Tue Jul 18 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการมอบหมายเรื่องกล่าวหา และการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. สาขากระบวนการยุติธรรม ที่ปฏิบัติงานด้านการไต่สวน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566


ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการมอบหมายเรื่องกล่าวหา และการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. สาขากระบวนการยุติธรรม ที่ปฏิบัติงานด้านการไต่สวน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566

ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการมอบหมายเรื่องกล่าวหา และการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. สาขากระบวนการยุติธรรม ที่ปฏิบัติงานด้านการไต่สวน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 256 6 โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการ สานักงาน ป.ป.ช. สาขากระบวนการยุติธรรม ที่ปฏิบัติงานด้านการไต่สวน เพื่อให้การดาเนินการ ตรวจสอบและไต่สวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วยิ่งขึ้น และดาเนินการแล้วเสร็จภายในกาหนด ระยะเวลาที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ได้กำหนดไว้ และเพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลขอ งสำนักงาน ป.ป.ช. อาศัยอานาจตามความในมาตรา 144 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และข้อ 64 ของระเบียบคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคลของสานักงาน ป.ป.ช. พ .ศ. 2561 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสำนักงาน ป.ป.ช. จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการมอบหมายเรื่องกล่าวหา และการประเมินผลกำรปฏิบัติราชการของข้าราชการ สำนักงาน ป.ป.ช. สาขากระบวนการยุติธรรม ที่ปฏิบัติงานด้านการไต่สวน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 4 วรรคสอง ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการมอบหมายเรื่องกล่าวหา และการประเมินผลการปฏิบัติ ราชการของข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. สาขากระบวนการยุติธรรม ที่ปฏิบัติงานด้านการไต่สวน พ.ศ. 2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ เพื่อให้การตรวจสอบและไต่สวนเป็นไปด้วยความรวดเร็วแล้วเสร็จตามขั้นตอนและระยะเวลา ตามที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระเบียบ ประกาศ และมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. กาหนด ให้พนักงานไต่สวนที่รับผิดชอบเรื่องกล่าวหา กาหนดแนวทาง และระยะเวลาการดาเนินการตรวจสอบเบื้องต้น ไต่สวนหรือไต่สวนเบื้องต้นเรื่องกล่าวหาที่อยู่ใน ความรับผิดชอบ พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติงานจำแนกเป็นรายเรื่องหรือรายคดี เสนอต่อรองเลขาธิการ ผู้ช่วยเลขาธิการ ผู้อำนวยการสำนัก หรือผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จังหวัด หรือ ผู้อานวยการกลุ่ม แล้วแต่กรณี โดยให้ระบุขั้นตอนการปฏิบัติงานและระยะเวลาที่ต้องดาเนินการให้แล้วเสร็จ ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างชัดเจน ไม่ว่าเรื่องนั้นจะต้องดาเนินการเป็นองค์คณะก็ตาม ” ้ หนา 25 ่ เลม 140 ตอนที่ 42 ก ราชกิจจานุเบกษา 18 กรกฎาคม 2566

ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 11/1 ของประกาศคณะกร รมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการมอบหมายเรื่องกล่าวหา และการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ของข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. สาขากระบวนการยุติธรรม ที่ปฏิบัติงานด้านการไต่สวน พ.ศ. 2562 “ ข้อ 11/1 ให้มีการกาหนดหลักเกณฑ์การให้คะแนนเรื่องกล่าวหาหรือผลการปฏิบัติงาน ตามที่ได้รับมอบหมาย ตามที่สานักงาน ป.ป.ช. กาหนด โดยความเห็นชอบของคณะอนุกรรมการ ข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามประกาศนี้และการประเมิน บุคคลและผลงานเพื่อเ ลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งที่สูงขึ้น ” ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 12 ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการมอบหมายเรื่องกล่าวหา และการประเมินผลการปฏิบัติ ราชการของข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. สาขากระบวนการยุติธรรม ที่ปฏิบัติงานด้านการไต่สวน พ.ศ. 2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 12 การประเมินผลการปฏิบัติราชการตามประกาศนี้ ในรอบประเมินหนึ่งให้เทียบเท่า กับคะแนนร้อยละ 100 ขององค์ประกอบที่ 1 เรื่องผลสัมฤทธิ์ของงาน เพื่อใช้ในการประเมิน เลื่อนเงินเดือนตามหลักเกณฑ์ที่สานักงาน ป.ป.ช. กาหนด โดยให้คิดคะแนนจากผลการปฏิบัติงาน ของเรื่องกล่าวหาที่ได้ทาข้อตกลงไว้กับรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค ผู้ช่วยเลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค ผู้อานวยการสานัก หรือผู้อานวยการสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด หรือผลการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย แล้วแต่กรณี โดยใช้หลักเกณฑ์ตามข้อ 11/1 ทั้งนี้ ในการคิดคะแนนตามวรรคหนึ่ง อาจวัดผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นคุณภาพ กล่าวคือ วัดผลสาเร็จของงานตามขั้นตอนการดาเนินงานตามกฎหมายก็ได้ แต่ต้องมีระยะเวลาการปฏิ บัติงาน อยู่ในกาหนดเวลาหรือกาหนดเวลาที่ขอขยายตามที่กฎหมายว่าด้วยการนั้นกาหนด และหากเรื่อง กล่าวหาใดใช้หลักเกณฑ์การให้คะแนนโดยการวัดผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นคุณภาพแล้ว จะต้องใช้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวจนกว่าเรื่องกล่าวหานั้นจะดาเนินการแล้วเสร็จ ในการคิดคะแนนผลสัมฤทธิ์ ของงานตามวรรคหนึ่งและหรือวรรคสอง เมื่อรวมคะแนนแล้ว ให้จัดระดับค่าคะแนนเป้าหมายให้เป็นไปตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. กำหนด โดยความเห็นชอบของ คณะอนุกรรมการข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 14 ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่ งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการมอบหมายเรื่องกล่าวหา และการประเมินผลการปฏิบัติ ราชการของข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. สาขากระบวนการยุติธรรม ที่ปฏิบัติงานด้านการไต่สวน พ.ศ. 2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 14 หากข้าราชการผู้ใดไม่มีเรื่องกล่าวหาในความรับผิดชอบที่จะนาไปกำหนดในข้อตกลง ตามข้อ 12 ให้ข้าราชการดังกล่าวทาข้อตกลงกับรองเลขาธิการ ผู้ช่วยเลขาธิการ ผู้อานวยการสานัก ้ หนา 26 ่ เลม 140 ตอนที่ 42 ก ราชกิจจานุเบกษา 18 กรกฎาคม 2566

หรือผู้อานวยการสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด แล้วแต่กรณี โดยความเห็นชอบของเลขาธิการ หรื อผู้ที่เลขาธิการมอบหมาย กรณีที่ได้มีการทาข้อตกลงไว้แล้วตามข้อ 12 หากข้าราชการผู้ใดมีเหตุจาเป็นที่ต้องขอแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือทาข้อตกลงเพิ่มเติม ให้เสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับชั้น แล้วจึงเสนอเรื่องต่อ สานักบริหารทรัพยากรบุคคลเพื่อพิจารณาให้ความเห็ น ก่อนเสนอคณะอนุกรรมการบริหารงานคดี เพื่อพิจารณาเห็นชอบให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงหรือนาเรื่องกล่าวหามาทาข้อตกลงเพิ่มเติมได้ เป็นการเฉพาะราย ทั้งนี้ คำวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการบริหารงานคดีให้เป็นที่สุด กรณีข้าราชการผู้ใดหรือสานักใดมีเรื่องกล่าวหาในความรับ ผิดชอบที่เป็นเรื่องต้องดาเนินการ ตามนโยบายของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือของสานักงาน ป.ป.ช. หรือเป็นเรื่องสาคัญที่มีผลกระทบ อย่างกว้างขวางหรือมีมูลค่าความเสียหายสูง อาจเสนอเรื่องต่อสำนักบริหารทรัพยากรบุคคล เพื่อพิจารณาให้ความเห็นในเบื้องต้น ก่อนเสนอคณะอนุกรรมการบริหารงานคดีเพื่อพิจารณา ให้ความเห็น แล้วจึงเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณายกเว้นเกณฑ์การให้คะแนนหรือสัดส่วน น้ำหนักคะแนนตามเกณฑ์การให้คะแนนเรื่องกล่าวหาหรือผลการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย ตามข้อ 11/1 และข้อ 12 เป็นรายกรณีก็ ได้ ทั้งนี้ คำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เป็นที่สุด ” ประกาศ ณ วันที่ 30 มิ ถุนายน พ.ศ. 25 6 6 พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ้ หนา 27 ่ เลม 140 ตอนที่ 42 ก ราชกิจจานุเบกษา 18 กรกฎาคม 2566