Mon Jul 03 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 23/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2566 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นางสาวพจนา ทิพวงษ์ ผู้ถูกกล่าวหา]


คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 23/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2566 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นางสาวพจนา ทิพวงษ์ ผู้ถูกกล่าวหา]

( อม.34 ) คําพิพากษา คดีหมายเลขดําที่ อม. 23/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2566 ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมือง วันที่ 10 เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช 2566 คณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้รอง นางสาวพจนา ทิพวงษ ผู้ถูกกลาวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้รองยื่นคํารองและแกไขคํารองขอให้วินิจฉัยวา ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงรองนายกองคการบริหาร สวนตําบลโพนทอง อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รอง กรณีเขารับตําแหนงและกรณีพนจากตําแหนงด้วยขอความอันเป็นเท็จ หรือปกปดขอเท็จจริงที่ควรแจงให้ทราบ และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้น ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกลาวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 , 114 วรรคสอง (1) , 167 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ ระหวาง ้ หนา 32 ่ เลม 140 ตอนที่ 40 ก ราชกิจจานุเบกษา 3 กรกฎาคม 2566

พิเคราะหคํารองประกอบเอกสารทายคํารอง และคําให้การของผู้ถูกกลาวหาแล้วขอเท็จจริง รับฟงได้วา ผู้ถูกกลาวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลโพนทอง อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 และพนจากตําแหนง เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 ผู้ถูกกลาวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้รอง กรณีเขารับตําแหนงผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2561 โดยแสดงรายการทรัพย์สิน 2 รายการ คือ ราย การเงินให้กูยืมราย นางวัชราภรณ ธนะนู และราย นายสุเมธี ทิพวงษ รายการละ 500 , 000 บาท จากการตรวจสอบของผู้รองปรากฏขอเท็จจริงวา กอนเขารับตําแหนงมีรายการเงิน ให้กูยืมราย นางวัชราภรณ จํานวน 400 , 000 บาท สวนราย นายสุเมธี มีรายการเงินให้กูยืมไม่ถึงจํานวน 500 , 000 บาท กรณีพนจากตําแหนงผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 จากการตรวจสอบของผู้รองขอเท็จจริงปรากฏวา ผู้ถูกกลาวหาไม่แสดงรายการทรัพย์สิน จํานวน 2 รายการ คือ สลากออมทรัพย์เกษตรมั่นคง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณการเกษตร มูลคา 62 , 000 บาท และสลากออมสินพิเศษ ธนาคารออมสิน มูลคา 100 , 000 บาท และแสดงรายการทรัพย์สิน จํานวน 2 รายการ คือ รายการเงินให้กูยืมราย นางวัชราภรณ ธนะนู และราย นายสุเมธี ทิพวงษ รายการละ 500 , 000 บาท ซึ่งขอเท็จจริงปรากฏวาขณะพนจากตําแหนงไม่มีรายการเงินให้กูยืมทั้งสองรายดังกลาว เนื่องจาก ผู้ถูกกลาวหาได้รับชําระหนี้ครบถวนกอนพนจากตําแหนงแล้ว ปญหาต้องวินิจฉัยมีวา ผู้ถูก กลาวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รองด้วยขอความอันเป็นเท็จหรือปกปดขอเท็จจริงที่ควรแจงให้ทราบ และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเขารับตําแหนง และกรณีพนจากตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลโพนทอง อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม หรือไม่ เห็นวา ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลโพนทอง อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ผู้ถูกกลาวหาจึงเป็นผู้ดํารงตําแหนงรองผู้บริหารทองถิ่นและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อผู้รองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ้ หนา 33 ่ เลม 140 ตอนที่ 40 ก ราชกิจจานุเบกษา 3 กรกฎาคม 2566

มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 ผู้ถูกกลาวหาได้ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รอง กรณีเขารับตําแหนงและกรณีพนจากตําแหนงแล้ว ผู้ถูกกลาวหา ยอมทราบถึงหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ถูกต้องครบถวนต่อผู้รอง เพื่อพิสูจนความมีอยู่จริง ของทรัพย์สินและหนี้สินนั้น อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้ใชอํานาจรัฐ การที่ผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินไม่ถูกต้องตรงกับความจริงในวันที่เขารับตําแหนง และวันที่พนจากตําแหนง ซึ่งเป็นทรัพย์สินและหนี้สินที่มีมูลคามาก ผู้ถูกกลาวหายอมต้องรูถึงการมีอยู่ และจํานวนของทรัพย์สินและหนี้สินดังกลาวเป็นอยางดี ประกอบกับผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณมีเหตุอันควรเชื่อได้วา ผู้ถูกกลาวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น จึงฟงได้วาผู้ถูกกลาวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบผู้รอง ด้วยขอความอันเป็นเท็จหรือปกปดขอเท็จจริงที่ควรแจงให้ทราบ กรณีเขารับตําแหนงและกรณีพนจากตําแหนง รองนายกองคการบริหารสวนตําบลโพนทอง อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม อันเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 และมีผลให้ผู้ถูกกลาวหาถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 พิพากษาวา นางสาวพจนา ทิพวงษ ผู้ถูกกลาวหาจงใจยื่ นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองด้วยขอความอันเป็นเท็จหรือปกปดขอเท็จจริงที่ควรแจงให้ทราบ และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีเขารับตําแหนง และกรณีพนจากตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลโพนทอง อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกลาวหาตลอดไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 การกระทําของผู้ถูกกลาวหาเป็นความผิดหลายกรรมตางกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8 , 000 บาท รวม 2 กระทง จําคุก 4 เดือน และปรับ 16 , 000 บาท ้ หนา 34 ่ เลม 140 ตอนที่ 40 ก ราชกิจจานุเบกษา 3 กรกฎาคม 2566

ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชนแกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 2 เดือน และปรับ 8 , 000 บาท ไม่ปรากฏวา ผู้ถูกกลาวหาเคยรับโทษจําคุกมากอน ประกอบกับศาลกําหนดโทษจําคุกระยะสั้น เห็นสมควรให้โอกาส แกผู้ถูกกลาวหากลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจําคุกให้รอการลงโทษไวมีกําหนด 1 ป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระคาปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 , 30. นายประทีป อาววิจิตรกุล นายจักรกฤษณ อนันตสุชาติกุล นายทรงพล สงวนพงศ นายชัยยุทธ กลับอําไพ นางฉัตรทิชา ชัยรัชตกร นายปญญา ชอมณี นางขนิษฐา อรุณวงศ นายอดิศักดิ์ ปตรวลี นายอนันต วงษประภารัตน์ ้ หนา 35 ่ เลม 140 ตอนที่ 40 ก ราชกิจจานุเบกษา 3 กรกฎาคม 2566