาหรับงวด จานวนที่รับรู้ในงบกาไรขาดทุนสาหรับงวดต้องไม่เกิน กว่าจำนวนที่ทาให้มูลค่าตามบัญชีของอสังหาริมทรัพย์กลับไปเท่ำกับ มูลค่าที่ควรจะเป็น (สุทธิจากค่าเสื่อมราคา) หากไม่เคยมีการรับรู้ผล ขาดทุนจากการลดลงของมูลค่าของสินทรัพย์มาก่อน 12 . 25 . 2 . 2 ส่วนที่เพิ่มขึ้นที่คงเหลือจาก ย่อหน้าที่ 12 . 25 . 2 . 1 ให้รับรู้โดยตรงใน “ ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ ” ในส่วนของเจ้าของ หากมีการ จาหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในเวลาต่อมา กิจการอาจ โอน ส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์ไปยังกาไรสะสม การโอนส่วนเกินทุน จากการตีราคาสินทรัพย์จะต้องไม่ทาผ่านงบกำไรขาดทุน 12 . 26 การโอนจากสินค้าคงเหลือไปเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุ นที่จะบันทึกด้วยมูลค่ายุติธรรม กิจการต้องรับรู้ผลต่างระหว่างมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์ ณ วันที่โอน กับมูลค่าตามบัญชี ก่อนการโอนในงบกำไรขาดทุนสาหรับงวด 12 . 27 เมื่อกิจการเสร็จสิ้นการก่อสร้างหรือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่สร้างขึ้นเอง ที่จะ บั นทึกด้วยมูลค่ายุติธรรม กิจการต้องรับรู้ผลต่างระหว่างมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์ ณ วันเสร็จสิ้น กับมูลค่าตามบัญชีก่อนหน้านั้นในงบกำไรขาดทุนสาหรับงวด
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 63 การจาหน่ำย 12 . 28 กิจการต้ องตัดรายการอสังหาริมทรัพย์ เพื่ อการลงทุนออกจากงบแสดงฐานะการเงินเมื่ อกิจการ จาหน่ำยหรือเลิกใช้ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนนั้นอย่ำงถาวร และคาดว่ำจะไม่ ได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจากการจำหน่ำยอีก 12 . 29 ผลกาไรหรือขาดทุนที่เกิดจากการเลิกใช้ หรือจาหน่ำยอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน ต้ องพิจารณา จากผลต่ำงระหว่ำงจานวนเงินที่ ได้ รับสุทธิจากการจาหน่ำยกับมูลค่ำตามบัญชีของสินทรัพย์ นั้ น และต้ องรับรู้ กาไรหรือขาดทุนในงวดที่เลิกใช้ หรือจาหน่ำยสินทรัพย์ นั้น การเปิ ดเผยข้ อมูล วิธีราคาทุนและวิธีมูลค่ายุติธรรม 12 . 30 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลต่ อไปนี้ 12 . 30 . 1 กิจการใช้วิธีราคาทุนหรือวิธีมูลค่ายุติธรรม 12 . 30 . 2 จำนวนเงิ นที่ได้ รั บรู้ ในงบกำ ไรขาดทุนสาหรับ 12 . 30 . 2 . 1 รายได้ ค่ำ เช่ำจากอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน 12 . 30 . 2 . 2 ค่ำใช้ จ่ำยในการดาเนินงานทางตรง รวมทั้งค่ำซ่ อมแซมและค่ำบารุงรักษา ที่เกิดจากอสังหาริมทรั พย์ เพื่อการลงทุนซึ่งก่ อให้ เกิดรายได้ ค่ำเช่ำสา หรั บ งวด 12 . 30 . 2 . 3 ค่ำใช้ จ่ำยในการดาเนินงานทางตรง รวมทั้งค่ำซ่ อมแซมและบารุงรักษาที่ เกิดจากอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนซึ่งไม่ ได้ ก่ อให้ เกิดรายได้ ค่ำเช่ำ สาหรั บงวด 12 . 30 . 2 . 4 มูลค่ำของอสังหาริมทรัพย์ ที่ล ดลงระหว่ำงงวด (ถ้ำมี ) 12 . 30 . 3 ข้ อจากัดและจานวนเงินของอสังหาริมทรั พย์ เพื่อการลงทุนที่ มีข้ อจากัด หรือการโอน รายได้ และเงินที่ได้ รับจากการจำหน่ำยที่มีข้ อจากัด 12 . 30 . 4 ข้ อตกลงที่ สาคัญในการซื้อ ก่ อสร้ำง หรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนหรือใน การซ่ อมแซมบารุงรักษา หรือทาให้ ดี ขึ้น วิธีราคาทุน 12 . 31 นอกจากการเปิดเผยข้อมูลตามที่กาหนดในย่อหน้าที่ 12 . 30 แล้ว ในกรณีที่กิจการเลือกนโยบาย การบัญชีด้วยวิธีราคาทุน กิจการต้องเปิดเผยข้อมูลต่อไปนี้ 12 . 31 . 1 วิธีการคิดค่ำเสื่ อมราคา อายุการ ใ ช้ ประโยชน์ หรืออัตราค่ำเสื่อมราคาที่ใช้ 12 . 31 . 2 ราคาทุนและค่ำเสื่อมราคาสะสม (รวมค่าเผื่อการลด ลงของ มูลค่าของสินทรัพย์ (ถ้ามี) ) ณ วันต้ นงวดและสิ้นงวด 12 . 31 . 3 การกระทบยอดระหว่ำงมูลค่ำตามบัญชีของอสั งหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน ณ วันต้ นงวดกับ วั นสิ้ นงวดโดยแสดงถึงรายการดังต่ อไปนี้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 64 12 . 31 . 3 . 1 ส่ วนเพิ่มโดยแสดงแยกกันระหว่ำงส่ วนเพิ่มที่เกิดจากการ ได้มา กับส่ วน เพิ่ มที่เกิดจากการรวมรายจ่ำยในภายหลังเข้ำเป็ นต้ นทุนของสินทรัพย์ 12 . 31 . 3 . 2 ค่ำเสื่อมราคา 12 . 31 . 3 . 3 ผลขาดทุนจากการลดมูลค่าและการกลับรายการผลขาดทุนที่รับรู้ในงบ กำไรขาดทุน (ถ้ามี) 12 . 31 . 3 . 4 การโอนเข้ำหรือออกจากรายการสินค้ำคงเหลือหรือรายการที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 12 . 31 . 3 . 5 การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ วิธีมูลค่ายุติธรรม 12 . 32 นอกจากการเปิดเผยข้อมูลตามที่กาหนดในย่อหน้าที่ 12 . 30 แล้ว ในกรณีที่กิจการเลือกนโยบาย การบัญชีด้วยวิธีมูลค่ายุติธรรม กิจการต้องเปิดเผย ข้อมูลต่อไปนี้ 12 . 32 . 1 แหล่งข้อมูลของมูลค่ายุติธรรมที่กิจการใช้ รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ประเมินราคาอิสระมี ส่วนร่วมในกำรตีราคาใหม่หรือไม่ 12 . 32 . 2 ข้อมูลในการกระทบยอดระหว่างมูลค่าตามบัญชีของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ณ วันต้นงวดกับวันสิ้นงวดโดยแสดงถึงรายการดังต่อไปนี้ 12 . 32 . 2 . 1 ส่วนเพิ่มโดยแสดงแยกกันระหว่างส่วนเพิ่มที่เกิดจากการ ได้มา กับส่วน เพิ่มที่เกิด จำกการรวมรายจ่ายในภายหลังเข้าเป็นต้นทุนของสินทรัพย์ 12 . 32 . 2 . 2 สินทรัพย์ที่จัดประเภทเป็นถือไว้เพื่อขาย หรือรวมอยู่ในกลุ่ม สินทรัพย์ที่ จำหน่าย ซึ่ งจัดประเภทเป็นถือไว้เพื่อขายและการจำหน่ายอื่นๆ 12 . 32 . 2 . 3 ผลกำไรหรือผลขาดทุนสุทธิจากการปรับมูลค่าให้เป็นมูลค่ายุติธรรม 12 . 32 . 2 . 4 การโอนไปหรือโอนจากรายการสินค้าคงเหลือหรือรายการที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 12 . 32 . 2 . 5 การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 65 บทที่ 13 ต้ นทุนการกู้ ยื ม 13 . 1 ต้ นทุนการกู้ ยืม หมายถึง ดอกเบี้ยและต้ นทุนอื่นที่เกิดขึ้นจากการกู้ ยื มของกิจการ โดยต้ นทุนการ กู้ ยืม อาจรวมถึงดอกเบี้ยที่เกิดจากการเงินเบิกเกินบัญชีธนาคารและจากเงินกู้ ยืมระยะสั้นและ ระยะยาว รวมทั้งภาษีที่เกี่ยวข้ องกับดอกเบี้ยดังกล่ำวที่ผู้ กู้ ต้ องรั บภาระ จานวนที่ ตั ดบัญชีของ ส่ วนลดหรื อส่ วนเกินที่เกี่ยวกับการกู้ ยืมจานวนที่ตัดบัญชีของรายจ่ำยที่เกี่ยวกับการจัดการกู้ ยืม และผลต่ำงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการกู้ ยืมเงินตราต่ำงประเทศส่ วนที่นามาปรับปรุงกับ ต้ นทุนของดอกเบี้ย 13 . 2 ต้ นทุนกา รกู้ ยืมต้ องรับรู้ ตามวิธีอัตรา ดอกเบี้ย ที่แท้ จริงหรือวิธีอื่นที่ให้ ผลไม่ แตกต่ำงจากวิธีอัตรา ดอกเบี้ยที่แท้ จริงอย่ำงมีสาระสาคัญ 13 . 3 สินทรัพย์ ที่เข้ำเงื่อนไข หมายถึง สินทรัพย์ ที่จาเป็ นต้ องใช้ ระยะเวลานานในการเตรียมพร้ อม เพื่อให้ สามารถนาสินทรัพย์ นั้นมาใช้ ได้ ตามประสงค์ หรือนาไปขาย ตัวอย่ำงของสินทรัพย์ ที่ เ ข้ำ เงื่อนไข ได้ แก่ โรงงาน โรงผลิตพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ เพื่ อการลงทุนและสินค้ำที่ต้ องใช้ ระยะ เวลานานในการแปลงสภาพให้ พร้ อมที่จะขาย ตัวอย่ำงของสินทรัพย์ ที่ ไม่ เข้ำเงื่อนไข เช่ น สินค้ำที่ ทำการผลิ ตเป็ นประจำ สินค้ำที่ผลิตเป็ นจำนวนมากโดยไม่ มีขั้นตอนการผลิตซ้า ๆ ในช่ วง ระยะเวลาสั้นและสินทรัพย์ ที่ อยู่ ในสภาพพร้ อมที่ จะใช้ ได้ ตามประสงค์ หรือพร้ อมที่ จะขายทั นที ที่ ซื้ อ การรับรู้ รายการ 13 . 4 กิจการต้ องรวมต้ นทุนการกู้ ยื มที่เกี่ยวข้ องโดยตรงกั บการได้ มา การก่ อสร้ำง หรือการผลิต สินทรัพย์ ที่เข้ำเงื่อนไขเป็ นส่ วนหนึ่งของราคาทุนของสินทรัพย์ นั้น และกิจการต้ องรับรู้ ต้ นทุนการ กู้ ยืมอื่นเป็ นค่ำใช้ จ่ำยในงวดที่ ต้ นทุ นนั้ น เกิ ดขึ้ น 13 . 5 ต้ นทุนการกู้ ยืมที่เกี่ ยวข้ องโดยตรงกับการได้ มา การก่ อสร้ำง หรือการผลิตสินทรัพย์ ที่ เ ข้ำเงื่อนไข จะรวมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ นั้นได้ ก็ต่ อเมื่อมีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ว่ำต้ นทุนการกู้ ยืม ดังกล่ำวจะก่ อให้ เกิดประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจแก่ กิจการในอนาคต และกิจการสามารถประมาณ จำนวน ต้ นทุนการกู้ ยื มได้ อย่ำงน่ำเชื่ อถื อ ต้ นทุนการกู้ ยื มที่อนุญาตให้ รวมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ 13 . 6 ต้ นทุนการกู้ ยืมที่เกี่ยวข้ องโดยตรงกับการได้ มา การก่ อสร้ำง หรือการผลิตสินทรั พย์ ที่ เข้ำเงื่อนไข ต้ องเป็ นต้ นทุนที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากกิจการไม่ ก่ อรายจ่ำยขึ้นเพื่อให้ ได้ มาซึ่งสินทรัพย์ ที่เข้ำ เงื่อนไข ดังนั้น เมื่อกิจการกู้ ยืมเงินมาโดยเฉพาะเพื่อให้ ได้ มาซึ่งสินทรัพย์ ที่ เข้ำเงื่อนไข ต้ นทุนการ กู้ ยืมที่เกี่ยวข้ องโดยตรงกับสินทรั พย์ นั้นต้ องเป็ นต้ นทุนที่สามารถระบุได้ 13 . 7 สาหรั บเงินที่กู้ มาโดยเฉพาะเพื่อการจัดหาสินทรัพย์ ที่ เข้ำเงื่อนไข จำนวนต้ นทุ นการกู้ ยืมที่ อนุญาต ให้ รวมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ ต้ องเป็ นต้ นทุนการกู้ ยืมที่เกิดขึ้นจริงระหว่ำงงวดของเงินกู้ นั้นหัก ด้ วยรายได้ ที่เกิดจากการนาเงินกู้ ดังกล่ำวไปลงทุนเป็ นการชั่วคราว
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 66 13 . 8 หากกิจการได้ รับเงินกู้ มาล่ วงหน้ำก่ อนการเกิดขึ้นของรายจ่ำยสาหรับสินทรัพย์ ที่เข้ำเงื่อนไข และ นาเงินกู้ ยืมที่ ยังไม่ ได้ ใช้ ไป ลงทุนเป็ นการชั่วคราว จำนวนต้ นทุนการกู้ ยืมที่อนุญาตให้ รวมเป็ นราคา ทุนของสินทรัพย์ ในรอบระยะเวลา รายงาน นั้นต้ องเท่ำกับต้ นทุนการกู้ ยืมที่เกิดขึ้นหักด้ วยรายได้ จากการลงทุนดังกล่ำว 13 . 9 สาหรับเงินที่กู้ มาเพื่อวัตถุประสงค์ ทั่วไปและได้ นามาใช้ จัดหาสินทรัพย์ ที่เข้ำเงื่อนไข จำนวนต้ นทุน การกู้ ยืมที่ อนุญาตให้ รวมเป็ นราคาทุนของสินทรั พย์ ต้ องคานวณโดยการคูณรายจ่ำยของสินทรัพย์ นั้น ด้ วยอัตราการตั้งขึ้นเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ ซึ่งได้ แก่ อัตราถัวเฉลี่ ยถ่ วงน้า หนักของต้ นทุน การกู้ ยืมที่เกิดจากเงินกู้ ที่คงค้ำงในระหว่ำงงวดโดยไม่ รวมเงินที่กู้ มาโดยเฉพาะ อย่ำงไรก็ตาม จานวนต้ นทุนการกู้ ยื มที่รวมเป็ นราคาทุ นของสิ นทรั พย์ ในงวดนั้นต้ องไม่ เกิ นจานวนต้ นทุ นการ กู้ ยืมทั้ งสิ้ นที่ เกิดขึ้นในงวดเดียวกั น การเริ่ มต้ นการรวมต้ นทุนการกู้ ยืมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ 13 . 10 กิจการต้ องรวมต้ นทุนการกู้ ยืมเป็ นส่ วนหนึ่งของราคาทุนของสินทรัพย์ ที่เข้ำเงื่อนไขเมื่อเข้ำเกณฑ์ ทุกข้ อดังต่ อไปนี้ 13 . 10 . 1 รายจ่ำยเกี่ยวกับสินทรัพย์ นั้ น ได้ เกิดขึ้ น 13 . 10 . 2 ต้ นทุนการกู้ ยืมได้ เกิดขึ้น 13 . 10 . 3 สินทรัพย์ อยู่ ระหว่ำงการดาเนินการที่จาเป็ นในการเตรียมสินทรัพย์ นั้นให้ อยู่ ในสภาพ พร้ อมที่จะใช้ ได้ ตามประสงค์ หรือพร้ อมที่จะขาย 13 . 11 รายจ่ำยเกี่ยวกั บสินทรัพย์ ที่ เข้ำเงื่อนไขจะรวมเฉพาะรายจ่ำยที่เกิดจากการจ่ำยโดยเงินสด โดยการ โอนสินทรัพย์ หรือโดยการก่ อหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย รายจ่ำยดั งกล่ำวต้ องหั กด้ วยเงินล่ วงหน้ำ 13 . 12 การดาเนินการที่จาเป็ นในการเตรียมสินทรัพย์ นั้นให้ อยู่ ในสภาพพร้ อมที่จะใช้ ได้ ตามประสงค์ หรือพร้ อมที่จะขาย มิได้ รวมเฉพาะการก่ อสร้ำงเท่ำนั้น แต่ ยังรวมถึงการดาเนินการด้ำนเทคนิค และการบริหารก่ อนที่จะเริ่มการก่ อสร้ำงด้ วย เช่ น การขออนุญาตก่ อนที่จะก่ อสร้ำง การหยุดพักการรวมต้ นทุนการกู้ ยืมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ 13 . 13 การรวมต้ นทุนการกู้ ยืมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ ต้ องหยุดพักในระหว่ำงที่การดาเนินการพัฒนา สินทรัพย์ ที่เข้ำเงื่อนไขหยุดชะงักลงเป็ นเวลาต่ อเนื่อง เมื่อสถานการณ์ ดั งกล่ำวสิ้ นสุ ดลงให้ รวม ต้ นทุ นการกู้ ยื มที่เกิ ดขึ้ นหลั งจากนั้ น เป็ นราคาทุ นของสิ นทรั พย์ ต่ อไป การสิ้นสุดการรวมต้ นทุนการกู้ ยืมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ 13 . 14 การรวมต้ นทุนการกู้ ยืมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ ต้ องสิ้นสุดลงเมื่อการดาเนินการส่ วนใหญ่ ที่จาเป็ นในการเตรียมสินทรัพย์ ที่เข้ำเงื่อนไขให้ อยู่ ในสภาพพร้ อมที่จะใช้ ได้ ตามประสงค์ หรือ พร้ อมที่จะขายได้ เสร็จสิ้นลง 13 . 15 สาหรับสินทรั พย์ ที่ เข้ำเงื่ อนไขที่ สร้ำงเสร็ จเป็ นบางส่ วนและสามารถใช้ งานได้ ขณะที่ สิ นทรัพย์ ส่ วนอื่ นยังอยู่ ในระหว่ำงการก่ อสร้ำง ให้ หยุดรวมต้ นทุนการกู้ ยืมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ ส่ วน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 67 ที่ สร้ำงเสร็จ หากการดาเนินการส่ วนใหญ่ ที่จาเป็ นในการเตรียมสินทรั พย์ บางส่ วนให้ พร้ อมที่จะ ใช้ ได้ ตามประสงค์ หรือพร้ อมที่จะขายของสินทรัพย์ ส่วน นั้ นเสร็จสิ้นลง การเปิ ดเผยข้ อมูล 13 . 16 งบการเงินต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลทุกข้ อดังต่ อไปนี้ 13 . 16 . 1 จำนวนต้ นทุนการกู้ ยืมที่รวมเป็ นราคาทุนของสินทรัพย์ ในระหว่ำงงวด 13 . 16 . 2 อั ตราการตั้ ง ขึ้นเป็ นราคาทุ นของสิ นทรัพย์ ที่ใช้ คานวณต้ นทุ นการกู้ ยืมที่ อนุญาตให้ รวม เป็ นราคาทุนของสินทรัพย์
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 68 บทที่ 14 สัญญาเช่ำ 14 . 1 สัญญาเช่ำ หมายถึง สัญญาหรือข้ อตกลงที่ผู้ ให้ เช่ำให้ สิทธิแก่ ผู้ เช่ำในการใช้ สิ นทรัพย์ สำหรั บ ช่ วงเวลาที่ตกลงกันเพื่อแลกเปลี่ยนกับค่ำตอบแทน ซึ่งได้ รั บชา ระในงวดเดียวหรื อหลายงวด 14 . 2 สั ญญาเช่ำเงิน ทุน หมายถึง สัญญาเช่ำที่ทาให้ เกิดการโอนความเสี่ ยงและผลตอบแทนทั้งหมดหรือ เกือบทั้งหมดที่ผู้ เป็ นเจ้ำ ของพึงได้ รับจากสินทรัพย์ ให้ แก่ ผู้ เช่ำ ไม่ ว่ำในที่สุดการโอนกรรมสิทธิ์จะ เกิดขึ้นหรือไม่ 14 . 3 สัญญาเช่ำดาเนินงาน หมายถึง สัญญาเช่ำที่มิใช่ สัญญาเช่ำเงิน ทุน 14 . 4 สัญญาเช่าที่บอกเลิกไม่ได้ หมายถึง สัญญาเช่าที่จะบอกเลิกไม่ได้ เว้นแต่จะเป็นไปตามเงื่อนไขข้อใด ข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ 14 . 4 . 1 เมื่อเกิดเหตุการณ์ บางอ ย่ำงซึ่งโอกาสที่จะเกิดขึ้นน้ อยมาก 14 . 4 . 2 เมื่อได้ รับความยินยอมจากผู้ ให้ เช่ำ 14 . 4 . 3 เมื่อผู้ เช่ำทาสัญญาเช่ำใหม่ กับผู้ ให้ เช่ำรายเดิมเพื่อเช่ำสินทรัพย์ เดิมหรือสินทรั พย์ ที่ เทียบเท่ำของเดิม หรือ 14 . 4 . 4 เมื่อผู้ เช่ำต้ องจ่ำยเงินเพิ่มโดยที่ ณ วันเริ่ มต้ นสัญญาเช่ำเป็ นที่เชื่อถือได้ อย่ำงสมเหตุผล ว่ำสัญญาเช่ำจะดำเนินไปอย่ำงต่ อเนื่อง 14 . 5 วั นเริ่มต้ นของสัญญาเช่ำ หมายถึง วันที่ทาสัญญาเช่ำหรือวันที่คู่ สัญญาได้ ตกลงตามเงื่อนไข หลักของสัญญาเช่ำ แล้ วแต่ วันใดจะเกิดขึ้ นก่ อน ซึ่ง ณ วันนี้ 14 . 5 . 1 สัญญาเช่ำจะถูกจัดประเภทเป็ นสั ญญาเช่ำดาเนินงานหรือสัญญาเช่ำเงิน ทุน 14 . 5 . 2 ในกรณีของสัญญาเช่ำเงิน ทุน กิจการต้ องกำหนดจำนวนเงินที่จะต้ องรับรู้ ณ วั นที่ สัญญาเช่ำเริ่มมีผล 14 . 6 วันที่สัญญาเช่ำเริ่มมีผล หมายถึง วันที่ ผู้ เช่ำสามารถใช้ สิทธิตามสัญญาเช่ำในสินทรัพย์ ที่เช่ำ ซึ่งคือ วันรับรู้ รายการเริ่มแรกตามสัญญาเช่ำ เช่ น การรั บรู้ สินทรัพย์ หนี้สิน รายได้ หรือค่ำใช้ จ่ำย อันเป็ นผลมาจากสั ญญาเช่ำ 14 . 7 อายุสัญญาเช่ำ หมายถึง ระยะเวลาเช่ำสินทรัพย์ ที่ผู้ เช่ำทาสัญญาที่บอกเลิกไม่ ได้ ทั้ งนี้ให้ รวมถึง ระยะเวลาที่ ผู้ เช่ำมีสิทธิที่จะเลือกต่ ออายุสัญญาเช่ำสินทรัพย์ นั้นออกไปอีก ไม่ ว่ำจะมีการจ่ำยเงิน เพิ่ มอีกหรือไม่ หาก ณ วันเริ่มต้ นของสั ญญาเช่ำสามารถเชื่อได้ อย่ำงสมเหตุสมผล ว่ำผู้ เช่ำจะ เลือกใช้ สิทธิเพื่อต่ ออายุสั ญญาเช่ำ 14 . 8 จานวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำย หมายถึง จานวนเงินที่ผู้ เช่ำต้ องจ่ำยตลอดอายุสัญญาเช่ำ รวมกับ รายการ ดังต่ อไปนี้ 14 . 8 . 1 ทางด้ำนผู้ เช่ำ – จานวนเงินที่ผู้ เช่ำหรือบุคคลที่เกี่ยวข้ องกับผู้ เช่ำประกันมูลค่ำคงเหลือ ให้ กั บ ผู้ ใ ห้ เช่ำ หรือ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 69 14 . 8 . 2 ทางด้ำนผู้ ให้ เช่ำ – มูลค่ำคงเหลือที่ได้ รับประกันจากผู้ เช่ำหรือบุคคลที่เกี่ยวข้ องกับ ผู้ เช่ำ หรือบุคคลที่สามที่ ไม่ เกี่ยวข้ องกับผู้ ให้ เช่ำและมีฐานะการเงินที่สามารถให้ การ ประกั นแก่ ผู้ ให้ เช่ำได้ จำนวนเงินขั้นต่า ที่ ต้ องจ่ำยนี้ ไม่ รวมถึงค่ำเช่ำที่อาจเกิดขึ้น ต้ นทุนการให้ บริการ และภาษีที่ผู้ ให้ เช่ำ จ่ำยและเรียกคืนได้ จากผู้ เช่ำ อย่ำงไรก็ตาม ณ วันเริ่มต้ นของสัญญาเช่ำ ถ้ำผู้ เช่ำมีสิทธิที่จะเลือก ซื้อสินทรั พย์ ด้ วยราคาที่คาดว่ำจะต่า กว่ำมูลค่ำยุติธรรมอย่ำงเป็ นสาระสาคัญ ณ วันที่ สามารถใช้ สิทธิเลือกดังกล่ำวและเชื่อได้ อย่ำงสมเหตุสมผลว่ำผู้ เช่ำจะใช้ สิทธิเลือกนั้น ในกรณีนี้จานวนเงิน ขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำยประกอบด้ วยจำ นวนเงินขั้ น ต่า ที่ ต้ องจ่ำยตลอดอายุของสัญญาเช่ำจนถึงวันที่ คาดว่ำ จะใช้ สิทธิเลือกซื้ อและจานวนเงินที่ต้ องจ่ำยเมื่อใช้ สิทธิเลือกซื้อสินทรัพย์ ที่เช่ำด้ วย 14 . 9 มูลค่ำยุติธรรม หมายถึง จานวนเงินที่ผู้ ซื้อและผู้ ขายตกลงแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ หรือจ่ำยชาระหนี้ กัน ในขณะที่ทั้งสองฝ่ำยมีความรอบรู้ และเต็มใจในการแลกเปลี่ ยน และสามารถต่ อรองราคากัน ได้ อย่ำงเป็ นอิสระในลั กษณะของผู้ ที่ไม่ มีความเกี่ยวของกัน 14 . 10 อายุเชิงเศรษฐกิจ หมายถึง ข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ 14 . 10 . 1 ร ะยะเวลาที่คาดว่ำสินทรัพย์ จะให้ ประโยชนเชิงเศรษฐกิจกับผู้ ใช้ รายเดียวหรือ หลายราย หรือ 14 . 10 . 2 จานวนผลผลิตหรือจานวนหน่ วยในลักษณะอื่ นที่คล้ำยคลึงกันซึ่งผู้ ใช้ รายเดียวหรือ หลายราย คาดว่ำจะได้ รับจากการใช้ สินทรัพย์ 14 . 11 อายุการ ใช้ ประโยชน์ หมายถึง ระยะเวลาที่ เหลืออยู่ โดยประมาณนับจากวันที่ สัญญาเช่ำเริ่มมีผล ซึ่งกิจการคา ดว่ำจะได้ รั บประโยชน์ เชิ งเศรษฐกิจจากสิ นทรั พย์ โดยไม่ คา นึงถึ งอายุ สั ญญาเช่ำ 14 . 12 มูลค่ำคงเหลือที่ได้ รับการประกัน หมายถึง (ก) ทางด้ำนผู้ เช่ำ – ส่ วนของมูลค่ำคงเหลือที่ผู้ เช่ำ หรือ บุคคลที่เกี่ยวข้ องกับผู้ เช่ำรับประกั นที่จะจ่ำยให้ แก่ ผู้ ให้ เช่ำ (จานวนที่รั บประกันคือ จานวน เงินสูงสุด ที่จะต้ องจ่ำยไม่ ว่ำในกรณีใดก็ตาม) และ (ข) ทางด้ำนผู้ ให้ เช่ำ – ส่ วนของมูลค่ำ คงเหลือที่ผู้ เช่ำหรือบุคคลที่สามรับประกันที่จะจ่ำยให้ แก่ ผู้ ให้ เช่ำ บุคคลที่สามที่รับประกันนี้ต้ อง ไม่ เกี่ยวข้ องกับผู้ ให้ เช่ำ และบุคคลดังกล่ำวต้ องมีความสามารถทางการเงินที่จะรับผิดชอบต่ อ ภาระผูกพั นที่รับประกันไว้ 14 . 13 มูลค่ำคงเหลือที่ไม่ ได้ รั บการประกัน หมายถึง ส่ วนของมูลค่ำคงเหลือของสินทรัพย์ ที่ให้ เช่ำ ซี่งผู้ ให้ เช่ำอาจไม่ ได้ รับคืน หรือส่ วนของมูลค่ำคงเหลือของสินทรัพย์ ที่ ให้ เช่ำ ซึ่งได้ รับการประกัน จากบุคคลที่เกี่ยวข้ องกั บผู้ ให้ เช่ำเท่ำนั้น 14 . 14 ต้ นทุนทางตรงเริ่มแรก หมายถึง ต้ นทุนส่ วนเพิ่ มที่เกิดขึ้นโดยตรงจากการต่ อรองและการทา สัญญำ เช่ำ ต้ นทุนดังกล่ำวนี้ไม่ รวมถึงต้ นทุนในส่ วนของผู้ ให้ เช่ำที่เป็ นผู้ ผลิตหรือผู้ แทนจาหน่ำย 14 . 15 เงินลงทุนขั้นต้ นตามสัญญาเช่ำ หมายถึง ผลรวมของจานวนเงินขั้ นต่า ที่ต้ องจ่ำยให้ กับผู้ ให้ เช่ำตาม สัญญาเช่ำเงิน ทุน กับมูลค่ำคงเหลือที่ไม่ ได้ รับการประกันให้ กับผู้ ให้ เช่ำ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 70 14 . 16 เงินลงทุนสุทธิตามสัญญาเช่ำ หมายถึง เงินลงทุนขั้นต้ นตามสัญญาเช่ำคิดลดด้ วยอัตราดอกเบี้ย ตามนัยของสัญญาเช่ำ 14 . 17 รายได้ ทางการเงินรอการรั บรู้ หมายถึง ผลต่ำงระหว่ำงเงินลงทุนขั้นต้ นตามสัญญาเช่ำกับเงิน ลงทุนสุทธิตามสัญญาเช่ำ 14 . 18 อัตราดอกเบี้ยตามนัยของสัญญาเช่ำ หมายถึง อัตราคิดลด ณ วันเริ่มต้ นสัญญาเช่ำที่ทาให้ ผลรวม ของมูลค่ำปั จจุบั นของจำนวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำยและมูลค่ำคงเหลือที่ไม่ ได้ รับการประกัน มีจานวนเท่ำกับผลรวมของมูลค่ำยุติธรรมของสินทรัพย์ ที่ ให้ เช่ำและต้ นทุ นทำ งตรงเริ่ มแรกของ ผู้ ให้ เช่ำ 14 . 19 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ยืมส่ วนเพิ่มของผู้ เช่ำ หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่ผู้ เช่ำจะต้ องจ่ำยตามสัญญาเช่ำ ที่ คล้ำยคลึงกัน หรือถ้ำไม่ สามารถกาหนดอัตรานั้นได้ จึงให้ ใช้ อัตราดอกเบี้ ยที่ผู้ เช่ำจะต้ องจ่ำย ณ วันเริ่มต้ นของสัญญาเช่ำในการกู้ ยืมเงินที่มีระยะเวลาและการค้าประกันคล้ำยคลึงกับที่ระบุไว้ ในสัญญาเช่ำเพื่อซื้อสินทรัพย์ นั้น 14 . 20 ค่ำเช่ำที่อาจเกิดขึ้น หมายถึง ส่ วนของจานวนเงินที่ต้ องจ่ำยตามสัญญาเช่ำ ซึ่งไม่ ได้ กำหนดไว้ อย่ำง คงที่ตามระยะเวลาที่ผ่ำนไป แต่ กาหนดให้ ขึ้นอยู่ กับปั จจัยอื่น เช่ น อัตราร้ อยละของยอดขาย ปริมาณการใช้ ดัชนีราคาในอนาคต หรืออัตราดอกเบี้ ยในตลาดในอนาคต การจาแนกประเภทของสัญ ญาเช่ำ 14 . 21 กิจการต้ องจัดประเภทสัญญาเช่ำโดยพิจารณาถึงขอบเขตของความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ผู้ เป็ น เจ้ำของพึงได้ รับจากสินทรัพย์ ที่เช่ำว่ำตกอยู่ กับผู้ เช่ำ หรือผู้ ให้ เช่ำ ความเสี่ยงดังกล่ำวรวมถึงโอกาส ที่จะเกิดความสูญเสียจากกาลั งการผลิตที่ไม่ ได้ ใช้ หรือจากวิทยาการที่ล้ำสมัย และจากความ ผันผวนของผลตอบแทนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ทางเศรษฐกิจ ผลตอบแทน ดังกล่ำวอาจรวมถึงการคาดการณ์ ว่ำการดาเนินงานจะมีกาไรตลอดอายุเชิงเศรษฐกิจของสินทรั พย์ และการคาดการณ์ ว่ำจะมี ผลกาไรจากราคาที่ เพิ่ มขึ้ึ้ นหรื อจากมู ลค่ำคงเหลื อที่ จะได้ รั บ 14 . 