ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจพิสูจน์ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อาจเป็นผู้ขับขี่ซึ่งอยู่ในภาวะหมดสติหรือได้รับอันตรายแก่กายจนไม่สามารถให้ความยินยอมได้กรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น พ.ศ. 2565
ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจพิสูจน์ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อาจเป็นผู้ขับขี่ซึ่งอยู่ในภาวะหมดสติหรือได้รับอันตรายแก่กายจนไม่สามารถให้ความยินยอมได้กรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น พ.ศ. 2565
ระเบียบส ํานักงํานต ํารวจแห่งชําติ ว่ําด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกํารตรวจพิสูจน์ปริมําณแอลกอฮอล์ในร่ํางกํายของผู้ขับขี่หรือบุคคล ที่อําจเป็นผู้ขับขี่ซึ่งอยู่ในภําวะหมดสติหรือได้รับอันตรํายแก่กํายจนไม่สํามํารถให้ควํามยินยอมได้ กรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นกํารสมควรกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีกํารส ําหรับพนักงํานสอบสวนในกํารขอให้แพทย์ ทํากํารตรวจพิสูจน์กํารมีปริมําณแอลกอฮอล์ในร่ํางกํายขอ งผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อําจเป็นผู้ขับขี่อันเป็น กํารฝ่ําฝืนมําตรํา 43 (2) ในกรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น และบุคคลดังกล่ําวอยู่ในภําวะหมดสติหรือ ได้รับอันตรํายแก่กํายจนไม่อําจให้ควํามยินยอมในกํารทดสอบกํารมีสํารอยู่ในร่ํางกํายได้ เพื่อให้กําร บังคับใช้กฎหมํายเป็นไปอย่ํางมีประสิทธิภําพ และเกิดควํามปลอดภัยในกํารใช้รถใช้ถนน อําศัยอํานําจตํามควํามในมําตรํา 142 วรรคหก แห่งพระรําชบัญญัติจรําจรทํางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งเพิ่มเติมโดยพระรําชบัญญัติจรําจรทํางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ผู้บัญชํากํารตํารวจแห่งชําติ จึ งออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่ํา “ ระเบียบสํานักงํานตํารวจแห่งชําติ ว่ําด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกําร ตรวจพิสูจน์กํารมีปริมําณแอลกอฮอล์ในร่ํางกํายของผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อําจเป็นผู้ขับขี่ซึ่งอยู่ในภําวะหมดสติ หรือได้รับอันตรํายแก่กํายจนไม่สํามํารถให้ควํามยิน ยอมได้ กรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น พ.ศ. 2565 ” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสํามสิบวันนับแต่วันประกําศในรําชกิจจํานุเบกษํา เป็นต้นไป ข้อ 3 ในกรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นและมีเหตุอันเชื่อได้ว่ํา ผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อําจเป็นผู้ขับขี่ ได้กระทํากํารฝ่ําฝืนตํามมําตรํา 43 (2) และบุคคลดังกล่ําวอยู่ในภําวะหมดสติหรือได้รับอันตรําย แก่กํายจนไม่อําจให้ควํามยินยอมในกํารทดสอบกํารมีสํารอยู่ในร่ํางกํายตํามมําตรํา 142 วรรคสอง ให้พนักงํานสอบสวนพิสูจน์ทรําบข้อเท็จจริงว่ําผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อําจเป็นผู้ขับขี่นั้น กระ ทํากํารฝ่ําฝืน กฎหมํายตํามมําตรําดังกล่ําวข้ํางต้นหรือไม่ทุกกรณี โดยให้ปฏิบัติตํามวิธีกํารและขั้นตอน ดังต่อไปนี้ (1) ให้พนักงํานสอบสวนส่งตัวผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อําจเป็นผู้ขับขี่ไปยังโรงพยําบําลที่ใกล้ที่สุด และแจ้งเป็นหนังสือขอให้แพทย์ที่เกี่ยวข้องทํากํารตรวจพิสูจน์ปริม ําณแอลกอฮอล์ในเลือดในร่ํางกําย ของบุคคลดังกล่ําวภํายในสํามชั่วโมงนับแต่เวลําที่พนักงํานสอบสวนได้รับแจ้งถึงเหตุดังกล่ําวข้ํางต้น หํากไม่สํามํารถแจ้งเป็นหนังสือได้ ให้พนักงํานสอบสวนแจ้งด้วยวําจําหรือด้วยวิธีกํารทํางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีกํารอื่นใดเพื่อให้แพทย์ที่เกี่ยวข้อ งทรําบและทํากํารตรวจพิสูจน์ จํากนั้นให้พนักงํานสอบสวนแจ้ง เป็นหนังสือภํายในยี่สิบสี่ชั่วโมง นับแต่เวลําที่พนักงํานสอบสวนได้รับแจ้งถึงเหตุดังกล่ําวข้ํางต้น (2) เมื่อได้รับกํารแจ้งจํากพนักงํานสอบสวนตําม (1) ให้แพทย์ที่เกี่ยวข้องท ํากํารตรวจพิสูจน์ ระดับปริมําณแอลกอฮอล์ในเลื อดในร่ํางกํายของบุคคลดังกล่ําวตํามที่ได้รับแจ้งโดยกํารเก็บตัวอย่ํางจํากเลือด ปัสสําวะหรือของเสียอย่ํางอื่นจํากร่ํางกํายของบุคคลดังกล่ําวด้วยวิธีกํารทํางกํารแพทย์และใช้วิธีกําร ้ หนา 1 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 239 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 ตุลาคม 2565
