Mon Oct 17 2022 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มผึ้งชันโรง ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551


ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มผึ้งชันโรง ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551

ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มผึ้งชันโรง ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 ด้วยคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร เห็นสมควรกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสาหรับฟาร์มผึ้งชันโรง เป็นมาตรฐานทั่วไป ตามพระราชบัญญัติ มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย อาศัยอานาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 15 วรรคสอง และมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติ มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 ประกอบมติคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร ในการประชุม ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงออกป ระกาศกาหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสาหรับฟาร์มผึ้งชันโรง มาตรฐานเลขที่ มกษ. 8205 - 2565 ไว้เป็นมาตรฐานทั่วไป ดังมีรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 256 5 ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ้ หนา 23 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 247 ง ราชกิจจานุเบกษา 18 ตุลาคม 2565

มกษ. 8 205 - 25 65 มาตรฐานสินค้าเกษตร การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์ม ผึ้ง ชันโรง 1. ขอบข่าย 1.1 มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ กาหนดเกณฑ์การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสาหรับฟาร์มผึ้งชันโรง ที่มีคานิยามตามข้อ 2.1 ที่ ได้จากการ เพาะเลี้ยง และ แยกขยายรัง โดย ครอบคลุมข้อกาหนด องค์ประกอบฟาร์ม การจัดการในการเลี้ยงผึ้งชันโรง โดยคำนึงถึงการอนุรักษ์ระบบนิเวศ ทางธรรมชาติ การจัดการ ผลิตผล และ ผลิตภัณฑ์ การทาความสะอาดและบารุงรักษา สุขภาพสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ บุคลากร การจัดการสิ่งแวดล้อม และการบันทึกข้อมูล เพื่อให้ได้ผลิตผล และ ผลิตภัณฑ์ จากผึ้งชันโรงที่ถูก สุขลักษณะ และปลอดภัยต่อผู้บริโภค 1.2 มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ไม่ครอบคลุม การ เลี้ยงผึ้ งชันโรงที่อาศัย อยู่ ในขอนไม้ ตามธรรมชาติ ซึ่งตัดมาจากป่า รวมทั้งผลิตผลและผลิตภัณฑ์ที่มาจากป่า 2 . นิยาม ความหมายของคาที่ใช้ในมาตรฐาน สินค้าเกษตร นี้ มีดังต่อไปนี้ 2.1 ผึ้งชันโรง ( stingless bee ) หมายถึง แมลง ในวงศ์ ( family ) Apidae วงศ์ย่อย ( subfamily ) Meliponinae เผ่า ( tribe ) Meliponini ที่นิยมนามาเลี้ยง ในการช่วยผสมเกสร เพื่อแยกขยายรัง หรือเก็บเกี่ยว ผลิตผล ของผึ้งชันโรง 2.2 ฟาร์ม ผึ้งชันโรง ( stingless bee farm ) หมายถึง สถานประกอบการที่เลี้ยง ผึ้ง ชันโรง โดยมีวัตถุประสงค์ ในการ เลี้ยง เพื่อช่วยในการผสมเกสรพืช เพาะเลี้ยงแยกขยายรัง หรือ เก็บเกี่ยวน้าผึ้งชันโรง และ ผลิตผลอื่น เพื่อ การจาหน่าย เช่น รังผึ้ง ชันโรง ชัน ซึ่งครอบคลุมถึง พื้ นที่เลี้ยง สถานที่เก็บ เครื่องมือและ อุปกรณ์ พื้นที่ทา ลายซาก และรวบรวมขยะ 2.3 ถ้วยนางพญา หรือ เซลล์ นางพญา ( queen cell ( s ) ) หมายถึง ถ้วย รูปทรงไข่ สาหรับเลี้ยงตัวอ่อน ของผึ้งชันโรงวรรณะนางพญา สร้างขึ้นจากไขผึ้งชันโรงผสมกับชันหรือโพรโพลิส ( propolis ) ซึ่ง อาจมี มากกว่า 1 ถ้วย ต่อหนึ่งรัง 2.4 ถ้วยตัวอ่อน หรือ เซลล์ ตัวอ่อน ( brood cells ) หมายถึง ถ้วย รูป ทรง ไข่ สำหรับเลี้ยงตัวอ่อน ของผึ้งชันโรงวรรณะงาน สร้างขึ้นจากไขผึ้งชันโรงผสมกับชัน เช่นเดียวกับถ้วยนางพญา มี การเรียงตัว 2 ลักษณะ แตกต่าง กัน ตามชนิดของ ผึ้ง ชันโรง ได้แก่ 1) แบบกลุ่ม (cluster builder) 2) แบบแผง ซ้อน (comb builder) แบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่

