ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มปลากัด ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551
ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มปลากัด ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551
ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มปลากัด ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 ด้วยคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร เห็นสมควรกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสาหรับฟาร์มปลากัด เป็นมาตรฐานทั่วไป ตามพระราชบัญญัติ มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพ มาตรฐาน และปลอ ดภัย อาศัยอานาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 15 วรรคสอง และมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติ มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 ประกอบมติคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร ในการประชุม ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงออกประกาศกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มปลากัด มาตรฐานเลขที่ มกษ. 7439 - 2565 ไว้เป็นมาตรฐานทั่วไป ดังมีรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 256 5 ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ้ หนา 24 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 247 ง ราชกิจจานุเบกษา 18 ตุลาคม 2565
มกษ. 7439 - 2565 มาตรฐานสินค้าเกษตร การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้าที่ดี สำหรับฟาร์มปลากัด 1 . ขอบข่าย มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ ครอบคลุมข้อกำหนดการปฏิบัติที่ดีสำหรับ ฟาร์มปลากัด ( Plakad หรือ Betta) ในวงศ์ Osphronemidae สกุล Betta เช่น Betta splendens ที่มีชื่อสามัญว่า Siamese fighting fish ที่เพาะเลี้ยงเพื่อการค้าสำหรับนันทนาการ ตั้งแต่การเพาะเลี้ยง การจับและการดูแลหลังการจับ จนถึง การบรรจุ เพื่อจาหน่ายหรือเคลื่อนย้าย เพื่อให้ได้ ปลากัด ที่มี สุขภาพดี และมี ลักษณะตรงตามความต้องการของตลาด โดยคานึงถึงความรับผิดชอบ ต่อ สิ่งแวดล้อม 2 . นิยาม ความหมายของคาที่ใช้ในมาตรฐาน สินค้าเกษตร นี้ มีดังต่อไปนี้ 2. 1 ปลากัดชนิดพันธุ์ ต่างถิ่น ( non - native betta ) หมายถึง ปลากัด ชนิดพันธุ์ที่มิใช่ชนิดพันธุ์ ดั้งเดิม เฉพาะถิ่น ที่มีอยู่ใน ท้อง ถิ่นนั้นๆ 2. 2 บ่อ หรือภาชนะที่ใช้ เพาะ เลี้ยง ( r earing pond or container ) หมายถึง บ่อหรือภาชนะ ที่ ใช้ในการเพาะ พันธุ์ การ อนุบาล และ การ เลี้ยงปลากัด เช่น บ่อซีเมนต์ ตู้กระจก ถังไฟเบอร์ ถังพลาสติก ขวดแก้ว 2 . 3 อาหาร สัตว์ สด ( f resh feed) หมายถึง อาหารที่มีชีวิตหรือได้มาจากสิ่งมีชีวิต ที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ได้แก่ 1) อาหารมีชีวิต ( l ive feed) เช่น ไรแดง ( m oina) โรติเฟอร์ ( r otifer) ไร น้าเค็ม หรืออาร์ทีเมีย ( a rtemia) ลูกน้า ( m osquito larvae ) หนอนแดง ( b lood worm) ไร น้า นางฟ้า ( f airy shrimp) ไส้เดือนน้า ( t ubifex worm) หนอนจิ๋ว ( m icroworm) 2) อาหาร มีชีวิต ที่ผ่านกระบวนการแช่เย็น แช่แข็ง หรือ ทาแห้ง เช่น ไรแดงแช่แข็ง หนอนแดงแช่แข็ง ลูกน้าแช่แข็ง ไรน้าเค็มหรือ อาร์ทีเมียแช่แข็ง ไรแดงอบแห้ง ลูกน้าอบแห้ง 3) อาหารที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วแต่ยังคงสภาพสดอยู่ เช่น เนื้อกุ้งสด เนื้อปลาสด กุ้งเคย 2. 4 อาหาร เตรียม เอง ( o n - farm feed ) หมายถึง อาหารที่เกษตรกรผลิต หรือเตรียม ขึ้นใช้เองในฟาร์ม เช่น ไข่ตุ๋น เต้าหู้ไข่
