Thu Nov 10 2022 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศคณะกรรมการควบคุมมลพิษ เรื่อง วิธีการตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐาน ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน การตรวจวัดและคำนวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน การคำนวณค่าระดับการรบกวน และแบบบันทึกการตรวจวัดเสียงรบกวน พ.ศ. 2565


ประกาศคณะกรรมการควบคุมมลพิษ เรื่อง วิธีการตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐาน ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน การตรวจวัดและคำนวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน การคำนวณค่าระดับการรบกวน และแบบบันทึกการตรวจวัดเสียงรบกวน พ.ศ. 2565

ประกาศคณะกรรมการควบคุมมลพิษ เรื่อง วิธีการตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐาน ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน การตรวจวัดและคานวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน การคำนวณค่าระดับการรบกวน และแบบบันทึกการตรวจวัดเสียงรบกวน พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงวิธีการตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐาน ระดับเสียงขณะไม่มี การรบกวน การตรวจวัดและคานวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน การคานวณค่าระดับการรบกวน และแบบบันทึกการตรวจวัดเสียงรบกวน ให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบระดับเสียงให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 3 แห่งประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 29 (พ.ศ. 2550) เรื่อง ค่าระดับเสียงรบกวน ลงวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 คณะกรรมการ ควบคุมมลพิษ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการควบคุมมลพิษ เรื่อง วิธีการตรวจวัดระดับเสียง พื้นฐานระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน การตรวจวัดและคำนวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน การคานวณค่าระดับการรบกวน และแบบบันทึกการตรวจวัดเสียงรบกวน ลงวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ข้อ 2 วิธีการตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐาน ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน การตรวจวัด และคำนวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน การคำนวณค่าระดับการรบกวน และแบบบันทึกการตรวจวัด เสียงรบกวนให้เป็นไปตามภาคผนวกท้ายประกาศนี้ ข้อ 3 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 25 6 5 จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานกรรมการควบคุมมลพิษ ้ หนา 41 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 266 ง ราชกิจจานุเบกษา 11 พฤศจิกายน 2565

