คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ 5/2566 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง หรือไม่ [ระหว่าง ศาลจังหวัดปทุมธานี ผู้ร้อง - ผู้ถูกร้อง]
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ 5/2566 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง หรือไม่ [ระหว่าง ศาลจังหวัดปทุมธานี ผู้ร้อง - ผู้ถูกร้อง]
ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย ศาลรัฐธรรมนูญ คําวินิจฉัยที่ 5/2566 เรื่องพิจารณาที่ 33/2565 วันที่ 3 เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช 2566 ศาลจังหวัดปทุมธานี ผู้รอง - ผู้ถูกรอง เรื่อง พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง หรือไม่ ศาลจังหวัดปทุมธานีสงคําโตแยงของจําเลย (นายกฤษฎิ์ นิลขาว) ในคดีอาญาหมายเลขดําที่ อ 597/2565 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ขอเท็จจริงตามหนังสือ สงคําโตแยงของจําเลยและเอกสารประกอบ สรุปได้ดังนี้ พนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายกฤษฎิ์ นิลขาว เป็นจําเลย ต่อศาลจังหวัด ปทุมธานี ความผิดฐานลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรูอยู่แล้ววาตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องหาม ในการสมัครรับเลือกตั้ง และแจงขอความอันเป็นเท็จแกเจ้าพนักงาน กรณีจําเลยสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตําบลบ้านกลางเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ 2564 ทั้งที่จําเลยรูอยู่แล้ววา ตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องหาม เนื่องจากต้องคําพิพากษาของศาลแขวงดอนเมืองเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 ในคดีหมายเลขแดงที่ อ 1075/2558 ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจําเลย มีกําหนดหาป ซึ่งเมื่อนับถึงวันเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตําบลบ้านกลางในวันที่ 28 มีนาคม 2564 ระหวาง ้ หนา 12 ่ เลม 140 ตอนที่ 32 ก ราชกิจจานุเบกษา 26 พฤษภาคม 2566
ยังไม่พนกําหนดหาปนับแต่วันที่พนจากการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) จําเลยแจงความเท็จ ต่อผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเทศบาลตําบลบ้านกลางซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รับสมัคร รับเลือกตั้งตามกฎหมาย การกระทําดังกลาวทําให้ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําเทศบาลตําบลบ้านกลาง ผู้อื่น หรือประชาชนเสียหาย เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือ ผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) และมาตรา 120 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ขอให้ศาลจังหวัดปทุมธานีสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจําเลยมีกําหนดยี่สิบป ระหวางการพิจารณาคดีของศาลจังหวัดปทุมธานี จําเลยโตแยงวา พระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 และมาตรา 26 วรรคหนึ่ง เนื่องจากขณะที่จําเลยสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล ตําบลบ้านกลาง จําเลยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งครบกําหนดระยะเวลาแล้ว การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง วินิจฉัยตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) เป็นผลทําให้จําเลยต้องถูกลงโทษซ้ําภายหลังที่พนจากการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และในขณะที่จําเลยถูกลงโทษอยู่นั้นยังไม่มีการตราพระราชบัญญัติดังกลาวขึ้นใชบังคับ กรณีเป็นการใช กฎหมายยอนหลังที่ไม่เป็นคุณแกจําเลย ขัดต่อหลักนิติธรรม เป็นการเพิ่มภาระหรือจํากัดสิทธิและ เสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแกเหตุ กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย อีกทั้งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ ของกฎหมาย ขอให้ศาลจังหวัดปทุมธานีสงคําโตแยงดังกลาวต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ศาลจังหวัดปทุมธานีเห็นวา จําเลยโตแยงวาพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่น หรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 และ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง ซึ่งศาลจังหวัดปทุมธานีจะใชบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกลาวบังคับแกคดี และ ยังไม่มีคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในสวนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินี้ จึงสงคําโตแยงดังกลาวต่อ ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 วรรคหนึ่ง ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาเบื้องตนมีวา ศาลรัฐธรรมนูญมีอํานาจรับหนังสือสงคําโตแยง ของจําเลยไวพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 วรรคหนึ่ง หรือไม่ เห็นวา ศาลจังหวัดปทุมธานี สงคําโตแยงของจําเลยเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยวา พระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ ้ หนา 13 ่ เลม 140 ตอนที่ 32 ก ราชกิจจานุเบกษา 26 พฤษภาคม 2566