มกษ. 7439 - 2565 2 2. 5 อาหารสัตว์ ผสม สาเร็จรูป ( c ompleted feed) หมายถึง อาหารที่มีส่วนผสมหลายชนิดที่มีคุณค่า ทางโภชนาการ เหมาะสมกับความต้องการของ สัตว์น้า และผ่านกรรมวิธีในการผลิตพร้อมที่จะใช้ เลี้ยง สัตว์น้า เช่น อาหาร สัตว์ผสม สาเร็จรูปชนิดเม็ด เกล็ด ผง 2. 6 ยาสัตว์ ( v eterinary drug) หมายถึง สารใดๆ ที่ให้แก่สัตว์น้า ไม่ว่าใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการบาบัด การป้องกัน หรือการวินิจฉัยโรค หรือเพื่อการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ทางสรีรวิทยา หรือพฤติกรรม ของสัตว์ น้า 3 . ข้อกำหนด 3 . 1 สถาน ที่ 3.1.1 ควรอยู่ในบริเวณที่ห่างจากแหล่งกาเนิดมลพิษหรือไม่ได้รับผลกระทบจากแหล่งกาเนิดมลพิษ ที่ส่งผลต่อสุขภาพปลากัด หรือกรณีมีความเสี่ยงต้องมีมาตรการป้องกันหรือแก้ไข 3.1. 2 ควร อยู่ในที่ที่มีการคมนาคมสะดวก เพื่อประโยชน์ในการขนส่งปัจจัยการผลิตและผลิตผล 3.1. 3 ควร มี น้าประปาหรือ แหล่งน้าที่มีคุณภาพเหมาะสม และปริมาณเพียงพอ สาหรับการเพาะเลี้ยง 3.2 การจัดการทั่วไป 3.2.1 ควร มีคู่มือการจัดการฟาร์มและ มี วิธี การ ปฏิบัติให้สอดคล้องกับคู่มือการจัดการฟาร์ม โดยมีรายละเอียดระบุในคู่มือ อย่างน้อย ดังนี้ แผนผังและแผนที่ฟาร์ม การเตรียมบ่อ หรือภาชนะที่ใช้ เพาะ เลี้ยง การเตรียมน้า การให้อาหาร การดูแลสุขภาพ การใช้ยาสัตว์และสารเคมี การป้องกันและ ควบคุมโรคระบาด การป้องกัน ปลากัด หลุดรอดออกสู่ภายนอกฟาร์ม การจับและ การดูแลหลังการจับ การบรรจุเพื่อจาหน่ายหรือเคลื่อนย้าย 3. 2 . 2 ควร มีแผนที่แสดงที่ตั้งและแผนผังของฟาร์ม เพื่อความสะดวกในการติดต่อและจัดการฟาร์ม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.2.3 ผู้ปฏิบัติงาน ควร มีความรู้ หรือทักษะ โดย ได้รับการสอนงาน อบรม เข้าร่วมประชุม หรือ สัมมนา ด้านวิชาการและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง 3. 3 ปัจจัยการผลิต 3. 3 .1 ควร เลือกใช้พ่อแม่พันธุ์ หรือ ลูกพันธุ์ ที่มีสุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีอาการผิดปกติหรือร่องรอยของโรค 3. 3 . 2 กรณีที่ใช้พ่อแม่พันธุ์และลูกพันธุ์จากภายนอกฟาร์ม หรือจากแหล่งธรรมชาติ ควร มีหนังสือ กำกับการจำหน่ายสัตว์น้า หรือเอกสารหลักฐาน หรือบันทึกข้อมูล แสดงแหล่งที่มา และสามารถ ตามสอบได้
มกษ. 7439 - 2565 3 3.3. 3 กรณีใช้พ่อแม่พันธุ์และลูกพันธุ์จากภายในฟาร์ม ควรมีการบันทึกข้อมูล เพื่อให้ทราบแหล่งที่มา และสามารถตามสอบได้ 3.3. 4 อาหารสาหรับเพาะเลี้ยงปลากัดควรมีคุณภาพดี มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมกับปลากัด 3 . 3 . 5 อาหารสัตว์สด ก่อนนำมาใช้ ควร มีการ เตรียมอย่าง สะอาดและ ถูกสุขลักษณะ เมื่อเหลือใช้ ควร จัดเก็บอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เสื่อมคุณภาพ 3 . 3 . 