Thu Aug 17 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566


พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566

พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่ง ของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 15 สิงหำคม พ.ศ. 256 6 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนู ญแห่งราชอาณาจักรไทย กับมาตรา 56 วรรคสอง และมาตรา 60 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 ” ้ หนา 12 ่ เลม 140 ตอนที่ 48 ก ราชกิจจานุเบกษา 17 สิงหาคม 2566

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 3 แห่ง พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี พ.ศ. 2552 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิ ทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 3 ให้กาหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสาหรับสาขาวิชาของมหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี ดังต่อไปนี้ (1) สาขาวิชาการบัญชี มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ บัญชีดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บช.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ บัญชีมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บช.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ บัญชีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บช.บ. ” (2) สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย มีปริ ญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ การแพทย์แผนไทยดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ พท.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ การแพทย์แผนไทยมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ พท.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ การแพทย์แผนไทยบัณฑิต ” ใช้อัก ษรย่อ “ พท.บ. ” (3) สาขาวิชาครุศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ ครุศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ ครุศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.บ. ” (4) สาขาวิชาเทคโนโลยี มีปริญญาหนึ่งชั้น คือ ตรี เรียกว่า “ เทคโนโลยีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ทล.บ. ” (5) สาขาวิชานิติศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ น.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ นิติศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ น.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ นิติศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ น.บ. ” ้ หนา 13 ่ เลม 140 ตอนที่ 48 ก ราชกิจจานุเบกษา 17 สิงหาคม 2566

(6) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ นิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ นศ.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ นศ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ นิเทศศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ นศ. บ. ” (7) สาขาวิชาบริหารธุรกิจ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บธ.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บธ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ บริหารธุรกิจบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บธ.บ. ” (8) สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ พยาบาลศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ พย.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษ รย่อ “ พย.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ พยาบาลศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ พย.บ. ” (9) สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ รป.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ รป.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ รป.บ. ” (10) สาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ ศิลปดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศล.ด. ” หรือ “ ศิลปกรรมศาสตร ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศป.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ ศิลปมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศล.ม. ” หรือ “ ศิลปกรรมศาสตร มหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศป.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ ศิลปบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศล.บ. ” หรือ “ ศิลปกรรมศาสตร บัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศป.บ. ” (11) สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วท.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วท.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ วิทยาศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วท.บ. ” ้ หนา 14 ่ เลม 140 ตอนที่ 48 ก ราชกิจจานุเบกษา 17 สิงหาคม 2566

(12) สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วศ.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้ อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วศ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วศ.บ. ” (13) สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศศ.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศศ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ ศิลปศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศศ.บ. ” (14) สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ ครุศาสตร์ อุตสาหกรรมดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.อ.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.อ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ ครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.อ.บ. ” (15) สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ เศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศ.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ เศรษฐศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศ.บ. ” (16) สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ สาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ส.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ส.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ส.บ. ” ทั้งนี้ หากมีสาขาหรือวิชาเอกให้ระบุชื่อสาขาหรือวิชาเอกนั้นไว้ในวงเล็บต่อท้ายปริญญาด้วย ” ้ หนา 15 ่ เลม 140 ตอนที่ 48 ก ราชกิจจานุเบกษา 17 สิงหาคม 2566

มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏอุดรธานี พ.ศ. 2552 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 7 สีประจำคณะ มีดังต่อไปนี้ (1) คณะครุศาสตร์ สีฟ้า (2) คณะเทคโนโลยี สีแดง (3) คณะพยาบาลศาสตร์ สีเขียวไข่กา (4) คณะมนุษยศาส ตร์และสังคมศาสตร์ สีแสด (5) คณะวิทยาการจัดการ สีชมพู (6) คณะวิทยาศาสตร์ สีเหลือง ” ผู้รับสนองพระ บรม ราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนที่ 48 ก ราชกิจจานุเบกษา 17 สิงหาคม 2566

หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้เปิดสอนสาขาวิชาการแพทย์แผนไทย สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ และเปิดสอนหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิตในสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์เพิ่มขึ้น รวมทั้ง จัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ขึ้นด้วย สมควรกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ของสาขาวิชาดังกล่าว ตลอดจนสีประจำคณะของคณะพยาบาลศาสตร์ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนที่ 48 ก ราชกิจจานุเบกษา 17 สิงหาคม 2566