ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตเปิดสาขา ย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่หรือสาขา หรือเลิกสาขาของบริษัทประกันชีวิต

ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตเปิดสาขา ย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ หรือสาขา หรือเลิกสาขาของบริษัทประกันชีวิต เพื่อให้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตเปิดสาขา ย้ายที่ตั้งสานักงานใหญ่ หรือสาขา หรือเลิกสาขาของบริษัทประกันชีวิต มีความเหมาะสม ชัดเจนและสะดวกยิ่งขึ้นในการ ขออนุญาตเปิดสาขา ย้ายที่ตั้งสานักงานใหญ่หรือสาขา หรือเลิกสาขา และเพื่อส่งเสริมการขยายขอบเขต การประกอบธุรกิจของบริษัทประกันชีวิตที่มีความพร้อม ให้สามารถให้บริการด้านการประกันภัย แก่ลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น อาศัยอานาจตามความในมาตรา 8 วรรคห้าและวรรคหก และมาตรา 17 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบกับมติที่ประชุมคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 12/2564 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2564 และครั้งที่ 6/2565 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตเปิดสาขา ย้ายที่ตั้งสำนัก งานใหญ่หรือสาขา หรือเลิกสาขาของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2565 ” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขออนุญาตเปิดสาขา ย้ายที่ ตั้งสานักงานใหญ่หรือสำนักงานสาขา หรือเลิกสาขาของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2551 ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2551 ข้อ 4 ในประกาศนี้ “ สำนักงาน ” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย “ บริษัท ” หมายความว่า บริษัทตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต “ สาขา ” หมายความรวมถึง สำนักงานที่แยกออกจากสำนักงานใหญ่ของบริษัท ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างใด และได้รับเงินค่าใช้จ่ายจากบริษัทไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม แต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึงสถานที่ที่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบี ยนให้ใช้เป็นที่ตั้งหน่วยปฏิบัติการข้อมูล สถานที่เก็บเอกสาร และสถานที่ฝึกอบรมที่เกี่ยวกับกิจการของบริษัท “ การประกอบกิจการนอกสถานที่ ” หมายความว่า การให้บริการโดยพนักงานของบริษัท หรือสาขา หรือการให้บริการด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์นอกสถานที่ทาการของบริษัทหรือสาขาเป็นครั้งคราว และเป็นการชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ้ หนา 20 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 262 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 พฤศจิกายน 2565

ข้อ 5 การดำเนินการใด ๆ ตามประกาศนี้ ที่บริษัทต้องยื่นหรือจัดส่งให้สำนักงาน หากสำนักงานได้จัดให้มีระบบอิเล็กทรอนิกส์รองรับ ให้บริษัทดำเนินการตามแบบและวิธีการ ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สำนักงานกำหนด ข้อ 6 สาขาต้องสามารถดาเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจประกันชีวิต เช่น การชักชวนบุคคลเข้าทาสัญญาประกันภัยกับบริษัท การรับประ กันภัย การรับชาระเบี้ยประกันภัย จ่ายเงินกู้ยืมโดยมีกรมธรรม์ประกันภัยเป็นประกัน จ่ายเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัย จ่ายเงิน ตามกรมธรรม์ประกันภัยเป็นต้น ข้อ 7 