กฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมศุลกากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
กฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมศุลกากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
กฎส ํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 อําศัยอ ํานําจตํามควํามในมําตรํา 6 และมําตรํา 7 วรรคหนึ่ง แห่งพระรําชบัญญัติ เครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 นํายกรัฐมนตรีออกกฎสํานักนํายกรัฐมนตรีไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกควํามใน (5) ของข้อ 5 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “( 5) เครื่องแบบปฏิบัติงํานตรวจค้น ประกอบด้วย (ก) หมวกทรงอ่อนไม่มีกะบัง (หมวกเบเร่ต์) สีน้ําเงินดํา หรือหมวกแก๊ปทรงอ่อน มีกะบังสีน้ ําเงินดํา (ข) เสื้อคอแบะแบบฝึกปล่อยเอวสีน้ ําเงินดํา (ค) กํางเกงขํายําวแบบฝึกสีน้ ําเงินดํา (ง) เข็มขัดด้ํายถักสีน้ําเงินดํา (จ) รองเท้ําหุ้ มส้นหรือหุ้มข้อหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (ฉ) ถุงเท้ําสีดํา ” ข้อ 2 ให้ยกเลิกควํามใน (8) ของข้อ 8 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “( 8) เสื้อคอแบะแบบฝึกปล่อยเอวสีน้ําเงินดํา ตัวเสื้อปล่อยยําวถึงสะโพก ปกเสื้อแบะมุมปกแหลม ที่ปกคอเสื้อด้ํานขวําปักเครื่องหมํายตําแหน่ง และที่ปกคอเสื้อด้ํานซ้ํายปักเครื่องหมํายรําชกํารกรมศุลกํากร กว้ําง 2.5 เซนติเมตร สูง 4 เซนติเมตร ให้ยอดพระเกี้ยวอยู่ตํามทํางดิ่งที่มุมปกเสื้อตอนบน โดยทั้งหมดให้ปักด้ วยไหมสีเหลืองทองหรือวัตถุเทียมไหมสีเหลืองทอง เหนือกระเป๋ําด้ํานขวําปักอักษร คําว่ํา “ CUSTOMS ” สูงไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร ด้วยด้ํายหรือไหมสีเหลืองทอง ที่บ่ํามีอินทรธนูอ่อนขัดดุม ข้ํางละ 1 ดุม ปลํายอินทรธนูอ่อนเป็นรูปสี่เหลี่ยมปลํายตัด ตัวเสื้อผ่ําอกตลอด ไม่ มีสําบ ติดดุม ตํามแนวอกเสื้อ 5 ดุม ระยะห่ํางเท่ํา ๆ กันพอสมควร แขนเสื้อยําวรูปทรงกระบอก ปลํายแขนเสื้อ ้ หนา 37 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566
ทั้งสองข้ํางตรงด้ํานในชิดลําตัวติดแผ่นรัดข้อมือ ขนําดกว้ําง 4 เซนติเมตร ยําว 10 เซนติเมตร ห่ํางจํากปลํายแขนเสื้อพองําม ชํายเป็นรูปสี่เหลี่ยมชี้ไปด้ํานหลังขัดดุม 1 ดุม ติดกับแขนเสื้อในแนวเดียวกัน มีดุมอีก 1 ดุม สําหรับรัดปลํายแขนเสื้อ ตัวเสื้อด้ํานหน้ํามีกระเป๋ําบนและกระเป๋ําล่ําง ข้ํางละ 2 กระเป๋ํา เป็นกระเป๋ําปะยืดรูปสี่เหลี่ยมชํายข้ําง ทั้งสองข้ํางพับจีบเพื่อให้ขยํายได้ ชํา ยล่ํางเย็บติดกับตัวเสื้อ มีใบปกกระเป๋ํารูปสี่เหลี่ยม ขัดดุม 2 ดุม กระเป๋ําล่ํางให้ชํายล่ํางของกระเป๋ําอยู่ห่ํางจํากตะเข็บชํายเสื้อ 1.5 เซนติเมตร ตัวเสื้อด้ํานหลังในแนวเอวติดแผ่นผ้ํารัดเอวจํากตะเข็บเสื้อด้ํานข้ําง ขนําดกว้ําง 4 เซนติเมตร ยําว 10 เซนติเมตร ข้ํา งละ 1 แผ่น ชํายเป็นรูปสี่เหลี่ยมชี้ไปทํางด้ํานหลัง ขัดดุม 1 ดุม ติดกับตัวเสื้อ ด้ํานหลัง และในแนวเดียวกันมีดุมอีก 