มกษ. 8205 - 25 65 2 ก ) เรียงตัวเป็นแผงซ้อนแนวนอน (horizontal comb builder) ข ) เรียงตัวแบบแผงซ้อนเป็นเกลียว (spiral comb builder) 2. 5 ถ้วยอาหาร ( storage pot ) หมายถึง ถ้วยรูปไข่สำหรับสะสมอาหาร ของ ผึ้ง ชันโรง ประกอบด้วย 2 ประเภท ได้แก่ ถ้วยเก็บน้าผึ้ง และถ้วยเก็บเกสร ลักษณะรูปร่างและขนาดถ้วยแตกต่างกันไป ตามชนิดของ ผึ้ง ชันโรง 2. 6 ระยะไข่ ( egg stage ) หมายถึง ระยะ ที่ไข่ ลักษณะ เรียว ยาวตั้งอยู่บนอาหารเหลวข้น ใน ถ้วยตัวอ่อน 2. 7 ระยะหนอน ( la r va stage ) หมายถึง ระยะที่ ตัวอ่อน สีขาวขุ่นถึงสีครีม เจริญเติบโต ลอกคราบ หลาย ครั้ง ในถ้วยตัวอ่อน 2. 8 ระยะดักแด้ ( pupa stage ) หมายถึง ตัวอ่อนระยะสุดท้ายที่ พัฒนามี รยางค์และปีกเป็นอิสระไม่ติด กับลาตัว มีตารวมที่เห็นได้ชัดเจน มีการ พัฒนาของ สีตา ตามอายุ ตั้งแต่สีขาว ชมพู แดง น้าตาล และดา เมื่อ ใกล้ ลอกคราบเป็น ตัวเต็มวัย 2.9 ระยะตัวเต็มวัย ( adult stage ) หมายถึง ระยะที่ตัวผึ้งชันโรงกัดถ้วยตัวอ่อนออกมา ผึ้งชันโรง ที่ออกจากถ้วยตัวอ่อนใหม่ๆ มีลำตัวสีอ่อน เคลื่อนไหวช้า มักพบเดินอยู่บริเวณถ้วยตัวอ่อน จากนั้นสีของลาตัวจะเข้มขึ้น เมื่อมีอายุมากขึ้น 2.10 รังผึ้งชันโรง หมายถึง กล่อง รัง ผึ้งชันโรงที่มี องค์ประกอบภายใน ได้แก่ ผึ้งชันโรงวรรณะ นางพญา ผึ้งชันโรง วรรณะ งาน ผึ้งชันโรงตัวผู้ ถ้วยตัวอ่อน และถ้วยอาหาร 2.11 กล่องรังผึ้งชันโรง หมายถึง กล่อง เปล่า ที่ทาด้วยไม้ ที่ ใช้สาหรับ เลี้ยง ผึ้งชันโรง ตัวอย่างกล่องรังผึ้ง ชันโรงแสดงในภาคผนวก ข ภาพที่ ข. 1 (1)) 2.12 น้าผึ้งชันโรง ( stingless bee honey ) หมายถึง ของ เหลว ข้น มี รสหวาน หรือ มีรสชาติอื่นปน เช่น เปรี้ยว เค็ม ขึ้น อยู่ กับ แหล่ง พืชอาหาร ซึ่งผึ้ง ชันโรง ผลิตขึ้นจากน้าหวานของดอกไม้ ( nectar ) หรือจากส่วนใดส่วนหนึ่งของพืช หรือแมลง แล้วสะสมไว้ใน ถ้วยน้าผึ้ง 2.13 ชัน หรือโพรโพลิส ( propolis ) หมายถึง สารหรือยางเหนียวที่ผึ้ง ชันโรง เก็บมาจากตาหรือเปลือก ของต้นไม้แล้วนำ มาผสมกับไขผึ้ง ชันโรง และสารอื่นๆ เพื่อ ใช้เป็นองค์ประกอบโครงสร้างสาคัญ ภายในรัง ใช้ปิดรอยโหว่ และป้องกันศัตรู มี คุณ สมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์บางชนิด 2.1 4 วัตถุอันตราย ด้านการปศุสัตว์ หมายถึง วัตถุอันตรายที่ใช้ในทางการ ปศุสัตว์ ตามประกาศกระทรวง อุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกรม ปศุสัตว์ เป็นผู้รับผิดชอบ 2. 1 5 วัตถุอันตรายทางการเกษตร ( pesticide ) หมายถึง วัตถุอันตรายที่ใช้ในทางการเกษตรตามประกาศ กระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย ที่ออกตามความใ นพระราชบัญญัติ วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่ง กรมวิชาการเกษตร เป็นผู้รับผิดชอบ

3 มกษ. 8 205 - 25 65 2. 1 6 ศัตรู ( pest ) หมายถึง สิ่งมีชีวิต ที่ เป็นอันตราย และ อาจก่อให้เกิด ความเสียหาย แก่ ตัว ผึ้งชันโรง และรังผึ้งชันโรง ได้แก่ จุลินทรีย์ก่อโรค แมลง และ สัตว์ รบกวน 3 . ข้อกำหนด 3.1 องค์ประกอบฟาร์ม สถานที่เลี้ยง ผึ้ง ชันโรง ไม่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน วัตถุหรือสิ่งที่เป็นอันตรายต่อผึ้งชันโรง ไม่เสี่ยง จาก การ รบกวน หรือเข้าทาลายรังของศัตรู พื้นที่ฟาร์มมีขนาดเพียงพอให้สามารถจัดการการ เลี้ยง ได้อย่างเหมาะสม ไม่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค จะช่วย ให้ผึ้งชันโรงมีการเจริญเติบโต อย่างเหมาะสม ลด อันตราย ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของผึ้งชันโรง และความปลอดภัยของ ผลิตผล ของผึ้ง ชันโรง ได้ 3. 1 .1 สถานที่ตั้ง ฟาร์ม 3.1.1.1 ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เสี่ยงต่อการปนเปื้ อนจาก อันตรายทางกายภาพ เคมี และชีวภาพ เว้นแต่มีมาตรการป้องกันอันตรายที่มีประสิทธิภาพ 3.1.1.2 ตั้งอยู่ ใน พื้นที่ ที่มีพืช ที่เป็นแหล่ง อาหาร เพียงพอกับจำนวนรังผึ้งชันโรง 3.1.1.3 ควรตั้งอยู่ ใกล้แหล่งน้าหรือ มีการ จัดแหล่งน้าสาหรับผึ้ง ชันโรง อย่างเพียง พอ โดยแหล่งน้าไม่อยู่ ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนอันตราย ที่มีผลกระทบ ต่อ สุขภาพของ ผึ้งชันโรง และความปลอดภัยของผลิตผล 3.1.1.4 ตั้งอยู่ ใกล้แหล่ง พืช ที่มียาง เพื่อเป็นวัตถุดิบในการสร้างโครงสร้างภายในรังของผึ้ง ชันโรง และ ต้อง แน่ใจว่าไม่มีการปนเปื้อนของวัตถุอันตรายทางการเกษตรจากแหล่งพืชที่มียางไปสู่ ตัวผึ้งชันโรงและผลิตผลผึ้งชันโรง 3 . 1 . 2 ผังและลักษณะฟาร์ม 3.1.2.1 ควร มี การวางผังฟาร์มที่ดี เพื่อเอื้อต่อการปฏิบัติงานอย่างถูกสุขลักษณะ และจัดพื้นที่ของแต่ละ กิจกรรมแยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน เหมาะสมตามวัตถุประสงค์ การเลี้ยง และแยกพื้นที่เลี้ยง ผึ้งชันโรงออกจากที่พักอาศัย หรือ มีมาตรการป้องกันเพื่อให้สามารถควบคุมและป้องกัน การแพร่กระจายของเชื้อโรค มีสถานที่สำหรับเก็บอุปกรณ์เลี้ยงผึ้งชันโรง แยก เป็นสัดส่วน ตัวอย่าง แผนผังฟาร์มผึ้งชันโรง ดังแสดง ใน ภาคผนวก ก ภาพ ที่ ก. 1 3.1.2.2 ควร มีการ ควบคุม การเข้าและออก พื้นที่เลี้ยง ของบุคคลและยานพาหนะ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน

มกษ. 8205 - 25 65 4 3. 1. 3 อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงผึ้งชันโรง 3.1.3.1 ควร มีอุปกรณ์การเลี้ยงที่จำเป็นอย่างเพียงพอ ต่อการจัดการ คุณภาพในกระบวน การเลี้ยง และการเก็บเกี่ยว ผลิต ผล เช่น กล่องรัง ผึ้งชันโรง ขาตั้งรัง มีดตัดกลุ่มตัวอ่อน 3.1.3.2 สาร หรือน้ามันที่ ใช้ ทาขาตั้งหรือชั้นวาง เพื่อ ป้องกันมดไม่ให้เข้าไปใน รัง ต้องไม่เป็น สาร หรือ น้ามัน ชนิดที่ผึ้งชันโรงจะนาไปสะสมใน รัง และก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวผึ้งชันโรง หรือ ผลิตผล ของผึ้งชันโรง ได้ เช่น จาร ะ บี น้ามันเครื่อง 3.1.3. 3 กล่อง รัง ผึ้งชันโรง ทาจากไม้ที่ สะอาดและปลอดภัยต่อผึ้งชันโรง มีขนาดเหมาะสมกับ ชนิด และ ประชากรภายในรัง รวมถึง สะดวกในการจัดการของเกษตรกร 3.1.3. 4 กล่องรังผึ้งชันโรง ต้องไม่ทาจากวัสดุที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน จนเป็นอันตรายต่อตัวผึ้งชันโรง และ ผลิตผลของผึ้ง ชันโรง ไม่อนุญาตให้ทาสีภายในกล่อง กร ณีที่จาเป็นต้องทาสี ภายนอกกล่อง ให้ ใช้ เฉพาะ สีที่ไม่มีส่วนประกอบของ โลหะหนัก 3.1.3. 5 อุปกรณ์ที่สัมผัส กับ ผลิตผล ของ ผึ้ง ชันโรง เช่น มีดตัดแยกกลุ่มตัวอ่อน กรรไกรตัดแยก ถ้วยนางพญา ควร ทาจาก วัสดุ ที่ แข็งแรง ไม่เป็นพิษ ไม่เป็นสนิม ทาความสะอาดได้ง่าย ทนการกัดกร่อน และ ทนความร้อนจากการฆ่าเชื้อ ตัวอย่าง เครื่องมือและอุปกรณ์การเลี้ยงผึ้งชันโรง ดังแสดง ใน ภาคผนวก ข ภาพ ที่ ข. 1 3.1.3. 6 เครื่องแต่งกายสาหรับการ ปฏิบัติงาน ประกอบด้วย ชุดแต่งกาย หมวกตาข่าย และถุงมือ ควร ทาจาก วัสดุที่มีพื้นผิวลื่น เช่น ผ้าร่ม และควร มีสีอ่อน หลีกเลี่ยงสีดา เพื่อป้องกัน ไม่ให้ผึ้งชันโรงเกาะ หรือกัดติดจนตาย 3. 1.3 . 7 อุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บเกี่ยว การ แยก การดูด และการกรอง น้าผึ้งชันโรง ควรทาจากวัสดุที่ทน ต่อการกัดกร่อน และต้องไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อความปลอดภัยและคุณภาพน้าผึ้งชันโรง และเป็นวัสดุที่อนุญาตให้ใช้กับอาหาร 3.2 การจัดการในการเลี้ยงผึ้งชันโรง การจัดการการเลี้ยง การจัดการอาหารและน้าสาหรับ ผึ้ง ชันโรง รวมถึงการจัดการสุขภาพสัตว์ ที่มีประสิทธิภาพ จะ ช่วยให้ ผึ้งชันโร ง เจริญเติบโตอย่างเหมาะสมตามช่วงอายุ สุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยง ในการ เกิดโรค และ การแพร่กระจาย ของโรค สามารถป้องกันการปนเปื้อน จาก อันตราย ซึ่ง อาจ มีผลต่อ ปริมาณและ คุณภาพ ผลิตผลของผึ้งชันโรง และ ความปลอดภัยของผู้บริโภค 3.2 .1 คู่มือ การปฏิบัติงานในฟาร์ม ควร มี คู่มือ ที่แสดงขั้นตอน การปฏิบัติงานในฟาร์ม สำหรับกิจกรรมที่สำคัญ และ ปฏิบัติ ตามขั้นตอนที่กาหนด ไว้ในคู่มือดังกล่าว ได้แก่ การแยกขยาย รัง ผึ้ง ชันโรง การตรวจสภาพรัง การใช้ยาสัตว์ การเก็บเกี่ยวน้าผึ้งชันโรง การ จัดการด้านสุขภาพ สัตว์ การทำความสะอาด และบารุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์

5 มกษ. 8 205 - 25 65 3.2. 2 การจัดการ คุณภาพในกระบวนการเลี้ยง 3.2.2.1 ควร มีการ วางแผนการเลี้ยง เช่น การเพิ่มประชากร ผึ้งชันโรง การแยกขยายรัง การ เพิ่มจานวนรัง และจัดเตรียมอุปกรณ์ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การเลี้ยง 3.2.2.2 ควร สารวจและเลือกที่ตั้งรัง ที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ ของ พืช ที่เป็นแหล่ง อาหาร 3.2.2.3 ควร เลือกชนิด ( species ) ของผึ้งชันโรงที่เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ เช่น บางชนิด เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่สูงกว่าระดับน้าทะเลไม่น้อยกว่า 650 m 1 / หรือบางชนิด เจริญเติบโตได้ดีในสภาพ แวดล้อม ที่ชุ่มชื้น 3.2.2.4 ควร เลือกซื้อ รังผึ้งชันโรง ที่ได้จากการแยกขยายรังโดย แหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่า มีองค์ประกอบรังผึ้งที่ สมบูรณ์ ที่ประกอบไปด้วย ผึ้งชันโรงวรรณะ นางพญา ถ้วยตัวอ่อน และ ถ้วยอาหาร ผึ้ง ชันโรง วรรณะ งานมีความแข็งแรงและมีปริมาณมากพอที่จะเลี้ยงต่อได้ 3.2.2.5 กำหนดให้มีรหัสรัง ผึ้งชันโรง เพื่อความสะดวกในการจัดการ ใน การเลี้ยงและการตามสอบ 3.2.2.6 ควบคุม ดูแลความสมดุล ของ องค์ประกอบภายในรัง และปริมาณ กลุ่ม ถ้วยตัวอ่อน ระยะ ไข่ ระยะ หนอน ระยะ ดั กแด้ ถ้วยน้าผึ้ง ถ้วยเกสร ภายใน รัง เพื่อให้รังอยู่รอดได้ ตัวอย่าง องค์ประกอบภายในรังผึ้งชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็กและชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดใหญ่ และตัวอย่างผึ้งชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็กและชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดใหญ่วรรณะต่างๆ ดังแสดง ใน ภาคผนวก ข ภาพ ที่ ข. 2 และภาพ ที่ ข. 3 3.2.2.7 หมั่น สารวจ ควบคุม กาจัดโรค และศัตรูของผึ้งชันโรง ที่มีผลกระทบต่อ ตัวผึ้งชันโรง และ ผลิตผล อย่างน้อยเดือนละครั้ง 3.2.2.8 กรณีใช้ วัตถุ อันตราย ด้าน การปศุสัตว์ เพื่อควบคุม กาจัด โรค และศัตรูให้ใช้ตามคาแนะนาของ กรมปศุสัตว์หรือคาแนะนาบนฉลากที่ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ โดยห้ามใช้ยาและ สารเคมี กับรังผึ้งชันโรงเป็นเวลา 8 สัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยวน้าผึ้งชันโรง 3.2.2.9 การ แยกขยายรังผึ้งชันโรง ควรปฏิบัติ อย่าง ถูกวิธีและ ถูกสุขลักษณะ ตัวอย่าง การแยกขยาย รังผึ้งชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็ก ดังแสดง ใน ภาคผนวก ข ภาพ ที่ ข. 4 3.2.2.10 ควร หลีกเลี่ยงการแยกขยายรังในฤดูฝนหรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ซึ่งมีผลกระทบ ทาให้ ภายใน รังมีความชื้นสูง เสี่ยง ต่อการเกิดรา และ ถ้วยน้าผึ้ง ที่ แตก ทาให้มี น้าผึ้งไหล หมักหมม ในรัง จะเป็นการดึงดูดศัตรูเข้าทาลายรัง 3. 2 . 2 . 11 ควร ติดตั้ง รังผึ้งชันโรง ให้ สูง จาก พื้น ในระยะ ที่สามารถป้องกันอันตรายจาก ศัตรู และการ ปนเปื้อน ของน้าผึ้งชันโรงจากพื้นดิน รวมถึงเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน 1 / m เป็นสัญลักษณ์สาหรับหน่วย ที่ยอมรับให้ใช้ แก่ระบบ เอสไอ ( International System of Units; SI ) ที่ใช้แทนคำว่า “ เมตร ( metre )”