ภาคผนวก ท้ายประกาศคณะกรรมการควบคุมมลพิษ เรื่อง วิธีการตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐาน ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน การตรวจวัดและคานวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน การคานวณค่าระดับการรบกวน และแบบบันทึกการตรวจวัดเสียงรบกวน พ.ศ. 2565 1 . ในประกาศนี้ “ เสียงรบกวน ” หมายความว่า ระดับเสียงจากแหล่งกำเนิดในขณะมีการรบกวนที่มีระดับเสียงสูงกว่า ระดับเสียงพื้นฐาน โดยมีระดับการรบกวนเกินกว่าระดับเสียงรบกวนที่กาหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 29 (พ.ศ. 2550 ) เรื่อง ค่าระดับเสียงรบกวน “ ระดับเสียงพื้นฐาน ” ( Background sound level ) หมายความว่า ระดับเสียงที่ตรวจวัดในสิ่งแวดล้อม ในขณะยังไม่เกิดเสียงหรือไม่ได้รับเสียงจากแหล่งกาเนิดที่ประชาชนร้องเรียนหรือแหล่งกาเนิดที่คาดว่าประชาชน จะได้รับการรบกวนเป็นระดับเสียงเปอร์เซ็นไทล์ที่ 90 ( Percentile Level 90, L A90 ) “ ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน ” ( Residual sound level ) หมายความว่า ระดับเสียงที่ตรวจวัด ในสิ่งแวดล้อมในขณะ ยังไม่เกิดเสียงจากแหล่งกำเนิดที่ประชาชนร้องเรียนหรือแหล่งกำเนิดที่คาดว่าประชาชน จะได้รับการรบกวนเป็นระดับเสียงเฉลี่ย ( Equivalent A - Weighted Sound Pressure Level, L Aeq ) “ ระดับเสียงขณะเกิดเสียงของแหล่งกาเนิด ” ( Specific sound level ) หมายความว่า ระดับเสียง ที่ ตรวจวัดในสิ่งแวดล้อมในขณะเกิดเสียงจากแหล่งกำเนิดที่ประชาชนร้องเรียนหรือแหล่งกาเนิดที่คาดว่าประชาชน จะได้รับการรบกวนเป็นระดับเสียงเฉลี่ย ( Equivalent A - Weighted Sound Pressure Level, L Aeq ) “ ระดับเสียงขณะมีการรบกวน ” ( Rating level ) หมายความว่า ระดับเสียงที่ได้จากการ คานวณ จากระดับเสียง ขณะเกิดเสียงของแหล่งกาเนิด และ ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน รวมทั้ง บวกเพิ่มระดับเสียง ใน กรณี บริเวณที่ทาการตรวจวัดเสียงของแหล่งกาเนิดเป็นพื้นที่ที่ต้องการความเงียบสงบ หรือเป็น แหล่งกาเนิด ที่ก่อให้เกิดเสียงในช่วงเวลาระหว่าง 22.00 – 06.00 นาฬิกา และในกรณี แหล่งกำเนิดเสียงที่ทำให้เกิดเสียงกระแทก เสียงแหลมดัง เสียงที่ก่อให้เกิดความสั่นสะเทือน อย่างใดอย่างหนึ่ง “ เสียงกระแทก ” หมายความว่า เสียงที่เกิดจากการตก ตี เคาะ หรือกระทบของวัตถุ หรือลักษณะอื่นใด ซึ่งมีระดับเสียงสูงกว่าระดับเสียงทั่วไปในขณะนั้น และเกิดขึ้นในทันทีทันใดและสิ้นสุดลงภายในเวลาน้อยกว่า 1 วินาที ( Impulsive Noise ) เช่น การตอกเสาเข็ม การปั๊มขึ้นรูปวัสดุ เป็นต้น “ เสียงแหลมดัง ” หมายความว่า เสียงที่เกิดจากการเบียด เสี ยด สี เจีย ร หรือขัดวัตถุอย่างใด ๆ ที่เกิดขึ้น ในทันทีทันใด เช่น การใช้สว่านไฟฟ้าเจาะเหล็กหรือปูน การเจียรโลหะ การบีบหรืออัดโลหะโ ดยเครื่องอัด การขัดขึ้นเงาวัสดุด้วยเครื่องมือกล เป็นต้น “ เสียงที่มีความสั่นสะเทือน ” หมายความว่า เสียงเครื่องจักร เครื่องดนตรี เครื่องเสียง หรือ เครื่องมืออื่นใดที่มีความสั่นสะเทือนเกิดร่วมด้วย เช่น เสียงเบสที่ผ่านเครื่องขยายเสียง เป็นต้น