22 กิจการต้ องจัดประเภทสัญญาเช่ำเป็ นสัญญาเช่ำเงิน ทุน หากสัญญานั้นโอนความเสี่ยงและ ผลตอบแทนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดที่ผู้ เป็ นเจ้ำของพึงได้ รับจากสินทรัพย์ ไปให้ แก่ ผู้ เช่ำ ไม่ ว่ำ ในที่สุดการโอนกรรมสิทธิ์ จะเกิดขึ้ นหรือไม่ และกิจการต้ องจัดประเภทสัญญาเช่ำเป็ นสัญญาเช่ำ ดาเนินงาน หากสัญญา นั้ นไม่ ได้ โอนความเสี่ยงหรือผลตอบแทนทั้ งหมดหรือเกือบทั้งหมดที่ผู้ เป็ น เจ้ำของพึงได้ รั บจากสิ นทรั พย์ ไปให้ แก่ ผู้ เช่ำ 14 . 23 กิจการต้ องจัดประเภทสัญญาเช่ำที่บอกเลิกไม่ ได้ เป็ นสัญญาเช่ำเงิน ทุน หากสัญญานั้นทาให้ เกิด สถานการณ์ ต่ อไปนี้อย่ำงน้ อยหนึ่งสถานการณ์ 14 . 23 . 1 สัญญาเช่ำโอนความเป็ นเจ้ำของในสินทรัพย์ ให้ แก่ ผู้ เช่ำเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาของ สัญญาเช่ำ เช่ น สัญญาเช่ำซื้อซึ่งเมื่อผู้ เช่ำซื้อชาระเงินครบตามข้ อกาหนดของสัญญา ผู้ ให้ เช่ำซื้อจะโอน กรรมสิทธิ์ให้ ผู้ เช่ำซื้อ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 71 14 . 23 . 2 ณ วันเริ่มต้ นของสัญญาเช่ำ ผู้ เช่ำมีสิทธิเลือกซื้อสินทรัพย์ ด้ วยราคาที่คาดว่ำจะต่า กว่ำ มูลค่ำยุติธรรมมาก ณ วันที่สิทธิเลือกมีผลบังคับใช้ เช่ น สิทธิเลือกที่จะซื้ อสินทรัพย์ ที่ เช่ำที่มีราคาประมาณไม่ เกินร้ อยละ 5 ของมูลค่ำยุติธรรมโดยประมาณของสินทรัพย์ ถือไ ด้ ว่ำเป็ นราคา ต่า กว่ำมูลค่ำยุติธรรมมาก 14 . 23 . 3 ณ วันเริ่มต้ นของสัญญาเช่ำ ระยะเวลาของสัญญาเช่ำครอบคลุมอายุเชิงเศรษฐกิจ ส่ วนใหญ่ ของสินทรัพย์ แม้ ว่ำจะไม่ มีการโอนกรรมสิทธิ์เกิดขึ้น เช่ น ระยะเวลาของ สัญญาเช่ำครอบคลุมระยะเวลาประมาณอย่ำงน้ อยร้ อยละ 80 ของอายุเชิงเศรษฐกิจ ของสินทรั พย์ นั้น 14 . 23 . 4 ณ วันเริ่มต้ นของสัญญาเช่ำ มูลค่ำปั จจุบันของจานวนเงินขั้นต่า ที่ ต้ องจ่ำยมีจานวน เท่ำกับ หรือเกือบเท่ำกับมูลค่ำยุติธรรมของสินทรัพย์ ที่เช่ำ เช่ น มูลค่ำปั จจุบันของ จานวนเงินขั้นต่า ดังกล่ำวมีจานวนประมาณอย่ำงน้ อยร้ อยละ 90 ของมูลค่ำยุติธรรม ของสินทรัพย์ 14 . 24 สถานการณ์ ในย่ อหน้ำก่ อน ไม่ ถือเป็ นข้ อยุติในการจัดประเภทสัญญาเช่ำให้ เป็ นสัญญาเช่ำเงิน ทุน ถ้ำเป็ นที่แน่ ชัดว่ำยังมีลักษณะอื่นที่แสดงให้ เห็นว่ำมิได้ มีการโอนความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ ผู้ เป็ นเจ้ำของพึงได้ รับจากสินทรัพย์ ที่เช่ำ สัญญาเช่ำนั้นต้ องจัดประเภทเป็ นสัญญาเช่ำดาเนินงาน ตัวอย่ำงเช่ น ณ วันสิ้นสุดสัญญาเช่ำได้ มีการโอนกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ ที่เช่ำโดยมีการจ่ำย ค่ำตอบแทน ซึ่งมีจานวนเท่ำกั บมูลค่ำยุติธรรมของสินทรัพย์ ที่เช่ำ หรืออีกตัวอย่ำงหนึ่งคือ มีการ จ่ำยค่ำเช่ำที่ ไม่ กาห นดแน่ นอน (ค่ำเช่ำที่อาจเกิดขึ้ น) อันเป็ นผลให้ ผู้ เช่ำมิได้ รับโอนความเสี่ยง และผลตอบแทนที่ ผู้ เป็ นเจ้ำของพึงได้ รับจากสินทรัพย์ ที่เช่ำ 14 . 25 การจัดประเภทสัญญาเช่าต้องทา ณ วันเริ่มต้นสัญญาเช่า หาก ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ผู้เช่าและผู้ให้เช่า ตกลงที่จะเปลี่ยนเงื่อนไขในสัญญาเช่ำ (ที่ ไม่ ใช่ การต่ ออายุสัญญาเช่ำ) ในลักษณะที่ทาให้ การจัด ประเภทสั ญญาเช่ำแตกต่ำงไปจากเดิม และหากเงื่อนไขที่ เปลี่ยนแปลงไปนั้ นมีผลกระทบตั้งแต่ วันเริ่มต้ นของสัญญาเช่ำ ข้ อตกลงที่มีการแก้ ไขถือเป็ นข้ อตกลงใหม่ ตลอดอายุสัญญาเช่ำ อย่ำงไร ก็ตาม การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี (ตัวอย่ำงเช่ น การเปลี่ยนแปลงประมาณการของ อายุเชิงเศรษฐกิจหรือมูลค่ำคงเหลือของสินทรั พย์ ที่เช่ำ) หรือการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ (ตัวอย่ำงเช่ น ผู้ เช่ำผิดสัญญา) ไม่ ทาให้ ต้ องมีการจั ดประเภทสัญญาเช่ำใหม่ ตามวัตถุประสงค์ ทางกำรบัญชี 14 . 26 การเช่ำที่ดินและอาคารตามสัญญาเช่ำต้ องจัดประเภทเป็ นสัญญาเช่ำเงิน ทุน หรือสัญญา เช่ำ ดาเนินงานในลักษณะเดียวกับการจัดประเภทสัญญาเช่ำสาหรับสินทรัพย์ อื่น อย่ำงไรก็ตาม ที่ดิน มีลักษณะพิเศษคือ ตามปกติจะมี อายุเชิงเศรษฐกิจไม่ จากัด หากคาดว่ำจะไม่ ต้ องโอนกรรมสิทธิ์ ในที่ดินไปให้ ผู้ เช่ำ ณ วันสิ้นสุดสัญญาเช่ำ ผู้ เช่ำจะไม่ ได้ รั บความเสี่ ยงและผลตอบแทนของความ เป็ นเจ้ำของทั้ ง หมดหรือเกือบทั้ งหมดในกรณีเช่ นนี้ สัญญาเช่ำที่ ดิ นจะถือเป็ นสั ญญาเช่ำดาเนินงาน ดังนั้ น จานวนเงินที่จ่ำยเมื่อเข้ำทาสัญญาเช่ำหรือการได้ สิทธิการเช่ำซึ่งเป็ นสัญญาเช่ำ ดาเนินงาน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 72 จึงถือเป็ นการจ่ำยค่ำเช่ำล่ วงหน้ำ ซึ่งต้ องตัดจำหน่ำยตลอดอายุสัญญาเช่ำตามรูปแบบของ ประโยชน์ ที่ได้ รับ 14 . 27 เพื่อวัตถุประสงค์ ในการจัดประเภท สัญญาเช่ำ องค์ ประกอบของที่ดินและอาคารที่เกิดจากสัญญา เช่ำจะพิจารณาแยกจากกัน ถ้ำกรรมสิทธิ์ขององค์ ประกอบทั้งสองจะต้ องโอนไปให้ ผู้ เช่ำเมื่อสิ้นสุด สัญญาเช่ำ สัญญาเช่ำนั้นต้ องจัดประเภทเป็ นสัญญาเช่ำเงิน ทุน ไม่ ว่ำจะได้ มีการทาเป็ นสัญญาเดียว หรือแยกเป็ นสองสัญญา เว้ นแต่ จะมีลักษณะอื่นที่แน่ ชัดแสดงถึงการมิได้ โอนความเสี่ยงและ ผลตอบแทนที่ผู้ เป็ นเจ้ำของพึงได้ รับจากสินทรัพย์ ที่เช่ำ โดยปกติที่ ดินมี ลักษณะพิเศษ คือ จะมี อายุเชิงเศรษฐกิจไม่ จำกัด และหากคาดว่ำจะไม่ ต้ องโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินไปให้ ผู้ เช่ำ ณ วันสิ้นสุด สั ญญาเช่ำ ที่ดินนั้นจะจัดประเภทเป็ นสัญญาเช่ำดาเนินงาน และอาคารจะจัดประเภทเป็ นสัญญา เช่ำเงิน ทุน หรือสั ญญาเช่ำดาเนินงาน 14 . 28 ในกรณีที่จาเป็ นต้ องจัดประเภทและพิจารณาการเช่ำที่ดินและอาคาร จานวนเงินขั้ น ต่า ที่ ต้ อ งจ่ำย ตามสัญญาเช่ำที่ดินและอาคาร (รวมถึงเงินก้ อนที่จ่ำยให้ ณ วันเริ่มต้ น) จะปั นส่ วนให้ กั บที่ดิน และอาคาร ตามสัดส่ วนของมูลค่ำยุติธรรมในส่ วนของสิทธิในที่ดินและสิทธิในอาคาร ณ วัน เริ่มต้ นสัญญาเช่ำ ถ้ำจานวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำยไม่ สามารถนามาปั นส่ วนตามวิธีสัดส่ วนดังกล่ำวได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ สัญญาเช่ำทั้งหมดนั้ น ต้ องถื อเป็ นสั ญญาเช่ำเงิน ทุน เว้ นแต่ จะเป็ นที่ แน่ชั ดว่ำส่ วน ของที่ ดิ นและอาคารเป็ นสัญญาเช่ำดาเนินงาน ในกรณีเช่ นนี้ สัญญาเช่ำทั้งหมดให้ ถือเป็ นสัญญา เช่ำดาเนินงาน 14 . 29 เพื่อวัตถุประสงค์ ในการจัดประเภทสัญญาเช่ำ หากจานวนเงินที่เป็ นส่ วนของที่ดินที่ต้ องรับรู้ ตาม ย่ อหน้ำก่ อนมีจานวนไม่ เป็ นสาระสาคัญ ที่ ดินและอาคารตามสัญญาเช่ำอาจถือเป็ นสินทรัพย์ หน่ วย เดียวกันและจัดประเภทเป็ นสัญญาเช่ำเงิน ทุน หรือสัญญาเช่ำดาเนินงาน ในกรณีเช่ นนี้อายุเชิง เศรษฐกิจของอาคารถือเป็ นอายุเชิงเศรษฐกิจของสิ นทรั พย์ ทั้ งหมดที่ เ ช่ำ สัญญาเช่ำในงบการเงินของผู้ เช่ำ สัญญาเช่ำเงิน ทุน การรับรู้ เริ่มแรก 14 . 30 ณ วั นที่สัญญาเช่ำเริ่มมีผล ผู้ เช่ำต้ องรับรู้ สัญญาเช่ำเงิน ทุน เป็ นสินทรัพย์ และหนี้สินในงบแสดง ฐานะการเงินของผู้ เช่ำด้ วยจานวนเงินเท่ำกับมูลค่ำยุติธรรมของสินทรัพย์ ที่เช่ำ หรือมูลค่ำปั จจุบัน ของจานวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำยแล้ วแต่ จานวนใดจะต่า กว่ำ ซึ่งพิจารณา ณ วันเริ่มต้ นของสัญญา เช่ำ อัตราคิดลดในการคานวณมูลค่ำปั จจุบันของจานวนเงินขั้ นต่า ที่ ต้ องจ่ำย คือ อัตราดอกเบี้ย ตามนัยของสัญญาเช่ำหากสามารถกาหนดได้ ในทางปฏิบัติ หากในทางปฏิบัติไม่ สามารถกาหนด อัตราดอกเบี้ยตามนัยได้ ให้ ใช้ อัตราดอกเบี้ ยเงินกู้ ยืมส่ วนเพิ่มของผู้ เช่ำเป็ นอัตราคิดลดต้ นทุน ทางตรงเริ่มแรกของผู้ เช่ำต้ องรวมเป็ นส่ วนหนึ่งของต้ นทุนสินทรัพย์ ที่รั บรู้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 73 14 . 31 ต้ นทุนทางตรงเริ่มแรกมักเกิดขึ้ นเนื่องจากกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงกับการเช่ำ เช่ น การต่ อรอง และการทาสัญญาเช่ำ ต้ นทุนที่เกี่ยวข้ องโดยตรงกั บกิจกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้ เ ช่ำเพื่อให้ ได้ สั ญญาเช่ำ เงิน ทุน ต้ องรวมเป็ นส่ วนหนึ่งของจานวนที่รับรู้ เป็ นสินทรัพย์ ภายใต้ สัญญาเช่ำนั้น การวัดมูลค่ำภายหลังการรับรู้ เริ่ มแรก 14 . 32 จานวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำยต้ องนามาแยกเป็ นค่ำใช้ จ่ำยทางการเงินและส่ วนที่ จะนาไปลดหนี้สินที่ ยังไ ม่ ได้ ชา ระค่ำใช้ จ่า ยทางการเงินต้ องปั นส่ วนให้ กับงวดต่ำงๆ ตลอดอายุสัญญาเช่ำ เพื่ อทา ให้ อัตราดอกเบี้ยแต่ ละงวดเป็ นอัตราคงที่สาหรับยอดคงเหลือของหนี้สินที่ เหลืออยู่ แต่ ละงวด ค่ำเช่ำ ที่อาจเกิดขึ้นบันทึกเป็ นค่ำใช้ จ่ำยในงวดที่เกิดรายการ 14 . 33 ในทางปฏิบัติ กิจการอาจใช้ การประมาณการในลักษณะใดลักษณะหนึ่งในการปั นส่ วนค่ำใช้ จ่ำย ทางการเงินให้ กับงวดต่ำงๆ ตลอดอายุสัญญาเช่ำเพื่อความสะดวกในการคานวณ 14 . 34 สัญญาเช่ำเงิน ทุน ทาให้ เกิดค่ำเสื่อมราคาสาหรับสินทรัพย์ เสื่อมสภาพ และค่ำใช้ จ่ำยทางการเงิน สาหรับงวดบัญชีแต่ ละงวด นโยบายการคิดค่ำเสื่อมราคาสาหรับสินทรัพย์ เสื่อมสภาพที่ เช่ำต้ อง สอดคล้ องกับวิธีการคิดค่ำเสื่อมราคาของสินทรัพย์ เสื่อมสภาพซึ่งกิจการเป็ นเจ้ำของ และค่ำเสื่อม ราคาที่รับรู้ ต้ องคานวณตามเกณฑ์ ที่ระบุไว้ ในมาตรฐานการรายงานการเงิน หากไม่ มีความแน่ นอน อย่ำงสมเหตุสมผลที่ผู้ เช่ำจะเป็ น เจ้ำของสินทรัพย์ เมื่ออายุสัญญาเช่ำสิ้นสุดลง ผู้ เช่ำต้ องตัดค่ำ เสื่อมราคาของสินทรัพย์ ให้ หมดภายในอายุสั ญญาเช่ำ หรืออายุการ ใช้ ประโยชน์ แล้ วแต่ อายุใด จะสั้นกว่ำ 14 . 35 ผู้ เช่ำต้ องปั นส่ วนมูลค่ำเสื่อมสภาพของสินทรัพย์ ที่ เช่ำให้ กับงวดบัญชีแต่ ละงวดตลอดระยะเวลาที่ คาดว่ำจะใช้ สินทรัพย์ นั้น การปั นส่ วนต้ องเป็ นไปตามเกณฑ์ ที่เป็ นระบบและสอดคล้ องกับนโยบาย การคิดค่ำเสื่อมราคาสาหรับสินทรัพย์ เสื่อมสภาพที่ผู้ เช่ำเป็ นเจ้ำของ หากมีความแน่ นอนอ ย่ำง สมเหตุสมผลที่สินทรัพย์ นั้นจะเป็ นของผู้ เช่ำเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่ำ ระยะเวลาที่คาดว่ำสินทรัพย์ จะ ใช้ งานได้ จะเท่ำกับอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ หากสินทรัพย์ นั้น จะไม่ ตกเป็ นของผู้ เช่ำเมื่ อ สิ้ นสุดสัญญาเช่ำ ผู้ เช่ำต้ องคิดค่ำเสื่อมราคาของสินทรัพย์ ให้ หมดภายในระยะเวลาของสัญญาเช่ำ หรือ ภายในอายุการ ใช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์ แล้ วแต่ ระยะเวลาใดจะสั้นกว่ำ 14 . 36 ผู้ เช่ำต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลสาหรั บสั ญญาเช่ำเงิน ทุน ดังต่ อไปนี้ 14 . 36 . 1 มูลค่ำตามบัญชีสุทธิ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงานสาหรับสินทรั พย์ แต่ ละประเภท 14 . 36 . 2 การกระทบยอด ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงานระหว่ำงจานวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำย ทั้ ง สิ้ นกั บมูลค่ำปั จจุบันของจานวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำยทั้งสิ้น นอกจากนั้ น ณ วันสิ้น รอบระยะเวลารายงาน กิจการต้ องเปิ ดเผยจานวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำยทั้ ง สิ้นและมูลค่ำ ปั จจุบันของจำนวน เงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำยทั้งสิ้นสาหรั บระยะเวลาแต่ ละช่ วงต่ อไปนี้ 14 . 36 . 2 . 1 ระยะเวลาที่ไม่ เกินห นึ่งปี 14 . 36 . 2 . 2 ระยะเวลาที่เกินหนึ่งปี แต่ ไม่ เกินห้ำปี 14 . 36 . 2 . 3 ระยะเวลาที่เกินห้ำปี
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 74 14 . 36 . 3 ค่ำเช่ำที่อาจเกิดขึ้นที่รับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำยสาหรับงวด 14 . 36 . 4 จำนวนเงินขั้นต่า ทั้งสิ้นที่คาดว่ำจะได้ รับ ในอนาคตจากการให้ เช่ำช่ วงที่บอกเลิกไม่ ได้ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน 14 . 37 นอกจากนี้ ผู้ เช่ำที่มีสินทรัพย์ ภายใต้ สัญญาเช่ำเงิน ทุน ต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลตามข้ อกาหนดของ มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้เรื่องอื่น เช่ น ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สินทรัพย์ ไม่ มี ตัวตน และอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน เป็ นต้ น สัญญาเช่ำดำเนินงาน 14 . 38 ผู้ เช่ำต้ องรับรู้ จานวนเงินที่จ่ำยตามสัญญาเช่ำดาเนินงาน (ซึ่งไม่ รวมต้ นทุนในการให้ บริการ เช่ น ค่ำประกันภั ยและค่ำบารุงรักษา) เป็ นค่ำใช้ จ่ำยตามวิธี เส้ นตรงตลอดอายุสัญญาเช่ำ นอกจากว่ำจะ มีเกณฑ์ อื่นที่เป็ นระบบ ซึ่งแสดงถึงประโยชน์ ที่ผู้ เช่ำได้ รับในช่ วงเวลา 14 . 39 ผู้ เช่ำต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลสาหรับสัญญาเช่ำดาเนินงานดังต่ อไปนี้ 14 . 39 . 1 จำนวนเงินขั้ นต่า ที่ต้ องจ่ำยในอนาคตทั้งสิ้นภายใต้ สัญญาเช่ำดาเนินงานที่บอกเลิกไม่ ได้ สาหรั บระยะเวลาแต่ ละช่ วงต่ อไปนี้ 14 . 39 . 1 . 1 ระยะเวลาที่ไม่ เกินหนึ่งปี 14 . 39 . 1 . 2 ระยะเวลาที่เกินหนึ่งปี แต่ ไม่ เกินห้ำปี 14 . 39 . 1 . 3 ระยะเวลาที่เกินห้ำปี 14 . 39 . 2 จานวนเงินขั้นต่า ทั้งสิ้ นที่คาดว่ำจะได้ รับในอนาคตจากการเช่ำช่ วงที่บอกเลิกไม่ ได้ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน 14 . 39 . 3 จานวนเงินที่ต้ องจ่ำยตามสัญญาเช่ำและจานวนเงินที่จะได้ รับตามสัญญาให้ เช่ำช่ วงที่ รับรู้ สาหรับงวด ซึ่งแยกแสดงจานวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำย ค่ำเช่ำที่อาจเกิดขึ้น และ จานวนเงินที่จะได้ รับจากสัญญาให้ เช่ำช่ วง สัญญาเช่ำในงบการเงินของผู้ ให้ เช่ำ สัญญา เช่ำเงิน ทุน การรับรู้ เริ่มแรก 14 . 4 0 ผู้ ให้ เช่ำต้ องรับรู้ สินทรั พย์ ภายใต้ สัญญาเช่ำเงิน ทุน เป็ นลูกหนี้ในงบแสดงฐานะการเงิน ด้ วยจำนวน ที่เท่ำกับเงินลงทุนสุทธิในสัญญาเช่ำ 14 . 41 ภายใต้ สัญญาเช่ำเงิน ทุน ผู้ ให้ เช่ำโอนความเสี่ยงและประโยชน์ ของความเป็ นเจ้ำของทั้งหมดหรือ เกือบทั้งหมดให้ แก่ ผู้ เช่ำ ดังนั้น ผู้ ให้ เช่ำจึงถือว่ำลูกหนี้สัญญา เช่ำ คือ สินทรัพย์ ที่จะทาให้ ผู้ ให้ เช่ำ ได้ รับเงินต้ นพร้ อมกับรายได้ ทางการเงิน เพื่อชดเชยและตอบแทนผู้ ให้ เช่ำสาหรับการลงทุนและ บริการที่ให้ 14 . 42 ผู้ ให้ เช่ำมักมีต้ นทุนทางตรงเริ่มแรก เช่ น ค่ำนายหน้ำและค่ำธรรมเนียมทางกฎหมาย ต้ นทุน ทางตรงส่ วนเพิ่มจากการต่ อรองและจัดทาสัญญาเช่ำ ต้ นทุนดังกล่ำวไม่ รวมถึงต้ นทุนทั่วไป เช่ น
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 75 ต้ นทุนที่เกิดขึ้นกับฝ่ำยขายและการตลาด สาหรับสัญญาเช่ำเงิน ทุน นอกเหนือจากสัญญาเช่ำของ ผู้ ให้ เช่ำที่ เป็ นผู้ ผลิตหรือผู้ แทนจาหน่ำย ต้ นทุนทางตรงเริ่มแรกจะรวมคานวณอยู่ ในลูกหนี้ตาม สัญญาเช่ำเงิน ทุน และจะเป็ นส่ วนหักจากกาไรในช่ วงอายุของสัญญาเช่ำ อัตราดอกเบี้ยตามนั ยของ สั ญญาเช่ำเป็ นอัตราที่กาหนดขึ้ นโดยได้ คานึงถึงต้ นทุนทางตรงเริ่มแรกซึ่งรวมอยู่ ในยอดลูกหนี้ ตามสัญญาเช่ำ ดังนั้ น จึงไม่ มีความจาเป็ นต้ องรวมยอดดังกล่ำวแยกต่ำงหาก ต้ นทุนทางตรง เริ่มแรกของผู้ ให้ เช่ำที่เป็ นผู้ ผลิตหรือผู้ แทนจาหน่ำย ไม่ รวมอยู่ ในคานิยามของมาตรฐานการ รายงานทางการเงินนี้ และไม่ รวมเป็ นส่ วนหนึ่งของเงินลงทุนสุ ทธิในสั ญญาเช่ำจึงต้ องรับรู้ เป็ น ค่ำใช้ จ่ำยเมื่ อมีการรับรู้ กาไรจากการขายในวันที่สัญญาเช่ำเริ่มมีผล การวัดมูลค่ำภายหลังการรับรู้ เริ่ มแรก 14 . 43 การรับรู้ รายได้ ทางการเงินต้ องขึ้นอยู่ กั บรูปแบบที่สะท้ อนถึงอัตราผลตอบแทนคงที่ในแต่ ละงวด ของเงินลงทุนสุทธิของผู้ ให้ เช่ำ ซึ่งคงเหลือตามสัญญาเช่ำเงิน ทุน 14 . 44 ผู้ ให้ เช่ำต้ องทบทวนประมาณการมูลค่ำคงเหลือที่ไม่ ได้ รับการประกันที่ใช้ ในการคานวณเงินลงทุน ขั้ น ต้ นตามสัญญาเช่ำอย่ำงสม่า เสมอ หากประมาณการมูลค่ำคงเหลือที่ ไม่ ได้ รับการประกันมี จานวนลดลง ผู้ ให้ เช่ำต้ องทบทวนการปั นส่ วนรายได้ ตลอดอายุสัญญาเช่ำ และต้ องรับรู้ การลดลง ของจานวนที่ ตั้งค้ำงรับไว้ ในงบกำไรขาดทุนทันที 14 . 45 สินทรัพย์ ภายใต้ สัญญาเช่ำเงิน ทุน ซึ่งจัดประเภทเป็ นสินทรัพย์ ไม่ หมุนเวียนที่ถือไว้ เพื่อขาย ต้ องปฏิบั ติ ตามข้ อกาหนดเกี่ยวกั บสิ นทรั พย์ ไม่ หมุนเวียนที่ ถื อไว้ เพื่ อขายตามย่ อหน้ำที่ 10 . 39 ถึ ง 10 . 40 14 . 46 ผู้ ให้ เช่ำที่เป็ นผู้ ผลิตหรือผู้ แทนจาหน่ำยต้ องรับรู้ กาไรหรือขาดทุนจากการขายสาหรับงวดตาม นโยบายการบั ญชีที่กิจการใช้ สา หรับการขายเสร็จเด็ดขาด หากอัตราดอกเบี้ยที่ ใช้ เป็ นอัตราที่ ต่า เกินจริง กำไรจากการขายต้ องกาหนดขึ้นโดยสมมติให้ ใช้ อัตราดอกเบี้ ยเชิงพาณิชย์ ต้ นทุนทางตรง เริ่มแรก (เช่ น ต้ นทุนที่เกิดขึ้นในการต่ อรองและทาสัญญาเช่ำเงิน ทุน เป็ นต้ น) ต้ องรับรู้ เป็ น ค่ำใช้ จ่ำยเมื่ อมีการรับรู้ กำไรจากการขาย 14 . 47 ผู้ ผลิตหรือผู้ แทนจาหน่ำยมักให้ ทางเลือกแก่ ลูกค้ำที่จะซื้อหรือเช่ำสินทรัพย์ สัญญาเช่ำเงิน ทุน ของ สินทรัพย์ ที่ทาโดยผู้ ให้ เช่ำที่เป็ นผู้ ผลิตหรือผู้ แทนจำหน่ำยทาให้ เกิดรายได้ สองประเภทดังต่ อไปนี้ 14 . 47 . 1 กาไรหรือขาดทุนที่เทียบเท่ำกับกาไรหรือขาดทุนที่เกิดจากการขายเสร็จเด็ดขาดของ สินทรัพย์ ที่ให้ เช่ำด้ วยราคาขายปกติ ทั้ งนี้จะต้ องคานึงถึงส่ วนลดปริมาณหรือส่ วนลด การค้ำด้ วย 14 . 47 . 2 รายได้ ทางการเงินตลอดอายุสัญญาเช่ำ 14 . 48 ณ วันที่สัญญาเช่ำเริ่มมีผล ผู้ ให้ เช่ำที่เป็ นผู้ ผลิตหรือผู้ แทนจาหน่ำยจะบันทึกรายได้ จากการขาย ด้ วยมูลค่ำยุติธรรมของสินทรั พย์ หรือมูลค่ำปั จจุบันของจานวนเงินขั้นต่า ที่ผู้ เช่ำต้ องจ่ำยให้ ผู้ ให้ เช่ำคิดลดด้ วยอัตราดอกเบี้ยในท้ องตลาดแล้ วแต่ จำนวนใดจะต่ากว่ำ และจะบันทึกต้ นทุนขายด้ วย ต้ นทุนของสินทรัพย์ ที่ให้ เช่ำหรือมูลค่ำตามบัญชี (หากมูลค่ำตามบัญชีแตกต่ำงจากต้ นทุนของ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 76 สินทรัพย์ ที่ให้ เช่ำ) หักด้ วยมูลค่ำปั จจุบันของมูลค่ำคงเหลือที่ไม่ ได้ รับการประกันผลต่ำงระหว่ำง รายได้ จากการขายกับต้ นทุนขายถือเป็ นกาไรจากการขาย ซึ่งต้ องรับรู้ ตามนโยบายการบั ญชี ที่กิจการใช้ สาหรับการขายเสร็จเด็ดขาด 14 . 49 ผู้ ให้ เช่ำต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลสาหรับสัญญาเช่ำเงิน ทุน ดังต่ อไปนี้ 14 . 49 . 1 การกระทบยอด ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน ระหว่ำงผลรวมของเงินลงทุนขั้ นต้ น ทั้ งสิ้น ตามสัญญาเช่ำกับมูลค่ำปั จจุบันของจำนวนเงินขั้นต่า ที่ลูกหนี้ ต้ องจ่ำยตามสัญญา เช่ำ นอกจากนี้ ณ วันสิ้ นรอบระยะเวลารายงาน กิ จการต้ องเปิ ดเผยผลรวมของเงิน ลงทุ นขั้ นต้ นตามสัญญาเช่ำและมูลค่ำปั จจุบั นของจำนวนเงินขั้ น ต่า ที่ลูกหนี้ต้ องจ่ำยตาม สัญญาเช่ำสาหรับ ระยะเวลาแต่ ละช่ วงต่ อไปนี้ 14 . 49 . 1 . 1 ระยะเวลาที่ไม่ เกินหนึ่งปี 14 . 49 . 1 . 2 ระยะเวลาที่เกินหนึ่งปี แต่ ไม่ เกินห้ำปี 14 . 49 . 1 . 3 ระยะเวลาที่เกินกว่ำห้ำปี 14 . 49 . 2 รายได้ ทางการเงินรอการรับรู้ 14 . 49 . 3 มูลค่ำคงเหลือที่ไม่ ได้ รั บการประกัน ซึ่ งรวมอยู่ ในผลประโยชน์ ของผู้ ให้ เช่ำ 14 . 49 . 4 ค่ำเผื่อหนี้ สงสัยจะสูญของจานวนเงินขั้นต่า ที่ลูกหนี้ต้ องจ่ำยตามสัญญาเช่ำที่คาดว่ำจะ เก็บไม่ ได้ 14 . 49 . 5 ค่ำเช่ำที่อาจเกิดขึ้นที่รั บรู้ เป็ นรายได้ สาหรับงวด 14 . 49 . 6 คาอธิบายโดยทั่วไปของข้ อตกลงที่สาคัญตามสั ญญาเช่ำของผู้ ให้ เช่ำ สัญญาเช่ำดำเนินงาน 14 . 50 ผู้ ให้ เช่ำต้ องแสดงสินทรัพย์ ที่ อยู่ ภายใต้ สั ญญาเช่ำดำเนินงานในงบแสดงฐานะการเงิน ตามลักษณะของสินทรัพย์ 14 . 51 ผู้ ให้ เช่ำต้ องรับรู้ รายได้ ค่ำเช่ำจากสัญญาเช่ำดาเนินงานตามเกณฑ์ เส้ นตรงตลอดอายุสัญญาเช่ำ นอกจากว่ำจะมีเกณฑ์ อื่นที่เป็ นระบบ ซึ่งแสดงถึงรูปแบบของการได้ รับประโยชน์ ที่ ลดลงจาก สินทรั พย์ ที่ ให้ เช่ำ 14 . 52 ผู้ ให้ เช่ำต้ องรับรู้ ต้ นทุน (ซึ่งรวมถึงค่ำเสื่อมราคา) ที่ เกิดขึ้นเนื่องจากการได้ รับรายได้ ค่ำเช่ำเป็ น ค่ำใช้ จ่ำยสา หรั บงวด และรั บรู้ รายได้ ค่ำเช่ำ (ไม่ รวมเงินรั บจากการให้ บริ การ เช่ น การประกันภั ย และการบารุงรักษา) ตามเกณฑ์ เส้ นตรงตลอดอายุสัญญาเช่ำแม้ ว่ำการรับเงินจะไม่ เป็ นไปตาม เกณฑ์ ดั งกล่ำว เว้ นแต่ จะมีเกณฑ์ ที่เป็ นระบบอย่ำงอื่นที่ ดีกว่ำ ซึ่งแสดงถึงรูปแบบของการได้ รับ ประโยชน์ ที่ลดลงจากสินทรัพย์ ที่ ให้ เช่ำ 14 . 53 ต้ นทุนทางตรงเริ่มแรกของผู้ ให้ เช่ำที่เกิดขึ้นในการต่ อรอง หรือการทาสัญญาเช่ำดาเนินงาน จะรวมเป็ นส่ วนหนึ่งของมูลค่ำตามบัญชีของสินทรัพย์ ที่เช่ำ และจะรับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำยตลอดอายุ สัญญาเช่ำ ตามเกณฑ์ เช่ นเดียวกับการรั บรู้ รายได้ จากสัญญาเช่ำ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 77 14 . 54 ค่ำเสื่อมราคาของสินทรัพย์ ที่ให้ เช่ำต้ องบันทึกโดยใช้ เกณฑ์ ที่ สอดคล้ องกับนโยบายการคิดค่ำ เสื่อมราคาตามปกติของสินทรัพย์ ที่คล้ำยคลึงของผู้ ให้ เช่ำ และค่ำเสื่อมราคาต้ องคานวณตาม เกณฑ์ ที่กำหนดไว้ ในมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ และ สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน 14 . 55 ผู้ ให้ เช่ำที่เป็ นผู้ ผลิตหรือผู้ แทนจาหน่ำยเมื่อได้ มีการทาสัญญาเช่ำดาเนินงานต้ องไม่ รับรู้ เป็ นกำไร จากการขาย เนื่องจากการทาสัญญาเช่ นนั้นไม่ ถือว่ำเป็ นการขาย 14 . 56 ผู้ ให้ เช่ำต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลสาหรับสัญญาเช่ำดาเนินงานดังต่ อไปนี้ 14 . 56 . 1 จำนวนเงินขั้นต่า ที่ต้ องจ่ำยในอนาคตทั้งสิ้นภายใต้ สัญญาเช่ำดาเนินงานที่บอกเลิกไม่ ได้ โดย แสดงจำนวนรวมสาหรับระยะเวลาแต่ ละช่ วงต่ อไปนี้ 14 . 56 . 1 . 1 ระยะเวลาที่ไม่ เกินหนึ่งปี 14 . 56 . 1 . 2 ระยะเวลาที่เกินหนึ่งปี แต่ ไม่ เกินห้ำปี 14 . 56 . 1 . 3 ระยะเวลาที่เกินห้ำปี 14 . 56 . 2 ค่ำเช่ำที่อาจเกิดขึ้นที่รั บรู้ เป็ นรายได้ 14 . 56 . 3 คาอธิบายโดยทั่วไปของข้ อตกลงที่สาคัญตามสัญญาเช่ำสาหรั บผู้ ให้ เช่ำ 14 . 57 นอกจากนี้ ผู้ ให้ เช่ำต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลเพิ่มเติมตามข้ อกาหนดที่ระบุไว้ ในมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบับนี้ในส่ วนที่เกี่ยวกับจานวน ของสินทรัพย์ ที่ให้ เช่ำตามสัญญาเช่ำดาเนินงาน ซึ่ งผู้ ให้ เช่ำบันทึกเป็ นสินทรัพย์ เช่ น ข้ อกาหนดเรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สินทรัพย์ ไม่ มีตัวตน และ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อ การลงทุน การขายและเช่ำกลับคืน 14 . 58 การขายและเช่ำกลับคืน คือ การที่ผู้ ขายขายสินทรัพย์ แล้ วและผู้ ขายทาสัญญาเช่ำสินทรัพย์ นั้นกลับ คืนมา จานวนเงินที่ต้ องจ่ำยตามสัญญาเช่ำและราคาขายจึงมักมีความสัมพันธ์ กันเนื่องจากได้ มีการ ต่ อรองราคารวมกัน วิธีปฏิบัติทางบัญชีสาหรับการขายและเช่ำกลับคืนขึ้นอยู่ กับประเภทของ สัญญาเช่ำที่เกี่ยวข้ อง 14 . 59 หากรายการขายและเช่ำกลับคืนก่ อให้ เกิดสัญญาเช่ำเงิน ทุน สิ่งตอบแทนจากการขายที่สูงกว่ำ มูลค่ำตามบัญชีของสินทรัพย์ จะต้ องไม่ รั บรู้ เป็ นกาไรของผู้ ขายที่เป็ นผู้ เช่ำโดยทันที แต่ ต้ องบันทึก รับรู้ เป็ นรายการรอตัดบัญชี และตัดจาหน่ำยไปตลอดอายุสั ญญาเช่ำ 14 . 60 หากการเช่ำกลับคืนถือเป็ นสัญญาเช่ำเงิน ทุน รายการดังกล่ำวเป็ นวิธีที่ผู้ ให้ เช่ำจัดหาเงินทุนให้ กับ ผู้ เช่ำโดยใช้ สินทรัพย์ เป็ นหลั กประกัน ด้ วยเหตุนี้ จึงไม่ เหมาะสมที่ จะถือว่ำสิ่งตอบแทนจากการ ขายที่สูงกว่ำมูลค่ำตามบัญชีเป็ นรายได้ แต่ ต้ องบันทึกส่ วนเกินดังกล่ำวเป็ นรายการรอการตัดบัญชี และตัดจำหน่ำยไปตลอดอายุสัญญาเช่ำ 14 . 61 ในกรณีที่การขายและเช่ำกลับคืนก่ อให้ เกิดสั ญญาเช่ำดาเนินงาน 14 . 61 . 1 หากราคาขายมีจานวนเทียบเท่ำกับมูลค่ำยุติธรรมอย่ำงเห็นได้ ชัด ผู้ ขายต้ องรับรู้ ผล กำไร หรือผลขาดทุนจากการขายทันที