1 ดุม ส ําหรับรัดเอว ดุมทั้งหมดใช้ดุมกลมแบน ขนําดเส้นผ่ํานศูนย์กลําง 2 เซนติเมตร ทําด้วยวัตถุสีดํา รังดุมแนวอกเสื้อและกระเป๋ําเสื้อให้ซ่อน ไว้ภํายในเสื้อ และด้ํานในของใบปกกระเป๋ํา เมื่อสวมเสื้อนี้ ให้พับปลํายแขนเสื้อขึ้นมําเพียงศอกและปล่อยชํายเสื้อไว้ นอกกํางเกง ” ข้อ 3 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 9 แห่งกฎส ํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 9 กํางเกง มี 4 แบบ คือ (1) กํางเกงขํายําวสีขําว ไม่พับปลํายขํา ปลํายขํายําวปิดตําตุ่ม กว้ํางไม่น้อยกว่ํา 20 เซนติเมตร และไม่เกิน 26 เซนติเมตร ที่ขอบเอวมีห่วงส ําหรับสอดเข็มขัดท ําด้วยผ้ําสีเดียวกับกํางเกง กว้ํางไม่เกิน 1 เซนติเมตร ที่แนวตะเข็บกํางเกงด้ํานข้ํางมีกระเป๋ําเจําะ ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา ด้ํานหลังมีกระเป๋ําเจําะ ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา ด้วยหรือไม่ก็ได้ (2) กํางเกงขํายําวสีกํากี มีลักษณะเช่นเดียวกับ (1) (3) กํางเกงขํายําวสีน้ําเงินดํา มีลักษณะเช่นเดียวกับ (1) (4) กํางเกงขํายําวแบบฝึกสีน้ ําเงินดํา ไม่พับปลํายขํา ปลํายขํายําวปิดตําตุ่ม กว้ํางไม่น้อยกว่ํา 22 เซนติเมตร และไม่เกิน 26 เซนติเมตร ที่ขอบเอวมีห่วงสําหรับสอดเข็มขัดทําด้วยผ้ําสีเดียวกับกํางเกง กว้ํางไม่เกิน 1 เซนติเมตร จํานวน 7 ห่วง ที่แนวตะเข็บกํางเกงด้ํานข้ํางมี กระเป๋ําเจําะ ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา ด้ํานหลังมีกระเป๋ําเจําะ 2 ข้ําง มีใบปกกระเป๋ํา ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา ขัดดุมสีดํา ข้ํางละ 1 ดุม และที่ตะเข็บกํางเกงด้ํานนอกเหนือเข่ําเล็กน้อยทั้งสองข้ําง มีกระเป๋ําปะยืดชําย ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา ตัวกระเป๋ําเป็นรูปสี่เหลี่ยม ตร งกลํางพับจีบ 2 จีบ ชํายหน้ําและชํายล่ํางเย็บติดกับขํากํางเกง ชํายพับจีบเพื่อให้ขยํายได้ มีใบปกกระเป๋ํารูปสี่เหลี่ยม ชํายปกด้ํานบนและด้ํานหน้ําเย็บติดกับขํากํางเกง ขัดดุมที่กึ่งกลํางปกและมุมปกที่เปิด แห่งละ 1 ดุม รังดุมทั้งหมดซ่อนไว้ด้ํานในของใบปกกระเป๋ํา ” ข้อ 4 ให้ยกเลิก (5) ของข้อ 10 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 ้ หนา 38 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566
ข้อ 5 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 14 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 14 เครื่องแบบปฏิบัติงําน มี 3 ประเภท คือ (1) เครื่องแบบปฏิบัติงํานสีกํากี ประกอบด้วย (ก) หมวกแก๊ปทรงอ่อนพับปีกสีกํากี (ข) เสื้อคอพับสีกํากี เสื้อคอแบะสีกํากี หรือเสื้อคอแบะปล่อยเอวสีกํากี (ค) กระโปรงหรือกํางเกงขํายําวสีกํากี (ง) เข็มขัดด้ํายถักสีกํากีหรือเข็มขัดผ้ําสีกํากี (จ) รองเท้ําหุ้มส้นหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีน้ําตําลหรือสีด ํา (ฉ) ถุงเท้ํายําว ถ้ําจะใช้ให้ใช้สีเนื้อ (2) เครื่องแบบปฏิบัติงํานล ําลอง ประกอบด้วย (ก) หมวกแก๊ปทรงอ่อนพับปีกสีขําว