  • 2 - “ ระดับการรบกวน ” หมายความว่า ค่าความแตกต่างระหว่างระดับเสียงขณะมีการรบกวน กับ ระดับเสียงพื้นฐาน “ มาตรระดับเสียง ” หมายความว่า เครื่องวัดระดับเสียงตามมาตรฐาน IEC 61672 class 1 ของคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยเทคนิคไฟฟ้า ( International Electrotechnical Commission, IEC ) “ เครื่องกาเนิดสัญญาณเสียงอ้างอิง ” หมายความว่า เครื่อง กาเนิดสัญญาณเสียง ตามมาตรฐาน IEC 60942 class 1 ของคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยเทคนิคไฟฟ้า ( International Electrotechnical Commission, IEC ) 2 . การเตรียมเครื่องมือก่อนทำการตรวจวัด 2.1 ให้ใช้ มาตรระดับเสียง ที่ ได้รับการสอบเทียบในช่วงไม่เกิน 2 ปี เครื่องกาเนิด สัญญาณ เสียง อ้างอิ ง ที่ ได้รับการสอบเทียบในช่วงไม่เกิน 1 ปี โดยห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. 17025 ( ISO 17025 ) หรือมีความสามารถในการสอบกลับได้ในหัวข้อที่ทำการ สอบ เทียบ 2.2 ให้ ปรับ เทียบมาตรระดับเสียงกับเครื่องกาเนิด สัญญาณ เสียง อ้างอิง ตามคู่มือการใช้งาน ที่ผู้ผลิตมาตรระดับเสียงกาหนดไว้ ทุกครั้งก่อนที่จะทาการตรวจวัดระดับเสียง และ ให้ ปรับมาตร ระดับเสียง ให้มี การถ่วงน้าหนักความถี่แบบ “ A ” ( A Frequency w eighting ) และ การถ่วงน้าหนักเวลา แบบ “ Fast ” ( Fast Time weighting ) 3 . การตั้งไมโครโฟนและมาตรระดับเสียง การตั้งไมโครโฟนของมาตรระดับเสียงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 3.1 เป็นบริเวณที่ประชาชนร้องเรียนหรือที่คาดว่าจะได้รับการรบกวน แต่ หากแหล่งกาเนิดเสียง ไม่สามารถหยุดกิจกรรมที่เกิดเสียงได้ ให้ ตั้งไมโครโฟนของมาตรระดับเสียงในการตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐาน และระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน บริเวณอื่นที่มีสภาพแวดล้อมใกล้เคียง 3.2 การตั้งไมโครโฟนของมาตรระดับเสียงที่บริเวณภายนอกอาคาร ให้ตั้งสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 1.2 – 1.5 เมตร โดยในรัศมี 3.5 เมตร ตามแนวราบรอบไมโครโ ฟน ต้องไม่มีกำแพงหรือสิ่งอื่นใด ที่มีคุณสมบัติ ในการสะ ท้อนเสียงกีดขวางอยู่ 3.3 การตั้งไมโครโฟนของมาตรระดับเสียงที่บริเวณภายในอาคำร ให้ตั้งสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 1.2 – 1.5 เมตร โดยในรัศมี 1 เมตร ตามแนวราบรอบไมโครโ ฟน ต้องไม่มีกาแพงหรือสิ่งอื่นใด ที่มีคุณสมบัติ ในการสะท้อนเสียงกีดขวางอยู่ และต้องห่างจากช่องหน้าต่างหรือช่องทางออกนอกอาคารอย่างน้อย 1.5 เมตร 4 . การตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐานและระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน ให้ตรวจวัดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 นาที