Mon Jun 12 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางบริหารหรือตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566


ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางบริหารหรือตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566

ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตำแหน่งทางบริหารหรือตาแหน่งอื่นที่เทียบเท่า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางบริหารหรือตาแหน่งอื่นที่เทีย บเท่าเพื่อแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติ เกี่ยวกับการประเมินบุคคลและผลงาน อาศัยอำนาจตามความในข้อ 45 ของระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคลของสานักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสานักงาน ป.ป.ช. จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตา แหน่ง ทางบริหารหรือตาแหน่งอื่นที่เทียบเท่า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 5 ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้น แต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางบริหารหรือตาแหน่งอื่นที่เทียบเท่า พ.ศ. 2561 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก ข้าราช การสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางบริหารหรือตาแหน่งอื่นที่เทียบเท่า (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 5 การคัดเลือกข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ทางบริหาร ตาแหน่งผู้ช่ว ยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค และตาแหน่งผู้อำนวยการ ให้ดาเนินการ ดังนี้ (1) ให้สำนักงาน ป.ป.ช. จัดให้มีการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ทางบริหารที่ว่างหรือที่จะว่าง โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่ อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองผู้ที่มี ความเหมาะสมกับตาแหน่งดังกล่าว ประกอบด้วย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กปปช. ที่ กปปช. มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ ข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. ผู้ดารงตาแหน่งนักบริหารงาน ป.ป.ช. ระดับสูง และตาแหน่งนักบริหารงานยุติธรรม ป.ป .ช. ระดับสูง ทุกคน เป็นกรรมการ และผู้อานวยการ สานักบริหารทรัพยากรบุคคลเป็นเลขานุการ โดยอาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในสังกัดสานักบริหารทรัพยากรบุคคล จำนวนไม่น้อยกว่า 2 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ้ หนา 26 ่ เลม 140 ตอนที่ 35 ก ราชกิจจานุเบกษา 12 มิถุนายน 2566

กรณีที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรบุคคลเป็นผู้มีรายชื่อที่มี คุณสมบัติที่จะได้รับ การแต่งตั้ง ให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เลือกเจ้าหน้าที่ในสังกัดสานักบริหารทรัพยากรบุคคล ทำหน้าที่เลขานุการแทน (2) ให้สำนักบริหารทรัพยากรบุคคล เสนอรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลของตาแหน่งที่จะแต่งตั้ง และข้อมูลของผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะ ได้รับการแต่งตั้งตาม (1) ต่อคณะกรรมการตาม (1) ดังนี้ ก) ชื่อและจำนวนตำแหน่งว่างหรือที่จะว่าง พร้อมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับหน้าที่ ความรับผิดชอบและความต้องการของตาแหน่งดังกล่าว ได้แก่ ขอบเขตของงานในหน้าที่ของตาแหน่ง ลักษณะงาน การควบคุมบังคับบัญชา คุณสมบัติและคุณลักษณะของบุคคลที่จาเป็นต่อการปฏิบัติงาน ในตาแหน่ง หรือคุณลักษณะอื่นที่สามารถจะทำให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข) รายชื่อข้าราชการที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่คัดเลือก