หรือหมวกแก๊ปทรงอ่อนมีกะบังสีน้ ําเงินดํา (ข) เสื้อคอพับสีขําว เสื้อคอแบะสีขําว หรือเสื้อคอแบะปล่อยเอวสีขําว (ค) กระโปรงหรือกํางเกงขํายําวสีน้ําเงินดํา (ง) เข็มขัดด้ํายถักสีน้ําเงินดําหรือเข็มขัดผ้ําสีขําว (จ) รองเท้ําหุ้มส้นหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (ฉ) ถุงเท้ํายําว ถ้ําจะใช้ให้ใช้สีเนื้อ (3) เครื่องแบ บปฏิบัติงํานตรวจค้น ประกอบด้วย (ก) หมวกทรงอ่อนไม่มีกะบัง (หมวกเบเร่ต์) สีน้ําเงินดํา หรือหมวกแก๊ปทรงอ่อน มีกะบังสีน้ ําเงินดํา (ข) เสื้อคอแบะแบบฝึกปล่อยเอวสีน้ ําเงินดํา (ค) กํางเกงขํายําวแบบฝึกสีน้ ําเงินดํา (ง) เข็มขัดด้ํายถักสีน้ําเงินดํา (จ) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้ มข้อหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (ฉ) ถุงเท้ําสีดํา ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 16 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 16 หมวก มี 5 แบบ คือ (1) หมวกพับปีก ตัวหมวกสีขําว ทําด้วยผ้ําเสิร์จ ปีกหมวกสีน้ําเงินดํา ทําด้วยสักหลําด พับปีกด้ํานข้ํางทั้งสองด้ําน ผ้ําพันหมวกสีน้ําเงินดําห้อยชํายหลัง ตรําหน้ําหมวกมีลักษณะเช่นเดียวกับ ข้อ 7 (1) (ง) แต่มีขนําดกว้ําง 3.5 เซนติเมตร สูง 4 เซนติเมตร ้ หนา 39 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566
(2) หมวกแก๊ปทรงอ่อนพับปีกสีกํากี สํายรัด คําง กว้ําง 1 เซนติเมตร ทําด้วยดิ้นทอง หรือวัตถุเทียมดิ้นทอง ปลํายสํายมีดุมโลหะสีทองขนําดเล็กติดอยู่ที่ริมขอบหมวก ข้ํางละ 1 ดุม ผ้ําพันหมวกสีเดียวกับหมวก ตรําหน้ําหมวกมีลักษณะเช่นเดียวกับ (1) (3) หมวกแก๊ปทรงอ่อนพับปีกสีขําว มีลักษณะเช่นเดียวกับ (2) (4) หมวกแก๊ปทรงอ่อนมีกะบังสีน้ ําเงินดํา มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 7 (4) (5) หมวกทรงอ่อนไม่มีกะบัง (หมวกเบเร่ต์) สีน้ ําเงินดํา มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 7 (7) กํารสวมหมวกให้สวมในโอกําสอันควร ” ข้อ 7 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 17 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่ องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 17 เสื้อ มี 9 แบบ คือ (1) เสื้อชั้นนอกคอแบะสีขําว แบบคอป้ําน มีตะเข็บหลัง 4 ตะเข็บ ที่แนวอกเสื้อมีดุมโลหะ สีทองขนําดเล็ก 3 ดุม มีกระเป๋ําล่ําง ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา เป็นกระเป๋ําเจําะเฉียงเล็กน้อย ไม่มีใบปกกระเป๋ํา ที่ไหล่เสื้อทั้งสองข้ํางประดับอินทรธนูแข็งและเครื่องหมํายตําแหน่งตํามควํามยําวของบ่ํา เมื่อสวมเสื้อนี้ ให้ใช้เสื้อเชิ้ตสีขําว แขนยําว มีผ้ําผูกคอสีด ําเงื่อนกะลําสีประกอบด้วย (2) เสื้อคอพับสีกํากี แขนยําวรัดข้อมือ มี ดุมที่ข้อมือ ข้ํางละ 1 ดุม หรือแขนสั้นเพียงศอก ตัวเสื้อผ่ําอกตลอดแนว มีสําบกว้ํางประมําณ 2.5 เซนติเมตร มีดุม 5 ดุม ที่อกเสื้อทั้งสองข้ําง มีกระเป๋ําปะ ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา มุมกระเป๋ําเป็นรูปตัดพองําม มีใบปกกระเป๋ําตัดมุม ที่ปํากกระเป๋ํา ทั้งสองข้ํางมีดุม ข้ํางละ 1 ดุม สําหรับขัดใบปกกระเป๋ํา ดุมทั้งหมดเป็นรูปกลมแบนสีกํากีขนําดเล็ก ที่ไหล่เสื้อทั้งสองข้ํางประดับอินทรธนูแข็งและเครื่องหมํายตําแหน่งตํามควํามยําวของบ่ํา เมื่อสวมเสื้อนี้ ให้สอดชํายเสื้อไว้ในกระโปรงหรือกํางเกง (3) เสื้อคอแบะสีกํากี มีลั กษณะเช่นเดียวกับ (2) เว้นแต่คอเสื้อเป็นแบบคอแบะ ไม่มีสําบ (4) เสื้อคอแบะปล่อยเอวสีกํากี ตัวเสื้อผ่ําอกตลอดแนว ไม่มีสําบ แขนยําวจรดข้อมือ หรือแขนสั้นเหนือศอกเล็กน้อย ที่แนวอกเสื้อมีดุม 3 ดุม มีกระเป๋ําล่ําง ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา เป็นกระเป๋ําเจําะเฉียงเล็กน้อย ไม่มีใบปกกระเป๋ํา ใช้เข็มขัดผ้ําสีเดียวกับตัวเสื้อ ที่ไหล่เสื้อทั้งสองข้ําง ประดับอินทรธนูแข็งและเครื่องหมํายต ําแหน่งตํามควํามยําวของบ่ํา (5) เสื้อคอพับสีขําว มีลักษณะเช่นเดียวกับ (2) (6) เสื้อคอแบะสีขําว มีลักษณะเช่นเดียวกับ (3) (7) เสื้อคอแบะปล่อยเอวสีขําว มีลักษณะเช่นเดียวกับ (4) (8) เสื้อคอแบะแบบฝึกปล่อยเอวสีน้ ําเงินดํา มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 8 (8) (9) เสื้อทูนิคสีน้ ําเงินดํา มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 8 (9) ” ้ หนา 40 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566
ข้อ 8 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 19 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเค รื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 19 กํางเกง มี 3 แบบ คือ (1) กํางเกงขํายําวสีกํากี ไม่พับปลํายขํา ปลํายขํายําวปิดตําตุ่ม ขําตรงไม่มีลวดลําย ขอบกํางเกง กว้ํางประมําณ 2.5 เซนติเมตร ที่ขอบเอวมีห่วงสําหรับสอดเข็มขัดด้วยหรือไม่ก็ได้ ที่แนวตะเข็บกํางเกงด้ํานข้ํางมีกระเป๋ําเจําะ ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา ด้ํานหลังมีกระเป๋ําเจําะ ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา ด้วยหรือไม่ก็ได้ มีซิปด้ํานหน้ําหรือด้ํานข้ําง (2) กํางเกงขํายําวสีน้ําเงินดํา มีลักษณะเช่นเดียวกับ (1) ( 3) กํางเกงขํายําวแบบฝึกสีน้ ําเงินดํา มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 9 (4) ” ข้อ 9 ให้ยกเลิกควํามใน (1) ของข้อ 21 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “( 1) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้มข้อหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา ” ข้อ 10 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 24 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 24 เครื่องหมํายต ําแหน่งบนปกเสื้อคอแบะแบบฝึกปล่อยเอวสีน้ ําเงินด ําส ําหรับ เครื่องแบบปฏิบัติงํานตรวจค้น ด้ํานขวําให้ปักด้วยไหมสีเหลืองทองหรือวัตถุเทียมไหมสีเหลืองทองบนผ้ําเสิร์จ สีด ําหรือผ้ําแบบเดียวกับเสื้อ กว้ําง 3.5 เซนติเมตร ยําว 4.5 เซนติเมตร โดยให้อนุโลม ตํามเครื่ องหมํายตําแหน่งบนอินทรธนูตํามข้อ 22 