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 78 14 . 61 . 2 หากราคาขายมีจานวนต่า กว่ำมูลค่ำยุติธรรม ผู้ ขายต้ องรับรู้ กาไรหรือขาดทุนจากการ ขายทันที เว้ นแต่ ผู้ ขายจะได้ รับชดเชยขาดทุนที่เกิดขึ้ นโดยการจ่ำยค่ำเช่ำในอนาคตที่ต่า กว่ำราคาตลาด ในกรณีนี้ผู้ ขายต้ องบันทึกขาดทุนจากการขายเป็ นรายการรอการ ตัดบัญชีและตัดจำหน่ำยตามสั ดส่ วนของจำนวนค่ำเช่ำที่จ่ำยในแต่ ละงวดตามระยะเวลา ที่ผู้ ขายที่เป็ นผู้ เช่ำคาดว่ำจะใช้ ประโยชน์ จากสินทรัพย์ ที่เช่ำ 14 . 61 . 3 หากราคาขายมีจานวนสูงกว่ำมูลค่ำยุติธรรม ผู้ ขายต้ องรับรู้ จำนวนที่สูงกว่ำมูลค่ำ ยุติธรรมเป็ นรายการรอการตัดบัญชีและตัดจาหน่ำยตามระยะเวลาที่คาดว่ำจะใช้ ประโยช น์สิ นทรั พย์ ที่ เ ช่า 14 . 62 หากการเช่ำกลับคืนถือเป็ นสัญญาเช่ำดาเนินงาน และจานวนที่ต้ องจ่ำยตามสัญญาเช่ำ และราคา ขายกาหนดขึ้ นตามมูลค่ำยุติธรรม รายการดังกล่ำวเป็ นรายการขายตามปกติที่ กิจการสามารถรับรู้ กำไร หรือขาดทุนทันที 14 . 63 สาหรับสัญญาเช่ำดาเนินงาน หากมูลค่ำยุติธรรม ณ เวลาขายและเช่ำกลับคื นต่า กว่ำมูลค่ำตาม บัญชีของสินทรัพย์ กิจการต้ องรับรู้ ผลต่ำงระหว่ำงมูลค่ำตามบัญชีและมูลค่ำยุติธรรมเป็ นผล ขาดทุนทันทีสาหรับสัญญาเช่ำเงิน ทุน กิจการไม่ ต้ องปรั บปรุงผลต่ำงดังกล่ำว 14 . 64 ผู้ เช่ำและผู้ ให้ เช่ำตามสั ญญาขายและเช่ำกลับคืนต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลเช่ นเดียวกับผู้ เช่ำและผู้ ให้ เช่ำ ตามสัญญาเช่ำตามที่ระบุในมาตรฐานการรายงานทางการเงิน รวมถึงการเปิ ดเผยข้ อกาหนดที่มี สาระสาคัญในสัญญาเช่ำที่มีลักษณะเฉพาะ หรือที่ไม่ ธรรมดา หรือเงื่อนไขของการขายและเช่ำ กลับคืน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 79 บทที่ 15 ภาษีเงินได้ 15 . 1 กิจการต้ องรับรู้ ภาษีเงินได้ ที่ต้ องชาระให้ แก่ หน่ วยงานที่เกี่ยวข้ องเป็ นค่ำใช้ จ่ำยในงบกาไรขาดทุน โดยใช้ วิธีภาษีเงินได้ ค้า งจ่ำย ซึ่งแสดงภาระภาษีเงินได้ ที่ กิจการค้ำงชาระสุทธิจากภาษีหั ก ณ ที่จ่ำย ให้ รับรู้ เป็ นหนี้ สิ น 15 . 2 อย่ำงไรก็ตาม หากกิจการประสงค์ จะเลือกรับรู้ ค่ำใช้ จ่ำยภาษีเงินได้ หรือรายได้ ภาษีเงินได้ และ สินทรัพย์ หรือหนี้ สินภาษีเงินได้ รอการตัดบัญชีโดยใช้ วิธีหนี้สินตามงบแสดงฐานะการเงิน ( Balance Sheet Liability Method ) ให้ ถือปฏิบัติตามข้ อกำหนดทุกข้ อในมาตรฐานการ บัญชี ฉบับที่ 12 เรื่อง ภาษีเงินได้ อย่ำงสม่า เสมอ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 80 บทที่ 16 ประมาณการหนี้สิน หนี้ สิ นที่อาจ เกิดขึ้น และสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น 16 . 1 ประมาณการหนี้สิน หมายถึง หนี้สินหรือภาระผูกพันปั จจุบันที่มีความไม่ แน่ นอนเกี่ยวกับจังหวะ เวลาหรือจานวนที่ต้ องจ่ำยชาระ 16 . 2 หนี้ สิ นที่ อาจเกิ ดขึ้ น หมายถึ ง รายการข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ 16 . 2 . 1 ภาระผูกพันที่อาจมีอยู่ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ ในอดีต แต่ การจะทราบว่ำภาระผูกพัน ดังกล่ำวมีอยู่ หรือไม่ นั้นต้ องได้ รับการยืนยันจากเหตุการณ์ อย่ำงน้ อยหนึ่งเหตุการณ์ ใน อนาคต ซึ่งยังไม่ มีความแน่ นอนว่ำจะเกิดขึ้นหรือไม่ เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ ดังกล่ำวต้ อง ไม่ อยู่ ในความควบคุมทั้งหมดของกิจการ 16 . 2 . 2 ภาระผูกพันปั จจุบัน ซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ในอดีต แต่ ไม่ สามารถรับรู้ เป็ นหนี้สินได้ เนื่องจากเป็ นไปตามข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ 16 . 2 . 2 . 1 ไม่ มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจเพื่อจ่ำยชาระภาระผูกพัน หรือ 16 . 2 . 2 . 2 จำนวนของภาระผูกพันไม่ สามารถวัดมูลค่ำได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือเพียงพอ 16 . 3 สินทรัพย์ ที่อาจเกิดขึ้น หมายถึง สินทรัพย์ที่อาจมีอยู่อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งความมี อยู่จริงของสินทรัพย์นั้นจะได้รับการยืนยันต่อเมื่อเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังไม่แน่นอนเหตุการณ์ หนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่อยู่ในความ ควบคุมทั้งหมดของกิจการ 16 . 4 กิจการต้ องไม่ รับรู้ หนี้สินที่อาจเกิดขึ้น แต่ ให้ เปิ ดเผยรายละเอียดของภาระผูกพันที่มีอยู่ ในปั จจุบัน รวมทั้งมูลค่ำผลกระทบทางการเงินหากสามารถประมาณได้ ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน 16 . 5 กิจการต้องไม่รับรู้สินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น แต่หาก มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ที่กิจการจะได้รับ ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ กิจการต้องเปิดเผยรายละเอียดโดยสังเขปเกี่ยวกับลักษณะของสินทรัพย์ที่ อาจเกิดขึ้น ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน และกิจการต้องเปิดเผยประมาณการผลกระทบ ทางการเงิน ซึ่งวัดมูลค่าตามข้อกาหนดที่ระบุไว้ในย่อห น้าที่ 16 . 12 ถึง 16 . 13 หากสามารถทาได้ ในทางปฏิบัติ กิจการไม่รับรู้สินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้นในงบการเงิน เนื่องจากอาจทาให้ มี การรับรู้ รายได้ที่อาจ จะไม่มีวันได้รับเลย อย่างไรก็ตาม หากมีความเสมือนแน่นอนว่ารายได้จะเกิดขึ้น อย่างแน่นอน รายการสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องไม่ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น และการรับรู้ รายการดังกล่าวถือว่าเหมาะสม 16 . 6 ประมาณการหนี้สินจะต้ องรับรู้ ก็ต่ อเมื่อเป็ นไปตามเงื่อนไขทุกข้ อต่ อไปนี้ 16 . 6 . 1 กิ จการมีภาระผูกพันปั จจุบัน ซึ่งเป็ นผลจากเหตุการณ์ ในอดีตไม่ ว่ำภาระผูกพันนั้นจะ เป็ นภาระผูกพันตามกฎหมายหรือภาระผูกพันจากการอนุมาน 16 . 6 . 2 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจ ต่ อกิจการเพื่อจ่ำยชาระภาระผูกพั นดั งกล่ำว
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 81 16 . 6 . 3 สามารถประมาณจำนวนของภาระผูกพั นได้ อย่ำงน่ำเชื่อถื อ 16 . 7 ภาระผูกพันตามกฎหมาย หมายถึง ภาระผูกพันที่ เ กิดจากรายการใดรายการหนึ่ง ต่ อไปนี้ 16 . 7 . 1 สัญญา (ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ อย่ำงชั ดเจนหรือโดยนัย) 16 . 7 . 2 กฎหมายที่ใช้ บังคับ 16 . 7 . 3 ผลบังคั บตามกฎหมายอื่ น 16 . 8 ภาระผูกพันจากการอนุมาน หมายถึง ภาระผูกพั นที่เกิดจากการกระทาของกิจการเมื่อเป็ นไปตาม ข้ อกาหนดทุกข้ อต่ อไปนี้ 16 . 8 . 1 กิจการแสดงออกให้ ฝ่ำยอื่นๆ เห็นว่ำกิจการจะยอมรับผิดชอบบางประการ โดยการ ปฏิบัติในอดีตจนถือเป็ นแบบแผน หรือโดยนโยบายที่ประกาศใช้ หรือโดยคำ แถลงการณ์ ในปั จจุบันที่มีความเฉพาะเจาะจงอย่ำงเพียงพอ และ 16 . 8 . 2 การกระทาตามย่ อหน้ำ ที่ 16 . 8 . 1 ของกิจการสร้ำงความคาดหมายที่มีมูลความจริง ให้ กับฝ่ำยอื่นๆ ว่ำกิจการจะรับผิดชอบต่ อภาระผูกพันที่เกิดขึ้ น 16 . 9 กิจการต้ องรับรู้ ประมาณการหนี้สินสาหรับภาระผูกพันปั จจุบันที่พิจารณาว่ำเป็ นไปตามเกณฑ์ การ รับรู้ แล้ วเห็นว่ำน่ำจะมีอยู่ มากกว่ำไม่ น่ำจะมีอยู่ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน หากภาระผูกพัน ดังกล่ำวเป็ นไปตามเกณฑ์ การรั บรู้ รายการ และกิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลเกี่ยวกับหนี้สินที่อาจ เกิดขึ้น สาหรับภาระผูกพันที่พิจารณาแล้ วเห็นว่ำไม่ น่ำจะมีอยู่ มากกว่ำน่ำจะมีอยู่ ณ วันสิ้นรอบ ระยะเวลารายงาน เว้ นแต่ กรณีที่พิจารณาแล้ วเห็นว่ำความน่ำจะเป็ นที่กิจการจะสูญเสียทรัพยากร ที่มีประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจเพื่อจ่ำยชาระภาระผูกพันนั้นอยู่ ในระดับที่ไม่ น่ำจะเป็ นไปได้ 16 . 10 เหตุการณ์ ในอดีตที่มีผลทาให้ ภาระผูกพันปั จจุบันเกิดขึ้น เรียกว่ำเหตุการณ์ ที่ก่ อให้ เกิดภาระ ผูกพัน เหตุการณ์ ในอดีตจะถือเป็ นเหตุการณ์ ที่ก่ อให้ เกิดภาระผูกพันได้ ก็ต่ อเมื่อเหตุการณ์ นั้น เป็ นเหตุให้ กิจการต้ องจ่ำยชาระภาระผูกพันโดยไม่ มีทางเลือกอื่ นที่เป็ นไปได้ เหตุการณ์ ดังก ล่ำว ต้ องเป็ นไปตามข้ อกาหนดข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ 16 . 10 . 1 เมื่อการจ่ำยชาระภาระผูกพันสามารถมีผลบังคับตามกฎหมาย หรือ 16 . 10 . 2 เป็ นภาระผูกพันจากการอนุมาน เมื่อเหตุการณ์ ซึ่งอาจเป็ นการกระทาของกิจการได้ สร้ำงความคาดหมายอย่ำงมีมูลความจริงกับฝ่ำยอื่นๆ ว่ำกิจการจะรับผิดชอบต่ อภาระ ผูกพันที่เกิดขึ้น 16 . 11 หนี้สินที่กิจการสามารถรับรู้ ได้ ต้ องไม่ เป็ นแต่ เพียงภาระผูกพันปั จจุบันเท่ำนั้น แต่ ต้ องมีความ เป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่ กิจการจะสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจเพื่อจ่ำยชาระภาระ ผูกพันดังกล่ำว ตามวัตถุประสงค์ ของมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ ความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ หมายถึง การสูญเสียทรั พยากรหรือเหตุการณ์ อันจะมีความเป็ นไปได้ ก็ต่ อเมื่อ เหตุการณ์ นั้นมีความเป็ นไปได้ ที่จะเกิดขึ้นมากกว่ำไม่ น่ำจะเกิดขึ้น เมื่อไม่ มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่ภาระผูกพั นปั จจุบันจะมีอยู่ กิจการต้ องเปิ ดเผยหนี้สินที่อาจ เกิดขึ้น ยกเว้ นความน่ำจะเป็ นที่กิจการจะสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจเพื่อจ่ำย ชาระภาระผูกพั นนั้นจะอยู่ ในระดับไม่ น่ำเป็ นได้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 82 การวัดมูลค่ำ ประมาณการที่ดีที่สุด 16 . 12 กิจการต้ องรับรู้ ประมาณการหนี้สิน ด้ วยจานวนประมาณการที่ดีที่สุดของรายจ่ำยที่ต้ องนาไปจ่ำย ชาระภาระผูกพั นปั จจุบัน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน 16 . 13 ประมาณการที่ดีที่สุดของรายจ่ำยที่ ต้ องนำไปจ่ำยชำระภาระผูกพันปั จจุบัน คือ จำนวนที่ สมเหตุสมผลที่กิจการจะจ่ำยเพื่อชาระภาระผูกพันหรือโอนภาระผูกพันให้ กับบุคคลที่สาม ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน ตามปกติภาระผูกพันอาจมีจานวนสูงเกินกว่ำที่กิจการจะจ่ำยชาระ หรือโอน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน อย่ำงไรก็ตาม ประมาณการของจานวนที่สมเหตุผล ที่กิจการจะจ่ำยเพื่ อชำระหรือโอนภา ระผูกพันถือเป็ นประมาณการที่ดีที่สุดของรายจ่ำยที่ต้ องนาไป จ่ำยชาระภาระผูกพันปั จจุบัน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน 16 . 14 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ กาหนดให้ รับรู้ ผลประโยชน์ ของพนักงานที่ เป็ นไปตาม หลั กการรั บรู้ รายการในย่ อหน้ำที่ 16 . 6 ด้ วยจานวนประมาณการที่ดีที่สุดของรายจ่ำยที่ต้ องนาไป จ่ำยชาระภาระผูกพันปั จจุบัน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน อย่ำงไรก็ตาม หากกิจการประสงค์ จะรับรู้ ประมาณการหนี้สินสาหรับผลประโยชน์ ของพนักงานตามแนวทางที่กาหนดในมาตรฐาน การ บัญชี ฉบับที่ 19 เรื่อง ผลประโยชน์ของพนัก งาน ให้ กิจการปฏิบัติตามข้ อกาหนดทุกข้ อใน มาตรฐานการรายงานทางการเงินนั้นอย่ำงสม่า เสมอ การเปิ ดเผยข้ อมูล 16 . 15 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลต่ อไปนี้สาหรั บประมาณการหนี้ สินแต่ ละประเภท 16 . 15 . 1 จำนวนประมาณการหนี้สิน ณ วั นต้ นงวดและวันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน 16 . 15 . 2 จานวนประมาณการหนี้สินที่ รับรู้ เพิ่ มเติมในระหว่ำงงวด ซึ่งรวมถึงจานวนที่เพิ่มขึ้นของ ประมาณการหนี้สินที่มีอยู่ 16 . 15 . 3 จานวนที่ตัดออกจากบัญชีประมาณการหนี้สินในระหว่ำงงวด (เช่ น รายจ่ำยที่เกิดขึ้น และ นาไปลดประมาณการหนี้สิน) 16 . 15 . 4 จานวนประมาณการหนี้สินที่ ไม่ ได้ ใช้ ที่ ต้ องกลั บบัญชี ในระหว่ำงงวด 16 . 16 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลต่ อไปนี้สาหรับประมาณการหนี้สินแต่ ละประเภท 16 . 16 . 1 คาอธิบายโดยสังเขปเกี่ยวกับลักษณะของภาระผูกพันและจังหวะเวลาที่กิจการคาดว่ำ จะสูญเสียประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจ 16 . 16 . 2 สิ่งที่ชี้ บอกความไม่ แน่ นอนเกี่ยวกับจานวนหรือจังหวะเวลาของการสูญเสียประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจ กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อสมมติที่ สาคัญที่ใช้ เกี่ ยวกับเหตุการณ์ ในอนาคต เมื่อกิจการจำเป็ นต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลให้ เพียงพอ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 83 บทที่ 17 เหตุการณ์ ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน 17 . 1 เหตุการณ์ ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน หมายถึง เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นระหว่ำงวันสิ้นรอบ ระยะเวลารายงานกับวันที่ได้ รับอนุมัติให้ ออกงบการเงิน ไม่ ว่ำเหตุการณ์ นั้นจะเป็ นไปในทางดี หรือไม่ ดี เหตุการณ์ ดังกล่ำวสามารถแยกได้ เป็ น 2 ประเภท ดั งนี้ 17 . 1 . 1 เหตุการณ์ ที่เป็ นหลักฐานยืนยั นว่ำส ถานการณ์ ได้ มีอยู่ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน (เหตุการณ์ ภายหลังรอบระยะเวลารายงานที่ต้ องปรับปรุง) 17 . 1 . 2 เหตุการณ์ ที่ชี้ให้ เห็นว่ำสถานการณ์ ได้ เกิดขึ้นภายหลังรอบระยะเวลารายงาน (เหตุการณ์ ภายหลังรอบระยะเวลารายงานที่ไม่ ต้ องปรับปรุง) 17 . 2 เหตุการณ์ ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน รวมถึงเหตุการณ์ ทุกเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจนถึงวันที่ อนุมัติให้ ออกงบการเงิน แม้ ว่ำเหตุการณ์ เหล่ำนั้นเกิดขึ้นภายหลังการประกาศผลกาไรหรือข้ อมูล ทางการเงินอื่นให้ สาธารณชนทราบ เหตุการณ์ ภายหลังรอบระยะเวลารายงานที่ต้ องปรับปรุง 17 . 3 กิจการต้ องปรับปรุงจานวนที่รั บรู้ ในงบการเงินเพื่อสะท้ อนให้ เห็นถึงเหตุการณ์ ภายหลังรอบ ระยะเวลารายงานที่ต้ องปรับปรุง เช่ น คาพิพากษาของคดีความในศาลภายหลังรอบระยะเวลา รายงาน ซึ่งยืนยันว่ำกิจการมีภาระผูกพั นปั จจุบัน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน กิจการต้ อง ปรับปรุงจำนวนประมำณการที่เกี่ ยวข้ องกับคดีความในศาลที่ รับรู้ ไว้ ก่ อนหน้ำนี้ การล้ มละลายของ ลูกหนี้ที่เกิดขึ้นภายหลังรอบระยะเวลารายงาน โดยปกติจะเป็ นการยืนยันว่ำผลขาดทุนจากลูกหนี้ การค้ำได้ เกิดขึ้ นแล้ ว ณ วันสิ้ นรอบระยะเวลารายงาน และกิจการต้ องปรับปรุงมูลค่ำตามบั ญชีของ ลูกหนี้ การค้ำนั้น การกาหนดภายหลั งรอบระยะเวลารายงานสาหรับจำนวนส่ วนแบ่ งกำไรหรือการ จ่ำยโบนัส หากกิจการมีภาระผูกพันตามกฎหมายในปั จจุบั น หรือภาระผูกพันจากการอนุมาน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงานที่ จะต้ องจ่ำยส่ วนแบ่ งกำไรหรือโบนัสนั้น ซึ่งเป็ นผลมาจากเหตุการณ์ ก่ อนวันสิ้นรอบระ ยะเวลารายงาน เหตุการณ์ ภายหลังรอบระยะเวลารายงานที่ไม่ ต้ องปรับปรุง 17 . 4 กิจการต้ องไม่ ปรับปรุงจานวนที่รับรู้ ในงบการเงินเพื่อสะท้ อนถึงเหตุการณ์ ภายหลั งรอบระยะเวลา รายงานที่ไม่ ต้ องปรั บปรุง เช่ น การลดลงของมูลค่ำตลาดของเงินลงทุนระหว่ำงวันสิ้นรอบ ระยะเวลารายงานกับวันที่ ได้ รับอนุมัติให้ ออกงบการเงิน โดยปกติ การลดลงของมูลค่ำตลาดจะไม่ มีความสัมพันธ์ กับสถานะของเงินลงทุน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน แต่ จะสะท้ อนให้ เห็นถึง สถานการณ์ ที่เกิดขึ้นในงวดถัดไป หากกิจการประกาศจ่ำยเงินปั นผลให้ กับเจ้ำของภายหลังรอบ ระยะเวลารายงาน กิจการต้ องไม่ รับรู้ เงินปั นผลดังกล่ำวเป็ นหนี้สิน ณ วันสิ้ นรอบระยะเวลา รายงาน ถ้ำมีการประกาศจ่ำยเงินปั นผลหลังรอบระยะเวลารายงาน แต่ ก่ อนวันที่ได้ รั บอนุมั ติ ให้ ออกงบการเงินเงินปั นผลดังกล่ำวต้ องไม่ รับรู้ เป็ นหนี้ สิน ณ วันสิ้ น รอบระยะเวลา รายงาน เนื่องจาก
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 84 เงินปั นผลดั งกล่ำวไม่ เป็ นภาระผูกพัน ณ เวลาดังกล่ำว เงินปั นผลดังกล่ำวต้ องเปิ ดเผยไว้ ในหมาย เหตุประกอบงบการเงิน การเปิ ดเผยข้ อมูล 17 . 5 กิจการต้ องเปิ ดเผยวันที่ได้ รั บการอนุมัติให้ ออกงบการเงิน และผู้ ให้ การอนุมัติงบการเงิน หากผู้ เป็ นเจ้ำของกิจการหรือบุคคลอื่นมีอานาจแก้ ไขงบการเงิน หลังจากที่ได้ มีการออกงบการเงินแล้ ว กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อเท็จจริงดังกล่ำว 17 . 6 เมื่อเหตุการณ์ ภายหลังรอบระยะเวลารายงานที่ไม่ ต้ องปรับปรุงมีสาระสาคัญ จะทาให้ การไม่ เปิ ดเผยข้ อมูลมีผลกระทบต่ อการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจขอ งผู้ ใช้ งบการเงิน ดังนั้น กิจการต้ อง เปิ ดเผยข้ อมูลทุกข้ อต่ อไปนี้สาหรับเหตุการณ์ ภายหลั งรอบระยะเวลารายงานที่ไม่ต้องปรับปรุงแต่ละ ประเภทที่เป็ น สาระสาคั ญ 17 . 6 . 1 ลักษณะของเหตุการณ์ ดังกล่ำว 17 . 6 . 2 ประมาณการผลกระทบทางการเงิน หรือคาอธิบายที่ว่ำกิจการไม่ สามารถประมาณ ผลกระทบดั งกล่ำวได้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 85 บทที่ 18 รายได้ 18 . 1 รายได้ หมายถึง กระแสรับของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจ (ก่ อนหักค่ำใช้ จ่ำย) ในรอบระยะเวลา รายงาน ซึ่งเกิดขึ้นจากกิจกรรมตามปกติของกิจการ เมื่อกระแสรับนั้ นส่ งผลให้ ส่ วนของเจ้ำของ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ไม่ รวมถึงเงินทุนที่ได้ รับจากผู้ มีส่ วนร่ วมในส่ วนของเจ้ำของและรายการกาไร ซึ่ง มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบั บนี้ กำหนดให้ กิจการต้ องรับรู้ โดยตรงไปยังส่ วนของเจ้ำของ 18 . 2 รายได้ หมายรวมเฉพาะกระแสรับของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจ (ก่ อนหักค่ำใช้ จ่ำย) ที่กิจการได้ รับ หรือค้ำงรับซึ่งทาให้ ส่ วนของเจ้ำของเพิ่ มขึ้น ดังนั้น จานวนเงินที่กิจการเรียกเก็บแทนบุคคลที่สาม เช่ น ภาษีมูลค่ำเพิ่ ม จึงไม่ ถือเป็ นรายได้ ของกิจการ เนื่องจากถือเป็ นกระแสรับของประโยชน์ เชิง เศรษฐกิจที่ไม่ ทาให้ ส่ วนของเจ้ำของของกิ จการเพิ่มขึ้ น ในทานองเดียวกั น จานวนเ งินที่ ตั วแทน เรียกเก็บแทนตัวการ ซึ่งถือเป็ นกระแสรับขั้นต้ นของประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจ ที่ไม่ ทาให้ ส่ วนของ เจ้ำของเพิ่มขึ้นจึงไม่ ถือเป็ นรายได้ เว้ นแต่ จานวนที่เรียกเก็บนั้นเป็ นค่ำนายหน้ำ การวัดมูลค่ำของรายได้ 18 . 3 กิจการต้ องวัดมูลค่ำของรายได้ โดยใช้ มูลค่ำยุติธรรมของสิ่งตอบแทนที่ได้ รับหรือค้ำงรั บ 18 . 4 กิจการต้ องกาหนดจานวนรายได้ ตามที่กิจการตกลงกับผู้ ซื้อหรือผู้ ใช้ สิ นทรั พย์ ซึ่ งจานวนรายได้ ดังกล่ำวเป็ นมูลค่ำยุติธรรมของสิ่งตอบแทนที่ได้ รับหรือค้ำงรับสุทธิจากจานวนส่ วนลดการค้ำและ ส่ วนลดตามปริมาณซื้อที่กิจการกาหนด 18 . 5 เมื่อกิจการแลกเปลี่ยนสินค้ำหรือบริการที่มีลักษณะและมูลค่ำใกล้ เคียงกัน กิจการต้ องไม่ ถือว่ำ การแลกเปลี่ยนนั้นก่ อให้ เกิดรายได้ เมื่อกิจการแลกเปลี่ยนสินค้ำหรือบริการที่มีลักษณะไม่ เหมือนกันกิจการต้ องถือว่ำการแลกเปลี่ยนนั้นก่ อให้ เกิดรายได้ กิจการต้ องวัดมูลค่ำของรายได้ ดั งกล่ำวโดยใช้ มู ลค่ำยุติธรรมของสินค้ำหรือบริการที่ได้ รับ ปรับปรุงด้ วยจานวนเงินสดหรือ รายการเทียบเท่ำเงินสดที่มีการโอนระหว่ำงกัน หากมูลค่ำยุติธรรมของสินค้ำหรือบริการที่ได้ รับไม่ สามารถวัดมูลค่ำได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ กิจการต้ องวัดมูลค่ำของรายได้ โดยใช้ มูลค่ำยุติธรรมของสินค้ำ หรือบริการที่นำไปแลกปรับปรุงด้ วยจานวนเงินสดหรือรายการเทียบเท่ำเงินสดที่มีการโอน ระหว่ำงกัน การขายสินค้ำ 18 . 6 กิจการต้ องรับรู้ รายได้ จากการขายสินค้ำเมื่อเป็ นไปตามเงื่อนไขทุกข้ อดังต่ อไปนี้ 18 . 6 . 1 กิจการได้ โอนความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีนัยสาคัญของความเป็ นเจ้ำของสินค้ำ ให้ กั บผู้ ซื้อ แล้ ว 18 . 6 . 