พร้อมทั้งข้อมูลบุคคลพื้นฐานอื่น ๆ ที่เกี่ย วกับประวัติส่วนตัว ประวัติการรับราชการ ประวัติการศึกษา การฝึกอบรมหรือดูงาน ประวัติทางวินัย ผลการประเมินการปฏิบัติราชการย้อนหลัง การได้รับรางวัล หรือความดีความชอบพิเศษ หรือข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้ดาเนินการตามข้อ 47 ของระเบียบ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคล ของสานักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งผลงานและข้อมูลอื่นใดที่เป็นประโยชน์ ต่อการพิจารณา (3) ให้คณะกรรมการตาม (1) พิจารณากลั่นกรองผู้ที่มีความเหมาะสมกับตาแหน่งที่ จะแต่งตั้ง โดยให้คำนึงถึงความรู้ ความสามารถ ความประพฤติโดยเฉพาะความรับผิดชอบและพฤติกรรม ทางจริยธรรม ประวัติการรับราชการ ประสบการณ์การปฏิบัติงาน ผลงานซึ่งเป็นที่ยอมรับและประจักษ์ ในความสามารถ วิสัยทัศน์ทางการบริหาร และลำดับอาวุโส รวมทั้งคุณลักษณะอื่นที่ จำเป็น ในการปฏิบัติงานในตาแหน่งที่จะแต่งตั้ง โดยให้จัดลาดับผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดไว้ในลาดับแรก และ ผู้ซึ่งเหมาะสมรองลงไปในลาดับต่อกันไป โดยให้คณะกรรมการตาม (1) ดาเนินการคัดเลือกผู้ที่ เหมาะสมซึ่งจะต้องมากกว่าจำนวนตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง แต่ไม่เกินสา มเท่าของจำนวนตำแหน่ง ที่จะแต่งตั้งสาหรับตาแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค และไม่เกินสองเท่าของจำนวนตาแหน่งที่จะแต่งตั้งสำหรับตาแหน่งผู้อำนวยการ ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจให้มีการสารวจความประสงค์ของข้าราชกำรผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับ การแต่งตั้ง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ กปปช. ด้วยก็ได้ (4) ให้คณะกรรมการตาม (1) เสนอข้อมูลตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง พร้อมทั้งรายชื่อผู้ที่มี ความเหมาะสมกับตำแหน่งที่คัดเลือก และข้ อมูลของบุคคลดังกล่าว รวมทั้งความสมควรและเหตุผลต่อ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ้ หนา 27 ่ เลม 140 ตอนที่ 35 ก ราชกิจจานุเบกษา 12 มิถุนายน 2566

(5) ให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาข้อมูลและรายชื่อตาม (4) หากเห็นว่า บุคคลใดในรายชื่อที่เสนอมาเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะได้รับการเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ทาง บริหารในตาแหน่งใด ก็ให้เสนอข้อมูลตาม (4) พร้อมทั้งรายชื่อและข้อมูลของผู้ที่มีความเหมาะสม กับตาแหน่งที่คัดเลือกในแต่ละตาแหน่ง รวมทั้งความสมควรและเหตุผลต่อ กปปช. ( 6 ) ให้ กปปช. พิจารณาข้อมูลและรายชื่อตาม (5) หากพิจารณาแล้วเห็นว่า บุคคล ที่เลขาธิการคณ ะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอมา มีความเหมาะสมที่จะได้รับการเลื่อนขึ้นแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหน่งทางบริหารในตาแหน่งใด ก็ให้ดาเนินการตามขั้นตอนการแต่งตั้งต่อไป ในกรณีที่ กปปช. พิจารณาแล้วเห็นว่า รายชื่อที่เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอมา ตาม (5) ยังไม่เหมาะสม ให้ส่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาใหม่ตามที่เห็นสมควร แล้วดาเนินการตามขั้นตอนใน (6) ต่อไปโดยเร็ว ” ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 5/1 ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้น แต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางบริหารหรือตาแหน่งอื่นที่เทียบเท่า พ.ศ. 2561 “ ข้อ 5/1 การคัดเลือกข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ทางบริหาร ตาแหน่งผู้อำนวยการ กลุ่มหรือผู้อำนวยการศูนย์ ให้ดาเนินการ ดังนี้ (1) ให้สำนักงาน ป.ป.