6 อาหาร เตรียม เอง ควร มีการผลิต หรือเตรียม อย่างถูกสุขลักษณะ มีสถานที่และวิธีการเก็บ อย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เสื่อมคุณภาพ 3. 3 . 7 อาหารสัตว์ ผสม สาเร็จรูป ควร เลือกที่ บรรจุ อยู่ใน หีบห่อ ไม่มีรอยชารุด มีสถานที่และวิธีการเก็บ ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันการเสื่อมคุณภาพ และป้องกันสัตว์อื่นสร้างความเสียหาย 3 . 3 . 8 ควร ให้อาหาร ในปริมาณ ที่ เพียงพอ โดย คำนึงถึง ความต้องการของ ปลากัด แต่ละช่วงอายุ เพื่อให้ปลากัดมีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพน้า 3 . 3 . 9 ควรจัดเก็บปัจจัยการผลิตอื่น เช่น อาหารเสริม ปุ๋ย ยาสัตว์ สารเคมี อย่างเหมาะสม และถูกสุขลักษณะ เพื่อรักษาคุณภาพ ป้องกันการปนเปื้อน ไม่เป็นอันตรายต่อบุคคล และไม่ให้ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์อื่น 3 . 4 การจัดการบ่อ หรือภาชนะที่ใช้ เพาะ เลี้ยง 3.4. 1 ควรใช้บ่อหรือภาชนะที่ใช้เพาะเลี้ยงที่แข็งแรง ทาจากวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน เก็บกักน้าได้ และ อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี 3.4. 2 ควรใช้บ่อหรือภาชนะในการเพาะเลี้ยงที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน และมีบ่อหรือ ภาชนะที่ใช้กักกันโรคแยกเป็นสัดส่วน เพื่อความเหมาะ สมต่อการปฏิบัติงานและการจัดการ ฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพ 3.4. 3 ควรมีการจัดเรียงบ่อหรือภาชนะที่ใช้ เพาะ เลี้ยง ที่ ให้ความ สะดวก และปลอดภัยต่อการปฏิบัติงาน 3.4. 4 ควรทาความสะอาดบ่อหรือภาชนะที่ใช้เพาะเลี้ยง รวมทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ และฆ่าเชื้อตามความจาเป็น 3. 4 . 5 ควรมีการจัดทาเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ประจา พื้นที่เลี้ยง หรือ บ่อ หรือภาชนะที่ใช้ เพาะ เลี้ยง เพื่อสะดวกต่อการจัดการฟาร์ม 3.4. 6 ต้องมีการจัดทาเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ของ บ่อหรือภาชนะที่ใช้เลี้ยงที่มีการนาปลากัดต่างถิ่น เข้ามา เพาะ เลี้ยงหรือผสมพันธุ์ ให้ แตกต่างไปจากบ่อหรือภาชนะที่ใช้เลี้ยงทั่วไป
มกษ. 7439 - 2565 4 3 . 5 การจัดการดูแลสุขภาพ ปลากัด 3. 5 . 1 ควร ตรวจติดตาม และจัดการ สภาพแวดล้อม ของ การ เพาะ เลี้ยง และสุขภาพปลากัด อย่างสม่าเสมอ ตลอดระยะเวลา การ เพาะ เลี้ยง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพปลากัด 3. 5 . 2 ควร มีมาตรการป้องกัน และ ควบคุม การ เกิดและการ แพร่ระบาดของโรคเข้าสู่ฟาร์ม 3.5.3 ต้องแยกกักกันโรค เมื่อนาปลากัดจากภายนอกฟาร์มเข้ามาเลี้ยง เพื่อสังเกต อาการ ก่อนนามาเลี้ยง ร่วมกับปลา กัดภาย ในฟาร์ม 3.5.4 เมื่อพบปลากัดแสดงอาการผิดปกติ ควรดาเนินการตรวจหาสาเหตุเบื้องต้น พิจารณาแก้ไข ปัญหาตามสาเหตุเบื้องต้นที่ตรวจพบ เช่น เปลี่ยนถ่ายน้า แยกปลากัดที่มีอาการผิดปกติออก ก่อนพิจารณาการใช้ยาสัตว์และสารเคมี บันทึกข้อมูลความผิดปกติและวิธีการแก้ไขที่ได้ ดาเนินการ 3. 5 . 5 ถ้า พบ ปลากัดป่วย ต้อง กักกัน และควบคุมการระบาดของ โรค โดยการ แยกปลากัด และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ กับปลากัดที่มีอาการป่วย ออกจากปลากัดปกติ และมีการชี้ บ่ง อย่างชัดเจน เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค 3. 5 . 