มกษ. 8205 - 25 65 6 3 . 2 . 2 . 12 การวาง รังผึ้งชันโรง ควรวางไว้ในที่ร่ม และมีหลังคาที่สามารถป้องกันแดดและฝน ที่อาจส่งผล ต่ออุณหภูมิ และความชื้น ภายในรัง 3. 2 . 2 . 13 ควรมีวิธีทาลาย รังผึ้งชันโรง ที่ เก่าหรือหมดสภาพการใช้ และจัดการเศษที่เหลืออย่างเหมาะสม เช่น การฝังกลบ 3.2 . 3 การจัดการอาหาร และน้า สำหรับผึ้งชันโรง 3.2.3.1 ควร มี พืชที่เป็นแหล่ง อาหาร ตามธรรมชาติหรือพืชที่ปลูกไว้เพื่อ เป็นแหล่ง ให้น้าหวาน ( nectar ) และ ละอองเรณู ( pollen ) หรือที่เรียกว่า เกสร ที่ผึ้งชันโรงสามารถเก็บเป็นอาหารได้อย่าง เหมาะสม สาหรับการเจริญเติบโตและให้ ผลิตผล 3.2.3.2 กรณีขาดแคลนพืช ที่เป็นแหล่ง อาหาร ตามข้อ 3.2.3.1 ให้ ปลูกพืช อาหาร เสริมให้แก่ผึ้งชันโรง ห้ามใช้อาหารเสริมที่เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต เช่น น้าเชื่อม น้าตาลทราย แต่อนุญาตให้ใช้ อาหาร เสริม ที่เป็นแหล่งโปรตีน สาหรับ ผึ้ง ชันโรง โดย ให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติการควบคุม คุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558 3.2.3.3 กรณีย้ายรัง ผึ้งชันโรงไป ตามแหล่งพืช ที่ใช้เป็น อาหาร ใน พื้นที่อื่น ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ ต้องพิจารณา เลือกพื้นที่ตั้งรังผึ้งชันโรง ตามข้อกาหนด 3.1.1 3.2.3. 4 ควร มีแหล่งน้า สะอาดและมี ปริมาณเพียงพอกับจำนวนผึ้งชันโรงในฟาร์ม 3. 3 การจัดการผลิตผล และผลิตภัณฑ์ การเก็บเกี่ยวและรวบรวมน้าผึ้งชันโรงและชัน และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวน้าผึ้ง ได้แก่ การลดความชื้นและ การ บรรจุน้าผึ้งชันโรง ที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ จะทาให้ได้ ผลิตผล และ ผลิตภัณฑ์จาก ผึ้งชันโรงมี คุณภาพดีและ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค 3. 3 . 1 การเก็บเกี่ยวน้าผึ้งชันโรง 3.3.1.1 ควร หลีกเลี่ยงการเก็บเกี่ยวน้าผึ้งชันโรงในช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่ อากาศ มีความชื้นสัมพัทธ์สูง เพื่อไม่ให้น้าผึ้งมีความชื้นเพิ่มขึ้นและส่งผลกระทบต่อคุณภาพ 3.3.1.2 ควร เก็บเกี่ยว ด้วยวิธีที่เหมาะสม กับ ลักษณะ และขนาดของ ถ้วยน้าผึ้งของผึ้งชันโรงแต่ละชนิด ดังนี้ 1 ) ผึ้ง ชันโรงกลุ่มที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็ก ใช้มีด สะอาด ตัดกลุ่มถ้วยน้าผึ้งและรวบรวม ควรระมัดระวัง ไม่ให้มีถ้วยเกสรปะปน ก่อน นาไปสู่กระบวนการแยก น้าผึ้งออกจากถ้วย และ กรอง น้าผึ้งต่อไป 2 ) ผึ้ง ชันโรงกลุ่มที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดใหญ่ ใช้วิธีการดูดน้าผึ้ง ทีละ ถ้วยและรวบรวม โดยใช้อุปกรณ์ และ ภาชนะที่สัมผัสกับน้าผึ้งที่สะอาด ปฏิบัติ ด้วยความระมัดระวัง โดยไ ม่ให้ถ้วยน้าผึ้ง เกิดความ เสียหาย ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนในน้าผึ้ง ชันโรง ดังตัวอย่าง ลักษณะถ้วยน้าผึ้งชันโรงชนิด ที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็กและถ้วยน้าผึ้งชันโรงชนิดที่มี ถ้วยน้าผึ้ง ขนา ดใหญ่ ตัวอย่างกระบวนการผลิตน้าผึ้งชันโรง และตัวอย่างการเก็บเกี่ยวและ