ช. จัดให้มีการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อานวยการกลุ่มหรือผู้อานวยการศูนย์ที่ว่างหรือที่จะว่าง โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อทาหน้าที่ พิจารณากลั่นกรองและประเมินผลงา นผู้ที่มีความเหมาะสมกับตาแหน่งดังกล่าว โดยมีองค์ประกอบ เช่นเดียวกับคณะกรรมการ ตามข้อ 5 (1) ( 2 ) ให้สานักบริหารทรัพยากรบุคคลเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลของตาแหน่งที่จะแต่งตั้ง และข้อมูลของผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการแต่งตั้งตาม (1) ต่อคณะกรรมการตา ม (1) ดังนี้ ก) ชื่อและจำนวนตำแหน่งว่างหรือที่จะว่าง พร้อมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับหน้าที่ ความรับผิดชอบและความต้องการของตาแหน่งดังกล่าว ได้แก่ ขอบเขตของงานในหน้าที่ของตาแหน่ง ลักษณะงาน การควบคุมบังคับบัญชา คุณสมบัติและคุณลักษณะของบุคคลที่จาเป็นต่อการ ปฏิบัติงาน ในตาแหน่ง หรือคุณลักษณะอื่นที่สามารถจะทำให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข) รายชื่อข้าราชการที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่คัดเลือก พร้อมทั้งข้อมูลบุคคลพื้นฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับประวัติส่วนตัว ประวัติการรับราชการ ประ วัติการศึกษา การฝึกอบรมหรือดูงาน ประวัติทางวินัย ผลการประเมินการปฏิบัติราชการย้อนหลัง การได้รับรางวัล หรือความดีความชอบพิเศษ หรือข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้ดาเนินการตามข้อ 47 ของระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคล ของสานักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งผลงานและข้อมูลอื่นใดที่เป็นประโยชน์ ต่อการพิจารณา ้ หนา 28 ่ เลม 140 ตอนที่ 35 ก ราชกิจจานุเบกษา 12 มิถุนายน 2566

( 3 ) ให้คณะกรรมการตาม (1) พิจารณากลั่นกรองและประเมินผลงานผู้ที่มีความเหมาะสมกับ ตำแหน่งที่จะแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธี การที่ กปปช. มีมติกำหนด โดยให้คำนึงถึงความรู้ ความสามารถ ความประพฤติโดยเฉพาะความรับผิดชอบและพฤติกรรมทางจริยธรรม ประวัติการรับราชการ ประสบการณ์การปฏิบัติงาน ผลงานซึ่งเป็นที่ยอมรับและประจักษ์ในความสามารถ วิสัยทัศน์ ทางการบริหาร และลำดับอาวุโส รวมทั้ งคุณลักษณะอื่นที่จำเป็นในการปฏิบัติงานในตำแหน่ง ที่จะแต่งตั้ง โดยให้จัดลาดับผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดไว้ในลาดับแรก และผู้ซึ่งเหมาะสมรองลงไป ในลาดับต่อกันไป โดยให้คณะกรรมการตาม (1) ดาเนินการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมซึ่งจะต้องมากกว่า จำนวนตาแหน่งที่จะแต่งตั้ ง แต่ไม่เกินสองเท่าของจำนวนตาแหน่งที่จะแต่งตั้ง ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจให้มีการสารวจความประสงค์ของข้าราชการผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับ การแต่งตั้ง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ กปปช. ด้วยก็ได้ (4) ให้คณะกรรมการตาม (1) เสนอข้อมูลตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง พร้อมทั้งรายชื่อผู้ที่มี ความเหมาะสมกับตาแหน่งที่คัดเลือก ผลการประเมินผลงาน และข้อมูลของบุคคลดังกล่าว รวมทั้ง ความสมควรและเหตุผลต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. (5) ให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจำรณาข้อมูลและรายชื่อตาม (4) หากเห็นว่า บุคคลใดในรายชื่อที่เสนอมาเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะได้รับการเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ผู้อานวยการกลุ่มหรือผู้อานวยการศูนย์ในตาแหน่งใด ก็ให้เสนอข้อมูลตาม (4) พร้อมทั้งรายชื่อ และข้อมูลของผู้ที่มีความเหมาะสม กับตำแหน่งที่คัดเลือกในแต่ละตำแหน่ง