6 ถ้าจาเป็นต้องใช้ยาสัตว์ และ สารเคมี ต้อง ใช้อย่าง ถูกต้อง เหมาะสม พร้อมทั้งมีบันทึกการใช้ เพื่อประโยชน์ในการติดตามการรักษา 3. 5 . 7 ต้อง ไม่ใช้ยาสัตว์ และ สารเคมีต้องห้ามตามประกาศทางราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ใช้ยาสัตว์ และสารเคมีที่อนุญาตให้ใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้า และมีวิธีจัดเก็บยาสัตว์และสารเคมี อย่างถูกต้อง 3. 5 . 8 ถ้าปลากัดตายมากผิดปกติหรือสงสัยว่าตายจากโรคระบาด ต้อง แจ้งหน่วยงานที่มีอานาจหน้าที่ทันที และเก็บซากปลากัดที่ตายผิดปกติ ไว้ ในภาชนะที่ปิดมิดชิดและแช่แข็ง เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ รวมถึงมีวิธีการจัดการซากและน้าทิ้ง ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค 3. 5 . 9 ต้อง มีมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการบันทึก ข้อมูล เช่น มีบันทึกประวัติการป่วยการตาย ประวัติการรักษาโรคปลากัด และการตายผิดปกติ บันทึกการเข้าตรวจฟาร์ม ผลการตรวจวิเคราะห์สาเหตุการตายของสัตว์น้าของเจ้าหน้าที่ ที่มีอานาจตามกฎหมาย 3.5.10 กรณีมีโรคระบาด การเคลื่อนย้ายสัตว์น้าข้ามเขตประกาศควบคุม ต้อง มีเอกสารกำกับ ตามที่กฎหมายกาหนด 3. 6 สุขลักษณะภายในฟาร์ม 3. 6 . 1 โรงเรือน ควร ทาด้วยวัสดุ ที่ แข็งแรง อยู่ในสภาพดีเหมาะสมกับการใช้งาน สามารถ บารุงรักษา และ ทาความ สะอาด ได้ง่าย
มกษ. 7439 - 2565 5 3. 6 . 2 ควร มีการป้องกันบุคคลภายนอก ยานพาหนะที่ไม่ได้รับอนุญาต ศัตรูสัตว์น้า และ สัตว์ พาหะ ที่อาจนาโรคเข้าสู่บริเวณฟาร์ม เช่น มีการกั้นรั้วหรือขึงตาข่ายบริเวณรอบๆ โรงเรือน หรือ ฟาร์ม 3. 6 . 3 ควร รักษาความสะอาด บริเวณภายในฟาร์ม มีการจัดเก็บอุปกรณ์และเครื่องมือให้เป็นระเบียบ สะอาด ถูกสุขลักษณะ ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะเลี้ยง หลังการใช้งานทุกครั้ง และมีการบารุงรักษาให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ 3. 6 . 4 ควร จัดการภาชนะบรรจุยาสัตว์ และ สารเคมีที่ใช้หมดแล้วหรือยาสัตว์ที่ หมดอายุอย่างเหมาะสม และถูกสุขลักษณะ ตามข้อกาหนดในกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือตามข้อแนะนาในฉลาก เพื่อป้องกัน การปนเปื้อนลงสู่บ่อ หรือภาชนะที่ใช้ เลี้ยงและสิ่งแวดล้อม 3. 6 . 5 ควร มีวิธีการจัดการ ขยะ และวัสดุเหลือใช้ อย่างเหมาะสมและถูกวิธีเพื่อป้องกันการปนเปื้อน ทิ้งขยะลงในที่ที่จัดไว้ จัดเก็บและกาจัดขยะด้วยวิธีที่เหมาะสม 3.6.6 ควรมี ระบบ การถ่ายเทน้า และ การ ระบายน้า ที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของ ของเสีย รวมถึง สิ่งขับถ่าย และเชื้อโรค โดยคานึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน 3. 6 . 7 กรณีเกิดโรคระบาด ต้องกำจัดซากสัตว์น้าและน้าทิ้งตาม พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เช่น กาจัดซากด้วยการเผา หรือฝังซากสัตว์น้าแล้วกลบด้วยปูนขาวในบริเวณที่จัดไว้เฉพาะ และทาการฆ่าเชื้อน้าทิ้งและบ่อ หรือภาชนะที่ใช้ เลี้ยง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค 3.7 การจับและการดูแลหลังการจับ 3. 7 . 1 ควรมีวิธีการจัดการ และ การ ดูแล ใน ทุกขั้นตอน การจับ และ หลังการจับ อย่างถูกสุขลักษณะ 3.7.2 ควร คัดเลือกปลากัด เพื่อส่ง แก่ ผู้ซื้อหรือผู้เกี่ยวข้องให้ถูกต้องตามคุณภาพ และ ความต้องการ ของตลาด 3. 