ข้ํารําชกํารประเภทตําแหน่งและระดับตําแหน่งใด ให้ใช้ส่วนประกอบของอินทรธนูตํามประเภทต ําแหน่งและระดับตําแหน่งนั้น ” ข้อ 11 ให้เพิ่มควํามต่อไปนี้เป็นข้อ 25/1 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 “ ข้อ 25/1 เครื่องหมํายรูปอําร์มมีลักษณะเป็นรูปวงรีท ําด้วยผ้ําเสิร์จหรือสักหลําดสีดํา มีขอบปักด้วยไหมสีเหลืองทองหรือวัตถุเทียมไหมสีเหลืองทอง ขนําดกว้ําง 8 เซนติเมตร สูง 11 เซนติเมตร ปักอักษรสีเหลืองทองคําว่ํา “ กรมศุลกํากร ” อยู่ส่วนบนขนํานไปตํามแนวขอบโค้ง ตรงกลํางเป็น รูปเครื่องหมํายรําชกํารกรมศุลกํากรปักด้วยไหมสีเหลืองทองหรือวัตถุเทียมไหมสีเหลืองทอง ใต้รูปเครื่องหมํายรําชกํารกรมศุลกํากรปักเป็นภําษําอังกฤษสีเหลืองทองว่ํา “ CUSTOMS DEPARTMENT ” ขนํานไปตํามแนวของเครื่องหมํายรูปอําร์มด้ํานล่ํา ง โดยติดที่ต้นแขนเสื้อข้ํางขวําของเสื้อตํามข้อ 8 (8) และข้อ 17 (8) ห่ํางจํากตะเข็บไหล่ 1 เซนติเมตร ” ้ หนา 41 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566
ข้อ 12 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 27 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ว่ําด้วยเครื่องแบบพิเศษ ส ําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากร พ.ศ. 2564 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 27 ป้ํายชื่อ มี 2 แบบ คือ (1) เครื่องแบบพิเศษตํามข้อ 4 ข้อ 5 (1) (2) (3) (4) ข้อ 6 ข้อ 13 ข้อ 14 (1) (2) และข้อ 15 ให้ใช้ป้ํายชื่อพื้นสีดําทําด้วยโลหะ ขอบสีขําวหรือสีเนื้อโลหะ ขนําดกว้ําง 3 เซนติเมตร ยําว 7.5 เซนติเมตร แสดงชื่อตัว ชื่ อรอง และชื่อสกุล เป็นภําษําไทย และภําษําอังกฤษ ด้วยสีขําว หรือสีเนื้อโลหะ ถัดลงมําแสดงคําว่ํา “ CUSTOMS ” ด้วยสีขําวหรือสีเนื้อโลหะ มีควํามยําวไม่เกิน 4 เซนติเมตร โดยประดับที่อกเสื้อเหนือกระเป๋ําบนขวํา หรือที่อกเสื้อข้ํางขวํากรณีไม่มีกระเป๋ําที่อกเสื้อ (2) เครื่องแบบพิเศษตํามข้อ 5 (5) และข้อ 14 (3) ให้ใช้ป้ํายชื่อผ้ําเสิร์จสีด ํา ขนําดกว้ําง 4 เซนติเมตร ยําว 12 เซนติเมตร ปักชื่อตัว ชื่อรอง และชื่อสกุล ด้วยไหมหรือด้ํายสีขําว ขอบปักด้วยไหมหรือด้ํายสีเดียวกันกับผ้ําเสิร์จโดยรอบ โดยประดับที่อกเสื้อเหนือก ระเป๋ําบนขวํา เหนือคําว่ํา “ CUSTOMS ”” ให้ไว้ ณ วันที่ 30 พฤษภําคม พ.ศ . 256 6 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชํา นํายกรัฐมนตรี ้ หนา 42 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566
หมํายเหตุ : - เหตุผลในกํารประกําศใช้ กฎ สํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นกํารสมควรแก้ไขเพิ่มเติม เครื่องแบบปฏิบัติงํานตรวจค้นสําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากรชํายเพื่อให้เกิดควํามคล่องตัวและเหมําะสม แก่กํารปฏิบัติหน้ําที่ และกําหนดให้มีเครื่องแบบปฏิบัติงํานตรวจค้นสําหรับข้ํารําชกํารกรมศุลกํากรหญิงด้วย จึงจ ําเป็นต้องออกกฎส ํานักนํายกรัฐมนตรีนี้ ้ หนา 43 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566