การประกอบกิจการนอกสถานที่นั้นต้องเป็นไปเพื่ออานวยความสะดวกให้แก่ ผู้เอาประกันภัย หรือผู้ประสงค์ใช้บริการ ซึ่งกระทาได้ทั้งในเวลาและนอกเวลาทาการเป็นครั้งคราว โดยมีระยะเวลา ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน และต้องไม่มีลักษณะเป็นการหลีกเลี่ยงการขออนุญาตเปิดสาขา หรือการปฏิบัติ ตามมาตรา 8 วรรคห้า ตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และกฎห มายอื่นใดที่เกี่ยวข้อง การประกอบกิจการนอกสถานที่สามารถทาได้ในสถานที่จัดงานกิจกรรมทั่วไป เช่น งานนิทรรศการ งานแสดงสินค้า งานสาธารณกุศล งานเทศกาลต่าง ๆ เป็นต้น ข้อ 8 การเปิด ปิด หรือย้ายสาขา การประกอบกิจการนอกสถานที่นั้น บริษัทต้องจัดทำ แผนการดาเ นินงานเกี่ยวกับการเปิด ปิด หรือย้ายสาขา การประกอบกิจการนอกสถานที่ประจาปี โดยต้องมีเนื้อหาครอบคลุมในเรื่องภาพรวมการดาเนินการตามแผนการเปิด ปิด หรือย้ายสาขา การประกอบกิจการนอกสถานที่ในปีที่ผ่านมา และแผนการดาเนินงานเกี่ยวกับการเปิด ปิด หรือย้ายสาขา ในปีนั้น ๆ เช่น จานวนสาขาที่จะเปิด ปิด หรือย้าย ขอบเขตการให้บริการผ่านสาขา การประกอบกิจการ นอกสถานที่ แนวโน้มการนาเทคโนโลยีมาประกอบในการให้บริการเป็นต้น ในการจัดส่งแผนตามวรรคหนึ่ง บริษัทต้องจัดส่งให้สำนักงานเป็นประจำทุกปีภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันสิ้ นปีปฏิทิน ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงแผนตามวรรคหนึ่ง ให้บริษัทจัดส่งภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ คณะกรรมการบริษัทหรือคณะกรรมการอื่นที่คณะกรรมการบริษัทได้มอบหมายอนุมัติการเปลี่ยนแปลง อย่างมีนัยสำคัญ แล้วแต่กรณี หมวด 1 การเปิดสาขา การประกอบกิจการนอกสถานที่ ส่วนที่ 1 การอนุญาต และการออกใบอนุญาต ข้อ 9 ภายใต้บังคับมาตรา 8 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 บริษัทที่จะเปิดสาขาได้ ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ ้ หนา 21 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 262 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 พฤศจิกายน 2565

(1) มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ( capital adequacy ratio : CAR ) ไม่ต่ำกว่าอัตราส่วนที่นายทะเบียนอาจกำหนดมาตรการที่จำเป็นในการกำกับดูแลสถานะการเงิน ของบริษัทตามประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยว่าด้วยการกาหนดประเภท และชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณเงินกองทุน ของบริษัทประกันชีวิต (2) มีความพร้อมของระบบงาน บุคลากร การบริหารจัดการ การควบคุมภายใน การบริหาร ความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การรับเรื่องร้องเรียน รวมถึงกระบวนการติดตาม และควบคุมดูแลการดาเนินสาขา ข้อ 10 บริษัทที่มีคุณสมบัติตามข้อ 9 ซึ่งประสงค์จะเปิดสาขา ต้องได้รับใบอนุญาต ให้เปิดสาขาจากนายทะเบียน ในการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้เปิดสาขาให้บริษัทยื่นต่อนายทะเบียน โดยต้องระบุชื่อผู้จัดการ หรือบุคคลอื่นใดที่มีอำนาจในการจัดการสาขา เมื่อนายทะเบียนได้รับคำขอตามวรรคสอง พร้อมด้วยเอกสารที่เกี่ ยวข้องแล้วให้นายทะเบียนพิจารณา ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอและเอกสารครบถ้วน ในการนี้ นายทะเบียนอาจขยายระยะเวลา การพิจารณาออกไปได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ครบกำหนดเวลาดังกล่าว คำขอรับใบอนุญาตให้เปิดสาขา และใบอนุญาตให้เปิดสาขา ให้เป็นไปตามแบบที่นายทะเบียน ประกาศกาหนด