7 มกษ. 8 205 - 25 65 รวบรวมน้าผึ้งชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็กและชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดใหญ่ ดังแสดง ใน ภาคผนวก ข ภาพ ที่ ข. 5 ภาพที่ ข. 6 และ ภาพ ที่ ข. 7 3.3.1.3 กรณีเก็บเกี่ยวน้าผึ้งชันโรงภาคสนาม ให้มั่นใจว่าบริเวณ ที่ ปฏิบัติงาน สะอาดและปลอดภัย จากสัตว์พาหะ ที่ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนสู่น้าผึ้งชันโรงได้ 3. 3 . 2 การลดความชื้น และการบรรจุ น้าผึ้งชันโรง 3.3.2.1 ควรมีการบ่มน้าผึ้งและแยกสิ่งแปลกปลอมออกจากน้าผึ้งด้วยวิธีที่ถูกสุขลักษณะ 3.3.2. 2 การปฏิบัติใน การลดความชื้น และการบรรจุ น้าผึ้งชันโรง ต้องปฎิบัติอย่างถูกสุขลักษณะ เป็นไปตาม ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 420 เรื่อง วิธีการผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ใน การผลิต และเก็บรักษาอาหาร 3.3.2. 3 ควร เลือกวิธีการลดความชื้น ที่ ไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อคุณภาพและความปลอดภัยของน้าผึ้ง ชันโรง ตัวอย่าง การลดความชื้นน้าผึ้งชันโรงด้วยวิธีต่างๆ ดังแสดง ใน ภาคผนวก ข ภาพ ที่ ข. 8 3 . 3 . 3 การ เก็บเกี่ยวชัน 3.3.3.1 ควร เก็บเกี่ยว ชัน ด้วยความระมัดระวัง เพื่อลดการสูญเสียจานวนประชากรผึ้งชันโรงภายในรัง หรือ ทาให้รังเสียหาย 3.3.3.2 ควรใช้ อุปกรณ์ในการเก็บเกี่ยวชัน ที่ สะอาด และระมัดระวังไม่ให้มี สิ่ง แปลกปลอม ติดไปกับชัน เช่น เศษไม้ 3. 4 การทำความสะอาดและบารุงรักษา การทาความสะอาดและการบารุงรักษาพื้นที่เลี้ยง รังผึ้งชันโรง และบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสม่าเสมอ จะช่วยป้องกันโรคและศัตรูผึ้งชันโรง และลดการปนเปื้อน เชื้อจุลินทรีย์ ไปสู่ ผลิตผลของผึ้งชันโรง ที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค 3.4.1 ควร รักษาความสะอาดบริเวณ ฟาร์ม อย่างสม่าเสมอ ตั้ง รังผึ้งชันโรง ให้ เข้าถึงง่าย สะดวก ต่อการ ทาความสะอาด และการปฏิบัติงาน 3.4.2 ควร หมั่นตรวจ ดูแล ทาความสะอาด รังผึ้งชันโรง และ บริเวณใกล้เคียงอย่างสม่าเสมอ 3.4. 3 ควรทำความสะอาด พื้นที่ที่ใช้ในการแยก กรอง และบรรจุน้าผึ้ง ชันโรง ก่อนและหลัง การ ปฏิบัติ งานทุกครั้ง 3.4. 4 ควรทาความสะอาดเครื่องมืออุปกรณ์ และภาชนะบรรจุ สาหรับใช้ในการเก็บเกี่ยวน้าผึ้งชันโรง ก่อนและหลังการใช้งานทุกครั้ง และ ดูแลรักษาให้ มีสภาพพร้อมใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ 3.4. 5 ควร มีการทาความสะอาดและ บารุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพ ดี มีความ ปลอดภัย ต่อ ผึ้งชันโรงและ ผู้ปฏิบัติงาน และมีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

มกษ. 8205 - 25 65 8 3.4. 6 กรณีมีการใช้สารเคมี ทำความสะอาด และ ฆ่าเชื้อ หรือวัตถุอันตรายด้านการปศุสัตว์ ในกระบวนการต่างๆ ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ หรือสำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง และใช้ตามคาแนะนาวิธีใช้ ของฉลากหรือตามคาแนะนาของสัตวแพทย์ มีการเก็บเป็นสัดส่วน และมีป้ายชี้บ่ง 3. 5 สุขภาพสัตว์ การดูแลสุขภาพ ของผึ้งชันโรง อย่างเหมาะสม จะทาให้ ผึ้งชันโรง เจริญเติบโตได้ดี ตามช่วงวัย สุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค และการแพร่กระจายของโรค รวมถึงไม่มีความเสี่ยง ต่อการปนเปื้อนของยาสัตว์ ตกค้าง ในน้า ผึ้งชันโรง และผลิตผลอื่น ที่ จะก่อให้เกิดอันตราย ต่อผู้บริโภ ค 3. 5 .1 การป ้องกัน ควบคุม โรค และศัตรู 3.5.1.1 ระบุแหล่งที่มาของ รังผึ้งชันโรง ที่นาเข้ามา ใหม่ ให้มี ป้ายชี้บ่ง และวาง แยก รังใหม่ ตามระยะเวลา ที่เหมาะสม เพื่อ ให้ผึ้งชันโรงปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมและ ป้องกันการแพร่ระบาด ของโรค และ ศัตรู จากรังใหม่แพร่กระจายเข้าสู่ฟาร์ม 3.5.1.2 กรณี มี ผึ้ง ชันโรงที่เป็นโรค หรือศัตรูเข้าทาลาย ให้แยกออกมา ตรวจหา สาเหตุ เพื่อ รักษาหรือ ทาลาย ไม่ให้โรค หรือศัตรู แพร่กระจายสู่รังอื่น 3. 5 .1. 3 มีมาตรการควบคุมโรค และ ศัตรู กรณีที่ เกิดโรคระบาดหรือสงสัยว่าเกิดโรคระบาด ให้ปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และคาแนะนาของกรมปศุสัตว์ 3. 5 .1. 4 มีสัตวแพทย์ให้คาปรึกษาแนะนาด้านสุขภาพสัตว์ สุขาภิบาลฟาร์ม และการใช้ยาภายในฟาร์ม 3. 5 .2 การบำบัดโรคสัตว์ 3. 5 .2.1 การใช้ยาสัตว์ ต้อง อยู่ภายใต้ความดูแลของสัตวแพทย์ตามข้อกำหนดใน มกษ. 9032 มาตรฐาน สินค้าเกษตรเรื่อง ข้อปฏิบัติการควบคุมการใช้ยาสัตว์ 3.5.2 .2 ควร เก็บรักษายาสัตว์ตาม คาแนะนา บนฉลาก หรือเอกสารกากับ หรือตาม คาแนะนาของกรมปศุสัตว์ หรือสัตวแพทย์ โดย แยกเก็บเป็นสัดส่วนในที่ที่เหมาะสม และมีป้ายชี้บ่ง 3 . 6 สวัสดิภาพสัตว์ การจัดการการเลี้ยง ผึ้งชันโรงโดยคำนึงถึงหลักสวัสดิภาพสัตว์ ให้ ผึ้งชันโรง มีความเป็นอยู่ ในสภาวะที่เหมาะสม มีสุขอนามั ยที่ดี ไม่แออัด มี พืชที่เป็น แหล่ง อาหารและน้า อย่างเพียงพอ จะทาให้ผึ้งชันโรง เจริญเติบโตอย่างเหมาะสม ตามช่วงอายุ และมีสุขภาพแข็งแรง