2 กิจการไม่ เกี่ยวข้ องในการบริหารสินค้ำอย่ำงต่ อเนื่องในระดับที่เจ้ำของพึงกระทาหรือ ไม่ ได้ ควบคุมสินค้ำที่ขายไปแล้ วทั้งทางตรงและทางอ้ อม 18 . 6 . 3 กิจการสามารถวัดมูลค่ำของจำนวนรายได้ ได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 86 18 . 6 . 4 มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ที่กิจการจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจของรายการบัญชีนั้น 18 . 6 . 5 กิจการสามารถวัดมูลค่ำของต้ นทุนที่เกิดขึ้นหรือที่จะเกิดขึ้น อั นเนื่องมาจากรายการ บัญชีนั้นได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 18 . 7 กิจการต้ องคานึงถึงสถานการณ์ แวดล้ อมของรายการบัญชีในการพิจารณาว่ำเมื่อใดกิจการได้ โอน ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีนัยสาคัญของความเป็ นเจ้ำของสินค้ำให้ กับผู้ ซื้อ โดยทั่วไปการโอน ความเสี่ยงและผลตอบแทนของความเป็ นเจ้ำของเกิดขึ้ นเมื่อกิจการโอนกรรมสิทธิ์หรือโอนการ ครอบครองสินค้ำให้ กับผู้ ซื้อ กรณีนี้มักเกิดขึ้นกับธุรกิจค้ำปลีก แต่ ในบางกรณี การโอนความเสี่ยง และผลตอบแทนของความเป็ นเจ้ำของสามารถเกิดขึ้น ณ เวลาที่ต่ำงจากเวลาในการโอน กรรมสิทธิ์หรือโอนการครอบครองสินค้ำให้ กั บผู้ ซื้ อ 18 . 8 กิจการต้ องไม่ รับรู้ รายได้ หากกิจการยังค งความเสี่ยงที่มีนัยสาคัญของความเป็ นเจ้ำของสินค้ำ ดังนั้ น รายการบัญชีที่เกิดขึ้นไม่ ถือว่ำเป็ นการขาย กิจการอาจคงไว้ ซึ่งความเสี่ยงและผลตอบแทน ที่ มีนัยสาคัญของความเป็ นเจ้ำของได้ ในหลายลักษณะ ตัวอย่ำงเช่ น 18 . 8 . 1 เมื่อกิจการยังมีภาระผูกพันต่ อผลงานที่ไม่ เป็ นที่พอใจของผู้ ซื้อ ซึ่งกิจการต้ อง รับผิดชอบนอกเหนือจากการรับประกันปกติ 18 . 8 . 2 เมื่อรายได้ จากการขายสินค้ำของกิจการขึ้นอยู่ กับรายได้ ที่ผู้ ซื้อได้ รั บจากการขายสินค้ำ นั้ น 18 . 8 . 3 เมื่อสินค้ำที่ส่ งไปมีเงื่ อนไขในการติดตั้งและการติดตั้ งนั้นเป็ นส่ วนสาคัญของสัญญา ซึ่ ง กิจการยังมิได้ ดาเนินการให้ แล้ วเสร็จ 18 . 8 . 4 เมื่อผู้ ซื้อมีสิทธิที่จะบอกเลิกการซื้อตามเงื่ อนไขในสัญญาซื้อขาย และกิจการไม่ สามารถ ประมาณความน่ำจะเป็ นที่ผู้ ซื้ อจะคืนสินค้ำนั้นได้ 18 . 9 กิจการต้ องรับรู้ รายได้ หากกิจการยังคงความเสี่ยงที่ไม่ เป็ นนัยสาคัญของความเป็ นเจ้ำของสินค้ำ ดังนั้ น รายการบัญชีที่เกิดขึ้นถือว่ำเป็ นการขาย ตัวอย่ำงเช่ น ผู้ ขายอาจคงกรรมสิทธิ์ในสินค้ำไว้ เพียงเพื่อประโยชน์ ในการเรียกเก็บเงินเมื่อครบกาหนด ในกรณีดังกล่ำว รายการบัญชีนั้นถือเป็ น การขายและกิจการต้ องรับรู้ เป็ นรายได้ หากกิจการได้ โอนทั้งความเสี่ ยงและผลตอบแทนที่มี นัยสาคัญของความเป็ นเจ้ำของสินค้ำไปแล้ ว อี กตั วอย่ำงหนึ่งคือ กรณีที่ กิจการค้ำปลีกยังคงความ เสี่ ยงที่ ไม่ เป็ นนัยสาคัญของความเป็ นเจ้ำของสินค้ำโดยตกลงที่จะคืนเงินให้ หากลูกค้ำไม่ พอใจใน สินค้ำในกรณีดังกล่ำว กิจการสามารถรับรู้ รายได้ ณ เวลาที่เกิดการขายหากกิจการสามารถ ประมาณการรับคืนสินค้ำในอนาคตได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ พร้ อมกับรับรู้ หนี้สินที่เกิดจากการรับคืน โดยประเมินจากประสบการณ์ ในอดีตและปั จจัยอื่ นๆ ที่เกี่ยวข้ อง 18 . 10 กิจการจะรับรู้ รายได้ เมื่อมีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจที่ เกี่ยวข้ องกับรายการบั ญชีนั้น ในบางกรณี ความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ของประโยชน์ เชิ งเศรษฐกิจ อาจไม่ เกิดขึ้นจนกระทั่ งกิจการได้ รับสิ่ งตอบแทนจากการขายแล้ ว หรือจนกระทั่งความไม่ แน่ นอน ได้ หมดไป ตัวอย่ำงเช่ น ความไม่ แน่ นอนที่รัฐบาลต่ำงประเทศจะอนุ มัติให้ ส่ งเงิน ซึ่งเป็ นสิ่งตอบ แทนจากการขายออกนอกประเทศ กิจการสามารถรับรู้ รายได้ ในทันทีที่รัฐบาลต่ำงประเทศอนุมัติ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 87 ให้ ส่ งเงินดังกล่ำวออกนอกประเทศได้ เนื่องจากความไม่ แน่ นอนได้ หมดไป อย่ำงไรก็ตาม เมื่อมี ความไม่ แน่ นอนเกิดขึ้นเกี่ยวกับจานวนเงินที่จะเรียกเก็บได้ และได้ รับรู้ เป็ นรายได้ แล้ ว จำนวนเงิน ที่กิจการไม่ สามารถเรียกเก็บได้ หรือจานวนเงินที่จะได้ รับคืนไม่ มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ อี ก ต่ อไป ให้ รั บรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำยและต้ องไม่ นาไปปรั บปรุงกับจำนวนรายได้ ที่รับรู้ เมื่อเริ่มแรก 18 . 11 รายได้ และค่ำใช้ จ่ำยที่ เกี่ยวข้ องกับรายการหรือเหตุการณ์ ทางบัญชีเดียวกันต้ องรับรู้ ในรอบ ระยะเวลา รายงาน เดียวกัน กระบวนการนี้ เรียกว่ำการจับคู่ รายได้ และค่ำใช้ จ่ำย ค่ำใช้ จ่ำยซึ่งรวมถึง ค่ำใช้ จ่ำยในการรับประกันและค่ำใช้ จ่ำยที่เกิดหลังการส่ งสินค้ำจะสามารถวัดมูลค่ำได้ อย่ำง น่ำเชื่อถือเมื่อเงื่อนไข ในข้ ออื่นๆ ในการรับรู้ รายได้ เกิดขึ้นแล้ ว อย่ำงไรก็ตาม กิจการต้ องไม่ รับรู้ รายได้ หากไม่ สามารถวัดมูลค่ำของค่ำใช้ จ่ำยได้ อย่ำงน่ำเชื่ อถื อ ในกรณีนี้ กิ จกำ รต้ องบันทึ กสิ่ ง ตอบแทนที่ กิจการได้ รับจากการขายสินค้ำเป็ นหนี้สิน 18 . 12 กิจการต้ องรับรู้ รายได้ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ตามข้ อกำหนดในบทที่ 19 เรื่อง การรับรู้ รายได้ จากการขายอสังหาริมทรั พย์ 18 . 13 กิจการต้ องรับรู้ รายได้ จากสัญญาก่ อสร้ำงตามข้ อกาหนดในบทที่ 20 เรื่อง สัญญาก่ อสร้ำง การให้ บริการ 18 . 14 เมื่อผลของรายการที่เกี่ยวข้ องกับการให้ บริการสามารถประมาณได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ กิจการต้ อง รับรู้ รายการที่เกี่ยวข้ องกับการให้ บริการเป็ นรายได้ ตามขั้นความสาเร็จของรายการ ณ วันสิ้นรอบ ระยะเวลารายงาน ผลของรายการสามารถประมาณได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือเมื่อเป็ นไปตามเงื่อนไข ทุกข้ อต่ อไปนี้ 18 . 14 . 1 กิจการสามารถวั ดมูลค่ำของจำนวนรายได้ ได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 18 . 14 . 2 มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ที่กิจการจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจของรายการบัญชีนั้น 18 . 14 . 3 กิจการสามารถวัดขั้นความสาเร็จของรายการบัญชี ณ วันที่ในงบการเงินได้ อย่ำง น่ำเชื่อถือ 18 . 14 . 4 กิจการสามารถวัดมูลค่ำของต้ นทุนได้ อย่ำง น่ำเชื่อถือ ต้ นทุนในที่นี้ หมายถึง ต้ นทุนที่ เกิดขึ้นแล้ วและที่จะเกิดขึ้นเพื่ อทาให้ รายการบัญชีนั้ น เสร็ จสมบู รณ์ 18 . 15 การรับรู้ รายได้ ตามขั้นความสาเร็จของรายการบัญชี เรียกว่ำ วิธีอั ตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จ ตามวิ ธีนี้ กิจการต้ องรับรู้ รายได้ ในรอบ ระยะเวลา รายงาน ที่มีการให้ บริการ การรับรู้ รายได้ ตาม เกณฑ์ ดังกล่ำวให้ ข้ อมูลที่เป็ นประโยชน์ เกี่ยวกับขอบเขตของบริการที่ให้ และผลการปฏิบัติงาน ระหว่ำงงวด 18 . 16 กิจการจะรับรู้ รายได้ ได้ ต่ อเมื่อมีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะได้ รั บประโยชน์ เชิ ง เศรษฐกิ จ ที่ เกี่ยวข้ องกับรายการบัญชีนั้น อย่ำงไรก็ตาม เมื่อมีความไม่ แน่ นอนเกิดขึ้นเกี่ ยวกับ จานวนเงินที่ จะเรียกเก็บได้ และได้ รับรู้ เป็ นรายได้ แล้ ว จานวนเงินที่กิจการไม่ สามารถเรียกเก็บได้ หรือจานวนเงิ นที่ จะได้ รั บคืนไม่ มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ อีกต่ อไป ให้ รับรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำยและ ต้ องไม่ นาไปปรับปรุงกับจำนวนรายได้ ที่รั บรู้ เมื่อเริ่มแรก
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 88 18 . 17 โดยทั่วไป กิจการจะสามารถประมาณการได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือหลังจากที่ได้ ตกลงกับคู่ สัญญาในทุก ข้ อต่ อไปนี้ 18 . 17 . 1 สิทธิตามกฎหมายของแต่ ละฝ่ำยซึ่งเกี่ยวกับการให้ บริการหรือการรับบริการ 18 . 17 . 2 สิ่งตอบแทนที่จะแลกเปลี่ยนกัน 18 . 17 . 3 ลักษณะและเงื่อนไขในการชาระเงิน โดยทั่วไป กิจการต้ องมีระบบการจัดทารายงานและงบประมาณทางการเงินที่ดีเพื่อใช้ ภายใน กิจการ และกิจการต้ องทบทวนประมาณการรายได้ ตลอดระยะเวลาที่ให้ บริการและเมื่อจาเป็ นต้ อง แก้ ไขประมาณการดังกล่ำว กำรแก้ ไขประมาณการนั้นไม่ ถือเป็ นการแสดงว่ำกิจการไม่ สามารถ ประมาณผลของรายการบัญชีได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 18 . 18 กิจการอาจกาหนดขั้นความสาเร็จของรายการบัญชีได้ หลายวิธี กิจการต้ องเลือกใช้ วิธีที่สามารถวัด ระดับของบริการที่แล้ วเสร็จได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือตามลักษณะของรายการบัญชี ซึ่งอาจรวมถึง 18 . 18 . 1 การสารวจงานที่ได้ ทาแล้ ว 18 . 18 . 2 อัตราส่ วนของบริการที่ให้ จนถึงปั จจุบันเทียบกับบริการทั้งสิ้ นที่ ต้ องให้ 18 . 18 . 3 สัดส่ วนของต้ นทุนที่เกิดขึ้ นจนถึงปั จจุบันกับประมาณการต้ นทุนทั้งสิ้น ต้ นทุนที่เกิดขึ้ น จนถึ งปั จจุบันให้ รวมเฉพาะต้ นทุนของบริการที่ ให้ แล้ วจนถึงปั จจุบัน ส่ วนประมาณการ ต้ นทุนทั้งสิ้นให้ รวมต้ นทุนของบริการทั้งที่ให้ แล้ วและที่จะให้ ในอนาคต ตามปกติ เงิ นจ่ำยล่ วงหน้ำหรือเงิ นรั บล่ วงหน้ำจากลูกค้ำจะไม่ ได้ สะท้ อนถึ งระดั บของบริการที่ ให้ ไป แล้ ว 18 . 19 หากกิจการไม่ สามารถจาแนกบริการที่ให้ เนื่องจากต้ องให้ บริการหลายอย่ำงในช่ วงเวลาเดียวกัน กิจการต้ องรับรู้ รายได้ ด้ วยวิธีเส้ นตรงตลอดช่ วงเวลาดังกล่ำว เว้ นแต่ จะมีหลักฐานที่แสดงให้ เห็น ว่ำ กิจการสามารถใช้ วิธีอื่นที่เหมาะสมกว่ำในการแสดงขั้นความสาเร็จของบริการที่ให้ หากการ ให้ บริการนั้นประกอบด้ วยการบริการหลัก ซึ่ งมีความสาคัญกว่ำการบริการอื่นๆ กิจการต้ องไม่ รับรู้ รายได้ จนกระทั่ งการให้ บริการหลักนั้นได้ ดาเนินการแล้ ว 18 . 20 หากกิจการไม่ สามารถประมาณผลของรายการบัญชีที่เกี่ยวข้ องกับการให้ บริการได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ กิจการต้ องรับรู้ รายได้ ไม่ เกินจานวนค่ำใช้ จ่ำยที่รับรู้ ไปแล้ วซึ่งคาดว่ำจะได้ รับคืน 18 . 21 ตามปกติ กิจการอาจไม่ สามารถประมาณผลของรายการบัญชีได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือในระยะเริ่มแรกที่ เกิ ดรายการบัญชี อย่ำงไรก็ตาม หากกิจการคาดว่ำมีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะได้ รับ ต้ นทุนที่เกิดขึ้ นจากรายการบัญชีนั้นคืน กิจการจะสามารถรับรู้ รายได้ ได้ ไม่ เกินจานวนต้ นทุนที่ เกิดขึ้น กิจการต้ องไม่ รั บรู้ กำ ไรหากไม่ สามารถประมาณผลของรายการบัญชี ได้ อย่ำงน่ำเชื่ อถือ 18 . 22 กิจการต้ องรับรู้ ต้ นทุนที่ เกิดขึ้นเป็ นค่ำใช้ จ่ำยโดยไม่ รับ รู้ รายได้ ที่ เกี่ยวข้ องหากกิจการไม่ สามารถ ประมาณผลของรายการบัญชีได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือและมีระดับความน่ำจะเป็ นไม่ เพียงพอที่จะเชื่ อถือ ได้ ว่ำกิจการจะได้ รับต้ นทุนที่เกิดขึ้นคืน อย่ำงไรก็ตาม เมื่อกิจการสามารถประมาณผลของรายการ บัญชีได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือเนื่องจากความไม่ แน่ นอนได้ หมดไป กิจการสามารถรับรู้ รำยได้ ได้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 89 ดอกเบี้ย ค่ำสิทธิ และเงินปั นผล 18 . 23 กิจการต้ องรับรู้ รายได้ ในรูปดอกเบี้ย ค่ำสิทธิ และเงินปั นผล ที่เกิดจากการให้ ผู้ อื่ นใช้ สินทรัพย์ ของกิจการตามเกณฑ์ ที่ กำ หนดไว้ เมื่ อเป็ นไปตามเงื่อนไขทุ กข้ อดังต่ อไปนี้ 18 . 23 . 1 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจของรายการบัญชี นั้ น 18 . 23 . 2 กิจการสามารถวัดมูลค่ำของจำนวนรายได้ ได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 18 . 24 รายได้ ดอกเบี้ย ค่ำสิทธิ และเงินปั นผล ต้ องรับรู้ ตามเกณฑ์ ต่ อไปนี้ 18 . 24 . 1 ดอกเบี้ยรับต้ องรับรู้ ตามวิธีอัตรา ดอกเบี้ย ที่แท้ จริงหรือวิธีอื่นที่ให้ ผลไ ม่ แตกต่ำงจากวิธี อัตราดอกเบี้ ยที่แท้ จริงอย่ำงมีสาระสาคัญ 18 . 24 . 2 ค่ำสิทธิต้ องรับรู้ ตามเกณฑ์ คงค้ำง ซึ่งเป็ นไปตามเนื้ อหาของข้ อตกลงที่เกี่ ยวข้ อง 18 . 24 . 3 เงินปั นผลต้ องรับรู้ เมื่อผู้ ถือหุ้ นมีสิทธิไ ด้ รับเงินปั นผล 18 . 25 หากกิจการซื้อเงินลงทุนที่ระบุอัตราดอกเบี้ยโดยมีดอกเบี้ยคงค้ำงที่เกิดขึ้นก่ อนการซื้อ กิจการต้ อง ปั นส่ วนดอกเบี้ยที่ได้ รับในเวลาต่ อมาระหว่ำงดอกเบี้ยรับที่เกิดขึ้นในช่ วงเวลาก่ อนการซื้อและหลัง การซื้อเพื่อรั บรู้ เป็ นรายได้ เฉพาะส่ วนที่เกิดขึ้นหลังการซื้อ 18 . 26 กิจการต้ องใช้ เกณฑ์ คงค้ำงในการบันทึกค่ำสิทธิตามข้ อตกลงที่เกี่ยวข้ อง เว้ นแต่ เนื้อหาตาม ข้ อตกลง จะแสดงให้ เห็นว่ำการรับรู้ รายได้ จะเหมาะสมยิ่งขึ้ นหากใช้ เกณฑ์ อื่นที่มีระบบและ สมเหตุสมผล 18 . 27 กิจการจะรับรู้ รายได้ เมื่อมีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่ กิจการจะได้ รับประโ ยชน์ เชิงเศรษฐกิจที่ เกี่ ยวข้ องกั บรายการบัญชีนั้ น อย่ำงไรก็ตาม เมื่อมีความไม่ แน่ นอนเกิดขึ้นเกี่ยวกับจานวนเงินที่จะ เรียกเก็บได้ และได้ รับรู้ เป็ นรายได้ แล้ ว จานวนเงินที่กิจการไม่ สามารถเรียกเก็บได้ หรือจานวนเงิน ที่จะได้ รับคืนไม่ มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ อีกต่ อไป ให้ รั บรู้ เป็ นค่ำใช้ จ่ำยและต้ องไม่ นำไป ปรับปรุงกับจำนวนรายได้ ที่รับรู้ เมื่อเริ่ มแรก โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า 18 . 28 กิจการใช้โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าเพื่อกระตุ้นลูกค้าให้สนใจที่จะซื้อสินค้าหรือรับบริการจาก กิจการ หากลูกค้าซื้อสินค้าหรือรับบริการจากกิจการ กิจการจะให้คะแนนสะสมกับลูกค้า (ส่วน ใหญ่เรียกว่า “ คะแนน ”) ลูกค้าสามารถนาคะแนนสะสมไปแลกเป็นรางวัล เช่น ได้รับสินค้าหรือ บริการโดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทน หรือใช้เป็นส่วนลดสินค้าหรือบริการ 18 . 29 โปรแกรมดังกล่าวดาเนินการได้ หลายรูปแบบ ลูกค้าอาจจะต้องการสะสมคะแนนให้ได้จานวนขั้น ต่าตามที่กาหนดหรือตามมูลค่าของคะแนนสะสมก่อน จึงจะใช้สิทธิแลกซื้อสินค้าหรือบริการได้ คะแนนสะสมบางครั้งเกิดจากการซื้อสินค้าแต่ละครั้งหรือการซื้อรวมกันหลายครั้ง หรือการซื้อ อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่กำหนด กิจการอาจทำโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าเองหรือทา โปรแกรมร่วมกับบุคคลที่สามก็ได้ ส่วนรางวัลที่ให้แก่ลูกค้าอาจเป็นสินค้าหรือบริการที่จัดหาโดย กิจการเอง และ/หรือสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการจากบุคคลที่สามก็ได้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 90 18 . 30 กิจการต้อง ถือปฏิบัติกับคะแนนสะสมที่เป็นสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไข ทุกข้อ ดังนี้ 18 . 30 . 1 กิจการให้สิทธิพิเศษสาหรับลูกค้าโดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการขายสินค้า การให้บริการ หรือการให้ลูกค้าใช้สินทรัพย์ของกิจการ และ 18 . 30 . 2 ลูกค้าสามารถใช้สิทธิในอนำคตเพื่อรับสินค้าหรือบริการโดยไม่จ่ายค่าตอบแทน หรือ ได้รับส่วนลดในสินค้าหรือบริการ ถ้าปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นที่กาหนด 18 . 31 กิจการสามารถรับรู้รายการและวัดมูลค่าของ คะแนนสะสมที่เป็นสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้า โดยใช้ วิธีการใดวิธีการหนึ่ง ดังนี้ 18 . 31 . 1 รับรู้คะแนนสะสมเป็น ประมาณการ หนี้สิน พร้อมกับรับรู้ค่าใช้จ่าย ด้ วยจานวนประมาณ การที่ดีที่สุด ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน โดย จานวนเงินที่รับรู้คานวณจากจานวน คะแนนสะสมทั้งหมดที่คาดว่าจะมีการใช้สิทธิ ใ นการแลกเป็นรางวัล เปรียบเทียบกับ จำนวนคะแนนสะสมทั้งหมด ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน หรือ 18 . 31 . 2 รับรู้คะแนนสะสมเป็นหนี้สิน แยกต่างหาก จากรายการขายที่กิจการให้คะแนนสะสม (การขายเริ่มแรก) ด้วยการปันส่วน มูลค่ายุติธรรมของสิ่งตอบแทนที่ได้รับหรือค้างรับ จากการขายเริ่มแรก ให้กับ คะแนนสะสม (โดยอ้างอิงจากมูลค่ายุติธรรมของคะแนน สะสม) และส่วนประกอบอื่นของรายการขายนั้น โดยภายหลังจะรับรู้ เป็นรายได้เมื่อ ลูกค้ามาใช้สิทธิแลกคะแนนสะสม และกิจการได้ปฏิบัติตามภาระผูกพันที่จะจัดหา รางวัลนั้น จานวนเงินที่รับรู้เป็นรายได้ต้องคานวณจากจานวนคะแนนสะสมที่ลูกค้าได้ ใช้สิทธิในการแลกเป็นรางวัล เปรียบเที ยบกับจานวนคะแนนสะสมทั้งหมดที่คาดว่าจะ มีการใช้สิทธิ ตัวการหรือตัวแทน 18 . 32 การพิจารณาว่ากิจการดาเนินการในฐานะของตัวการหรือตัวแทนจาเป็นต้องใช้ดุลพินิจโดย คานึงถึงข้อเท็จจริงและสถานการณ์แวดล้อมที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ กิจการดาเนินการในฐานะ ตัวการก็ต่อเมื่อกิจกา รได้รับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีนัยสาคัญจากการขายสินค้าหรือการ ให้บริการ ในทางตรงกันข้าม กิจการดาเนินการฐานะตัวแทนเมื่อกิจการไม่ได้มีความเสี่ยงและ ผลตอบแทนที่มีนัยสาคัญจากการขายสินค้าหรือการให้บริการ โดยลักษณะข้อบ่งชี้ว่ากิจการ ดาเนินการในฐานะของตัวการหรือตั วแทนมีดังนี้ 18 . 32 . 1 กรณีที่ กิจการดาเนินการในฐานะตัวการ • กิจการเป็นผู้รับผิดชอบหลักต่อการจัดหาสินค้าหรือบริการให้แก่ลูกค้า หรือ จัดการให้เป็นไปตามคาสั่งซื้อ เช่น กิจการต้องรับผิดชอบในการยอมรับของตัว สินค้าหรือบริการที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้า เป็นต้น • กิจการรับความเสี่ยงเกี่ยวกับตัวสินค้า ทั้งก่อนและหลังคาสั่งซื้อ ระหว่างการ ขนส่งหรือการรับสินค้าคืน • กิจการมีอิสระในการกำหนดราคา ไม่ว่าโดยทางตรงหรืออ้อม
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 91 • กิจการรับความเสี่ยงด้านสินเชื่อของลูกค้า 18 . 32 . 1 กรณีที่กิจการดาเนินการในฐานะ ตัวแทน • กิจการไม่ได้รั บความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีนัยสาคัญจากการขายสินค้าหรือ การให้บริการ • จานวนรายได้ที่กิจการจะได้รับถูกกาหนดไว้ล่วงหน้าในรูปแบบค่าธรรมเนียม คงที่ต่อรายการ หรือเป็นอัตราร้อยละของจานวนเงินที่เรียกเก็บจากลูกค้า กิจการซึ่งเป็นตัวการต้องแสดงรายได้ด้วยจานวนเงินของสิ่ งตอบแทนขั้นต้นที่คาดว่าจะได้รับ แต่ กิจการซึ่งเป็นตัวแทนต้องแสดงรายได้ด้วยจานวนเงินค่าธรรมเนียมหรือค่านายหน้าซึ่งคาดว่าจะ ได้รับ (สิ่งตอบแทนสุทธิที่ได้รับ) การเปิ ดเผยข้ อมูล 18 . 3 3 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลดังต่ อไปนี้ 18 . 3 3 . 1 นโยบายการบัญชีที่ กิจการใช้ ในการรับรู้ รายได้ ซึ่งรวมถึงวิธีกาหนดขั้นความสาเร็จของ รายการบัญชีที่เกี่ยวข้ องกับการให้ บริการ และวิธีการ รับรู้รายการและวัดมูลค่า สาหรับ คะแนนสะสมที่เป็นสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้า ในกรณี ที่เลือกปฏิบัติตามย่อหน้าที่ 18 . 31 . 2 (ถ้ามี) 18 . 3 3 . 2 จำนวนรายได้ แต่ ละประเภทที่มีนั ยสาคัญที่รับรู้ ระหว่ำงงวดซึ่งรวมถึงรายการต่ อไปนี้ 18 . 3 3 . 2 . 1 การขายสินค้ำ 18 . 3 3 . 2 . 2 การให้ บริการ 18 . 3 3 . 2 . 3 ดอกเบี้ย 18 . 3 3 . 2 . 4 ค่ำสิทธิ 18 . 3 3 . 2 . 5 เงินปั นผล 18 . 3 3 . 3 จานวนรายได้ ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนสินค้ำหรือบริการ ซึ่งรวมอยู่ ในรายได้ แต่ ละ ประเภทที่มีนัยสาคั ญ 18 . 3 3 . 4 จานวนประมาณการหนี้สินสาหรับโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า ในกรณีที่เลือกปฏิบัติ ตามย่อหน้าที่ 18 . 31 . 1 (ถ้ามี) โดยต้องเปิดเผยข้อมูลตามที่กาหนดไว้ในย่อหน้าที่ 16 . 15 หรือจำนวนหนี้สินรายได้รอการรับรู้ ในกรณี ที่เลือกปฏิบัติตามย่อหน้าที่ 18 . 31 . 2 (ถ้ามี)
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 92 บทที่ 19 การรับรู้ รายได้ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 19 . 1 อสังหาริมทรัพย์ หมายถึง ที่ดินกับทรัพย์ อันติดอยู่ กับที่ดิน หรือประกอบเป็ นอันเดียวกับที่ดินนั้ น รวมทั้งสิทธิทั้งหลายอื่ นเกี่ยวกับสิทธิในที่ ดินด้ วย 19 . 2 วิธีการบัญชี เพื่อรับรู้ รายได้ สา หรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแบ่ งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้ ดังนี้ 19 . 2 . 1 การขายที่ดิน 19 . 2 . 2 การขายที่ดินพร้ อมสิ่งปลูกสร้ำง 19 . 2 . 3 การขายอาคารชุด เงื่อนไขสาคัญที่เกี่ยวข้ องกับผู้ ซื้ อและผู้ ขายอสั งหาริ มทรัพย์ 19 . 3 โดยทั่วไปการรับรู้ รายได้ จำกการขายอสังหาริมทรัพย์ มีเงื่อนไขสาคั ญที่เกี่ ยวข้ อง ดั งนี้ การขาย 19 . 3 . 1 การขายเกิดขึ้นแล้ ว การขายจะถือว่ำเกิดขึ้นแล้ วเมื่อ ( 1 ) ผู้ ซื้อและผู้ ขายได้ ทาสัญญาจะซื้อจะขาย และ ( 2 ) มีการชาระราคาตามสั ญญา สาหรับการขายห้ องชุดของอาคารชุด ต้ องมีการขายได้ ในจานวนที่มากพอที่จะให้ แน่ ใจ ว่ำ อาคารชุดดังกล่ำวจะไม่ เปลี่ยนเป็ นอาคารเพื่อให้ เช่ำ โดยต้ องพิจารณาถึงข้ อกาหนด ของกฎหมายที่เกี่ยวข้ อง สั ญญาจะซื้ อจะขายอาคารชุดและเงื่อนไขข้ อตกลงทางการเงิ น ประกอบด้ วย การขายห้ องชุดในอาคารชุดในจานวนที่ไม่ น้ อยกว่ำร้ อยละ 40 ของพื้นที่ที่ เปิ ดขายหรือ พื้ นที่ที่เปิ ดจองถือได้ ว่ำเป็ นจานวนที่มากพอ ผู้ ซื้ อ 19 . 3 . 2 ผู้ ซื้ อไม่ มี สิ ทธิ์ เรียกเงินคืน ผู้ ซื้อได้ ชาระเงินวางเริ่มแรก จนกระทั่งสิ้นสุดระยะเวลาที่จะบอกเลิกสัญญาและเรี ยก เงิ นดั งกล่ำวคืนไม่ ได้ ซึ่งได้ แก่ ระยะเวลาที่ระบุไว้ ในสั ญญา 19 . 3 . 3 ผู้ ซื้ อได้ ชา ระเงินวางเริ่ มแรกและเงินค่ำงวดมี จา นวนมากพอที่แสดงว่ำผู้ ซื้ อจะผูกพั น การชา ระค่ำอสังหาริมทรั พย์ ต่ อจนครบสัญญา เงินวางเริ่มแรกและเงินค่ำงวดของผู้ ซื้ อต้ องมี จา นวนมากพอที่ แสดงให้ เห็ นว่ำผู้ ซื้อจะ ผูกพันการชาระค่ำอสังหาริมทรัพย์ ต่ อจนครบตามสัญญา เงินวางเริ่มแรกและค่ำงวดที่