ขณะไม่มีเสียงจากแหล่งกาเนิดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวแทนของระดับเสียงพื้น ฐาน และระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน โดยระดับเสียงพื้นฐานให้ วัดเป็นระดับเสียงเปอร์เซ็นไทล์ที่ 90 ( Percentile Level 90, L A90 ) ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวนให้วัดเป็น ร ะดับ เสียง เฉลี่ย ( Equivalent A - Weighted Sound Pressure Level, L Aeq ) แบ่ง ออกเป็น 3 กรณี ดังนี้

  • 3 - 4.1 แหล่งกาเนิดเสียงยังไม่เกิดหรือยังไม่มีการดาเนินกิจกรรม ให้ตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐาน และระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน ในวัน เวลา และตำแหน่งที่คาดว่าจะได้รับ การ รบกวน 4.2 แหล่งกาเนิดเสียงมีการดาเนินกิจกรรมไม่ต่อเนื่อง ให้ตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐานและ ระดับ เสียงข ณะไม่มีการรบกวน ในวัน เวลาและตาแหน่งที่คาดว่าจะได้รับ การ รบกวน และเป็นตาแหน่งเดียวกัน กับตาแหน่งที่จะมีการวัดระดับเสียง ขณะเกิดเสียงของแหล่งกาเนิด โดยให้หยุดกิจกรรมของแหล่งกาเนิดเสียง หรือวัดทันทีก่อนหรือหลังการดำเนินกิจกรรม 4.3 แหล่งกาเนิดเสียงมีการดาเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องไม่ สามารถหยุดการดาเนินกิจกรรม ได้ ให้ตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐานและระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน ในบริเวณอื่นที่มีสภาพแวดล้อมคล้ายคลึงกับ บริเวณที่ คาดว่าจะได้รับ การรบกวนและไม่ได้รั บผลกระทบจากแหล่งกำเนิดเสีย ง ทั้งนี้ ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน ที่จะนำไปใช้คำนวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน ตามข้อ 5 และระดับเสียงพื้นฐานที่จะนำไปใช้คำนวณค่าระดับการรบกวนตามข้อ 6 ให้เป็นค่าที่ตรวจวัด เวลาเดียวกัน 5 . การตรวจวัดและคานวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน แบ่งออกเป็น 5 กรณี ดังนี้ 5.1 กรณีที่เสียงจากแหล่งกาเนิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป ให้วัดระดับเสียง ขณะเกิดเสียง ของแหล่งกำเนิดเป็นระดับ เสียง เฉลี่ย ( Equivalent A - Weighted Sound Pressure Level ) 1 ชั่วโมง และนำผลการตรวจวัดมา คำนวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน ตามสมการที่ 1 L Aeq , Tr = [ 10 log 10 ( 10 0 . 1 𝐿𝐴 𝑒𝑞 , 𝑇 𝑠 − 10 0 . 1 𝐿𝐴 𝑒𝑞 , 𝑅 ) ] + 10 log 10 ( 𝑇 𝑠 𝑇 𝑟 ) สมการที่ 1 โดย L Aeq,Tr = ระดับเสียงขณะมีการรบกวน (มีหน่วยเป็น เดซิเบลเอ) L Aeq,Ts = ระดับเสียง ขณะเกิดเสียงของ แหล่งกำเนิด (มีหน่วยเป็น เดซิเบลเอ) L Aeq,R = ระดับเสียงขณะไม่มี การรบกวน (มีหน่วยเป็น เดซิเบลเอ) T s = ระยะเวลาของช่วงเวลาที่แหล่งกำเนิดเกิดเสียง (มีหน่วยเป็น นาที) T r = ระยะเวลาอ้างอิงที่กาหนดขึ้นเพื่อใช้ในการคำนวณระดับ เ สียงขณะมีการรบกวน โดย - ถ้าเป็น แหล่งกำเนิดที่ก่อให้เกิดเสียงในช่วงเวลา 