พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 771) พ.ศ. 2566
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 771) พ.ศ. 2566
พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 77 1 ) พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 12 สิงหำคม พ.ศ. 256 6 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ในบางกรณี อาศัยอานาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระรา ชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “ พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 771) พ.ศ. 2566 ” มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ้ หนา 13 ่ เลม 140 ตอนที่ 47 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
มาตรา 3 ในพระราชกฤษฎีกานี้ “ มูลนิธิ ” หมายความว่า (1) มูลนิธิจุฬาภรณ์ (2) มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี (3) มูลนิธิโรคมะเร็ง โรงพยาบาลศิริราช (4) มูลนิ ธิโรงพยาบาลเด็ก (5) มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (6) มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี (7) มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนคริ นทร์ (8) มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (9) มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (10) มูลนิธิสนับสนุนสถาบันประสาทวิทยา (11) มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า (12) ศิริราชมูลนิธิ “ ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ” หมายความว่า ระบบที่ใช้สร้างและเก็บรักษาข้อมูลการบริจาค ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 4 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 และส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร สาหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่สภากาชาดไทยหรือมูลนิธิ ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ดังต่อไปนี้ (1) สำหรับบุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้พึงประเมินหลังจำกหักค่าใช้จ่าย และหักลดหย่อนตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นจานวนสองเท่า ของจำนวนเงินที่บริจาค (2) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้เป็นจำนวนสองเท่า ของรายจ่ายที่บริจาค ไม่ว่าจะได้จ่า ยเป็นเงินหรือทรัพย์สิน ้ หนา 14 ่ เลม 140 ตอนที่ 47 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
มาตรา 5 การยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 (1) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) ต้องนำเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 (1) มารวมคานวณกับเงินได้ ที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากรกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้ เป็นจานวนสองเท่าของเงินที่ได้จ่ายตามกรณีที่กาหนดไว้และไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมิน หลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่ งประมวลรัษฎากร (2) เมื่อรวมคำนวณเงินได้ตาม (1) แล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมิน หลังจาก หักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร (3) หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นตามที่อธิบดีประกาศกาหนด มาตรา 6 การยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 (2) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) ต้องนาเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 4 (2) มารวมคานวณกับรายจ่าย ที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากรกาหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจานวนส องเท่า ของรายจ่ายและไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือ เพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬาตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร (2) เมื่อรวมคำนวณรายจ่ายตาม (1) แล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิ ก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษา หรือเพื่อการกีฬาตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร (3) หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นตามที่อธิบดีประกาศกาหนด มาตรา 7 ให้ยกเว้นภาษีเงิ นได้ตามส่วน 2 และส่วน 3 หมวด 3 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามหมวด 4 ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด 5 และอากรแสตมป์ตามหมวด 6 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้รับ จาก การโอนทรัพย์สิน หรือการขำยสินค้า หรือสาหรับการกระทาตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาค ให้แก่สภากาชาดไทยหรือมูลนิธิ โดยผู้โอนจะต้องไม่นำต้นทุนของทรัพย์สินหรือสินค้า ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีดังกล่าวมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคานวณภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาหรือบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ทั้งนี้ สำหรับการบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกาหนด ้ หนา 15 ่ เลม 140 ตอนที่ 47 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
มาตรา 8 บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้ใช้ สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ตามพระราชกฤษฎีกานี้ ต้องไม่นำเงินบริจาคที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ดังกล่าวไปหักลดหย่อน เป็นเงินบริจาคตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร หรือต้องไม่นาเงินหรือทรัพย์สิน ที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ดังกล่าวไปหักเป็นรายจ่ำยตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร แล้วแต่กรณี อีก มาตรา 9 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระ บรม ราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนที่ 47 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566
หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สภากาชาดไทยหรือมูลนิธิด้านการแพทย์และการสาธารณสุข เพื่อเป็นการจูงใจให้มีการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนการดาเนินงานด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ของสภากาชาดไทยหรือมูลนิธิดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนที่ 47 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 สิงหาคม 2566