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 93 ผู้ ซื้อแต่ ละสัญญาชาระแล้ วไม่ น้ อยกว่ำร้ อยละ 20 ของราคาขายตามสัญญา ถือว่ำมี จำนวนมากพอ ผู้ ขาย 19 . 3 . 4 ผู้ ขายสามารถเก็ บเงิ นได้ ตามสัญญา ในการพิจารณาความสามารถของผู้ ขายที่จะสามารถเก็บเงินจากผู้ ซื้อได้ ตามสัญญานั้น ให้ ประเมินจากปั จจัยต่ำงๆ เช่ น ฐานะเครดิตของผู้ ซื้อ หรือการที่ผู้ ขายจะขาย อสังหาริมทรัพย์ นั้นออกไปได้ ใหม่ ในราคาที่ไม่ ต่า กว่ำราคาเดิม ประสบการณ์ การเก็บเงินจากโครงการก่ อนๆ ของผู้ ขาย อาจนามาใช้ กับโครงการใหม่ ได้ หากโครงการก่ อนๆ นั้น ( 1 ) มีลักษณะส่ วนใหญ่ เหมือนกันกับโครงการใหม่ เช่ น ชนิดของบ้ำน อาคารชุดและ ที่ดิน สภาพแวดล้ อมประเภทลูกค้ำ เงื่อนไขตามสัญญา และวิธีการขาย เป็ นต้ น ( 2 ) ได้ รับชาระเงินค่ำงวดเป็ นจานวนที่มากพอที่จะเป็ นเครื่องชี้ว่ำการขายในปั จจุบัน ของโครงการใหม่ จะเก็บเงินได้ ตามสัญญา ความสามารถในการเก็บเงินได้ จากผู้ ซื้อแต่ ละสัญญาไม่ น้ อยกว่ำร้ อยละ 20 ของราคา ขายตามสัญญาอาจถือเป็ นเกณฑ์ หนึ่งที่ใช้ วั ดความสามารถในการเก็บเงินของผู้ ขาย 19 . 3 . 5 งานพัฒนาและงานก่ อสร้ำงได้ ผ่ำนขั้ นตอนเบื้ องต้นแล้ ว งานพัฒนาและงานก่ อสร้ำงโครงการที่ถือว่ำเป็ นงานขั้นตอนเบื้ องต้ น ได้ แก่ • งานวิศวกรรมและงานออกแบบ • การเซ็นสั ญญาจ้ำงเหมางานปรับปรุงและเตรียมพื้นที่ หรือจ้ำงเหมาก่ อสร้ำง • การปรั บปรุงสภาพพื้นที่และการจัดเตรียมพื้ นที่ • การสร้ำงสาธารณูปโภค เช่ น ถนน ท่ อระบายน้า ประปา และไฟฟ้ำ ฯลฯ • การวางผัง • การสร้ำง ฐานรากของบ้ำนหรืออาคาร งานพัฒนาและงานก่ อสร้ำงที่ถือว่ำได้ ผ่ำนขั้นตอนเบื้องต้ นแล้ วต้ องไม่ น้ อยกว่ำร้ อยละ 10 ของงานก่ อสร้ำงตามโครงการที่เสนอขายซึ่งได้ รับการรับรองโดยวิศวกรหรือ สถาปนิกของโครงการ 19 . 3 . 6 ผู้ ขายมีความสามารถทางการเงิน และสามารถปฏิบัติตามสั ญญาและคาชี้ ชวนต่ำงๆ ที่ได้ ให้ ไว้ ผู้ ขายมีความสามารถในการจัดหาแหล่ งเงินทุน หรือหลักประกัน เพื่อใช้ ในการ ดาเนินงานปรั บปรุงที่ดินงานก่ อสร้ำงอาคารและสิ่งอานวยความสะดวกให้ เสร็จตามที่ ระบุไว้ ในสัญญา และผู้ ขายสามารถปฏิบั ติตำมเงื่ อนไขอื่ น ๆ ที่ ได้ ให้ ไว้ ความสามารถ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 94 ดังกล่ำวอาจพิจารณาได้ จากเงินลงทุนของผู้ ถือหุ้ น ความสามารถในการกู้ ยืมเงินหรือ กระแสเงินสดในเชิงบวกจาก การดาเนินงานของผู้ ขายงานก่ อสร้ำงได้ ก้ำวหน้ำไปด้ วยดี 19 . 3 . 7 งานก่ อสร้ำงได้ ก้ำวหน้ำไปด้ วยดี ผู้ ขายได้ ทา งานพั ฒนาก้ำวหน้ำผ่ำนงานขั้ นตอนเบื้ องต้นแล้ ว และมี เครื่ องชี้ ว่ำงานจะทา เสร็จได้ ตามแผน สิ่ งที่ชี้ความก้ำวหน้ำบางอย่ำง ได้ แก่ • เงินทุนที่ได้ จ่ำยไปในงานพัฒนาตามแผน • งานพัฒนาที่ดินได้ เริ่มแล้ ว • แผนงานวิศวกรรมที่มีและความผูกพันของงานเกี่ยวกั บสังหาริมทรัพย์ ที่ขาย • งานที่ได้ ทำสำเร็จแล้ วเกี่ยวกับถนนทางเข้ำ ท่ อระบายน้า ประปา ไฟฟ้ำ บ่ อบาบัดน้า เสีย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่ำงๆ ตามสัญญา นอกจากนี้ ต้ องไม่ มีสิ่งบ่ งชี้ให้ เห็นถึงปั จจัยที่จะทาให้ งานหยุดชะงัก เช่ น ไม่ สามารถขอ ใบอนุญาต ไม่ สามารถจัดจ้ำงผู้ รับเหมา จัดหาคนหรืออุปกรณ์ ต่ำงๆ ได้ และต้ อง สามารถประมาณเงินรับจากการขายรวมและต้ นทุนรวมและขั้นความก้ำวหน้ำของงาน จนกระทั่ งงานเสร็ จได้ อย่ำงมีเหตุมีผล โดยพิจารณาถึงปริมาณขาย แนวโน้ มราคาขาย ความต้ องการซื้อ รวมทั้ งปั จจัยฤดูกาล ประสบการณ์ ของผู้ ขายที่ ตั้งตามภูมิศาสตร์ และ ปั จจัยสิ่งแวดล้ อมต่ำงๆ ประกอบด้ วย 19 . 3 . 8 ผู้ ขายได้ โอนความเสี่ยงและผลประโยชน์ ที่มีนัยสาคัญในทรั พย์ สิ นให้ แก่ ผู้ ซื้ อแล้ ว หากผู้ ขายต้ องเข้ำไปเกี่ยวข้ องกับทรัพย์ สินหลังจากที่ได้ ขายไปแล้ วในลักษณะที่ ยังคง เก็บความเสี่ยงส่ วนใหญ่ หรือผลประโยชน์ ที่ มีนัยสาคัญในทรัพย์ สินนั้ นอยู่ ถือว่ำผิด เกณฑ์ ข้ อนี้ เช่ น การขายโดยมีการทาสั ญญาซื้อคืนเพื่อเป็ นการดึงดูดผู้ ซื้ อในแง่ การขาย การขายนี้ ถือว่ำผู้ ขายยังมีความเสี่ยงในทรั พย์ สิน นั้ นอยู่ สาหรับการขายที่ดิน ผู้ ขายได้ ทางานพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ แล้ วและไม่ มีพันธะที่จะต้ อง ทางานปรับปรุงต่ำงๆ ให้ สาเร็จเกี่ยวกับที่ดินเป็ นแป ลงๆ ที่ขาย หรือ งานสร้ำงเครื่อง อำนวยความสะดวกต่ำงๆ ที่เกี่ยวกั บที่ดินเป็ นแปลงๆ ที่ขาย วิธีการรั บรู้ รายได้ สำหรั บธุ รกิจอสังหาริ มทรัพย์ 19 . 4 การรับรู้ รายได้ จำกการขายอสังหาริมทรัพย์ ทั้ ง 3 ประเภท คือ การขายที่ดิน ขายที่ดินพร้ อมสิ่ง ปลูกสร้ำง และการขายอาคารชุด สามารถเลือกการรับรู้ ได้ หลายวิธีตามเงื่อนไขของการเกิดขึ้นของ รายได้ จากการขายนั้น คือ 19 . 4 . 1 รั บรู้ เป็ นรายได้ ทั้งจำนวน 19 . 4 . 2 รั บรู้ เป็ นรายได้ ตามอัตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จ 19 . 4 . 3 รับรู้ เป็ นรายได้ ตามเงิ นค่ำงวดที่ถึงกาหนดชาระ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 95 กรณีที่ไม่ อาจรั บรู้ เป็ นรายได้ ตาม 19 . 4 . 1 - 19 . 4 . 3 ให้ บั นทึกเงินที่ได้ รับเป็ นเงิ นมั ดจา หรือเงิ นรับ ล่ วงหน้ำ เงื่อนไขการรับรู้ เป็ นรายได้ ตามอั ตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จหรือตามเงิ นค่ำงวดที่ถึงกา หนด ชำ ระ 19 . 5 กิจการที่ค้ำอสังหาริมทรัพย์ ทั้ ง 3 ประเภทดังกล่ำว อาจเลือกรับรู้ เป็ นรายได้ จากการขาย อสังหาริมทรัพย์ ตามอัตราส่ วนของงานที่ทำเสร็จหรือตามเงินค่ำงวดที่ถึงกำหนดชำระได้ ถ้ำรายการขายนั้นๆ เข้ำเงื่อนไขดังนี้ 19 . 5 . 1 การขายเกิดขึ้นแล้ ว (ในกรณีของการขายห้ องชุดของอาคารชุด การทาสัญญาจะซื้อจะ ขายต้ องมีจานวนที่ไม่ น้ อยกว่ำร้ อยละ 40 ของพื้นที่ที่เปิ ด ขายหรือที่เปิ ดจอง) 19 . 5 . 2 ผู้ ซื้้ อไม่ มี สิ ทธิเรี ยกเงิ นคื น 19 . 5 . 3 ผู้ ซื้อและผู้ ขายต้ องมีความเป็ นอิสระต่ อกันหรือเป็ นการดาเนินธุรกิจตามปกติ 19 . 5 . 4 เงินวางเริ่มแรกและเงินค่ำงวดของผู้ ซื้อที่ชาระแล้ วต้ องมีจานวนไม่ น้ อยกว่ำร้ อยละ 20 ของราคาขายตามสั ญญา 19 . 5 . 5 ผู้ ขายมีความสามารถเก็บเงินได้ ตามสัญญา 19 . 5 . 6 งานพั ฒนาและงานก่ อสร้ำงของผู้ ขายได้ ผ่ำนขั้ น ตอนเบื้องต้ นแล้ วไม่ น้ อยกว่ำร้ อยละ 10 ของ งานก่ อสร้ำงตามโครงการที่เสนอขาย 19 . 5 . 7 ผู้ ขายมีความสามารถทางการเงินดี 19 . 5 . 8 การก่ อสร้ำงได้ ก้ำวหน้ำไปด้ วยดี 19 . 5 . 9 ผู้ ขายสามารถประมาณเงินรับจากการขายรวมและต้ นทุนทั้งหมดที่ต้ องใช้ ในการ ก่ อสร้ำงได้ อย่ำงมีหลั กเกณฑ์ ทั้งนี้ต้ นทุนที่ประมาณการไว้ จาเป็ นต้ องปรับปรุงอย่ำง น้ อยปี ละครั้งหรือเมื่อผู้ ขายประมาณได้ ว่ำจะมี การเปลี่ยนแปลงในจานวนต้ นทุ นอย่ำงมี สาระสา คั ญ 19 . 6 การรับรู้ เป็ นราย ได้ ตามอั ตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จ 19 . 6 . 1 วิธีการกำหนดอัตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จมีหลายวิธี ได้ แก่ 19 . 6 . 1 . 1 อัตราส่ วนของต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่ เกิดขึ้นของงานที่ทาเสร็จจนถึงปั จจุบัน กับประมาณการต้ นทุนการก่ อสร้ำงทั้งสิ้น ทั้งนี้ไม่ รวมต้ นทุนที่ดิน 19 . 6 . 1 . 2 การสารวจเนื้องานที่ได้ ทา แล้ ว 19 . 6 . 1 . 3 การสารวจอัตราส่ วนของงานก่ อสร้ำงที่ทาเสร็จกับงานก่ อสร้ำงทั้งหมดตาม สัญญาโดยพิจารณาจากการสารวจทางกายภาพ 19 . 6 . 2 ในกรณีที่ผู้ ซื้อผิดนัดชาระเงินเกินกว่ำ 3 งวดติดต่ อกันและอัตราส่ วนของงานที่ ทาเสร็จ สูงกว่ำเงินค่ำงวดที่ถึงกาหนดชาระ ใ ห้ หยุดการรับรู้ รายได้ ทั นที 19 . 6 . 3 ควรมีการตั้งค่ำเผื่อหนี้ สงสัยจะสูญตามความเหมาะสม
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 96 19 . 7 การรับรู้ เป็ นรายได้ ตามเงิ นค่ำงวดที่ถึงกาหนดชาระ 19 . 7 . 1 การรับรู้ เป็ นรายได้ ตามเงินค่ำงวดที่ถึงกาหนดชาระ ให้ ใช้ วิธีการรับรู้ ตามอัตรากาไร ขั้นต้ น 19 . 7 . 2 ในกรณีที่ อัตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จต่ากว่ำสัดส่ วนของเงินที่ได้ รับผ่ อนชาระตาม กาหนดต่ อราคาขายผ่ อนชาระ ให้ รับรู้ รายได้ ไม่ เกินอัตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จ ส่ วน เงินค่ำงวดที่ได้ รับผ่ อนชาระเกินกว่ำอัตราส่ วนของงานที่ ทาเสร็จให้ ถือเป็ นเงินรับ ล่ วงหน้ำจากผู้ ซื้อ 19 . 7 . 3 ในกรณีที่ ผู้ ซื้อผิดนัดชาระเงินเกินกว่ำ 3 งวดติดต่ อกัน ให้ หยุดรั บรู้ รายได้ ทันที 19 . 7 . 4 ควรมีการตั้งค่ำเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามความเหมาะสม 19 . 7 . 5 ถ้ำในระหว่ำงการผ่ อนชาระ ผู้ ซื้อสามารถชาระเงินส่ วนที่ เหลือทั้งหมดได้ ก่ อนกาหนด หรือ สามารถหาแหล่ งเงินกู้ อื่นใด รวมทั้งการก่ อสร้ำงได้ เสร็จสมบูรณ์ และผู้ ขายได้ โอน ความเสี่ยง และผลประโยชน์ ที่มีนัยสาคัญในทรัพย์ สินให้ แก่ ผู้ ซื้อแล้ ว ให้ รับรู้ จานวน เงินดังกล่ำวเป็ นรายได้ ทั้ งจำนวนในงวดนั้น การบันทึกจานวนเงินที่ ได้ รั บเป็ นเงินมัดจา 19 . 8 ในกรณีที่การขายอสังหาริมทรัพย์ ไม่ เข้ำเงื่อนไขการรับรู้ เป็ นรายได้ ตามย่ อหน้ำที่ 19 . 4 ให้ บันทึก จานวนเงินที่ได้ รั บเป็ นเงินมัดจำหรื อเงินรับล่ วงหน้ำจากผู้ ซื้ อจนกว่ำการขายดังกล่ำวจะเข้ำเงื่อนไข ตามย่ อหน้ำใดย่ อหน้ำหนึ่งข้ำงต้ น การเปิ ดเผยข้ อมูล 19 . 9 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลต่ อไปนี้ในงบการเงิน 19 . 9 . 1 วิธีการรับรู้ รายได้ 19 . 9 . 2 ในกรณีที่ใช้ วิธีรับรู้ รายได้ ตามอัตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จให้ เปิ ดเผยวิธีการกาหนด อัตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จด้ วย
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 97 บทที่ 20 สัญญาก่ อสร้ำง 20 . 1 สัญญาก่ อสร้ำง หมายถึง สัญญาที่ทาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อก่ อสร้ำงสินทรัพย์ รายการเดียว หรือ ก่ อสร้ำงสินทรัพย์ หลายรายการซึ่งสัมพันธ์ กันอย่ำงใกล้ ชิด หรือต้ องพึ่ งพากันในด้ำนการออกแบบ เทคโนโลยีและหน้ำที่ หรือวั ตถุประสงค์ ในการใช้ ประโยชน์ ขั้นสุดท้ำย 20 . 2 สัญญาราคาคงที่ หมายถึง สัญญาก่ อสร้ำงซึ่งมีการตกลงด้ วยราคาคงที่ หรือด้ วยอัตราคงที่ต่ อ หน่ วยของผลผลิตซึ่งระบุไว้ ในสัญญา ในบางกรณีราคาหรืออัตราที่ตกลงกันขึ้นอยู่ กั บการ เปลี่ยนแปลงของต้ นทุนตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ในสัญญา 20 . 3 สัญญาต้ นทุนบวกส่ วนเพิ่ม หมายถึง สัญญาก่ อสร้ำงซึ่งกิจการจะได้ รับคืนต้ นทุนตำมที่ ตกลงกัน บวกส่ วนเพิ่ม ซึ่งส่ วนเพิ่ มนั้นกาหนดเป็ นอัตราร้ อยละของต้ นทุนดังกล่ำวหรือเป็ นจานวนคงที่ 20 . 4 สัญญาก่ อสร้ำงอาจทาขึ้นเพื่อก่ อสร้ำงสินทรัพย์ เพียงรายการเดียว เช่ น สะพาน ตึก เขื่อน ท่ อส่ ง น้า มัน ถนน เรือ หรืออุโมงค์ หรืออาจทาขึ้นเพื่ อก่ อสร้ำงสินทรัพย์ หลายรายการ ซึ่งสัมพันธ์ กัน อย่ำงใกล้ ชิด หรือต้ องพึ่งพากันในด้ำนการออกแบบ เทคโนโลยีและหน้ำที่ หรือวัตถุประสงค์ ใน การใช้ ประโยชน์ ขั้นสุดท้ำย ตัวอย่ำงเช่ น สัญญาก่ อสร้ำงโรงกลั่ น น้า มันและสั ญญาก่ อ สร้ำงโรงงาน และอุปกรณ์ หลายรายการซึ่งมีความสัมพันธ์ กัน 20 . 5 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบั บนี้กำหนดให้ สัญญาก่ อสร้ำงรวมถึงสั ญญาต่ อไปนี้ 20 . 5 . 1 สัญญาการให้ บริการที่ เกี่ยวข้ องโดยตรงกับการก่ อสร้ำงสินทรั พย์ เช่ น สัญญาว่ำจ้ำง ผู้ จัดการ โครงการ หรือสถาปนิก 20 . 5 . 2 สัญญาการซ่ อมบำรุงหรือการรื้อถอนสินทรัพย์ และสัญญาฟื้ นฟูสภาพแวดล้ อมภายหลัง การรื้ อถอนสินทรั พย์ การรวมและการแยกสัญญาก่ อสร้ำง 20 . 6 เมื่อกิจการทาสัญญาเพื่อก่ อสร้ำงสินทรัพย์ หลายรายการ การก่ อสร้ำงสินทรัพย์ แต่ ละรายการให้ ถือเสมือนว่ำได้ มี การทาสั ญญาก่ อสร้ำงแยกจากกัน หากเป็ นไปตามเงื่อนไขทุ กข้ อต่ อไปนี้ 20 . 6 . 1 สินทรั พย์ แต่ ละรายการมีข้ อเสนอที่แยกจากกัน 20 . 6 . 2 สินทรัพย์ แต่ ละรายการมีการต่ อรองแยกจากกัน นอกจากนั้ น กิจการและผู้ ว่ำจ้ำง สามารถยอมรับหรือปฏิเสธสัญญาส่ วนที่เกี่ ยวข้ องกับสินทรั พย์ แต่ ละรายการได้ 20 . 6 . 3 ต้ นทุนและรายได้ ของสินทรัพย์ แต่ ละรายการสามารถระบุได้ 20 . 7 กิจการต้ องปฏิบั ติ ต่ อกลุ่ มสัญญาก่ อสร้ำงเสมือนว่ำเป็ นสัญญาเดียว ไม่ ว่ำกลุ่ มสัญญานั้ น จะทากั บ ผู้ ว่ำจ้ำงเพียงรายเดียวหรือหลายราย หากเป็ นไปตามเงื่อนไขทุกข้ อต่ อไปนี้ 20 . 7 . 1 สัญญาหลายสัญญามีการต่ อรองร่ วมกันในลักษณะของสัญญาชุดเดียวกั น 20 . 7 . 2 สัญญาทุกสัญญามีความสัมพันธ์ กั นอย่ำงมากจนทา ให้ สัญญาแต่ ละสัญญาเป็ นส่ วนหนึ่ ง ของโครงการเดียวซึ่งมีอัตรากำไรร่ วมกัน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 98 20 . 7 . 3 การปฏิบัติตามสั ญญาทุกสัญญาเกิดขึ้ นในเวลาเดียวกัน หรือเกิดขึ้นเป็ นลำดับ ต่ อเนื่องกัน 20 . 8 สัญญาก่ อสร้ำงอาจให้ สิทธิแก่ ผู้ ว่ำจ้ำงหรืออาจมีการแก้ ไขเพื่ อให้ ผู้ ว่ำจ้ำงว่ำจ้ำงกิจการให้ ก่ อสร้ำง สินทรัพย์ เพิ่มเติมได้ สาหรับสินทรัพย์ ที่สร้ำงเพิ่มเติมนี้ กิจการต้ องปฏิบัติเสมือนว่ำเป็ นสัญญา ก่ อสร้ำงแยกต่ำงหาก เมื่อเป็ นไปตามเงื่อนไขข้ อใดข้ อหนึ่งต่ อไปนี้ 20 . 8 . 1 สินทรัพย์ ที่ ก่ อสร้ำงเพิ่มเติมแตกต่ำงอย่ำงมีนัยสาคัญจากสินทรัพย์ ที่ระบุในสัญญาเดิม ไม่ ว่ำจะเป็ นในด้ำนการออกแบบ เทคโนโลยี หรือการใช้ ประโยชน์ 20 . 8 . 2 การต่ อรองราคาของสินทรัพย์ ที่ก่ อสร้ำงเพิ่มเติมไม่ ได้ คานึงถึงราคาตามสัญญาเดิม รายได้ ค่ำก่ อสร้ำง 20 . 9 รายได้ ค่ำก่ อสร้ำงประกอบด้ วย 20 . 9 . 1 จำนวนรายได้ เมื่ อเริ่มแรกตามที่ตกลงไว้ ในสัญญา 20 . 9 . 2 จำนวนเงินที่ เกี่ยวข้ องกั บการเปลี่ยนแปลงสัญญาอันเกิดจากการดัดแปลงงาน การเรียกร้ องค่ำชดเชย หรือการจ่ำยเงินเพื่อจูงใจ หากเป็ นไปตามเงื่อนไขทุกข้ อต่ อไปนี้ 20 . 9 . 2 . 1 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่ จะก่อให้ เกิ ดรายได้ 20 . 9 . 2 . 2 สามารถวัดมูลค่ำได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ ต้ นทุนการก่ อสร้ำง 20 . 10 ต้ นทุนการก่ อสร้ำงประกอบด้ วยรายการทุกข้ อต่ อไปนี้ 20 . 10 . 1 ต้ นทุนที่เกี่ยวข้ องโดยตรงกับงานก่ อสร้ำงตามสัญญา 20 . 10 . 2 ต้ นทุนที่เกี่ยวข้ องกับการก่ อสร้ำงโดยทั่ ว ไป ซึ่ งสามารถปั นส่ วนให้ กั บงานก่ อสร้ำง ตามสั ญญา 20 . 10 . 3 ต้ นทุนอื่นที่สามารถเรียกเก็บจากผู้ ว่ำจ้ำงได้ ภายใต้ เงื่อนไขของสัญญาก่ อสร้ำง การรับรู้ รายได้ ค่ำก่ อสร้ำงและต้ นทุนค่ำก่ อสร้ำง 20 . 11 เมื่อกิจการสามารถประมาณผลของงานก่ อสร้ำงตามสัญญาได้ อย่ำงน่ำเชื่ อถือ กิจการต้ องรับรู้ รายได้ ค่ำก่ อสร้ำงและต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่ เกี่ยวข้ องกับสัญญาก่ อสร้ำงเป็ นรายได้ และค่ำใช้ จ่ำย ตามลาดับ โดยอ้ำงอิงกับขั้นความสาเร็จของงานก่ อสร้ำง ณ วันสิ้ นรอบระยะเวลารายงาน กิจการ ต้ องรับรู้ ผลขาดทุนที่คาดว่ำจะเกิดขึ้ นจากงานก่ อสร้ำงตามสัญญาเป็ นค่ำใช้ จ่ำยทั นที 20 . 12 ในกรณีที่สัญญาก่ อสร้ำงเป็ นสัญญาราคาคงที่ กิจการสามารถประมาณผลของงานก่ อสร้ำงตาม สัญญาได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือก็ต่ อเมื่อเป็ นไปตามเงื่อนไขทุกข้ อต่ อไปนี้ 20 . 12 . 1 รายได้ ค่ำก่ อสร้ำงทั้งสิ้ น สามารถวั ดมู ลค่ำได้ อย่ำงน่ำเชื่ อถื อ 20 . 12 . 2 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่กิจการจะได้ รับ ประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจที่ เกี่ยวข้ องกับงาน ก่ อสร้ำง
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 99 20 . 12 . 3 ต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่จะต้ องจ่ำยจนกระทั่งงานก่ อสร้ำงแล้ วเสร็จตามสัญญาสามารถวัด มูลค่ำได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ และขั้นความสาเร็จของงานก่ อสร้ำง ณ วันสิ้นรอบระยะเวลา รายงาน สามารถประมาณได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ 20 . 12 . 4 ต้ นทุนที่เกี่ยวข้ องกับงานก่ อสร้ำงสามารถระบุได้ อย่ำงชัดเจนและวัดมูลค่ำได้ อย่ำง น่ำเชื่อถือ ซึ่งทาให้ กิจการสามารถเปรียบเทียบต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่เกิดขึ้นจริงกับ ต้ นทุนที่ได้ ประมาณไว้ 20 . 13 ในกรณีที่สัญญาก่ อสร้ำงเป็ นสัญญาต้ นทุนบวกส่ วนเพิ่ม กิจการจะสามารถประมาณผลของงาน ก่ อสร้ำงตามสัญญาได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือก็ต่ อเมื่อเป็ นไปตามเงื่อนไขทุกข้ อต่ อไปนี้ 20 . 13 . 1 มีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่ กิจการจะได้ รับประโยชน์ เชิงเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้ องกับงาน ก่ อสร้ำง 20 . 13 . 2 ต้ นทุนที่เกี่ ยวข้ องกั บ งานก่ อสร้ำงสามารถระบุได้ อย่ำงชัดเจนและวัดมูลค่ำได้ อย่ำง น่ำเชื่ อถือ ไม่ ว่ำกิจการจะสามารถเรียกต้ นทุนนั้นคืนจากผู้ ว่ำจ้ำงได้ หรือไม่ 20 . 14 กิจการอาจกาหนดขั้นความสาเร็จของงานก่ อสร้ำงได้ หลายลักษณะโดยใช้ วิธีที่สามารถวัดผลของ งานที่ทาได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ วิธีที่ใช้ ขึ้นอยู่ กั บลักษณะของสั ญญา ซึ่งอาจรวมถึงวิธีใดวิธีหนึ่งต่ อไปนี้ 20 . 14 . 1 อัตราส่ วนของต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่เกิดขึ้ นของงานที่ทาเสร็จจนถึงปั จจุบันกับประมาณ การต้ นทุนการก่ อสร้ำงทั้งสิ้น 20 . 14 . 2 การสารวจเนื้องานที่ได้ ทาแล้ ว 20 . 14 . 3 การสารวจอัตราส่ วนของงานก่ อสร้ำงที่ทาเสร็จกับงานก่ อสร้ำงทั้งหมดตามสัญญา โดย พิจารณาจากการสารวจทางกายภาพ ทั้ ง นี้ ค่ำงวดงานและเงินรับล่ วงหน้ำจากผู้ ว่ำจ้ำงมักไม่ สะท้ อนให้ เห็นถึงเนื้ องานที่ทาเสร็จ 20 . 15 เมื่อกิจการกำหนดขั้นความสาเร็จของงานก่ อสร้ำงโดยอ้ำงอิงกับต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่เกิดขึ้นจนถึง ปั จจุบัน ต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่เกิดขึ้นจนถึงปั จจุบันต้ องเป็ นต้ นทุนที่สะท้ อนให้ เห็นถึงงานที่ทาเสร็จ เท่ำนั้น ตั วอย่ำงของต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่ต้ องไม่ นามารวมเป็ นต้ นทุนที่เกิดขึ้ นจนถึงปั จจุบัน ได้ แก่ 20 . 15 . 1 ต้ นทุนการก่ อ สร้ำงที่เกี่ยวข้ องกั บการดาเนินการก่ อสร้ำงในอนาคต เช่ น ต้ นทุนของ วัสดุที่ได้ ส่ ง ไปสถานที่ก่ อสร้ำงแต่ ยังไม่ ได้ นาไปใช้ หรือวัสดุที่ได้ เตรียมไว้ เพื่อใช้ ในงาน ก่ อสร้ำงแต่ ยังไม่ ได้ นาไปใช้ เว้ นแต่ วัสดุดั งกล่ำวได้ จัดทาขึ้นหรือสร้ำงขึ้นโดยเฉพาะ สาหรับงานก่ อสร้ำงนั้ น 20 . 15 . 2 จานวนที่จ่ำยเป็ นเงินล่ วงหน้ำให้ กับผู้ รับเหมาช่ วงตามสัญญารับเหมาช่ วง 20 . 16 เมื่ อกิจการไม่ สามารถประมาณผลของงานก่ อสร้ำงได้ อย่ำงน่ำเชื่อถือ กิจการต้ องปฏิบัติตาม ข้ อกาหนดทุกข้ อต่ อไปนี้ 20 . 16 . 1 กิจการต้ องรับรู้ รายได้ ไม่ เกินกว่ำต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่เกิดขึ้น และมีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่จะเรียกเก็บเงินในส่ วนของต้ นทุนนั้นจากผู้ ว่ำจ้ำงได้ 20 . 16 . 2 กิจการต้ องรับรู้ ต้ นทุนการก่ อสร้ำงที่เกิดขึ้นในระหว่ำงงวดเป็ นค่ำใช้ จ่ำย
