Thu Oct 20 2022 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นออมเพิ่มสุข (รอบพิเศษ) ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565


ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นออมเพิ่มสุข (รอบพิเศษ) ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นออมเพิ่มสุข (รอบพิเศษ) ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 7 มาตรา 20 (1) และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการบริ หาร หนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 ได้ดาเนินการกู้เงิน เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ ซึ่งกระทรวงการคลังได้มีประกาศ เรื่อง การออกพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นออมเพิ่มสุข (รอบพิเศษ) ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ฉบับลงวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ขณะนี้ พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นดังกล่าวได้จำหน่ายเสร็จสิ้นแล้ ว โดยมีเงื่อนไขและสาระสำคัญ ดังนี้ 1 . ผลการจาหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นออมเพิ่มสุข (รอบพิเศษ) ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จาหน่ายได้จานวนรวม 13,108.383 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 รุ่นอายุ ดังนี้ 1.1 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 5 ปี ( SBST 276 B ) จานวน 7,083.641 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได เฉลี่ยร้อยละ 2.90 ต่อปี กำหนดไถ่ถอนในวันที่ 15 มิถุนายน 2570 1.2 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 10 ปี ( SBST 326 B ) จานวน 5,024.742 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได เฉลี่ยร้อยละ 3.60 ต่อปี กำหนดไถ่ถอนในวันที่ 15 มิถุนายน 2575 1.3 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 10 ปี ( SBST 326 C ) จานวน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได เฉลี่ยร้อยละ 3.30 ต่อปี กาหนดไถ่ถอนในวันที่ 20 มิถุนายน 2575 โดยได้เปิดให้บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยจองซื้อระหว่างวันที่ 22 - 24 สิงหาคม 2565 และจำหน่าย ให้แก่ สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และนิติบุคคลอื่น ที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากาไร ระหว่างวันที่ 29 - 30 สิงหาคม 2565 โดยทารายการ ซื้อพันธบัตรผ่านระบบอินเทอร์เน็ต Mobile Application และเคาน์เตอร์ทุกสาขาของธนาคาร ผู้จัดจาหน่าย 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จากัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จากัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยมีธนาคาร แห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียน และตัวแทนการจ่ายเงินพันธบัตรและจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อประโยชน์ในการนี้ตามระเบียบและวิธีการที่ธนาคารแห่งประ เทศไทยประกาศกำหนด ้ หนา 10 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 251 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 ตุลาคม 2565

2 . พันธบัตรออมทรัพย์ข้างต้นมีรายละเอียดการจ่ายดอกเบี้ย ดังนี้ 2.1 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 5 ปี ( SBST 276 B ) และรุ่นอายุ 10 ปี ( SBST 326 B ) มีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คือ ในวันที่ 15 ของเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอน โดยจ่ายดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 15 กันยายน 2565 2.2 พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 10 ปี ( SB 326 C ) มีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน คือ ในวันที่ 20 ของเดือนมิถุนายน และธันวาคม ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกาหนดไถ่ถอน โดยจ่ายดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 20 ธันวาคม 2565 การคานวณดอกเบี้ยคานวณจากมูลค่าตามราคาตราของพันธบัตร โดยใช้หลักเกณฑ์ หนึ่งปีมี 365 วันและนับตามจานวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง หากวันครบกาหนด จ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เลื่อนไปจ่ายในวันทาการถัดไป โดยไม่นับวันหยุด ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคานวณดอกเบี้ยในงวดที่ถึงกาหนดจ่ายดอกเบี้ย ยกเว้นการจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้ายให้คานวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่ อนวันไถ่ถอนพันธบัตรที่เลื่อนออกไป ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถือกรรมสิทธิ์ หรือผู้รับ หลักประกันตามที่ตกลงกัน หรือผู้รับตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด (ยกเว้นบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์พิเศษและบัญชีเงินฝากประจำ) ทั้งนี้ เป็นรายชื่ อที่ได้รับแจ้งจากบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จากัด (กรณีไร้ใบตราสาร) และตามรายชื่อทางทะเบียนของธนาคารแห่งประเทศไทย (กรณีมีใบตราสาร) ซึ่งเป็นรายชื่อ ณ สิ้นวันทาการสุดท้ายก่อนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายดอกเบี้ย ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไ ทยประกาศกำหนด 3 . การจ่ายคืนเงินต้นพันธบัตรจะดาเนินการในวันครบกาหนดไถ่ถอน หากวันครบกาหนด ไถ่ถอนตรงกับวันหยุดของธนาคารแห่งประเทศไทย จะเลื่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนเป็นวันทำการถัดไป ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนเงินต้นเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถือกรรมสิทธิ์ หรือผู้รับ หลักประกันตามที่ตกลงกัน หรือผู้รับตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด (ยกเว้นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ พิเศษและบัญชีเงินฝากประจา) ทั้งนี้ เป็นรายชื่อตามที่ได้รับแจ้งจากศูนย์รับฝาก (กรณีไร้ใบตราสาร) และตามรายชื่อทางทะเบียนของธนาคารแห่งประเทศไทย (กรณีมีใบตราสาร) ซึ่งเป็นรายชื่อ ณ สิ้นวันทาการ สุดท้ายก่อนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อจ่ายคืนเงินต้นตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด กรณีพันธบัตรแบบมีใบตราสาร ผู้ถือกรรมสิทธิ์ไม่ต้องนำใบตราสารมาเวนคืน เว้นแต่กรณี มีเหตุจาเป็นหรือมีข้อสงสัยธนาคารแห่งประ เทศไทยอาจขอเวนคืนใบตราสารเพื่อตรวจสอบก็ได้ อาทิเช่น การใช้พันธบัตรเป็นหลักประกัน 4 . การจำหน่ายพันธบัตรในครั้งนี้ 4.1 ธนาคารผู้จัดจำหน่ายคิดค่าธรรมเนียมในการจำหน่ายพันธบัตรในอัตราร้อยละ 0.03 ของวงเงินที่จาหน่ายได้ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานของ Custodian แล้ว) ทั้งนี้ ธนาคารผู้จัดจาหน่ายจะจ่ายค่าธรรมเนียมการฝากพันธบัตรให้กับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ้ หนา 11 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 251 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 ตุลาคม 2565

(ประเทศไทย) จากัด เพื่อเป็นการนาฝากพันธบัตรออมทรัพย์ซึ่งเป็นพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร ( Sc ripless ) โดยคานวณตามมูลค่าพันธบัตรคงเหลือล้านละ 0.60 บาทต่อเดือน โดยราคาที่ใช้ในการคานวณมูลค่า พันธบัตรคงเหลือให้ใช้ตามราคาตราของพันธบัตร 4.2 ธนาคารแห่งประเทศไทยคิดค่าธรรมเนียมในการดาเนินการเกี่ยวกับพันธบัตร ออมทรัพย์รุ่นออมเพิ่มสุข (รอบพิเศษ) ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ดังนี้ ( 1 ) ค่าธรรมเนียมในการเป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงินเกี่ยวกับ พันธบัตรในอัตราร้อยละ 0.03 ของดอกเบี้ยที่จ่ายและเงินต้นพันธบัตรที่จ่ายคืน ( 2 ) ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แบบพิมพ์พันธบัตรตามที่จ่ายจริง ประกาศ ณ วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 256 5 ชุณหจิต สังข์ใหม่ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ้ หนา 12 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 251 ง ราชกิจจานุเบกษา 21 ตุลาคม 2565