มาตรา 5 และมาตรา 26 วรรคหนึ่ง หรือไม่ บทบัญญัติดังกลาวเป็นบทบัญญัติที่ศาลจังหวัดปทุมธานี จะใชบังคับแกคดี เมื่อจําเลยโตแยงพรอมด้วยเหตุผลวาบทบัญญัติดังกลาวขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ และยังไม่มีคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในสวนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินี้ กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 วรรคหนึ่ง สวนที่โตแยงวา พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือ ผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 หรือไม่ นั้น เห็นวา มาตรา 5 เป็นบททั่วไปที่วางหลักความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญไว โดยมิได้ มีขอความที่เป็นการคุมครองสิทธิหรือเสรีภาพไวเป็นการเฉพาะ ศาลรัฐธรรมนูญไม่จําต้องวินิจฉัยในสวนนี้ จึงมีคําสั่งรับไวพิจารณาวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่ขอให้วินิจฉัยวา พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิก สภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง หรือไม่ และเพื่อประโยชนแห่งการพิจารณาให้หนวยงานที่เกี่ยวของจัดทําความเห็น และจัดสงขอมูลพรอมเอกสารหลักฐานยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หนวยงานที่เกี่ยวของจัดทําความเห็นและจัดสงขอมูลพรอมเอกสารหลักฐาน ดังนี้ 1. เลขาธิการวุฒิสภาจัดสงสําเนาบันทึกการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 65/2561 เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2561 สําเนารายงานการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 65/2561 เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2561 สําเนาบันทึกการประชุมของ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารางพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. … สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 สําเนารายงานการประชุม (รายงานชวเลข) ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารางพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่น หรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. … สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 สําเนารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารางพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่น หรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. … สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สําเนาบันทึกการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2562 เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม 2562 และสําเนารายงานการประชุม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2562 เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม 2562 2. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทําความเห็นสรุปได้วา พระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) มีหลักการสําคัญใน การปรับปรุงแกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2545 เนื่องจากปรากฏขอเท็จจริงในกรณีที่ผู้บริหารทองถิ่นถูกรองเรียนวากระทําการฝาฝนความสงบเรียบรอย ้ หนา 14 ่ เลม 140 ตอนที่ 32 ก ราชกิจจานุเบกษา 26 พฤษภาคม 2566
หรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยอํานาจหน้าที่ แต่ในระหวาง กระบวนการสอบสวนมักมีผู้บริหารทองถิ่นพนจากตําแหนงด้วยเหตุลาออกหรือครบวาระหรือเหตุอื่นใด ต่อมาภายหลังปรากฏวาผู้นั้นได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้บริหารทองถิ่นอีก จึงแกไขปรับปรุงบทบัญญัติ เกี่ยวกับลักษณะต้องหามของบุคคลซึ่งกฎหมายหามมิให้ใชสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง โดยกําหนดกรณี เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยังไม่พนหาปนับแต่วันที่พนจากการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจนถึง วันเลือกตั้ง เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ได้สมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่นที่มีความซื่อสัตยสุจริต ไม่เป็นผู้เคยกระทําความผิดกฎหมายจนถึงขั้นศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และเพื่อปองกันไม่ให้บุคคล ซึ่งมีลักษณะต้องหามนั้นกลับเขามารับตําแหนงอีกครั้งในชวงระยะเวลาหนึ่ง อันเป็นการปองกันความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นภายหลังและปองกันการใชอํานาจหรือการสั่งการที่อาจมีปญหาความชอบด้วยกฎหมาย หากผู้นั้นได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่นในระหวางที่มีกระบวนการ สอบสวน ซึ่งสอดคลองกับแนวทางการปองกันและปราบปรามการทุจริตตามที่บัญญัติไวในรัฐธรรมนูญ และเป็นการแกไขปญหาตามขอเท็จจริงที่ปรากฏขึ้น 3. ประธานกรรมการการเลือกตั้งจัดทําความเห็นสรุปได้วา คณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ รางพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อปรับปรุงแกไขพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2545 ให้สอดคลองกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 และรางพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญวาด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. … แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ไม่ได้เสนอรางบทบัญญัติอนุมาตราเกี่ยวกับกรณีเคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยังไม่พนหาปนับแต่วันที่ พนจากการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่น หรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) อยางไรก็ดี รางบทบัญญัติอนุมาตราดังกลาว ปรากฏตามบันทึกหลักการและเหตุผลประกอบรางพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือ ผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. … ที่สํานักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว (เรื่องเสร็จที่ 1295/2561) ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคําโตแยงของจําเลย ความเห็นและขอมูลของหนวยงานที่เกี่ยวของ และเอกสารประกอบแล้วเห็นวา คดีเป็นปญหาขอกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณา วินิจฉัยได้ จึงยุติการไตสวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ้ หนา 15 ่ เลม 140 ตอนที่ 32 ก ราชกิจจานุเบกษา 26 พฤษภาคม 2566
พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง กําหนดประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยวา พระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแยง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง หรือไม่ พิจารณาแล้วเห็นวา รัฐธรรมนูญ มาตรา 26 เป็นบทบัญญัติในหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพ ของปวงชนชาวไทย มาตรา 26 วรรคหนึ่ง บัญญัติวา “ การตรากฎหมายที่มีผลเป็นการจํากัดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บัญญัติไวในรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่รัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติ เงื่อนไขไว กฎหมายดังกลาวต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระหรือจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพ ของบุคคลเกินสมควรแกเหตุ และจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยของบุคคลมิได้ รวมทั้งต้องระบุ เหตุผลความจําเป็นในการจํากัดสิทธิและเสรีภาพไวด้วย ” พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มีหลักการ และเหตุผลในการประกาศใชเนื่องจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติ ให้สมาชิกสภาทองถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้ง และผู้บริหารทองถิ่นให้มาจากการเลือกตั้งหรือมาจาก ความเห็นชอบของสภาทองถิ่น หรือกรณีองคกรปกครองสวนทองถิ่นรูปแบบพิเศษจะมาโดยวิธีอื่นก็ได้ แต่ต้องคํานึงถึงการมีสวนรวมของประชาชนด้วย โดยคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้มีสิทธิ สมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งหลักเกณฑและวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น ให้เป็นไป ตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งต้องคํานึงถึงเจตนารมณในการปองกันและปราบปรามการทุจริตตามแนวทางที่บัญญัติไว ในรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติดังกลาวมีหลักการสําคัญเป็นการแกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2545 ทั้งฉบับ เพื่อให้สอดคลองกับรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 โดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่น หรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 บัญญัติวา “ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคล ต้องหามมิให้ใชสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง … (21) เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยังไม่พนหาปนับแต่วันที่ พนจากการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง … ” ขอโตแยงของจําเลยที่วา พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ที่กําหนดลักษณะต้องหามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก สภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น ต้องไม่เป็นผู้เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยังไม่พนหาปนับแต่วันที่ พนจากการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง เป็นบทบัญญัติที่ขัดต่อหลักนิติธรรม เป็นการเพิ่มภาระ ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนที่ 32 ก ราชกิจจานุเบกษา 26 พฤษภาคม 2566
จํากัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแกเหตุ กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย ขัดหรือแยง ต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง นั้น เห็นวา รัฐธรรมนูญบัญญัติให้มีการปกครองสวนทองถิ่น ตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมณของประชาชนในทองถิ่น การจัดตั้งองคกรปกครองสวนทองถิ่น ในรูปแบบใดให้คํานึงถึงเจตนารมณของประชาชนในทองถิ่นและความสามารถในการปกครองตนเอง ในดานรายได้ จํานวนและความหนาแนนของประชากร และพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบประกอบกัน องคกรปกครองสวนทองถิ่นมีหน้าที่และอํานาจดูแลและจัดทําบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชนของประชาชนในทองถิ่นตามหลักการพัฒนาอยางยั่งยืน รวมทั้งสงเสริมและสนับสนุน การจัดการศึกษาให้แกประชาชนในทองถิ่น โดยสมาชิกสภาทองถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้ง สําหรับ ผู้บริหารทองถิ่นให้มาจากการเลือกตั้งหรือมาจากความเห็นชอบของสภาทองถิ่นหรือในกรณี องคกรปกครองสวนทองถิ่นรูปแบบพิเศษจะให้มาโดยวิธีอื่นก็ได้ แต่ต้องคํานึงถึงการมีสวนรวมของ ประชาชนด้วย สวนคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งต้องคํานึงถึงเจตนารมณในการปองกันและปราบปรามการทุจริตตามแนวทางที่บัญญัติไวในรัฐธรรมนูญด้วย ดังนั้น สมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่นต้องเป็นผู้มีความประพฤติดี มีความซื่อสัตย มีคุณสมบัติ เป็นที่ยอมรับเชื่อถือจากประชาชน รวมทั้งปราศจากเหตุมัวหมองในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นแบบอยางที่ดี ให้กับประชาชนในทองถิ่นนั้น โดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 เป็นบทบัญญัติกําหนดลักษณะต้องหามของบุคคลมิให้ใชสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น เพื่อให้ผู้ที่จะมาดํารงตําแหนงดังกลาว มีคุณสมบัติเหมาะสม และเป็นหลักประกันวาผู้ที่จะได้รับเลือกตั้งนั้นจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตยสุจริต มีความประพฤติและคุณสมบัติเป็นที่ยอมรับนับถือของสาธารณชน ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชนของ ประชาชนภายในทองถิ่นอยางแทจริง เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ที่กําหนดให้บุคคลผู้เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยังไม่พนหาปนับแต่วันที่พนจาก การถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง เป็นผู้มีลักษณะต้องหามมิให้ใชสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น บทบัญญัติดังกลาวเป็นมาตรการทางกฎหมายบัญญัติ ตามแนวทางของรัฐธรรมนูญในการปองกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อปองกันมิให้ผู้ที่เคยกระทําความผิด ตามกฎหมายวาด้วยการเลือกตั้งจนถึงขั้นศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งไม่อยู่ในฐานะที่จะไววางใจ ในความสุจริตและไม่สมควรให้เขามามีอํานาจในทางการเมืองอื่นอีก กลับเขามาดํารงตําแหนงทางการเมือง ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนที่ 32 ก ราชกิจจานุเบกษา 26 พฤษภาคม 2566
อีกครั้งในชวงระยะเวลาหนึ่ง แต่หากพนกําหนดระยะเวลาดังกลาวแล้วผู้นั้นมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องหามตามที่กฎหมายกําหนดยอมสามารถใชสิทธิสมัครรับเลือกตั้งได้ อยางไรก็ดี บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ที่กําหนดลักษณะต้องหามของบุคคลในการใชสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพื่อดํารงตําแหนงใด ๆ นั้น เป็นกฎหมายที่จํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บัญญัติไวในรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 กลาวคือ การตรากฎหมายที่มีผลเป็นการจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลจะต้องเป็นไป ตามเงื่อนไขที่บัญญัติไวในรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่รัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติเงื่อนไขไว กฎหมายดังกลาว ต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระหรือจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแกเหตุ และจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยของบุคคลมิได้ รวมทั้งต้องระบุเหตุผลความจําเป็นในการจํากัดสิทธิ และเสรีภาพไวด้วย นอกจากนี้ กฎหมายดังกลาวต้องมีผลใชบังคับเป็นการทั่วไป ไม่มุงหมายให้ใชบังคับ แกกรณีใดกรณีหนึ่งหรือแกบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง อันเป็นหลักการรับรองและคุมครองสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลไววาในการตรากฎหมายเพื่อจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลนั้น ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือองคกรที่ใชอํานาจรัฐจะต้องคํานึงถึงหลักการพื้นฐานสําคัญประการหนึ่ง คือ หลักความได้สัดสวน พอเหมาะพอควรแกกรณี อันเป็นหลักการสําคัญที่มีขึ้นเพื่อควบคุม ตรวจสอบ หรือจํากัดการใชอํานาจรัฐ เพื่อมิให้ตรากฎหมายขึ้นใชบังคับแกประชาชนตามอําเภอใจ โดยในการตรากฎหมายเพื่อจํากัดสิทธิหรือ เสรีภาพของประชาชนตามหลักการดังกลาวนั้นจะต้องมีความเหมาะสม มีความจําเป็น และได้สัดสวน หรือมีความสมดุลระหวางประโยชนสาธารณะหรือประโยชนสวนรวมที่จะได้รับกับสิทธิหรือเสรีภาพ ที่ประชาชนจะต้องสูญเสียไปอันเนื่องมาจากกฎหมายนั้น การที่พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) กําหนดลักษณะต้องหามของบุคคลมิให้ใชสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาทองถิ่น หรือผู้บริหารทองถิ่นวา “ เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยังไม่พนหาปนับแต่วันที่พนจากการถูกเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง ” นั้น เห็นวา แมบทบัญญัติดังกลาวเป็นมาตรการทางกฎหมายในการปองกัน และปราบปรามการทุจริตตามแนวทางที่บัญญัติไวในรัฐธรรมนูญ เพื่อปองกันมิให้ผู้ที่เคยกระทําความผิด