ข้อ 11 ผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการหรือบุคคลอื่นใดที่มีอานาจในการจัดการสาขา ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ (1) มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 (2) ไม่เป็นนายหน้าประกันชีวิต (3) ไม่เป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิต ใบอนุญาต เป็นตัวแทนประกันวินาศภัย ใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวิ นาศภัย (4) ไม่เป็นบุคคลที่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิต ใบอนุญาตเป็นนายหน้า ประกันชีวิต ใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันวินาศภัย ใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย เว้นแต่ จะพ้นระยะเวลาที่กาหนดไว้ในมาตรา 69 (2) (ฉ) แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 หรือมาตรา 64 (2) (ฉ) แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 แล้วแต่กรณี ข้อ 12 ในกรณีผู้จัดการหรือบุคคลอื่นใดที่มีอำนาจในการจัดการสาขา ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 11 ให้บุคคลดังกล่าวหยุดการปฏิบัติหน้าที่ โดยบริษัทต้องแจ้ง ้ หนา 22 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 262 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 พฤศจิกายน 2565

ให้นายทะเบียนทราบภายในเจ็ดวัน และดาเนินการแต่งตั้งบุคคลที่มีลักษณะตามข้อ 11 เพื่อทาการแทน โดยเ ร็วแต่ไม่เกินเจ็ดวันนับแต่วันที่รู้ข้อเท็จจริงดังกล่าวหรือวันที่พ้นจากตาแหน่ง แล้วแต่กรณี และแจ้ง นายทะเบียนทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่แต่งตั้ง เว้นแต่จะได้รับการผ่อนผันระยะเวลาดังกล่าว จากสำนักงาน ข้อ 13 ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทหรือสาขา ห รือที่อยู่ทางทะเบียนของที่ตั้งสาขา โดยไม่มีการย้ายที่ตั้งสาขาทางกายภาพ ให้แจ้งนายทะเบียนทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้น และให้นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้เปิดสาขาฉบับใหม่แทนฉบับเดิมให้แก่บริษัท เมื่อบริษัทได้คืนใบอนุญาตให้เปิดสาขาฉบับเดิม ในกรณีที่ใบอนุญาตให้เปิดสาขาของบริษัทชารุดในสาระสาคัญหรือสูญหาย ให้บริษัทยื่น คำขอรับใบแทนต่อนายทะเบียนภายในสิบห้าวัน นับแต่วันทราบเหตุแห่งการนั้น หนังสือแจ้งการเปลี่ยนแปลงตามวรรคหนึ่ง และคาขอรับใบแทนใบอนุญำตตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามแบบที่นายทะเบียนประกาศกาหนด ข้อ 14 บริษัทหรือสาขาซึ่งประสงค์จะประกอบกิจการนอกสถานที่ต้องแจ้งให้นายทะเบียน ทราบ ล่วงหน้าก่อนดาเนินการไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน พร้อมข้อมูลรายละเอียด และเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้ (1) ขอบเขตการประกอบกิจกา รนอกสถานที่ (2) ชื่อบริษัทหรือชื่อสาขาของบริษัทที่รับผิดชอบการให้บริการประกอบกิจการนอกสถานที่ดังกล่าว (3) รายชื่อพนักงานที่บริษัทหรือสาขามอบหมาย หนังสือแจ้งความประสงค์ตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามแบบที่นายทะเบียนประกาศกาหนด ส่วนที่ 2 การดำเนินงาน ข้อ 15 ให้บริษัทจัดทาระเบียบวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับสาขา และการประกอบกิจการนอกสถานที่ เป็นลายลักษณ์อักษรและต้องเก็บระเบียบวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับสาขา และการประกอบกิจการนอกสถานที่ ไว้ที่ทำการสำนักงานใหญ่หรือสาขา เพื่อให้สำนักงานสามารถตรวจสอบได้ ข้อ 16 