7 . 3 ต้อง มีหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์น้า หรือหลักฐานการจำหน่ายสัตว์น้า หรือบันทึกการจำหน่าย สัตว์น้าเพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบแหล่งที่มาของสัตว์น้า 3.8 การบรรจุเพื่อจาหน่ายหรือเคลื่อนย้าย 3. 8 . 1 ควร มีภาชนะ วัสดุ อุปกรณ์ ในการบรรจุเพื่อ จาหน่ายหรือ เคลื่อนย้าย ที่เหมาะสม ต่อการรักษา คุณภาพของปลากัด มีการจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ ถูกสุขลักษณะ 3.8.2 ควร มี สถานที่ทาการบรรจุ และ มีวิธีการบรรจุ เพื่อจาหน่ายหรือ เคลื่อนย้ายและขนส่ง ที่ สะอาด ถูกสุขลักษณะ 3. 8 . 3 ควรมีการพักและปรับสภาพปลากัดก่อนการบรรจุเพื่อจาหน่ายหรือเคลื่อนย้าย เช่น งดให้อาหาร ก่อน การบรรจุอย่างน้อย 1 วัน เพื่อลดของเสียจากการขับถ่าย 3. 8 . 4 ควร ใช้ น้าที่สะอาด มีคุณภาพ และมีอุณหภูมิเหมาะสม ในการบรรจุ เพื่อ ไม่ ให้ ส่งกระทบต่อ สุขภาพ ปลากัด
มกษ. 7439 - 2565 6 3.9 ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม 3. 9 . 1 น้าทิ้ง ที่ปล่อยออกจาก ฟาร์ม ต้อง เป็นไปตามข้อกาหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1 / 3.9.2 กรณีมีการผสมข้ามพันธุ์ และการเพาะเลี้ยงปลากัดชนิดพันธุ์ต่างถิ่น 1) ต้องมีมาตรการหรือวิธีการป้องกันการหลุดรอดและไม่ปล่อย ไข่ ลูกพันธุ์ และปลากัดลูกผสม หรือชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ลงสู่แหล่งน้าธรรมชาติ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสายพันธุ์ท้องถิ่นและ สิ่งแวดล้อม 2) ต้องมีการบันทึก ชนิดพันธุ์ปลากัดที่เพาะเลี้ยงในฟาร์ม และการหลุดรอด 3 . 10 เอกสารและบันทึกข้อมูล 3 . 10 . 1 เกษตรกร ต้อง มีเอกสารหลักฐาน หรือบันทึก ดังนี้ 1) หนังสือกากับการจาหน่ายสัตว์น้า หรือ เอกสารหลักฐาน การจาหน่ายสัตว์น้า หรือบันทึก การจำหน่ายสัตว์น้า ที่ออกโดยผู้ขาย 2) บันทึกการใช้ยาสัตว์ และ สารเคมี กรณีสัตว์ป่วย 3) บันทึก การจัดการสุขภาพสัตว์น้า ประวัติการป่วย การตาย ประวัติการรักษาโรคสัตว์น้า การตายผิดปกติ การเข้าตรวจฟาร์ม และผลการตรวจวิเคราะห์สาเหตุการตายของสัตว์น้า ของเจ้าหน้าที่ที่มีอานาจตามกฎหมาย 4) บันทึก ข้อมูลความผิดปกติและวิธีการแก้ไขที่ได้ดาเนินการเมื่อพบปลากัดแสดงอาการ ผิดปกติ 5) บันทึกชนิดพันธุ์ปลากัดที่เพาะเลี้ยงในฟาร์ม 6) บันทึกการหลุดรอด (ถ้ามี) 3.10.2 เกษตรกร ควร มีเอกสารหลักฐาน หรือบันทึก ดังนี้ 1) หนังสือกากับการจาหน่ายสัตว์น้า หรือเอกสารหลักฐาน หรือบันทึกข้อมูล กรณีที่ใช้พ่อแม่พันธุ์ และลูกพันธุ์จากภายนอกฟาร์ม หรือจากแหล่งธรรมชาติ ควรมีการบันทึกข้อมูล กรณีใช้พ่อแม่พันธุ์ และลูกพันธุ์จากภายในฟาร์ม 2) คู่มือการจัดการฟาร์ ม 3 . 10 . 3 เกษตรกรต้องเก็บเอกสารหลักฐาน บันทึกข้อมูล อย่างน้อย 3 ปี เพื่อประโยชน์ในการตามสอบ 1 / พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 , ระเบี ยบ กรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้เททิ้งหรือระบายน้า ทิ้งลงสู่ลำน้า สาธารณะ พ.ศ. 25 57 , คำสั่งกรมชลประทานที่ 18/2561 เรื่อง การป้องกันและแก้ไขการระบายน้าที่มีคุณภาพต่าลงทางน้าชลประทานและทางน้าที่เชื่อมต่อกับทางน้าชลประทาน ในเขตพื้นที่ชลประทาน กรมชลประทาน