9 มกษ. 8 205 - 25 65 3.6.1 ควร หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดควันไฟและความร้อน บริเวณ พื้นที่เลี้ยงผึ้งชันโรง 3. 6 . 2 ควร คานึงถึงปัจจัยต่างๆ ได้แก่ สัดส่วนขนาดพื้นที่ต่อ จานวนรัง ตาม ชนิดผึ้งชันโรง ความหนาแน่น ประชากร ภายในรัง ชนิด และปริมาณของ พืช ที่เป็นแหล่งอาหาร ที่ เพียงพอ เพื่อให้ ผึ้งชันโรง มีความเป็นอยู่ที่ดีตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ 3.7 บุคลากร ผู้ปฏิบัติงานในฟาร์ม ผึ้งชันโรง ที่มีความรู้หรือประสบการณ์ จะทาให้การเลี้ยง ผึ้งชันโรงเป็นไป อย่าง มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ ได้น้าผึ้งชันโรงที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อการบริโภค 3. 7 .1 ควร มีจำ นวนบุคลากรเหมาะสมกับจำนวน รัง ผึ้งชันโรง ที่เลี้ยง มีการจัดแบ่งหน้าที่และ ความรับผิดชอบ อย่างชัดเจน 3. 7 .2 ผู้ปฏิบัติงาน ควร ได้รับการฝึกอบรม ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสาหรับฟาร์ม ผึ้งชันโรง หรื อไ ด้รับการถ่ายทอด ทักษะ ความรู้และมีความรู้ ความเข้าใจ ในหน้าที่อย่างถูกต้อง 3. 7 . 3 ผู้ปฏิบัติงานในการเก็บเกี่ยวน้าผึ้งชันโรง ควรปฏิบัติอ ย่างถูกสุขลักษณะ มีการสวมถุงมือ ผ้าปิดปาก และหมวกคลุมผม 3. 7 . 4 ผู้ปฏิบัติงานมีสุขลักษณะส่วนบุคคลที่ดี และได้รับการตรวจสุขภาพประจาปีอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ว่าไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ตามกฎกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2 522) ออกตามความ ในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ข้อ 4 ( 9 ) ไม่ใช้ จ้าง วาน คนไร้ความสามารถหรือ มีจิตฟั่นเฟือน หรือคนซึ่งเป็นพาหะของโรคหรือซึ่ งเป็นโรคดังต่อไปนี้ (ก) โรคเรื้อน (ข) วัณโรค ในระยะอันตราย (ค) โรคติดยาเสพติด (ง) โรคพิษสุราเรื้อรัง (จ) โรคเท้าช้าง (ฉ) โรคผิวหนัง ที่น่ารังเกียจ และให้เก็บเอกสารการตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐาน 3. 8 การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะที่ดี จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ส่งผลเสียต่อชุมชน รวมถึงช่วยลด ความเสี่ยงต่อการกลับมาปนเปื้อนภายในฟาร์มได้ 3.8.1 ควรรวบรวม ขยะมูลฝอย ไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด และมี วิธีกาจัดหรือจัดการขยะมูลฝอ ย อย่างเหมาะสมและถูกสุขลักษณะ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 3.8. 2 กรณีมีขยะอันตราย เช่น ขวดบรรจุสารเคมีให้แยกทาลายและกาจัดด้วยวิธีที่ถูกต้อง 3. 9 การบันทึกข้อมูล การบันทึก ข้อมูล ต่างๆ แต่ละ ขั้นตอนการผลิต ที่สาคัญ จะช่วยให้เกษตรกรสามารถจัดการ การเลี้ยงผึ้งชันโรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ง่ายต่อการ ตามสอบสินค้า เมื่อพบปัญหา 3.9.1 เกษตรกร ต้อง บันทึกข้อมูล และเก็บหลักฐานสาคัญ ดังนี้ 1 ) ข้อมูลรหัส รังผึ้งชันโรงในฟาร์ม รหัส รังผึ้งชันโรง นาเข้า ใหม่ และ ข้อมูลประจา รัง ข้อมูลหรือ หลักฐานการได้มาของ รังผึ้งชันโรง ให้ระบุชนิดของผึ้งชันโรง แหล่งที่มาหรือเลขรหัส

มกษ. 8205 - 25 65 10 รังผึ้งชันโรง เดิมที่นำมา แยกขยาย วันที่ได้มาหรือวันที่แยก ขยาย (ข้อ กำหนด 3.2.2.4 ข้อกำหนด 3.2.2.5 และ ข้อกำหนด 3.5.1.1 ) 2 ) ข้ อมูลการเก็บเกี่ยวผลิตผล ได้แก่ น้าผึ้งชันโรงและชัน ให้ระบุ วัน/เดือน/ปีที่เก็บเกี่ยว รหัส รังผึ้งชันโรง สถานที่ตั้งรัง พืชที่เป็น แหล่ง อาหาร ปริมาณน้าผึ้งชันโรงหรือปริมาณชัน ที่เก็บเกี่ยวได้ ลักษณะปรากฏ (ข้อ กำหนด 3.3.1.2 และ ข้อกาหนด 3. 3.3) 3 ) ข้อมูลการใช้ สารเคมีทาความสะอาดและฆ่าเชื้อ หรือ วัตถุอันตรายด้านการปศุสัตว์ (ถ้ามี) ให้ระบุ วัน/เดือน/ปีที่ใช้ วัตถุประสงค์ที่ใช้ ชื่อผู้ผลิตหรือจาหน่าย ชื่อสามัญ เลขทะเบียน วันหมดอายุ อัตราและวิธีใช้ (ข้อ กำหนด 3 .4.6 ) 4 ) ข้อมูล การใช้ยา สัตว์ ในฟาร์ม (ถ้ามี) ให้ระบุ วัน/เดือน/ปีที่ใช้ ชื่อทางการค้า บริษัทผู้ผลิตหรือ ผู้จาหน่าย ชื่อสามัญ เลขทะเบียน วันหมดอายุ วิธีใช้ ( ข้อ กาหนด 3.2.2.8 และ ข้อกาหนด 3 .5.2 ) 5 ) ข้อมูล การรักษา โรค ผึ้งชันโรง (ถ้ามี) ให้ระบุ วัน/เดือน/ปีที่รักษา รหัสรัง ผึ้งชันโรง ที่รักษา อาการของโรค ผลการวินิจฉัยโรค วิธีการักษา ผลการรักษา สัตวแพทย์ผู้ให้คำปรึกษา (ข้อ กำหนด 3.2.2.8 และ ข้อกาหนด 3.5.2 ) 6 ) ข้อมูล การตรวจสุขภาพ ประจาปี ของบุคลากร (ข้อ กำหนด 3.7.4 ) ตัวอย่างแบบบันทึก ดังแสดงใน ภาคผนวก ค ตารางที่ ค. 1 ถึง ตารางที่ ค. 7 3.9.2 เกษตรกรควรบันทึกข้อมูล และเก็บหลักฐาน ดังนี้ 1 ) ข้อมูลสถานที่ตั้งรังผึ้งชันโรงและพืชที่เป็นแหล่งอาหาร ( ข้อกาหนด 3.1.1 และ ข้อกาหนด 3.2.3.3 ) 2 ) ข้อมูลการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของบุคลากร (ข้อกาหนด 3. 7.2) 3 ) ข้อมูลบุคคลเข้า - ออกฟาร์ม ให้ระบุ วัน/เดือน/ปีที่เข้าฟาร์ม ชื่อ - สกุล วัตถุประสงค์การเข้าฟาร์ม (ข้อกำหนด 3. 1.2.2) ตัวอย่างแบบบันทึก ดังแสดงใ นภาคผนวก ค ตารางที่ ค. 8 ถึง ตารางที่ ค. 10 3.9.3 ให้เก็บรักษาบันทึกข้อมูล การปฏิบัติงานและเอกสารสำคั ญที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ไว้ อย่า ง น้อย 3 ปี เพื่อให้สามารถตามสอบและเรียกคืนสินค้าได้เมื่อเกิดปัญหา

