Thu Jun 01 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 766) พ.ศ. 2566


พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 766) พ.ศ. 2566

พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 766) พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 31 พฤษภำคม พ.ศ. 256 6 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในบางกรณี อาศัยอานาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “ พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 766) พ.ศ. 2566 ” มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้ง แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ้ หนา 15 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566

มาตรา 3 ในพระราชกฤษฎีกานี้ “ ใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ” หมายความว่า ใบกากับภาษีตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร และให้หมายความรวมถึงใบกากับภาษีอย่างย่อตามมาตรา 86/6 ใบเพิ่มหนี้ ตามมาตรา 86/9 และใบลดหนี้ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ที่จัดทาโดยผู้ประกอบการ จดทะเบียนตามที่อธิบดีประกาศรายชื่อ “ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ” หมายความว่า ใบรับตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ที่จัดทำโดยผู้มีหน้าที่ออกใบรับตามที่อธิบดีประกาศรายชื่อ “ ใบรั บรองอิเล็กทรอนิกส์ ” หมายความว่า ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือการบันทึกอื่นใดซึ่งยืนยัน ความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของลายมือชื่อดิจิทัลกับข้อมูลสาหรับใช้สร้างลายมือชื่อดิจิทัลที่ออกโดยผู้ให้บริการ ออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ “ ระบบการจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ” หมา ยความว่า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งอื่นใดในทานองเดียวกัน ที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการจัดทา ส่งมอบ และเก็บรักษา ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ “ ระบบการรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ” หมายความว่า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทาง อิเล็กทรอนิกส์ หรือสิ่งอื่นใดในทำนองเดียวกัน ที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการรับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ “ ระบบการนาส่งภาษี ” หมายความว่า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสิ่งอื่นใด ในทานองเดียวกัน ที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการนาส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 3 ปัณรส แห่งประมวลรัษฎากร “ อุปกรณ์เก็บใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ ” หมายความว่า เครื่องมือที่ทาหน้าที่ในการบริหารจัดการ ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ สาหรับการลง ลายมือชื่อดิจิทัลในใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ หรือในระบบการนำส่งภาษี “ พื้นที่เก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ” หมายความว่า การให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ( Cloud Storage ) โดยใช้วิธีการประมวลผลในรูปแบบคลาวด์ ( Cloud Computing ) และกระทาผ่าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ โดยผ่านบัญชีที่ลงทะเบียนไว้กับผู้ให้บริการ ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566

“ ผู้ให้บริการจัดทาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ” หมายความว่า ผู้ให้บริการจัดทา ส่งม อบ และเก็บรักษา ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามที่อธิบดีประกาศรายชื่อ “ ผู้ให้บริการนาส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ” หมายความว่า ผู้ให้บริการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามที่อธิบดีประกาศรายชื่อ “ ผู้ให้บริการนำส่งเงินภาษี ” หมายความว่า ผู้ให้บริการนาส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 3 ปัณรส แห่งประมวลรัษฎากร มาตรา 4 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทหรื อห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สาหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เพื่อการลงทุนในระบบการจัดทาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ระบบการรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือการจัดซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อุป กรณ์เก็บใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นใดที่ใช้ร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการจัดทำ ส่งมอบ รับ หรือเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับกิจการ ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิ ติบุคคลนั้น แต่ไม่ใช่การซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นจานวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายตามจานวนที่จ่ายจริง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกาหนด ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่รายจ่ายของผู้ให้ บริการจัดทาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ให้บริการ นำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการขายหรือการให้บริการแก่บุคคลอื่น มาตรา 5 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่นาส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้ หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 3 ปัณรส แห่งประมวลรัษฎากร และผู้ให้บริการนำส่งเงินภาษี สาหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 มกรา คม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เพื่อการลงทุนในระบบการนำส่งภาษี หรือการจัดซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เก็บใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นใดที่ใช้ร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในกา รนำส่งภาษี สาหรับกิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566

แต่ไม่ใช่การซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อย ของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกา หนด มาตรา 6 ทรัพย์สินตามมาตรา 4 และมาตรา 5 ต้อง (1) ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน (2) เป็นทรัพย์สินที่นามาหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินได้ตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร โดยต้องได้มาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ตามวัตถุประสงค์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 (3) อยู่ในราชอาณาจักร (4) นามาใช้งานเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสามรอบระยะเวลาบัญชีติดต่อกันนับแต่รอบระยะเวลา บัญชีแรกที่ได้มาและพร้อมใช้งาน (5) ไม่เป็นทรัพย์สินที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นตามพระราชกฤษฎีกาอื่น ที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน (6) ไม่เป็นทรัพย์สินที่นาไปใช้ในกิจการที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมกา รลงทุน กฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มาตรา 7 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สาหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายตามจานวน ที่จ่ายจริง ทั้งนี้ เฉพาะรายจ่ายสำหรับกิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุ คคลนั้น ดังต่อไปนี้ (1) ค่าบริการที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ให้บริการจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือผู้ให้บริการนำส่ง ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ค่าบริการใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ หรือค่าบริการใช้พื้นที่เก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการจัดทำ ส่งมอบ รับ หรือเก็บรักษา ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ้ หนา 18 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566

(2) ค่าบริการที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ให้บริการนาส่งเงินภาษี ค่าบริการใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ หรือค่าบริการใช้พื้นที่เก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อการนาส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่ำเพิ่ม ตามมาตรา 3 ปัณรส แห่งประมวลรัษฎากร การยกเว้นภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด มาตรา 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระ บรม ราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ้ หนา 19 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566

หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริม การลงทุนในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กาหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 718) พ.ศ. 2564 ใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เพื่อให้การพัฒนาระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ของภาคเอกชนสามารถดาเนินการได้อย่างต่อเนื่อง อันเป็นการอานวย ความสะดวกและลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิ ภาพในการจัดเก็บภาษี สมควรยกเว้น ภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสาหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปในการพัฒนาระบบ การจัดทาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ และการนาส่งภาษีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้กระทาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 จึงจาเป็นต้องตรา พระราชกฤษฎีกานี้ ้ หนา 20 ่ เลม 140 ตอนที่ 33 ก ราชกิจจานุเบกษา 1 มิถุนายน 2566