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 100 20 . 17 เมื่ อความไม่ แน่ นอนซึ่งทาให้ กิจการไม่ สามารถประมาณผลของงานก่ อสร้ำงตามสัญญาได้ อย่ำง น่ำเชื่อถือได้ หมดไป กิจการต้ องรับรู้ ราย ไ ด้ และต้ นทุนที่เกี่ยวข้ องกับงานก่ อสร้ำง การรับรู้ ขาดทุนที่คาดว่ำจะเกิดขึ้น 20 . 18 เมื่อมีความเป็ นไปได้ ค่ อนข้ำงแน่ ที่ต้ นทุนการก่ อสร้ำงทั้งสิ้นจะสูงกว่ำรายได้ ค่ำก่ อสร้ำงทั้งสิ้น กิจการต้ องรับรู้ ขาดทุนที่คาดว่ำจะเกิดขึ้นเป็ นค่ำใช้ จ่ำยทันที การเปลี่ยนแปลงประมาณการ 20 . 19 วิธีอัตราส่ วนของงานที่ทาเสร็จต้ องใช้ จานวนสะสมของรายได้ ค่ำก่ อสร้ำงและต้ นทุนการก่ อสร้ำง ของรอบระยะเวลารายงานก่ อนๆ กับประมาณการรายได้ ค่ำก่ อสร้ำงและต้ นทุนการก่ อสร้ำงตาม สัญญาของรอบระยะเวลารายงานปั จจุบัน ดังนั้น ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงประมาณการ รายได้ ค่ำก่ อสร้ำง ประมาณการต้ นทุนการก่ อสร้ำง หรือประมาณการผลของงานก่ อสร้ำง ต้ องถือ เป็ นการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี กิจการต้ องนาจานวนประมาณการที่เปลี่ยนใหม่ มา พิจารณาจานวนรายได้ และค่ำใช้ จ่ำยที่รับรู้ ในงบกาไรขาดทุนในงวดที่ มีการเปลี่ ยนประมาณการ ทางบัญชีและ งวดต่ อๆ ไป การเปิ ดเผยข้ อมูล 20 . 20 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลทุกข้ อต่ อไปนี้ 20 . 20 . 1 จำนวนรายได้ ค่ำก่ อสร้ำงที่รับรู้ เป็ นรายได้ ในระหว่ำงงวด 20 . 20 . 2 วิธีที่ใช้ ในการกาหนดรายได้ ค่ำก่ อสร้ำงที่รับรู้ เป็ นรายได้ ในระหว่ำงงวดและวิธีที่ใช้ ใน การกำหนดขั้นความสาเร็จของงานระหว่ำงก่ อสร้ำง 20 . 21 กิจการต้ องเปิ ดเผยข้ อมูลทุกข้ อต่ อไปนี้เกี่ยวกับสัญญางานก่ อสร้ำงระหว่ำงทาที่มีอยู่ ณ วันสิ้นรอบ ระยะเวลารายงาน 20 . 21 . 1 จำนวนรวมของต้ นทุนที่เกิดขึ้นและกาไรที่รับรู้ (หักด้ วยขาดทุนที่รับรู้ ) จนถึงปั จจุบั น 20 . 21 . 2 จำนวนเงินรับล่ วงหน้ำ 20 . 21 . 3 จำนวนเงินประกันผลงาน 20 . 22 กิจการต้ องแสดงรายการทุกข้ อต่ อไปนี้ 20 . 22 . 1 จานวนเงินทั้งสิ้นที่กิจการมีสิทธิเรียกร้ องจากผู้ ว่ำจ้ำงสาหรับงานก่ อสร้ำงทุกสัญญา เป็ นสินทรัพย์ ของกิจการ 20 . 22 . 2 จานวนเงินทั้งสิ้ นที่ผู้ ว่ำจ้ำงมีสิทธิเรียกร้ องจากกิจการสาหรับงานก่ อสร้ำงทุกสัญญา เป็ นหนี้สินของกิจการ 20 . 23 สาหรับงานก่ อสร้ำงที่อยู่ ระหว่ำงทาทุกสัญญา ซึ่งต้ นทุนที่เกิดขึ้ นบวกด้ วยกาไรที่รับรู้ (หักด้ วย ขาดทุนที่รับรู้ ) มีจานวนเกินกว่ำเงินงวดที่เรียกเก็บ กิจการต้ องเปิ ดเผยจานวนเงินทั้งสิ้นที่กิจการ มีสิทธิ เรียกร้ องจากผู้ ว่ำจ้ำงสาหรับงานก่ อสร้ำงตามสัญญาเป็ นจานวนสุทธิของต้ นทุนที่ เกิดขึ้น บวกด้ วยกาไรที่รั บรู้ หักด้ วยผลรวมของขาดทุนที่รั บรู้ และเงินงวดที่เรียกเก็บ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 101 20 . 24 สาหรั บงานก่ อสร้ำงที่อยู่ ระหว่ำงทาทุกสัญญา ซึ่งเงินงวดที่เรียกเก็บมีจานวนเกินกว่ำต้ นทุนที่ เกิดขึ้น บวกด้ วยกำไรที่รับรู้ (หักด้ วยขาดทุนที่รับรู้ ) กิจการต้ องเปิ ดเผยจำนวนเงินทั้งสิ้นที่ ผู้ ว่ำจ้ำงมีสิทธิ เรียกร้ องจากกิจการสาหรับงานก่ อสร้ำงตามสัญญาเป็ นจานวนสุทธิของต้ นทุนที่ เกิดขึ้นบวกด้ วยกาไรที่รับรู้ หักด้ วยผลรวมของขาดทุนที่รับรู้ และเงินงวดที่เรียกเก็บ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 102 บทที่ 21 ผลกระทบจากการเปลี่ ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ ยนเงินตราต่ำงประเทศ คานิยาม 21 . 1 เงินตราต่ำงประเทศ หมายถึง เงินตราสกุลอื่นนอกเหนือจากสกุลเงินบาท (หรือ หมายถึงเงินตรา สกุลอื่นนอกเหนือจาก สกุลเงินที่ใช้ในการดาเนินงาน หากกิจการถือปฏิบัติตามย่อหน้าที่ 21 . 1 7 ถึง 21 . 1 8 ) 21 . 2 รายการที่ เป็ นเงินตราต่ำงประเทศ หมายถึง รายการที่กาหนดไว้ เป็ นเงินตราต่ำงประเทศ หรือ จะต้ องจ่ำยชาระเป็ นเงินตราต่ำงประเทศ รวมถึงรายการที่เกิดขึนเมื่ อกิจการ 21 . 2 . 1 ซื้อหรือขายสินค้ำหรือบริการ ซึ่งกำหนดราคาเป็ นเงินตราต่ำงประเทศ 21 . 2 . 2 กู้ ยืมหรือให้ กู้ ยืมเงินด้ วยจานวนเงินที่จะต้ องชาระ หรือได้ รับชาระคืนเป็ นเงินตรา ต่ำงประเทศ หรือ 21 . 2 . 3 ได้ มาหรือจาหน่ำยไปซึ่งสินทรัพย์ หรือก่ อหรือชาระหนี้สิน ซึ่งกาหนดค่ำเป็ นเงินตรา ต่ำงประเทศ 21 . 3 รายการที่เป็นตัวเงิน คือ สิทธิที่จะได้รับ (หรือภาระที่จะส่งมอบ) จานวนเงินที่กาหนดได้แน่นอน หรือจานวนเงินที่สามารถทราบได้ในจานวนหน่วยของสกุลเงิน ตัวอย่าง เช่น เงินบานาญและ ผลประโยชน์อื่นของพนักงานที่จะต้องจ่ายเป็นเงินสด ประมาณการหนี้สินที่ต้องชาระด้วยเงินสด หนี้สินตามสัญญาเช่า และเงินสดปันผลซึ่งรับรู้ เป็นหนี้สิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึง สัญญาที่จะ ได้รับ (หรือส่งมอบ) ตราสารทุนของกิจการในจานวนหน่วยที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ หรือ สัญญาที่ จะได้รับ (หรือส่งมอบ) สินทรัพย์ในจานวนเงินซึ่งอาจเปลี่ยนแปลง โดยมูลค่ายุติธรรมที่จะได้รับ (หรือส่งมอบ) เท่ากับจานวนเงินคงที่ หรือจานวนหน่วยของสกุลเงิน 21 . 4 รายการที่ ไม่เป็น ตัวเงิน คือ การไม่มีสิทธิที่จะได้รับ (หรือภาระที่จะส่งมอบ) จานวนเงินที่กาหนด ได้แน่นอนหรือจานวนเงินที่สามารถทราบได้ในจานวนหน่วยของสกุลเงิน ตัวอย่าง เช่น เงินจ่าย ล่วงหน้าสาหรับสินค้าและบริการ ค่าความนิยม สินทรัพ ย์ไม่มีตัวตน สินค้าคงเหลือ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ และประมาณการหนี้สินต่างๆ ที่ต้องชาระด้วยการส่งมอบสินทรัพย์ที่ไม่เป็นตัวเงิน 21 . 5 สกุลเงินที่ใช้นาเสนอ งบการเงิน คือ สกุล เงินที่ใช้ในการเสนองบการเงิน การรับรู้ รายการเมื่ อเริ่มแรก 21 . 6 รายการที่เป็ นเงินตราต่ำงประเทศต้ องบั นทึกรายการรับรู้ มูลค่ำเริ่มแรกเป็ นสกุลเงินบาท โดยการ แปลงจำนวนเงินตราต่ำงประเทศด้ วยอัตราแลกเปลี่ยนทันทีของสกุลเงินบาทกับสกุลเงิน ต่ำงประเทศ ณ วันที่เกิดรายการ 21 . 7 วันที่เกิดรายการ คือ วั นที่รายการเป็ นไปตามเงื่อนไขการรั บรู้ รายการครั้งแรกตามมาต รฐานการ รายงานทางการเงิน ในทางปฏิบัติ อัตราแลกเปลี่ยนที่ ประมาณขึ้น ซึ่งใกล้ เคียงกับอัตรา แลกเปลี่ยนจริง ณ วันที่ เกิดรายการมักจะถูกนามาใช้ ตัวอย่ำงเช่ น อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยใน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 103 รอบสัปดาห์ หรือรอบเดือนอาจถูกนามาใช้ สาหรับรายการที่เป็ นเงินตราต่ำงประเทศทั้งหมด ที่ เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาดังกล่ำว อย่ำงไรก็ดี หากอัตราแลกเปลี่ ยนนั้นเปลี่ยนแปลงอย่ำงมี นัยสาคัญ การใช้ อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยในรอบเวลานั้นอาจไม่ เหมาะสม การรายงาน ณ วันสิ้ น รอบระยะเวลารายงานในงวดถัดมา 21 . 8 ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงานแต่ ละงวด 21 . 8 . 1 รายการที่เป็ นตั วเงินซึ่งเป็ นเงินตราต่ำงประเทศให้ แปลงค่ำโดยใช้ อั ตราปิ ด 21 . 8 . 2 รายการที่ไม่ เป็ นตัวเงินที่อยู่ ในรูปเป็ นเงินตราต่ำงประเทศ ซึ่งบันทึกไว้ ด้ วยราคา ทุนเดิมให้ แปลงค่ำโดยใช้ อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการ และ 21 . 8 . 3 รายการที่ไม่เป็นตัวเงินที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ซึ่งบันทึกด้วยมูลค่ายุติธรรมให้ แปลงค่ำโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่วัดมูลค่ายุติธรรมนั้ น 21 . 9 มูลค่ำตามบัญชีของรายการบางรายการถูกกาหนดมาจากการเปรียบเทียบจานวนเงินตั้งแต่ สอง จานวนขึ้นไป ตัวอย่ำงเช่ น มูลค่ำตามบัญชีของสินค้ำคงเหลือ คือ ราคาทุนหรือมูลค่ำสุทธิที่จะ ได้ รับแล้ วแต่ ราคาใดจะต่า กว่ำ หากสินทรัพย์ นั้นเป็ นสินทรัพย์ ที่ไม่ เป็ นตั วเงินและมีการวัดค่ำเป็ น เงินตราต่ำงประเทศ มูลค่ำตามบัญชีจะกำหนดขึ้ นโดยการเปรียบเทียบระหว่ำง 21 . 9 . 1 ราคาทุนหรือมูลค่ำตามบัญชี (แล้ วแต่ กรณี) ซึ่งแปลงค่ำด้ วยอัตราแลกเปลี่ ยน ณ วันที่ราคาถูกกาหนด (นั่ น คืออั ตรา ณ วันที่ เกิดรายการสา หรั บรายการซึ่ งวัดค่ำด้ วย ราคาทุนเดิม) และ 21 . 9 . 2 มูลค่าสุทธิที่จะได้รับ หรือ มูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืน (แล้วแต่กรณี) ซึ่งแปลงค่าด้วย อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่มูลค่าถูกกาหนด (เช่น อัตราปิด ณ วันสิ้นรอบระยะเวลา รายงาน ) 21 . 9 . 3 ผลกระทบของการเปรียบเทียบนี้อาจทาให้ เกิดผลขาดทุนที่ถูกรับรู้ ในสกุลเงินบาท แต่ จะไม่ มีการรับรู้ ในสกุลเงินตราต่ำงประเทศ หรือในทางกลับกัน 21 . 10 เมื่อมีอัตราแลกเปลี่ ยนที่สามารถใช้ ได้ หลายๆ อัตรา อัตราที่ใช้ ควรพิจารณาจากกระแสเงินสดใน อนาคตที่ เกี่ยวข้ องกับรายการหรือยอดคงเหลือที่จะมีการชาระกันโดยให้ ถือเสมือนหนึ่งว่ำกระแส เงินสดได้ เกิดขึ้ น ณ วันที่มีการวัดมูลค่ำ หากไม่ มีการแลกเปลี่ยนระหว่ำงสองสกุลเงินเป็ นการ ชั่วคราว ให้ ใช้ อัตราแลกเปลี่ยนครั้ ง แรกสุ ดที่ สามารถแลกเปลี่ยนรายการกันได้ การรับรู้ผลต่างของอัตราแลกเปลี่ยน 21 . 1 1 ผลต่ำงของอัตราแลกเปลี่ยนที่ เกิดขึ้นจากการชาระเงินของรายการที่ เป็ นตัวเงิน หรือจากการแปลง ค่ำรายการที่เป็ นตัวเงินของกิจการด้ วยอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งแตกต่ำงไปจากอัตราแลกเปลี่ยนเดิมที่ ใช้ ในการบันทึกรายการครั้งแรกในระหว่ำงงวด หรือที่ได้ รายงานไว้ ในงบการเงินของงวดบัญชี ก่ อน ให้ รับรู้ ในงบกำไรขาดทุนสาหรับงวดนั้น 21 . 1 2 เมื่อมีการรับรู้รายการ ผล กาไรหรือขาดทุนของรายการที่ไม่เป็นตัวเงินไว้ใน ส่วนของเจ้าของ (หรือ รายการกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น หากกิจกำรเลือกจัดทางบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) องค์ประกอบ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 104 ของอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดของ ผล กาไรหรือขาดทุนนั้นจะต้องรับรู้ไว้ใน ส่วนของเจ้าของ (หรือ รายการกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น หากกิจการเลือกจัดทางบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) ด้วย เช่น บท ที่ 1 0 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ กาหนดให้ ผล กำไรหรือขาดทุนที่เกิดจากการตีราคาใหม่ ของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ รับรู้ไว้ใน ส่วนของเจ้าของ (หรือรายการกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น หากกิจการเลือกจัดทำงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) หากสินทรัพย์ดังกล่าวถูกวัดมูลค่าด้วย สกุลเงินตราต่างประเทศ ผลต่างของอัตราแลกเป ลี่ยนที่เกิดขึ้นรับรู้ไว้ใน ส่วนของเจ้าของ ด้วย (หรือรายการกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น หากกิจการเลือกจัดทางบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) เป็นต้น ในทางตรงข้าม เมื่อมีการรับรู้ ผล กำไร หรือขาดทุนของรายการที่ไม่เป็นตัวเงินไว้ใน งบกำไรขาดทุน องค์ประกอบของอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดของ ผล กาไรหรือขาดทุนนั้นจะต้องรับรู้ไว้ใน งบกาไร ขาดทุน ด้วย หน่วยงานต่างประเทศ 21 . 1 3 หน่วยงานต่างประเทศ หมายถึง บริษัทย่อย บริษัทร่วม การร่วมการงาน หรือสาขาของกิจการที่ เสนองบการเงิน โดยมีกิจกรรมหรือการประกอบกิจกรรมในประเทศ อื่น หรือในสกุลเงินอื่น นอกจากประเทศหรือสกุลเงินของกิจการที่เสนองบการเงิ น การแปลงค่าผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของหน่วยงานต่างประเทศ ที่เป็นสาขา 21 . 1 4 การแปลงค่าผลการดาเนินงานและฐานะการเงินของหน่วยงานต่างประเทศ ให้เป็นสกุลเงินที่ใช้ นาเสนองบการเงินซึ่งเป็นสกุลเงินที่แตกต่างออกไป ให้ใช้วิธีดังต่อไปนี้ 21 . 1 4 . 1 สินทรัพย์และหนี้สินที่แสดงอยู่ในงบแสดงฐานะการเงินแต่ละงวด (นั่นคือ รวมถึง งบแสดงฐานะการเงินที่นามาแสดงเปรียบเทียบ) ให้แปลงค่าด้วยอัตราปิด ณ วันที่ ของแต่ละงบ แสดงฐานะการเงินนั้น 21 . 1 4 . 2 รายได้และค่าใช้จ่ายในแต่ละงบการเงินซึ่งแสดง ในงบกาไรขาดทุน (รวมถึงงบที่นามา แสดงเปรียบเทียบ) ให้แปลงค่าด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการ และ 21 . 1 4 . 3 ผลต่างของอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดให้รับรู้ใน ส่วนของเจ้าของ ( หรือรายการกาไร ขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น หากกิจการเลือกจัดทางบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) ซึ่งเป็นผลต่างที่ เกิดขึ้นจาก ( 1 ) การแปลงค่ารายการรายได้และค่าใช้จ่ายด้วยอัตราแลกเปลี่ยนของวันที่เกิด รายการ และการแปลงค่าสินทรัพย์และหนี้สินด้วยอัตราปิด ( 2 ) การแปลงค่าสินทรัพย์สุท ธิต้นงวดด้วยอัตราปิดซึ่งต่างจากอัตราปิดเดิม ผลสะสมของผลต่างของอัตราแลกเปลี่ยนจะถูกแสดงแยกต่างหากในองค์ประกอบ ของส่วนของเจ้าของจนกว่าจะมีการจาหน่ายหน่วยงานต่างประเทศนั้น และจะถูกจัด ประเภทใหม่เข้าไปไว้ใน งบกาไรขาดทุน เมื่อมีการรับรู้กาไรขาดทุนจากการจาหน่าย หน่ว ยงานต่างประเทศนั้น 2 1 . 1 5 ในทางปฏิบัติ อัตราที่ประมาณขึ้นซึ่งใกล้เคียงกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการ เช่น อัตรา ถัวเฉลี่ยของรอบระยะเวลาหนึ่งๆ มักจะถูกนามาใช้ในการแปลงค่ารายการรายได้และค่าใช้จ่าย
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 105 อย่างไรก็ตาม การใช้อัตราถัวเฉลี่ยของรอบระยะเวลาหนึ่งๆ จะ ไม่เหมาะสมถ้าอัตราแลกเปลี่ยนมี ความผันผวนอย่างมีนัยสาคัญ การแปลงค่าผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของหน่วยงานต่างประเทศในงบการเงินรวม หรืองบการเงินตามวิธีส่วนได้เสีย 21 . 1 6 เมื่อมีการแปลงค่าผลการดาเนินงานและฐานะการเงินของหน่วยงานต่างประเทศให้เป็นสกุลเงินที่ ใช้นาเสนองบการเงินเพื่อจะทาให้งบการเงินของหน่วยงานต่างประเทศสามารถรวมไว้ในงบ การเงินของกิจการที่นาเสนองบการเงินโดยวิธีรวมงบการเงิน หรือโดยวิธีส่วนได้เสีย กิจการต้อง ปฏิบัติตา มข้อกำหนดที่ระบุไว้ในมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 21 เรื่อง ผลกระทบจากการ เปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงาน 21 . 1 7 สกุลเงินที่ใช้ในการดาเนินงาน หมายถึง สกุลเงินที่ใช้ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจหลัก ซึ่ง กิจการดาเนินงานอยู่ ซึ่ง โดยปกติ จะ หมายถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่กิจการก่อให้เกิด กระแสเงินสดรับและจ่ายที่สาคั ญ 21 . 1 8 มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ไม่ได้กาหนดให้กิจการต้องกาหนดสกุลเงินที่ใช้ในการ ดาเนินงาน ที่ไม่ใช่สกุลเงินบาท แต่หากกิจการต้องการจัดทางบการเงินโดยใช้สกุล เงินที่ใช้ในการ ดาเนินงาน ที่ไม่ใช่สกุลเงินบาท กิจการก็สามารถจัดทาได้ โดยต้องปฏิบัติตามข้อกาหนดที่ระบุไว้ ในมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 21 เรื่อง ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 106 บทที่ 22 เกษตรกรรม 22 . 1 กิจการต้องถือปฏิบัติกับการบันทึกบัญชีของรายการต่อไปนี้ เมื่อรายการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ กิจกรรมทางการเกษตร 22 . 1 สินทรัพย์ชีวภาพ เว้นแต่พืชเพื่อการให้ผลิตผลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเกษตร ให้ถือปฏิบัติตามบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ และ 22 . 2 ผ ลิตผลทางการเกษตร ณ จุดเก็บเกี่ยว 22 . 2 กิจกรรมทางการเกษตร หมายถึง การบริหารการเปลี่ยนรูปเชิงชีวภาพและการเก็บเกี่ยวของ สินทรัพย์ชีวภาพเพื่อการขาย หรือเพื่อเปลี่ยนเป็นผลิตผลทางการเกษตร หรือเพื่อเพิ่มจานวน สินทรัพย์ชีวภาพ 22 . 3 ผลิตผลทางการเกษตร หมายถึง ผลิตผลที่เก็บเกี่ยวได้จากสินทรัพย์ชีวภาพของกิจการ 22 . 4 สินทรัพย์ชีวภาพ หมายถึง สัตว์หรือพืชที่มีชีวิต 22 . 5 พืชเพื่อการให้ผลิตผล หมายถึง พืชที่มีชีวิตซึ่ง ( 1 ) ใช้ในกระบวนการผลิตหรือเพื่อจัดหาซึ่งผลิตผล ทางการเกษตร ( 2 ) คาดว่าจะให้ผลิตผลมากกว่าหนึ่งรอบระยะเวลา และ ( 3 ) มีความเป็นไปได้ที่ ยากยิ่งที่จะขายเป็นผลิตผลทางการเกษตร เว้นแต่เป็นการขายเศษซากที่เป็นผลพลอยได้ 22 . 6 การเก็บเกี่ยว หมายถึง การแยกผลผลิตออกจากสินทรัพย์ชีวภาพหรือการยุติกระบวนการ ดารงชีวิตของสินทรัพย์ชีวภาพ 22 . 7 การเปลี่ยนรูปเชิงชีวภาพ หมายถึง กระบวนการซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพหรือ ปริมาณของสินทรัพย์ชีวภาพ ประกอบด้วยการเจริญเติบโต การเสื่อมถอย การให้ผลิตผล และ การขยายพันธุ์ 22 . 8 ต้นทุนในการขาย หมายถึง ต้นทุนส่วนเพิ่มที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจาหน่ายสินทรัพย์ โดยไม่ รวมถึงต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ การรับรู้รายการ 22 . 9 กิจการต้องรับรู้สินทรัพย์ชีวภาพหรือผลิตผลทางการเกษตร เมื่อ เป็นไปตามเงื่อนไข ทุกข้อดังนี้ 22 . 9 . 1 กิจการควบคุมสินทรัพย์นั้นซึ่งเป็นผลจากเหตุการณ์ในอดีต 22 . 9 . 2 มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ที่กิจการจะได้รับผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจาก สินทรัพย์นั้น และ 22 . 9 . 3 มูลค่ายุติธรรมหรือต้นทุนของสินทรัพย์ สามารถวัดมูลค่า ได้อย่างน่าเชื่อถือ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 107 การวัดมูลค่า 22 . 10 กิจการต้องเลือกใช้นโยบายการบัญชีกับ สินทรัพย์ชีวภาพหรือผลิตผลทางการเกษตร โดยใช้วิธี ราคาทุนหรือวิธีมูลค่ายุติธรรม วิธีราคาทุน 22 . 1 1 กิจการต้องวัดมูลค่าของสินทรัพย์ชีวภาพเมื่อ รับรู้รายการ เริ่มแรกและ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลา รายงาน โดยใช้ราคาทุน โดยแสดงรายการ ด้วยราคาทุนหักค่าเสื่อมราคาสะสมและ ค่าเผื่อการลดลง ของมูลค่า (ถ้ามี) 22 . 1 2 กิจการต้องวัดมูลค่าของผลิตผลทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวจากสินทรัพย์ชีวภาพด้วย ราคาทุน ณ จุดเก็บเกี่ยว ราคาทุนที่ได้นี้ถือเป็นต้นทุนของสินค้าคงเหลือ ณ วันนั้น เมื่อถือปฏิบัติตามบทที่ 8 เรื่ อง สินค้าคงเหลือ หรือบทอื่นที่เกี่ยวข้อง 22 . 1 3 ในการกาหนดราคาทุน ค่าเสื่อมราคาสะสม และค่าเผื่อการลดลงของมูลค่า กิจการต้องพิจารณา ตามบทที่ 8 เรื่อง สินค้าคงเหลือ และบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ วิธีมูลค่ายุติธรรม 22 . 14 หากสินทรัพย์ชีวภาพนั้นสามารถวัดมูลค่ายุติธรรมได้อย่างน่าเชื่อถือ กิจการต้องวัดมูลค่าของ สินทรัพย์ชีวภาพเมื่อ รับรู้รายการ เริ่มแรกและ ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน โดย ใช้มูลค่า ยุติธรรมหักด้วยต้นทุนในการขาย กิจการต้องรับรู้ การเปลี่ยนแปลง ของ มูลค่ายุติธรรมหักด้วย ต้ นทุนในการขายใน งบกำไร ขาดทุน สาหรับงวดเมื่อเกิดขึ้น 22 . 1 5 กิจการต้องวัดมูลค่า ของ ผลิตผลทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวจากสินทรัพย์ชีวภาพด้วยมูลค่ายุติธรรม หักต้นทุนในการขาย ณ จุดเก็บเกี่ยว มูลค่ายุติธรรมที่ได้นี้ถือเป็นต้นทุนของสินค้าคงเหลือ ณ วันนั้น เมื่อถือปฏิบัติตามบทที่ 8 เรื่อง สินค้าคงเหลือ หรือบทอื่นที่เกี่ยวข้อง 22 . 1 6 ใน การกำหนดมูลค่ายุติธรรม ของ สินทรัพย์ชีวภาพและผลิตผลทางการเกษตร กิจการต้อง พิจารณาดังต่อไปนี้ 22 . 1 6 . 1 กรณี มีตลาดที่มีสภาพคล่อง (มีตลาด รองรับ ณ สถานที่และสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ) กิจการต้องใช้ ราคาเสนอซื้อขายในตลาดดังกล่าว ทั้งนี้ หากกิจการสามารถเข้าถึงตลาดที่ มีสภาพคล่องได้หลายแห่ง กิจการต้องใช้ราคาของตลาดที่คาดว่าจะนาสินค้านั้นไป ขาย 22 . 1 6 . 2 กรณี ไม่มีตลาดที่มีสภาพคล่อง กิจการ ต้อง ใช้ วิ ธี ใดวิธี หนึ่งหรือหลายวิธีดังต่อไปนี้ 22 . 1 6 . 2 . 1 ราคา ของ รายการล่าสุดที่เกิดขึ้นในตลาด โดยให้ปรับปรุง หาก มีการ เปลี่ยนแปลงที่มีนัยสาคัญในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วง ระหว่างวันที่เกิดธุรกรรมดังกล่าวกับวันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน 22 . 1 6 . 2 . 2 ราคาตลาดของสินทรัพย์อื่นที่คล้ายคลึงกัน โดยให้ปรับปรุงเพื่อสะ ท้อนถึง ความแตกต่าง และ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 108 22 . 1 6 . 2 . 3 ราคาเทียบเคียงของกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น มูลค่าของผลไม้ที่แสดงใน หน่วยบรรจุสินค้าเพื่อส่งออก หรือมูลค่าของโคหรือกระบือที่แสดงใน หน่วยกิโลกรัมของเนื้อ เป็นต้น การเปิดเผยข้อมูล วิธีราคาทุน 22 . 1 7 กิจการต้องเปิดเผยรายละเอียดของสินทรัพย์ชีวภาพที่วัดมูลค่าด้วยวิธีราคาทุน ทุกข้อ ดัง ต่อไป นี้ 22 . 1 7 . 1 รายละเอียดของสินทรัพย์ชีวภาพแต่ละกลุ่ม 22 . 1 7 . 2 วิธีการคิดค่าเสื่อมราคา 22 . 1 7 . 3 อายุการใ ช้ ประโยชน์หรืออัตราค่าเสื่อมราคาที่ใช้ และ 22 . 1 7 . 4 มูลค่าตามบัญชีก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสม ค่าเสื่อมราคาสะสม และค่าเผื่อการลดลง ของมูลค่า (ถ้ามี) ณ วันต้นงวดและ สิ้น งวด และ รายการกระทบยอดของมูลค่าตาม บัญชีของสินทรัพย์ชีวภาพระหว่าง วัน ต้นงวด ถึงวันสิ้น งวด ที่แสดงถึงรายการต่อไปนี้ 22 . 1 7 . 4 . 1 มูลค่าที่ เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจาก การซื้อ หรือ การรวมธุรกิจ (ถ้ามี) 22 . 1 7 . 4 . 2 มูลค่าที่ ลดลง ซึ่งเกิดจากกำรเก็บเกี่ยว หรือการขาย 22 . 1 7 . 4 . 3 ค่าเสื่อมราคา 22 . 1 7 . 4 . 4 การเปลี่ยนแปลงอื่น วิธีมูลค่ายุติธรรม 22 . 1 8 กิจการต้องเปิดเผยรายละเอียดของสินทรัพย์ชีวภาพที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรม ทุกข้อ ดัง ต่อไป นี้ 22 . 1 8 . 1 รายละเอียดของสินทรัพย์ชีวภาพแต่ละกลุ่ม 22 . 1 8 . 2 วิธีที่ใช้และข้อสมมติที่มีนัยสาคัญในการกาหนดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ชีวภาพ แต่ละกลุ่ม และของ ผลิตผลทางการเกษตรแต่ละกลุ่ม ณ จุดเก็บเกี่ยว 22 . 1 8 . 3 รายการกระทบยอดของมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ชีวภาพระหว่าง วัน ต้นงวด ถึงวัน สิ้น งวด ที่แสดงถึงรายการต่อไปนี้ 22 . 1 8 . 3 . 1 ผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่ายุติธรรมหัก ต้นทุนในการขาย 22 . 1 8 . 3 . 2 มูลค่าที่ เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจาก การซื้อ หรือ การรวมธุรกิจ (ถ้ามี) 22 . 1 8 . 3 . 3 มูลค่าที่ ลดลง ซึ่งเกิดจากกำรเก็บเกี่ยว หรือการขาย 22 . 1 8 . 3 . 4 ผลต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ ที่ เกิดจากการแปลงค่างบการเงิน ให้เป็น สกุลเงินที่ใช้ ในการ นาเสนองบการเงินที่ต่างไป และการแปลงค่า หน่วยงาน ต่างประเทศให้เป็นสกุลเงินที่ใช้ ในการ นาเสนองบการเงินของกิจการที่ เสนอรายงาน (ถ้ามี) และ 22 . 1 8 . 3 . 5 การเปลี่ยนแปลงอื่น
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 109 บทที่ 23 เ งินอุดหนุนจากรัฐบาล 23 . 1 รัฐบาล หมายถึง รัฐบาล หน่วย งาน ราชการ และหน่วยงานที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศหรือระดับระหว่างประเทศ 23 . 2 เงินอุดหนุนจากรัฐบาล หมายถึง ความช่วยเหลือจากรัฐบาลในรูปของการโอนทรัพยากรให้แก่ กิจการเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่กิจการต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้ องกับการดาเนินงานของ กิจการทั้งที่ได้ปฏิบัติแล้วในอดีตและที่จะปฏิบัติในอนาคต 23 . 3 เงินอุดหนุนจากรัฐบาลไม่รวมถึง 23 . 3 . 1 ความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ไม่สามารถกาหนดมูลค่าได้อย่างสมเหตุสมผล เช่น ความ ช่วยเหลือทางด้านเทคนิคหรือคาแนะนาทางด้านการตลาดโดยไม่คิดมูลค่า การให้การ ค้าประกันและการให้กู้ยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ยหรือคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่า เป็นต้น และ 23 . 3 . 2 รายการค้าที่ทากับรัฐบาลซึ่งไม่สามารถแยกจากรายการค้าตามปกติของกิจการ เช่น นโยบายการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลที่มีผลต่อยอดขายบางส่วนของกิจการ เป็นต้น 23 . 4 ความช่วยเหลือจากรัฐบาล หมายถึง การที่รัฐบาลให้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจโดยเฉพาะเจาะจงแก่ กิจการใดกิจการหนึ่งหรือกลุ่มกิจการที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่รัฐบาล กาหนด ทั้งนี้ไม่รวมถึง ประโยชน์ที่รัฐบาลให้โดยทางอ้อมซึ่งมีผลต่อสภาพทางการค้าโดยทั่วไป เช่น การจัดสร้าง สาธำรณูปโภคในพื้นที่ที่มีการพัฒนา หรือการกาหนดข้อจากัดทางการค้าต่อคู่แข่ง เป็นต้น 23 . 5 บทนี้ไม่ได้ ครอบคลุมถึงความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ให้แก่กิจการในรูปของประโยชน์ที่ใช้ในการ กำหนดกำไรหรือขาดทุนทางภาษีหรือสามารถใช้กาหนดหรือจากัดจานวนหนี้สินภาษีเงินได้ ตัวอย่างข องประโยชน์ดังกล่าว ได้แก่ ช่วงระยะเวลาปลอดภาษี เครดิตภาษี เงิน ลงทุน การคิดค่า เสื่อมราคาในอัตราเร่ง และการลดอัตราภาษีเงินได้ เป็นต้น การรับรู้รายการ 23 . 6 กิจการต้องไม่รับรู้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล จนกว่าจะเชื่อมั่นได้อย่างสมเหตุสมผลว่า 23 . 6 . 1 กิจการจะปฏิบัติตา มเงื่อนไขของเงินอุดหนุนที่กาหนดไว้ และ 23 . 6 . 2 กิจการจะได้รับเงินอุดหนุนนั้น 23 . 7 กิจการต้องรับรู้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลเป็นรายได้ ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้ 23 . 7 . 1 กรณีที่ เงินอุดหนุนไม่ ได้ กาหนดเงื่อนไขที่ผู้รับต้องปฏิบัติตามในอนาคต กิจการ จะรับรู้ เป็นรายได้ ก็ต่อ เมื่อมีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนนั้น 23 . 7 . 2 กรณี เงินอุดหนุนกาหนดเงื่อนไขที่ผู้รับต้องปฏิบัติตามในอนาคต กิจการ จะรับรู้เป็น รายได้ ก็ต่อ เมื่อกิจการได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของเงินอุดหนุนที่กาหนดไว้เท่านั้น