เมื่อบริษัทได้รับใ บอนุญาตให้เปิดสาขาจากนายทะเบียน ให้บริษัทเปิดดาเนินงานสาขาได้ ตามวันที่ระบุไว้ในคาขอรับใบอนุญาตให้เปิดสาขา ในกรณีบริษัทไม่สามารถเปิดดาเนินงานสาขาได้ ตามวันที่ระบุไว้ในคำขอรับใบอนุญาตให้เปิดสาขา ให้บริษัทแจ้งให้นายทะเบียนทราบโดยเร็ว ข้อ 17 สาขาต้องแยกเป็น สัดส่วนของตนเองโดยเฉพาะ และต้องมีป้ายชื่อติดไว้ที่หน้าสาขา ให้เห็นได้โดยชัดเจน ข้อ 18 สาขาต้องแสดงใบอนุญาตให้เปิดสาขา และผังแสดงการจัดองค์กรพร้อมทั้งรายชื่อพนักงาน หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการสาขาไว้ในที่เปิดเผยโดยชัดเจนและเห็นได้ง่าย ณ สาขานั้น ๆ ้ หนา 23 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 262 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 พฤศจิกายน 2565

ข้อ 19 บริษัทต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ภายในของบริษัทออกไปตรวจสอบกิจการและสินทรัพย์ รวมทั้งการควบคุมภายในของสาขาภายในระยะเวลาอันควร โดยพิจารณาจากแผนการตรวจสอบ ตามระดับความเสี่ยง ( risk based audit plan ) ของแต่ละสาขาเป็นเกณฑ์ และให้จัดทารายงาน การตรวจสอ บส่งให้สำนักงานใหญ่ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ตรวจสอบสาขาแล้วเสร็จ ความในวรรคหนึ่งไม่ให้ใช้บังคับสาขาที่เปิดในปีปฏิทินแรก ส่วนที่ 3 การจัดทำสมุดทะเบียนและสมุดบัญชีเกี่ยวกับธุรกิจ ข้อ 20 ให้สาขาจัดทำสมุดทะเบียนเกี่ยวกับธุรกิจของสาขาให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ในประกาศคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยว่าด้วยแบบและรายการสมุดทะเบียน เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทประกันชีวิต ซึ่งออกตามความในมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 3 (2) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย พ.ศ. 2550 ข้อ 21 การจัดทาสมุดบัญชีเกี่ยวกับธุรกิจของสาขาให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี และตามที่กาหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจากัด และต้องจัดทางบทดลองของสาขาทุกเดือน ส่งให้สำนั กงานใหญ่ภายในวันที่ยี่สิบของเดือนถัดไป หมวด 2 การย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่หรือสาขา ข้อ 22 การย้ายที่ตั้งสานักงานใหญ่ ให้บริษัทดาเนินการเพื่อดูแลอานวยความสะดวกให้แก่ ประชาชนและผู้เอาประกันภัย และลงประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ภาษาไทยรายวันที่แพร่หลาย ในประเทศอย่างน้อยสองฉบับติดต่อกันไม่น้อยกว่าสามวัน หรือประกาศทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่ออื่นใด ให้ประชาชนทราบโดยทั่วไป และปิดประกาศการย้ายที่ตั้งไว้ในที่เปิดเผยโดยชัดเจนและเห็นได้ง่าย ณ ที่ตั้งสานักงานใหญ่เดิม รวมทั้งประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทไม่น้อ ยกว่าสามสิบวันก่อนวันที่ย้าย โดยต้องระบุที่ตั้งแห่งใหม่และวันที่จะย้ายในคาประกาศโฆษณาด้วย ในการขออนุญาตให้ย้ายที่ตั้งสานักงานใหญ่ เมื่อบริษัทได้ยื่นคาขออนุญาตต่อนายทะเบียน ตามแบบที่นายทะเบียนประกาศกำหนด พร้อมส่งหลักฐานการประกาศโฆษณาตามวรรคหนึ่ง และ ได้ชาระค่าธรรมเนียมการอนุญาตแล้ว ให้ถือว่าบริษัทได้รับอนุญาตให้ย้ายสานักงานใหญ่จาก นายทะเบียนแล้ว ความในข้อนี้ให้ใช้บังคับกับการย้ายสำนักงานสาขาของบริษัทที่เป็นสาขาของบริษั ทประกันชีวิต ต่างประเทศโดยอนุโลม ้ หนา 24 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 262 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 พฤศจิกายน 2565