11 มกษ. 8205 - 25 65 ภาคผนวก ก ( ให้ไว้เป็นข้อมูล ) ตัวอย่างผังฟาร์มผึ้งชันโรง ผังฟาร์มผึ้งชันโรง นี้ เป็นตัวอย่างให้เกษตรกรใช้เป็นแนวทาง เกษตรกรสามารถ ประยุกต์ใช้ได้ตามควา ม เหมาะสม ภาพที่ ก. 1 ตัวอย่างแผนผังฟาร์ม ผึ้งชันโรง ( ข้อ 3 .1.2.1)

มกษ. 8205 - 25 65 12 ภาคผนวก ข ( ให้ไว้เป็นข้อมูล ) ภาพตัวอย่าง 1 ) กล่อง รัง ผึ้งชันโรง 2 ) แผ่นพลาสติก 3 ) เหล็กงัดรัง 4 ) มีดตัดกลุ่มหลอดเซลล์ตัวอ่อน ภาพที่ ข. 1 ตัวอย่าง เครื่องมือและ อุปกรณ์การเลี้ยง ผึ้ง ชันโรง (ข้อ 2.11 และข้อ 3. 1.3.5)

13 มกษ. 8 205 - 25 65 1 ) ลักษณะภายในรัง ผึ้ง ชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้ง ขนาด เล็ก 2 ) ลักษณะภายในรัง ผึ้ง ชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้ง ขนาด ใหญ่ ที่มา : ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณ สุรชัย สันติวงศ์สถิตย์, 2 564 ภาพที่ ข. 2 องค์ประกอบภายในรัง ผึ้ง ชันโรง ชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็กและชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดใหญ่ (ข้อ 3 .6.2.6) ถ้วยน้าผึ้ง ถ้วยตัวอ่อน ถ้วยเกสร/เรณู ถ้วยน้าผึ้ง ถ้วยตัว อ่อน ถ้วยเกสร/เรณู

มกษ. 8205 - 25 65 14 1 ) วรรณะของผึ้งชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็ก ที่มา: ได้รับความอนุเคราะห์จาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัญชลี สวาสดิ์ธรรม, 25 56 2 ) วรรณะของผึ้งชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดใหญ่ ที่มา: ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณสุรชัย สันติวงศ์สถิตย์ , 2 564 ภาพที่ ข . 3 ผึ้ง ชันโรง ชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็กและชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดใหญ่ ใน วรรณะต่างๆ (ข้อ 3.2 .2.6) ผึ้งชันโรงวรรณะนางพญา ผึ้งชันโรงวรรณะงาน ผึ้งชันโรงวรรณะตัวผู้ ผึ้งชันโรงวรรณะนางพญา ผึ้งชันโรงวรรณะตัวผู้ ผึ้งชันโรงวรรณะ งาน

15 มกษ. 8 205 - 25 65 1 ) คัดเลือก รังที่สมบูรณ์ 2 ) เตรียม เปิดฝา กล่องรัง ผึ้งชันโรง เพื่อ เตรียม แยกขยายรัง 3 ) แบ่งทุกส่ วนขององค์ประกอบภายในรัง อย่างละครึ่ง โดยให้ วางกลุ่มถ้วยอาหาร ไว้ ด้านที่ติดปากทางเข้ารัง 4 ) ปิดด้านบนรังเลี้ยงด้วยพลาส ติกใส เพื่อง่ายต่อการ สังเกต การ เจริญเติบโตของผึ้งชันโรง 5 ) ย้ายรังเดิมออกไปให้ห่างหรือปิดหน้ารัง แล้ววางรังใหม่ในตาแหน่งของรังเดิมเพื่อรอให้ผึ้งชันโรงวรรณะงาน เข้ารังใหม่ 30 นาที ถึง 60 นาที จากนั้นย้ายรังใหม่ออกไปวางห่างจากรังเดิม 300 m แล้วนำรังเดิมกลับมา วางตาแหน่งเดิม ภาพที่ ข. 4 การแยกขยายรัง ผึ้งชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็ก (ข้อ 3. 2.2.9)

มกษ. 8205 - 25 65 16 1) ถ้วยน้าผึ้ง ของ ผึ้งชันโรง ชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้ง ขนาด เล็ก 2 ) ถ้วยน้าผึ้ง ของ ผึ้งชันโรง ชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้ง ขนาด ใหญ่ ภาพที่ ข. 5 ลักษณะ ของ ถ้วยน้าผึ้งชันโรงชนิดขนาดเล็กและ ถ้วยน้าผึ้ง ชันโรงชนิดขนาดใหญ่ (ข้อ 3. 3.1.2)

17 มกษ. 8 205 - 25 65 ภาพที่ ข. 6 กระบวนการผลิต น้าผึ้งชันโรง ชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาด เล็กและ ชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดใหญ่ (ข้อ 3. 3.1.2)

มกษ. 8205 - 25 65 18 1) การเก็บเกี่ยวและรวบรวม น้าผึ้งจาก ผึ้ง ชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดเล็ก 2) การเก็บเกี่ยวและรวบรวม น้าผึ้งจากชันโรงชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาดใหญ่ ภาพที่ ข. 7 การเก็บเกี่ยวและรวบรวมน้าผึ้งชันโรง ชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้งขนาด เล็กและ ชนิดที่มีถ้วยน้าผึ้ง ขนาดใหญ่ (ข้อ 3.3.1.2)

19 มกษ. 8 205 - 25 65 1 ) กระบวนการบ่มน้าผึ้งชันโรง 2 ) กระบวน การลดความชื้นโดยใช้เครื่องเป่าลมร้อน นาน้าผึ้ง ชันโรง ใส่ในถาดสแตนเลส วางไว้ในตู้เป่าลมร้อน ที่ควบคุณอุณหภูมิ ไม่เกิน 55 o C 2 / 3 ) กระบวนการลดความชื้นน้าผึ้งชันโรงด้วย เครื่องระเหยความชื้น ภาพที่ ข. 8 การลดความชื้นน้าผึ้งชันโรงด้วยวิธีต่างๆ (ข้อ 3 . 3 . 2 . 3 ) 2 / o C เป็นสัญลักษณ์สาหรับหน่วยอนุพัทธ์ (Derived units) ในระบบเอสไอ (International System of Units; SI) ที่ใช้แทน คาว่า “ องศาเซลเซียส (degree celsius) ”