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 110 กรณี เงินอุดหนุนที่ได้รับก่อนเข้าเกณฑ์การรับรู้ เป็น รายได้ กิจการจะต้อง รับรู้ ไว้ เป็น รายได้รอการ รับรู้ ในงบแสดงฐานะการเงิน 23 . 8 กิจการต้องรับรู้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล เป็นรายได้ ในงบกำไรขาดทุนอย่างเป็นระบบตลอด ระยะเวลาที่กิจการรับรู้ต้นทุนที่เงินอุดหนุนนั้นจ่ายให้เป็น การชดเชย การวัดมูลค่า 23 . 9 กิจการ ต้องวัดมูลค่าของเงินอุดหนุนด้วยมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ที่ได้รับหรือที่มีสิทธิที่จะ ได้รับ การแสดงรายการ การแสดงรายการเงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ 23 . 10 เงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ คือ เงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่มีเงื่อนไขหลักให้กิจการที่เข้าข่าย ได้รับเงินอุดหนุนต้องซื้อ สร้าง หรือจัดหาสินทรัพย์ระยะยาวโดยอาจมีเงื่อนไขรองที่เกี่ยวกับการ จำกัดประเภทหรือสถานที่ตั้งของสินทรัพย์หรือระยะเวลาที่กิจการต้องจัดหาหรือถือครอง สินทรัพย์นั้น 23 . 11 กิจการต้อ งแสดงเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง กับสินทรัพย์ในงบแสดงฐานะการเงินโดย สามารถเลือกแสดงได้ 2 วิธี ดังนี้ 23 . 11 . 1 กิจการรับรู้เงินอุดหนุนเป็น รายได้รอการรับรู้ และทยอยรับรู้ในงบกาไรขาดทุนตาม เกณฑ์ที่เป็นระบบและสมเหตุสมผลตลอดอายุการใ ช้ ประโยชน์ของสินทรัพย์ หรือ 23 . 11 . 2 กิจการนาเงินอุดหนุนมาแสดงหักจากมูลค่าของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้มูลค่า ตามบัญชีของสินทรัพย์ และทยอยรับรู้ในงบกาไรขาดทุนตลอดอายุการใ ช้ ประโยชน์ ของสินทรัพย์เสื่อมสภาพ (ในรูปของค่าเสื่อมราคาที่ลดลง) การแสดงรายการเงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้องกับรายไ ด้ 23 . 12 เงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้องกับรายได้ คือ เงินอุดหนุนอื่นจากรัฐบาลที่ไม่ใช่เงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้องกับ สินทรัพย์ 23 . 13 กิจการอาจแสดงเงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้องกับรายได้เป็นส่วนหนึ่งในงบกาไรขาดทุน โดยแสดงเป็น รายการแยกต่างหากหรือแสดงไว้ภายใต้หมวดรายได้อื่น หรืออาจนาเงินอุดหนุนดังกล่าวไปแสดง โดยการหักกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง การจ่ายคืนเงินอุดหนุนจากรัฐบาล 23 . 14 การจ่ายคืนเงินอุดหนุนจากรัฐบาลถือเป็นการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี (ดูบทที่ 5 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีแ ละข้อผิดพลาด ) 23 . 14 . 1 หากกิจการต้องจ่ายคืนเงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ กิจการต้องนาเงินอุดหนุน ส่วนที่จ่ายคืนนั้นไปเพิ่มมูลค่าตามบัญชี ของสินทรัพย์ หรือลดรายได้รอการรับรู้ด้วย
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 111 จานวนที่ต้องจ่ายคืน นอกจากนั้นกิจการต้องรับรู้ผลสะสมของค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น จนถึงวันที่กิจการต้องจ่ายคืนจากรัฐบาลนั้นเข้างบกาไรขาดทุนทันที 23 . 14 . 2 หากกิจการต้องจ่ายคืนเงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้องกับรายได้ กิจการต้องนาเงินอุดหนุนที่ จ่ายคืนนั้นไป หักรายได้ รอการรับรู้ที่ได้บันทึก ไว้สาหรับเงินอุดหนุนดังกล่าว ในกรณีที่ เงินอุดหนุนที่ต้องจ่ายคืนมีจานวนสูงกว่าหรือไม่มียอดคงเหลือในบัญชีรายได้รอการ รับรู้ กิจการต้องรับรู้ส่วนเกินของเงินอุดหนุนที่ต้องจ่ายคืนนั้นเข้างบกาไรขาดทุนทันที การเปิดเผยข้อมูล 23 . 15 กิจการต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเงิ นอุดหนุนจากรัฐบาล ทุกข้อ ดังต่อไปนี้ 23 . 15 . 1 นโยบายการบัญชีสาหรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล รวมทั้งวิธีที่กิจการเลือกใช้ในการ แสดงรายการในงบการเงิน 23 . 15 . 2 ลักษณะและจานวนเงินของเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่กิจการรับรู้ในงบการเงิน 23 . 15 . 3 เงื่อนไขที่กิจการยังไม่ได้ปฏิบัติและเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอื่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงิน อุดหนุนจากรัฐบาลที่ กิจการ รับรู้ และ 23 . 15 . 4 ระ บุถึงลักษณะ ขอบเขตและระยะเวลาของ ความช่วยเหลือจากรัฐบาลในรูปแบบอื่นที่ กิจการได้รับประโยชน์โดยตรง (ดูย่อหน้าที่ 23 . 3 )
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 112 บทที่ 2 4 อนุพันธ์ 2 4 . 1 อนุพันธ์ คือ เครื่องมือทางการเงินหรือสัญญาอื่น ที่มีลักษณะทั้งสามข้อดังต่อไปนี้ 2 4 . 1 . 1 มูลค่าของเครื่องมือทางการเงินเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรที่ระบุ ไว้ เช่น อัตราดอกเบี้ย ราคาของเครื่องมือทางการเงิน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อัตรา แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดัชนีราคาหรือดัชนีอัตรา อันดับความน่าเชื่อถือด้าน เครดิตหรือดัชนีความน่าเชื่อถือด้านเครดิต หรือตัวแปรอื่น โดยมีเงื่อนไขว่ากรณีของ ตัวแปรที่ไม่ใช่ตัวแปรทางการเงิน ตัวแปรนั้นไม่ใช่ตัวแปรที่เฉพาะเจาะจงกับคู่สัญญา ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (บางครั้งเรียกว่ารายการอ้างอิง) 2 4 . 1 . 2 ไม่มีการจ่ายเงินลงทุนสุทธิเมื่อเริ่มแรก หรือจ่ายด้วยจำนวนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ สัญญาประเภทอื่นซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าในลักษณะเดียวกันต่อการ เปลี่ยนแปลงของปัจจัยตลาด และ 2 4 . 1 . 3 การรับหรือจ่ายชาระจะกระทาในอนาค ต 2 4 . 2 ตัวอย่างทางปฏิบัติของอนุพันธ์ คือ สัญญาฟิวเจอร์และสัญญาฟอร์เวิร์ด สัญญาแลกเปลี่ยนและ สัญญาสิทธิเลือก โดยปกติอนุพันธ์มีจานวนเงินตามสัญญาที่เป็นจานวนเงินหน่วยสกุลเงิน จานวน หุ้น จานวนหน่วยของน้าหนัก หรือปริมาณหรือหน่วยอื่นที่ระบุไว้ในสัญญา อย่างไรก็ตาม ตราสาร อนุพันธ์ไม่ได้กาหนดให้ผู้ถือหรือผู้ออกที่จะลงทุนหรือได้รับจานวนเงินตามสัญญา ณ วันเริ่มต้น ของสัญญา ในอีกลักษณะหนึ่งอนุพันธ์สามารถกาหนดการจ่ายชาระคงที่ หรือการจ่ายชาระจานวน เงินที่สามารถเปลี่ยนแปลง (แต่ไม่ได้เป็นสัดส่วนตามการเปลี่ยนแปลงของรายการที่อ้างอิ ง) ตาม ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ในอนาคตบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับจานวนเงินตามสัญญา ตัวอย่างเช่น สัญญาอาจกาหนดการจ่ายชาระคงที่เป็นจานวนเงิน 1 , 000 หน่วย ถ้าอัตราดอกเบี้ย LIBOR สาหรับระยะเวลา 6 เดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 สัญญาดังกล่าวคืออนุพันธ์ แม้ว่าจานวนเงินตาม สัญญาไม่ได้ระบุไว้ 2 4 . 3 หากกิจการมีรายการอนุพันธ์ตามที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 2 4 . 1 ถึง 2 4 . 2 กิจการต้องเลือกถือปฏิบัติ กับรายการดังกล่าว ตามข้อ ใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ 2 4 . 3 . 1 เปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินสาหรับรายการอนุพันธ์คงเหลือ ณ วัน สิ้นรอบระยะเวลารายงาน โดยกิจการต้องเปิดเผยจำนวนเงินตามสัญญา (ถ้ามี) พร้อม ทั้ง สนับสนุนแต่ไม่ได้บังคับให้ เปิดเผยถึงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและการ จัดการความเสี่ยงของกิจการเพิ่มเติม หรือ 2 4 . 3 . 2 รับรู้รายการสาหรับรายการอนุพันธ์ด้วยวิธีการคงค้างอย่างง่าย รวมถึงเปิดเผยข้อมูล ตามที่กาหนดไว้ในย่อหน้าที่ 2 4 . 3 . 1 หรือ 2 4 . 3 . 3 รับรู้มูลค่าเริ่มแรกของตราสารอนุพันธ์ด้วยมูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ทาสัญญา และวัด มูลค่าในภายหลังด้วยมูลค่ายุติธรรม โดยรับรู้ กาไร (ขาดทุน) จากการเปลี่ยนแปลง ของมูลค่ายุติธรรมในภายหลังในงบกาไรขาดทุน รวมถึงเปิดเผยจานวนของกาไร
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 113 (ขาดทุน) จากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่ามูลค่ายุติธรรมของอนุพันธ์ที่รับรู้ในระหว่าง งวด และตามที่กาหนดไว้ในย่อหน้าที่ 2 4 . 3 . 1 หรือ 2 4 . 3 . 4 รับรู้รายการ โดยใช้ การบัญชีป้องกันความเสี่ยง และเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยถือ ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการบัญชีป้องกันความเสี่ยงในมาตรฐานการ รายงานทางการเงินกลุ่มเครื่องมือทางการเงิน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 114 บทที่ 2 5 การรวมธุรกิจ 2 5 . 1 การรวมธุรกิจ หมายถึง รายการหรือเหตุการณ์อื่นใดซึ่งทาให้ผู้ซื้อได้มีการควบคุมธุรกิจหรือกลุ่ม ธุรกิจ รายการซึ่งเป็นการควบรวมจริง หรือเทียบเท่าการควบรวม ถือเป็นการรวมธุรกิจด้วย เช่นกัน ทั้งนี้ผู้ ซื้ออาจดำเนินการในหลายรูปแบบเพื่อให้ได้มีการควบคุมจากผู้ถูกซื้อ ตัวอย่างเช่น • โดยการโอน เงินสด รายการเทียบเท่าเงินสด หรือสินทรัพย์อื่น (รวมถึงสินทรัพย์สุทธิที่ ประกอบกันเป็นธุรกิจ) • โดยการก่อหนี้สิน • โดยการออกส่วนได้เสียในส่วนของเจ้าของ • โดยการให้สิ่งตอบแทนมากกว่าหนึ่งรูปแบบ หรือ • โดยไม่มีการโอนสิ่งตอบแทนให้ ซึ่งรวมถึง การรวมธุรกิจที่ดาเนินการตามสั ญญาเพียง อย่างเดียว 2 5 . 2 ธุรกิจ หมายถึง กลุ่มของกิจกรรมและสินทรัพย์ที่ เมื่อรวมกันแล้วสามารถ นำมา จัดการ และ ดาเนินงานเพื่อ วัตถุ ประสงค์ ในการจัดหาสินค้าหรือบริการแก่ลูกค้า การก่อให้เกิดผลตอบแทน การลงทุน ( ในรูปของเงินปันผล หรือ ดอกเบี้ย ) หรือ การก่อให้เกิดผลตอบแทนจากรายได้อื่น ตามปกติธุรกิจ 2 5 . 3 ธุรกิจ ประกอบด้วย ปัจจัยนา เข้า และกระบวนการที่สา คัญที่เมื่อรวมกันแล้วเป็นตัวสนับสนุน สา คัญในการก่อให้เกิดผลผลิต กล่าวคือ 2 5 . 3 . 1 มีการนา ปัจจัยนา เข้ารวมถึงสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนทั้งที่มีตัวตน และไม่มีตัวตน หรือ สิทธิในการใช้สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน สินทรัพย์ทางปัญญา ความสามารถในการเข้าถึง วัตถุดิบหรือสิทธิที่จา เป็นและพนักงานที่ทา ให้เกิดผลผลิตหรือสามารถสนับสนุนการ เกิดผลผลิต 2 5 . 3 . 2 ผ่า น กระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์ กระบวนการในการดา เนินงาน และกระบวนการใน การบริหารจัดการทรัพยากรที่จา เป็นเพื่อทา ให้สิ่งที่นา เข้ากลายเป็นผลผลิต 2 5 . 3 . 3 ผลผลิตดังกล่าวอาจเป็นในรูปแบบของสินค้าหรือบริการที่ให้แก่ลูกค้า หรือ ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล หรือดอกเบี้ย หรือผลตอบแทนจากรายได้อื่น ตามปกติธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ธุรกิ จไม่จา เป็นต้องรวมปัจจัยนา เข้าหรือกระบวนการทั้งหมดที่ผู้ขายใช้ในการ ดา เนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มของกิจกรรมและสินทรัพย์ที่ซื้อมามีผลผลิต การมีรายได้ ต่อเนื่องเพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าทั้งปัจจัยนา เข้าและกระบวนการที่สา คัญได้ถูกซื้อ มาด้วย 25 . 4 การรวมธุรกิจภายใต้การควบคุมเดียวกัน คือ การรวมธุรกิจซึ่งกิจการหรือธุรกิจทั้งหมดที่นามา รวมกันอยู่ภายใต้การควบคุมสูงสุดโดยบุคคล กิจการ กลุ่มบุคคล หรือกลุ่มกิจการเดียวกันทั้ง ก่อนและหลังการรวมธุรกิจ และการควบคุมนั้นไม่เป็นการควบคุมชั่วคราว
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 115 2 5 . 5 กิจการต้องประเมินว่ารายการหรือเหตุการณ์ อื่น ที่เกิดขึ้นถือเป็นการรวมธุรกิจหรือไม่โดยใช้คา นิยามที่ระบุไว้ในมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ ซึ่งกาหนดให้สินทรัพย์ที่ได้มาและ หนี้สินที่รับมาต้องประกอบกันขึ้นเป็นธุรกิจ หากสินทรัพย์ที่ได้มาไม่ใช่หน่วยธุรกิจ กิจกำรที่ นาเสนอรายงานต้องบันทึกรายการหรือเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการซื้อสินทรัพย์ การซื้อสินทรัพย์ 2 5 . 6 กรณีเป็นการซื้อสินทรัพย์ กิจการต้องถือปฏิบัติกับสินทรัพย์ที่ได้มาในแต่ละรายการ เช่น สินค้า คงเหลือ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ หรือสินทรัพย์ไม่มีตัวตน เป็นต้น ตามข้อกาหนดของบทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ การรวมธุรกิจ 2 5 . 7 หาก สินทรัพย์ที่ได้มา เป็น หน่วยธุรกิจ กิจการที่นาเสนอรายงาน สามารถเลือก บันทึกรายการหรือ เหตุการณ์ดังกล่าว ด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ 2 5 . 7 . 1 การซื้อสินทรัพย์ ที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 2 5 . 6 หรือ 2 5 . 7 . 2 การรวมธุรกิจ โดยถือปฏิบัติดังนี้ 25 . 7 . 2 . 1 วิธีซื้อตามมาตรฐานการายงานทางการเงิน ฉบับที่ 3 เรื่อง การรวมธุรกิจ หรือ 25 . 7 . 2 . 2 วิธีตามที่ระบุไว้ใน แนวปฏิบัติทางการบัญชีสาหรับการรวมธุรกิจภายใต้ การควบคุมเดียวกัน ( กรณีเป็น การรวมธุรกิจภายใต้การควบคุมเดียวกัน ) 2 5 . 8 กิจการที่เลือกถือปฏิบัติตามวิธีซื้อตามที่ระบุไว้ในมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 3 เรื่อง การรวมธุรกิจ กิจการต้องถือปฏิบัติตามข้อกาหนดทั้งหมดที่ระบุไว้ในมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบับดังกล่าว เว้นแต่ เรื่องของค่ำความนิยม ซึ่ง ค่าความนิยม คือ สินทรัพย์ที่แสดงถึง ผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตที่จะได้รับจากสินทรัพย์อื่นที่ได้มาจากการรวมธุรกิจ ซึ่งไม่ สามารถระบุและรั บรู้เป็นรายการแยกออกมาให้ชัดเจนได้ นั้น กำหนดให้ 25 . 8 . 1 ผู้ซื้อต้องตัดจาหน่ายค่าความนิยมดังกล่าวอย่างมีระบบตลอดอายุการ ใช้ ประโยชน์ของ ค่าความนิยมนั้น ระยะเวลาการตัดจำหน่าย สำ หรับค่าความนิยมที่มีอายุการใช้ ประโยชน์ทราบได้แน่นอนให้กิจการตัดจาหน่ายสินทรัพย์ตลอดอายุการใช้ประโยชน์ที่ ทราบได้แน่นอนนั้น ส่วนค่าความนิยมที่อายุการใช้ประโยชน์ไม่ทราบได้แน่นอน ให้กิจการกำหนดอายุการใช้ประโยชน์เท่ากับ 20 ปี 25 . 8 . 2 ผู้ซื้อต้องใช้วิธีเส้นตรงใน การตัดจาหน่ายค่าความนิยม เว้นแต่จะมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ ว่าการตัดจาหน่ายวิธีอื่นเหมาะสมกว่าภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ ในกรณีที่ผู้ซื้อมี หลักฐานสนับสนุนการตัดจาหน่ายโดยใช้วิธีอื่น ผู้ซื้อต้องเลือกวิธีการตัดจาหน่ายที่ เหมาะสมกับรูปแบบของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจใ นอนาคตที่ผู้ซื้อคาดว่าจะได้รับจากค่า ความนิยมนั้น 25 . 8 . 3 ผู้ซื้อต้องรับรู้ค่าตัดจาหน่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละงวดเป็นค่าใช้จ่ายในงบกาไรขาดทุน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 116 25 . 8 . 4 ผู้ซื้อต้องแสดงรายการค่าความนิยมด้วยราคาทุนหักค่าตัดจาหน่ายสะสมและค่าเผื่อ การลดลงของมูลค่า (ถ้ามี)
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 117 บทที่ 2 6 การสารวจและการประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่ 2 6 . 1 การสารวจและการประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่ หมายถึง การค้นหาแหล่งทรัพยากรแร่ ซึ่ง รวมถึงแร่ธาตุ น้ามัน ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรที่ไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ซึ่งคล้ายคลึงกัน ( similar non - regenerative resources ) หลังจากที่กิจการได้รับสิทธิทางกฎหมายให้สารวจพื้นที่ที่ ระบุไว้ รวมทั้งการกาหนดความเป็นไปได้ทางเทคนิคและความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ของการ สกัดทรัพยากรแร่ 2 6 . 2 หากกิจการมีรายการธุรกรรมที่เข้าลักษณะของ การสารวจและการประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่ ตามที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 2 6 . 1 กิจการต้องปฏิบัติกับรายการดังกล่าว ตามข้อกาหนดทุกข้อตาม มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 6 เรื่อง การสารวจและการประเมินค่าแหล่งทรัพยากร แร่ เว้นแต่เรื่องของการลดลงของมูลค่าของ สินทรัพย์จากการสารวจและการประเมินค่า ให้กิจการ ถือปฏิบัติตามที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 26 . 3 ทั้งนี้กิจการ ต้องใช้วิธีการดังกล่าวอย่างสม่าเสมอกับการ จัดประเภทของสินทรัพย์ 26 . 3 ในกรณีที่ มีข้อเท็จจริงและสถานการณ์ที่ชี้ให้เห็นว่าสินทรัพย์จากการสารวจและการประเมินค่า มี มูลค่าลดลงอย่างถาวร ตัวอย่างเช่น 26 . 3 . 1 ช่วง เวลาซึ่งกิจการมีสิทธิในการสารวจพื้นที่ที่ระบุไว้ได้หมดลงในระหว่างงวด หรือกาลัง จะหมดลงใน อนาคต อันใกล้ และสิทธิดังกล่าวจะ ไม่ มีการต่ออายุ 26 . 3 . 2 ไม่ได้มีการวางแผนงานหรือจัด สรรง บประมาณสาหรับ ราย จ่ายในการสารวจและการ ประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่ ต่อไปอีก ในพื้นที่ที่ระบุไว้ ซึ่งต้องใช้เงินจานวนมาก 26 . 3 . 3 การสารวจและการประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่ในพื้นที่ที่ระบุไว้ไม่ไ ด้นาไปสู่การ ค้นพบทรัพยากรแร่ใน ปริมาณที่เป็นไปได้ เชิงพาณิชย์ และกิจการได้ตัดสินใจหยุด กิจกรรมการสารวจและการประเมินค่า ในพื้นที่ดังกล่าว 26 . 3 . 4 มี ข้อมูลเพียงพอที่ ชี้ให้เห็นว่า แม้ว่าการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว น่าจะ ดาเนินต่อไป ได้ แต่ มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์จากการสารวจและการประเมินค่า ไม่น่าจะได้รับคืนเต็ม จานวนจากการพัฒนาที่ ประสบความสาเร็จหรือ จากการ ขาย กิจการต้อง รับรู้ผลขาดทุนจากการลดลงของมูลค่าของ สินท รัพย์จากการสารวจและการประเมินค่า ในงบกาไรขาดทุน ในกรณีที่ไม่ปรากฏว่ามี ข้อเท็จจริงและสถานการณ์ ข้างต้นอีกต่อไป กิจการ สามารถบันทึกกลับรายการผลขาดทุนดังกล่าวได้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 118 บทที่ 27 ข้อตกลงสัมปทานบริการ 27.1 กิจการอาจเลือกถือปฏิบัติตามข้อกาหนดที่ระบุไว้ทั้งหมดในบทนี้ หากกิจการมีรายการ “ ข้อตกลง สัมปทานบริการ ” ที่เป็นไปตามย่อหน้าที่ 27 . 2 ถึง 27 . 3 27 . 2 ข้อตกลงสัมปทานบริการ หมายถึง ข้อตกลงที่รัฐบาลหรือหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ (ผู้ให้สัมปทาน) ได้ทาสัญญากับผู้ประกอบการภาคเอกชนให้พัฒนา (หรือยกระดับ) ดาเนินการและบารุงรักษา โครงสร้างพื้นฐานของผู้ให้สัมปทาน เช่น ถนน สะพาน อุโมงค์ สนามบิน ระบบการจ่ายพลังงาน เรือนจำ หรือ โรงพยาบาล เป็นต้น 27 . 3 ข้ อตกลงสัมปทานบริการ ระหว่างภาครัฐกับเอกชนจะอยู่ในขอบเขตของบทนี้ เมื่อเป็นไปตาม เงื่อนไขทุกข้อต่อไปนี้ 27 . 3 . 1 ผู้ให้สัมปทานควบคุมหรือกากับดูแลประเภทของบริการที่ผู้ประกอบการต้องดาเนินการ ในการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการ กลุ่มผู้ใช้บริการ และราคาค่าบริการ และ 27 . 3 . 2 ผู้ให้สัมปทานควบคุมส่วนได้เสียคงเหลือที่มีนัยสาคัญ ใดๆ ในโครงสร้างพื้นฐานเมื่อ สิ้นสุดระยะเวลาของข้อตกลง ไม่ว่าโดยการเป็นเจ้าของ การได้รับประโยชน์ หรือวิธีอื่น ใด 27 . 4 ข้อตกลงสัมปทานบริการสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท โดยแบ่งตามสิ่งตอบแทนที่ผู้ให้สัมปทาน ให้แก่ผู้ประกอบการ ดังนี้ 27 . 4 . 1 ประเภทที่หนึ่ง ผู้ประกอบการได้รับเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน – ผู้ประกอบการมีสิทธิอัน ปราศจากเงื่อนไขตามสัญญาที่จะได้รับเงินสดหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นจากผู้ให้ สัมปทานหรือตามคาสั่งของ ผู้ให้สัมปทานสาหรับการให้บริการก่อสร้าง โดยปกติผู้ให้ สัมปทานมีอานาจที่จะใช้ดุลยพินิจได้เพียงเล็กน้อยที่จะปฏิเสธการจ่ายเงินเนื่องจาก ข้อตกลงย่อมมีผลใช้บังคับตามกฎหมาย ผู้ประกอบการมีสิทธิอันปราศจากเงื่อนไขที่จะ ได้รับเงินสดหากผู้ให้สัมปทานรับประกันตามสัญญาที่จ ะจ่ายแก่ผู้ประกอบการ ( 1 ) ตาม จานวนที่ระบุไว้หรือที่กาหนดไว้ หรือ ( 2 ) ตามส่วนต่าง (ถ้ามี) ระหว่างจานวนที่ได้รับ จากผู้ใช้บริการสาธารณะกับจานวนที่ระบุไว้หรือที่กาหนดไว้ แม้ว่าการจ่ายชาระจะขึ้นอยู่ กับการที่ผู้ประกอบการจะสามารถดาเนินการให้โครงสร้างพื้นฐานเป็นไปตำมคุณภาพที่ ระบุไว้หรือตามข้อกาหนดทางด้านประสิทธิภาพ 27 . 4 . 2 ประเภทที่สอง ผู้ประกอบการได้รับเป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตน – ผู้ประกอบการได้รับสิทธิ (ใบอนุญาต) ในการเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ใช้บริการสาธารณะ สิทธิในการเรียกเก็บ ค่าบริการจากผู้ใช้บริการสาธารณะไม่ใช่สิท ธิอันปราศจากเงื่อนไขที่จะได้รับเงินสด เนื่องจากจา นวนเงินดังกล่าวขึ้นอยู่กับจำ นวนการใช้บริการของสาธารณชน บางครั้งสัญญาฉบับเดียว กัน อาจจะมีทั้งสองประเภท คือ ในกรณีที่รัฐบาลให้การรับประกันโดยไม่ มีเงื่อนไข ในการที่จะ จ่ายเงินค่าก่อสร้างสาธารณูปโภค ผู้ประกอบการจะถือเป็นสินทรัพย์ทาง