รวมทั้งความสมควร และเหตุผลต่อ กปปช. ( 6 ) ให้ กปปช. พิจารณาข้อมูลและรายชื่อตาม (5) หากพิจารณาแล้วเห็นว่า บุคคล ที่เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอมา มีความเหมาะสมที่จะได้รับการเลื่อนขึ้นแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหน่งผู้อำ นวยการกลุ่มหรือผู้อำนวยการศูนย์ในตาแหน่งใด ก็ให้ดาเนินการตามข้อ 5/2 ต่อไป ในกรณีที่ กปปช. พิจารณาแล้วเห็นว่า รายชื่อที่เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอมา ตาม (5) ยังไม่เหมาะสม ให้ส่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาใหม่ตามที่เห็นสมควร แล้วดา เนินการตามขั้นตอนใน (6) ต่อไปโดยเร็ว ” ข้อ 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 5/2 ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้น แต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางบริหารหรือตาแหน่งอื่ นที่เทียบเท่า พ.ศ. 2561 “ ข้อ 5/ 2 ให้สำนักงาน ป.ป.ช. แต่งตั้งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการกลุ่มหรือผู้อานวยการศูนย์ ตามข้อ 5/1 รักษาการในตาแหน่งที่ได้รับ การคัดเลือกเป็นเวลาหกเดือน โดยให้ กปปช. แต่งตั้ งคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติ ราชการของผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการกลุ่มหรือผู้อานวยการศูนย์ ้ หนา 29 ่ เลม 140 ตอนที่ 35 ก ราชกิจจานุเบกษา 12 มิถุนายน 2566

และดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติราชการภายหลังจากข้าราชการผู้ที่ได้รับการคัดเลือก รักษาการในตาแหน่งครบหกเดือน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ที่ กปปช. มีมติกำหนด ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง รายงานผลการประเมินการปฏิบัติราชการต่อเลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และ กปปช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนดาเนินกา รตามขั้นตอน การแต่งตั้งต่อไป ทั้งนี้ กรณีผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่ม หรือผู้อานวยการศูนย์ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ให้แต่งตั้งได้ไม่ก่อนวันที่ข้าราชการผู้นั้น ได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการในตาแหน่งที่ได้ รับการคัดเลือก กรณีผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้ง ให้ดำรงตาแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มหรือผู้อานวยการศูนย์ไม่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ให้สำนักงาน ป.ป.ช. สั่งให้ข้าราชการรายดังกล่าวพ้นจากการรักษาการในตาแหน่งและแจ้งให้ข้าราชการ ผู้นั้นทราบต่ อไป ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 7 ของประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการสานักงาน ป.ป.ช. เพื่อเลื่อนขึ้น แต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางบริหารหรือตาแหน่งอื่นที่เทียบเท่า พ.ศ. 2561 และใ ห้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 7 ให้ข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหน่งพนักงานไต่สวนผู้ทรงคุณวุฒิ ตามข้อ 6 นาเสนอผลงานซึ่งเป็นผลสาเร็จที่เกิดจาก การปฏิบัติราชการสานักงาน ป.ป.ช. ในขณะที่ดารงตาแหน่งในระดั บปัจจุบัน โดยไม่จาเป็นต้องเป็น ผลงานที่ได้รับการเผยแพร่จานวนไม่เกินสองเรื่องต่อ กปปช. ภายในสามเดือน นับจากวันที่ กปปช. มีมติคัดเลือกข้าราชการผู้นั้น หากไม่ส่งผลงานภายในระยะเวลาดังกล่าวให้ถือว่าสละสิทธิ์การได้รับ การคัดเลือกในครั้งนี้ ” ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 25 6 6 พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ้ หนา 30 ่ เลม 140 ตอนที่ 35 ก ราชกิจจานุเบกษา 12 มิถุนายน 2566