ที่ก่อให้เกิดควํามเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่ําที่จะกระทําได้ ทั้งจะต้องไม่เป็นอันตรํายอย่ํางอื่นต่อร่ํางกําย หรืออนํามัยของบุคคลนั้น และให้แพทย์ออกหลักฐํานเป็นหนังสือแสดงผลกํารตรวจพิสูจน์โดยเร็ว กรณีที่แพทย์ไม่สํามํารถทํากํารตรวจพิสูจน์ตํามที่พนักงํานสอบสวนแจ้งได้ ให้บันทึกเหตุผลควํามจําเป็นไว้ เป็นหลักฐําน (3) ให้พนักงํานสอบสวนนําหลักฐํานแสดงผลกํารตรวจพิสูจน์ หรือบันทึกเหตุผลที่แพทย์ ไม่อําจตรวจพิสูจน์ได้ตําม (2) รวมในส ํานวนกํารสอบสวนเพื่อประกอบกํารพิจํารณําท ําควํามเห็นทํางคดี ทุกกรณี ข้อ 4 ระดับปริมําณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ถือว่ําขับรถในขณะเมําสุรํา ให้เป็นไปตํามที่ กําหนดในกฎกระ ทรวงที่ออกตํามควํามในมําตรํา 142 วรรคห้ํา แห่งพระรําชบัญญัติจรําจรทํางบก พ.ศ. 2522 ข้อ 5 หนังสือขอให้แพทย์ที่เกี่ยวข้องท ํากํารตรวจพิสูจน์ปริมําณแอลกอฮอล์ในเลือด ในร่ํางกํายตํามข้อ 3 (1) ให้เป็นไปตํามแบบที่ส ํานักงํานตํารวจแห่งชําติก ําหนดท้ํายระเบียบนี้ ข้อ 6 ค่ําใช้จ่ํายในกํารตรวจพิสูจน์ตํามระเบียบนี้ ให้สั่งจ่ํายจํากงบประมําณตํามระเบียบ ที่ส ํานักงํานตํารวจแห่งชําติก ําหนด ประกําศ ณ วันที่ 28 กันยํายน พ.ศ. 25 6 5 พลต ํารวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชํากํารต ํารวจแห่งชําติ ้ หนา 2 ่ เลม 139 ตอนพิเศษ 239 ง ราชกิจจานุเบกษา 7 ตุลาคม 2565
ใบน ําส่ง บุคคล ให้แพทย์ตรวจ พิสูจน์ สํารเสพติด หรือ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสําท และ ปริมําณแอลกอฮอล์ ในเลือด คดี ที่ … … สถานีตำรวจ … … … วันที่ … เดือน… … … … …พ.ศ. … .. … เรียน … … ด้วยเมื่อวันที่ … … … … .... .... เวลาประมาณ …น. ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น และมีเหตุอันเชื่อได้ว่าผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อาจเป็นผู้ขับขี่ได้กระทาการฝ่าฝืนมาตรา 43 ทวิ วรรคแรก หรือ มาตรา 43 (2) แห่ง พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยบุคคลดังกล่าวอยู่ในภาวะหมดสติหรือ ได้รับอันตรายแก่กายจนไม่อาจให้ความยินยอมในการทดสอบการมีสารเสพติดหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและ ประสาท และ ปริมาณแอลกอฮอล์ ในเลือด ซึ่งอยู่ในร่างกายได้ เหตุเกิดที่ … … อาศัยอานาจมาตรา 43 ทวิ/ 1 และ มาตรา 142 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 จึง ขอให้แพทย์ทาการ ตรวจพิสูจน์ปริมาณสารเสพติดชนิดแอมเฟตามีนหรือเมทแอมเฟตามีน และ ปริมาณแอลกอฮอล์ ในเลือด ในร่างกาย ของ บุคคล ดังต่อไปนี้ 1. ชื่อ/ ชื่อ สกุล… … อายุ… … … ปี สัญชาติ… … … … ที่อยู่ … . … … … บัตรประจาตัวประชาช น เลขที่ / หนังสือเดินทางเลขที่ … … … … … ใบอนุญาตขับขี่ เลขที่ … .. . … … … 2. ชื่อ/ ชื่อ สกุล… … … อายุ… … … ปี สัญชาติ… … … … ที่อยู่ … . … … … บัตรประจำตัวประชาชน เลขที่/หนังสือเดินทางเลขที่ … … ใบอนุญาตขับขี่ เลขที่… … ........................................................................... .................................. … จึงเรียนมาเพื่อ โปรดพิจารณาดาเนินการ ผลการตรวจพิสูจน์ เป็นประการใด โปรด แจ้ง ให้ ทราบ ด้วย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ลงชื่อ … .. … . … พนักงานสอบสวน ( … … … … … … … ) ตำแหน่ง … … โทร ศัพท์ … … … . .