ข้อ 23 การย้ายที่ตั้งสาขา ให้บริษัทดาเนินการเพื่อดูแลอานวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และผู้เอาประกันภัย และปิดประกาศการย้ายที่ตั้งไว้ในที่เปิดเผยโดยชัดเจนและเห็นได้ง่าย ณ ที่ตั้งสาขาเดิม และประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนวันที่ย้าย โดยต้องระบุที่ตั้งแห่งใหม่ แล ะวันที่จะย้ายในคาประกาศด้วย ในการขออนุญาตให้ย้ายที่ตั้งสาขา ให้บริษัทยื่นคาขออนุญาตต่อนายทะเบียนตามแบบที่นายทะเบียน ประกาศกาหนด พร้อมส่งหลักฐานการประกาศตามวรรคหนึ่ง เมื่อนายทะเบียนได้รับคาขอพร้อมหลักฐานการประกาศตามวรรคสอง ให้นายทะเบียนพิจารณา ภายในสำมสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอและเอกสารครบถ้วน ในการนี้ นายทะเบียนอาจขยายระยะเวลา การพิจารณาออกไปได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ครบกำหนดเวลาดังกล่าว เมื่อนายทะเบียนได้พิจารณาอนุญาตให้ย้ายที่ตั้งสาขา ให้นายทะเบียนออกใบอนุญาต ให้เปิ ดสาขาฉบับใหม่แทนฉบับเดิมให้แก่บริษัท เมื่อบริษัทได้คืนใบอนุญาตให้เปิดสาขาฉบับเดิม และบริษัทได้ชำระค่าธรรมเนียมการอนุญาตแล้ว หมวด 3 การเลิกสาขา และการเพิกถอนใบอนุญาตสาขา ข้อ 24 ในกรณีที่บริษัทประสงค์จะเลิกสาขา ให้บริษัทปิดประกาศการเลิกสาขาไว้ในที่เปิดเผย โดยชัดเจนและเห็นได้ง่าย ณ ที่ตั้งสาขาแห่งนั้น รวมทั้งบนเว็บไซต์ของบริษัทไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ก่อนวันที่เลิกสาขา โดยต้องระบุว่ากิจการสาขานั้นจะโอนไปอยู่ในความรับผิดชอบของสาขาใด ในคำประกาศด้วย ในการยื่นคาข อรับอนุญาตเลิกสาขา เมื่อบริษัทยื่นคาขอตามแบบที่นายทะเบียนประกาศกาหนด ส่งคืนใบอนุญาตให้เปิดสาขา และส่งหลักฐานการดาเนินการตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ถือว่าบริษัทได้รับอนุญาต ให้เลิกสาขาจากนายทะเบียนแล้ว ข้อ 25 เมื่อปรากฏหลักฐานต่อนายทะเบียนว่าสาขาแห่งใดของบริ ษัทมีการดำเนินงาน ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัย หรือไม่สามารถปฏิบัติตามประกาศนี้ ตลอดระยะเวลาที่ได้รับใบอนุญาตหรือเปิดดาเนินงานสาขาแห่งนั้น ให้นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้บริษัทนั้น แก้ไข กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการเพื่อให้เป็นไปตามประกาศนี้ หรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาตสาขาแห่งนั้นได้ และในการนี้นายทะเบียนอาจกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ให้ต้องปฏิบัติด้วยก็ได้ หมวด 4 บทเฉพาะกาล ข้อ 26 ให้ถือว่าบรรดาสาขาของบริษัทที่ได้รับอนุญาตก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ เป็นสาขาของบริษัทที่ได้รับอนุญาตตามประกาศนี้ ้ หนา 25 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 262 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 พฤศจิกายน 2565

ข้อ 27 คำขอต่าง ๆ ที่บริษัทได้ยื่นไว้ต่อนายทะเบียนก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นคาขออนุญาตที่ได้ยื่นไว้ตามประกาศนี้ ทั้ งนี้ นายทะเบียนอาจให้บริษัทส่งเอกสารหลักฐาน เพื่อประกอบการพิจารณาคาขออนุญาตเพิ่มเติมด้วยก็ได้ ประกาศ ณ วันที่ 11 สิงหา คม พ.ศ. 25 6 5 กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการ คณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ้ หนา 26 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 262 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 พฤศจิกายน 2565