06 .00 – 22 .00 นาฬิกา กำหนดให้มีค่าเท่ากับ 60 นาที - ถ้าบริเวณ ที่ ทำการตรวจวัดระดับเสียงเป็นพื้นที่ที่ ต้องการความ เงียบสงบ หรือเป็น แหล่งกำเนิด ที่ ก่อให้เกิดเสียงในช่วงเวลา 22 .00 – 06 .00 นาฬิกา กำหนดให้มีค่าเท่ากับ 5 นาที 5.2 กรณีที่เสียงจากแหล่งกาเนิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ให้วัดระดับเสียง ขณะเกิดเสียง ของแหล่งกาเนิด ตั้งแต่ เริ่มต้นจนสิ้นสุดการดาเนินกิจกรรมนั้น ๆ เป็นระดับเสียง เฉลี่ย ( Equivalent A - Weighted Sound Pressure Level ) และนำผลการตรวจวัดมา คำนวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน ตามสมการที่ 1

  • 4 - 5.3 กรณีเสียงจากแหล่งกาเนิดเกิดขึ้นอย่างไม่ต่อเนื่ องและเกิดขึ้นมากกว่า 1 ช่วงเวลา โดยแต่ละช่วงเวลาเกิดขึ้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง ให้วัดระดับเสียง ขณะเกิดเสียง ของแหล่งกาเนิดเป็นระดับ เสียง เฉลี่ย ( Equivalent A - Weighted Sound Pressure Level ) ทุกช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในเวลา 1 ชั่วโมง และให้คานวณ ระดับเสียงขณะมีการรบกวนตามลำดับ ดังนี้ (ก) คำนวณระดับเสียง ขณะเกิดเสียง ของแหล่งกำเนิด ตามสมการที่ 2 L Aeq , Ts = 10 log 10 { ( 1 𝑇 𝑠 ) ∑ 𝑇 𝑠 10 0 . 1 𝐿 𝐴 𝑒𝑞 , 𝑇 𝑖 } สมการที่ 2 โดย L Aeq,Ts = ระดับเสียง ขณะเกิดเสียง ของแหล่งกำเนิด (มีหน่วยเป็น เดซิเบลเอ) T s =  i T ( มีหน่วยเป็น นาที ) L Aeq,Ti = ระดับเสียงที่ตรวจวัดได้ในช่วงที่แหล่งกาเนิดเกิดเสียงที่ช่วงเวลา Ti, (มีหน่วยเป็น เดซิเบล เอ ) T i = ระยะเวลาของช่วงเวลาที่แหล่งกำเนิดเกิดเสียงที่ i , (มีหน่วย เ ป็น นาที) (ข) นาผลที่ได้จากการคานวณตาม ข้อ 5 ( 3 ) (ก) มาคานวณเพื่อหาระดับเสียงขณะมีการรบกวน ตาม สมการที่ 1 5.4 กรณีบริเวณที่จะทาการตรวจวัดเสียงของแหล่งกาเนิดเป็ นพื้นที่ที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน ศาสนสถาน ห้องสมุด หรือสถานที่อย่างอื่นที่ มีลักษณะทานองเดียวกัน หรือ เป็นแหล่งกาเนิด ที่ก่อให้เกิดเสียงในช่วงเวลาระหว่าง 22.00 – 06.00 นาฬิกา ให้วัดระดับเสียง ขณะเกิดเสียง ของแหล่งกาเนิด เป็นระดับ เสียง เฉลี่ย ( Equivalent A - Weighted Sound Pressure Level ) 5 นาที และคำนวณระดับเสียงขณะมีการรบกวน ตาม สมการที่ 1 และบวกเพิ่มด้วย 3 เดซิเบลเอ 5.5 กรณีแหล่งกำเนิดเสียงที่ทำให้เกิดเสียงกระแทก เสียงแหลมดัง เสียงที่ก่อให้เกิดควา ม สั่น สะเทือน อย่างใดอย่างหนึ่งแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเสียงนั้น ไม่ว่าเสียงที่เกิดขึ้นจะต่อเนื่องหรือไม่ก็ตาม ให้นำระดับเสียง ขณะมีการรบกวนตาม ข้อ 5 .1 , 5 .2 , 5 .3 หรือ 5 . 