ตามกฎหมายวาด้วยการเลือกตั้งจนถึงขั้นศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกลับเขามาดํารงตําแหนง ทางการเมืองของทองถิ่นในชวงระยะเวลาหนึ่งก็ตาม แต่เป็นการตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลที่เคย ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งในลักษณะจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินความจําเป็น เนื่องจาก การถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีการกระทําอันเป็นเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องถูกเพิกถอนสิทธิ ต้องพิจารณาอยางละเอียดรอบคอบ เปดโอกาสให้มีการต่อสูคดีกันอยางเปดเผย ให้ศาลเป็นผู้พิจารณา ้ หนา 18 ่ เลม 140 ตอนที่ 32 ก ราชกิจจานุเบกษา 26 พฤษภาคม 2566
พิพากษาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลตามกําหนดระยะเวลาที่พระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 บัญญัติสําหรับการกระทําความผิดนั้น ๆ ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณาแล้วเห็นวาเป็นกําหนดระยะเวลาที่เหมาะสม การกําหนดระยะเวลาเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งและสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองอื่นที่มีลักษณะต้องหามตามที่ รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นกําหนด เชน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 สมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 ข. (1) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วย การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 ซึ่งรัฐธรรมนูญและบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกลาว มิได้บัญญัติลักษณะต้องหามของผู้ดํารงตําแหนงเพิ่มเติมขึ้นอีกในทํานองเดียวกับบทบัญญัติมาตรา 50 (21) หมายความวาเมื่อบุคคลพนจากการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง สามารถสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาได้ทันที แต่ในทางกลับกันกรณีพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ต้องรอจนกวาจะพนหาป นับแต่วันที่พนจากการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง จึงจะสามารถสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่นได้ อันเป็นการกําหนดลักษณะต้องหามในการกลั่นกรองบุคคล กอนเขาสูตําแหนงทางการเมืองระดับทองถิ่นที่มีความเขมงวดมากเกินความจําเป็นเมื่อคํานึงถึงองคกร และตําแหนงทางการเมืองดังกลาว ไม่เป็นไปตามหลักแห่งเหตุผลและความเป็นธรรม การบัญญัติ ลักษณะต้องหามของบุคคลมิให้ใชสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น ตามมาตรา 50 (21) จึงไม่สอดคลองกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวของ ประกอบกับ บุคคลที่อยู่ในระหวางถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่วาคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ ยอมมิอาจใชสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่นได้ตามมาตรา 50 (4) ประกอบมาตรา 39 (2) ซึ่งเป็นการจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพที่พอเหมาะพอควรแกกรณีแล้ว ดังนั้น เมื่อชั่งน้ําหนักระหวาง ประโยชนสาธารณะที่จะได้รับตามวัตถุประสงคของกฎหมายกับผลกระทบต่อการจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพ ของบุคคลแล้ว การที่พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) กําหนดลักษณะต้องหามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่น ต้องไม่เป็นผู้เคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยังไม่พนหาปนับแต่วันที่พนจากการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้งนั้น เป็นการกําหนดมาตรการที่เกินความจําเป็นต่อการกลั่นกรองบุคคลเขาสูตําแหนง ทางการเมืองระดับทองถิ่น กระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลมากกวาประโยชนสาธารณะที่ต้องการ ้ หนา 19 ่ เลม 140 ตอนที่ 32 ก ราชกิจจานุเบกษา 26 พฤษภาคม 2566
ให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาทองถิ่นหรือผู้บริหารทองถิ่นที่มีคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ไม่เป็นไป ตามหลักความได้สัดสวน ขัดต่อหลักนิติธรรม เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เพิ่มภาระหรือจํากัดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแกเหตุ กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง อาศัยเหตุผลดังกลาวขางตน จึงวินิจฉัยวา พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาทองถิ่น หรือผู้บริหารทองถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 50 (21) ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง นายวรวิทย กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายนครินทร เมฆไตรรัตน์ นายปญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายจิรนิติ หะวานนท นายนภดล เทพพิทักษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายบรรจงศักดิ์ วงศปราชญ นายอุดม รัฐอมฤต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ้ หนา 20 ่ เลม 140 ตอนที่ 32 ก ราชกิจจานุเบกษา 26 พฤษภาคม 2566