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 119 การเงิน ในกรณีที่ผู้ประกอบการจะได้รับชำระโดยขึ้นอยู่กับการใช้บริการของประชาชน ผู้ประกอบการจะถือเป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตน 27 . 5 สินทรัพย์ทางการเงิน หมายถึง สินทรัพย์ดังต่อไปนี้ ( 1 ) เงินสด ( 2 ) ตราสารทุนของกิจการอื่น ( 3 ) สิทธิตามสัญญา ( 3 . 1 ) ที่จะรับเงินสดหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นจากกิจการอื่น หรือ ( 3 . 2 ) ที่จะแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ทางการเงินหรือหนี้สินทางการเงินกับกิจการอื่น ภายใต้เงื่อนไขที่ น่า จะเป็นประโยชน์ต่อกิจการ หรือ ( 4 ) สัญญาที่จะหรืออาจจะชาระ สัญญา ด้วยตราสารทุน ของ กิจการ เอง และเป็น ( 4 . 1 ) รายการที่ไม่ใช่อนุพันธ์ ซึ่งกิจการมีหรืออาจจะมีภาระผูกพัน ในการ รับตราสาร ทุน ขอ ง กิจการ เอง เป็นจานวนที่ผันแปร หรือ ( 4 . 2 ) รายการที่เป็น อนุพันธ์ที่จะหรืออาจจะชำระ สัญญา เป็นสิ่งอื่นที่ไม่ใช่การ แลกเปลี่ยนเงินสดหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นในจานว นเงินที่ คงที่ กับตราสาร ทุน ของ กิจการ เอง ในจานวนที่ คงที่ เพื่อวัตถุประสงค์นี้ ตราสารทุน ของ กิจการไม่ รวมเครื่องมือทางการเงินต่อไปนี้ เครื่องมือทางการเงินที่ มี สิทธิ จะ ขาย ซึ่ง จัด ประเภทเป็นตราสารทุนตามที่กล่าวในย่อหน้าที่ 16 ก และ 16 ข ของมาตรฐาน การบัญชี ฉบับที่ 32 เรื่อง การแสดงรายการเครื่องมือทางการเงิน เครื่องมือ ทางการเงินที่ทาให้กิจการมีภาระผูกพัน ในการ ส่งมอบสินทรัพย์สุทธิของกิจการ ตามสัดส่วนให้กิจการอื่นเฉพาะเมื่อมีการ ชาระบัญชี และจัดประเภทเป็นตราสาร ทุนตามที่กล่าวในย่อหน้าที่ 16 ค และ 16 ง ของมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 เรื่อง การแสดงรายการเครื่องมือทางการเงิน หรือเครื่องมือทางการเงินที่ เป็น สัญญา เพื่อการ รับหรือส่งมอบตราสารทุน ของ กิจการ เอง ในอนาคต วิธีการทางบัญชี (ด้านผู้ประกอบการ) 27 . 6 ผู้ประกอบการต้องไม่รับรู้โครงสร้างพื้นฐานเป็นที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ในงบการเงิน เนื่องจาก ผู้ประกอบการไม่มีสิทธิในการควบคุมการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นบริการสาธารณะ เป็นเพียง การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานในฐานะที่เป็นตัวแทนของผู้ให้สัมปทานตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา วิธีปฏิบัติการบัญชีจะขึ้นอยู่กับลักษณะของสิ่งตอบแทน ที่ผู้ให้สัมปทานให้แก่ผู้ ประกอบการ ซึ่งถูก กาหนดโดยอ้างอิงตามเงื่อนไขของสัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสัญญา (ถ้ามี) กรณีสินทรัพย์ทางการเงิน 27 . 7 ผู้ประกอบการ ต้อง รับรู้ เป็น สินทรัพย์ทางการเงินในกรณีที่ผู้ประกอบการมีสิทธิอันปราศจาก เงื่อนไขตามสัญญาที่จะได้รับเงินสดหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นจากผู้ให้สัมปทานหรือตามคาสั่ง ของผู้ให้สัมปทานสาหรับการให้บริการก่อสร้าง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องวัดมูลค่าสินทรัพย์ทาง
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 120 การเงิน เมื่อเริ่มแรก ด้ว ยมูลค่ายุติธรรม หลังจากนั้นให้ ถือ ปฏิบัติ โดยรับรู้ตามข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้ 27 . 7 . 1 ราคาทุนตัดจาหน่าย หรือ 27 . 7 . 2 มูลค่ายุติธรรมผ่านส่วนของเจ้าของโดยตรง หรือ 27 . 7 . 3 มูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน กรณีสินทรัพย์ไม่มีตัวตน 27 . 8 ผู้ประกอบการต้องรับรู้ เป็น สินทรัพย์ไม่มีตัวตนในกรณีที่ผู้ประกอบ การ ได้รับสิทธิ (ใบอนุญาต) ในการเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ใช้บริการสาธารณะ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้อง วัดมูลค่า สินทรัพย์ไม่มี ตัวตน เมื่อ เริ่มแรกด้วยมูลค่ายุติธรรม หลังจากนั้นให้ ถือ ปฏิบัติตามบทที่ 1 1 สินทรัพย์ไม่มีตัวต น ในการบัน ทึกบัญชีสาหรับสินทรัพย์ไม่มีตัวตน รายได้จากการให้ดาเนินการ 27 . 9 รายได้จากการให้ดาเนินการ ของ ผู้ประกอบการ ที่เกิดจาก ข้อตกลงสัมปทานบริการ ให้ถือปฏิบัติ ตามบทที่ 18 เรื่อง รายได้ การเปิดเผยข้อมูล 27 . 10 ผู้ประกอบการและผู้ให้สัมปทาน ต้องเปิดเผยข้อมูลของ แต่ละข้อตกลงสัมปทานบริการ หรือ เปิดเผยข้อมูลตามกลุ่มข้อตกลงสัมปทานบริการที่มีลักษณะเช่นเดียวกัน (เช่น การเก็บค่าผ่าน ทาง การบริการด้านโทรคมนาคมและการบริการบาบัดน้าเสีย เป็นต้น ) โดยต้องเปิดเผยข้อมูลทุก ข้อต่อไปนี้ 27 . 10 . 1 คาอธิบาย เกี่ยวกับข้อตกลงสัมปทานบริการ 27 . 10 . 2 ข้อกาหนด ในข้อตกลงสัมปทานบริการที่มีนัยสาคัญ เช่น ระยะเวลาของสัมปทาน วันที่ กาหนดราคาใหม่ และ เกณฑ์ที่ใช้ในการกาหนดราคาหรือการต่อรองราคาใหม่ เป็นต้น 27 . 10 . 3 ลักษณะ และขอบเขต (เช่น ปริมาณ ระยะเวลา หรือจานวนเงิน ตามความเหมาะสม) ของ 27 . 10 . 3 . 1 สิทธิ ในการใช้สินทรัพย์ที่ระบุในข้อตกลง 27 . 10 . 3 . 2 ภาระผูกพันในการให้บริการ หรือสิทธิในการได้รับบริการที่คาดไว้ 27 . 10 . 3 . 3 ภาระผูกพันในการได้มา หรือในการก่อสร้างที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 27 . 10 . 3 . 4 ภาระผูกพันในการส่งมอบ หรือสิทธิในการได้รับสินทรัพย์ที่ระบุไว้เมื่อ สิ้ นสุดระยะเวลาของสัมปทาน 27 . 10 . 3 . 5 สิทธิในการต่อสัญญาหรือบอกเลิกสัญญา 27 . 10 . 3 . 6 สิทธิและภาระผูกพันอื่น เช่น การปรับปรุงยกเครื่องครั้งใหญ่ ( major overhauls ) 27 . 10 . 4 การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงที่เกิดขึ้นระหว่างงวด และ 27 . 10 . 5 การจัดประเภทของข้อตกลงสัมปทานบริการ
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 121 27 . 1 1 ผู้ประกอบการต้องเปิดเผยจานวนรายได้และกาไรหรือขาดทุนที่รับรู้ในรอบระยะเวลาที่มีการ แลกเปลี่ยนการให้บริการก่อสร้างกับสินทรัพย์ทางการเงินหรือสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 122 บทที่ 2 8 วันถือปฏิบัติและการปฏิบัติในช่ วงเปลี่ยน ผ่าน วันถือปฏิบัติ 28 . 1 มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะฉบับนี้ให้ ถือปฏิบัติกั บ งบการเงินสาหรับรอบระยะเวลา รายงาน ที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 25 66 เป็นต้นไป ทั้งนี้อนุญาตให้กิจการถือปฏิบัติได้ก่อนวันบังคับใช้ หากกิจการถือปฏิบัติสาหรับรอบระยะเวลา ก่อนวันบังคับใช้ กิจการต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงดังกล่าว การปฏิบัติในช่ วงเปลี่ ยน ผ่าน 28 . 2 เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กาหนดในบทนี้ วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก คือ วันที่เริ่มต้นของรอบ ระยะเวลารายงานประจาปีซึ่งมีการนามาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้มาถือปฏิบัติเป็น ครั้งแรก 28 . 3 กิจการต้องปรับใช้ มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ เป็นครั้งแรก ตามข้อกาหนดในย่อ หน้าที่ 28 . 4 ถึง 28 . 21 ดังนี้ 28 . 3 . 1 โดย ใช้วิธี ปรับงบการเงินย้อนหลัง ตามบทที่ 5 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีและข้อผิดพลาด 28 . 3 . 2 โดย ใช้ วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไป ตามบทที่ 5 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีและข้อผิดพลาด 28 . 3 . 3 โดยกำรรับรู้ผลกระทบสะสมย้อนหลังจากการปรับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับนี้เป็นรายการปรับปรุงกับกาไรสะสม (หรือองค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น ตามความเหมาะสม) ณ วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก 28 . 3 . 4 โดย การ ถือปฏิบัติตามข้อกาหนด ที่เกี่ยวข้อง ที่ระบุไว้ ใน มาตรฐานการรายงานทาง การเงิน เช่น มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 1 เรื่อง การนามาตรฐานการ รายงานทางการเงินมาใช้เป็นครั้งแรก แนวปฏิบัติทางการบัญชี เรื่อง ข้อยกเว้นสาหรับ การรวมธุรกิจภายใต้การควบคุมเดี ยวกัน กรณีการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงิน มาใช้เป็นครั้งแรก เป็นต้น 28 . 4 เว้นแต่ข้อ กาหนด ที่มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ได้กาหนดไว้ในย่อหน้าที่ 28 . 5 ถึง 28 . 21 ให้ กิจการรับรู้ ผลกระทบของการเปลี่ ยนแปลงนโยบายการบัญชีจากการนามาตรฐานการ รายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่ มีส่ วนได้ เสียสาธารณะฉบับนี้มาถือปฏิบัติเป็นครั้งแรก โดย ใช้วิธี ปรับงบการเงินย้ อนหลัง ตามบทที่ 5 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี การ เปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีและข้อผิดพลาด 28 . 5 ในการนามาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้มาถือปฏิบัติเป็นครั้งแรก ให้กิจการป ฏิ บัติตาม ข้อกาหนดสาหรับเรื่องดังต่อไปนี้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 123 28 . 5 . 1 งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ 28 . 5 . 2 งบการเงินของกลุ่มกิจการ 28 . 5 . 3 สินค้าคงเหลือที่ถือไว้โดย ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ ผ ลิตผล ทางการเกษตรภายหลังการเก็บเกี่ยว แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ หรือ นายหน้า – ผู้ค้า สินค้าโภคภัณฑ์ 28 . 5 . 4 คานิยามของเงินลงทุนในบริษัทย่อย 28 . 5 . 5 วิธีการตีราคาใหม่ของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 28 . 5 . 6 วิธีมูลค่ายุติธรรมของรายการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน 28 . 5 . 7 สินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น 28 . 5 . 8 โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า 28 . 5 . 9 การแปลงค่าหน่วยงานต่างประเทศ 28 . 5 . 10 สกุลเงินที่ใช้ในการดาเนินงานที่ไม่ใช่สกุลเงินบาท 28 . 5 . 11 เกษตรกรรม 28 . 5 . 12 เงินอุดหนุนจากรัฐบาล 28 . 5 . 13 อนุพันธ์ 28 . 5 . 14 การรวมธุรกิจ 28 . 5 . 15 การสารวจและการประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่ 28 . 5 . 16 ข้อตกลงสัมปทานบริการ งบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ 28 . 6 กิจการที่เลือกจัดทางบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จตามบทที่ 4 เรื่อง การนำเสนองบการเงิน กิจการต้อง ปฏิบัติตาม ข้อกาหนดของ บทดังกล่าว ณ วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก โดย ใช้วิธี ปรับงบการเงิน ย้อนหลัง สาหรับ งวดก่อนที่แสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ งบการเงิน ของกลุ่มกิจการ 28 . 7 กิจการที่เลือกจัดทางบการเงินรวมหรืองบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย กิจการต้อง นาเสนองบการเงินเฉพาะกิจการด้วย ตามบทที่ 4 เรื่อง การนำเสนองบการเงิน กิจการต้องปฏิบัติ ตามข้อกาหนดของบทดังกล่าว ณ วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก โดย การ ถือปฏิบัติตามข้อกาหนดที่ เกี่ยวข้องที่ระบุไว้ ใน มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 1 เรื่อง การนำมาตรฐานการ รายงานทางการเงินมาใช้เป็นครั้งแรก สินค้าคงเหลือ ที่ถือไว้โดย ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ ผลิตผลทาง การเกษตรภายหลังการเก็บเกี่ยว แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ หรือ นายหน้า – ผู้ค้าสินค้าโภค ภัณฑ์ 28 . 8 สินค้าคงเหลือ ที่ถือไว้โดยผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ ผลิตผลทาง การเกษตรภายหลังการเก็บเกี่ยว แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ หรือ นายหน้า – ผู้ค้าสินค้าโภคภัณฑ์
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 124 ตามบทที่ 8 เรื่อง สินค้าคงเหลือ กิจการต้องวัดมูลค่าสินค้าคงเหลือ ณ วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้ง แรก โดย การรับรู้ผลกระทบสะสมย้อนหลังจากการปรับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับ นี้เป็นรายการปรับปรุงกับกาไรสะสม (หรือองค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น ตามความ เหมาะสม) คานิยามของเงินลงทุนในบริษัทย่อย 28 . 9 กิจการต้องรับรู้รายการเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่ไม่ได้อยู่ภายใต้หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปที่ใช้ ก่อนหน้า ณ วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก ดังนี้ 28 . 9 . 1 โดย ใช้วิธี ปรับงบการเงินย้อนหลัง หากกิจการเลือกไม่จัดทางบการเงิน ของกลุ่มกิจการ และ 28 . 9 . 2 โดย การ ถือปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องที่ระบุไว้ ใน มาตรฐานการรายงานทาง การเงิน ฉบับที่ 1 เรื่อง การนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินมาใช้เป็นครั้งแรก หาก กิจการเลือกจัดทางบการเงินของกลุ่มกิจการ ตามที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 4 . 23 ของ มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้ วิธีการตีราคาใหม่ของรายการที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 28 . 10 กิจการที่เลือกเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีจากวิธีราคาทุนมาเป็นวิธีการตีราคาใหม่ตามบทที่ 10 เรื่อง ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ กิจการต้องปฏิบัติตามข้อกาหนดของบทดังกล่าว ณ วันที่นามา ปฏิบัติใช้ครั้งแรก โดยใช้ วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไป วิธีมูลค่ายุติธรรมของรายการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน 28 . 1 1 กิจการที่เลือกเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีจากวิธีราคาทุนมาเป็น วิธีมูลค่ายุติธรรม ตามบทที่ 12 เรื่อง อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน กิจการต้องปฏิบัติตามข้อกาหนดของบทดังกล่าว ณ วันที่ นำมาปฏิบัติใช้ครั้งแรก โดย การรับรู้ผลกระทบสะสมย้อนหลังจากการปรับใช้มาตรฐานการ รายงานทางการเงินฉบับนี้เป็นรายการปรับปรุงกับกาไรสะสม (หรือองค์ประกอบอื่นของส่วนของ ผู้ถือหุ้น ตามความเหมาะสม) นอกจากนี้ 28 . 1 1 . 1 หำก กิจการเคยเปิดเผยมูลค่ายุติธรรมต่อสาธารณะ (ไม่ว่าจะเปิดเผยในงบการเงินหรือ ที่ใดก็ตาม) มูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในงวดก่อนหน้านั้น (ซึ่ง การกำหนดมูลค่ายุติธรรมให้เป็นไปตามคำนิยามที่กำหนดไว้ในบทที่ 3 เรื่อง กรอบแนวคิด ) มาตรฐานการรายงานทำงการเงินฉบับนี้สนับสนุน (แต่ไม่กำหนด) ให้ กิจการปฏิบัติดังนี้ 28 . 1 1 . 1 . 1 ปรับปรุงกาไรสะสมยกมาต้นงวดในงวดแรกสุดที่ได้มีการนาเสนอมูลค่า ยุติธรรมนั้น และ 28 . 1 1 . 1 . 2 ทาการปรับปรุงย้อนหลังข้อมูลเปรียบเทียบสาหรับงวดดังกล่าว 28 . 1 1 . 2 หากกิจการไม่เคยเปิดเผยข้อมูล ตาม 28 . 1 1 . 1 ต่อสาธารณะ กิจการไม่ต้องปรับปรุง ย้อนหลังข้อมูลเปรียบเทียบและควรเปิดเผยข้อเท็จจริงนี้ไว้
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 125 สินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น 28 . 12 หากกิจการมีรายการสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 16 เรื่อง ประมาณการหนี้สิน หนี้สินที่อาจเกิดขึ้น และสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น ก่อน วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก โดย ใช้ วิธีเปลี่ยน ทันทีเป็นต้นไป กล่าวคือ กิจการไม่จาเป็นต้องเปิดเผยรายการดังกล่าวสาหรับงบการเงินงวด ก่อนที่แสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า 28 . 13 กิจการต้องรับรู้ผลกระทบสะสมที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการรับรู้รายการและวัดมูลค่าของ คะแนนสะสมที่เป็นสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้า ตามที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 18 . 31 ณ วันที่นามาปฏิบัติ ใช้ครั้งแรก โดย ใช้ วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไป การแปลงค่าหน่วยงานต่างประเทศ 28 . 1 4 กิจการต้องรับรู้ผลกระทบสะสมจากการแปลงค่า หน่วยงานต่างประเทศ ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 21 เรื่อง ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดย การ ถือปฏิบัติ ตามข้อกาหนดที่เกี่ยวข้องที่ระบุไว้ ใน มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 1 เรื่อง การนา มาต รฐานการรายงานทางการเงินมาใช้เป็นครั้งแรก สกุลเงินที่ใช้ในการดาเนินงานที่ไม่ใช่สกุลเงินบาท 28 . 15 กิจการต้องรับรู้ผลกระทบสะสมที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนสกุลเงินที่ใช้ในการดาเนินงานของกิจการ จากสกุลเงินบาทเป็นสกุลเงินอื่น ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 21 เรื่อง ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก โดยใช้วิธีเปลี่ยนทันที เป็นต้นไป หรือโดยวิธีปรับงบการเงินย้อนหลังสาหรับงวดก่อนที่แสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ เกษตรกรรม 28 . 16 กิจการต้องรับรู้ผลกระทบสะสมที่เกิดขึ้นจากการถือปฏิบัติ ตามข้อกาหนด ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 2 2 เรื่อง เกษตรกรรม ณ วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก โดย การรับรู้ผลกระทบสะสมย้อนหลังจาก การปรับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้เป็นรายการปรับปรุงกับกาไรสะสม (หรือ องค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น ตามความเหมาะสม) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล 28 . 1 7 กิจการต้องรับรู้ผลกระทบสะสมที่เกิดขึ้นจากการถือปฏิบัติ ตามข้อกาหนด ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 23 เรื่อง เงินอุดหนุนจากรัฐบาล ณ วันที่นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก โดย การรับรู้ผลกระทบสะสม ย้อนหลังจากการปรับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับนี้เป็นรายการปรับปรุงกับกาไร สะสม (หรือองค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น ตามความเหมาะสม)
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 126 อนุพันธ์ 28 . 1 8 กิจการต้องถือปฏิบัติสาหรับรายการอนุพันธ์ ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 2 4 เรื่อง อนุพันธ์ ณ วันที่ นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก ดังนี้ 28 . 18 . 1 โดย ใช้ วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไป หากกิจการเลือกถือปฏิบัติตามย่อหน้าที่ 24 . 3 . 1 กล่าวคือ กิจการไม่จาเป็นต้องเปิดเผยรายการดังกล่าวสาหรับงบการเงินงวดก่อนที่ แสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ 28 . 1 8 . 2 โดย การรับรู้ผลกระทบสะสมย้อนหลังจากการปรับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับนี้เป็นรายการปรับปรุงกับกาไรสะสม (หรือองค์ประกอบอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น ตามความเหมาะสม) หากกิจการเลือกถือปฏิบัติตามย่อหน้าที่ 24 . 3 . 2 หรือ 24 . 3 . 3 และ 28 . 18 . 3 โดย การ ถือปฏิบัติตามข้อกาหนด ที่เกี่ยวข้องที่ระบุไว้ ใน มาตรฐานการรายงานทาง การเงิน ฉบับที่ 1 เรื่อง การนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินมาใช้เป็นครั้งแรก หาก กิจการเลือกถือปฏิบัติตามย่อหน้าที่ 24 . 3 . 4 การรวมธุรกิจ 28 . 1 9 กิจการต้องถือปฏิบัติสาหรับการรวมธุรกิจ ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 2 5 เรื่อง การรวมธุรกิจ ณ วันที่ นามาปฏิบัติใช้ครั้งแรก ดังนี้ 28 . 19 . 1 โดย ใช้ วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไป หากกิจการเลือกถือปฏิบัติตามย่อหน้าที่ 25 . 7 . 1 กล่าวคือ กิจการ ไม่จาเป็นต้องถือปฏิบัติกับการรวมธุรกิจทั้งหมดที่เกิดก่อนวันที่นามา ปฏิบัติใช้ครั้งแรก ซึ่งเคยรับรู้รายการภายใต้หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปที่ใช้ก่อนหน้า 28 . 19 . 2 โดย การ ถือปฏิบัติตามข้อกาหนดที่เกี่ยวข้อง กับ การรวมธุรกิจที่ระบุไว้ ดังนี้ 28 . 19 . 2 . 1 มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 1 เรื่อง การนามาตรฐานการ รายงานทางการเงินมาใช้เป็นครั้งแรก หากกิจการเลือกถือปฏิบัติตามย่อ หน้าที่ 25 . 7 . 2 . 1 หรือ 28 . 19 . 2 . 2 แนวปฏิบัติทางการบัญชี เรื่อง ข้อยกเว้นสาหรับการรวมธุรกิจภายใต้การ ควบคุมเดียวกัน กรณีการนามาตรฐานการรายงานทางการเงินมาใช้เป็น ครั้งแรก หากกิจการเลือกถือปฏิบัติตามย่อหน้าที่ 25 . 7 . 2 . 2 การสารวจและการประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่ 28 . 20 กิจการต้องรับรู้ผลกระทบสะสมจากการถือปฏิบัติ ตามข้อกาหนด ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 26 เรื่อง การสารวจและการประเมินค่าแหล่งทรัพยากรแร่ โดย การ ถือปฏิบัติตามข้อกาหนดที่เกี่ยวข้องที่ ระบุไว้ ใน มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 1 เรื่อง การนามาตรฐานการรายงานทาง การเงินมาใช้เป็นครั้งแรก
มาตรฐานการรายงานทางการเงินสาหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (ปรับปรุง 2565 ) ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชี ที่ 48 / 2565 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 127 ข้อตกลงสัมปทานบริการ 28 . 21 กิจการต้องรับรู้ผลกระทบสะสมจากการถือปฏิบัติ ตามข้อกาหนด ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 2 7 เรื่อง ข้อตกลงสัมปทานบริการ โดย การ ถือปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องที่ระบุไว้ ใน มาตรฐาน การรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 1 เรื่อง การนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินมาใช้เป็นครั้งแรก