มกษ. 8205 - 25 65 20 ภาคผนวก ค ( ให้ไว้เป็นข้อมูล ) ตัวอย่างแบบ บันทึก ตารางที่ ค. 1 ตัวอย่างบันทึก กำหนด รหัส รัง ผึ้งชันโรง ในฟาร์ม ชื่อฟาร์ม… เลขทะเบียนเกษตรกร… ชื่อเกษตรกร… … … … … .. สถานที่ตั้งฟาร์ม… วัน/เดือน/ปี รหัส รัง ผึ้งชันโรง ชนิดของผึ้งชันโรง ลักษณะ / องค์ประกอบใน รัง / ลักษณะผึ้งชันโรง ( ความแข็งแรง ) ตาแหน่งจุดวางรัง

21 มกษ. 8 205 - 25 65 ตารางที่ ค. 2 ตัวอย่างบันทึกแหล่งที่มาของรังผึ้งชันโรงและกาหนดรหัสรัง ผึ้งชันโรงนาเข้า ใหม่ ชื่อฟาร์ม… เลขทะเบียนเกษตรกร… … ชื่อเกษตรกร… … … … … .. สถานที่ตั้งฟาร์ม… วัน/เดือน/ปี นาเข้ารังใหม่ แหล่งที่มา ชื่อร้าน/ชื่อฟาร์ม/ที่อยู่ จำนวนรังใหม่ ชนิดของผึ้งชันโรง รหัส รัง ผึ้งชันโรง ลักษณะ / องค์ประกอบใน รัง / ลักษณะผึ้งชันโรง ( ความแข็งแรง )

มกษ. 8205 - 25 65 22 ตารางที่ ค. 3 ตัวอย่างบันทึกการแยกขยายรังผึ้งชันโรง ชื่อฟาร์ม… เลขทะเบียนเกษตรกร… ชื่อเกษตรกร… … … … … .. สถานที่ตั้งฟาร์ม… วัน/เดือน/ปี แยกขยาย ชนิดของ ผึ้งชันโรง ขยายจาก รังเลขที่ รหัส รังใหม่ สถานที่ตั้งรังใหม่ ลั ก ษณะผึ้งชันโรง ( ความแข็งแรง, ลักษณะการบิน )

23 มกษ. 8 205 - 25 65 ตารางที่ ค. 4 ตัวอย่างบันทึก การใช้ สารเคมี ทาความสะอาดและฆ่าเชื้อ หรือวัตถุอันตรายด้านการปศุสัตว์ ในฟาร์ม ชื่อฟาร์ม… เลขทะเบียนเกษตรกร… … ชื่อเกษตรกร… … … … … .. สถานที่ตั้งฟาร์ม… วัน/เดือน/ปี วัตถุประสงค์ ที่ใช้ ชื่อทางการค้า/ บริษัท ชื่อสามัญ เลขทะเบียน อัตราส่วนการใช้และวิธีใช้ วันหมดอายุ

มกษ. 8205 - 25 65 24 ตารางที่ ค. 5 ตัวอย่างบันทึก การใช้ ยาสัตว์ในฟาร์ม ชื่อฟาร์ม… เลขทะเบียนเกษตรกร… ชื่อเกษตรกร… … … … … .. สถานที่ตั้งฟาร์ม… วัน/เดือน/ปี วัตถุประสงค์ที่ใช้ ชื่อทางการค้า/ บริษัทผู้ผลิต ชื่อสามัญ เลขทะเบียน วันหมดอายุ วิธีใช้ สัตวแพทย์ ผู้ให้คาปรึกษา

25 มกษ. 8 205 - 25 65 ตารางที่ ค. 6 ตัวอย่างบันทึก การบาบัดโรค ผึ้งชันโรง ชื่อฟาร์ม… เลขทะเบียนเกษตรกร… … ชื่อเกษตรกร… … … … … .. สถานที่ตั้งฟาร์ม… … วัน/เดือน/ ปี รหัส รัง ผึ้ง ชันโรง ชนิดของ ผึ้งชันโรง อาการของโรค การวินิจฉัยโรค การรักษา ผลการรักษา สัตวแพทย์ผู้ให้คาปรึกษา

มกษ. 8205 - 25 65 26 ตารางที่ ค. 7 ตัวอย่างบันทึกผลิตผลจากผึ้งชันโรงในฟาร์ม ชื่อฟาร์ม… เลขทะเบียนเกษตรกร… ชื่อเกษตรกร… … … … … .. สถานที่ตั้งฟาร์ม… … …  น้าผึ้งชันโรง  ชัน  อื่นๆ… … … วัน/เดือน/ปี เก็บผลิตผล รหัส รัง ผึ้งชันโรง ชนิดของ ผึ้งชันโรง สถานที่ตั้ง รัง พืชที่เป็น แหล่งอาหาร ปริมาณที่ได้ (กิโลกรัม) ลักษณะปรากฏ (สี, กลิ่น,รสชาติ, การเกิดฟอง) ความหวาน ( o Brix )

27 มกษ. 8 205 - 25 65 ตารางที่ ค. 8 ตัวอย่างบันทึกรายละเอียดสถานที่ตั้งรังผึ้งชันโรงและแหล่งพืชที่เป็นอาหาร ชื่อฟาร์ม… เลขทะเบียนเกษตรกร… ชื่อเกษตรกร… … … … … .. สถานที่ตั้งฟาร์ม… … วัน/เดือน/ปี จุดที่ ชนิดของผึ้งชันโรง สถานที่ตั้ง (หมู่บ้าน ตาบล อาเภอ จังหวัด) จำนวนรัง ผึ้งชันโรง ( รัง ) รหัสรัง ผึ้งชันโรง พืชที่เป็นแหล่งอาหาร

มกษ. 8205 - 25 65 28 ตารางที่ ค. 9 ตัวอย่างบันทึกการฝึกอบรมและดูงานของบุคลากร ชื่อ - สกุล ผู้ปฏิบั ติงาน…ตาแหน่ง…วัน/เดือน /ปีเกิด… … … … … วุฒิการศึกษา… วันที่เข้าทางาน… … … … … … . วัน/เดือน/ปี ที่ ฝึกอบรม/ดูงาน ระยะเวลา สถานที่ หัวข้อเรื่องที่ฝึกอบรม/ดูงาน ลายมือชื่อผู้ ฝึกอบรม

29 มกษ. 8 205 - 25 65 ตารางที่ ค. 10 ตัวอย่างบันทึกบุคคลเข้า - ออกฟาร์ม ชื่อฟาร์ม… เลขทะเบียนเกษตรกร… ชื่อเกษตรกร… … … … … .. สถานที่ตั้งฟาร์ม… วัน/เดือน/ปี ชื่อ - สกุล วัตถุประสงค์การเข้ำ - อ อกฟาร์ม เลขทะเบียนรถ จำนวนคน ลายเซ็น ผู้อนุญาต