4 แล้วแต่ กรณี บวกเ พิ่มด้วย 5 เดซิเบลเอ 6 . วิธีการคานวณค่าระดับการรบกวน ให้นาระดับเสียงขณะมีการรบกวนตามข้อ 5 หักออกด้วยระดับเสียงพื้นฐาน ตามข้อ 4 ผลลัพธ์ เป็นค่าระดับการรบกวน ผลลัพธ์ เป็นตัวเลข ทศนิยม 1 ตาแหน่ง และ การ ปัดเศษทศนิยม ให้เป็นไป ตามมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 929 - 25 3 3 ดังนี้ 6.1 ถ้าเศษตัวแรกมีค่าน้อยกว่า 5 ให้ปัดเศษทิ้ง และคงตัวเลขตัวสุดท้ายในตาแหน่งที่ต้องการ คงไว้ 6.2 ถ้าเศษตัวแรกมีค่ามากกว่า 5 หรือเท่ากับ 5 แล้วตามด้วยเลขอื่นที่ไม่ใช่ 0 ทั้งหมด ให้ปัดเศษขึ้น คือ เพิ่มค่าของตัวเลขตัวสุดท้ายในตำแหน่งที่ต้องการคงไว้ขึ้นอีก 1

  • 5 - 6.3 ถ้าเศษตัวแรกมีค่าเท่ากับ 5 โดยไม่มีเลขอื่นต่อท้าย หรือเท่ากับ 5 แล้วตามด้วย 0 ทั้งหม ด ให้ปฏิบัติดังนี้ (ก) เมื่อตัวเลขตัวสุดท้ายในตำแหน่งที่ต้องการคงไว้เป็นเลขคี่ ให้เพิ่มค่าของตัวเลข นี้ ขึ้นอีก 1 (ข) เมื่อตัวเลขตัวสุดท้ายในตำแหน่งที่ต้องการคงไว้เป็นเลขคู่หรือ 0 ให้ปัดเศษทิ้ง 7 . แบบบันทึกการตรวจวัดเสียงรบกวน ให้ผู้ตรวจวัดบันทึก 7.1 ชื่อ สกุล ตำแหน่งของผู้ตรวจวัด 7.2 ลักษณะเสียงและช่วงเวลาการเกิดเสียงของแหล่งกำเนิด 7.3 สถานที่ วัน และเวลาการตรวจวัดเสียง 7.4 ผลการตรวจวัด และคานวณ ระดับเสียง 7.5 สรุปผล ทั้งนี้ ผู้ตรวจวัดอาจจัดทาแบบบันทึกการตรวจวัดเสียงรบกวนรูปแบบอื่นที่มีเนื้อหาไม่น้อยกว่า ที่กาหนดไว้

แบบบันทึกการตรวจวัดเสียงรบกวน ชื่อสถานประกอบการ/โร ง งาน/เจ้าของ ลักษณะเสียงของแหล่งกำเนิด  เสียง เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป  เสียง เกิดขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่ถึง 1 ชั่วโมง  เสียง เกิดขึ้น ไม่ต่อเนื่อง และเกิดขึ้น มากกว่า 1 ช่วงเวลา แต่ละช่วงเวลาเกิดขึ้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง  มีเสียงกระแทก เสียงแหลมดัง เสียงที่มีความสั่นสะเทือน อย่างใดอย่างหนึ่ง (ระบุ) … … … … … ช่วงเวลา/พื้นที่ที่เกิดเสียง  กลางวัน (06.00 - 22.00 น. )  กลางคืน (22.00 - 06.00 น.)  พื้นที่ที่ต้องการความเงียบสงบ (ระบุ) … เครื่องมือตรวจวัดและปรับเทียบ มาตรระดับเสียง ยี่ห้อ … รุ่น … มาตรฐาน IEC … Class … หมายเลขเครื่อง … เครื่องกำเนิดสัญญาณเสียงอ้างอิง ยี่ห้อ … รุ่น … มาตรฐาน IEC … Class … หมายเลขเครื่อง … สถานที่ วัน และเวลาการ ตรวจวัดเสียง การ ตรวจวัดระดับเสียงพื้นฐาน และ ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน สถานที่ … … … … .. … … … … … … วันที่ … … … เวลา … … … น. การ ตรวจวัดระดับเสียงขณะ เกิดเสียงของแหล่งกำเนิด สถานที่ … … … … … … … … … วันที่ … … … เวลา … … . น. สภาพแวดล้อมของสถานที่ตรวจวัด … … … … … ผลการตรวจวัดระดั บเสียง ระดับเสียงขณะเกิดเสียงของแหล่งกำเนิด ระดับเสียงขณะไม่มีการรบกวน ระดับเสียงพื้นฐาน … เดซิเบลเอ … เดซิเบลเอ … เดซิเบลเอ ผลการคำนวณระดับเสียง ระดับเสียงขณะมีการรบกวน … เดซิเบลเอ ค่าระดับการรบกว น … เดซิเบลเอ สรุปผล  เป็นเสียงรบกวน (มากกว่า 10 เดซิเบลเอ)  ไม่เป็นเสียงรบกวน ความเห็น/ ข้อเสนอแนะ (…) ตำแหน่ง … ผู้ตรวจวัดและบันทึกผล (…) ตำแหน่ง … ผู้ตรวจสอบข้อมูล